การที่เขากอดเธอจากด้านหลังแบบนั้นทำให้เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เธอยอมจำนนเพื่อหนีจากตำแหน่งนี้โดยเร็ว "ก็ได้"เขายิ้มและปล่อยแขนออกจากรอบเอวของเธอเมื่อกลับไปที่ห้องนอน ทั้งคู่ก็นอนลงเคียงข้างกันแต่ดูเหมือนต่างคนต่างนอนไม่หลับ แอเรียนได้นอนทุกเวลาที่เธอต้องการ ไม่ว่ากลางคืนหรือกลางวันเธอจึงไม่ง่วงเลย แต่มาร์คนอนไม่หลับเพราะเธออยู่ข้าง ๆ เขา“เธออยากได้ลูกผู้ชายหรือผู้หญิง?” จู่ ๆ เขาก็ถามความมืดนั้น“ได้หมด” แอเรียนตอบทันที “ตราบใดที่เด็กเกิดมาอย่างปลอดภัยฉันก็ไม่สนว่าเขาจะเป็นเด็กผู้ชายหรือผู้หญิง นี่จะเป็นลูกคนเดียวที่ฉันสามารถมีได้ในชีวิตนี้ ฉันเลือกไม่ได้หรอก” เธอชะงักครู่หนึ่งแล้วถามว่า “แล้วคุณล่ะ?”เขาหันไปด้านข้างและเผชิญหน้ากับเธอ จากนั้นก็วางมือของเขาลงบนท้องของเธอเบา ๆ “ฉันด้วย ฉันรักเขา ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้ชายหรือผู้หญิง ตราบใดที่เขาเป็นลูกของเธอ”แอเรียนอธิบายไม่ถูกว่าเธอรู้สึกอย่างไรเมื่อได้ยินดังนั้น เธอคุ้นเคยกับท่าทางที่เย็นชาและห่างเหินของเขามากเกินไป แม้ว่าตอนนี้เขาจะมอบความอ่อนโยนทั้งหมดให้กับเธอแต่เธอก็ไม่สามารถชินกับมันได้ ท้ายที่สุดเธอต้องเผชิญกับอารมณ์ที่
หลังจากที่หายตกใจแล้วแมรี่ก็ยิ้มอย่างรู้เท่าทัน “ใช่ ใช่ ใช่ นายท่านทำอาหารมื้อเย็นให้เธอเทียบไม่ได้กับสิ่งที่เธอต้องทน ตอนนี้เขาทำตัวเหมือนผู้ชายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นายท่านได้ขอให้เธอหลีกเลี่ยงการเดินเล่นสวนวันนี้เนื่องจากหิมะอาจตก เขากลัวว่าเธอจะป่วยเอา ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการป่วยระหว่างตั้งครรภ์ด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอไม่ควรกินยาตอนนี้ ตอนนี้นายท่านมีเธอและลูกน้อยที่อยู่ในท้องเธอ ครอบครัวของเธอก็สมบูรณ์แล้ว เราตั้งตารอวันนี้มาตั้งนาน”แอเรียนยังคงนิ่งเงียบขณะที่เธอจ้องไปที่ความสุขบนใบหน้าของแมรี่ เธอกลัวที่จะพูดทำลายความหวังของแมรี่ ทุกอย่างระหว่างเธอกับมาร์คดูปกติดีแค่เพียงผิวเผิน เพื่อเปรียบเทียบ ระยะห่างระหว่างพวกเขานั้นกว้างใหญ่พอ ๆ กับเกรต ริฟต์ แวลลีย์ แม้มันจะถูกกู้กลับคืนมามันจะมีอะไรเหมือนเดิมหรือเปล่า? มันจะไม่มีช่องว่างได้อย่างไร?วันนี้ทาบิธาตื่นเช้าอย่างน่าประหลาด โดยปกติเธอจะนอนจนถึงสิบโมงเช้าในสภาพอากาศเช่นนี้ หญิงชราดูเหมือนจะอารมณ์ดีแต่อาการไอของเธอยังคงไม่ลดลง “แอเรียน ฉันอยากไปบ้านคุณป้าของเธอ”แอเรียนประหลาดใจ “คุณแน่ใจว่าอยากไปใช่ไหมคุณย่า?” ก่อนหน้า
