ทิฟฟานี่ตื่นตระหนก มันเป็นความตื่นตระหนกที่ไม่สามารถปกปิดด้วยแอลกอฮอล์ได้ เธอไม่คิดว่าเธอจะลงเอยและทำให้แจ็คสันโกรธแบบนี้ “อย่าเป็นแบบนี้… ฉันไม่ได้อยู่กับใครเลยจริง ๆ…”แจ็คสันไม่ตอบ เขายังคงทำหน้าบึ้งใส่เธอ เธอกังวลอยากจะหาทางออกแต่น่าเสียดายที่เธอไม่มีความคิดมากมาย ในความตื่นตระหนกของเธอ เธอผลักแจ็คสันลงบนเตียง “เชื่อฉันเถอะ… แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว… ฉันไม่ได้โกหกคุณ…”เขาผลักเธอออกไป “ลงไป! ผมเหนื่อยแล้ว ผมไม่อยากทะเลาะกับคุณแล้ว”เธอก้มลงโจมตีริมฝีปากของเขาพลางมองผ่านสายตาที่พร่ามัวของเธอ “ฉันรู้ว่าคุณเหนื่อย ฉันจะช่วยให้คุณผ่อนคลาย” จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ เขยิบไปตามร่างกายของเขาโดยหยุดที่ท้องของเขา…แจ็คสันจะกังวลเรื่องความโกรธของเขาในตอนนี้ได้อย่างไร? หัวของเขากำลังกรีดร้องว่า 'ไม่!'"คุณกำลังทำอะไร? ผมไม่มีความสนใจที่จะมีเพศสัมพันธ์แบบเปื้อนเลือดระหว่างที่คุณมีประจำเดือนหรอกนะ ถ้าคุณเมาก็ไปนอนซะ เราจะคุยเรื่องนี้กันในตอนเช้า!”เธอละเลยเขา แอลกอฮอล์เป็นตัวขับเคลื่อนของความกล้าหาญ เธอรวบรวมสติและฝังศีรษะลงไปที่เป้าของเขาเขาอ้าปากค้างและเอื้อมมือออกไปจับที่ด้านหลังศีรษะของเธอ “ค
เธอปัดมือเขาออก ความทรงจำเมื่อคืนนี้ค่อย ๆ ย้อนเข้ามาในหัวของเธอ ตอนนี้เธอสับสนอย่างเต็มขั้น เธอได้ทำสิ่งนั้นจริง ๆ!แจ็คสันขมวดคิ้ว “อะไรกัน? เมื่อกี่คุณยังขอโทษอยู่เลย แต่ตอนนี้คุณกลับมุ่งร้ายเสียแล้ว? ผมยังโกรธอยู่นะ…”เธอพูดไม่ออกและเลือกที่จะเดินหนี “ฉัน… ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดเลย อย่างน้อยก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง ฉันขอโทษแล้ว เพราะฉะนั้นเราหายกัน ฉันมีงานที่ต้องไปทำ!” จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นเตรียมจะจากไปแต่เขาดึงเธอกลับลงมา “ขออีกครั้งนะ ตอนนี้ที่ทำงานค่อนข้างว่างด้วย…”เธอรู้สึกว่าเขาบ้าไปแล้ว ที่นี่คือที่สำนักงานนะ "ไม่! ปล่อยฉันไป! เราจะคุยเรื่องนี้ที่บ้าน!”แจ็คสันปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม เขาก้มไปข้างหน้าและดูดใบหูส่วนล่างของเธอ การหยอกล้อของเขาเกือบทำให้เธอแทบคลั่ง เธอพยายามดิ้นรนด้วยความลังเลและเกือบจะยอมแพ้ ความกลัวทำให้เกิดความรู้สึกเพิ่มขึ้นอีกแบบ เธอเพียงกลัวว่าจะมีใครบางคนจากสำนักงานบุกเข้ามา เธอจำได้ชัดเจนว่าเธอไม่ได้ล็อคประตู…ใบหน้าของเธอแดงก่ำเมื่อออกมาจากห้องทำงานเขา อายเดินเข้าไปหาเธอด้วยความสงสัย “ทำไมหน้าเธอแดงจัง?”ทิฟฟานี่เอามือปิดหน้าตัวเองแล้วรีบเข้าห้องน้ำ
