LOGINช่วงต้นยุค80นี้เปรียบเสมือนยุคทองของการเริ่มต้นสร้างฐานะใครรู้ก่อนได้ก่อน คุณหมอหยางชิงโม่ที่เตรียมตัวมาอย่างดีที่จะใช้ชีวิตให้สุขสบายในปี80นี้แต่เธอกลับต้องเจอเรื่องเซอร์ไพส์ใหญ่หลวงซะแล้วสิ.
View Moreบทที่ 1 ความฝันก่อนย้อนเวลา รีไรท์
หยางชิงโม่ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความอ่อนเพลียเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้าสวยหวานของเธอ ฝันร้ายยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ
ย้อนไปเมื่อเดือนก่อน ฝันประหลาดเริ่มคุกคามเธอหญิงสาวในฝันมีชื่อและหน้าตาคล้ายเธอมากถึง 70% นามว่าหยางชิงโม่ อายุเพียง 17 ปี ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในยุค 70 ของประเทศจีน แต่งงานกับเฉินหวังตง นายทหารหนุ่มรูปหล่อจากครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกถึง 10 คน
เรื่องราวในฝันของเธอที่หยางชิงโม่จำได้แม่นนั้นคือ
เฉินหวังตงเป็นลูกชายคนที่สองของครอบครัวตระกูลเฉินซึ่งเป็นชาวนายากจนอยู่ที่หมู่บ้านหลี่ฮวา ซึ่งครอบครัวนี้มีสมาชิกมากถึง 10 คนด้วยกัน เพราะความลำบากยากจนทำให้เฉินหวัตงสมัครไปเป็นทหารจะได้มีเงินส่งมาจุนเจือครอบครัวของพวกเขา ส่วนหยางชิงโม่นั้นเป็นสาวน้อยนักเรียนมัธยมปลายผู้มีความรู้ ได้ที่ถูกส่งมาจากเซี่ยงไฮ้ ให้มาทำงานใช้แรงงานเป็นยุวชน เพราะต้องใช้แรงงานอย่างหนัก และจำเป็นต้องประหยัดอาหาร เพราะเธอได้อาหารมาน้อย เธอจึงทานอาหารให้น้อยลง ด้วยความหิวโหยและร่างกายเธอเหนื่อยล้าจากงานหนักจนทรุดโทรม วันหนึ่งเมื่อเธอเดินใกล้บริเวณสระน้ำประจำหมู่บ้านจึงเป็นลมตกลงไปในน้ำ เฉินหวังตงนายทหารหนุ่มกลับมาเยี่ยมบ้านหลังจากเป็นทหาร 1 ปี เขาพบเห็นเหตุการณ์ที่เธอหมดสติตกน้ำพอดี จึงได้เข้าไปช่วยชีวิตไว้ และเพราะเหตุการณ์นั้นที่ทั้งคู่ได้แตะเนื้อต้องตัวกันทำให้ทั้งคู่ต้องแต่งงานกัน
ทางครอบครัวเฉินเองก็ไม่ได้รังเกียจหยางชิงโม่ แต่ด้วยจำนวนสมาชิกที่มาก พ่อเฉินจึงตัดสินใจให้แยกบ้าน โดยเฉินหวังตงและหยางชิงโม่ได้รับเงิน 80 หยวนเพื่อสร้างบ้านหลังเล็กใกล้เชิงเขา แต่งงานกันได้เพียง 1 สัปดาห์ เฉินหวังตงก็ต้องกลับไปประจำการที่ค่ายทหารสองเดือนต่อมาหยางชิงโม่ก็รู้ตัวว่าตั้งครรภ์
ทำไมฝันนี้ถึงตามเธอซ้ำๆ มันเกี่ยวข้องกับเธออย่างไรกันนะ? ในฝันหยางชิงโม่เห็นผู้หญิงคนนั้นต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ชีวิตของผู้คนในยุค 70 นั้นยากลำบากมาก พวกเขาขาดแคลนทั้งอาหาร ยารักษาโรค และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ หญิงสาวคนนั้นเองก็ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเลี้ยงดูตัวเองและลูกในท้อง หมอหยางชิงโม่รู้สึกสงสารหญิงสาวในความฝันมาก เธออยากช่วยเหลือเธอคนนั้นเหลือเกิน อยากให้เธอและลูกๆ ของเธอมีชีวิตที่ดีกว่านี้ แต่เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร…เพราะจะว่าไปนั้นก็เป็นเพียงความฝันเท่านั้น..
