Share

บทที่ 4

Author: Davide
last update Last Updated: 2025-05-07 16:45:36

ตอนที่ 4 เจ้านายในความลับ

เด็กสาวในชุดนักเรียนกระโปรงลายสกอตเสื้อนักเรียนสีขาวแขนสั้น เดินตามทางเดินไปขึ้นรถตู้ของบ้านฮาร์เปอร์ที่จอดรออยู่บริเวณลานหน้าบ้านและมีคนขับยืนประจำอยู่ที่รถ

“ตั้งใจเรียนกันให้ดีเพื่ออนาคตที่ดีของตัวเองนะ วันนี้พี่ติดงานสำคัญไม่ได้ไปส่งเดี๋ยวคนขับรถจะพาไป” ธาราที่ติดงานสำคัญกับชาร์วีในตอนเช้าแต่ก็เดินมาส่งเด็กสาวทั้งสามคนขึ้นรถพร้อมให้กำลังใจในวันเปิดเรียนวันแรก หลังจากที่พลอยใสและเพื่อนอีกสองคนขึ้นรถเรียบร้อยแล้วรถตู้สีดำก็แล่นออกจากอาณาจักรบ้านหลังใหญ่มุ่งตรงไปยังโรงเรียนนานาชาติชื่อดังที่มีค่าเทอมแพงติดอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย

“ว้าว ทำไมวันนี้ที่โรงเรียนดูครึกครื้นมากเป็นพิเศษนะว่าไหม” แก้วใสพูดขึ้นมาหลังจากที่รถเคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณโรงเรียน ซึ่งกว่ารถตู้ที่พวกเธอนั่งจะหลุดจากการจราจรที่หนาแน่นได้ก็กินเวลาพอสมควรเพราะรถติดตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงด้านในโรงเรียน เนื่องจากเป็นวันเปิดเรียนวันแรก ผู้ปกครองต่างมาส่งลูกหลานด้วยตนเอง

“ก็วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกก็ต้องดูครึกครื้นเป็นธรรมดา ตอนนี้ฉันตื่นเต้นจนอยากจะลงจากรถเดี๋ยวนี้เลย” ผ้าไหมหันไปตอบแก้มใสก่อนจะหันกลับไปมองด้านนอกรถที่ตอนนี้คลาคล่ำไปด้วยกลุ่มนักเรียนและผู้ปกครองมากมาย

“พลอยใส เธอไม่รู้สึกตื่นเต้นบ้างเหรอวันนี้เปิดเรียนวันแรกนะ ดูสิบรรยากาศที่โรงเรียนวันเปิดเทอมช่างน่าเรียนมากเลยฉันกำลังตื่นเต้นที่จะได้เจอเพื่อนใหม่” แก้วใสหันมาถามพลอยใสที่นั่งนิ่งมองออกไปนอกรถไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาเหมือนตัวเธอและผ้าไหม พลอยใสหันมายิ้มให้เพื่อนก่อนจะหันกลับไปมองนอกรถดังเดิมโดยไม่ได้พูดอะไร

“เดี๋ยวแยกกันตรงนี้แล้วเจอกันตอนเย็นตรงจุดที่รถมารับนะ” เมื่อรถมาจอดตรงหน้าตึกและทั้งสามคนลงจากรถกันแล้วพลอยใสก็หันมาบอกกับเพื่อนทั้งสอง พลอยใสเป็นคนเดียวที่ต้องแยกห้องเรียนจากเพื่อนทั้งสองเนื่องจากทางโรงเรียนจำกัดนักเรียนเพียง 20 คนต่อห้อง

“โอเค ๆ ไว้เจอกันตอนเย็นฉันไปก่อนล่ะนะ ไปเถอะแก้มใส” ผ้าไหมตอบพลอยใสอย่างเร่งรีบก่อนจะลากแก้มใสให้รีบเดินเข้าไปด้านในอาคารเรียนเพราะตื่นเต้นที่จะได้เจอเพื่อนใหม่ เหลือเพียงพลอยใสที่ยืนเคว้งอยู่ตรงทางเดินเพียงคนเดียว