แมรี่เก็บรายละเอียดทั้งหมดไว้เพราะไม่กล้าบอกแอเรียน ทั้งหมดที่เธอบอกแอเรียนคือหญิงชราคนนั้นเป็นหวัดหนักและไม่มีอะไรผิดปกติ เธอรอจนกระทั่งแอเรียนกลับเข้าห้องก่อนที่เธอจะโทรหามาร์คว่า “นายท่าน มีบางอย่างเกิดขึ้นกับคุณวินน์, โซอี้ แฮร์ริสและสามีของเธอทำให้คุณวินน์เป็นโรคปอดบวมเฉียบพลัน คุณวินน์มีไข้อย่างต่อเนื่องจนมันทำให้สมองของเธอเสียหาย เธอแก่แล้ว แม้ว่าหมอจะช่วยเธอได้ แต่เธอก็จะมีผลข้างเคียง ฉันทนบอกนายหญิงไม่ได้… เราควรทำอย่างไรดีคะ?”มาร์คขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดในออฟฟิศ “ผมว่าแล้วว่าจะต้องมีอะไรเกิดขึ้น… ผมเข้าใจแล้ว ผมจะจัดการเอง คุณทำถูกแล้ว อย่าให้แอริรู้เด็กขาด”หลังจากที่วางสายมาร์คก็บอกเดวี่ เลขาของเขา ให้ยกเลิกการประชุมทั้งหมดในตอนบ่ายก่อนที่เขาจะรีบไปที่โรงพยาบาลหญิงชราอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก โดยมีโซอี้และสามีของเธอยืนเฝ้าอยู่ข้างนอกพลางดูเหมือนเศร้าและอ้างว้าง ทุกคนรู้ดีว่ามันปลอมหรือไม่“มาร์ค แอริไม่มาเหรอ?” โซอี้รีบถามเมื่อเห็นว่ามาร์คมาคนเดียว“อืม เธอไม่สะดวก ผมจะจัดการทุกอย่างเอง” เขาตอบอย่างใจเย็น“เธอเป็นหลานสาวของเขา คุณย่าของเธอป่วยหนักมาก เธอเพิ่งท้องเองไม่ใ
สามีของเธอเงียบไปทันที เขาหันหลังกลับและจากไปอย่างทุลักทุเลมาร์คฟังคำอธิบายของแพทย์อยู่ในโรงพยาบาล สีหน้าของเขาค่อย ๆ ลดลงหมอดูอึมครึมมาก “เธออายุมากแล้วและช่วงนี้อากาศก็ไม่ค่อยดี เธอควรได้รับการดูแลเป็นอย่างดี พวกเขาควรให้ความสนใจเธออย่างใกล้ชิดตั้งแต่ที่เธอมีไข้อย่างต่อเนื่อง มันพัฒนาเป็นปอดบวมเฉียบพลันได้อย่างไร? ผมไม่เข้าใจว่าผู้ติดตามของเธอกำลังทำอะไรอยู่ หญิงชราคนนั้นหมดสติไปแล้วตอนที่เธอถูกส่งมาที่นี่ สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นหากเธอไม่ได้เป็นไข้ต่อเนื่องมาสามวัน ครอบครัวไม่สังเกตเห็นว่าเธอเป็นไข้ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเลยหรือ? ตอนนี้เราสามารถรักษาชีวิตเธอได้ด้วยสายออกซิเจนและยาเท่านั้น ไข้ยังไม่ลดลงเลย ดังนั้นเธอยังไม่พ้นระยะวิกฤต ท้ายที่สุดเธออายุมากแล้ว คุณควรทำใจไว้ดีกว่า”มาร์คกำมือแน่น “ได้โปรดทำให้ดีที่สุด ค่ารักษาพยาบาลจะไม่เป็นปัญหา ใช้ยาและการรักษาทุกอย่างที่คุณทำได้ ตอนนี้ผมเข้าไปหาเธอไม่ได้ใช่ไหม?”หมอหยุดครุ่นคิด “การไปพบผู้ป่วยอาจทำให้เธอติดเชื้อเข้าไปในปอดได้อีก คุณจะสามารถพบเธอได้ถ้าไข้เธอลดลงชั่วคราว เดี๋ยวผมไปตรวจดูให้"หมอเดินเข้าไปตรวจหญิงชรา มาร์ครออยู
มาร์คสังเกตเห็นว่าเวลาของเขากำลังจะหมดลงและพูดอย่างปลอบโยนว่า “ไม่ต้องกังวลนะครับคุณย่า ตั้งใจให้หายดีแล้วผมจะพาคุณกลับบ้านและต่อจากนี้ไปคุณจะไปอยู่กับเรา คุณไม่ผิดที่หยุดการแต่งงานของพวกเขา ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด แอริรู้ดีว่าคุณดีกับเธอแค่ไหน เธอก็หวังให้คุณหายดีเช่นกัน”การหายใจของหญิงชราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในทันที เธอไม่สามารถพูดได้อีกต่อไป มาร์ครีบวิ่งไปหาหมอ "เธอหายใจถี่ขึ้น ได้โปรดไปช่วยดูเธอหน่อยครับ!"หมอรีบวิ่งเข้าไปในห้องผู้ป่วยหนัก ณ จุดนั้น ลมหายใจของหญิงชราเริ่มคงที่แต่เธอก็ยังดูไม่ดี หมอพยายามพูดกับหญิงชราว่า “คุณได้ยินผมไหม?”หญิงชราพยักหน้าด้วยความยากลำบาก หมอถอนหายใจอย่างโล่งอก “คุณต้องใจเย็นลงหน่อย เดี๋ยวก็ดีขึ้น”“มัน… จะ… ยากสำหรับฉันที่จะหายดีอีกครั้ง… ใช่ไหม… ใช่ไหม? พูดตรง ๆ...” หญิงชราพูดด้วยเสียงแหบหมอหยุดก่อนจะพูดต่อ “มันไม่ได้สิ้นหวังอย่างสิ้นเชิง… ร่างกายของผู้สูงอายุนั้นแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าคนอายุน้อย อย่างไรก็ตาม มันต้องใช้ความพยายามนิดหน่อย เข้มแข็งไว้นะครับ"ทาบิธาหัวเราะ “ไม่ ฉันใช้ชีวิตอยู่มานานพอแล้ว ได้โปรด… เขียนพินัยกรรมของฉัน… ใ
ปกติมาร์คมักจะกลับบ้านเร็ว อย่างไรก็ตาม วันนี้เขาไม่อยากกลับบ้าน เขาไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับแอเรียนอย่างไร เขากลัวว่าจะเปิดเผยทุกอย่างให้เธอรู้โดยไม่ตั้งใจจิตใจของเขาปั่นป่วนด้วยคำพูดที่หญิงชราพูดในห้องผู้ป่วยหนัก เขาดึงโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาเฮนรี่ว่า “เฮนรี่ พาโซอี้ วินน์และสามีของเธอมาที่ห้องทำงานของผมเดี๋ยวนี้”พวกเขามาถึงครึ่งชั่วโมงต่อมา โซอี้เห็นสีหน้าของมาร์คและรู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ในทางกลับกัน สามีที่โง่เขลาของเธอกำลังชื่นชมความยิ่งใหญ่ของตึกเทรมอนต์ ทาวเวอร์โซอี้รู้สึกสับสน “มาร์ค… คุณเรียกพวกเรามาที่นี่ทำไม?”มาร์คยิ้มชั่วร้าย “คุณรู้ไหมว่าคุณย่าป่วยได้อย่างไร?”สามีของโซอี้แข็งทื่อแล้วถูจมูกอย่างรู้สึกผิด โซอี้บริสุทธิ์ในเรื่องนี้อย่างชัดเจน “มันเป็นเรื่องปกติอย่างยิ่งที่จะเป็นหวัดในสภาพอากาศเช่นนี้ ช่วงนี้ฉันยุ่งมากและแม่ก็ไม่เคยพูดถึงอาการป่วยของเธอเลย เธอมีอาการไอ ฉันจึงให้ยาแก่เธอ ฉันไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ ฉันเพิ่งรู้ว่ามันแย่แค่ไหนเมื่ออยู่ ๆ เธอก็หมดสติไป ตอนนี้ การจัดการกับเรื่องต่าง ๆ ด้วยเงินคงจะง่ายกว่าและเมื่อคุณดูแลเรื่องต่าง ๆ หญิงชราจะต้องฟื้
