เกรซเป็นเลขาสาวดาวรุ่งที่ทำงานดีมาก ๆ ทุกคนในบริษัทต่างก็ชื่นชมเธอเพราะเธอเป็นคนเก่งและถึงแม้ภายนอกเธอจะดูสมบูรณ์แบบมากแค่ไหนแต่ในชีวิตจริงของเธอนั้นกลับไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรเลยโดยเฉพาะเรื่องความรักเพราะในวัย 30 นี้เพื่อน ๆ ของเธอต่างก็แต่งงานมีครอบครัวทำธุรกิจกันมากมายแต่เธอกลับยังเป็นคนโสดเพียงหนึ่งเดียวของกลุ่มอยู่เหมือนเดิมแถมหน้าที่การงานก็ไม่ได้ขยับขยายไปไหนอีกจนเธอเริ่มจะหมดไฟในตัวเองแล้วเหมือนกันแต่แล้ววันนึงเธอก็ดันพลาดท่าไปมีอะไรกับเด็กนักศึกษาที่อายุห่างกันเกือบ 10 ปีจนทำให้เขาเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเธอมากขึ้น ชายหนุ่มคนนึงที่ชีวิตแสนจะเพอร์เฟคได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตสาววัยทำงานอันแสนน่าเบืื่อของเธอให้มีสีสันและถึงแม้ว่าภาพที่จินตนาการไว้มันจะดูสวยงามแค่ไหนแต่มันก็ไม่ได้ง่ายเลยสำหรับคนสองคน
view more"อ้าว ชนนนนนนน"
"เย้~" ท่ามกลางบรรยากาศครึกครื้นที่บาร์แห่งหนึ่งกลุ่มเพื่อนสาวนัดรวมตัวกันเพื่อฉลองวันเกิดให้กับเกรซเลขาสาวดาวรุ่งสุดแกร่งที่ไม่ว่างานจะยากแค่ไหนก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้ "ฉลองให้อีเกรซที่อายุครบ 30 แล้วจ้า" แจนพูดพร้อมกับชูแก้วขึ้นมาอีกครั้ง "หู้วววววว~" เพื่อน ๆ ต่างพากันดื่มฉลองให้กับเกรซใหญ่เลยเพราะว่านาน ๆ จะได้รวมตัวกันได้ครบแก๊งค์สักที "แล้วนี่แกไม่คิดจะดื่มให้เพื่อนเลยหรือไง" แจนหันไปถามปานวาดที่เอาแต่นั่งยิ้มมองเพื่อน ๆ ดื่มมาตลอดทั้งคืน "ไม่เอาอ่ะพวกแกดื่มกันเลย" ปานวาดตอบ "แกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าวาด" เกรซถามด้วยความเป็นห่วงเพราะปกติแล้วปานวาดเองชอบดื่มอยู่พอสมควร "เปล่า~ ฉันก็แค่..." ปานวาดอมยิ้มออกมาเล็กน้อยจนเพื่อน ๆ ที่รอฟังคำตอบอยู่กับงงไปเลยจากนั้นเธอก็หันไปเปิดกระเป๋าแล้วหยิบบางอย่างออกมาโชว์เพื่อน ๆ ด้วยสีหน้ามีความสุข "ฉันท้องแล้วจ้า" ปานวาดพูดพร้อมโชว์ใบอัลตราซาวด์ให้เพื่อน ๆ ดู "อร๊ายยยยยยย" ทุกคนเผลอร้องกรี๊ดออกมาด้วยความดีใจและตกใจแต่โชคดีที่ในร้านเสียงดังเลยไม่เป็นที่สนใจมากนัก "แกท้องเหรอ" พีต้าถาม ปานวาดรีบพยักหน้าตอบทำให้พีต้าถึงกับรีบวางแก้วในมือลงแล้วเข้าไปสวมกอดเพื่อนรักด้วยความดีใจทันทีเพื่อจากนั้นเกรซกับแจนก็ตามเข้าไป "ฉันดีใจด้วยนะแกในที่สุดลูกแกก็มาสักที" พีต้าพูด "ฮือ~ จะร้องไห้แล้วนะ" ปานวาดตอบ เธอแต่งงานตั้งแต่อายุ 24 