แชร์

สิ่งที่ข้ามีเหนือกว่า

ผู้เขียน: ปัฐน์พี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-14 08:29:04

....ภายในป่าลึกหลังบ้าน แสงจันทร์สาดส่องลอดกิ่งไม้ลงมาเป็นเส้นสาย ต้นไม้เซียนที่พ่อเคยปลูกตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ใบของมันมีประกายแสงระยิบราวหยดน้ำแข็ง ส่วนผลไม้สีม่วงกลมโตกลับแผ่วพลังปราณออกมาจางๆ จนบรรยากาศรอบตัวอบอวลไปด้วยพลังวิเศษ

หลินเซียนยืนนิ่ง สายตาจับจ้องต้นไม้นั้น แววตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและหนักแน่น

“พ่อ…ท่านปลูกสิ่งนี้ไว้เพื่อข้า ข้าจะใช้มันไม่ให้สูญเปล่า เพื่อปกป้องท่านแม่และตัวข้า”

เขารู้ตัวเองดี รากวิญญาณของตนต่ำต้อยกว่าคนทั่วไปมาก หากจะเดินตามตำราอย่างเดียว ย่อมไม่ทันใคร ไม่พ้นจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลังตลอดไป ดังนั้นเขาต้องสร้างเส้นทางที่ไม่เหมือนใคร

มือเรียวของเขาเอื้อมไปเด็ดผลไม้ลูกหนึ่งมากัดช้าๆ น้ำหวานหอมไหลซึมลงลำคอ พลังปราณเย็นไหลเข้าสู่เส้นลมปราณทันที แต่หลินเซียนไม่รีบร้อน เขานั่งขัดสมาธิ ปล่อยให้พลังนั้นซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างระมัดระวัง

“ตำราเขียนไว้แค่ผลอวิ๋นฮวานี้(ผลไม้แห่งเมฆาและดวงดาว)เพียงอย่างเดียว แม้จะทรงค่า…แต่เหตุใดตำราจึงมิกล่าวถึงราก กิ่ง ก้าน หรือแม้แต่ใบ? ยังไงเสียมันก็คือต้นไม้ที่มีพลังเซียนทุกส่วน”

เขาเริ่มขบคิด

"ไก่ 2 ตัว เป็ด 3 ตัวออกไข่ได้ 5 ฟอง
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   ตามความสามารถ

    (3 เดือนผ่านไป).....บัดนี้ศิษย์ทั้ง 6 คนบรรลุระดับรวบรวมปราณขั้นต้นได้หมดแล้ว หลินเซียนเริ่มให้แต่ละคนฝึกฝนต่างกัน - หลี่เทียนอวิ๋น แม้เขาจะเป็นคนก้าวร้าวแต่เขาเป็นลูกขุนนางจึงมีการศึกษาดีกว่าทุกคน หลินเซียนเริ่มสอนทักษะพื้นฐานการสร้าวงค่ายกลให้แก่เขา- เซียวฉิง นางฝึกฝนวิชากระบี่มาจากแม่แล้วหลินเซียนจึงสอนการบรรจุพลังปราณลงในกระบี่ให้- หวังต้า หลินเซียนสอนปราณธาตุไฟให้เขา หวังต้าชอบมากเพราะเขาคิดว่าอนาคตย่อมมีประโยชน์กับงานร้านตีเหล็กของเขาได้- จางซาน หลินเซียนสอนวิชาการปรุงยา และความรู้เรื่องสมุนไพรเซียนให้เขา เผื่อวันหน้าเขาจะหลอมยาไว้บำรุงร่างกายตัวเอง- หานซิ่วเรียนรู้พลังปราณธาตุน้ำตาหลินเซียน- หลิงเออร์แม้จะเป็นเด็กแต่รากวิญญาณเซียนเธอดีพิเศษ หลินเซียนจึงให้เธอฝึกปราณธาตุน้ำ, ไม้ และดิน ซึ่งปราณธาตุไม้นั้นหลินเซียนให้เสี่ยวหมิงออกมาช่วยด้วย เธอจึงทั้งสนุกที่ได้เล่นหมีแพนด้าและสัมผัสปราณธาตุไม้การสอนศิษย์ทุกคนหลายเดือนนี้หลินเซียนก็เหมือนได้ทบทวนวิชาต่างๆที่ตัวเองเคยร่ำเรียนมาให้ความรู้แน่นขึ้น เก็บตกเศษชิ้นส่วนเล็กๆในแต่ละวิชามาเติมเต็มปัญญาตนเอง บางครั้งกลางดึกเขาเองก็ไป

