เกรซนั่งมองถุงยาที่สายลมให้มาตั้งแต่กลับมาถึงห้องจนตอนนี้ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วเธอก็ยังนั่งมองมันอยู่
"นี่นายใส่ใจจริง ๆ หรือแค่กำลังเอาใจฉันกันแน่นะ" ติ้ง! (เสียงแจ้งเตือนไลน์) เกรซหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดทันทีที่ได้ยินเสียงแจ้งเตือน -ผมถึงห้องแล้วนะครับ- สายลม "เฮ้ย! มีไลน์เราได้ไงว่ะ" เกรซพูดออกมาอย่างงง ๆ เพราะเธอจำไม่ได้เลยว่าเคยให้ไลน์สายลมไปตั้งแต่เมื่อไหร่ -นายมีไลน์ฉันได้ไง- เกรซ -เพิ่มจากเบอร์โทรพี่ไง- สายลม "เออว่ะ" เมื่อได้คำตอบเกรซก็นึกได้พอดีว่าสายลมมีเบอร์เธอด้วย -พี่กินยาหรือยังครับ- สายลม -กินแล้ว- เกรซ -ดีขึ้นบ้างไหม- สายลม -อืม- เกรซ -งั้นพี่พักผ่อนเยอะ ๆ นะครับผมไม่กวนแล้ว- สายลม หลังจากนั้นเกรซก็ไม่ได้ตอบอะไรสายลมกลับไปอีกเลยและเธอก็เข้านอนทันทีเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปทำงานอีก เช้าวันต่อมา สายลมตื่นขึ้นมาตอน 7 โมงกว่าและสิ่งแรกที่เขาทำก็คือหยิบโทรศัพท์มาแชทหาเกรซทันที -Morning นะครับ- สายลม -พี่ตื่นหรือยัง- สายลม -ผมตื่นแล้วนะ- สายลม -หายปวดหัวหรือยังครับ- สายลม -ไม่ว่างเหรอ- สายลม -ไปทำงานหรือยังครับ- สายลม -วันนี้ผมมีเรียนตอน 10 โมงนะ- สายลม เมื่อเห็นว่าเกรซไม่ตอบกลับเลยสายลมก็รู้สึกนอยด์นิดหน่อย "ทำไมไม่อ่านไม่ตอบเลยล่ะ" เกรซเห็นข้อความของสายลมที่ส่งมาแล้วแต่เธอก็ไม่ได้กดเข้าไปอ่านเลยสักข้อความเพราะไม่อยากตอบ เธอไม่อยากเอาใจลงไปเล่นกับสายลมมากเกินไป เธอรู้สึกว่าเธอกับสายลมไม่น่าจะเข้ากันได้เพราะเธอกับเขาต่างกันมากเกินไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัยหรือไลฟ์สไตล์ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะตัดไฟตั้งแต่ต้นลมก่อนที่ตัวเองจะเผลอใจหวั่นไหวกับเขาซะก่อนอีกอย่างตอนนี้เธอก็ 30 แล้วควรคบกับใครสักคนที่เขาพร้อมจะจริงจังกับการสร้างครอบครัวมากกว่า ทางด้านสายลมเองก็ยังคงพยายามส่งข้อความไปหาเกรซตลอดทั้งวันไม่เว้นแม้แต่ตอนเข้าเรียนจน เขาทั้งโทรทั้งแชทแล้วแต่เกรซก็ยังคงไม่ตอบกลับอะไรเขาเลยขนเขาว้าวุ่นไม่เป็นอันเรียนแล้ว "ไอ้ลมวันนี้มึงเป็นอะไรว่ะหน้าตาดูไม่มีชีวิตชีวาเลย" โจ้ถาม "นั่นดิ ไม่สบายเหรอว่ะ" เป้พูด "กูไม่ได้เป็นไร" สายลมตอบ "ตอบแบบนี้เป็นชัวร์" กิ๊กพูด "จ้องโทรศัพท์ทั้งวัน หน้าตาเศร้าซึม ไม่พูดไม่จา ข้าวปลาไม่กินแบบนี้ทฤษฎีของกูบอกว่า..." โจ้พูด "ว่า...." กิ๊กกับเป้ก็รอลุ้นคำตอบไปด้วย "มันอกหัก" โจ้ตอบ "ถุ้ย" ทั้งสองคนส่ายหน้าทันทีที่ได้ยินคำตอบจากโจ้ "เอ้า! ทำไมว่ะ" โจ้ถาม "คนอย่างไอ้ลมเนี่ยนะอกหัก" เป้พูด "เออ ถ้าเป็นคนเจ้าชู้อย่างมึงล่ะกูค่อยเชื่อหน่อย" กิ๊กพูด "อะไรของพวกมึงว่ะกูก็เพื่อนพวกมึงป่ะ" โจ้ตอบพร้อมเบะปากทำหน้างอน "เย็นแล้วกลับกันเลยป่ะ" กิ๊กถาม "กลับเลยก็ได้นะ มึงจะกลับกับกูป่ะกิ๊ก" เป้ถาม "เอาดิ" กิ๊กตอบ "มึงอ่ะไอ้ลม" เป้ถาม "พวกมึงไปก่อนเลย" สายลมตอบ "อ้าวแล้วไม่กลับพร้อมพวกกูเหรอ" โจ้ถาม "ไม่อ่ะพวกมึงไปกันเลย" สายลมตอบ "งั้นพวกกูไปก่อนนะ" เป้พูด "อืม" สายลมตอบ "เจอกันเว้ย" . . เกรซนั่งวินมอไซค์รับจ้างมาส่งที่หน้าคอนโดและเมื่อเธอชำระเงินค่าโดยสารเสร็จหันมาก็เจอเข้ากับสายลมที่ยืนกอดอกพิงรถรอเธออยู่ "เฮ่อ~" เกรซถอนหายใจออกมาแช้วเดินเข้าไปหาเขา "นายมาทำไม" เกรซถาม "ทำไมวันนี้พี่หายไปเลยล่ะ" สายลมถาม "งานฉันยุ่งมาก" เกรซตอบ "แล้วพี่ไม่เห็นข้อความของผมเหรอ" สายลมถาม "เห็นแล้ว" เกรซตอบ "ทำไมพี่ไม่ตอบผมเลยล่ะรู้ไหมว่าผมเป็นห่วงพี่มากแค่ไหน" สายลมพูด "ก็บอกว่างานยุ่งไง! ไม่มีอะไรแล้วใช่ป่ะฉันจะได้ขึ้นห้อง" เกรซตอบ "เดี๋ยวดิพี่" สายลมรีบคว้าข้อมือของเกรซไว้แต่เมื่อเจอสายตาไม่พอใจจากเกรซเขาก็ปล่อยมือออก "มีอะไร" เกรซถาม "พี่โกรธอะไรผมหรือเปล่า" สายลมถาม "เปล่า" เกรซตอบ "แล้วทำไมพี่ต้องหลบหน้าผมด้วยล่ะ" สายลมถาม "ฉันไม่ได้หลบหน้าแต่ทำไมฉันต้องอยู่คุยกับนายต่อด้วยในเมื่อฉันไม่ได้อยากรู้จักอะไรนายเลยสักนิด" เกรซตอบ "พี่ไม่ชอบผมขนาดนั้นเลยเหรอ" สายลมถาม "ใช่!" เกรซตอบเสียงดังทำเอาสายลมหน้าชาไปเลย ตืด ตืด ตืด (เสียงโทรศัพท์เข้า) เกรซละสายตาจากสายลมแล้วเปิดกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เธอถอนหายใจออกมาทีนึงก่อนจะกดรับสาย "ฮัลโหลแม่" "พี่เกรซพี่ช่วยแม่ด้วยพี่" เสียงน้องชายพูดออกมาด้วยความสั่นกลัวจนเกรซตกใจ "มีอะไรกล้าแม่เป็นไร" เกรซถาม "แม่..แม่โดนพวกเสี่ยเป้าจับตัวไปแล้วพี่เกรซ" กล้าตอบ "ฮะ!" "ผมกับพี่กรีนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ไอ้เสี่ยเป้ามันบอกว่าถ้าแม่ไม่เอาตังค์ไปใช้หนี้มันมันจะซ้อมแม่ให้ตายเลย" กล้าพูด "แกสองคนรอพี่อยู่ที่บ้านนะเดี๋ยวพี่ไปหาแม่เอง" พูดจบเกรซก็วางสายไปทำที "มีอะไรพี่" สายลมถามด้วยความเป็นห่วงแต่เกรซไม่ตอบแล้วรีบเดินออกไป "ไปไหนอ่ะ" สายลมถามแล้วรีบจับแขนเกรซเอาไว้ "ปล่อยนะ! ฉันจะรีบไปเรียกรถ" เกรซสบัดออกอย่างแรงโดยไม่ตั้งใจเพราะเธอกำลังรีบอยู่ "พี่จะไปไหนเดี๋ยวผมไปส่ง" สายลมพูด เกรซหยุดคิดชั่งใจแป๊ปนึง "เรียกรถตอนนี้น่าจะยากนะให้ผมไปส่งดีกว่า" สายลมพูด "ก็ได้" เกรซตอบแล้วรีบเดินอ้อมไปขึ้นอีกฝั่งจากนั้นทั้งคู่ก็ออกจากคอนโดของเกรซไปทันที สายลมขับมาตามทางที่เกรซบอกจนตอนนี้มันออกมาแถวชานเมืองแล้วแต่เขาก็ยังไม่กล้าถามว่าเกรซจะให้เขาพาไปไหนเพราะเห็นสีหน้าของเกรซไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เขาขับมาเรื่อย ๆ จนถึงบ้านสิงชั้นหลังนึงขนาดใหญ่พอสมควร "พี่-" ยังไม่ทันได้พูดอะไรเกรซก็รีบปลดเข็มขัดแล้วเปิดประตูลงจากรถไปด้วยความรวดเร็วทำให้สายลมต้องรีบตามเธอไป "ฉันมาเสี่ยเป้า" เกรซพูดกับชายหนุ่มสองคนที่ยืนดูดบุหรี่ท่าทางดูเหมือนนักเลง "กว่านะมานะมึง" ชายหนุ่มคนนึงพูดขึ้น "ปล่อยให้เสี่ยเขารอตั้งนานเลยนะ" ชายอีกคนพูด "ก็มาแล้วนี่ไง" เกรซตอบ ยังปากแจ๋วเหมือนเดิมเลยนะ" ลูกน้องของเสี่ยเป้าทำท่ายกมือขึ้นมาจะจับคางเกรซแต่สายลมรีบเดินเข้าไปปัดมือเขาออกก่อน "ทำไรอ่ะ!" สายลมถามเสียงแข็งทำให้ชายคนนั้นรู้สึกไม่พอใจ "แล้วมึงเสือกอะไรว่ะ" ชายคนนั้นตอบพร้อมกับใช้มือหลังที่ไหล่ของเกรซ "เฮ้ย! อย่านะ" เกรซรีบเดินเข้ามายืนบังสายลมไว้ทันทีเพราะๆม่อยากให้เขาต้องมาเดือดร้อนเพราะตัวเอง "หน้าตัวเมียจริง ๆ หลบหลังผู้หญิง ฮ่า ๆ ๆ" พอสายลมได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งทำให้รู้สึกโกรธจนจะพุ่งไปใส่สองคนต้องหน้าแต่เกรซก็ดันเขาเอาไว้ก่อน "ไม่ ๆ สายลมใจเย็น ๆ" เกรซพูดเพื่อให้เขาสงบสติอารมณ์ตัวเองไว้เพราะยังไงซะที่นี่ก็เป็นที่ของเสี่ยเป้า "ทำไม จะเอาเหรอ" ลูกน้องเสี่ยเป้าถาม "ฉันมาหาเสี่ยเป้าแล้วแต่ถ้าพวกนายไม่ให้ฉันเข้าไปก็ไปบอกเสี่ยเป้าเองนะ" เกรซพูด ลูกน้องสองคนมองหน้ากันแล้วถอยออกไปให้เกรซกับสายลมเดินเข้าไปหาเสี่ยเป้าในบ้าน เกรซยื่นมือไปจับมือสายลมให้เดินตามเธอเข้าไปเพราะไม่กล้าปล่อยเขาไว้คนเดียวกลัวสายลมจะคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้จนทำให้พวกเขามีเรื่องกันในที่สุด สายตาของสายลมยังคงมองจ้องไปที่ลูกน้องของเสี่ยเป้าทั้งสองคนจนเกรซต้องออกแรงดึงเขาให้เดินตาม "มันทำแบบนี้กับพี่ตลอดเลยเหรอ" สายลมถามอย่างหงุดหงิดที่เห็นเกรซยอมให้คนแบบนั้น "ช่างมันเถอะ นายอ่ะอย่าไปมีเรื่องกับคนแบบนั้นให้เดือดร้อนเลย" เกรซตอบ "แต่ว่า-" สายลมกำลังจะพูดแต่ว่าพวกเขาเดินมาถึงห้องรับแขกของบ้านนี้แล้วซึ่งในห้องนี้มีเสี่ยเป้า แม่ของเกรซและลูกน้องของเสี่ยเป้าอยู่รวมกัน 5 คนเลย ทุกคนดูน่ากลัวตัวใหญ่เหมือนพวกนักเลงมาก "มาแล้วเหรอ" เสี่ยเป้าพูด เกรซหันไปมองแม่ที่นั่งหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมอยู่แล้วถอนหายใจออกมา "ทำไมเสี่ยทำแบบนี้ล่ะ" เกรซถาม "ก็แม่แกเป็นหนี้เสี่ยถ้าฉันไม่ทำแบบนี้แกจะโผล่หัวมาใช้หนี้ให้มันไหม" เสี่ยเป้าตอบ "ฉันก็โอนจ่ายให้เสี่ยอยู่ทุกเดือนหนิ" เกรซพูด "ถ้าจ่ายทุกเดือนเสี่ยจะจับมันมาไหมล่ะ" เสี่ยเป้าตอบ เกรซชะงักไปแป๊ปนึงก่อนจะหันไปมองแม่เธออีกครั้งและครั้งนี้แม่ของเธอก็หลบตาเธอด้วย "นอกจากอีแก้วมันจะขาดส่งแล้วเมื่อ 4 เดือนก่อนมันยังมาเอากับเสี่ยเพิ่มไปอีกแสนนึงด้วย" เสี่ยเป้าพูด "แสนนึง!" เกรซอุทานออกมาด้วยความตกใจ "แม่ทำอะไรอ่ะ" เกรซถามด้วยความโกรธ "ก็ไอ้กรีนมันอยากได้รถขับไปเรียนกูก็เลยมาเอาเงินเสี่ยไปดาวน์ให้มัน" แก้วตอบ "แล้วแม่ไม่คิดจะปรึกษาฉันเลยสักนิดเหรอ" เกรซถาม "ถ้ากูถามมึงก็ว่ากูนะสิ" แก้วตอบ "แล้วพอแม่เดือดร้อนใครเป็นคนซวย...ไม่ใช่ฉันเหรอ!" เกรซพูด "เสี่ยไม่ได้เรียกให้พวกแกมาคุยกันนะ" เสี่ยเป้าพูดขัดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนคุยกันคนละประเด็นกับที่เขาต้องการแล้ว "ตอนนี้หนี้มันเท่าไหร่แล้วนะเสี่ย" เกรซถาม "สองแสนห้าแล้ว" เสี่ยเป้าตอบ "สองแสนห้า! เสี่ยจะบ้าเหรอสองแสนห้าอ่ะ" เกรซพูด "มึงเอาบัญชีให้มันดูสิ" เสี่ยเป้าหันไปบอกลูกน้องให้เอาสมุดบันทึกให้เกรซดูและเมื่อเธอเห็นก็ถึงกับช็อคไปเลยเพราะว่าเงินที่เธอส่งให้แม่เอามาใช้หนี้ทุกเดือนนั้นมันกลายเป็นว่ามันช่วงขาดส่งหลายช่วงมากบางเดือนก็เอามาส่งน้อยกว่ายอดเงินที่เธอโอนมา "แม่ทำแบบนี้ทำไมอ่ะ" เกรซถามแต่แม่ของเธอไม่ยอมตอบ "ฉันส่งเงินให้แม่ทุกเดือนแต่แม่กลับไม่เอามาส่งเขาเยี่ยนะ บางเดือนแม่ก็ส่งแค่ดอกเบี้ยไม่ยอมส่งต้นแล้วแบบนี้หนี้มันจะลดได้ไงอ่ะแม่ แม่ทำอะไรเคยนึกถึงใจฉันบ้างป่ะ" เกรซพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ จนสายลมรู้สึกสงสาร เขายกมือขึ้นมาโอบไหล่แล้วลูบหลังเธอเบา ๆ "กูผิดเอง กูขอโทษ" แก้วตอบ "แม่ก็พูดแบบนี้ตลอดอ่ะ" เกรซพูด "ไม่ว่ายังไงวันนี้เสี่ยต้องได้เงินจากอีกแก้วครี่งนึงไม่งั้นเสี่ยไม่ยอมแน่" เสี่ยเป้าพูด "ครึ่งนึงฉันจะไปหาจากไหนอ่ะเสี่ย" เกรซพูด "เสี่ยไม่รู้ มันไม่ใช่หน้าที่เสี่ย" เสี่ยเป้าตอบ "ถ้าฉันจะขอจ่ายก่อนแค่ห้าหมื่นได้ไหมแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะรีบไปหามาให้เสี่ยอีกห้าหมื่น" เกรซพูด "เสี่ยเชื่อนะว่าเกรซทำได้แต่เสี่ยไม่เอา" เสี่ยเป้าตอบ "เงินเดือนมึงตั้งเกือบครึ่งแสนทำงานมาก็หลายปีเงินแค่แสนเดียวมึงจะไม่มีเลยรึ" แก้วพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจเพราะคิดว่าลูกสาวกำลังหวงเงินมากกว่าเธอ "ฉันทำงานมาได้ก็ต้องเลี้ยงดูแม่กับน้องไหม หนี้สินแต่ละอย่างก็ไม่ใช่น้อย ๆ ถ้าฉันไม่มีภาระอะไรเลยป่านนี้ฉันรวยไปแล้ว" เกรซตอบ "อีเกรซ! นี่มึงว่ากูเป็นภาระเหรอ กูแม่มึงนะ" แก้วตะคอกเสียงดัง "ดอกเบี้ยโหดขนาดเนี่ยมันผิดกฏหมายนะครับ" สายลมพูดหลังจากเงียบมาตลอด เสี่ยเป้าหรี่ตามองไปที่เขา "เอ็งเป็นใครว่ะว่ายุ่งเรื่องของเสี่ยอ่ะ" เสี่ยเป้าถาม "ผมก็แค่พูดตามหลักกฎหมายครับ" สายลมตอบ "ลม ไม่เอา" เกรซหันมากระซิบบอกลมเบา ๆ "อีกแก้วมันเซ็นต์สัญญากู้ยืมกับเสี่ยไว้แล้ว มันเขียนยอมรับดอกเบี้ยด้วยตัวของมันเองเสี่ยไม่ได้ไปบังคับให้มันมากู้หนิ" เสี่ยเป้าพูด "แต่ผมว่าแบบนี้มันก็เกินไปครับ พูดก็พูดเถอะแบบนี้ผมเรียกหากินง่าย ๆ บนความลำบากของคนอื่น" สายลมตอบ "ลม!" เกรซบีบแขนสายลมไว้แน่นเพื่อบอกให้เขาหยุด "มึงห้าวมาจากไหนว่ะไอ้สัตว์!" ลูกน้องของเสี่ยเป้ายกมือชี้หน้าสายลมด้วยความไม่พอใจ "ใจเย็น!" เสี่ยเป้ายกมือห้ามลูกน้อง "ลมเขายังเด็กไม่รู้เรื่องฉันต้องขอโทษเสี่ยแทนเขาด้วย" เกรซรีบหันไปพูดกับเสี่ยเป้าอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าเขาจะโกรธสายลมแล้วสั่งให้ลูกน้องมาจัดการ "พี่เกรซ" สายลมรู้สึกหงุดหงิดที่เกรซยอมลงให้พวกเสี่ยเป้าอีกแล้ว "หยุด!" เกรซหันมาดุสายลมด้วยน้ำเสียงจริงจัง "วันนี้ฉันมีไม่ถึงจริงๆ แต่ฉันสัญญาว่าจะรีบหามาใช้เสี่ยให้ได้นะ ฉันรับรองว่าครั้งนี้ไม่มีขาดส่งอีกแล้ว" เกรซพูด "แล้วเกรซจะเอาอะไรมารับประกันให้เสี่ยล่ะ เสี่ยเบื่อจะให้โอกาสเกรซกับแม่แล้วนะ" เสี่ยเป้าถาม "ฉันจะเซ็นต์รับหนี้ไว้เอง" เกรซตอบ "พี่!" สายลมอุทานออกมาด้วยความตกใจแต่เกรซไม่มีท่าทีจะฟังเขาเลย "แบบนี้ได้ใช่ไหมจ๊ะเสี่ย" แก้วรีบถามทันที "ความจริงมันก็ได้แหละนะแต่แค่นี้มันไม่พอหรอก" เสี่ยเป้าตอบ "แล้วถ้า-" เกรซกำลังจะถามแต่ก็ถูกเสี่ยเป้าพูดขัดขึ้นมาก่อน "แต่ถ้าเกรซยอมรับข้อเสนอส่วนตัวที่เสี่ยเคยให้ไว้ล่ะก็เสี่ยจะยอมลดหนี้ให้ครึ่งนึงและไม่คิดดอกเบี้ยหนี้ที่เหลือกับเกรซอีกเลย" เสี่ยเป้าพูดพร้อมส่งยิ้มเล่นหูเล่นตากับเกรซจนทำให้สายลมไม่พอใจ "ข้อเสนออะไร" สายลมถามเสี่ยเป้าด้วยน้ำเสียงแข็งก้าว "เรื่องนี้เอ็งก็ลองถามเกรซดูสิ" เสี่ยเป้าตอบและเมื่อสายลมหันไปมองหน้าเกรซก็เห็นว่าเธอมีความลังเลอยู่ไม่น้อย "มันคืออะไรพี่" สายลมถามแต่เกรซอึดอัดใจที่จะตอบเลยก้มหน้าหนีแทน "อย่าบอกนะว่าเรื่องแบบนั้นอ่ะ" สายลมพูด เกรซพยักหน้าตอบเบา ๆ "ฮะ! จะบ้าเหรอพี่" สายลมพูดเสียงดังด้วยความโกรธ "ฉันก็ยังไม่ได้ตกลงป่ะ" เกรซตอบ สายลมหันหน้าไปมองเสี่ยเป้าอย่างเอาเรื่องจนเสี่ยเป้ารู้สึกไม่ถูกชะตากับเขาเลย "มองทำไม ไม่พอใจเหรอ ว่าแต่เอ็งมีสิทธิ์อะไรมาไม่พอใจเสี่ยล่ะ" เสี่ยเป้าถาม "แก่แล้วยังทำตัวน่ารังเกียจ" คำตอบของสายลมทำเอาเสี่ยเป้าไม่พอใจมาก ๆอ้อมกอดอันแนบแน่นค่อย ๆ คลายลงทั้งสองคนผละออกจากกัน ใบหน้าหวานซึ้งของเกรซยังคงมีร่องรอยของความตกใจอยู่นิดหน่อยแต่ก็เจือด้วยรอยยิ้มอบอุ่น สายลมมองหน้าเกรซด้วยแววตาเปี่ยมสุข"ทำไมวันนี้ถึงว่างมาหาได้ล่ะ" เกรซถามขึ้นด้วยความสงสัยเพราะเมื่อคืนที่คุยโทรศัพท์กันสายลมยังดูยุ่งอยู่เลย"ก็ผมคิดถึงพี่อ่ะ" "หายไปตั้งนานเพิ่งคิดถึงเองเหรอ""ผมคิดถึงตลอดเวลาเลยต่างหาก""พูดอะไรบ้า ๆ " เกรซหัวเราะเบาๆ "ไปกันเถอะ หิวแล้วง่าาา~" เกรซทำหน้าอ้อนสายลมเพราะเธอยังไม่ได้ทานอะไรมาจริง ๆ จนสายลมอดอมยิ้มออกมาไม่ได้"โอเค เดี๋ยววันนี้ผมเลี้ยงพี่เต็มที่เลย" สายลมจอดรถเสร็จเขาก็รีบลงมาเปิดประตูรถให้เกรซทันทีเพราะเธอมัวแต่เติมหน้าอยู่"สวยแล้วครับ""อย่ามาโกหก วันนี้งานฉันเต็มโต๊ะเดินหัวหมุนตั้งแต่เช้า ดูสิหน้าซีดมากเลยเห็นไหม""พี่ไม่แต่งหน้าก็สวยเฮอะ" เกรซลงลิปสีอ่อนไม่ฉูดฉาดจากนั้นก็"เสร็จแล้ว ป่ะ!" เกรซก้าวลงจากรถพร้อมหันหน้าสวย ๆยื่นไปให้สายลมดู"สวยยัง"สวยแล้วครับ" ทุกครั้งที่เธอได้ยินคำชมจากสายลมเธอจะรู้สึกดีมาก ๆ เสมอแม้ว่าเขาจะพูดมันออกมาบ่อยครั้งแต่เธอก็ยังชมที่ได้ฟังทุกครั้งไป บรรยากาศในร้านอบ
ก่อนจบงานเลี้ยงสายลมแอบปลีกตัวออกมาจากพื้นที่จัดงานก่อน เขามุ่งตรงไปยังลานจอดรถเพื่อไปยืนรอครอบครัวที่นั้นอยู่กับคนขับรถแม้จะรู้ดีว่าการกระทำนี้อาจไม่เหมาะสมนักแต่เขาก็อยากหลีกเลี่ยงสถานการณ์อึดอัดให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้และถ้าเขายังขืนอยู่ในนั้นต่อไปก็อาจถูกบีบบังคับให้ต้องหักหน้าทุกคนอีกครั้ง ไม่นานนักพศินก็เดินตามออกมาพร้อมกับกานดาหลังจากกล่าวลากับสุรศักดิ์และมินตราด้วยสีหน้าบึ้งตึงคิ้วขมวดเข้าหากันบ่งบอกถึงความไม่พอใจ "แกทำอะไรลงไป!" พศินเอ่ยเสียงเข้มพยายามกดเสียงให้ต่ำที่สุดเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยินแต่ก็ยังแฝงไว้ด้วยโทสะ "ทำไมไม่อยู่ลาคุณสุรศักดิ์กับฉันก่อน ที่นี่มันใช่ที่ที่แกจะมาทำตัวแบบนี้ไหม ฮะ!" สายลมนิ่งเงียบ เขาไม่รู้จะตอบอะไรออกให้ในสถานการณ์เช่นนี้มันดีขึ้นจึงทำได้แต่ฟังพ่อของเขาต่อว่าต่อไป"แกรู้ไหมว่าแกกำลังหักหน้าฉัน! หักหน้าคุณสุรศักดิ์! ต่อหน้าทุกคนอยู่และการที่แกทำแบบนี้มันทำให้คุณสุรศักดิ์ไม่พอใจมากแค่ไหนแกเคยรับรู้บ้างไหม" ขณะที่พศินกำลังระบายความโมโหกับลูกชายที่เอาแต่เงียบเหมือนคนไม่รับรู้อะไรกานดาก็รีบเข้ามาห้ามทัพไว้ก่อนโดยเธอจับที่แขนพศินเบา ๆ พร้อมกับส่ายห