แล้วแต่ก็ยังไม่มีลูกสักทีแม้ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตามดังนั้นวันนี้เมื่อเพื่อน ๆ รู้ว่าเธอตั้งครรภ์จึงรู้สึกดีใจด้วยมาก ๆ จนน้ำตาแทบไหลกันเลย "ต่อไปนี้พีต้าก็จะได้เป็นลุงแล้ว" แจนพูดขัดเมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังเข้าสู่โหมดซึ้งมากเกินไปทำให้พีต้าดีดตัวขึ้นมาทันที "ลุงบ้าลุงบออะไรสวยขนาดนี้จ๊ะ" พีต้าว่าพร้อมส่งสายตาดุ ๆ ไปให้แจน "ล้อเล่น ๆ โอ๋ ๆ นะ" แจนตอบ "ไม่อยากจะเชื่อเลยอ่ะว่าพวกเรากำลังจะมีหลานกันแล้ว" เกรซพูด "นั่นสิ ดีใจว่ะ ฮือออออ~" แจนตอบ "อันนี้ก็ถือเป็นของขวัญให้แกด้วยนะเกรซ" ปานวาดพูด "โห~เป็นของขวัญที่มีค่ามากเลยว่ะ" เกรซตอบแล้วยื่นมือไปสัมผัสที่หน้าท้องของปานวาดเบา ๆ "ต่อไปนี้ลูกฉันก็เหมือนลูกแกแล้วนะ" ปานวาดพูด "จริง แกควรรับลูกยัยปานวาดเป็นลูกบุญธรรมแกนะ" พีต้าพูด "ทำไมอ่ะ" เกรซถาม "แกก็ลองดูตัวแกสิ" พีต้าตอบ เกรซก้มมองดูตัวเองทันทีด้วยความสงสัย " 30 แล้วนะเว้ย" เกรซถอนหายใจแล้วเงยหน้ากลับขึ้นมามองพีต้าด้วยสายตาเบื่อ ๆ เพราะเพื่อนของเธอมักจะพูดแบบนี้อยู่บ่อย ๆ "แกควรเลิกบ้างานแล้วสนใจตัวเองสักที แกอย่าลืมสิว่าผู้หญิงถ้าอายุมากขึ้นแล้วความพร้อมของร่างกายในการมีลูกมันก็จะน้อยลงหรือแกคิดจะอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต" พีต้าพูด "ใช่ รู้จักกันมาตั้งแต่มอปลายจนตอนนี้ก็ 30 กันแล้วฉันเพิ่งเคยเห็นแกมีความรักแค่ครั้งเดียวเองอ่ะแกอย่าปิดกั้นตัวเองนักเลยเกรซ ชีวิตคนเรามันไม่ได้มีแค่ทำงานหาเงินนะเว้ย" ปานวาดตอบ "ก็ฉันยังไม่อยากมีใครพวกแกจะมาบังคับฉันทำไมเนี่ย" เกรซตอบแล้วยกแก้วขึ้นมาดื่ม "อย่ามาทำเป็นพูดว่าไม่สนใจ แกคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าที่ผ่านมาแกแอบไปนัดบอร์ดอ่ะ" คำพูดของแจนทำให้เกรซชะงักไปเลย "ถ้าแกไม่สนใจแกจะเล่นแอพหาคู่ทำไม เรื่องแค่นี้แกไม่ต้องอายพวกฉันหรอกอีพีต้ามันเล่นตั้งไม่รู้กี่แอพมันยังไม่อายเลย" แจนพูด "หลายรอบแล้วนะมึงเนี่ย" พีต้าหันไปว่าแจนเบา ๆ "แล้วแกจะให้ฉันทำไงว่ะ ฉันก็ลองมาหลายครั้งแล้วอ่ะแต่มันยังไม่เจอคนที่ถูกใจสักทีเลย...ใครจะอยากโสดกันล่ะ" เกรซตอบ จริง ๆ แล้วที่ผ่านมาเธอก็พยายามเปิดโอกาสให้กับตัวเองมาตลอดแต่ผู้ชายหลายคนที่เธอคุยด้วยล้วนแล้วแต่ไม่ใช่ผู้ชายที่จะสามารถเดินต่อไปกับเธอได้ไม่ว่าจะด้วยเรื่องไลฟ์สไตล์หรือทัศคติก็ตามจนเธอเองก็รู้สึกท้อเหมือนกัน "เอางี้ไหมเดี๋ยวฉันจะให้แฟนฉันลองติต่อเพื่อนเขาที่โสดอยู่ให้แล้วแกก็ลองไปทำความรู้จักกับเขาดูเผื่อว่าถ้ามันคลิ๊กกันก็จะได้สานต่อ" แจนพูด "อุ๊ย! ดีนะ เพื่อนแฟนยัยแจนแต่ละคนมีแต่โปร์ไฟล์ดี ๆ ทั้งนั้นไม่แน่นะแกอาจได้กลายเป็นคุณหญิงคุณนายนั่งสวย ๆ อยู่ที่บ้านก็ได้" พีต้าพูด "แล้วเขาจะสนใจฉันเหรอว่ะ" เกรซถาม "ทำไมจะไม่สนใจ เพื่อนฉันสวยขนาดเนี่ยใครไม่เอาก็โง่แล้ว" แจนพูด "แต่ที่ผ่านมามันก็ไม่มีใครเอานะเว้ย" คำตอบของเกรซทำเอาเำื่อนทั้งสามคนหุบยิ้มทันที "อะ เอาหน่าก็ถือว่าที่ผ่านมาไอ้ผู้ชายพวกนั้นมันตาบอดแล้วกัน อย่าไปคิดมาก" แจนพูด "อืม ใช่ ๆ" พีต้าตอบ "มา ๆ ชนแก้วดีกว่า" แจนพูด "เอ้าชนนนนนน" ทุกคนดื่มฉลองกัรอย่างสนุกสนานจนเวลาก็เลยผ่านไปจนดึกทำให้สภาพของแต่ละคนอยู่ในอาการมึนเมากันไม่น้อยยกเว้นปานวาดแค่คนเดียว "ฮือ~ พวกแกไม่รู้หรอกว่าฉันอยู่คนเดียวเหงาแค่ไหน ใช่สิพวกแกมีแฟนกันหมดแล้วหนิ ไอ้เพื่อนนิสัยไม่ดีทิ้งฉันไปกันหมดเลย" เกรซตัดพ้อออกมาเบา ๆ ด้วยอาการเมาจนปานวาดที่นั่งฟังอยู่ถึงกับส่ายหัวมองดูด้วยความเอ็นดู จากนั้นไม่นานบรรดาแฟนหนุ่มของแจนกับพีต้าก็มารับพวกเธอที่ร้านทันทีเพราะปานวาดโทรไปบอกว่าทุกคนเมาหนักมาก "เกรซ...เกรซ" ปานวาดพยายามเรียกเกรซให้ลุกขึ้นเพื่อที่เธอจะได้พาเกรซไปส่งที่คอนโด "ฮื้มมม~" "กลับบ้านกันเดี๋ยวฉันไปส่ง" ปานวาดพูด "ม่ายเป็นไร~ พวกแกกลับไปเถอะเดี๋ยวฉันให้กล้ามารับเอง" เกรซตอบ "เดี๋ยวพวกฉันไปส่งก็ได้" ปานวาดพูด "ฉันบอกไอ้กล้ามันไปแล้วตั้งแต่ก่อนมามี่ร้านพวกแกกลับไปเถอะ" เกรซยังคงยืนยันคำเดิมจนปานวาดต้องหันไปมองปกรณ์แฟนหนุ่มของพีต้าที่ยืนรออยู่ "เอาไงดีคะพี่กรณ์" ปานวาดถามเพราะว่าคืนนี้เธอต้องติดรถกรณ์กลับไปเช่นกันเพราะเธอเองก็ไม่ได้เอารถมาด้วยทำให้กรณ์และพีต้าต้องช่วยดูแลเธอไปก่อนชั่วคราว "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะพีต้าก็ดูจะไม่ไหวแล้วด้วย" กรณ์ตอบ "ฉันอยู่ได้ไม่ต้องห่วงหรอกหน่า" เกรซตอบ "งั้นให้ฉันอยู่รอเป็นเพื่อนไหม" ปานวาดถาม "ไม่เป็นไรเกรงใจพี่กรณ์เขาแกพาพีต้ากลับไปเถอะเดี๋ยวฉันถึงบ้านแล้วจะโทรหา" เกรซตอบ "เอางั้นเหรอ" ปานวาดถาม "อื้ม" เกรซตอบ "งั้นฉันไปก่อนนะมีอะไรก็โทรหาฉันนะ" ปานวาดตอบ ความจริงเธอไม่อยากทิ้งเกรซไว้คนเดียวเลยแต่ว่าเธอเกรงใจกรณ์เลยจำเป็นต้องปล่อยเกรซไว้และอีกอย่างนึงคือปกติแล้วเกรซก็มักจะกลับเองคนเดียวอยู่แล้วโดยการเรียกรถไม่ก็ให้น้องชายอย่างกล้ามารับไปส่งที่คอนโดเธอจึงพอที่จะวางใจได้นิดหน่อยเมื่อเกรซบอกว่าจะให้กล้ามารับจากนั้นปานวาด กรณ์และพีต้าจึงได้เดินออกจาโต๊ะไป "น้องคะ" ปานวาดเรียกพนักงานที่กำลังเดินผ่านไปไว้ "คะ" พนักงานตอบ "พี่ฝากดูเพื่อนพี่หน่อยนะอีกเดี๋ยวน้องชายเขาจะมารับยังไงพี่ฝากน้องดูแลเพื่อนพี่สักแป๊ปนึงนะ" ปานวาดพูดพร้อมยื่นเงินจำนวน 2,000 บาทและนามบัตรของเธอให้พนักงานสาว "ถ้ามีอะไรก็โทรหาพี่ได้เลย" ปานวาดพูด "ได้ค่ะ" พนักงานตอบจากนั้นทั้งสามคนก็เดินออกไป เกรซเริ่มขยับตัวลุกขึ้นหลังจากที่นอนพักไปได้สัก 5 นาทีเธอเดินเซซ้ายเซขวาไปจนถึงห้องน้ำ "ทำไมวันนี้มันมึนจังว่ะ" เกรซพูดกับตัวเองหน้ากระจกแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหากล้า ตืด ตืด ตืด "นี่พี่จะโทรมาทำไมดึก ๆ ดื่น ๆ เนี่ยพรุ่งนี้ฉันมีเรียนตอนเช้า" กรีนรับโทรศัพท์พี่สาวด้วยความหงุดหงิดเพราะเกรซดันโทรมารบกวนตอนที่เธอกำลังนอนหลับอยู่ "กล้า~ มารับพี่ที่ร้านเดิมหน่อยดิพี่รู้สึกปวดหัวอ่ะ" เกรซตอบ "พี่ก็โทรไปบอกไอ้กล้าดิจะโทรมาหาฉันทำไม! แค่นี้นะ" พูดจบกรีนก็วางสายใส่เกรซทันที "คนจะหลับจะนอนโทรมาทำไมก็ไม่รู้" กรีนบ่นอย่างหัวเสีย "อะไรว่ะมารับแค่นี้ก็ไม่ได้" เกรซพูดจบก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องน้ำ "โอ๊ย!" ในขณะที่เธอเดินพ้นออกมาจากห้องน้ำหญิงเธอก็ชนเขากับใครคนนึงที่เดินออกมาจากฝั่งห้องน้ำชายเช่นกันโชคดีที่เขาช่วยรับเธอไว้ไม่งั้นด้วยสภาพเธอในตอนนี้คงต้องกระเด็นไปกองอยู่ที่พื้นแน่ "เป็นอะไรไหมครับ" ชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าตาดีเอ่ยถามเกรซด้วยความเป็นห่วง "ไม่เป็นไร ขอโทษนะ" เกรซตอบแล้วพยายามดันตัวเองออกจากชายหนุ่มซึ่งเขาก็เข้าใจดีเลยช่วยปล่อยเธอออก "คุณดูเมามากเลยให้ผมไปส่งที่โต๊ะไหมครับ" ชายหนุ่มถาม "ไม่เป็นไรอ่ะจะกลับละ โชคดีนะ บาย" เกรซตอบแล้วก็เดินออกไปแต่แค่เพียงเธอลองก้าวขาออกไปแค่ได้ข้างเดียวเธอก็เซจนเกือบล้มหน้าทิ่มทำให้ชายหนุ่มต้องรีบเข้าไปประคองไว้ด้วยความเป็นห่วง "เอ่อ...นี่คุณมากับใครครับให้ผมพาไปส่งที่โต๊ะดีกว่าไหม" ชายหนุ่มถาม "โอ๊ย~ คนอื่นมันกลับบ้านกับแฟนไปหมดแล้ว" เกรซตอบ "งั้นแฟนคุณล่ะครับให้ผมช่วยโทรตามให้ไหม" ชายหนุ่มถาม เกรซหันหน้าไปหาชายรุ่นน้องแล้วใช้มือจับหน้าของเขาไว้ "นายก็จะล้อฉันอีกคนเหรอฮะ!" เกรซถาม "ผมยังไม่ได้ล้ออะไรคุณเลยนะครับ" ชายหนุ่มตอบ "ใช่สิ! ฉันมันไม่มีใครเอาหนิ ฉันมันแก่ ฉันมันธรรมดา ฉันมันบ้างานวัยรุ่นอย่างพวกนายจะไปเข้าใจหัวอกคนวัย 30 อย่างฉันได้ไง" เกรซพูด "นี่พี่ 30 แล้วเหรอครับ" ชายหนุ่มถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ "นายจะว่าฉันแก่เหรอ" เกรซถาม "ผมไม่ได้หมายความอย่างงั้นซะหน่อย" ชายหนุ่มตอบ "ถอยไปเลย" เกรซพูดแล้วดันชายหนุ่มให้ถอยห่างออกไปแต่ด้วยร่างกายของเธอตอนนี้อ่อนแรงมาก ๆ ชายหนุ่มเลยไม่รู้สึกสะทกสะท้านเลยสักนิด "ผมขอโทษ ๆ เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมไปส่งพี่เป็นการไถ่โทษแล้วกัน โอเคไหม" ชายหนุ่มถาม "ฉันกลับเองไก้เดี๋ยวน้องชายฉันก็มารับแล้ว" เกรซตอบ "งั้นเดี๋ยวผมนั่งรอเป็นเพื่อนก็ได้ขืนผมปล่อยพี่ไปสภาพนี้เกรงว่าไม่น่าจะปลอดภัย" ชายหนุ่มพูดแล้วช่วยประคองพาเกรซออกไปนั่งรอหน้าร้าน "นี่มันจะชั่วโมงนึงอยู่แล้วนะทำไมน้องชายพี่ยังไม่มาอีกล่ะ" ชายหนุ่มถาม "ถ้ารอไม่ไหวก็ปลับไปก่อนดิเดี๋ยวฉันเรียกรถกลับเองก็ได้" เกรซตอบทั้ง ๆ ที่หัวยังซบอยู่ที่ไหล่ของชายหนุ่มอยู่เลย "ให้ผมไปส่งดีไหม พี่เป็นผู้หญิงแถมยังเมาอีกด้วยถ้าต้องนั่งรถกลับเองผมว่ามันอันตรายนะ" ชายหนุ่มถาม เกรซเงยหน้ามองชายหนุ่มแล้วยกมือขึ้นมาชี้หน้าเขา "นายหรือว่าคนขับรถกันแน่ที่อันตราย" เกรซถาม "ถ้าผมอันตรายจริงผมพาพี่ไปต่อตั้งแต่ที่หน้าห้องน้ำล่ะไม่มานั่งตากยุงอยู่เป็นเพื่อนพี่ตรงนี้หรอก" ชายหนุ่มตอบ "อาจเป็นเพราะฉันไม่ตรงสเปคนายก็ได้ ใครจะมาชอบผู้หญิงแก่ ๆ แบบฉันล่ะ" เกรซพูดตัดพ้อด้วยแววตาเศร้า ๆ "เพ้อเจ้อ พี่นั่งรอผมตรงนี้นะเดี๋ยวผมไปเอารถก่อน ห้ามไปไหนนะ!" พูดจบชายหนุ่มก็ลุกขึ้นเดินไปเอารถมารับเกรซแล้วขับพาเธอออกไป "บ้านพี่อยู่ไหนอ่ะ" ชายหนุมถาม "สระบุรี" เกรซตอบ "ฮะ!" ชายหนุ่มอุทานออกมาด้วยความตกใจ "นี่บ้านพี่อยู่สระบุรีเลยเหรอ" ชายหนุ่มถาม "ใช่" เกรซตอบ "ถ้าผมขับไปส่งพี่ที่สระบุรีแล้วแบบนี้ผมจะกลับถึงบ้านตัวเองกี่โมงเนี่ย" ชายหนุ่มพูด "แล้วนายจะไปส่วฉันที่สระบุรีทำไม" เกรซถาม "เอ้า! ก็ไหนเมื่อกี้พี่บ้านว่าบ้านพี่อยู่สระบุรีไง" ชายหนุ่มตอบ "บ้านเกิดฉันอยู่สระบุรีแต่ฉันย้ายออกมาอยู่คนเดียวนานแล้วจ่ะ" เกรซพูด "แล้วจะพูดเพื่อ" ชายหนุ่มถาม "ก็นายถามฉันเองหนิว่าบ้านฉันอยู่ที่ไหนฉันก็ตอบนายไปตรงๆ ยังจะมีหน้ามาบ่นอีก" เกรซตอบ "อ่ะ ๆ งั้นพี่จะให้ผมไปส่งที่ไหนล่ะ" ชายหนุ่มถาม "ที่คอนโด" เกรซตอบ "แล้วคอนโดพี่อยู่ที่ไหน" ชายหนุ่มถาม "ฉันไม่บอกที่อยู่ให้คนแปลกหน้าหรอกนะ มันอันตราย" เกรซตอบแล้วปรับเบาะลงเพื่อนอนให้สบายมากขึ้น "เอ้า! ไม่บอกแล้วผมจะรู้ได้ไงอ่ะ" ชายหนุ่มถาม สีหน้าของชายหนุ่มตอนนี้คืองงไปหมดแล้วเพราะเขาไม่รู้เลยว่าเกรซต้องการอะไรกันแน่แถมเจ้าตัวยังเมาคงคุยกันไม่รู้เรืื่องอีก "พี่...เฮ้ยพี่!" ชายหนุ่มพยายามเรียกเกรซให้ลุกขึ้นมาคุยกันดี ๆ "เบา ๆ ดิคนจะนอน" เกรซตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด "เอ้า! อะไรของเขาว่ะ ปรับเบาะกูอีก...