ตอนที่ 6 ภาพติดตา
เสียงประตูรถตู้ปิดดังสนั่น หลังจากที่การันต์ก้าวออกจากเพนต์เฮาส์เขาได้ทิ้งร่างเล็ก ๆ ของผู้หญิงที่เขาเพิ่งนำกลับมาไว้ที่นั่น
“คืนนี้ไม่พักที่นี่เหรอเฮีย”
“ไม่” เสียงทุ้มตอบเรียบเย็นก่อนจะเอนศีรษะนอนหลับตา
“ดูจากสภาพเธอแล้วให้พักดีกว่า.. พรุ่งนี้ค่อยมา” ราเชนทร์พยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไรต่อ แต่สายตานั้นก็ยังเผลอเหลือบมองขึ้นไปยังเพนต์เฮาส์ที่การันต์เพิ่งเดินลงมา ชายหนุ่มเหลือบมองลูกน้องคนสนิทของตัวเอง แล้วหลับตาลงพูดขึ้นกับเขาอีกครั้ง
“สนใจผู้หญิงคนนั้นเหรอ” ลูกน้องหนุ่มแทบจะหันกลับมามองหน้าของเจ้านายแทบจะทันที ถึงแม้เขาจะยังหลับตาอยู่ในท่าสบาย ๆ แต่สำหรับราเชนทร์ที่ทำงานกันมานานกลับรู้ดีว่าคำพูดนี้หมายถึงอะไร
“ผมเหรอ”
“กูแบ่งให้เล่นได้นะ อยากลองไหม” น้ำเสียงที่เหมือนไม่จริงจังนั้น แต่กลับแฝงไปด้วยความรู้สึกหลายอย่าง และเพราะคำพูดนี้จึงทำให้เขารู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“คุณการันต์ล้อผมเล่นแล้ว..” เขายิ้มเจื่อน ๆ ก่อนจะพูดต่อ
“ผมแค่สงสารก็ใครใช้ให้เธอตัวเล็กขนาดนั้น คุณก็รู้ว่าผมใจดีกับผู้หญิงทุกคน ไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านี้เลยครับ” การันต์ลืมตาขึ้นมาหรี่มองลูกน้องเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าแล้วหลับตาลงอีกรอบ
“เข้าใจก็ดี” คนเป็นเจ้านายหลับตาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่ทุกคนที่ได้ฟังกลับรู้ว่ามันคือน้ำเสียงกดดัน
“รู้ใช่ไหมว่ากูมันหวงของแค่ไหน.. และผู้หญิงคนนั้นก็คือสิ่งของของกู” สิ้นสุดคำพูดอันทรงพลังของเขาถึงกับทำให้ราเชนทร์ลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ไม่ใช่ว่าเขา ไม่เคยเห็นเจ้านายแสดงอาการแบบนี้มาก่อน แต่สิ่งที่ทำให้เขากลืนน้ำลายก็คือ ตั้งแต่ร่วมงานกันมา 10 กว่าปี เจ้านายไม่เคยพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงเช่นนี้มาก่อนต่างหาก
“ครับเข้าใจครับ” และบทสนทนาจบลงเพียง
แค่นั้น ราเชนทร์ตัดสินใจรีบขับรถออกไปเงียบ ๆ
ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมง รถอัลพาร์ดก็แล่นมาจอดที่หน้าคฤหาสน์หลังโต และเมื่อรถจอดสนิทก็มีหญิงสาวใบหน้าหวานในชุดเสื้อผ้าน้อยชิ้นรีบเดินมาต้อนรับ
การันต์ก้าวลงจากรถด้วยท่วงท่าที่บ่งบอกถึงอำนาจอันล้นเหลือ ทุกฝีก้าวของเขาทำให้คนในบ้านหยุดนิ่ง หญิงสาวในชุดว่ายน้ำหลากสีที่เดินอยู่ในคฤหาสน์หยุดกึกก่อนจะส่งยิ้มหวานให้เขา
“สวัสดีค่ะเจ้านาย” สองเท้าของการันต์เดินเข้าไปด้านในด้วยความรวดเร็ว เขาไม่แม้แต่จะมองพวกเธอด้วยซ้ำ ก่อนจะรีบเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของคฤหาสน์ที่ถูกออกแบบให้เหมือนคลับส่วนตัวและห้องทำงาน
การันต์ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่หลังโต๊ะทำงานอย่างเหนื่อยล้า ร่างกายปวดเมื่อยแต่จิตใจกลับไม่นิ่งสักนิด ภาพใบหน้าใสซื่อของเพลงรักยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ไม่ว่าจะพยายามเพิกเฉยแค่ไหนมันก็ไม่จางหายไปเลย
ก๊อก! ก๊อก!
