“ซันเย็นนี้ไปดื่มกันหน่อยไหม” ชลกรตะโกนขณะที่วิ่งตามหลังเพื่อนมาที่ลานจอดรถ
“ไม่ไปหาน้องเนยเหรอ” อคิราห์เอ่ยแซวเพราะรู้ว่าตอนนี้เพื่อนกับน้องพยาบาลคนนั้นได้เริ่มคบหากันแล้ว
“เย็นวันศุกร์น้องเขากลับบ้าน” ชลกรตอบพร้อมสีหน้าเบื่อโลก
“พอสาวไม่ว่างเลยนึกถึงเพื่อนนะ”
“แล้วจะไปไหมละ”
“ไม่ดีกว่า อยากพัก”
“อะไรวะ งั้นซื้อเบียร์ไปกินที่ห้องนายก็ได้”
“ไม่ได้” เขารีบบอกด้วยความตกใจ
“เฮ้ย ทำไมต้องตกใจ หรือแอบซ่อนใครไว้ที่ห้อง บอกมานะ ผู้หญิงหรือผู้ชาย”
“จะซ่อนใครที่ไหน ไม่มีหรอก”
“นายเป็นคนโกหกไม่เก่งบอกมา แอบมีแฟนเหรอ ไหนว่าไม่อยากมีใครไง”
“ก็ไม่มีไง” ชายหนุ่มปฏิเสธเสียงแข็ง
“ไม่เป็นไรงั้นฉันไปดูเองก็ได้”
“กร ขอร้องอย่าไป”
“งั้นบอกมาก่อน”
“ไม่ได้ซ่อนใครไว้หรอก พอดีช่วงนี้ช่วยเหลือเด็กคนหนึ่งไว้ เขามาอ่านหนังสือที่ห้องก็เลยไม่อยากกวน”
“แค่นั้นเอง ไม่ได้คิดอะไรกับเขาแน่นะ แล้วชายหรือหญิงเล่ามาถ้าไม่อยากให้ฉันบุกไปที่ห้อง”
“งั้นไปดื่มก็ได้ เดี๋ยวเล่าให้ฟัง ไปรอที่ร้านก่อนเลยขอโทรบอกน้องมันก่อน”
ชลกรมองท่าทางของเพื่อนก็พอจะเดาออกว่าอคิราห์กำลังคิดอะไรกับเด็กคนที่บอกอย่างแน่นอน
“ไท พี่จะออกไปดื่มกับเพื่อน เย็นนี้คงกลับไปติวให้ไม่ได้”
“ไม่เป็นไรครับ แล้วพี่ซันจะกลับมาที่ห้องไหม”
“กลับสิ ถ้าไม่กลับจะให้ไปนอนไหนล่ะ นายก็ไม่ต้องกลับไปที่บ้านแม่กับยายไม่อยู่ไม่ใช่เหรอ นอนห้องเล็กเลยก็ได้”
“ได้ครับ”
พอวางสายแล้วอคิราห์ก็ขับรถตามเพื่อนออกไปยังร้านอาหารกึ่งผับแห้งหนึ่งซึ่งพวกเขามักมานั่งกันเป็นประจำตั้งแต่เรียนจบใหม่
“เล่ามาเลยมันยังไง” ชลกรไม่รอให้เพื่อนได้นั่งพัก พออคิราห์มาถึงก็ถามทันที
“ไม่มีอะไรมาก แค่เห็นว่าน้องเขามีปัญหาก็เลยเข้าไปช่วย”
“ไม่มีอะไรมากก็เล่ามาสิ จะให้ถามเซ้าซี้ทำไม”
ชลกรมองหน้าเพื่อนที่เล่าเรื่องราวไปด้วยรอยยิ้มและแววเป็นประกาย นับตั้งแต่เสียน้องชายไปเขาก็เพิ่งเคยเห็นรอยยิ้มของเพื่อนก็วันนี้
ไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มที่เพื่อนพูดถึงนั้นจะชอบเพื่อนของเขาหรือเปล่า แต่ชลกรก็ไม่อยากถามเพราะเห็นว่าตอนนี้อคิราห์นั้นกำลังมีความสุข
“ซัน นายเห็นเขาเป็นตัวแทนของคิงหรือเปล่า” ชลกรถามอย่างตรงไปตรงมา
“ไม่นะ ไทกับคิวไม่มีอะไรเหมือนกันเลยสักนิด คือน้องชายคนเดียวของฉัน ส่วนไทก็คือไท”
“แล้วน้องเขาเป็นอะไรสำหรับนาย”
“ก็เป็นน้องไง เป็นคนที่ฉันรู้สึกว่าอยากช่วยเขา อยากดูแลเขา อยากส่งเขาให้ถึงฝั่ง”
“จะส่งเรียนว่างั้น”