หยางชิงโม่เอื้อมมือไปแตะแหวนหยกสีเขียวที่วางอยู่ข้างเตียง รู้สึกถึงความเย็นที่แผ่ซ่านออกมาจากมัน แหวนวงนี้ไม่ใช่ของเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน เมื่อเดือนที่แล้วอยู่ๆ มันปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเจ้าเสี่ยวเฮยแมวดำขนฟูที่ในที่สุดเธอก็เลี้ยงมันเอาไว้ เหตุการณ์นั้นยังคงตราตรึงในใจเธอ แหวนหยกที่ลึกลับที่มาพร้อมกับเจ้าแมวดำตัวอวบ เธอยกมันขึ้นมาและจ้องมันครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปยังท้องฟ้ายามเช้าที่สว่างไสว แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้อง
หยางชิงโม่คิดทวนถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันเป็นเพียงความฝันจริงๆ หรือว่ามีบางสิ่งที่ลึกลับมากกว่านั้นกันนะ? ขณะที่จิตใจของเธอกำลังจะลอยกลับไปที่ความฝันครั้งล่าสุด เสียงร้องของเจ้าเสี่ยวเฮยก็ดังขึ้นขัดจังหวะความคิดเธอ
เจ้าเสี่ยวเฮยกระโจนขึ้นมาบนเตียง ขนมันเงาวับ สีดำสนิทดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องมองเธออย่างไร้เดียงสา เธอก้มลงลูบหัวมันเบาๆและเอ่ยว่า
"แกรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน?" หยางชิงโม่ถามขึ้นเบาๆ ดวงตาสงสัยจับจ้องไปที่แมวดำอวบอ้วนของเธอ
เจ้าเสี่ยวเฮยเพียงร้องเหมียวตอบรับ และไม่มีคำตอบอื่นใด หยางชิงโม่ถอนหายใจ ความสงสัยในใจเริ่มก่อตัว
"ฉันไม่รู้เลยว่าจะเชื่ออะไรดี" เธอพึมพำกับตัวเอง ราวกับกำลังถามหาคำตอบจากใครบางคน
ทันใดนั้นภาพจากฝันก็ค่อยๆ ไหลเวียนกลับมาอีกครั้ง หญิงสาวในยุค 70 กำลังสวมแหวนหยกสีเขียวนี้บนนิ้วของเธอ ภาพชัดเจนมากจนหยางชิงโม่แทบลืมหายใจ
“นี่มันอะไรกัน?”
เธอพึมพำอย่างสับสนหัวใจเต้นระรัว ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวว่าแหวนวงนี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับความฝันของเธอ หรือว่า...แหวนนี้คือกุญแจสำคัญที่จะไขปริศนาทั้งหมด?
ด้วยความสับสนและอยากรู้คำตอบ หยางชิงโม่ตัดสินใจสวมแหวนหยกวงนั้นบนนิ้วของเธอ ทันทีที่แหวนสัมผัสผิว เธอรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่แผ่ซ่านเข้าสู่ร่างกายมันอบอุ่นและเต็มไปด้วยความลึกลับที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน
"นี่มันอะไรกัน?" หยางชิงโม่ตกใจแต่เธอก็ยังพยายามหลับตาลง จดจ่อกับความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยนั้น และทันใดนั้น ภาพในฝันก็กลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป มันไม่ใช่เพียงภาพที่เธอเฝ้าดู เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นตัวของเธอเองอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ
เธอเห็นตัวเองในชุดของหญิงสาวในยุค 70 กำลังทำงานหนักในทุ่งนา กินข้าวเพียงน้อยนิด อดมื้อกินมื้อเพื่อความอยู่รอด เธอเห็นตัวเองตั้งครรภ์และคลอดลูกแฝดสาม เธอเห็นความทุกข์ยากในการเลี้ยงลูกๆ เหล่านั้นท่ามกลางความขาดแคลนและยากไร้ ท้ายที่สุดเธอเห็นตัวเองล้มลงด้วยความเหนื่อยล้าและเสียชีวิต
หยางชิงโม่ลืมตาขึ้นน้ำตาไหลอาบแก้ม แต่เธอรู้ดีว่าน้ำตานี้ไม่ใช่ของเธอ...มันเป็นน้ำตาของหญิงสาวในฝันคนนั้น
“ทำไมฉันถึงเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงคนนั้น หรือว่า...แหวนวงนี้เป็นของเธอ?”