“เจ้านายคะ เด็กที่ส่งไปไต้หวันล็อตนี้ จะตรวจสอบไหมคะ” เชอร์รี่หญิงสาววัย 30 ปี รูปร่างดี ใบหน้าสวย เรื่องบนเตียงร้อนแรงเพราะเธอคือตัวท็อปของที่นี่มาก่อน เธอเดินเข้ามาพร้อมไอแพดที่แสดงข้อมูลหญิงสาวล็อตนี้
เชอร์รี่คือแม่เล้าของที่นี่ เป็นคนที่คัดกรองผู้หญิงแต่ละคนก่อนจะถูกส่งออกไปต่างประเทศ เรื่องการทำงานเขาเชื่อใจเธอเป็นที่สุด
“ไม่.. จัดการเลย” การันต์ตอบทันทีโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง
“ได้ค่ะ” เชอร์รี่ตอบเบา ๆ ก่อนจะเดินออกไปแทบจะทันที
ไม่นานนักราเชนทร์ก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมข้อมูลใหม่
“เสี่ยโก้ต้องการซื้อเบอร์หนึ่งของเรา เฮียคิดเห็นว่ายังไงครับ” การันต์เหลือบตามองลูกน้องก่อนจะเอนตัวกอดอกแล้วถามขึ้นมาเรียบ ๆ
“ตอนนี้เบอร์หนึ่งคือใคร” ราเชนทร์ยื่นไอแพดให้เขา บนหน้าจอปรากฏภาพหญิงสาวรูปร่างดี ผิวขาว หน้าตาสะสวยระดับนางแบบ ลีลาบนเตียงจัดได้ว่าระดับท็อปของจริง เพราะเสียงจากผู้ใช้บริการอย่างคนมีสีระดับแนวหน้าของประเทศต่างยกนิ้วให้ และเธอคนนี้สามารถทำรายได้ให้คฤหาสน์แห่งนี้หลายสิบล้านในเวลาเพียงไม่ถึงเดือน การันต์มองแค่แวบเดียวก่อนพูดขึ้นเรียบ ๆ
“ยื่นข้อเสนอไป ถ้ามันอยากได้จริง ค่าตัวเธอไม่ต่ำกว่าสิบหลัก”
“ครับ” ราเชนทร์พยักหน้าก่อนเดินออกไปทันทีที่ได้รับคำสั่ง
หลังจากทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบไอแพดส่วนตัวขึ้นมาก่อนจะเปิดแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดของเพนต์เฮาส์ หน้าจอขนาดเล็กทั้งหกแสดงภาพจากทุกมุมของห้องที่เขาให้เพลงรักอยู่
เขากว่าสายตามองหาคนที่เพิ่งเข้าไปอยู่ได้ไม่กี่ชั่วโมง แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วคือผู้หญิงคนนั้น ไม่ยอมเข้าไปนอนให้ห้องดี ๆ เธอกลับนอนหลับอยู่บนโซฟากลางห้อง โดยใช้เพียงผ้าห่มผืนเล็กคลุมตัวไว้หลวม ๆ
“โง่หรือเปล่า ห้องก็มีทำไมไม่นอน” เขาบ่นออกมาเบา ๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปยกหูโทรศัพท์ เตรียมที่จะโทรไปยังเพนต์เฮ้าส์เพื่อบอกให้เธอเข้าไปนอนดี ๆ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าหากเขาโทรไปตอนนี้ ผู้หญิงคนนั้นก็อาจจะรู้ว่าเขาติดกล้องวงจรปิดไว้ การันต์จึงเลือกที่จะวางหูโทรศัพท์ลงแล้วปิดไอแพดนิ่ง ๆ
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนพร้อมยืดตัวเต็มความสูง ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานแล้วเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสาม ซึ่งชั้นบนนั้นเป็นห้องนอนส่วนตัวที่ตกแต่งอย่างหรูหรา เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลที่มีคนสามารถขึ้นมาได้แค่ไม่กี่คนเท่านั้น