“ไม่ขนาดนั้นหรอก แค่ช่วยได้เท่าที่ช่วย ครอบครัวน้องมันมีแต่ผู้หญิง”
“พ่อพระจังนะเพื่อน แล้วตอนไปเรียนจะเอาไง ถ้าเกินน้องมันมีแฟน”
“ก็ไม่ได้ห้ามนี่ ฉันยอมรับว่ารู้สึกดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเอาน้องมันมาเป็นแฟนสักหน่อย อีกอย่างดูแล้วมันก็ผู้ชายทั้งแท่ง”
“มันก็ผู้ชายทั้งแท่งเหมือนกันนั่นแหละอยู่ที่ว่าใครจะเป็นคนเสียบ”
“ชักจะรู้มาก หรือว่าไปแอบเสียบใครมา”
“จะบ้าเหรอ ตอนนี้ฉันยังชอบผู้หญิงอยู่ แต่อนาคตไม่แน่นะ อีกอย่างโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าเจอคนที่ใช่ไม่ว่าเพศไหนมันก็คือใช่” ชลกรไม่ได้พูดเพราะอยากเอาใจเพื่อนแต่พูดเพราะเขาคิดอย่างนั้นจริง ๆ
อคิรานั่งดื่มกับเพื่อนถึงสี่ทุ่ม แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่าปกติแล้วไทธัชมากจะรอเขากลับและไปส่งที่บ้านพร้อมกับทานอาหารเย็นที่นั่น แต่วันนี้เขาบอกเด็กหนุ่มค้างที่คอนโดไม่รู้ว่าป่านนี้จะได้ทานอะไรหรือยัง
“กร ฉันนึกได้ว่ามีธุระ”
“อือ งั้นก็กลับพร้อมกันเลยไม่อยากดื่มคนเดียว”
อคิราห์รีบกลับมาที่คอนโด พอเปิดประตูเข้ามาทั้งห้องก็มืดสนิท มือเรียวยาวกดสวิตซ์ไฟที่ข้างประตู มองหาเด็กหนุ่มที่เป็นหัวข้อสนทนากับเพื่อนมาตลอดที่นั่งดื่มด้วยกัน
เขาเดินมากลางห้องรับแขกก็เห็นร่างคุ้นตานอนจมอยู่กับโซฟานุ่ม รอบตัวมีกองหนังสือกระจัดกระจาย เจ้าของห้องเก็บมันมาเรียงไว้บนโต๊ะเตี้ยด้านหน้าโซฟา ก่อนจะดึงหนังสือเล่มบางที่ปิดบังใบหน้าเด็กหนุ่มเอาไว้ แล้วจะยกศีรษะคนที่หลับไม่รู้เรื่องขึ้นเล็กน้อยเพื่อสอดหมอนในเล็กเขาไปแทนที่กองหนังสือที่เจ้าตัวใช้หนุนแทนหมอนอยู่
เมื่อเห็นอีกคนหลับสบายอคิราห์ก็ไม่อยากจะปลุกเพราะดูท่าแล้วเจ้าตัวคงง่วงจนเดินไปนอนในห้องไม่ไหว เขาเลยปล่อยให้นอนอยู่แบบนั้นก่อน แต่ถ้าอาบน้ำออกมาแล้วเจ้าตัวยังหลับไม่รู้เรื่องอยู่อย่างเดิมก็คงต้องปลุกให้เข้าไปนอนในห้อง
อาบน้ำจนสดชื่นไล่ความมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ออกจนหมดแล้วอคิราห์ก็เดินกลับมาที่ห้องรับแขก เขานั่งมองหน้าของไทธัชอยู่นานกว่า จากการที่ได้คุยกับชลกรวันนี้ทำให้เขาเริ่มทบทวนความรู้สึกของตัวเองอีกครั้งว่าที่ช่วยไทธัชเพราะอยากช่วยหรือจริง ๆ แล้วเขามีอะไรอื่นแอบแฝง
จริงอยู่ที่เขายื่นมือเข้าไปช่วยเพราะกลัวหนุ่มน้อยคนนี้จะฆ่าตัวตาย แต่หลังจากวันนั้นเขาก็เริ่มเข้าไปในชีวิตของไทธัชมากขึ้น ยิ่งพอได้รู้จัก ได้พูดคุย อคิราห์ยอมรับอย่างไม่อายเลยว่าเขารู้สึกพิเศษกับไทธัชมากกว่าที่ใครจะนึกออก ในใจก็แอบกังวลว่าถ้าไทธัชรู้จะถอยห่างจากเขาไหม