ดนตรีบรรเลงในงานเลี้ยงช่วยให้สายลมรู้สึกผ่อนคลายขึ้นบ้างและว่าแม้กายเขาจะอยู่ในงานแต่ใจกลับล่องลอยไปไกลแสนไกลถึงเกรซที่นอนหลับไหลอยู่ที่คอนโดของเธอ งานเลี้ยงนี้้คือภารกิจที่เขาถูกพศินผู้เป็นพ่อบังคับให้มาเพื่อพบปะพูดคุยกับมีนคู่หมั้นในวัยเยาว์ ความสัมพันธ์ที่ถูกผูกมัดไว้ด้วยคำมั่นสัญญาของผู้ใหญ่ตั้งแต่ทั้งคู่ยังจำความไม่ได้ด้วยซ้ำ มีนในวันนี้เติบโตเป็นสาวสะพรั่งเธอพยายามส่งยิ้มและแววตาหวานมาให้เขาตลอดซึ่งสายลมก็ดูออกนะแต่แสร้งทำเป็นไม่สนใจไปงั้น ขณะที่สายลมกำลังจมดิ่งอยู่กับตัวเองเสียงทุ้มแหบห้าวของสุรศักดิ์พ่อมีนก็ดังขึ้นเหมือนต้องการเรียกดึงเขาให้กลับมาสนใจบทสนทนาตรงหน้า"โตเป็นหนุ่มแล้วสินะเรา" สุรศักดิ์เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม "จำได้ไหม เมื่อก่อนสมัยเด็ก ๆ เราชอบมาเล่นซ่อนแอบกับมีนแล้วก็สายหมอกด้วยกันที่นี่บ่อย ๆ" บทสนทนาเริ่มต้นด้วยเรื่องราวในอดีตที่สดใส ทว่าแววตาของสุรศักดิ์กลับฉายแววบางอย่างที่อ่านได้ยากคล้ายกับกำลังต้องการรือฟื้นความทรงจำในวัยเด็กของพวกเขาเพื่อการบางอย่าง พศินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพยายามส่งสายตาคมกริบมาข่มขู่สายลมตลอดเหมือนต้องการบอกให้เขาตอบคำถามทุกค
บรรยากาศภายในรถเงียบสงบแต่ดูอึมครึมมากทั้งพศินและสายลมเหมือนกำลังแผ่รังสีใส่กันอยู่ตลอดเวลาจนคนบนรถทุกคนได้รับผลกระทบความกดดันจากพวกเขาไปพร้อม ๆ กัน สายฟ้าล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาโทรหาภรรยา"ค่ะ""ผมจะถึงแล้วนะ""ได้ค่ะเดี๋ยวดาออกไปรับนะคะ""ผมโทรบอกดาแล้วนะครับพ่อ ฟังจากเสียงรอบข้างตอนนี้น่าจะมีคนถึงงานกันบ้างแล้ว""อืม จริง ๆ วันนี้แกน่าจะให้หนูมุกดามาพร้อมพวกเรานะจะได้ดูไม่น่าเกียจ""ผมบอกแล้วครับแต่ดาเขาอยากมาช่วยดูแลความเรียบร้อยในงานให้ที่บ้านก่อนก็เลยขอกลับไปนอนบ้าน 2 วันแล้ว" "ช่วยทำตัวเป็นสามีที่ดีหน่อยนะเพราะถ้าเกิดหนูดาเขาทนแกไม่ไหวขอหย่าเมื่อไหร่แกเจอฉันเล่นแน่""ครับพ่อ" สายลมเบะปากเล็กน้อยเพราะรู้สึกแย่กับคำที่พ่อสอนพี่ชายทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ยังเป็นสามีที่ดีไม่ได้แต่กลับสอนให้ลูกเป็นสามีที่ดีให้กับคนที่ลูกไม่ได้เลือกด้วยซ้ำบ้านสุขนิรันดร์"คุณแม่ขาเดี๋ยวดาขอตัวออกไปรับพี่สายฟ้าก่อนนะคะ""จ่ะ รีบมานะ""ค่ะ""ให้มีนไปเป็นเพื่อนไหมคะพี่ดา""ไม่เป็นไรจ่ะ" มุกดาลุกออกจากโต๊ะเพื่อไปรอรับครอบครัวสามีที่กำลังจะมาถึง ไม่นานรถตู้สีดำเงาสวยราคาแพงก็ขับเข้ามาจอดในบ้านโด