แอเรียนก้มศีรษะลงอย่างเงียบ ๆ เธอไม่เห็นด้วยกับคำแนะนำของหญิงชรา ความรู้สึกของมาร์คที่มีต่อเธออาจไม่ใช่ความโชคดีก็ได้ มันรู้สึกเหมือนโชคร้ายมากกว่า หญิงชราพูดดังนั้นเพียงเพราะเขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในอดีต ถ้าเขารู้ เขาคงไม่แนะนำให้เดินหน้าต่อไป มาร์คเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังความคับข้องใจทั้งหมดของเธอจู่ ๆ รถก็กระตุก อารมณ์ของหญิงชราวูบวาบทันที “เฮ้ คนขับ ระวังหน่อยสิ! อย่าฆ่าเราด้วยการขับรถสั่นไปมาของคุณนะ! คุณกำลังทำอะไรอยู่? คุณช่างเป็นคนขับรถที่แย่มาก!”บอดี้การ์ดของตระกูลเทรมอนต์อยู่หลังพวงมาลัยนั้น เขาขอโทษอย่างล้นเหลือหลังจากที่ถูกทาบิธาดุว่า “ผมขอโทษครับ ผมจะระวังให้มากกว่านี้…”“ไม่เป็นไร” แอเรียนพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ขับให้ช้าลงหน่อยก็พอ เราไม่ได้รีบร้อน”ไม่นานหลังจากนั้นรถก็จอดตรงหน้าที่อยู่ที่โซอี้ให้ไว้กับทาบิธา ที่อยู่อาศัยของโซอี้ในเมืองหลวงอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์เทรมอนต์ ราวกับว่าตั้งใจ แน่นอนว่าค่าเช่าน่าจะสูงสำหรับพื้นที่ดี ๆ แบบนี้ แม้แต่ย่านที่เก่าแก่และไม่มีใครสังเกตเห็นก็ยังต้องเสียค่าเช่าที่แพงเกินไป แอเรียนรู้สึกกังวลขณะที่เธอจ้องมองไปที่ย่านนั้น “คุณย่า…
โซอี้และสามีของเธอเอาใจใส่ทาขิธามาก คนหนึ่งรีบช่วยพยุงตัวทาบิธาขณะที่อีกคนถือกระเป๋าของเธอให้ โซอี้มองดูแอเรียนจากไปและถามว่า “แม่คะ แอเรียนได้มาส่งแม่ที่นี่หรือเปล่า? ทำไมเธอถึงไม่เข้ามานั่งข้างในก่อนล่ะ? เธอรังเกียจเราที่ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ แบบนี้เหรอ?”หญิงชรามีสีหน้าที่ซีดเผือดขณะที่เขาตอบว่า “ใช่ แอริทนอยู่ในที่แบบนี้ไม่ได้หรอก ฉันไม่ต้องการโดนดูถูก แม้ว่าเธอจะมีเจตนาที่ดี อย่าทำให้ฉันอายเลย”เมื่อได้ยินเช่นนี้สามีของโซอี้ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง “แม่ เราทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน ทำไมเราจะคุยกันไม่ได้? แม่พูดแบบนั้นได้อย่างไร? อีกไม่นานก็จะปีใหม่แล้ว เราจะทำธุรกิจในเมืองหลวงนี้ ดังนั้นเราจึงวางแผนที่จะอยู่ที่นี่สักพัก เด็ก ๆ จะปิดเทอมในเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นทั้งครอบครัวจะอยู่ที่นี่ เราอาจจะใช้เวลาปีใหม่ในคฤหาสน์ใหญ่ของหลานสาวของเราด้วย”โซอี้เห็นด้วย “ถูกต้อง ยิ่งมากคนยิ่งสนุก”หญิงชรายิ้มเยาะ “อย่าเรียกเขาว่าหลานสาวของเธอเหมือนว่าเธอเป็นมิตรกัน ฉันไม่มีปัญญาให้โชคแบบนั้นได้หรอก เธอเป็นแค่ญาติห่าง ๆ หยุดเพ้อฝันได้แล้ว ไม่ใช่ว่าใครก็ได้ที่ จะสามารถเดินเข้าไปเป็นเทร
