ตอนที่12 ออกอาการ
ชาร์วีที่วันนี้เคลียร์งานอยู่ที่บ้านทั้งวันกำลังยืนมองผ่านหน้าต่างจากชั้นบนของบ้าน ไปทางประตูหน้าบ้านเมื่อตอนนี้เลยเวลาที่เด็กในการปกครองต้องกลับถึงบ้านแล้ว
“ขอบคุณนะที่อุตส่าห์แวะมาส่งเรา ไว้เจอกันพรุ่งนี้จ้า” เด็กสาวในชุดนักเรียนสะพายกระเป๋าเดินลงจากรถตู้คันหรูที่ด้านในรถมีชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันนั่งอยู่ด้านในรถคันดังกล่าวด้วย ทั้งสองโบกมือลากันก่อนที่ประตูรถจะปิดลงและขับเคลื่อนตัวออกไป
พลอยใสเดินเข้าบ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ระหว่างทางเดินก็กล่าวทักทายเหล่าบอดี้การ์ดด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินตรงดิ่งไปที่บ้านหลังเล็กเพื่อเก็บกระเป๋าและเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ธารา ไอ้ธารา” ชาร์วีตะโกนเสียงดังลงมาจากชั้นสองของบ้านธาราที่กำลังสั่งงานบอดี้การ์ดอยู่ด้านล่างต้องรีบหันไปถามคนเป็นนายทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
“นายมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับเสียงดังไปถึงข้างล่าง”
“ทำไมวันนี้พลอยใสถึงไม่นั่งรถตู้ของที่บ้าน” น้ำเสียงโมโหถามออกไปทันทีที่ธาราพูดจบ ธาราถอนหายใจเพราะไม่คิดว่าเรื่องที่ทำให้ชาร์วีหัวเสียจนเสียงดังลั่นบ้านจะเป็นเรื่องของเด็กในปกครอง
“รถของที่บ้านกลับมาถึงตั้งแต่ช่วงเย็นแล้วครับ และอีกอย่างพลอยใสก็แจ้งผมแล้วว่าวันนี้เธอจะกลับบ้านเองไม่ต้องให้คนขับรถของที่บ้านไปรับ เพราะไม่รู้ว่าจะทำงานเสร็จกี่โมงครับ” ธาราบอกคนเป็นนายออกไปตามที่เด็กสาวได้แจ้งเขาไว้ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น
“กลับบ้านเองโดยให้ผู้ชายมาส่งอย่างนั้นสินะ”
“น่าจะเป็นเพื่อน ๆ ของเธอแหละครับ เห็นในรถก็มีกันตั้งหลายคน” ธาราเองก็เห็นว่าเด็กสาวนั้นลงจากรถตู้คันหรูโดยด้านในรถนั้นยังมีเด็กอีกหลายคนทั้งผู้ชายและผู้หญิง คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนที่ทำงานกลุ่มด้วยกันเพราะใส่ชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนเดียวกันกับเด็กสาว
“เพื่อนอย่างนั้นเหรอ นั่งรถมากับเพื่อนผู้ชายเนี่ยนะ” ชาร์วียังไม่ยอมฟังเหตุผลทั้งที่ปกติชายหนุ่มนั้นเป็นคนที่มีเหตุผลมากกว่าใคร
“เพื่อนก็ไม่ได้จำกัดนี่ครับว่าจะต้องมีแต่ผู้หญิง นายส่งเธอเรียนโรงเรียนนานาชาตินะครับไม่ใช่โรงเรียนหญิงล้วน"
“ไอ้ธารา!! มึงอย่ามากวนตีนกู มึงแหกตาดูไหมว่าวันนี้เด็กนั่นกลับบ้านกลับใคร” ชาร์วีเกรี้ยวกราดมากขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบของธารา
“นายกำลังตีกรอบให้เด็กมันมากไปนะครับ เด็กควรจะได้มีช่วงเวลาชีวิตกับเพื่อนบ้างตามวัยของเขา” ธาราพยายามบอกเหตุผลอย่างใจเย็นเพราะรู้ดีว่าตอนนี้ยิ่งเถียงกันก็ยิ่งไม่จบ
