Beranda / รักโบราณ / เชลยรัก ท่านอ๋องแฝดนรก / บทที่ 6 เรือนกายที่งดงาม

Share

บทที่ 6 เรือนกายที่งดงาม

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-05 12:12:58

หลัวม่อเยียนเดินทางกลับมาที่วังหลวงด้วยจิตใจที่ว้าวุ่นและกังวลเป็นอย่างยิ่ง ทันทีที่ได้รับรู้ถึงวิธีการของนักพรตชราผู้นั้น เขาก็รู้สึกกังวลใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

เขามิอาจปกครองไท่หยางได้อย่างสงบสุข เพราะเขามีดวงชะตาที่เหล่าเทพมิยอมรับ ต่อให้เขาจะกราบไหว้ฟ้าดินอย่างถูกต้องตามหลักสักกี่ครา ก็มิอาจลบล้างดวงชะตาบัดซบเช่นนี้ออกไปได้!!! 

มีเพียงวิธีการเดียว นั่นก็คือ? 

สังเวยคนเป็นบูชายัญปีศาจมังกรเพียงเท่านั้น!!!

พิธีการนี้ออกจะโหดเหี้ยมอำมหิตในความคิดของเขาเป็นอย่างมาก นักพรตบอกว่าดวงชะตาของเขาเปลี่ยนแปลงได้ยากยิ่ง แต่ก็มิใช่ว่าจะอับจนหนทางเสียทีเดียว 

ฮ่องเต้เปรียบเสมือนมังกร มีทางเดียวที่จะช่วยให้เขาได้สมใจปรารถนา นั่นก็คือการบูชาปีศาจมังกร ใช้เลือดของสตรีเซ่นสังเวยปีศาจมังกรในคืนที่แสงจันทร์สว่างที่สุด เพื่อให้พลังของปีศาจมังกรช่วยหนุนนำดวงชะตาของเขาให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังลดทอนพลังของธิดาเทพและเหล่าเทพที่คุ้มครองไท่หยางให้อ่อนแรงลง ไม่ให้มีพลังอยู่เหนือดวงชะตาของเขาได้ 

นักพรตชราเรียกพิธีกรรมนี้ว่า พิธีโกงชะตาดวงเมือง!!!

พิธีนี้มิค่อยมีผู้ใดทำกันมากนัก เพราะมันเป็นการท้าทายอำนาจของเหล่าเทพ อีกทั้งยังเป็นการเปลี่ยนดวงชะตาเมืองหลวงให้ผิดแปลกไปจากที่มันควรจะเป็น 

ตามหลักแล้ว เทพจะคุ้มครองเมืองหลวงไท่หยางให้ปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้ายโดยส่งพลังผ่านทางเหล่าธิดาเทพ แต่สิ่งที่นักพรตชราแนะนำให้เขาทำ มันคือการทำสิ่งที่ตรงกันข้าม คือการบูชาปีศาจมังกรให้มาลดทอนพลังเทพให้อ่อนแอลง!!!

เขาเองยังมิได้ยอมรับพิธีกรรมนี้จากนักพรตชรา เพียงแค่รับฟังไว้เท่านั้น นักพรตชราเองก็มิได้เร่งรัดเขาเช่นกัน หลัวม่อเยียนยังคงเชื่อว่าเขาสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยตนเองอยู่ 

ด้านโจวอวี้หลันนั้น นางยังคงคอยตามติดชีวิตของหลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงไม่ยอมลดละ แม้จะถูกเขาผลักไสอีกสักกี่ครา แต่ทว่านางก็ยังไม่ละความพยายามแม้แต่น้อย 

โจวอวี้หลันมักจะชอบไปอยู่ในโรงครัวเพื่อช่วยป้าหลิวทำอาหารอยู่บ่อยครั้ง และนั่นทำให้นางได้พบกับแมวตัวอ้วนสีดำและสีขาวที่แสนน่ารัก มีคราหนึ่งที่พวกมันปีนขึ้นไปบนต้นไม้และลงมาไม่ได้ ส่งเสียงร้องลั่น ก็ได้นางที่ช่วยปีนไปอุ้มมันลงมาทั้งสองตัว นางน่ะชื่นชอบแมวเป็นที่สุด 

นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเจ้าแมวอ้วนสองตัวก็แวะเวียนมาเล่นกับนางอยู่บ่อยครั้ง นางเองก็มักจะทำปลาตากแห้งเอาไว้รอเจ้าแมวอ้วนสองตัวมากินอีกด้วย

ในคืนหนึ่ง โจวอวี้หลันกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียง แต่ทว่านางกลับต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดพรายขึ้นมาเต็มใบหน้าสวย โจวอวี้หลันรู้สึกว่านางหายใจไม่ทั่วท้อง ราวกับว่าในฝันนั้น นางกำลังวิ่งหนีบางสิ่งที่น่าหวาดกลัว คล้ายหนีใครบางคนที่กำลังบูชาบางสิ่งบางอย่างอยู่!!!

ฝันเช่นนั้นอีกแล้ว!!! 

เหตุใดนางจึงฝันเห็นพิธีกรรมประหลาดเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่ากันนะ!

โจวอวี้หลันพยายามครุ่นคิดเช่นไรก็คิดไม่ออก ยามนี้อากาศก็ช่างร้อนอบอ้าวไม่น้อย อีกทั้งนางยังเหนียวตัวยิ่งนัก จึงอยากจะไปล้างเนื้อล้างตัวเสียหน่อย 

เมื่อคิดได้เช่นนั้น โจวอวี้หลันจึงเดินออกมาจากเรือนนอน ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังที่อาบน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าใดนัก ที่ตรงนั้นเป็นที่อาบน้ำสำหรับสาวใช้ในจวน แต่ทว่านางกลับเห็นบางสิ่งวิ่งผ่านหายไปในความมืด คล้ายกับมีสีดำสีขาวสลับกัน แต่ทว่าโจวอวี้หลันก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก นางใช้มือวักน้ำขึ้นมาชะล้างตามท่อนแขนสวยและตามเรือนกาย เมื่อรู้สึกว่าเริ่มสบายกายแล้ว นางจึงหันหลังเตรียมตัวกลับเรือนนอน แต่ทว่ากลับได้พบหลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงเสียก่อน 

หลัวเยี่ยนเจ๋อขมวดคิ้วมองนางอย่างไม่เป็นมิตร แตกต่างจากหลัวเทียนเฉิงที่อยากจะยื่นมือไปบีบขยำหน้าอกอวบใหญ่ของนางใจจะขาด

"คารวะท่านอ๋องทั้งสองเพคะ"

"เจ้าออกมาทำสิ่งใดยามดึกเช่นนี้?"

หลัวเยี่ยนเจ๋อเอ่ยถามโจวอวี้หลันด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา 

"หม่อมฉันรู้สึกร้อนน่ะเพคะ จึงออกมาล้างตัวเสียหน่อย"

"ล้างตัวยามค่ำคืนเช่นนี้?"

"เพคะ"

"หึ!!! เจ้าคงคิดจะมายั่วยวนบ่าวไพร่ในเรือนข้าสินะ ไร้ยางอายสิ้นดี!!!"

โจวอวี้หลันกลอกตาไปมาด้วยความเบื่อหน่าย เขาเจอหน้านางทีไรก็ต่อว่านางเช่นนี้ตลอด เขาจงเกลียดจงชังนางถึงเพียงนี้เชียวหรือ? 

"อาเยี่ยน อย่าเสียเวลากับนางเลย เราไปตามหาอาลู่อาชิงกันก่อนเถิด"

หลัวเทียนเฉิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรน แต่ทว่าสายตายังไม่ละไปจากหน้าอกสวยของนางเลยแม้แต่น้อย 

โจวอวี้หลันที่ได้ยินเช่นนั้น ก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวต่าง ๆ ได้ 

เอ๋? หรือว่าบางอย่างที่นางเห็นเมื่อครู่ คืออาลู่อาชิงที่หลัวเทียนเฉิงเอ่ยถึง 

พวกเขามีบุตรแล้วหรือ? 