หญิงชราโกรธมากจนหน้าซีดเผือด “พี่ชายของเธอตายไปนานหลายปีแล้วแต่เธอก็ยังยืนกรานที่จะดูดเลือดจากเขา เธอเห็นเขาเป็นบ่อเงินบ่อทองของเธอหรือไง? เธอยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า? ถ้าฉันรู้เรื่องนี้ฉันคงเลือกที่จะมีลูกคนเดียวตลอดชีวิตแทนที่จะรับคนที่ไร้หัวใจอย่างเธอมาเลี้ยง! ฉันเลี้ยงหมายังจะดีกว่า!”โซอี้ไม่เห็นความผิดในการกระทำของตัวเอง ในมุมมองของเธอ เธอเป็นคนที่ได้รับความอยุติธรรมมากที่สุด เธอร้องไห้ออกมา “ในที่สุดแม่ก็พูดมันออกมา แม่ไม่เคยปฏิบัติกับฉันเหมือนลูกของตัวเองเลย แม่รับเลี้ยงฉันเพียงเพื่อจะได้มีคนดูแลศพแม่ใช่ไหมล่ะ? นั่นเป็นข้อตกลงทางธุรกิจไม่ใช่ความรัก! แม่คิดว่าฉันไม่มีหัวใจ ฉันใจร้าย แต่แม่นั้นแหละที่เป็นหญิงชราที่ใจร้ายที่สุด! ถ้าพี่ใหญ่ของฉันไม่มีลูก ฉันยอมรับว่าฉันต้องดูแลแม่ แต่เขามีแอเรียน ทำไมฉันจึงจะทวงหนี้นี้ไม่ได้? ลองย้อนกลับไปนับหมื่นก้าวแล้วสมมติว่าเธอยากจน ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงดีแต่ชีวิตของเธอดีกว่าพวกเรามาก ทำไมแม่ถึงลำเอียงกับเธอมากนัก? แม่กำลังกล่าวหาว่าฉันดูดเลือดจากคนที่ตายไปแล้ว ถ้างั้นฉันก็คงมากกว่าความตายสำหรับแม่ ทำไมฉันจึงควรพิจารณาความรู้สึกใด ๆ ฉันไม่
ทิฟฟานี่ขำอย่างแรงในความเพลิดเพลินใจที่ได้เสพประสบการณ์ความโชคร้ายของผู้อื่นนี้จนคนอื่นอาจจะเข้าใจผิดว่าเธอเป็นลมชักได้ "โอ้พระเจ้า! โอ้ พระ เจ้า หมายความว่าตอนนี้เธอเสียสิทธิ์เสรีส่วนบุคคลไปแล้วเหรอ? โถ่ ที่รัก เธอเป็นคนที่มีอัญมณีมงกุฏในท้องนะ! ตอนนี้เธอเป็นคนคลุมเกมส์ ไม่ใช่เขา! เธอสามารถบีบคอมาร์คจนตายโดยที่เขาจะไม่ทำร้ายเธอแม้แต่เส้นผมเพียงเส้นเดียวบนศีรษะของเธอเพื่อป้องกันตัวเองเลยแหละ เข้าใจไหม? ในขณะนี้เธอต้องโหดเหี้ยมบ้าง เดี๋ยวนี้เลย เพราะเธอจะไม่ได้รับโอกาสนี้อีก เธอไม่รู้เหรอว่าผู้หญิงมีอำนาจสูงสุดในระหว่างตั้งครรภ์? เพราะฉะนั้น เอาเลย เผด็จการเลยค่ะที่รัก! เมื่อเด็กคนนั้นเกิดมาเธอจะไม่มีวันได้พลังนี้คืน!”เธอยังเตือนว่า “ทีนี้ ถ้าเธอจัดการจนได้รับ 'การอนุญาต' ของเขาแล้วก็มาบอกฉันนะ ฉันจะได้โทรนัดธัญญ่า ตอนกลางคืนเราจะไปกินชาบูกันด้วย! พวกเราจะกินน้ำซุปที่เผ็ดและเธอก็กินน้ำซุปที่ไม่เผ็ดไป ฉันหมายความว่า ฉันได้ยินมาว่าอาหารที่เผ็ดเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อแม่ที่กำลังตั้งครรภ์น่ะ”แค่พูดถึงชาบูก็ทำให้แอเรียนน้ำลายไหลแล้ว มีไม่กี่อย่างในชีวิตที่จะฟินได้เท่ากับการซดน้ำซุปอุ่