แม่งคิดผิดคิดถูกเนี่ยที่ช่วยมา" ชายหนุ่มบ่นงึมงัมเบา ๆ ด้วยความสับสนว่าควรจะเอายังไงกับเกรซต่อดี"เมื่อไหร่มึงกับเมียมึงจะดีกันสักทีว่ะ" สายลมถามสายฟ้าด้วยความหงุดหงิดระหว่างที่กำลังนั่งรถไปรับมุกดากับมีนที่บ้านของพวกเขา"พวกกูไม่ได้ทะเลาะกัน""นี่มึงโง่จริงหรือแกล้งโง่กันแน่ว่ะ มึงดูไม่ออกเหรอว่าพี่มุกดาเขาน้อยใจมึงอยู่ เขารักมึงจะตายเคยยอมห่างมึงง่าย ๆ แบบนี้ที่ไหน คนอย่างมึงนอกจากพี่มุกดาแล้วชีวิตนี้เคยมีเรื่องดี ๆ กับเขาที่ไหนและถ้ามึงไม่อยากเสียพี่เขาไปก็รีบง้อเถอะจะอีโก้ไปทำไม กูดูออกนะว่ามึงเองก็รู้สึกดีกับพี่มุกดามาก ๆ อยู่กันมาตั้ง 3 ปีกว่ากูไม่เชื่อหรอกว่าที่มึงทำไปทั้งหมดเป็นเพราะคำสั่งพ่ออย่างเดียว""มึงเอาตัวมึงเองให้รอดเถอะไอ้ลม ไม่ต้องมาสอนกู" "อย่างน้อยกูก็กล้าเลือกทางของตัวเองไม่ฝืนใจทำอะไรตามคำสั่งพ่อไปหมดทุกอย่างเหมือนมึงหรอก""แล้วที่ต้องไปทะเลกับกูนี่ไม่ใช่ทำตามคำสั่งพ่อเหรอ" สายฟ้ามองเย้ยใส่เขา"ไอ้สัส!" สายลมสบถออกมาเบา ๆ แล้วหันหน้าหนีไปมองด้านนอกแทนรถขับมาจอดที่หน้าบ้านสุขนิรันดร์รอจนประตูใหญ่เปิดออกจึงไปขับต่อเข้ามาถึงตัวบ้าน ทั้งสองคนเดินลงมาจากรถเตรียมจะเดินเข้าไปไหว้ทักทายเจ้าของบ้านแต่ก็เจอกับกับมุกดาและมีนที่เดินออกมาพอดีพร้อมกับแม่บ้านที่ช่วยถือก
ทั้งคู่ต่อกันอีกสองยกจนหมดแรงพากันหลับไปในที่สุดตื่นมาอีกทีฟ้าก็มืดแล้ว สายลมกวาดตามองหาเกรซแต่ก็ไม่เจอเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาแต่เมืือเปิดหน้าจอถึงได้เห็นว่ามีสายเรียกเข้าจากพ่อของเขามากถึง 10 สานเขาเลยตั้งใจจะโทรกลับทันทีแต่ในขณะที่กำลังกดโทรกลับเกรซก็เปิดประตูเดินเช็ดผมเข้ามาในห้องสายลมเลยต้องรีบวางสายไปก่อน"ตื่นแล้วเหรอ""พี่ไปอาบน้ำมาเหรอ""อื้ม~ ไปอาบน้ำสิกับข้าวเสร็จหมดแล้วจะได้ไปกินพร้อมกัน""ครับ" สายลมตอบแล้วลงจากเตียงไปอาบน้ำทันที เกรซมองไปที่โทรศัพท์ของสายลมด้วยความสงสัยเพราะเมื่อกี้เธอเห็นจริง ๆ ว่าสายลมกำลังโทรหาใครบางคนอยู่แต่เมื่อเธอเปิดประตูเข้ามาเขากลับรีบวางสายทำตัวปกติทั้ง ๆ ที่สีหน้าดูมีพิรุธขนาดนั้นทั้งคู่นั่งทานข้าวด้วยกันเกรซก็พยายามเหล่มองเขาอยู่หลายครั้ง อยากจะเปิดประเด็นถามเรื่องเมื่อกี้แต่ก็ไม่กล้ากลัวเขาจะหาว่าเธอระแวงไม่เชื่อใจ "เดี๋ยวผมนี้ผมไปส่งพี่ที่ทำงานนะ""เอาสิ...แล้วจะมารับไหม""คงไม่ได้ไปอ่ะพอดีต้องกลับไปทำงานต่อที่บ้านแล้ว""หยุดพักแค่วันเดียวเองเหรอ" สายลมเห็นสีหน้าผิดหวังของเกรซก็รู้สึกผิดไม่น้อย"ใช่ ไว้วันหลังผมจะมาหาพี่ใหม่นะ""ทำไมฉ