อคิราห์เลือกที่จะไม่บอกกับไทธัชว่าเขารู้สึกยังไงเพราะในเมื่ออีกไม่กี่เดือนก็จะต้องไปเรียนต่อแล้ว ระหว่างนี้ขอใช้ชีวิตให้มีความสุขกับคนที่ทำให้ใจเต้นแรงอย่างน้อยก็จะได้เก็บความรู้สึกช่วงนี้ไว้เป็นกำลังใจในการต้องไปอยู่ต่างประเทศคนเดียวหลายปี
เมื่อเห็นเปลือกตาคนน้องขยับยุกยิก คนพี่ก็เลิกจ้อง เขาหันมาสนใจโทรศัพท์ในมืออย่างรวดเร็ว
“พี่ กลับมาตอนไหน”
“นานแล้ว หลับสบายเลยนะ ไม่รู้ว่าอ่านหนังสือหรือให้หนังสือมันอ่าน แล้วทำไมไม่ไปนอนในห้อง”
“ผมรอพี่ มีเรื่องจะบอก”
“อือ ว่ามาสิรอฟังอยู่”
“พรุ่งนี้พี่ไม่ต้องติวให้ผมนะ” เดิมทีพรุ่งนี้อคิหาร์จะติววิชาภาษาอังกฤษให้กับไทธัชวันนี้เขาเลยนั่งอ่านวิชานี้ทั้งวันจนเผลอหลับไป
“ทำไมละ”
“ผมลงทะเบียนเรียนการใช้โปรแกรม Illustrator ไว้ครับ” เขาหมายถึงโปรแกรม Adobe Illustrator หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า "Illustrator" มันเป็นโปรแกรมวาดรูปหรือออกแบบงานด้านกราฟิก
“แล้วไปเรียนที่ไหนล่ะ ให้พี่ไปส่งไหม”
“เรียนออนไลน์ครับ แต่คงต้องไปที่ร้านเน็ตคาเฟ่”
“ทำไม นายก็มีโน้ตบุ๊กนี่”
“พี่หมอซันครับ โน้ตบุ๊กแต่ละเครื่องก็ใช่ว่าใช้งานได้ทุกอย่างนะครับ การใช้โปรแกรมนี้มันต้องใช้เครื่องที่แรง ๆ หน่อย แรมต้องเยอะการ์ดจอต้องแรง ประมาณว่าคอมของพวกที่ชอบเล่นเกมน่ะครับ”
“อือ งั้นก็ไม่ต้องไปหรอก ใช้ของพี่ก็ได้”
“โน้ตบุ๊กของพี่นะเหรอครับ พี่ก็ต้องใช้ไม่ใช่เหรอ ผมไม่อยากรบกวน”
“เปล่าพี่หมายถึงคอมพ์แบบพีซีพี่เพิ่งซื้อมายังไม่ได้เอาออกจากกล่องเลย พอดีมีเรื่องเสียก่อน” อคิราห์นั้นชอบเล่นเกมเขายกคอมพิวเตอร์ชุดเดิมให้กับชมรมอาสาของมหาวิทยาลัยไปเมื่อเดือนก่อนจากนั้นก็สั่งประกอบขึ้นมาใหม่เพื่อเอาไว้เล่นเกมโดยเฉพาะ แต่พอน้องชายเสียชีวิตเขาก็ลืมไปสนิทเลย ว่าตัวเองมีคอมพิวเตอร์อีกชุดที่ยังไม่ได้เอาออกมาจากกล่อง
“ไม่เป็นไรครับ ผมเกรงใจ”
“เบื่อคำนี้แล้วขอซื้อละกัน พี่ว่านายมาช่วยพี่แกะออกจากกล่องดีกว่า”
ไทธัชเคยเข้ามาเอาหนังสือในห้องนี้หลายครั้งแล้ว เขาเห็นโต๊ะกับเก้าอี้อยู่ชุดหนึ่งที่เหมือนกับเก้าอี้ตามร้านเกมแต่คิดว่าอคิราห์คงเอาไว้นั่งอ่านหนังสือเท่านั้น ไม่คิดว่าเขาจะชอบเล่นเกมด้วย
