Talk แพร แสงแดดยามเช้าสาดส่องมากระทบกับในหน้า ทำให้ฉันที่กำลังนอนหลับอยู่ค่อยๆ รู้สึกตัวปรือตาขึ้น สัมผัสแรกที่ได้รับหลังจากที่ตื่นนอนคืออาการหนักอึ้งไปทั้งหัว พยายามจะคิดทบทวนเรื่องราวเมื่อคืน หลังจากออกมาจากห้องน้ำแล้วจำได้ว่าเจออลัน เจอพี่เพิร์ท แต่ฉันกลับไปที่โต๊ะยังไง กลับมาที่ห้องได้ยังไงแต่ก็คิดไม่ออก “อ่า! ทำไมเตียงมันแข็งแบบนี้นะ” ฉันบ่นพึมพำก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งยกมือขึ้นมาขยี้ตา พลางมองไปรอบๆ แล้วก็ต้องตกใจ “นะ นี่ฉันอยู่ที่ไหน” ฉันอุทานออกมาหัวใจดวงน้อยเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เพราะในตอนนี้ฉันอยู่ในห้องของใครก็ไม่รู้ ตัวฉันนอนอยู่ที่พื้นพรมข้างๆ กับโซฟา บนโต๊ะกระจกที่วางของเล็กๆ มีชามโจ๊กวางอยู่ด้วย พยายามคิดว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นทำไมภาพมันถึงตัดไปแบบนั้น หลังจากที่ถูกอลันดึงตัวออกมาจากพี่เพิร์ทฉันก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย แต่จะว่าไปพอมองไปรอบๆ อีกครั้งก็รู้สึกคุ้นๆ กับห้องนี้ พร้อมกับคิดขึ้นมาได้ “หะ ห้องอลัน” ฉันอุทานออกมาอีกครั้งแล้วยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองอย่างตกใจสุดขีด
แกร็ก! เสียงประตูห้องเปิดออก ร่างของอลันที่แต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าไหร่เดินออกมาจากห้อง เขาปรายตามองฉันแวบหนึ่งก่อนจะเดินไปหยิบรองเท้า
“นะ นายทำอะไรฉัน” ฉันตะเบ็งเสียงถามออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ “คิดว่าทำอะไร ?” คำถามที่กำกวมทำให้ฉันเบิกตากว้าง “ยะ อย่าบอกนะว่าฉัน….” “สมอง! ถ้าทำคงไม่นอนที่พื้นแบบนั้น” ฉันค่อยๆ เม้มปากแน่นแต่มันก็โล่งอกที่ได้ยินแบบนั้น “แล้วฉันมาอยู่ที่ห้องนายได้ยังไง ?” “จำไม่ได้ ?” “อะ อื้อ” “เมื่อคืนอยากให้พากลับเอง จำไม่ได้ ?” “ถ้าจำได้ฉันจะถามทำไมล่ะ” ฉันถามยอกย้อน “ถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ ไม่รู้ว่าห้องอยู่ที่ไหนเลยพามานอนที่นี่” เขาตอบปัดๆ “แล้วทำไมไม่พาฉันไปหาเพื่อน” “ยอมไปหรือเปล่าล่ะ ?” “ฉันจำอะไรไม่ได้ไงถึงถาม” ฉันพูดย้ำคำเดิมอีกครั้ง “ปากมากแบบนี้น่าจะทิ้งไว้ข้างถนน” อลันมองหน้าฉันด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ “ไอ้…!!!” “คิดเอาเองขี้เกียจอธิบาย ตื่นแล้วก็รีบกลับไปรกหูรกตา” วันนี้เขาพูดมากกว่าเมื่อคืนอีกนะ แต่จะดีกว่านี้ถ้าไม่พูดเพราะฟังมันไม่ได้รื่นหูเลยสีกนิด “นายนี่ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย ฉันเป็นผู้หญิงแท้ๆ แต่กลับให้นอนพื้นแข็งๆ แบบนี้ได้ ใจร้ายชะมัด” ฉันบ่นพึมพำ ไม่รู้หรอกว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่มันนึกหงุดหงิดที่ถูกทิ้งให้นอนที่พื้นแข็งๆ แบบนี้ “แล้วทำไมต้องให้นอนบนเตียง ?” “เพราะฉันเป็นผู้หญิง