เด็กสาวยิ้มให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเดินไปเข้าห้องเรียนตามตารางเรียนที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ ระหว่างทางที่เดินไปยังห้องเรียนพลอยใสก็เก็บรายละเอียดรอบตัวไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ โรงอาหาร ชื่อตึกเรียนแต่ละตึก ทางหนีไฟ เพราะไม่รู้ว่าเพื่อนใหม่ของเธอจะเป็นยังไงจะมีใครเข้ามาเป็นเพื่อนใหม่ของเธอบ้าง แต่ที่แน่ ๆ ทุกคนคือลูกคนรวย ยกเว้นเธอที่เป็นเด็กกำพร้าเพียงแค่โชคดีได้คนอุปการะจึงได้มีโอกาสมายืนอยู่ที่นี่

พลอยใสเดินมาถึงหน้าห้องเรียนตามที่ระบุในตารางเรียนก่อนจะเจอเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเธอที่กำลังยืนอยู่หน้าห้อง

“เอ่อ ขอโทษนะเธอกำลังจะเข้าไปเรียนที่ห้องนี้หรือเปล่า” พลอยใสแสดงความเป็นมิตรทักทายก่อนทั้งที่ก็ไม่แน่ใจว่าคนที่เธอทักจะฟังภาษาไทยเข้าใจหรือเปล่า

“ใช่ เรากำลังจะเดินเข้าไปในห้อง เธอก็เรียนห้องนี้เหมือนกันเหรอ” หญิงสาววัยแรกแย้มหน้าลูกครึ่งแต่พูดไทยชัดเจนตอบกลับพลอยใส

“ถ้าอย่างนั้นเราขอเข้าไปด้วยคนนะเราชื่อพลอยใส”

“ได้สิเราชื่อพิชชี” พลอยใสยิ้มกว้างเมื่อได้รับมิตรตอบอย่างน้อยเธอก็รู้จักพิชชีแล้วหนึ่งคนและลดความกลัวลงไปได้บ้างเมื่อต้องไปเจอกลุ่มเพื่อนที่อยู่ในห้อง

“เธอยิ้มสวยมากนะพลอยใส ตั้งแต่มาอยู่เมืองไทยได้สามปีฉันพึ่งเห็นรอยยิ้มที่สวยมากก็วันนี้” พิชชีที่ตอนแรกกำลังจะเปิดประตูห้องเรียนเดินนำพลอยใสเข้าไปในห้องต้องหันหน้ากลับมามองคนที่พึ่งจะเป็นเพื่อนใหม่ของเธออีกครั้งเพราะรอยยิ้มหวานนั้น

“ขอบคุณนะพิชชีเธอก็สวยมากเหมือนกัน” พลอยใสที่ถูกผู้หญิงด้วยกันชมซึ่ง ๆ หน้าก็รู้สึกเขินจึงต้องชมกลับไป หลังจากนั้นทั้งเธอและพิชชีก็เดินเข้าห้องที่ตอนนี้มีเพื่อนร่วมชั้นอยู่ก่อนแล้วประมาณสิบคนพร้อมกับครูประจำห้อง

พลอยใสพยายามอยู่ใกล้พิชชีตลอดเวลาเพราะอย่างน้อยหากว่าเธอสื่อสารอะไรไปผิด ๆ หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่ครูหรือเพื่อนคนอื่นถามจะได้ขอความช่วยเหลือ เพราะพิชชีสามารถพูดภาษาไทยได้

“ดูเธอกังวลอะไรบางอย่างนะ มีอะไรหรือเปล่า” พิชชีถามขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าพลอยใสไม่ค่อยพูดต่างจากคนอื่นที่ทักทายกันเสียงดังและพูดคุยแนะนำตัวกันอย่างสนุกสนาน

“พลอยรู้สึกว่าภาษาพลอยยังไม่เก่งมากก็เลยกังวลนิดหน่อยที่จะพูดกับคนอื่น” พลอยใสบอกความกังวลของเธอไปตรง ๆ เพราะถึงแม้เธอจะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้บ้างแล้วจากการที่ชาร์วีส่งครูมาติวตลอดสามเดือนที่ผ่านมา แต่พลอยใสก็ยังไม่มั่นใจเมื่อต้องสื่อสารจริงท่ามกลางเพื่อนส่วนใหญ่ที่เป็นเจ้าของภาษา ซึ่งเมื่อพิชชีได้ฟังก็ยิ้มออกมาและเข้าใจ