หลังจากเดินเข้ามาด้านในแล้ว การันต์ได้โยนตัวเองลงบนเตียงขนาดคิงไซต์ทันที
เขาพยายามสลัดภาพของหญิงสาวที่ร่างกายเปลือยเปล่าน่าฟัดออก แต่ภาพของเพลงรักกลับยังคงไม่จางหาย โดยเฉพาะตอนที่เธอนั่งอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล แววตาที่ดูใสซื่อ พวงแก้มที่แดงจนเหมือนจะระเบิด และนิ้วเรียวที่กำลังแตะต้องส่วนสงวนของตัวเอง ยิ่งคิดถึงภาพของเธอก็ยิ่งทำให้ร่างกายของเขามีความต้องการที่สูงขึ้น
“เวรเอ๊ย!!!” เขาสบถออกมาดัง ๆ อย่างไม่สบอารมณ์ และดูเหมือนว่าลูกชายของเขาก็เหมือนจะมีชีวิตเป็นของตัวเอง ทำให้การันต์ต้องปลดเข็มขัดแล้วสอดมือเข้าไปใต้กางเกง พยายามใช้มือปลดปล่อยความคั่งค้างในร่างกาย ทว่ากลับยิ่งทำให้รู้สึกโหยหามากขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
และดูเหมือนความรู้สึกอึดอัดนั้นจะไม่มีทางหายไปได้ ในที่สุดการันต์ก็ลุกพรวดขึ้นจากเตียงนุ่มแล้วรีบเดินลงบันไดไปยังชั้นล่าง
เชอร์รี่ที่กำลังส่งเด็กไปให้ลูกค้าวีไอพีที่ชั้นสอง เห็นผู้เป็นเจ้านายเดินลงมาด้วยท่าทางหงุดหงิด ไม่เพียงเท่านั้นยังสังเกตว่าที่เป้ากางเกงของเขามีปฏิกิริยาแบบที่รู้ ๆ กัน
“นายน้อยต้องการคนไหนคะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ก่อนจะยื่นไอแพดประจำตัวให้เขาด้วยท่าทางประจบประแจง ภาพหญิงสาวแต่งหน้าจัดในชุดยั่วเย้าปรากฏเรียงรายอยู่บนหน้าจอมีให้เลือกมากกว่ายี่สิบชีวิต ทุกคนล้วนผ่านการคัดสรรมาอย่างดี
การันต์ไล่นิ้วเลื่อนดูภาพไปเรื่อย ๆ แต่กลับไม่รู้สึกสนใจใครเลยแม้แต่คนเดียว เขาเลื่อนดูซ้ำไปซ้ำมาอย่างเบื่อหน่าย และในเสี้ยววินาทีนั้น ภาพของผู้หญิงคนนั้นบนเตียงผู้ป่วยก็แวบขึ้นมา เธอที่นั่งก้มหน้าก้มตาพร้อมทั้งใช้นิ้วของตัวเองสัมผัสร่างกายด้วยใบหน้าแดงซ่าน ท่าทางของเธอนั้นทำให้เขารู้สึกอยากจะสัมผัสมันอีกครั้ง
ชายหนุ่มปิดตาแน่นพร้อมทั้งหายใจเข้าออกแรง ๆ ก่อนจะก่อนจะโยนไอแพดกลับไปให้เชอร์รี่อย่างไม่ไยดี
“ไม่เอา” เขาตอบเธอด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ แล้วหันหลังเดินลงไปชั้นล่าง
“เฮียจะไปไหนครับ ให้ผมขับให้ไหม” ราเชนทร์ตะโกนถามทันทีหลังจากที่เขาเดินออกมาเห็นว่าเจ้านายนั้นมีท่าทีรีบร้อน แต่การันต์ทำเพียงแค่โบกมือส่งสัญญาณว่าไม่ต้องไปให้ ก่อนจะตรงดิ่งไปยังลานจอดรถส่วนตัว
รถสปอร์ตสีดำคันหรูที่มีเพียงสามคันบนโลก ถูกเขากระชากประตูออก แล้วเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัยก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
และเพราะท่าทางของเจ้านายนั้นดูผิดปกติ ทำให้ราเชนทร์รีบวิ่งตรงไปหาเชอร์รี่ที่ยืนเกาหัวอยู่ตรงบันไดชั้นสอง