สายลมก้าวช้า ๆ เข้ามาในห้องนอนด้วยจังหวะสม่ำเสมอ แขนแข็งแรงโอบประคองสะโพกกลมกลึงของเกรซไว้มั่น เกรซซบหน้ากับซอกคอของเขาอย่างออดอ้อน แขนเรียวโอบรัดรอบคอสายลม ขาเกี่ยวพันรอบเอวสอบของเขาไว้ราวกับจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของเธอที่คุ้นเคยปลุกเร้าความรู้สึกที่เก็บกดไว้มานานของสายลมได้เป็นอย่างดี ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดต้นคอของสายลมพร้อมกับเสียงกระซิบแผ่วเบา "คิดถึงจัง"สายลมค่อย ๆ วางเกรซลงบนเตียงอย่างอ่อนโยนก่อนจะช้อนใบหน้าหวานขึ้นมา ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่ฉ่ำปรือด้วยความคิดถึง เขาก้มลงจูบที่หน้าผากขาวทีนึงก่อนจะไล่ลงมายังพวงแก้มและสุดท้ายก็จรดลงที่กลีบปากอิ่มสีระเรื่อ รสจูบอ่อนหวานค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเร่าร้อนที่โหยหาริมฝีปากบดเบียดเข้ากันอย่างดูดดื่ม ลิ้นร้อนเกี่ยวพันหยอกล้อ ปลุกเร้าทุกโสตประสาทให้ตื่นขึ้นจนไออุ่นร้อนผ่าวแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กายของทั้งสองคน เกรซเลื่อนมือขึ้นลูบไล้โครงหน้าคมสันอย่างหลงใหลนิ้วเรียวไล้ไปตามสันกรามก่อนจะเกี่ยวรั้งท้ายทอยให้ใบหน้าของสายลมโน้มต่ำลงมาอีกครั้ง มือของสายลมเริ่มลูบไล้แผ่นหลังเนียนอย่างแผ่วเบา ผ่านเนื้อผ้าที่
อ้อมกอดอันแนบแน่นค่อย ๆ คลายลงทั้งสองคนผละออกจากกัน ใบหน้าหวานซึ้งของเกรซยังคงมีร่องรอยของความตกใจอยู่นิดหน่อยแต่ก็เจือด้วยรอยยิ้มอบอุ่น สายลมมองหน้าเกรซด้วยแววตาเปี่ยมสุข"ทำไมวันนี้ถึงว่างมาหาได้ล่ะ" เกรซถามขึ้นด้วยความสงสัยเพราะเมื่อคืนที่คุยโทรศัพท์กันสายลมยังดูยุ่งอยู่เลย"ก็ผมคิดถึงพี่อ่ะ" "หายไปตั้งนานเพิ่งคิดถึงเองเหรอ""ผมคิดถึงตลอดเวลาเลยต่างหาก""พูดอะไรบ้า ๆ " เกรซหัวเราะเบาๆ "ไปกันเถอะ หิวแล้วง่าาา~" เกรซทำหน้าอ้อนสายลมเพราะเธอยังไม่ได้ทานอะไรมาจริง ๆ จนสายลมอดอมยิ้มออกมาไม่ได้"โอเค เดี๋ยววันนี้ผมเลี้ยงพี่เต็มที่เลย" สายลมจอดรถเสร็จเขาก็รีบลงมาเปิดประตูรถให้เกรซทันทีเพราะเธอมัวแต่เติมหน้าอยู่"สวยแล้วครับ""อย่ามาโกหก วันนี้งานฉันเต็มโต๊ะเดินหัวหมุนตั้งแต่เช้า ดูสิหน้าซีดมากเลยเห็นไหม""พี่ไม่แต่งหน้าก็สวยเฮอะ" เกรซลงลิปสีอ่อนไม่ฉูดฉาดจากนั้นก็"เสร็จแล้ว ป่ะ!" เกรซก้าวลงจากรถพร้อมหันหน้าสวย ๆยื่นไปให้สายลมดู"สวยยัง"สวยแล้วครับ" ทุกครั้งที่เธอได้ยินคำชมจากสายลมเธอจะรู้สึกดีมาก ๆ เสมอแม้ว่าเขาจะพูดมันออกมาบ่อยครั้งแต่เธอก็ยังชมที่ได้ฟังทุกครั้งไป บรรยากาศในร้านอบ