เหตุใดเด็กน้อยจึงวิ่งเร็วยิ่งนักเล่า? เหมือนกับไม่ใช่คนเลย?

ช่างเถิด!!! ว่ากันว่าบุรุษที่มีบุตรแล้วประสบการณ์แน่นทุกคน!!! 

"เอ่อ หม่อมฉันคล้ายเห็นอาลู่อาชิง วิ่งไปที่ท้ายสวนนั่นน่ะเพคะ"

หลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงที่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบหันกลับมามองนางทันที 

"เจ้าพูดจริงหรือ?"

หลัวเทียนเฉิงหันมาเอ่ยถามโจวอวี้หลันทันที เมื่อเห็นว่านางพยักหน้าเขาจึงส่งยิ้มให้นางคราหนึ่ง 

โจวอวี้หลันรู้สึกราวกับว่า เทพเซียนสวรรค์กำลังส่งยิ้มทักทายนาง ในใจก็พลันเต้นถี่ระรัวอย่างบ้าคลั่ง 

"ไสหัวไปช่วยข้าตามสิ!!! จะจ้องหน้ากันอีกนานไหม!!!"

หลัวเยี่ยนเจ๋อตะคอกโจวอวี้หลันและหลัวเทียนเฉิงเสียงดัง จนคนทั้งสองสะดุ้งโหยง ในใจของเขารู้สึกไม่พอใจที่เห็นหลัวเทียนเฉิงไปใกล้ชิดกับโจวอวี้หลันเช่นนั้น 

แทนที่เขาจะได้มีส่วนร่วมด้วย!

ไม่สิ!!! นี่ข้าคิดสิ่งใดกัน!!!

หลัวเยี่ยนเจ๋อส่ายหน้าไปมา พยายามไล่ความคิดที่น่ารังเกียจนี้ออกไปจากความคิดของตนเสีย

โจวอวี้หลันไม่รอช้านางรีบเดินนำทางพวกเขาทั้งสองไปที่ท้ายจวนทันที มือสวยก็พยายามจับชุดที่สวมใส่เอาไว้แน่น เพราะชุดของนางบางเบา อีกทั้งยามนี้มันยังเปียกน้ำอีกด้วย จึงทำให้นางเดินเหินค่อนข้างลำบากไม่น้อย 

เมี้ยว!

เสียงแมวส่งเสียงร้องอยู่ไม่ไกลเท่าใดนัก โจวอวี้หลันที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น เหตุใดจึงมีเสียงแมวเล่า? แล้วไหนกันบุตรของพวกเขา?

"อาลู่ลูกรักของพ่อ!!!"

"อาชิงของพ่อ!!!"

โจวอวี้หลันจ้องมองแมวตัวอ้วนสีดำและสีขาวสองตัวที่อยู่ในอ้อมกอดของหลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงด้วยแววตาที่สงสัย 

อย่าบอกนะว่าอาลู่อาชิงที่พวกเขาตามหาคือเจ้าแมวอ้วนสองตัวนี้? 

โอ้วว!!! นั่นมิใช่เจ้าแมวอ้วนสองตัวนั่นหรอกหรือ? 

อาลู่แมวดำจ้องมองโจวอวี้หลันอย่างไม่ละสายตา อาชิงแมวอ้วนขาวก็เช่นกัน มันพยายามดิ้นให้หลุดจากการกอดของหลัวเทียนเฉิงก่อนจะกระโดดพุ่งตัวเข้าไปหาโจวอวี้หลันทันที 

ด้านอาลู่เองก็ไม่ยอมเช่นกัน มันหันไปแยกเขี้ยวใส่หลัวเยี่ยนเจ๋อ ก่อนจะกระโดดออกจากการเกาะกุมของเขา หลัวเยี่ยนเจ๋อที่เห็นเช่นนั้นก็ยกยิ้มที่มุมปาก พลางครุ่นคิด 

หึ!!! สงสัยอาลู่อยากจะกระโดดไปตะปบหน้านางสินะ!!! 

ด้านหลัวเทียนเฉิงก็ตื่นตกใจเป็นอย่างยิ่งที่เห็นอาชิงวิ่งเข้าไปหาโจวอวี้หลันเช่นนั้น 

"เจ้าแมวอ้วนนน!!!"

อาลู่กับอาชิงต่างวิ่งไปคลอเคลียนางราวกับรักใคร่นางมาเนิ่นนานอีกทั้งยังยอมให้นางอุ้มมันอีกด้วย หลัวเยี่ยนเจ๋อที่เห็นเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น แต่ทว่าหลัวเทียนเฉิงกลับยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก 

ไม่ง่ายเลยที่อาชิงจะยอมเข้าใกล้ผู้อื่นที่ไม่ใช่เขา แม้แต่ยามนี้มันก็ยังไม่ตบตีอาลู่อีกด้วย 

หลัวเยี่ยนเจ๋อที่เห็นเช่นนั้นก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เหตุใดอาลู่ลูกรักของเขา จึงยอมให้นางอุ้มได้ง่ายดายเช่นนี้

"ปล่อยแมวข้าเดี๋ยวนี้!!!"

"เอ่อ... เจ้าดำอ้วนนี่น่ะหรือเพคะ"

"ลูกข้าชื่ออาลู่!!!  โอ๊ะ!!! อาลู่เจ้าตะปบหน้าพ่อด้วยเหตุใดกัน!!!"

หลัวเยี่ยนเจ๋อถูกอาลู่ยื่นฝ่ามือมังคุดสะท้านภพตะปบเข้าที่ใบหน้าของเขาอย่างจัง พร้อมกับแยกเขี้ยวใส่เขา ด้านอาชิงเองก็คลอเคลียซบใบหน้าลงไปบนไหล่ของโจวอวี้หลันอย่างออดอ้อน 

"ดูแล้วอาชิงน่าจะชอบเจ้าไม่น้อย"

โจวอวี้หลันหันไปมองหลัวเทียนเฉิงคราหนึ่ง ก่อนจะส่งยิ้มให้เขา พลางยื่นอาชิงส่งคืนให้เขาด้วย ไม่รู้เพราะเหตุใดยามที่นางสบตากับเขา นางก็รู้สึกเขินอายขึ้นมา หลัวเทียนเฉิงเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน  

ด้านหลัวเยี่ยนเจ๋อที่ยื่นมือไปดึงอาลู่ออกมาจากโจวอวี้หลัน แต่อาลู่กลับดื้อดึงไม่เชื่อฟังเขา เขาจึงออกแรงดึงมากกว่าเดิม จนกระทั่ง...

"ว้าย!!!"

"โอ๊ะ!!!"

เสื้อผ้าของโจวอวี้หลันเองก็เปียกน้ำและบางเบาอยู่แล้ว เมื่อถูกเขาดึงทึ้งรุนแรงเช่นนี้ เสื้อผ้าอาภรณ์ของนางจึงหลุดร่วงลงไปกองกับพื้นทันที

โจวอวี้หลันตกใจจนทำสิ่งใดไม่ถูก หลัวเยี่ยนเจ๋อเองก็ตกใจเช่นกัน แต่ทว่าเขากลับละสายตาจากหน้าอกอวบสวยของนางไม่ได้เลย 

หลัวเทียนเฉิงเองก็ไม่ต่างกัน เขาจ้องมองเรือนร่างของนางอย่างไม่ลดละเช่นเดียวกับผู้เป็นแฝดพี่

โอ้วววว ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว นอกจากหน้าอกนางจะใหญ่โตเท่าภูเขาแล้ว สองกลีบล่างของนางยังหนาและอูมมากอีกด้วย!!! 