อคิราห์ไปส่งไทธัชเสร็จแล้วก็กลับมาที่คอนโด ขณะกำลังเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นก็เห็นไอแพดที่อีกคนลืมไว้เขาถือวิสาสะหยิบขึ้นมาดู ก็เห็นข้อความที่เพื่อนของไทธัชส่งเข้ามาหลังจากอ่านแล้วก็รู้สึกกังวลเพราะดูเหมือนว่าตอนนี้ไทธัชกำลังถูกคนในคณะเข้าใจผิด เนื่องจากมีผู้หญิงคนหนึ่งออกมาพูดทำนองว่าไทธัชเป็นเกย์และตอนนี้กำลังมีเสี่ยใหญ่คนหนึ่งคอยช่วยเหลือเรื่องการเงินอยู่อคิราห์เปิดเข้าไปตามลิงค์ต้นเรื่องก็เห็นคนมาแสดงความคิดเห็นต่อจากเจ้าของโพสต์กันสนุกปาก บ้างก็ว่าเสี่ยที่ดูแลไทธัชอยู่นั้นภรรยาอยู่แล้ว บ้างก็ว่าไทธัชทำทุกอย่างเพื่อแลกกับเงินก้อนโต แต่ทำให้อคิราห์โมโหที่สุดก็คือคนที่บอกว่าเสี่ยของไทธัชนั้นทั้งแก่ทั้งอ้วนและยังหัวล้านอีกด้วยแต่ก็มีบางความคิดเห็นที่บอกว่าเป็นเกย์ไม่ผิด แต่ผิดที่ไม่รู้จักเลือกคนให้ดี ๆ หน่อยไม่ใช่เห็นแก่เงินจนลืมนึกถึงหน้าตาและอายุ แม้จะมีหลายคนบอกว่าไทธัชไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะเคยเห็นแฟนของไทธัชแล้ว แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเท่าไหร่ เพราะน้อยคนนักที่จะได้เห็นไทธัชกับแฟนอยู่ด้วยกันอคิราห์ไม่รู้ว่าไทธัชเห็นโพสต์นี้แล้วจะเป็นยังไงบ้างชายหนุ่มรีบโทรไปถามเพราะกลัวว่าอีกคนจะรู
หลังเลิกเรียนอคิราห์ก็มารับไทธัชตามที่นัดไว้ พอชายหนุ่มเห็นรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาก็รีบเดินไปขึ้นรถทันที“รอพี่นานไหม” อคิราห์ถามพร้อมกับยื่นชาเขียวให้กับคนรัก“ขอบคุณครับ รอไม่นานเพิ่งลงมาไม่ถึงห้านาที”รถเคลื่อนออกมาได้สักระยะไทธัชก็ถามขึ้น“พี่ซันทำไมไม่บอกผมเรื่องเงิน 25 ล้าน”“พี่นึกว่าแม่บอกไทแล้วนะ เพราะตอนนั้นพี่ไม่ได้อยู่เมืองไทย”“อยู่ที่ไหนก็บอกได้เหมือนกันนะครับ ผมว่าพี่ตั้งใจปิดมากกว่า”“พี่จะปิดได้ยังไง นั่นมันบัญชีของไทนะ”“แต่ก็น่าจะบอกรู้ไหม ว่าเอาเงินนั้นไปฝากประจำจะได้ดอกเบี้ยเยอะเลย”“ที่ผ่านมาไม่เคยเอาสมุดบัญชีไปปรับเลยใช่ไหม”“ครับ บัญชีนี้ไม่มีในแอปธนาคารด้วยก็เลยไม่รู้ว่ามีเงินเข้า พอดีวันนี้คุณธีรธรเขาโอนเงินค่ามัดจำเขาก็เลยลองเอาไปปรับดู”“พี่อยากให้ไทเก็บไว้ใช้จ่าย”“ไม่หรอกครับ ผมว่าจะขออนุญาตเอาไปเปิดบัญชีฝากประจำได้ไหมครับ ถ้าได้ดอกเบี้ยค่อยเอามาใช้”“จะขอพี่ทำไท นั้นเงินของไท”“แต่แม่พี่บอกว่าให้พี่ แต่พี่ยกให้ผม”“นั้นไง ก็ยกให้แล้ว ไทจะเอาไปทำอะไรก็ได”“ขอบคุณนะครับ เงินมากขนาดนั้นทั้งชาติผมคงไม่มีโอกาสหาได้”“บอกแล้วไงไทเป็นเด็กดี มีอะไรที่พี่ให้ได้พี่