สายลมนอนแผ่อยู่บนเตียงด้วยความเบื่อหน่าย เขารู้สึกอึดอัดและคิดถึงเกรซมากจนไม่อยากทำอะไร 5 วันที่ผ่านมาที่เขาต้องอยู่คนเดียวทำได้แค่โทรคุยกับเกรซบ้างหลังเธอเลิกงานและนั่นเป็นความสุขเดียวของเขาในตอนนี้เลย เขารู้สึกซึ้งใจมาก ๆ ที่เวลาเกรซโทรมาแล้วถามถึงปัญหาที่เขาเจอ เธอพยายามช่วยเขาคิดวิธีแก้ไขทุกอย่างเพราะยังเข้าใจอยู่ว่าที่สายลมหายไปเป็นเพราะปัญหาธุรกิจจริง ๆ สายลมทั้งซึ้งใจและรู้สึกผิดอยู่นัย ๆ ที่ต้องโกหกเกรซแบบนี้บางทีเขาก็แอบน้ำตาไหลออกมาเลย เขาอยากพุ่งเข้าไปในโทรศัพท์แล้วดึงเกรซเข้ามากอดให้หายคิดถึงพร้อมกับสารภาพทุกอย่างอย่างจริงใจแต่เขาก็ทำไม่ได้ตืด ตืด ตืด (เสียงโทรศัพท์)สายลมรีบลุกขึ้นคว้าโทรศัพท์ด้วยความดีใจเพราะคิดว่าเกรซโทรมาแต่เมื่อเห็นชื่อปลายสายเป็นพ่อตัวเองเขาก็หุบยิ้มทันที"ครับ""พรุ่งนี้บ่าย 3 มาที่บ้านด้วยอย่าสายล่ะ""พ่อมีอะไรหรือเปล่าครับ""ไม่มีฉันจะโทรตามแกเหรอ! มาให้ตรงเวลาด้วยอย่าให้ฉันต้องรอแกนะ""เฮ่อ~ ครับ" สายลมรับปากทั้ง ๆ ที่ในใจอยากจะปฏิเสธมากและทันทีที่วางสายพ่อไปเกรซก็โทรเข้ามาหาเขาทันที"ฮัลโหลครับ""เมื่อกี้โทรไปแล้วติดสาย...คุยกับใครอยู่เหรอ""ผม
ผมขึ้นมาบนรถคิดทบทวนก่อนว่าจะเอายังไงต่อดีเพราะขืนวันนี้ผมกลับไปคอนโดพี่เกรซพ่ออาจจะรู้ได้ในไม่ช้าแน่ว่าผมกำลังคบกับใครอยู่เพราะผมมั่นใจว่ายังไงซะช่วงนี้พ่อต้องให้คนคอยติดตามดูผมแน่ ๆ จนกว่าเขาจะมั่นใจว่าผมไม่มีใครจริง ๆ ถึงจะเลิกตาม ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาพี่เกรซทันทีและระหว่งรอสายอยู่ผมก็มองออกไปด้านนอกเห็นบอดี้การ์ดของพ่อหลายคนแอบเหช่มองมาที่รถผมเป็นระยะ"ฮัลโหล" เสียงอันสดใสของพี่เกรซช่วยฮีลใจผมจากการมีปากเสียงกับพ่อไปเมื่อกี้ไม่น้อยเลย"พี่ทำอะไรอยู่อ่ะ" ผมไม่รู้จะเริ่มเข้าประเด็นจากตรงไหนเลยพยายามหาเรื่องอื่นคุยก่อน"ก็ทำงานน่ะสิมีอะไรหรือเปล่า" "คือ...วันนี้...""เป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย" "เปล่าครับ ผมแค่จะโทรมาบอกอ่ะว่าวันนี้ผมคงไม่ได้กลับไปทานข้าวกับพี่แล้ว""ทำไมอ่ะ""ผมมีธุระต้องจัดการนิดหน่อย...อาจจะ...ไม่ได้ไปหาพี่สักพัก" แม้ว่าการพูดออกไปตรง ๆ สำหรับใครมันอาจจะไม่ได้ยากแต่สำหรับผมมันยากมากเพราะผมรู้จักพี่เกรซดี เธอเป็นคนคิดมาก ความใจดีของเเธอถ้ามีให้กับผมมันจะทำให้เธอลำบากซะเอง ผมรู้ว่าถ้าผมสารภาพกับพี่เกรซตรง ๆ พี่เกรซต้องเข้าใจผมแน่และเธออาจยอมทำให้สิ่งที่ผมไม่ต้องกา