โจวอวี้หลันรีบหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะวิ่งหนีหายกลับเรือนไปทันที ให้ตายเถอะ!!! นางไม่คิดว่าเขาจะกล้าดึงนางจนเสื้อผ้าหลุดลุ่ยเช่นนี้

ด้านหลัวเทียนเฉิงนั้นก็รู้สึกปวดหนึบไปทั่วทั้งลำแท่งแล้ว น่าเสียดายยิ่งนักที่หลัวเยี่ยนเจ๋อไม่ชอบนาง มิเช่นนั้น เขาคงได้กกกอดนางไปนานแล้ว

ด้านหลัวเยี่ยนเจ๋อนั้น เมื่อกลับมาที่ห้องนอนของตนเองแล้ว เขาก็ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนออกจนหมด และรูดชักลำแท่งเอ็นร้อนอีกครา

"ซี้ดดด ข้าเกลียดนาง โอ้วววว!!!"

เขาเร่งสาวชักลำแท่งแก่นกายให้เร็วแรงยิ่งกว่าเดิม พลางก่นด่าโจวอวี้หลันไปด้วย

"อื้อออ ซี้ดดดดด!!! สตรีต่ำช้า!!!"

"ท่านอ๋องงง โอ๊ะ!!!"

ปิ้ววว!!!

พ่อบ้านเฉียวกำลังยกสุราเข้ามาถวายให้หลัวเยี่ยนเจ๋อ แต่ทว่าเมื่อเปิดประตูเข้ามา น้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งเข้ามาสาดใส่ใบหน้าชราของเขาอีกคราจนเปียกชุ่มไปหมด

"ท่านอ๋องงง!!! กระหม่อมเหนียวหน้าพ่ะย่ะค่ะ!!!"

"ไปล้างสิ!!! โง่เสียจริง!!!"

พ่อบ้านเฉียวนี่ก็อะไรนักหนา!!! มาไม่ดูเวล่ำเวลาเช่นนี้ สั่งโบยร้อยไม้สักทีดีหรือไม่!!!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เชลยรัก ท่านอ๋องแฝดนรก   ตอนพิเศษ

    รัชศกหลัวเฉวียนปีที่5ม้าเร็วจากไท่หยาง ส่งข่าวมาแจ้งหลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงว่า ฮ่องเต้หลัวเฉวียน ทรงสิ้นพระชนม์แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา ด้วยเพราะพิษร้ายที่สะสมในร่างกายมันรุนแรงจนกัดกร่อนทุกส่วนในกายจนหมดสิ้น ยามนี้ราชวงศ์กำลังสั่นคลอน ฮองเฮามีเพียงพระธิดาที่มีอายุเพียงไม่กี่ชันษาเท่านั้นไร้พระโอรสสืบทอดราชบัลลังก์ ยามนี้ไท่หยางกำลังต้องการฮ่องเต้พระองค์ใหม่ หลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงรีบเร่งกลับไท่หยางโดยเร็ว พร้อมกับพาโจวอวี้หลันและบุตรชายทั้งสองติดตามมาด้วย ยามนี้โจวอวี้หลันกำลังตั้งครรภ์ที่สอง พวกเขาใช้เวลาร่วมสองคืนสามวันจึงเดินทางถึงไท่หยาง พระศพของฮ่องเต้หลัวเฉวียนถูกนำไปฝังในสุสานของราชวงศ์ ส่วนเหมยฮองเฮาก็ออกจากวังหลวงพร้อมกับองค์หญิงหลัวอิงอิง ไปบำเพ็ญเพียรที่วัดบนหุบเขา รักษาศีลภาวนาให้จิตใจบริสุทธิ์และไม่คิดจะกลับเข้าวังหลวงอีกชั่วชีวิต ยามนี้ที่วัดบนหุบเขาแห่งนั้นมีไต้ซือและสามเณรที่น่านับถือพักอาศัยอยู่หลายร้อยองค์ อีกทั้งยังมีภิกษุณีอาศัยอยู่ในวัดแห่งนั้นอีกด้วย หลัวเฉวียนตอนที่ยังมีชีวิตเขาก็ได้ขยายพื้นที่ของวัดให้กว้างขวางมากขึ้น เหล่าผู้คนต่างพากันไปไหว้พร