ไทธัชถูกประคองเดินมาที่เตียงในเวลาเกือบตีสอง ขาเขาสั่นจนแทบเดินไม่ไหว แต่ก็ไม่อยากให้อคิราห์อุ้ม เพราะดูแล้วอีกคนก็หมดแรงไม่ต่างจากตัวเองมากนักจากที่คิดจะไปอาบน้ำให้สดชื่น แต่คนพี่ก็อาสาเป็นคนทำความสะอาดช่องทางรักที่เต็มไปด้วยน้ำสีขาวขุ่น แต่เพราะคนทำความสะอาดช่ำชองจนเกินไปไทธัชจึงตื่นตัวอีกครั้งและบทรักก็บรรเลงใต้ฝักบัวอยู่อีกเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนทั้งสองจะปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง เขาจำไม่ได้ว่าตัวเองถึงจุดสุดยอดไปกี่ครั้ง รู้แต่ทุกครั้งมันเต็มไปด้วยความสุข อคิราห์ส่งผ่านความรักความคิดถึงผ่านทุกสัมผัสจนไทธัชลืมเรื่องน้อยใจไปจนหมดสิ้น“ไทครับ เรียนกี่โมงนะ”“สิบโมงครับ ตอนนี้กี่โมงแล้ว” ไทธัชยังไม่ยอมออกจากผ้าห่ม เขายังคงกอดอคิราห์ไว้อย่างนั้น กลัวเหลือเกินว่าที่ผ่านมาเมื่อคืนมันจะเป็นเพียงความฝัน“แปดโมงครับ นอนต่ออีกหน่อยก็ได้ เดี๋ยววันนี้พี่ขับรถไปส่ง”“ผมไปเองได้ครับ นั่งรถไฟฟ้าไปแป๊บเดียวก็ถึงหรือโหนรถเมล์ไปก็ได้”“อย่าดื้อครับ ลองลุกมาก่อนไหม แล้วลองเดินดูว่าตัวเองจะเดินขึ้นบันไดสถานีรถไฟฟ้าได้ไหมหรือจะยืนเบียดคนอื่นบนรถเมล์ไหวไหม” อคิราห์มองคนที่นอนจมอยู่บนเตียงนอนแล้วก็รู้สึกสงสา
ก่อนกลับคอนโดไทธัชไลน์ไปถามอคิราห์ว่าเย็นนี้เขาจะทานอะไรแต่อีกฝ่ายก็ยังไม่อ่าน ชายหนุ่มเลยแวะซื้อข้าวสวยและกับข้าวที่อคิราห์ชอบกลับไปด้วยเขากลับมาถึงห้องก็ปิดไฟมืด เขาคิดว่าอคิราห์คงนอนอยู่ที่ห้องนอนเล็กเหมือนเดิม แต่เปิดเข้าไปห้องก็ว่างเปล่า ไทธัชเริ่มกังวลหรือว่าภาพเหตุการณ์เมื่อเช้าเป็นสิ่งที่เขาคิดไปเอง ชายหนุ่มรีบเดินมาดูที่ห้องนอนใหญ่แล้วก็ยิ้มเมื่อเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงนั้นคืออคิราห์จริงไทธัชไม่อยากกวนเวลานอนจึงกลับมาอาบน้ำที่ห้องของตัวเอง คิดว่าให้อคิราห์นอนต่อ แต่ก็ทนใจแข็งได้ไม่นานเพราะอยากพูดคุยกับเขาให้หายคิดถึงชายหนุ่มเปิดเข้าไปในห้องอีกครั้งก็ไม่คนที่นอนอยู่เมื่อครู่ เขาได้ยินเสียงอาบน้ำ จึงรีบออกมาเตรียมอาหารไว้รอพอทุกอย่างเรียบร้อยก็เดินไปตามอคิราห์อีกครั้งก๊อก ก๊อก ก๊อก“พี่ซันครับ ผมเข้าไปได้ไหม”เงียบ..“ผมเข้าไปแล้วนะ”ไทธัชถามอีกครั้งแต่คนในห้องก็ยังไม่ตอบ เขาจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาเมื่อเห็นว่าเขายังไม่ออกจากห้องน้ำก็เลยนั่งรออยู่บนเตียง“ผมมาตามไปกินข้าวครับ ผมไปรอข้างนอกนะครับ” ไทธัชรีบบอกเมื่อเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ“ทำไมต้องไปรอข้างนอก ไหนว่าคิดถึง