โซอี้ไม่มีอารมณ์ที่จะขอค่าชดเชย หลังจากทุกอย่างที่สามีของเธอได้ทำลงไป เธอก็ไม่มีความกล้าที่จะขอเงินแม้แต่เหรียญเดียว “ฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ฉันไม่สามารถเผชิญหน้ากับแม่ของฉันได้ โปรดดูแลเรื่องการจัดการของงานศพ พรุ่งนี้ฉันจะออกจากเมืองหลวงนี้ทันที”อย่างไรก็ตาม สามีของเธอไม่มีพอใจด้วย “เธอโง่เหรอ? ถ้าเธอต้องการจะปฏิเสธก็แล้วแต่ แต่ฉันต้องการเงิน! นั่นคือแม่ของเธอ ฉันช่วยดูแลเขามายี่สิบปีแล้ว!”ดวงตาของมาร์ควาววับด้วยความรำคาญ “คุณเป็นคนที่ให้การสนับสนุนคุณย่าหรือคุณย่าให้การสนับสนุนคุณกันแน่? ผมไม่มีอารมณ์ที่จะโต้เถียงกับคุณ คุณควรตระหนักให้ดีถึงสิ่งที่คุณได้ทำลงไป คุณย่าบอกผมทุกอย่างก่อนที่เธอจะเสีย อาชญากรรมที่คุณก่อขึ้นนั้นจัดอยู่ในหมวดหมู่ของการล่วงละเมิดในผู้สูงอายุ ผมสามารถฟ้องคุณได้! ออกไปซะถ้าคุณไม่อยากติดคุก!”สามีของโซอี้ดูไม่กระสับกระส่าย “เธอตายแล้ว ใครจะรู้ว่าสิ่งที่คุณพูดเป็นความจริงหรือไม่? คุณมีหลักฐานหรือเปล่า? อะไร คุณคิดว่าคุณสามารถทำแบบนั้นได้เพียงเพราะคุณมีเงินงั้นเหรอ? ฟ้องผมเลย ผมไม่กลัวหรอก! คุณยังต้องทำตามกฎหมายแม้ว่าคุณจะมีเงินก็ตาม คุณไม่ต้องการให้แอเร
ทิฟฟานี่กลับจากที่ทำงานเร็วกว่าเวลาเลิกงานครึ่งชั่วโมง เพื่อชดเชยที่เธอละเลยแจ็คสัน เธอจึงตัดสินใจเข้าห้องครัวและทำอาหารเย็นเอง ใช่ เธอยอมรับว่าทักษะการทำอาหารของเธออาจจะแย่นิดหน่อย แต่เพียงความตั้งใจเท่านั้นที่สำคัญเมื่อได้ยินว่าเธอออกจากงานเร็วกว่าปกติ แจ็ตสัน ผู้ซึ่งคิดว่ากิจกรรมล่าสุดของเธอนั้นน่าสงสัย จึงตามเธอกลับไปที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์อย่างเงียบ ๆ เกือบจะทันทีที่เขาเข้าบ้านไปเขาก็ได้ยินเสียงก่องแก่งออกมาจากห้องครัว ดังนั้นเขาจึงก้าวเข้าไปในห้องที่มีเสียงดังกล่าวลอดออกมาเขาไม่แปลกใจเลยที่ห้องครัวตกอยู่ในความโกลาหลทิฟฟานี่กัดฟัน “คือว่า มันควรจะเป็นอาหารเย็น...”แจ็คสันถอนหายใจด้วยความยอมแพ้ “ไม่เป็นไร ทิฟฟ์ ให้ผมทำดีกว่า ผมยังต้องกลับไปที่บริษัทเพื่อทำงานล่วงเวลาหลังอาหารเย็นอีก ผมพนันได้เลยว่าคุณจะต้องใช้เวลาถึงเช้ากว่าที่คุณจะสร้างผลงานชิ้นเอกของคุณให้สำเร็จ”ก่อนที่เธอจะทันได้ตอบกลับ โทรศัพท์ที่เธอเพิ่งซื้อมาใหม่ก็ดังขึ้นและตัดประโยคของเธอเธอเหลือบมองหน้าจอที่แจ้งเธอว่ามันเป็นสายจากนักสืบอย่างรวดเร็วแม้ว่าเธอจะไม่ได้บันทึกชื่อผู้ติดต่อดังกล่าวแต่เธอก็จำหมายเลขนั้นได