  • เชลยรัก ท่านอ๋องแฝดนรก   บทที่ 51 ความสงบสุขมาเยือน

    รัชศกเฉวียนปีที่1 ฮ่องเต้นามว่า หลัวเฉวียน เสียงบรรเลงเพลงขับขานแซ่ซ้อง ฮ่องเต้หนุ่มในชุดพัสตราภรณ์มังกรสีทองกำลังนั่งเคียงคู่อยู่กับสตรีที่สวมชุดสีแดง ปักลวดลายหงส์งามนั่นก็คือฮองเฮาของเขา นามว่า เหมยลี่อิง บุตรสาวของท่านแม่ทัพตระกูลเหมยเหมยฮองเฮาทรงประสูติพระธิดาหนึ่งองค์ ด้วยเพราะร่างกายของหลัวเฉวียนไม่ดีเท่าใดนัก นางจึงมิอาจตั้งครรภ์ได้อีก หลัวเฉวียนยังจำได้ดี วันที่เขาเดินทางมาไท่หยางเพื่อสู้ศึก เหมยลี่อิงกำลังตั้งครรภ์ แต่ทว่านางกลับเข้มแข็งและไม่ยอมเป็นตัวถ่วงเขา นางบอกว่า ขอเพียงประชาชนไท่หยางอยู่อย่างร่มเย็นสงบสุข นางยินดีสละความสุขส่วนตนได้เสมอแผ่นดินไท่หยางกลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครา ฝนตกต้องตามฤดูกาล อีกทั้งสติปัญญาที่เก่งกาจของหลัวเฉวียนทำให้แผ่นดินไท่หยางอุดมสมบูรณ์ เหล่าราษฎรอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ขุนนางในราชสำนักก็ไม่คิดต่อต้านราชวงศ์อีกหลัวเฉวียนสั่งให้คนขุดดินเพื่อสร้างเป็นทางน้ำขนาดใหญ่ ให้แม่น้ำจากนอกเมืองหลวงไท่หยางไหลเข้ามาในพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้านได้ รวมถึงสร้างพื้นที่กักเก็บน้ำไว้ใช้ยามเกิดภัยแล้งอีกด้วย และยังลดค่าภาษีต่าง ๆ ลงเป็นจำนวนมาก ผู้คนอยู่ดีกิ

  • เชลยรัก ท่านอ๋องแฝดนรก   บทที่ 50 เดินทางกลับไท่หยาง

    เสียงฟ้าร้องพร้อมกับฝนห่าใหญ่ ทำให้โจวอวี้หลันรู้สึกหนาวเย็นยิ่งนัก ฝนตกในครั้งนี้ ไม่ได้สร้างความหวาดกลัวให้นางเหมือนในครั้งก่อน ๆ อีก ยามนี้นางกำลังยื่นมือไปลูบหัวของอาลู่และอาชิงเจ้าแมวอ้วนสองตัวด้วยความรักใคร่ฉาฮวาละสายตาจากสายฝนด้านนอก ก่อนจะทิ้งกายลงนั่งข้างกายโจวอวี้หลัน แล้วจึงเอ่ยขึ้นมา "ฝ่าบาทสิ้นพระชนม์แล้วเพคะ ดวงดาวของฮ่องเต้ดับสูญแล้ว" โจวอวี้หลันที่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง "ฉาฮวา หรือจะเกี่ยวกับพิธีบูชายัญเหล่านั้น""เพียงแค่ส่วนเดียวเพคะพระชายา การบูชาเทพและปีศาจ เป็นเพียงสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจเพียงเท่านั้น ฝ่าบาททรงถูกอำนาจและความทะเยอทะยานครอบงำจิตใจจนเกินจะแก้ไข ทำให้ขาดสติไตร่ตรองดีชั่ว หลงเชื่อคนผิด คิดกระทำการขัดต่อดวงชะตา ผลจึงออกมาเป็นเช่นนี้เพคะ""แล้วที่ได้ยินมาว่าดวงชะตาของฝ่าบาทคือดวงชะตาที่วิบัติ มันจริงหรือ?""จริงเพคะ ดวงวิบัติไม่ได้หมายถึงแผ่นดินจะวิบัติเพียงอย่างเดียว แต่คนรอบข้างที่รายล้อมฝ่าบาท หากไม่ตายด้วยน้ำมือของเขา ก็จะสิ้นชีพลงเพราะดวงชะตาของเขากดข่มเอาไว้ แต่ถ้าหากฝ่าบาททรงใช้สติปัญญาไตร่ตรองให้ดีและมองดูตนเองอย่างถ่อง