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   สัมผัสปราณ

    ....ข่าวการไล่ตะเพิดอันธพาลทำให้ไม่มีีอาจารย์สถาบันติวอื่นกล้ามาคบหากับหลินเซียน แต่ก็ทำให้มีชื่อเสียงในกลุ่มเด็กๆเยาวชนที่อยากผ่านการทดสอบเป็นเซียนบางคน ทำให้สถาบันของหลินเซียนคึกคักขึ้น ห้องเรียนเล็กๆบัดนี้มีคนหนุ่มสาวทั้งชายหญิงรวมถึงเด็กน้อยครั้งก่อนมาเรียนด้วย 6 คนแล้วคนแรก คือเด็กหญิงตัวน้อยที่มาช่วยหลินเซียนครั้งที่แล้ว เธอชื่อหลิงเออร์ เป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่อยู่กับคุณปู่ที่เปิดร้านขายน้ำหมึกและพู่กันข้างๆบ้านหลินเซียนนี่เอง เนื่องจากหลินเซียนบอกจะสอนให้ฟรี ปู่เธอจึงอนุญาตให้มาเรียนด้วยคนที่ 2 ชื่อหลี่อวิ๋นเทียน อายุ 14-15 ปีแล้ว เขาเป็นคุณชายสกุลขุนนางปลายแถว เนื่องด้วยเป็นเด็กมั่นใจตัวเองสูงพ่อแม่สอนไม่ฟัง จึงเอามาฝากให้หลินเซียนช่วยอบรมให้คนที่ 3 ชื่อหวังต้า เป็นลูกชายคนโตของร้านช่างตีเหล็กในตลาดคนที่ 4 ชื่อหานซิ่ว เป็นลูกชาวนายากจนจากชนบท แต่เป็นคนเรียบร้อยถ่อมตน หลินเซียนให้เขาพักที่สถาบัน โดยให้ทำงานทำความสะอาดเรือนแลกกับการให้ที่พักคนที่ 5 ชื่อเซียวฉิง เธอเป็นลูกสาวจอมยุทธหญิง ชำนาญวิชาดาบ แต่เมื่อตรวจพบว่ามีรากวิญญาณเซียน แม่เธอจึงพาเข้าเมืองหลวง และได้ยินชื่อเสียงหล

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   อาจารย์หลิน

    ....แคว้นจูตั้งอยู่ทางเหนือสุดของทวีป ถูกขนาบด้วยเทือกเขาหิมะที่สูงเสียดฟ้าปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี และในหุบเขามีทะเลสาบน้ำแข็งนิรันดร์ที่เล่ากันว่าซ่อนสมบัติเซียนและกระบี่โบราณไว้อยู่ด้วยส่วนพื้นที่ราบเป็นทุ่งน้ำแข็งและทะเลสาบที่ถูกแช่แข็งเกือบทั้งปี แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนสั้นๆจะมีทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่มให้สัตว์เลี้ยงและกวางป่าออกหากินมีลมเหนือหนาวเย็นพัดลงมาที่เมืองทั้งปี ดวงอาทิตย์ส่องแสงน้อยจึงเป็นแคว้นที่กลางวันสั้นส่วนกลางคืนยาว ทำให้ผู้คนที่นี่แข็งแกร่งและอดทนณ เมืองหลวงขอแคว้นชื่อไป๋ซวง(น้ำค้างขาว) มีกำแพงเมืองที่ถูกสร้างด้วยหินแข็งแรงและไม้สนดำ ทนทานต่อพายุหิมะผู้คนแคว้นนี้มีผิวซีดขาว แก้มแดงจากอากาศหนาว มักสวมเสื้อคลุมหนังสัตว์ซ้อนหลายชั้นอาชีพหลักคือ ล่าสัตว์, ทำหนังสัตว์, ค้าขนสัตว์, และหลอมเหล็กจากแร่ในภูเขา จึงมีตลาดแลกเปลี่ยนที่คึกคัก แม้จะเป็นแคว้นห่างไกลที่นี่ยังเป็นแคว้นที่ผู้คนมีรากวิญญาณเซียนหลายคน นั่นจึงทำให้มีสำนักเซียนมากมายในแคว้น ซึ่งการทดสอบเข้าเป็นศิษยืแต่ละสำนักก็มีทั้งการสอบมาตรฐานที่ราชสำนักกำหนด และการทดสอบเฉพาะแต่ละสำนักด้วยและด้วยทางการสนับสนุนอย่างด