“ไม่เป็นไรหรอกพูดออกมาเถอะภาษาอังกฤษไม่ได้น่ากลัว เดี๋ยวพูด ๆ ไปก็พูดคล่องแต่ต้องกล้าพูดกล้าสื่อสารกับเพื่อนคนอื่น ๆ” พิชชีบอกกับพลอยใสเพราะสำหรับเด็กลูกครึ่งอย่างเธอแล้วถือว่าความกล้าแสดงออกคือสิ่งสำคัญ

“ไฮ พวกเธอชื่ออะไรกันบ้างเราชื่อเจ” เด็กหนุ่มตัวสูงแต่ผอมบางเข้ามาทักทายพลอยใสและพิชชีเป็นภาษาอังกฤษ พลอยใสหันไปมองหน้าพิชชีว่าจะตอบเพื่อนหนุ่มผู้มาใหม่ว่ายังไงแต่พิชชีกลับส่งสัญญาณให้พลอยใสเป็นคนตอบ พลอยใสจึงยิ้มก่อนจะตอบเจกลับไปเป็นภาษาอังกฤษตามที่ได้ฝึกมาจากติวเตอร์ชื่อดัง

“เราชื่อพลอยใสและที่ยืนข้างเราชื่อพิชชี ยินดีที่ได้รู้จักนะเจ”

“ชื่อเธอน่ารักเหมือนหน้าตาเธอมากเลยนะ พลอยใส” เด็กหนุ่มชมตรง ๆ ต่อหน้าตามสไตล์ฝรั่ง พลอยใสจึงได้แต่ยิ้ม หลังจากนั้นทั้งสามคนก็พูดคุยกันมากขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นพิชชีและเจที่พูดคุยกันมากกว่า ส่วนพลอยใสจะพยายามจดจำคำพูดต่าง ๆ ที่เพื่อนพูดกันและพยายามทำความเข้าใจประโยคสื่อสารนั้น ระหว่างนั้นก็มีเพื่อนชายอีกคนที่เป็นลูกครึ่งเดินเข้ามาทักทายพลอยใส ชื่อโจเซฟ และก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เอ่ยชมถึงรอยยิ้มและความน่ารักของเธอ

วันแรกพลอยใสก็มีเพื่อนแล้วสามคนเป็นลูกครึ่งที่พ่อแม่มีธุรกิจอยู่ที่เมืองไทย แต่ละคนพอรู้ว่าพลอยใสพึ่งจะหัดพูดและเรียนภาษาก็ต่างเสนอตัวอาสาเป็นพี่เลี้ยงจนพลอยใจจากที่กลัวจะต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเป็นหลัก กลับรู้สึกสนุกที่ได้เรียนรู้

“พลอยขอบคุณทุกคนมากนะที่ช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ ไว้พรุ่งนี้เจอกันใหม่นะ” เมื่อได้เวลาเลิกเรียนนักเรียนทั้งหมดก็ต่างเดินทยอยออกจากตึกเพื่อไปรอขึ้นรถที่ทางผู้ปกครองส่งมารับยังจุดรับส่ง พลอยใสที่เดินมากับเพื่อนใหม่ทั้งสามจึงไม่ลืมขอบคุณในมิตรภาพและน้ำใจของเพื่อนใหม่ที่มีให้เธอก่อนจะแยกกันกลับ

พลอยใสกลับมาบ้านด้วยหน้าตาสดใสรวมทั้งเด็กสาวอีกสองคนที่ชอบโรงเรียนใหม่นี้มากเพราะมีแต่สังคมลูกคนรวยที่ไม่เคยเจอหรือสัมผัส ทั้งแก้มใสและผ้าไหมต่างเล่าว่าวันนี้ตัวเองไปเจออะไรมาบ้างด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นดีใจ ในขณะที่พลอยใสนั้นนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเข้าครัวเพื่อช่วยทำอาหารเย็นสำหรับทุกคนในบ้าน