  • เชลยรัก ท่านอ๋องแฝดนรก   บทที่ 49 การบูชายัญครั้งสุดท้าย

    กว่าจะสะสางเรื่องราวตรงหน้าได้จนแล้วเสร็จหลัวเยี่ยนเจ๋อก็เหนื่อยไม่น้อยแล้ว หลัวเฉวียนสั่งให้เหล่าทหารนำซากศพของเหล่ากบฏต้าไห่ไปทิ้งในป่านอกเมืองเสีย ไม่ต้องกลบฝัง ปล่อยให้ฝูงกาทึ้งกินตามยถากรรม ส่วนหัวของโจวอวิ๋น ให้นำไปเสียบประจานที่หน้าประตูเมือง เพื่อมิให้แคว้นอื่นคิดทำเป็นเยี่ยงอย่าง ด้านหลัวเทียนเฉิงในยามนี้เขาบาดเจ็บหนักจากการต่อสู้ หมอหลวงจึงให้เขาพักฟื้นห้ามขยับกายทำสิ่งใดเป็นอันขาด หลัวเยี่ยนเจ๋อเองก็ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น "ขอบพระทัยเสด็จพี่รองยิ่งนัก""ข้าเต็มใจ อย่างไรเสีย ข้าคงต้องรีบกลับแคว้นเย่ว์ก่อนแล้ว ป่านนี้พระชายาคงจะร้อนใจยิ่งแล้ว เรื่องต่าง ๆ ที่ไท่หยางมีพวกเจ้าทั้งสองคอยจัดการ ข้าก็วางใจ""พี่รอง""หืม?""เรื่องราชโองการของเสด็จพ่อ...""ช่างเถิด หลัวม่อเยียนยังไม่ได้สิ้นพระชนม์ หากเขาคิดได้แล้ว ข้าก็ไม่อยากแย่งชิงบัลลังก์กับพี่น้อง"หลัวเฉวียนยิ้มให้หลัวเยี่ยนเจ๋ออย่างอ่อนโยน แต่ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้เดินทางกลับแคว้นเย่ว์ ก็ได้ยินเสียงตะโกนก้องของราชเลขาดังขึ้นมาเสียก่อน "เย่ว์อ๋อง!!! ชินอ๋องแย่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!!!"หลัวเฉวียนและหลัวเยี่ยนเจ๋อรีบหัน