นายควรจะให้เกีรติ” “เป็นผู้หญิงแล้วยังไง ? แค่เป็นผู้หญิงก็คิดว่าจะได้นอนบนเตียงแล้วหรอ” “นิสัยแย่จริงๆ เลย” ฉันพึมพำเบาๆ อีกครั้ง ฟังจากคำพูดก็พอจะเดาออกได้ง่ายๆ ว่าเด็กคนนี้นิสัยไม่ดี อลันเดินตรงมาหาฉัน เขานั่งลงตรงหน้าแล้วจ้องหน้าฉันครู่หนึ่งก่อนจะพูด “อยากขึ้นไปนอนบนเตียง ?” “……” หัวใจดวงน้อยมันกระตุกวูบเมื่อเห็นสายตาวาบหวิวแบบนั้นของผู้ชายตรงหน้า “ถ้าอยากนอนบนเตียงมันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน ยอมแลกไหมล่ะ” “ฉะ ฉันไม่ได้อยากนอนบนเตียงของนายขนาดนั้นสักหน่อย” ฉันขยับตัวออกห่างเพราะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ถึงจะเป็นน้องชายเพื่อนแต่ท่าทางไม่น่าไว้ใจซะเลย แถมยังชอบพูดเรื่องบนเตียงด้วย5 เดือนผ่านไป ชีวิตหลังแต่งงาน “ทำให้มันดีๆ หน่อยสิอลัน” “ก็ทำดีๆ อยู่นี่ไง” “แล้วนายเอาหมูไปผัดแบบนั้นได้ยังไง ทำไมไม่ผัดหมูก่อน”“แล้วทำไมไม่บอกก่อนก็รู้ว่าทำอาหารไม่เป็น”“ทำไม่เป็นก็ถอยไปฉันจะทำเอง”“ไม่ต้องยุ่งออกไปนั่งรอเลยไป” ฉันมองสามีของตัวเองทำอาหารด้วยความเหนื่อยใจ ทำไม่เป็นยังจะเสนอตัวอวดเก่งอยากจะโชว์ฝีมือ ชีวิตคู่ของเราไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่ได้รักกันจนหวานชื่น เรามีปากเสียงกันในบางครั้งไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ความรักที่มีให้กันมันก็ยังคงอยู่และเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ฉันว่ามันคงเป็นธรรมดาของชีวิตคู่ จะให้รักกันปานจะกลืนกินคงไม่ใช่ คนที่อยู่ด้วยกันการทะเลาะและปรับความเข้าใจเป็นเรื่องปกติ “เสร็จแล้วครับคุณเมีย ^_^” อลันถือจานอาหารที่ตัวเองทำมาวางไว้ที่โต๊ะด้วยสีหน้าที่ปลื้มอกปลื้มใจกับฝีมือตัวเอง “ผัดผักยังไงให้ผักไม่สุก แบบนี้จะกินยังไง” “ผักต้องสุก ?” เขาถามอย่างกับไม่เคยกินผัดผักมาก่อนในชีวิตถึงไม่รู้ว่ามันต้องสุกประมาณไหน “ถ้าลูกคลอดออกมาฉันคงไม่ไว้ใจให้นายทำอาหารให้ลูกกินแน่ๆ” “ของแบบนี้มันพัฒนากันได้ ตอนนี้ทำไม่เป็นอีกสิบปีข้างหน้าอาจจะได้เป็นเชฟกระทะเหล็กก็ไ
#บ้านของฉันฉันกับอลันมาที่บ้านด้วยกันเพื่อจะมาบอกพ่อว่าเรากำลังจะมีลูก ก่อนมาเขาได้โทรบอกพ่อกำนันแล้วเห็นว่าดีใจยกใหญ่เลย พรุ่งนี้คงจะขึ้นมากรุงเทพมาคุยเรื่องงานแต่ง “จะมาทำไมไม่บอกก่อนจะได้ให้คนจัดเตรียมอาหารเพิ่ม” พอพ่อเห็นอลันเดินมาพร้อมกับฉันก็รีบท้วงทันที ถึงก่อนหน้านี้จะใจร้ายไปบ้างแต่ตอนนี้พ่อตากับลูกเขยเริ่มเข้ากันได้แล้วนะ “หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกพ่อค่ะ ^_^” ฉันยิ้มให้พ่อแล้วก็หันมายิ้มให้อลัน จากนั้นเราสามคนก็พากันเดินมาที่ห้องขับแขก“มีอะไรทำไมถึงต้องคุยเป็นทางการขนาดนี้ ?” พ่อถาม “พ่ออยากมีหลานคือเปล่าคะ” “อยากสิ พ่อแก่แล้วอยากจะรีบอุ้มหลานเร็วๆ” “งั้นคุณลุงก็สมหวังแล้วครับ” อลันพูดแทรก “หมายความว่ายังไง ?” พ่อขมวดคิ้วมองเราทั้งคู่สลับกัน ฉันคลี่ยิ้มก่อนจะตอบ “หนูท้องค่ะ ^_^” พอบอกว่าท้องพ่อก็เงียบไปเหมือนตกใจ ทำเอาฉันใจหาย ไหนบอกว่าอยากอุ้มหลานเร็วๆ ไง ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น“คุณลุงไม่ดีใจหรอครับ” อลันรีบถามเพราะเห็นพ่อเงียบไป “ลง ลุงอะไรกัน เรียกพ่อได้แล้วไอ้ลูกเขย” พ่อพูดออกมาพร้อใกับรอยยิ้มบนใบหน้า ทำเอาฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกนึกว่าพ่อจะเสียใจซะอีก อีกหนึ่งเรื่องร
โรงพยาบาลตอนนี้ฉันกับอลันอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนอลิชเธอกลับไปที่บ้านแล้วเพราะต้องไปดูลูก ทั้งฉันและอลันได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดทั้งคู่ แต่ที่ต่างออกไปคือหมอให้ฉันตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ ตอนนี้เรากำลังนั่งรอผลตรวจอยู่อาการของอลันดีขึ้น ตอนนี้เขานั่งจนแทบจะสิงร่างฉันอยู่แล้ว “ขยับไปหน่อยได้ไหม ดูสิคนมองเยอะเลยนะ” ฉันกระซิบบอกอลัน “ขยับออกก็อ้วก จะเอาแบบนั้นไหมล่ะ” “แล้วอยู่ใกล้ฉันไม่อยากอ้วกหรือไง” เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ ถึงอาการของเขาจะดีขึ้นแต่ร่างกายยังอิดโรย ไม่นานเท่าไหร่คุณหมอก็เรียกให้เราสองคนไปฟังผลตรวจ “ผลตรวจของคุณผู้ชายเป็นปกติดีนะคะ” “แต่เขาทั้งเวียนหัวทั้งอ้วกเลยนะคะคุณหมอ” ฉันรีบพูดแย้งขึ้นทันที “คงจะเป็นอาการแพ้ท้องแทนภรรยาค่ะ ยินดีด้วยนะคะตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์ ^_^” หมอพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่คำพูดนั้นยังวนอยู่ในหัวของฉัน ยินดีด้วยนะคะคุณกำลังตั้งครรภ์ มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยพลาด อลันปล่อยนอกหรือไม่ก็ใส่ถุงยางอนามัยตลอด ตอนนั้นที่ปล่อยในฉันก็กินนาคุมฉุกเฉินแล้ว คิดไม่ออกเลยว่าจะท้องได้ยังไง “จริงหรอครับคุณหมอ ผมกำลังจะมีลูกหรอคร
อลันเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งที่ยังเอามือปิดจมูกอยู่ เขาทำท่าเหมือนขยะแขยงอาหารที่ฉันเตรียมให้มากๆ มันรู้สึกเฟลนิดๆ นะ อุตส่าห์ตั้งใจเตรียมให้แท้ๆ “ไปหาหมอไหม”“ไม่เป็นไรแค่เวียนหัวนิดหน่อย” ฉันเดินมาหาอลันแล้วยกมือขึ้นทาบบนหน้าผากของเขาเพื่อเช็คว่าตัวร้อนหรือเปล่า “ตัวก็ไม่ร้อนนี่ ทำไมจู่ๆ ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ฉันว่าไปหาหมอดีกว่านะอลัน”อลันสวมกอดฉันเอาไว้แน่นแล้วบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “แค่กอดเมียแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย” แปะ! ฉันฟาดมือลงบนแขนของอลันเบาๆ แล้วพูดค้อน “ฉันเป็นห่วงนะยังจะมาพูดเล่นอีก”“ไม่ได้พูดเล่นมันดีขึ้นจริงๆ นะ” พูดจับอลันก็เอาใบหน้ามาซุกลงบนซอกคอของฉัน “หอมจัง” “…นายคงกินไม่ได้แล้วใช่ไหมฉันจะได้เก็บ” ฉันถามเสียงเศร้า “มันเหม็น” อลันพูดกระซิบบอกที่หูเสียงเบา “อยากกินเมียแทนข้าว” ฝ่ามือสากเริ่มเลื้อยไปมาเป็นปลาหมึก ริมฝีปากหนาพรมจูบไปจนทั่วซอกคอของฉันก่อนจะขยับขึ้นมาที่พวงแก้มและประกบจูบที่ริมฝีปาก “อืม~” เสียงครางในลำคออย่างพึงพอใจของอลันทำให้ฉันรู้สึกวาบหวิว แควก! เสียงนี้คือเสียงชุดซีทรูตัวบางของฉันถูกฉีกอย่างไร้ความปรานี “อลัน!!” ฉันดันตัวออกแล้วจ้องอลันเขม็ง เข
วันต่อมา หลังจากที่อลันเลิกเรียนเราก็มาเจอเฮียเฟย นัดเจอกันที่ร้านอาหารในห้าง ฉันโทรนัดเฮียเอาไว้แล้ว #ภายในร้านอาหาร “เฮียสั่งจะกินอะไรไหมคะเดี๋ยวแพรสั่งให้” ฉันรีบถามเมื่อเฮียเฟยมาถึง มันรู้สึกเกร็งเอามากๆ สาเหตุก็เพราะอลันที่เอาแต่จ้องมองตลอดเวลา “ไม่เป็นไรเดี๋ยวเฮียต้องเข้าบริษัทไปกินที่บริษัทก็ได้”“งานยุ่งหรอคะช่วงนี้”“ก็….”“มีอะไรจะพูดก็รีบๆ พูด เอาแต่เนื้อ น้ำไม่ต้อง” อลันพูดแทรกขึ้นมาอย่างเสียมารยาท ฉันจึงหันมามองค้อนเขาด้วยสายตาที่ตำหนิ แต่เขาก็ทำท่าเหมือนทองไม่รู้ร้อน“ทีหลังถ้าจะนัดคุยมาคนเดียวดีกว่านะ แฟนแพรคงไม่สะดวก” เฮียเฟยบอก “ถ้าคุยสองต่อสองคงไม่ปล่อยให้มา” อบันตอบกลับทันควัน “นายช่วยอยู่เงียบๆ ได้ไหมอลัน” ฉันบอกเขาเสียงดุ ใจคอจะหาเรื่องให้ได้เลยหรือไง “แพรขอโทษแทนอลันด้วยนะคะ”“ไม่เป็นไรเฮียเข้าใจ แฟนแพรยังเด็ก….”“เด็กแล้วยังไง ?” เป็นอีกครั้งที่อลันถามอย่างไม่สบอารมณ์ “อลัน!!” ฉันจ้องเขาเขม็งจึงยอมปิดปากเงียบ มันน่าดีดหน้าผากแรงๆ สักทีให้เข็ดหลาบ “ที่นัดมาวันนี้แพรอยากจะมาขอโทษที่เคยพูดให้ความหวังเฮีย อยากขอโทษที่เคยดึงเฮียเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งที่แพรไม่ไ
ทางผู้ใหญ่พูดคุยกันครั้งนี้พ่อฉันยินยอมไม่ได้ขัดอย่างที่เคยลั่นวาจาเอาไว้ คุณคานส์สามีของอลิชเสนอตัวจะออกค่าใช้จ่าย ส่วนค่าสินสอดวันแต่งพ่อของอลันจะเป็นคนออกเอง โดยงานหมั้นจะจัดหลังจากที่มหาวิทยาลัยของอลันปิดเทอม ซึ่งก็คืออีกไม่นานนี้แล้ว หลังจากคุยธุระเสร็จเรียบร้อยเราก็นั่งกินข้าวด้วยกัน ฉันเองก็ยังเกร็งไม่หาย แต่ก็ดีใจที่พ่อของอลันเอ็นดูฉันมากขนาดนี้ ตอนนี้ฉันกำลังเดินเล่นกับอลิชอยู่ที่สนามหน้าบ้าน ส่วนพ่อฉันกับพ่อของอลันคุยกันเรื่องธุรกิจ พ่อของอลันสนใจอยากจะเปิดธุรกิจเล็กๆ ที่บ้านต่างจังหวัดเลยขอคำปรึกษากับพ่อ ดีใจที่ทั้งสองคุยกันถูกคอ “แกไม่กลับบ้านพร้อมสามีหรออลิช” ที่ถามแบบนี้ก็เพราะว่าฉันเห็นคุณคานส์กลับไปก่อนแล้ว “ฉันกลับพร้อมพ่อน่ะ คุณคานส์รีบไปดูลูก” “สามีดีเด่นนะเนี่ย” “แกก็เถอะ ดีใจด้วยนะ รู้ไหมฉันแทบจะกรี๊ดลั่นบ้านตอนที่รู้ว่าอลันจะจอแกหมั้น” อลิชดีใจจนออกนอกหน้า “แกไม่ห้ามน้องหน่อยหรอ หมั้นทั้งๆ ที่ยังเรียนไม่จบ” “แพร อลันเป็นผู้ชายไม่มีอะไรเสียหายหรอกนะ ดีซะอีกน้องฉันตั้งใจทำงานมากๆ แถมยังไปเรียนทุกวัน ฉันละนับถือแกจริงๆ เลยที่เอาอลันอยู่หมัดขนาดนี้” “พี่อลิช