“ไปเรียนวันแรกเป็นยังไงบ้างหนูพลอยสนุกหรือเปล่า” แม่บ้านถามพลอยใสเมื่อเด็กสาวเดินเข้าไปช่วยงานในครัวหลังจากเลิกเรียนกลับมา

“ตอนแรกก็กลัวเหมือนกันค่ะป้าณีเพราะพลอยยังพูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง แต่โชคดีเจอเพื่อนที่น่ารักคอยช่วยเหลือและช่วยสอนก็เลยเริ่มหายกลัวค่ะ” พลอยใสเล่าไปตามความจริงไม่ได้ใส่สีตีไข่หรือแสดงอาการตื่นเต้นอะไร

“ดีแล้วล่ะ ป้าขอให้หนูเจอแต่เพื่อนที่ดีและขอให้มีความสุขกับการเรียนนะ จะได้เรียนได้เกรดดี ๆ”

“ขอบคุณค่ะป้าณี พลอยจะพยายามเต็มที่ค่ะ” พลอยใสยิ้มจนตาหยีไปให้ป้าณีจนอีกฝ่ายส่ายหัวในความน่ารักของเด็กสาวและยิ้มอย่างเอ็นดู

ตกเย็นพลอยใสก็มานั่งทำการบ้านที่โต๊ะม้าหินอ่อนกลางสวนหย่อมตัวเดิมที่เธอใช้เป็นที่ทบทวนบทเรียนเหมือนทุกวัน ธาราที่กลับมาจากทำงานก็รีบตรงดิ่งมาหาเด็กสาวทันทีเพื่อถามไถ่ถึงการไปเรียนวันแรกเพราะเป็นห่วงกลัวว่าจะถูกรังแก

“พลอยใสเป็นยังไงบ้างไปเรียนวันแรก” เสียงที่คุ้นหูดังมาจากทางด้านหลังเรียกให้พลอยใสที่กำลังจดจ่ออยู่กับตำราเรียนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปมอง

“พี่ธาราสวัสดีค่ะ กลับมาจากทำงานแล้วเหรอคะ” เด็กสาวยกมือไหว้ธาราเหมือนเช่นทุกครั้งที่เจอ

“พึ่งกลับมานี่แหละลงจากรถก็ตรงดิ่งมาหาเราเลย เป็นยังไงบ้างมีเพื่อนใหม่กี่คนแล้ว”

“ก็ดีค่ะ ดีมากเลยเป็นโรงเรียนที่สภาพแวดล้อมดี ที่สำคัญเจอเพื่อนที่ดีมากด้วยค่ะ พอรู้ว่าพลอยยังอ่อนภาษาพวกเขาก็พยายามช่วยกันใหญ่เลย จนตอนแรกที่พลอยกลัวกลับกลายเป็นว่าสนุกที่ได้พูดคุยกับพวกเขา” พลอยใสบอกธาราให้ทราบตามจริงเหมือนที่บอกป้าณี เมื่อฟังสิ่งที่เด็กสาวเล่าธาราก็รู้สึกโล่งใจที่พลอยใสเจอสังคมดี ๆ และมีความสุขกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในโลกกว้าง

พลอยใสใช้ชีวิตวนลูปอยู่แบบนั้นตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปี โดยที่ไม่เคยเจอชายหนุ่มเจ้าของบ้านสักครั้ง มีเพียงธาราเท่านั้นที่คอยเป็นตัวกลางคอยรับและถ่ายทอดคำสั่งให้เธอและเพื่อนรับทราบในสิ่งที่ชาร์วีหรือที่พวกเธอเรียกว่าคุณวีมอบให้ แม้บางทีเธอก็มีความคิดอยากเจอเขาสักครั้งเพื่อขอบคุณแต่ก็ไม่กล้า ทำได้เพียงแค่รับคำสั่งของเขาจากธาราเพียงเท่านั้น

“คุณชาร์วีคงจะงานยุ่งมากเลยนะคะ ตั้งแต่พลอยและเพื่อนมาอยู่ที่นี่ก็นานหลายปีแล้วแต่ก็ไม่เคยได้เจอตัวจริงคนที่มีพระคุณของตัวเองสักที” พลอยใสพูดกับธาราในเย็นวันหนึ่งหลังจากช่วยงานในครัวเสร็จและกำลังจะเดินกลับห้องพัก พอดีกับที่ธาราเดินมาสอบถามความเป็นอยู่เด็กในอุปการะของเจ้านายเหมือนเช่นเคย