“แล้วเวลาทั้งวันที่อยู่ในโรงเรียนกูห้ามคุยกับเพื่อนหรือไง ให้ท้ายกันเข้าไปสักวันจะเสียคน” ร่างสูงเดินมาตะโกนใส่หน้าธาราก่อนจะเดินออกไปอย่างหัวเสีย
“ลุคค์!! ลุคค์!! ไอ้ลุคค์!!” เสียงเรียกผู้ช่วยมือซ้ายดังลั่นในขณะที่คนเรียกกำลังเดินลงบันไดมาจากชั้นบนของบ้าน
“ครับนาย” ลุคค์ที่กำลังเตรียมตัวออกไปดูแลความเรียบร้อยที่ผับรีบวิ่งมาตามเสียงเรียกทันทีอย่างตกใจ
“เตรียมรถกูจะไปผับ”
“แล้วพี่ธาราล่ะครับ” ลุคค์ถามอย่างแปลกใจเพราะปกติธารากับชาร์วีจะตัวติดกันตลอดทั้งตอนทำงานและตอนเที่ยว
“ไอ้ธารามันเป็นคนจ่ายเงินเดือนมึงหรือไง” ธาราที่เดินตามเข้ามาได้ยินถึงกับส่ายหัวกับอารมณ์พาลของเจ้านายและหันไปพยักหน้าให้ลุคค์รีบไปทำตามคำสั่งเพราะเกรงว่าหากช้ากว่านี้จะพาลลูกน้องคนอื่นให้เดือดร้อนไปทั่ว
“ครับ ไปเดี๋ยวนี้ครับ นายจะให้เตรียมห้องรับรองด้วยไหมครับหรือจะไปตรวจงานเท่านั้น” ถ้าเป็นปกติคำถามนี้จะไม่หลุดออกจากปากมือซ้ายคนสนิทอย่างแน่นอน แต่เพราะวันนี้อารมณ์ของเจ้านายไม่ปกติจึงถามความต้องการให้ชัดเจนเพราะกลัวจะโดนอาละวาดซ้ำอีก
“มึงคิดว่าอารมณ์กูตอนนี้เอื้อที่จะมานั่งดูเอกสารหรือไง แม่งเลี้ยงเสียข้าวสุกทั้งมึงทั้งไอ้ธารา” พูดจบก็เดินนำหน้าไปที่รถที่เตรียมรอสำหรับมาเฟียหนุ่มตลอดเวลา ในขณะที่ธาราก็รีบเดินตามออกไปอย่างรู้หน้าที่แต่เลือกที่จะขึ้นรถอีกคัน ปล่อยให้ชาร์วีขึ้นไปกับลุคค์แค่สองคนเพื่อเลี่ยงการปะทะอีกรอบ
ผับ
“นายมึงเป็นห่าอะไรเรียกพวกกูออกมาเสือกไม่พูดไม่จา” มังกรหันไปถามธาราเพราะตั้งแต่โดนโทรเรียกให้มาที่นี่ด่วนก็ยังไม่ได้ยินเสียงเจ้าของผับพูดจาสักคำ มีเพียงเสียงแก้วกระทบกับโต๊ะให้เกิดเสียงดังเพียงเท่านั้น
“เด็กที่บ้านดื้อนิดหน่อยครับ นายเลยอารมณ์เสีย”
“ฮะ! ที่โมโหเกือบฆ่าคนได้เป็นเพราะเด็กที่บ้านดื้ออย่างนั้นเหรอ เด็กคนไหนวะกูอยากเห็นหน้าคนที่ทำให้ไอ้ชาร์หัวเสียได้ขนาดนี้”
“ก็เด็ก….” ยังไม่ทันที่ธาราจะพูดจบชาร์วีจึงโพล่งแทรกขึ้นเสียงดัง
“เรื่องในบ้านกู คนนอกไม่ต้องเสือก”
“แล้วมึงจะโทรเรียกคนนอกอย่างกูมาทำห่าอะไร มานั่งดูมึงแดกเหล้าหรือไงครับคุณชาร์วี” มังกรตอบกลับน้ำเสียงปกติเพราะชินกับคำพูดร้ายกาจของชาร์วีแต่ไหนแต่ไรแล้ว ด้วยความที่คบกันมาตั้งแต่เด็กจนรู้นิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี
“นายครับ!!” ลุคค์เปิดประตูพรวดพราดเข้ามาใบหน้าบ่งบอกถึงความไม่ปกติ
“มีอะไร” ธารายืนขึ้นทันที สัญชาตญาณบอกเขาว่าต้องมีอะไรผิดปกติ ขณะที่ชาร์วีเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมองสีหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงท่าทีตื่นตระหนกตกใจอะไร