“เกิดอะไรขึ้น” ชายหนุ่มเอ่ยถามทันทีเมื่อมาถึงตัวหญิงสาว มือของเธอยังคงถือไอแพดแนบอกไว้แน่น ใบหน้าของเธอดูมีอาการมึนงงไม่น้อย
“วันนี้เจ้านายแปลกมาก ฉันดูออกเลยว่าเขาต้องการผู้หญิงมาก ไอ้นั่นของเขามันแทบจะดันกางเกงทะลุมาชี้หน้าฉันอยู่แล้ว แต่พอเอารูปเด็กล็อตนี้ให้ดู” เชอร์รี่พูดไปพร้อมกับชูไอแพดอีกคนตรงหน้าดูก่อนจะพูดต่อ
“ราเชนทร์นายดูดิ! บอกเลยนะล็อตนี้มีแต่เด็ด ๆ หน้าสวย หุ่นดี นมทับหน้าประวัติก็สะอาดหมดจรด ซิง ๆ แบบที่เจ้านายชอบเลย แต่วันนี้เจ้านายกลับไม่เลือกใครสักคน! แล้วก็เดินหนีออกไปแบบนั้นแบบนี้มันหมายความว่ายังไง” ราเชนทร์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตาโตราวกับเพิ่งเข้าใจอะไรบางอย่าง
’ เพลงรัก ‘เขาเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปบอกเชอร์รี่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ฉันเข้าใจแล้ว ไม่มีอะไรแล้วเธอไปทำหน้าที่ของเธอเถอะ เสี่ยฮั่วน่าจะมาใกล้ถึงแล้วไม่ใช่เหรอ” เชอร์รี่เบะปากแสดงสีหน้าเหนื่อยใจทันทีที่พูดถึงเสี่ยฮั่ว เพราะเธอรู้ดีว่าไฮโซคนนี้มีรสนิยมทางเพศที่แปลกมนุษย์
“ไม่อยากให้เด็กใหม่ต้องไปรับแขกแบบนี้เลย เด็กมันยังไม่พร้อม” ราเชนทร์ปรายตามองเธอนิดหน่อย ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าเดิม
“อย่าทำเกินหน้าที่ มีอะไรให้ทำก็ไปทำ อย่าปล่อยให้แขกรอนาน”
ตอนที่ 46 ฉันเชื่อใจคุณไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ เพลงรักถึงถามขึ้นมาแบบนั้น แต่คำถามนี้ของเธอมันสามารถทำให้มาเฟียทาคนต่างเกรงกลัว และเขาที่ไม่เคยกลัวใครที่ชื่อการันต์ถึงได้รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ“ว่ายังไงคะคุณการันต์.. คุณมีอะไรอยากจะบอกฉันหรือเปล่า?” เขาเบือนหน้าไปอีกทางนิดหน่อย แต่กลับเป็นเพลงรักที่เอื้อมมือไปบีบคางเขาให้หันกลับมาและทันทีที่ชายหนุ่มสบสายตากับหญิงสาว ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองไหม แต่สายตาของเพลงรักนั้นไม่เหมือนเพลงรักที่เขารู้จัก โดยเฉพาะเขาไม่รู้เลยว่าคำถามที่เธอถามนั้นหมายถึงเรื่องไหน“คือฉันไม่รู้ว่าเพลงอยากรู้เรื่องอะไร.. แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าปิดบังอะไรเธอ ถึงทำให้เพลงรักของฉันถามคำถามนี้ได้” การันต์พยายามพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งเล่นกึ่งจริง เขายกมือขึ้นหยิกแก้มของเธอเล็กน้อย แต่กลับเป็นเพลงรักที่ยังคงนั่งหน้ามุ่ยบอกบุญไม่รับอยู่บนเตียง“แล้วเฮียมีอะไรที่ปิดบังฉันอยู่บ้างเหรอ” ยิ่งเมื่อเธอถามคำถามนี้ ชายหนุ่มกลับยิ่งรู้สึกลุกลี้ลุกลนอย่างบอกไม่ถูก“ฉันจะไปโกหกอะไรเธอได้..”