ไทธัชรู้สึกว่าเวลาของตัวเองจะเดินช้ากว่าของคนอื่น ตั้งแต่ปีใหม่ครั้งนั้นอคิราห์ก็ยังไม่กลับมาเมืองไทยเลยสักครั้ง เขารู้ว่าอีกคนยุ่งทั้งเรียนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้ปีใหม่ครั้งที่ผ่านมาเขาต้องนอนร้องไห้อยู่คอนโดเพราะคิดถึงความทรงจำที่เคยมีด้วยกันกับคนรัก ไหนจะช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมาถึงสองครั้งเขาก็เคยได้มีโอกาสฉลอง มีแต่ของขวัญที่ส่งมาทั้งปีใหม่ วาเลนไทน์รวมไปถึงวันเกิด แต่ใครบอกว่าเขาอยากได้ของขวัญมีราคาพวกนั้นแม้จะวิดีโอคอลคุยกันทุกวัน บอกรักกันทุกวันแต่มันก็เทียบไม่ได้เลยกับอ้อมกอดที่อบอุ่นของผู้ที่ชื่ออคิราห์เลยสักนิด“ไท เหนื่อยเหรอท่าทางไม่ดีเลย”“นิดหน่อยครับ วันนี้มีกิจกรรมรับน้องผมเป็นพี่ปีสามก็เลยเหนื่อยหน่อย พี่ซันล่ะครับ ดูเหมือนช่วงนี้จะร่าเริงเป็นพิเศษนะครับ มีอะไรดีหรือเปล่า”“ก็แค่วันนี้อาจารย์ให้พี่ได้ลองทำอะไรหลาย ๆ อย่างแล้วพี่ก็ทำออกมาได้ดี”“พี่ซันเก่งอยู่แล้ว ผมว่าถ้ากลับมาครั้งนี้คงยุ่งจนไม่มีเวลาให้ผมแน่ ๆ เลย”“ถ้ากลับไปพี่คงพักสักระยะแล้วค่อยเริ่มงาน พี่จะให้เวลาไทเต็มที่เลยดีไหม”“อือ ถ้าพี่กลับมาเราไปเที่ยวทะเลกันไหมครับ ผมอยากพาแม่กับยายไ
หลังจากที่ส่งหลักฐานให้กับทนายแล้วไทธัชก็หมดหน้าที่ แต่เขาก็คอยติดตามความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาทางอคิราห์อยู่ทุกวันเรื่องหย่าจบไปตั้งแต่สัปดาห์แรก เพราะคุณตรีวุฒิกลัวว่าเรื่องที่เขาพาเด็กผู้ชายเข้ามานอนในบ้านจะรู้ถึงหูคนอื่น และจะทำให้เขาเสียชื่อเสียง เขาจ่ายค่าเลี้ยงดูคุณอรณีถึง 25 บาท แต่เขาไม่รู้เลยว่าหลังจากเซ็นใบหย่าแล้ว เรื่องราวมันจะรุนแรงขึ้นในแบบที่เขาแทบจะไม่มีที่ยืนในสังคมมารดาของอคิราห์ร้องไห้จนเป็นลมเมื่อทราบเรื่องที่ลูกชายโดนพ่อเลี้ยงกระทำชำเรา เธอโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ดูแลลูกไม่ดี และยังพาคนชั่วอย่างตรีวุฒิเข้ามาอยู่ในบ้าน แต่เธอก็ไม่ได้โดดเดี่ยวเพราะได้คุณอรรณพอดีตสามีคอยอยู่ข้าง ๆพอตั้งสติได้คุณอรณีก็เข้มแข็งขึ้น เธอและคุณอรรณพนำคลิปหลักฐานที่นายตรีวุฒิทำกับลูกชาย ภาพถ่าย และคำขู่ที่ฝ่ายนั้นส่งมาคุกคามลูกชายของเขาให้กับตำรวจ เธอก็บอกให้จัดการทุกอย่างตามกฎหมายโดยไม่ต้องห่วงว่าเธอจะรู้สึกยังไง จะเสียชื่อเสียงไหม เธออยากให้ผู้ชายคนนั้นรับโทษจากการกระทำของตัวเองโดยเร็วที่สุดพอมีข่าวว่าตรีวุฒิถูกจับ ก็มีเด็กหนุ่มอีกหลายคนซึ่งตกเป็นเหยื่อทางอารมร์ของตรีวุฒิเข้ามาแจ้