“ข้างล่างมีการยิงกันตรงหน้าผับครับ คนยิงเป็นลูกชายรัฐมนตรีไม่พอใจที่การ์ดเราไม่ให้เข้ามาด้านในเพราะตรวจเจออาวุธ จึงชักปืนยิงการ์ดเราบาดเจ็บหนึ่งคน ตอนนี้คนของเรากำลังนำส่งโรงพยาบาลครับ ส่วนคนก่อเหตุผมให้คนของเราคุมตัวไว้ที่ห้องชั้นใต้ดินครับ” ลุคค์รายงานเสียงหอบเพราะหลังจากเคลียร์เรื่องคนเจ็บและคนก่อเหตุเสร็จก็รีบขึ้นมารายงานคนเป็นนายทันที
“ธารามึงจัดการต่อด้วยเอาที่มึงเห็นสมควร สั่งสอนเสร็จโทรบอกพ่อมันมารับด้วยจะได้รู้ว่าลูกที่มันเลี้ยงมาด้วยเงินมหาศาลโตมาแล้วเป็นขยะสังคมมากแค่ไหน” น้ำเสียงเยือกเย็นเอ่ยบอกออกไปพร้อมหยิบแก้วเหล้าขึ้นกระดกจนหมดแก้วแล้วลุกเดินออกจากห้องไปท่ามกลางสีหน้างุนงงของมังกร
“แล้วมันก็ทิ้งกูกลับบ้านหน้าตาเฉย โทรเรียกกูมาเพื่ออะไรไอ้ห่า แม่งอารมณ์เสียแล้วเป็นแบบนี้ทุกที” เสียงตะโกนด่าตามหลัง ชาร์วีเดินตรงดิ่งออกประตูด้านหลังผับและขึ้นรถกลับบ้านทันที
เช้าวันถัดมา
“นายครับเดินทางวันนี้ห้าทุ่มนะครับ คุณมังกรโทรมาแจ้งว่าจะเดินทางไปพร้อมกับเราครับ” ธาราแจ้งรายละเอียดให้มาเฟียหนุ่มทราบก่อนจะยื่นไอแพดมาตรงหน้าชายหนุ่ม
“ข้อเสนอที่ทางนั้นขอเพิ่มเติมมาครับ ผมดูรายละเอียดคร่าว ๆ แล้วไม่ต่างจากที่เราเสนอไปครั้งแรกมากเท่าไหร่”
“โอเค ทำธุรกิจแฟร์ ๆ แบบนี้ก็ดี ส่งข้อมูลนี้ให้ไอ้มังกรหรือยัง”
“คุณมังกรดูเรียบร้อยแล้วครับและเห็นด้วยเหมือนกับนายครับ”
“อือ..เตรียมเอกสารให้เรียบร้อย แล้วความเรียบร้อยภายในบ้านมึงจัดการหมดหรือยัง” ชาร์วีถามขึ้นเมื่อเขาและมือขวาจะไม่อยู่บ้านอีกหลายวัน จะเหลือเพียงลุคค์มือซ้ายคนสนิทดูแลความเรียบร้อยที่นี่แทน
“เรียบร้อยแล้วครับ ลุคค์จะเข้ามาคืนนี้ก่อนที่เราจะออกไปนายไม่ต้องเป็นห่วงครับ”
“แล้วเด็กพวกนั้นรู้หรือเปล่าว่าเราจะไม่อยู่หลายวัน” จู่ ๆ ชาร์วีก็เอ่ยถามขึ้นทั้งที่แต่ก่อนเวลาจะต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศไม่เคยแม้จะบอกกล่าวคนในบ้าน มีเพียงป้าณีคนเดียวเท่านั้นที่ชาร์วีจะบอกว่าเขาเดินทางไปที่ไหน
“นายหมายถึงใครครับ ถ้าคนของเราผมไม่ได้บอกครับมีเพียงลุคค์เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้” ธาราตอบกลับตามความจริงเพราะไม่เคยแจ้งให้ลูกน้องคนอื่น ๆ ทราบว่าจะต้องเดินทางไปที่ไหน กี่วัน เพราะทุกคนมีหน้าที่ของตัวเองไม่ได้มีหน้าที่มารับรู้เรื่องของเจ้านาย
“เด็กสามคนนั้น มึงได้บอกพวกเธอหรือยังว่าเราจะไม่อยู่หลายวัน”
“ครับผมบอกพลอยใสไปแล้วว่าผมจะไม่อยู่บ้านหลายวัน มีอะไรด่วนให้ติดต่อไปที่ลุคค์และลุคค์จะแจ้งผมเอง”
“แค่มึง” ชาร์วีถามย้ำอีกครั้ง
“ครับ แล้วนายจะให้ผมบอกว่ายังไงล่ะครับเพราะส่วนมากเด็กจะติดต่อผมโดยตรง ไม่ได้ติดต่อไปที่นายนี่ครับ แค่ผมก็น่าจะเพียงพอ” ธาราแกล้งตอบกลับเพื่อดูปฏิกิริยาคนเป็นนาย เมื่อเริ่มสังเกตได้ว่าทุกวันนี้เจ้านายเริ่มให้ความสำคัญกับเด็กสามคนนั้นมากขึ้น
“ช่างมันเถอะ โทรเรียกไอ้ลุคค์มาหากูด้วยกูมีเรื่องจะคุยกับมัน”
“นายมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”