ตอนที่ 45 สถานที่ที่เคยเห็นหลังจากนั้นทั้งสองก็ได้พูดคุยกันอีกไม่กี่คำ และเป็นเดวิดที่ขอตัวกลับก่อน เพราะอย่างไรเพลงรักก็เป็นผู้หญิง คงจะไม่ดีหากมีใครมาเห็นว่ามีผู้ชายอยู่กับเธอในห้องนาน“วันนี้เจ้าลูกชายตัวดีก็คงไม่ได้กลับมาหรอกนะ” เขาหันมาพูดกับเธอในตอนที่หญิงสาวกำลังมองเขาราวกับกำลังชั่งใจว่าจะถามออกไปไหมอยู่เช่นกัน“แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนเหรอคะ” ชายสูงวัยหยุดฝีเท้าลงแล้วหันกลับมามองเธอเล็กน้อย“เธอเคยไปที่คฤหาสน์มืดหรือเปล่า” เพลงรักชะงักไปเล็กน้อย เธอรู้สึกเหมือนเคยได้ยินชื่อนี้มาจากที่ไหนสักแห่งแต่กลับนึกไม่ออก เมื่อเป็นเช่นนั้นเธอจึงเลือกที่จะส่ายหน้าเบา ๆ“ถ้าอย่างนั้นก็ลองไปที่นั่นดู บางทีเธออาจจะเปิดโลกอีกด้านของเขาก็ได้” คนเป็นพ่อพูดแค่นั้นก่อนจะเตรียมตัวเดินจากไปแต่เป็นหญิงสาวที่เอ่ยเรียกเขาเอาไว้อีกครั้ง“แล้ว.. มันอยู่ที่ไหนเหรอคะ” เพลงรักถามอย่างจริงจัง ก่อนจะเป็นเดวิดที่หันหลังมามองเธอนิ่ง ๆ เขามองอย่างชั่งใจก่อนจะหันไปสั่งกับมาร์ตินเสียงเข้ม
ชายหนุ่มเอนตัวพิงโซฟาด้วยท่าทางสบาย ๆ ก่อนจะกอดอกแล้วจ้องหน้าเธอนิ่ง ๆเขากวาดตามองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพิจารณา ผู้หญิงคนนี้แววตาของเธอดูมีความพิเศษกว่าผู้หญิงทั่วไป แม้ว่าร่างกายจะดูสั่นเทาเพราะความหวาดกลัว แต่ดวงตาคู่นั้นในยามที่ตัดสินใจอะไรไปแล้วกลับดูแน่วแน่จนเขารู้สึกได้ว่าเธอเองก็ผ่านอะไรมาเยอะเช่นกัน“ฉันจะถามเขาเอง.. ถ้าเขาบอกว่าไม่ต้องการฉัน ฉันจะไปโดยไม่เอาอะไรเลยสักบาท แต่ถ้าเขายืนยันว่าต้องการฉัน ต่อให้เป็นเมียน้อย หรืออีตัวอะไรก็ได้ที่เขาอยากให้เป็น หรือแม้เขาจะส่งฉันไปตาย ฉันก็จะอยู่ข้างเขาไม่ปล่อยมือเขาเด็ดขาด!” สิ้นสุดคำพูดที่หนักแน่นของเพลงรัก เดวิดได้เด้งตัวขึ้นมานั่งตรงก่อนจะตบโต๊ะเสียงดังปัง! ทำให้บอดี้การ์ดสองคนนั้นก้าวเข้ามาทันทีแต่ชายคนนั้นกลับยกมือห้ามเอาไว้ก่อนจะจ้องหน้าเพลงรักด้วยท่าทางโกรธเกรี้ยว และเหมือนว่าครั้งนี้เพลงรักเองก็ไม่คิดจะยอมแพ้ เธอเองก็จ้องหน้าเขาเอาไว้ในชนิดที่ไม่ละสายตาเช่นกัน ทั้งสองคนจ้องกันอยู่แบบนั้นหลายนาทีโดยไม่มีใครยอมใคร ก่อนจะเป็นเดวิดที่จู่ ๆ ก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่นจนเธอต้องขมวดคิ้ว
ตอนที่ 44 ฝึกหงส์ให้กางปีกหลังจากที่ราเชนทร์กลับไปจัดการงานที่โกดังอะไรสักอย่างที่เขาว่า ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะกลับมาเงียบเหงาอีกครั้งเหมือนที่ผ่านมาตลอดเกือบหนึ่งปีเพลงรักยังคงนั่งเอนกายอยู่บนโซฟาหรูตัวยาวที่อยู่กลางห้องโถง ร่างบางขยับบิดตัวไปมาอย่างคนเบื่อหน่าย เธอกดรีโมตเปลี่ยนช่องทีวีแทบจะทุกห้าวินาทีแต่กลับไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิดมือขยับเหมือนอัตโนมัติแต่ใจล่องลอยไปไหนต่อไหน พอภาพข่าวเศรษฐกิจขึ้น เธอก็เปลี่ยน พอเจอละครน้ำเน่าเธอก็ถอนใจ“นี่มันไม่มีอะไรที่ทำให้ใจมันดีขึ้นบ้างเลยหรือยังไงนะ!” สุดท้ายเธอก็ลุกพรวดขึ้น