  • เชลยรัก ท่านอ๋องแฝดนรก   บทที่ 48 นักพรตชราสิ้นชีพ

    ทหารไท่หยางตกตายไปกว่าครึ่ง หลัวเยี่ยนเจ๋อเห็นว่าปล่อยเอาไว้เช่นนี้คงไม่ดีแน่แล้ว จึงสั่งให้พ่อบ้านเฉียวรีบพาหลัวเทียนเฉิงที่บาดเจ็บสาหัสเข้าไปในเรือนเสียก่อน ส่วนเขาและหลัวเฉวียนจะต้านทัพของต้าไห่เอาไว้อย่างสุดกำลัง "ถึงเวลาตายของพวกเจ้าแล้ว!!! ฆ่าคนไท่หยางให้หมด!!!"โจวอวิ๋นส่งเสียงตะโกนก้องฟ้าสะเทือนปฐพี เหล่าทหารต้าไห่ที่ได้ยินเช่นนั้นต่างส่งเสียงโห่ร้องกึกก้อง พร้อมกับพุ่งเข้าเข่นฆ่าราษฎรของไท่หยางอย่างอำมหิตหลัวม่อเยียนในยามนี้จิตใต้สำนึกของเขามีแต่ความว่างเปล่า ความรู้สึกที่อยากได้ตัวฉาฮวาและโจวอวี้หลันไม่มีอีกแล้ว มีเพียงความรู้สึกที่ยากจะอธิบายในยามนี้ "ย้าาาาา!!!"ในความคิดของหลัวม่อเยียนมีเพียงคำว่า ฆ่า ฆ่าให้หมดเพียงเท่านั้น!!!หลัวเฉวียนไม่มีเวลาสนใจสิ่งใดแล้ว เขาร่วมรบเพื่อปกป้องไท่หยางอย่างสุดกำลังเช่นกัน นักพรตชราที่เขาอยากเห็นหน้ายามนี้คงไม่จำเป็นเสียแล้ว เพราะเขาได้ยินกับหูของตนเองแล้ว ว่ามันคือกบฏที่เข้ามาสร้างความปั่นป่วนให้แก่ไท่หยางดาบในมือของหลัวเฉวียนยังคงสังหารคนไม่หยุด แม้มีบางคราที่พิษจะกำเริบขึ้นมา แต่เขาเองก็ไม่ยอมหยุด ดาบในมือกวัดแกว่งอย่างรวดเร็วและว

  • เชลยรัก ท่านอ๋องแฝดนรก   บทที่ 47 หลงกลกบฏ

    เสียงกรีดร้องโหยหวนของราษฎรไท่หยางดังลอยมาเป็นระยะ อีกทั้งยังเกิดเพลิงไหม้เป็นวงกว้างทั่วทั้งเมืองหลวงไท่หยาง เหล่าทหารของต้าไห่ต่างควบม้าพุ่งทะยานเข้ามาในไท่หยางหลายแสนนาย หลัวเฉวียนและหลัวเยี่ยนเจ๋อที่ได้เห็นเช่นนั้นก็มองหน้ากันอย่างตื่นตระหนก จางไห่ถือโอกาสที่ทุกคนไม่ทันระวังตัว เงื้อดาบขึ้นสูงเตรียมจะจ้วงแทงมันลงไปที่หัวใจของหลัวม่อเยียน หลัวเยี่ยนเจ๋อที่ได้เห็นเช่นนั้นก็รีบเขวี้ยงมีดสั้นสกัดดาบของจางไห่ได้ทันเวลา ร่างสูงใหญ่พุ่งทะยานฟาดฝ่ามือเข้าที่กลางอกของจางไห่อย่างเต็มแรง จนฝ่ายตรงข้ามกระอักเลือดอีกครา ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด หลัวม่อเยียนหยัดกายลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะจ้องมองจางไห่ด้วยแววตาที่เย็นชา "จางไห่!!! เจ้า เหตุใดเจ้าจึงคิดสังหารข้า!!!"จางไห่ไม่ตอบ เขากระอักเลือดออกมาอีกคราอย่างทรมาน "เป็นเจ้าที่เปิดประตูเมืองหลวงให้เหล่ากบฏเช่นนั้นหรือ!!!"หลัวม่อเยียนหันไปเอ่ยถามจางไห่ด้วยน้ำเสียงที่คาดคั้น จางไห่ยังคงไม่ตอบ แต่ทว่ากลับหยัดกายลุกขึ้นยืน และเดินไปหาบุรุษวัยกลางคน ที่กำลังควบอาชามุ่งหน้าเข้ามายังทิศทางที่พวกเขาทั้งสี่คนอยู่ "โอ้ววว ได้มาดูพี่น้องเข่นฆ่ากันเช่นน

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status