“นายมีธุรกิจหลายอย่างแทบจะไม่มีเวลาพัก มีงานหลายอย่างที่ต้องจัดการ นายไม่มีเวลาว่างมาทำอย่างอื่นหรอกนอกจากงาน” ธาราบอกเด็กสาวที่ตอนนี้เข้าสู่วัยสาวเกือบเต็มตัว

“แล้วแบบนี้คุณวีจะมีเวลาพักผ่อนบ้างหรือเปล่าคะ”

“มีสิถ้านายคิดจะพัก แต่ส่วนใหญ่แทบจะไม่พักวัน ๆ เอาแต่หมกตัวอยู่กับงาน ไม่รู้จะหาเงินไปทำไมมากมายทั้งที่มีอยู่ตอนนี้ก็ใช้ไม่หมด”

“พลอยไม่เคยเห็นแฟนของคุณวีเลย บ้านนี้เขาห้ามผู้หญิงเข้าเหรอคะ” เมื่อนึกขึ้นได้ในสิ่งที่สงสัยมานานจึงเอ่ยถามขึ้น เพราะตั้งแต่เธอเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ก็ไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนเข้าออกบ้านหลังนี้นอกจากเธอและเพื่อนกับพวกแม่บ้านที่อยู่มาก่อนหน้า

“นายไม่เคยมีแฟนหรือแม้แต่คู่ควง พลอยทำการบ้านต่อเถอะพี่ขอตัวไปเคลียร์งานกับนายก่อน” ธารารีบตัดบทเมื่อบทสนทนาเริ่มเปลี่ยนเป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย ซึ่งเป็นสิ่งไม่ควรที่เขาและลูกน้องคนอื่น ๆ เอามาพูดถึงแบบนี้ ไม่ว่าจะพูดถึงในทางที่ดีและไม่ดี

“ค่ะ ขอโทษค่ะ” เด็กสาวหน้าเจื่อนลงรู้สึกผิดเมื่อคิดได้ว่าตัวเองกำลังแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกไป

“อย่าคิดมากเลย นายโทรตามแล้วพี่ขอตัวก่อน ตรงนี้สะกดผิดนะทวนดูใหม่” ธาราแกล้งหยอกให้เด็กสาวอารมณ์ดี ก่อนจะลูบศีรษะเล็กและหันหลังเดินกลับไปเมื่อโดนเจ้านายโทรตาม
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เด็กกำพร้ากับมาเฟียคลั่งรัก   ตอนที่78 สืบทอดทายาท

    “ท้องได้สามสัปดาห์แล้ว พรุ่งนี้ก่อนแปดโมงเช้าตัวอย่างเลือดต้องถึงโรงพยาบาลที่สิงคโปร์แล้วมึงก็ต้องเป็นคนไปจัดการด้วยตัวเอง” ธาราพูดจบก็ลุกจากโซฟาเดินขึ้นห้องทันที“อะไรของเขาวะ แค่อยากรู้เพศลูกถึงขั้นต้องเอาเครื่องบินส่วนตัวบินไปส่งเองเลยหรือไง ทาโรงพยาบาลก็จัดการเรื่องนี้ได้ไม่ใช่หรือไง”“แจ้งสถาปนิกมาพบฉันด้วยพรุ่งนี้เช้า” ใบหน้าคมเข้มหันกลับมาสั่งอีกครั้งก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป“มึงจะเรียกสถาปนิกมาทำไม” ไม่เพียงลุคค์ที่กำลังงงชาร์วีเองก็งงไม่แพ้กัน“ทำห้องไว้สำหรับลูก”เช้าวันต่อมา“พี่ลุคค์ไปไหนแต่เช้าคะ” พลอยใสถามขึ้นเมื่อมื้อเช้าขาดสมาชิกร่วมโต๊ะไปหนึ่งคน“ไปสิงคโปร์ตั้งแต่เช้ามืดแล้ว” ชาร์วีเป็นคนตอบคำถาม“ไปทำไมคะ มีงานด่วนที่นั่นเหรอคะ” พลอยใสถามกลับอีกครั้งเพราะฮาร์เปอร์ไม่ได้มีธุรกิจที่นั่น“งานด่วนไอ้ธารา”“งานด่วนพี่ธารา?”“มุกดาท้องได้สามสัปดาห์แล้ว ลุคค์กำลังนำตัวอย่างเลือดไปตรวจที่สิงคโปร์ว่าได้ผู้ชายหรือผู้หญิง”“จริงเหรอคะ ดีใจด้วยนะคะ ดีใจด้วยนะมุกดาในที่สุดลอนดอนก็มีน้องแล้ว” มือเล็กยื่นไปกุมมือว่าที่คุณแม่มือใหม่ บนโต๊ะอาหารมีแต่รอยยิ้มแห่งความสุข บ้านฮาร์เปอร์เริ่ม

  • เด็กกำพร้ากับมาเฟียคลั่งรัก   ตอนที่77 ทายาทอสูร

    “เอ่อ..ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ หมอว่าเราไปนั่งคุยกันตรงโต๊ะทำงานหมอดีกว่าค่ะ”“จากผลอัลตร้าซาวด์เด็กจะคลอดประมาณเดือนมกราคมปีหน้าค่ะ ส่วนเรื่องเพศนั้นหมอยังตอบไม่ได้ต้องส่งตัวอย่างเลือดไปตรวจที่สิงคโปร์ถึงจะสามารถรู้เพศเด็กได้ หรือไม่ก็ต้องรออายุครรภ์ประมาณห้าเดือนถึงจะอัลตร้าซาวด์ดูเพศได้ค่ะ”“เร็วกว่านั้นได้ไหมครับ” ธาราถามขึ้นท่าทางร้อนใจ“ไม่ได้ค่ะ เราต้องส่งตัวอย่างเลือดไปทางเครื่องบินต้องรอส่งตามรอบค่ะ แต่หมอจะติดตามผลให้เร็วที่สุดแล้วจะแจ้งผลให้ทราบค่ะ”“ทางเราสามารถส่งตัวอย่างเลือดไปเองได้ไหมครับ” อยู่ ๆ ความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัว“ส่งเอง แต่ตัวอย่างเลือดต้องเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสมนะคะ คุณจะถือขึ้นเครื่องไปแบบธรรมดาไม่ได้ค่ะ”“ผมจะให้แพทย์เป็นคนนำตัวอย่างเลือดไปส่งที่โรงพยาบาลโดยไม่ให้ตัวอย่างเลือดเสียหายโดยเครื่องบินส่วนตัวของเรา ตัวอย่างเลือดจะถึงสิงคโปร์ไม่เกินแปดโมงเช้าวันพรุ่งนี้ รบกวนคุณหมอติดต่อโรงพยาบาลปลายทางแล้วแจ้งรายละเอียดให้ทางเราทราบโดยด่วนด้วยนะครับ” เสียงเรียบบอกรายละเอียดทั้งหมดออกไป มุกดาได้แต่นั่งอึ้งไม่คิดว่าคนเป็นสามีจะตื่นเต้นแล้วทำให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดน

  • เด็กกำพร้ากับมาเฟียคลั่งรัก   ตอนที่76 ทายาทอสูร

    หลังจากเสร็จกิจกรรมตอนเช้าและกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง มุกดาสีหน้าอ่อนแรงผลพวงจากกิจกรรมรักเมื่อคืนที่ผ่านมาและต่ออีกครั้งในตอนเช้า“ค่อยไปวันหลังไม่ได้เหรอคะ ฉันเหนื่อยมากเลยขอนอนพักก่อนได้ไหม” มุกดาพยายามต่อรองธาราอยู่หลายครั้งแต่ชายหนุ่มก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเขานั้นได้นัดหมอสูตินรีแพทย์ที่เก่งที่สุดไว้แล้ว“ไม่ได้ผมนัดหมอไว้แล้ว แล้วอีกอย่างคุณจำเป็นต้องรีบตรวจร่างกายโดยเร็ว มีอะไรจะได้รีบแก้ไขทัน”“ร่างกายคนนะคะ ไม่ใช่เครื่องจักรที่พอเจอปัญหาแล้วสามารถเปลี่ยนอะไหล่แล้วแก้ไขได้”“แต่งตัวเสร็จแล้วใช่ไหม ผมนัดหมอไว้ตอนบ่ายโมงพอดี” ไม่เพียงจะไม่ตอบคำถามแต่เขาทำเมินเฉยต่อคำขอร้องของเธอ“ฉันไม่ไปค่ะ ฉันเหนื่อยจนไม่มีแรงจะเดินแล้ว เมื่อเช้าฉันบอกว่าไม่ให้ทำคุณก็ยังจะทำอยู่นั่นแหละ” หย่อนสะโพกนั่งลงกับเตียงใบหน้าง้ำงอ“ไม่ได้มุกดา ผมนัดหมอไว้”“อ้ะ!” วงแขนแกร่งช้อนร่างอรชรขึ้นจากเตียงในท่าเจ้าสาวเปิดประตูห้องพาเธอเดินลงไปด้านล่าง โดยไม่ลืมหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กของหญิงสาวไปด้วย“นี่คุณปล่อยฉันลงนะ ฉันเดินเองได้” สายตาดุมองหน้าชายหนุ่มบอกออกไปน้ำเสียงไม่พอใจ“เมื่อกี้บอกเห

  • เด็กกำพร้ากับมาเฟียคลั่งรัก   ตอนที่75 ข้อเสนอ

    “เซ็กซีฉิบ ต่อไปอย่าหวังจะเอานมไปโชว์ใครอีก”“อึก..อย่าบีบ” ฝ่ามือหนาบีบเคล้นอกอวบที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะโยกของช่วงล่างปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!“อือ..อ่าส์ คุณฉัน..ฉันไม่ไหว อื้อ..อ่าส์” เสียงร้องระงมดังไปทั่วห้องเมื่อสะโพกสอบเด้งกระแทกสวนขึ้นมาจนปลายชนเข้ากับท้องน้อย ความเสียวปนจุกจนมุกดาร้องครวญครางออกมาเพื่อระบาย“แรง ๆ มุกดาผมใกล้แล้ว” สะโพกสอบกระแทกสวนขณะที่มือหนาสองข้างจับอยู่ที่เอวคอดช่วยประคองจังหวะขึ้นลงตามที่ตัวเองต้องการ“อึก! คุณมันเสียว ฉันไม่ไหว”“อดทนอีกหน่อย”“อือ..อ่าส์” ปากสวยอ้าค้างสั่นระริกเมื่อปลายแก่นกายไซซ์เกินมาตรฐานกระแทกชนปากมดลูกด้านในจนจุก บวกกับความเสียวแปร๊บตรงท้องน้อย“อ่าส์..” ใบหน้าหล่อเหลาแสดงความร้ายกาจออกมาผ่านสายตา ธาราช้อนขาพับจับหญิงสาวพลิกลงด้านล่างเปลี่ยนตัวเองขึ้นมาเป็นคนคุมเกมรักร้อนแรงนี้ต่อปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!“อ้ะ! อ้า..ไม่ไหวแล้ว” หัวใจคนร้องเต้นโครมครามอย่างบ้าคลั่งแข่งกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อ เสียงครางของธาราบ่งบอกถึงอารมณ์เร่าร้อนเป็นอย่างดีเพียะ!“อร๊าย..กรี๊ด..” เสียงร้องตามมาด้วยเสียงกรี๊ดทันทีที่ธาราฟาดมือหนักลงแก้มก้นระคนมันเขี้ยว เม็