หยางชิงโม่ครุ่นคิด คำถามมากมายถาโถมเข้ามาในจิตใจเธอสับสนไปหมด ความจริงกับฝันเริ่มพร่ามัว
“หรือว่า...ฉันคือหยางชิงโม่คนนั้นในยุค 70?”
หยางชิงโม่กุมแหวนหยกในมือไว้แน่น ความรู้สึกในใจตอนนี้ปั่นป่วนจนเธอไม่อาจแยกออกได้ว่าอะไรคือความจริง...และอะไรคือความฝัน
*****
บทส่งท้าย ส่งต่อแหวนมิติ2 วันต่อมาคู่สามีภรรยาหลังจากที่พากันไปจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจึงขับรถไปที่บริเวณที่เป็นเรือนสี่ประสานที่พวกเขาเคยอยู่ตั้งแต่ในยุค 70 เมื่อขับรถผ่านและจอดมอง พวกเขาเห็นเรือนสี่ประสานที่ยังคงงดงามและมีมนต์เสน่ห์เช่นเดิม นั้นสามารถบอกได้ว่าลูกๆ หลานๆ ของพวกเขานั้นดูแลเรือนหลังนี้เอาไว้อย่างดี พวกเขาจอดรถและเฝ้ามองอยู่ที่ประตูตั้งแต่เช้าไม่นานก็เห็นรถโรลส-รอยซ์สีขาวคันใหญ่ค่อยๆ ขับออกมาขณะที่รถคันนั้นกำลังจะขับผ่านพวกเขาไป รถโรลส-รอยซ์คันนั้นก็หยุดกะทันหันเพียงไม่นานประตูก็เปิดออก คนที่ออกมาจากประตูรถเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่แต่งกายเหมือนชุดอนุบาลเรียบร้อย เธอเปิดประตูออกมาแล้วรีบวิ่งกลับไปที่ประตูบ้านทันที ประตูเรือนสี่ประสานยังไม่ทันได้ปิดก็มีร่างสูงของชายหนุ่มคนหนึ่งรีบวิ่งมาในมือของเขานั้นมีกล่องเล็กอยู่ 2 สอง ดูเหมือนว่าจะเป็นกล่องข้าว เขายื่นกล่องข้าวใบเล็กนั้นให้กับเจ้าเด็กน้อยจากนั้นก็เดินจูงเธอมาและเปิดประตูรถให้เธอเมื่อเสร็จก็ยกมือขึ้นบ๊ายบาย 2-3 ครั้งก่อนจะปิดประตู และยืนมองจนกระทั่งรถคนนั้นหายไปจากสายตา เขากำลังจะกลับเข้าไปที่บ้านแต่เหมือนว่าเขา
บทที่ 103 จากฮีโร่สู้ผู้ร้ายเช้าวันต่อต่อมาเกิดข่าวใหญ่ที่สะเทือนเมืองหลวงปักกิ่งขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อหยวนเปียวน้องของภรรยารองของท่านผู้นำ จากที่เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาคือฮีโร่ที่เข้าช่วยเหลือท่านผู้นำจนตัวเองได้รับบาดเจ็บอาการเป็นตายเท่ากัน มาวันนี้อาการของเขากลับมาดีขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาเลย และที่ทำให้ตกใจมากกว่าเดิมนั้นก็คือ เขาขอให้ทางหมอและพยาบาลช่วยอัดคลิปให้ ตอนแรกพวกหมอและพยาบาลนึกว่าเขาจะอัดคลิปเพื่อบอกให้คนที่เป็นห่วงเขาไม่ต้องห่วงเขาสบายดี แต่ที่ไหนได้คลิปที่เขาอัดกลับกลายเป็นการสารภาพความผิดทั้งหมดที่เขาเคยทำมา รวมทั้งการวางแผนกับพี่สาวของตัวเองซึ่งก็คือภรรยารองของท่านผู้นำเพื่อที่จะสังหารเขานั้นเอง และยังได้บอกอีกว่าพวกเขาคือ ผู้ร้ายข้ามชาติที่แฝงตัวอยู่ในประเทศนานแล้ว และรอเพียงเวลาที่จะลงมือสังหารท่านผู้นำนั้นเองเมื่อคลิปการสารภาพของเขากระจายออกไป ทำให้เกิดคลื่นใหญ่ขึ้นในสังคมทันที เหล่าผู้รักษาความปลอดภัยต่างก็รีบเข้าเพื่ออารักขาท่านผู้นำและพวกเขาได้รวบตัวของภรรยารองของท่านผู้นำเอาไว้เพื่อสอบสวนต่อไป ถึงแม้ว่าเธอจะปฎิเสธทุกข้อหาที่น้องชายของเธอพูดก็ตาม ตอ