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   สิบปีสุดท้ายนี้ลูกจะอยู่กับแม่ไม่ไปไหน

    A : ไง?หลินเซียน : ท่านเป็นใคร ทำไมข้าไม่เห็นหน้าท่าน? แล้วที่นี่ที่ไหน?B : สำคัญด้วยรึ?หลินเซียน : พวกท่านเป็นใคร? ข้าอยู่ที่ไหน?B : เจ้าหนู ที่นี่มันเป็นสถานที่ๆอธิบายยากอยู่นะ เจ้าอย่าสนใจเลยA : เจ้าช่วยตอบคำถามพวกเราสัก 2 ข้อได้ไหม? แล้วเราจะปล่อยเจ้าไปหลินเซียน : ท่านจะถามอะไรขอรับ?A : ข้าจะถามว่า.......B : ส่วนข้าอยากถามเจ้าว่า.....A+B : แล้ววันหลังพวกเราจะมาขอคำตอบหลินเซียนลืมตาเบิกโพลง เขามองรอบๆตัว ตอนนี้เขานอนอยู่บนเตียง มีผ้าห่ม และผ้าพันแผลพันกายนิดหน่อย"เจ้าฟื้นแล้วรึ?" ไม่ใช่ใครที่ไหน คือนางปีศาจจิ้งจอกเก้าหางนั่นเอง นางนั่งเฝ้าเขาอยู่ไม่ไปไหน แถมมีเสี่ยวหมิงแพนด้าตัวน้อยอยู่ข้าง ๆ พอมันเห็นว่าหลินเซียนฟื้นแล้วมันดีใจรีบเดินเข้าไปออดอ้อนทันที"ขอบใจเจ้ามากที่มาช่วยพวกเรา" หลินเซียนเอื้อมไปจับมือนางจิ้งจอก ทำเอานางเขินแก้มแดง"ม....ไม่มีอะไรนี่ การตอบแทนบุญคุณเป็นเรื่องธรรมดา" หางนางโผล่ออกและบิดไปมา หลินเซียนยิ้มใความเขินอายของสาวแก่อายุตั้งพันปี"อาจารย์ท่านตื่นแล้ว!" องค์ชายดีใจพูดเสียงดัง อาการบาดเจ็บเขาดีขึ้นมากเพราะน้ำวิเศษในน้ำเต้าที่หลินเซียนให้เขาดื่ม

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   ดั่งคำสัญญา....