ก่อนจะมองออกไปที่ประตู เพลงรักจ้องที่หน้าประตูเพนต์เฮาส์อยู่นานก่อนจะพึมพำออกมากับตัวเองเบา ๆ“ออกไปแค่ตรงนั้น.. คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง” เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องไปหยิบกระเป๋าจุดหมายปลายทางของเธอคือร้านดอกไม้ที่ไม่ไกลจากเพนต์เฮาส์ ที่ตรงนั้นเป็นร้านเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงหัวมุมถนน เธอจำได้เป็นอย่างดีว่าร้านนี้มีดอกไม้สวยๆ เข้าใหม่อยู่เสมอ แต่เพียงแวบเดียวเธอก็หยุดชะง
ตอนที่ 43 อริยะรัตนทันทีที่รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวเข้าสู่รั้วคฤหาสน์ขนาดมหึมา ราวกับทุกอย่างรอบตัวเพลงรักหยุดนิ่งอยู่หลายนาทีหญิงสาวนั่งนิ่งตัวแข็งราวหุ่นไม้ หัวใจเต้นแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นบ้านใหญ่โตมโหฬารเพียงนี้ แต่บรรยากาศกลับดูช่างต่างออกไปประตูไม้บานสูงถูกเปิดออกโดยสาวใช้ในชุดยูนิฟอร์มสะอาดเรียบ หญิงสาวจำนวนมากในสวนและเฉลียงหน้าบ้านต่างหยุดมือจากงาน แล้วหันมามองรถที่จอดนิ่งตรงทางเดินหินอ่อน บางคนขยับเข้ามาใกล้ด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็นจนไม่อาจปกปิดได้เพลงรักก้าวลงจากรถอย่างเกร็ง ๆ สองมือแนบข้างลำตัวแน่นด้วยความประหม่า ดวงตากวาดมองคฤหาสน์หลังนี้ที่สูงสง่าเกือบสามชั้น สีขาวงาช้างตัดกับกรอบหน้าต่างไม้โอ๊ค กลิ่นดอกไม้สดจากสวนรอบบ้านแตะจมูกเบา ๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น แต่ไม่อาจกลบความรู้สึกประหม่าในอกได้แม้แต่น้อย“เข้าไปด้านในกันเถอะลูก” คุณหญิงหันมาพูดกับเพลงรักก่อนจะพาเดินเข้ามาในตัวบ้าน ทันทีสองเท้าเดินก้าวเข้ามาก็พบว่ามีหญิงวัยกลางคนในชุดผ้าไหมสีกรมยืนอยู่รอที่บันไดบ้านอยู่ก่อนแล้วด
ตอนที่ 42 ชาติกำเนิด“ถ้าต้องการอะไรเรียกผมได้เลยนะ” ราเชนทร์พยักหน้าอย่างเข้าใจ จากนั้นเขาก็เดินออกมาเงียบ ๆ ปล่อยให้หญิงสาวนั่งอยู่ตรงนั้นท่ามกลางสายลมและแสงแดดที่เริ่มอ่อนแรงเพลงรักยังคงนั่งเงียบอยู่หน้าหลุมศพนานนับชั่วโมง ดวงตาเหม่อลอยไปไกล ความรู้สึกภายในใจเต็มไปด้วยคำถามมากมายที่เธอไม่ได้คำตอบ แต่สิ่งที่เธอรู้สึกได้ชัดเจนที่สุด ไม่ใช่ความโศกเศร้าที่เสียแม่ไป หากแต่มันกลับเป็นเป็นความโล่งอกในตอนที่เพลงรักเอาแต่นั่งอยู่หน้าหลุมศพด้วยความรู้สึกว่างเปล่าไม่ขยับไปไหน จู่ ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นมาจากด้านหลัง ถึงจะได้ยินแบบนั้นแต่เพลงรักเองก็ยังไม่ได้หันกลับไปมองเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งเธอได้ยินเสียงอ่อนโยนของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น“มาลี.. ไปสบายแล้ว” หญิงสาวนิ่งฟังก่อนจะใช้สายตาว่างเปล่าหันไปมองคุณหญิงที่เธอเคยเจอที่โรงพยาบาลนิ่ง ๆ ไม่ได้ตอบอะไรท่านออกไป“บางทีความตายอาจทำให้เธอสบายกว่าตอนมีชีวิตอยู่ก็ได้นะ” เสียงนั้นพูดต่อด้วยน้ำเสียงเศร้าปนปล่อยวางคุณหญิงพรรณพิลาเดินตรงเข้ามาพร้อ