ก่อนจบงานเลี้ยงสายลมแอบปลีกตัวออกมาจากพื้นที่จัดงานก่อน เขามุ่งตรงไปยังลานจอดรถเพื่อไปยืนรอครอบครัวที่นั้นอยู่กับคนขับรถแม้จะรู้ดีว่าการกระทำนี้อาจไม่เหมาะสมนักแต่เขาก็อยากหลีกเลี่ยงสถานการณ์อึดอัดให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้และถ้าเขายังขืนอยู่ในนั้นต่อไปก็อาจถูกบีบบังคับให้ต้องหักหน้าทุกคนอีกครั้ง ไม่นานนักพศินก็เดินตามออกมาพร้อมกับกานดาหลังจากกล่าวลากับสุรศักดิ์และมินตราด้วยสีหน้าบึ้งตึงคิ้วขมวดเข้าหากันบ่งบอกถึงความไม่พอใจ "แกทำอะไรลงไป!" พศินเอ่ยเสียงเข้มพยายามกดเสียงให้ต่ำที่สุดเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยินแต่ก็ยังแฝงไว้ด้วยโทสะ "ทำไมไม่อยู่ลาคุณสุรศักดิ์กับฉันก่อน ที่นี่มันใช่ที่ที่แกจะมาทำตัวแบบนี้ไหม ฮะ!" สายลมนิ่งเงียบ เขาไม่รู้จะตอบอะไรออกให้ในสถานการณ์เช่นนี้มันดีขึ้นจึงทำได้แต่ฟังพ่อของเขาต่อว่าต่อไป"แกรู้ไหมว่าแกกำลังหักหน้าฉัน! หักหน้าคุณสุรศักดิ์! ต่อหน้าทุกคนอยู่และการที่แกทำแบบนี้มันทำให้คุณสุรศักดิ์ไม่พอใจมากแค่ไหนแกเคยรับรู้บ้างไหม" ขณะที่พศินกำลังระบายความโมโหกับลูกชายที่เอาแต่เงียบเหมือนคนไม่รับรู้อะไรกานดาก็รีบเข้ามาห้ามทัพไว้ก่อนโดยเธอจับที่แขนพศินเบา ๆ พร้อมกับส่ายห
ดนตรีบรรเลงในงานเลี้ยงช่วยให้สายลมรู้สึกผ่อนคลายขึ้นบ้างและว่าแม้กายเขาจะอยู่ในงานแต่ใจกลับล่องลอยไปไกลแสนไกลถึงเกรซที่นอนหลับไหลอยู่ที่คอนโดของเธอ งานเลี้ยงนี้้คือภารกิจที่เขาถูกพศินผู้เป็นพ่อบังคับให้มาเพื่อพบปะพูดคุยกับมีนคู่หมั้นในวัยเยาว์ ความสัมพันธ์ที่ถูกผูกมัดไว้ด้วยคำมั่นสัญญาของผู้ใหญ่ตั้งแต่ทั้งคู่ยังจำความไม่ได้ด้วยซ้ำ มีนในวันนี้เติบโตเป็นสาวสะพรั่งเธอพยายามส่งยิ้มและแววตาหวานมาให้เขาตลอดซึ่งสายลมก็ดูออกนะแต่แสร้งทำเป็นไม่สนใจไปงั้น ขณะที่สายลมกำลังจมดิ่งอยู่กับตัวเองเสียงทุ้มแหบห้าวของสุรศักดิ์พ่อมีนก็ดังขึ้นเหมือนต้องการเรียกดึงเขาให้กลับมาสนใจบทสนทนาตรงหน้า"โตเป็นหนุ่มแล้วสินะเรา" สุรศักดิ์เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม "จำได้ไหม เมื่อก่อนสมัยเด็ก ๆ เราชอบมาเล่นซ่อนแอบกับมีนแล้วก็สายหมอกด้วยกันที่นี่บ่อย ๆ" บทสนทนาเริ่มต้นด้วยเรื่องราวในอดีตที่สดใส ทว่าแววตาของสุรศักดิ์กลับฉายแววบางอย่างที่อ่านได้ยากคล้ายกับกำลังต้องการรือฟื้นความทรงจำในวัยเด็กของพวกเขาเพื่อการบางอย่าง พศินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพยายามส่งสายตาคมกริบมาข่มขู่สายลมตลอดเหมือนต้องการบอกให้เขาตอบคำถามทุกค
Mga Comments