    .....หลินเซียนใช้ม่านวารีพิทักษ์ป้องกันครบไปแล้ว 3 ครั้ง ดังนั้นลูกไฟสีน้ำเงินและสีเขียวที่ลอยพุ่งมานี้เขาไม่สามารถใช้วิธีเดิมป้องกันได้อีกแล้วหลินเซียนรีบชูแหวนธาราสวรรค์ขึ้นมา เขาเสี่ยงดวงดูว่าแหวนธาราสวรรค์จะสามารถดูดพลังไฟประหลาดทั้งสองนี้เก็บไว้ได้ไหม ปรากฏว่าแหวนธาราสวรรค์ดูไฟทั้งสองสีเข้าไปได้ แต่หากถอดจิตเข้าไปดูด้านในไฟนั้นลุกท่วมไปทั่วทำเอาปราณน้ำที่สะสมไว้ระเหยปั่นป่วนไปหมดหลินเซียนคิดว่าคงไม่อาจเก็บไว้ประหลาดแบบนี้ได้อีกแล้ว ฝ่ายเซียนหยวนอิงประหลาดใจไม่น้อย ไม่คิดว่าหลินเซียนจะมีแหวนธาราสวรรค์ของหายาก เขารู้สึกเจ็บแผลที่ถูกดาบวารีแทงเมื่อสักครู่"โทษที่เจ้าทำให้ข้าเจ็บ งั้นข้าจะเผาเจ้าด้วยสุดยอดไฟของข้า!"เขาปล่อยพลังออกมามากมายจะเศษซากอาคารถล่ม แผ่นดินสั่นไหว เขาใช้สิงมือกุมกันจนมีลูกไฟสีทองแดงโผล่ขึ้นมามันไม่ใ่ชไฟธรรมดา เพียงคนทั่วไปมองก็ตาบอดทันที พวกเซียนระดับต่ำก็มองแล้วจะรู้สึกเหมือนถูกโดนแผดเผาทั้งร่างส่วนหลินเซียนมั้นมองได้แค่แผบเดียวแล้วต้องรีบเอามือมาปิดบัง "นี่คือไฟจากแกนพิภพ!"เซียนชุดแดงหยิบสมบัติเซียนออกมาขว้างไปที่หลินเซียนกลายเป็นกรงแสงที่ไม่มีทางหนีห

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   ไฟ...ปะทะ...น้ำ

    ....กลางสมรภูมิ แผ่นฟ้าสีเลือดฉาบด้วยแสงอัคคีแดงฉาน บัดนี้กองทัพขององค์ชายจ้าวหานเฟิง ที่มีทั้งทหารกล้าและเหล่าเซียนแคว้นจ้าวกำลังถลำลึกสู่ขอบเหวแห่งความพ่ายแพ้เสียงโครมครามของอาวุธชนกับอาวุธปะปนกับเสียงโหยหวน สายลมพัดกลิ่นคาวเลือดโชยอวลจนแทบหายใจไม่ออก ร่างทหารผู้กล้าและเซียนถูกเปลวเพลิงนรกกลืนกิน ร่างพวกเขากรีดร้องเพียงครู่ก่อนจะแหลกสลายกลายเป็นเถ้าธุลีเหนือสนามรบ บนฟากฟ้าสีแดงฉานปรากฏเงาร่าง เซียนหยวนอิงฝ่ายศัตรูเพียงหนึ่งเดียว ชายชราผมขาวหนวดขาวในชุดสีแดง นัยน์ตาเขาราวกับแผดเผาด้วยเพลิงโลกันต์ ปราณของเขาเป็น "ไฟนรก" ที่ไม่ดับสิ้นแม้เมื่อดวงวิญญาณหลุดร่าง เปลวไฟนี้กัดกร่อนทั้งเนื้อหนังและวิญญาณ ผู้ที่ถูกเผาแม้ตายแล้วก็ยังได้ยินเสียงกรีดร้องของตนเองก้องสะท้อนอยู่ในห้วงว่างเหล่าเซียนแคว้นจ้าวพยายามค้ำยันค่ายกลถึงที่สุด เพื่อป้องกันไฟนรก แต่เส้นลายยันต์บนฟ้าและพื้นดินแตกร้าวอย่างน่าสยดสยอง ราวกับมังกรที่ใกล้ขาดลมหายใจ เซียนหนุ่มสาวและชายชรามากมายผู้รับหน้าที่เป็นเสาหลักของค่ายกล เลือดไหลจากเจ็ดทวาร ร่างสั่นสะท้านจนแทบจะยืนไม่อยู่ หากค่ายกลแตกพังเมื่อใด กองทัพแคว้นจ้าวทั้งหมดจะถูกไฟ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status