บทที่ 102ความทรงจำที่หวนคืนเมื่อหยางชิงโม่ออกจากห้องของเฉินหวังตงได้ เธอก็รีบยกหูโทรหาน้องสาวจางหมี่ของเธอทันที“พี่หมอให้หยดน้ำทิพย์ไปเขากินหรือคะ” จางหมี่เอ่ยถามมาตามสาย“ใช่แล้วน้องหมี่ พี่ก็เลยจะถามน้องว่าน้ำทิพย์จะมีผลต่อความทรงจำของเขาหรือไม่นะสิ”หยางชิงโม่เอ่ยออกมาเธอออกจะเป็นกังวลเล็กน้อย“มีผลค่ะ นั้นคือหากว่าเขาสูญเสียความทรงจำไปจริงๆ เขาก็จะกลับมาจำได้อย่างแน่นอน แต่หากว่าเขาไม่มีความทรงจำนั้นอยู่แล้ว น้ำทิพย์ก็เพียงจะทำให้เขาเฉลียวฉลาดมากขึ้นเท่านั้นเอง”จางหมี่บอกคุณสมบัติของน้ำทิพย์สวรรค์ของเธอให้กับพี่หมอหยางชิงโม่ไป ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องใช้น้ำทิพย์เพื่อกระตุ้นความทรงจำเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะอีกไม่นานเขาก็จะจำเธอได้แล้ว แต่ว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน พวกเขาจะได้ไม่เสียเวลาดีๆ ในชีวิตไป จางหมี่คิด“เช่นนั้นแสดงว่าหากเขาเป็นเฉินหวังตงของพี่จริงๆ เขาก็จะจำพี่ได้แล้วใช่หรือไม่?"หยางชิงโม่ยังต้องการคำตอบเพื่อความแน่ใจ“ใช่แล้วค่ะ เขาจะจำพี่ได้แน่นอน ที่นี่ก็ขึ้นอยู่กับพี่หมอแล้วว่าจะตัดสินใจอย่างไร แต่ฉันก็อยากจะบอกพี่หมอเหมือนกันว่า คู่ชีวิตที่ดีนั้นหาไม่ได้ง่ายน
บทที่ 101 เป็นแฟนกันเถอะนะครับหยางชิงโม่ที่อยู่ในชุดกาวน์ของแพทย์ยืนมองดูร่างของคนไข้ที่ตอนนี้มีสายระโยงระยางเพื่อพยุงชีวิตเขาเต็มไปหมด หมอที่มาตรวจดูอาการของเขาต่างก็ตกอยู่ในอาการงวยงง กันมาก เพราะว่าแผลของเขาที่รับนั้นมันเล็กมาก ไม่ถึง10 เซนติเมตรด้วยซ้ำแต่ว่าอาการของเขานั้นมีหลายครั้งที่ถึงกลับมีอาการหัวใจล้มเหลว พวกเขาต่างพยายามเต็มที่ที่จะช่วยชีวิตของคนไข้รายสำคัญคนนี้ของท่านผู้นำเอาไว้ เพราะแน่นอนว่าพวกเขาทุกคนต่างก็ได้รับข่าวสารเรื่องการที่เขาเป็นผู้ช่วยเหลือท่านผู้นำเอาไว้จากผู้ร้ายหยางชิงโม่นั้นก่อนที่จะมาที่นี่เธอได้โทรหาน้องสาวจางหมี่แล้ว โดยถามว่ายาที่เธอให้มานั้นจะเกิดอาการอย่างไรกับคนที่โดนซึ่งจางหมี่ก็ได้บอกรายละเอียดมาจนครบและเด็กสาวคนนั้นยังบอกอีกว่าหากจะรักษาให้หายเพียงให้หยดน้ำทิพย์เข้าปากเพียง1หยดเท่านั้นเอง และหากว่าอยากจะให้คนร้ายสารภาพและซัดทอดไปถึงผู้บงการจำเป็นต้องมียาอีกตัวที่จะทำให้ประสาทของคนไข้หลอนและสารภาพออกมาเอง โดยการที่เขาจะสารภาพนั้นอาจจะใช้เวลา 1 หรือ 2 วันหลังจากที่เขาอาการดีขึ้น โดยที่พวกเธอไม่ต้องทำอะไร และแน่นอนว่าตอนนี้ยาเม็ดนั้นอยู่ในมือของเ
Ratings
reviewsMore