ในที่สุดข้อตกลงสุดท้ายก็คือมาร์คได้อนุมัติการไปกินชาบูของแอเรียนด้วยการประนีประนอมว่าเขาจะไปด้วย เขาไม่ได้ชอบชาบูขนาดนั้น แต่เขาก็ไปเป็นเพื่อนของแอเรียนอยู่ดีด้วยความไม่ต้องการที่จะมีบอดี้การ์ดที่มาในคราบของคนที่ขอไปด้วย แอเรียนจึงรู้สึกราวกับว่าเธอถูกผูกคอไว้และความตื่นเต้นของเธอก็ลดลงตามธรรมชาติ แต่เมื่อเธอไปถึงที่หมายและเห็นทิฟฟานี่สะท้อนความรู้สึกของเธอ เธอก็พองตัวขึ้น ทิฟฟานี่ไม่ได้รับอิสระที่จะจัดปาร์ตี้อย่างหนักเช่นกันเพราะแจ็คสันมากับเธอด้วยในที่สุดธัญญ่าก็พาเอริกมาด้วย ผู้ซึ่งอาจจะแค่กำลังมองหาที่สำหรับฆ่าเวลาว่าง ดังนั้นการรวมตัวกันครั้งนี้จึงครบสมบูรณ์ตั้งแต่ที่พวกเขาลงจากรถมือของมาร์คไม่เคยทิ้งตำแหน่งป้องกันที่วางไว้ที่เอวของแอเรียนเลย ซึ่งทำให้เกิดความสงสัยว่าเขาจะวางหญิงสาวไว้ตรงกลางฝ่ามือของเขาหรือไม่ถ้าเขาสามารถ นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เขาหยุดระหว่างทุก ๆ สองสามก้าวด้วยคำเตือนว่า "ระวังด้วย พื้นลื่น"แอเรียนพึ่งพาคำแนะนำของเขามากจนเธอค่อย ๆ ดูเหมือนว่าว่าเธออ่อนแอมากจนต้องอ่อนน้อมกับเธอ เมื่อถึงเวลาที่เธอนั่งลงหลังจากที่เดินมาเหมือนหอยทาก ทิฟฟานี่ก็พูดให้สะดุ้งตกใจว่
ดวงตาของแอเรียนจ้องไปที่มาร์คเป็นเวลาหนึ่งมิลลิวินาทีก่อนที่เธอจะก้มศีรษะลงและจดจ่อกับอาหารของเธอ ความคิดผุดขึ้นในใจเธอเหมือนระลอกคลื่นอีกครั้งที่มาร์คทำให้เธอหวาดกลัวด้วยการรับรู้ที่ผิดปกติของเขาราวกับว่าดวงตาของเขาลอดผ่านกระโหลกศีรษะของเธอตลอดเวลาและทำให้เขาสามารถอ่านความคิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นในหัวของเธอได้ด้วย “ความช่วยเหลือ” ของเขา แอเรียนจึงทานอาหารจนอิ่มเอิบที่สุดเท่าที่เธอเคยกินมานับตั้งแต่ที่เธอตั้งครรภ์ ด้วยเหตุผลบางอย่างวันนี้เธอมีความอยากอาหารมากเป็นพิเศษเมื่ออาหารเย็นใกล้จะสิ้นสุด ทิฟฟานี่ก็ลากแอเรียนและธัญญ่าไปที่ห้องน้ำเธอรอไม่ได้ที่จะบ่นว่า “พระเจ้า ฉันคิดว่ามาร์คจะเสนอมาห้องน้ำด้วยแล้ว! แค่ดูโหมดพ่อบ้านที่ ‘ฉันต้องคอยระวังตัวตลอดเวลา!’ ที่เขาเป็นอยู่ตลอดการแฮงเอาท์นี้สิ ฉันเกือบจะเชื่อว่ามีอะไรเข้าสิงเขาเสียแล้ว! แต่พูดตามจริงนะ การดูเขาตอนนี้ทำให้ฉันนึกถึงวิธีที่วิลปฏิบัติต่อเธอในตอนนั้น”นี่เป็นครั้งแรกที่ทิฟฟานี่เห็นว่าแง่มุมหนึ่งของมาร์คเทียบเท่ากับวิลการกล่าวถึงชื่อนี้ทำให้แอเรียนเห็นภาพคน ๆ หนึ่ง แต่น่าเสียดายที่มันเป็นเพียงภาพเงาที่เบลอและไร้ตัวตน ดูเหม