“กูต้องการจะคุยกับไอ้ลุคค์ไม่ได้ต้องการจะคุยกับมึง” สายตาคมตวัดจ้องหน้าธาราอย่างขุ่นเคือง น้ำเสียงเจือแววอดกลั้น
“ครับ ผมจะโทรเรียกมันให้ ผมอิ่มแล้วขอตัวนะครับ”
“อย่าลืมกำชับเด็กมันด้วยว่าระหว่างนี้ก็อย่าเถลไถล ไม่อย่างนั้นกูจะลงโทษขั้นเด็ดขาด อย่าหาว่ากูไม่เตือน” ยังไม่ทันที่ธาราจะเดินพ้นห้องอาหาร เสียงเรียบก็พูดขึ้นจนธาราต้องหยุดฝีเท้ายืนฟังอย่างตั้งใจ
“ครับ ผมจะกำชับเด็กทั้งสามคนให้”
บ่ายวันนั้น
“นายครับ คุณฉลาม คุณอเล็กซ์ และคุณเหมันต์มาครับ” ธาราเดินเข้ามารายงานเมื่อตอนนี้มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาที่บ้าน
“พวกมันมาทำไม” เสียงเรียบถามกลับทันที
“ไม่ทราบครับ”
“พวกกูคิดถึงเพื่อนมาเยี่ยมเพื่อนไม่ได้เหรอวะ” ฉลามตอบกลับไปขณะที่ทั้งสามเปิดประตูห้องทำงานของเจ้าของบ้านเข้ามา
“ไม่มีมารยาท ไม่ได้เชิญเสือกมากันทำไม” แฟ้มเอกสารตรงหน้าถูกปิดและดันออกไปไว้ด้านข้าง ก่อนที่เจ้าของบ้านจะเงยหน้าขึ้นจ้องหน้าเพื่อนทั้งสามอย่างไม่ค่อยยินดีสักเท่าไหร่
“อย่าขี้เสือกให้มากนัก พวกมึงว่างงานขนาดนั้นเลยหรือไง” คำพูดไม่ยี่หระของเจ้าของบ้านพร้อมตั้งท่าจะลุกเดินออกไปโดยไม่คิดจะถามไถ่ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงว่ากลุ่มเพื่อนมาทำไม
“เฮ..เฮนั่งลงก่อนครับคุณชาร์วี ที่พวกผมมาเนี่ยแค่อยากคุยเรื่องกาสิโนสาขาใหม่ที่จะเปิดที่ฮ่องกง เจ้าถิ่นที่นั่นเหมือนจะไม่ค่อยต้อนรับเราสักเท่าไหร่นะ” ฉลามห้ามปรามเมื่อเห็นชาร์วีตั้งท่าจะเดินหนี มือหนายกขึ้นปลดกระดุมเสื้อด้านบนสองสามเม็ดและพับแขนเสื้อขึ้นถึงศอกก่อนจะกลับนั่งลงตำแหน่งเดิมพร้อมกระแทกลมหายใจพรืด
“ถ้าเป็นมิตรกันไม่ได้ก็ต้องเป็นศัตรู ใครมันทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ไม่ดีก็ไม่ต้องคบ” คำตอบของชาร์วีทุกคนต่างคิ้วขมวด จะมีสักครั้งไหมที่พวกเขาขยายธุรกิจแล้วราบรื่นโดยไม่มีปัญหา
“เฮ้อ!! ก็ตามนั้นกูจะได้สั่งคนของกูที่อยู่ที่นั่นเตรียมกำลังคนให้พร้อมวันเปิดกาสิโนวันแรก พวกมึงทุกคนก็ช่วยทำตัวให้ว่างด้วยไม่ใช่ให้กูไปยืนต้อนรับกระสุนอยู่คนเดียว” ฉลามถอนหายใจยกนิ้วขึ้นชี้หน้าเพื่อนทุกคนด้วยสีหน้าจริงจัง
“กลิ่นดินปืนช่างหอมสดชื่นราวกลิ่นกายสาวไม่ปาน เอ้อ! ไอ้ชาร์บ้านมึงรับคนงานผู้หญิงเพิ่มตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ปกติบ้านนี้ไม่รับคนงานผู้หญิงไม่ใช่เหรอวะเห็นมีแต่ป้าณีกับแม่บ้านอีกคน ตอนเดินเข้ามากูเจอเด็กผู้หญิงนั่งอยู่ตรงสวนหย่อมขนาดเห็นไกล ๆ ก็หน้าตาน่ารักใช้ได้เลยนะ” เหมันต์ผู้ที่ได้รับฉายาหูตาไวถามขึ้น
“อย่ายุ่งกับคนในบ้านกู” ชาร์วีสั่งห้ามออกไปเสียงดัง
“กูเข้าใจแล้วธารา เจ้านายมึงไม่ได้ตายด้านจริง ๆ” ฉลามเผยรอยยิ้มมุมปากพูดขึ้นเมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบกลับของเพื่อนเมื่อพูดถึงเด็กสาวคนนั้น