  • เด็กกำพร้ากับมาเฟียคลั่งรัก   ตอนที่74 ข้อเสนอ

    “ถ้าคุณเผลอครางออกมาแสดงว่าฉันทำให้คุณพอใจ ตกลงตามนี้นะคะ” ใบหน้าเรียวเล็กผละออกจากอกแกร่ง เงยหน้าขึ้นจ้องดวงตาคมเข้ม“ตกลง”“คุณเตรียมบอกฝันดีฉันได้เลยค่ะ” มือเรียวเล็กคว้าแท่งเนื้อที่ตั้งโด่ขึ้นมารูดขึ้นรูดลง ปลายดอกเห็ดสีแดงก่ำตอนนี้มีน้ำสีใสไหลซึมออกมา เส้นเลือดปูดด้านข้างลำแท่งชัดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อโดนสัมผัสจากมือนุ่ม“อ่าส์..มุกดา” ธาราเผลอร้องครางออกมาเมื่อปากอุ่นนุ่มกลืนกินแท่งเนื้อของเขาเข้าไปจนสุดความยาวในคราเดียว จากนั้นใช้ปลายลิ้นตวัดเลียส่วนปลายที่บานเป็นดอกเห็ดสลับกับเส้นเอ็นตรงปลายด้านข้าง“ไม่ชอบเหรอคะ จ๊วบ!” เสียงหวานเอ่ยถามสลับกับดูดเลียและกลืนกิน รสชาติแปลกใหม่ที่เธอได้สัมผัสสร้างความตื่นเต้นให้เธอไม่น้อยจ๊วบ ~ จ๊วบ ~ จ๊วบ ~“อ่าส์..อย่ากัด” เสียงแหบพร่าบอกออกไปเมื่อฟันคมโดนเนื้อขณะที่รูดเข้ารูดออกเพราะขนาดที่ใหญ่เกินมาตรฐานที่ปากเล็กจะกลืนกินเข้าไปได้มาก รู้สึกเจ็บแปลบ ทว่าก็ชวนรู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา ดวงตาคมเข้มก้มมองหน้าหญิงสาวที่กำลังปรนเปรอ ฝ่ามือหนากดศีรษะเล็กแช่ไว้บางครั้งขณะที่ปากเล็กกลืนแท่งเนื้อเข้าไปจนสุดจนเขารู้สึกเสียวซ่านจนแทบทนไม่ไหว“อ่าส์..ปากนุ่มเป็

  • เด็กกำพร้ากับมาเฟียคลั่งรัก   ตอนที่73 ค่ำคืนพิเศษ

    ร่างบางอ่อนปวกเปียกราวคนหมดแรงถูกอุ้มในท่าเจ้าสาวพาไปยังห้องนอน ก่อนจะค่อย ๆ วางลงบนฟูกหนาอย่างเบามือ ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาเช็ดเหงื่อพอลวก ๆ แล้วล้มตัวลงนอนข้าง ๆ หญิงสาว“ดูคุณมั่นใจจังนะว่าเขาจะมาเกิดคืนนี้” นานนับนาทีหลังจากพักหายใจเมื่อภารกิจสำคัญเสร็จสิ้นลง มุกดาหันไปถามคนเป็นสามี“ทำเองกับมือ” คำตอบสั้น ๆ บวกกับสีหน้าท่าทางที่มั่นใจ มุกดาเห็นจึงอดหมั่นไส้ไม่ได้“น้ำเชื้อคุณ มันจะใช้ได้จริง ๆ หรือคะ ไม่ใช่เสื่อมสภาพไปหมดแล้ว” ปากอวบอิ่มเบ้เล็กน้อย“คุณเตรียมตั้งชื่อลูกของเราว่ามังกรได้เลย เพราะเขาจะต้องเกิดราศีมังกรเท่านั้น” ไม่พูดเปล่าฝ่ามือยื่นมาลูบไล้หน้าท้องแบนราบอย่างเบามือราวกับว่าข้างในนั้นมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าลูกอาศัยอยู่“แต่งานวิจัยเขาบอกว่าคนที่ทำงานหนักและพักผ่อนน้อย น้ำเชื้อจะไม่ค่อยแข็งแรง เพราะฉะนั้นฉันคิดว่าอีกนานกว่าลูกของคุณจะมาเกิด” มุกดาว่ากลับอีกครั้งด้วยความหมั่นไส้ท่าทีของชายหนุ่มแต่อิงความเป็นจริงอยู่ไม่น้อย“ผมตรวจแล้วน้ำเชื้อผมแข็งแรงดี ปล่อยเข้าร่องของคุณแล้วลูกของเราวิ่งเข้าไปในมดลูกคุณ รับรองลูกของเรามาเกิดวันนี้แน่”“คุณไปตรวจตอนไหนคะ” ร่า

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status