Masuk“เป็นคนอื่นคงเตลิดไปแล้ว” ศิรินภายกยิ้ม จริงอยู่ที่ว่านีรามนมิใช่คนแรกของหล่อน
แต่ทว่าเมื่อได้พบเด็กคนนี้ ศิรินภาจึงไม่สนใจทุกอย่าง ไม่สนใจใคร มีแต่นีรามน และต้องการเลี้ยงนีรามนแบบผูกขาด
สัญญานี้ร่างไว้ตั้งแต่สองปีก่อน จะจบสิ้นกันก็ต่อเมื่อหล่อนเบื่อหน่าย นีรามนจึงจะเป็นอิสระจากหล่อน เป็นอิสระจากกันและกัน
ทว่าจนวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม และศิรินภาหมายหมาดว่าจะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ มิคิดไขว่คว้าใครอื่นที่ไหน
“พี่รักไม้” พูดครั้งที่สามแล้วในรอบหลายเดือนที่ผ่านมานี้ ครั้งแรกที่พูดคืออยู่ที่สวนสาธารณะริมแม่น้ำ...ที่ที่ทั้งสองเคยพบกันครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน
ณ ในอดีตนั้นนีรามนเพิ่งเลิกงาน จึงมายืนพักสมองอยู่ตรงสวนสาธารณะริมแม่น้ำแถวนั้น พื้นที่เริ่มเงียบสงัดเพราะเป็นเวลาเช้ามืด
“มาอยู่กับฉัน” คำสั้น ๆ ทว่ามีอิทธิพลต่อนีรามน มันมาพร้อมกับข้อเสนอที่เธอยากจะปฏิเสธ
ทว่าสิ่งที่นีรามนทำคือการปฏิเสธไป เธอไม่ได้เดือดร้อนถึงขนาดนั้น...
ไม่จริง...เธอโกหก
“แล้วจะเอาเงินจากที่ไหน พ่อของเธอต้องการมันไม่ใช่รึ” อีกฝ่ายคงสืบเรื่องราวของครอบครัวเธอมาพอสมควร จึงได้รู้ลึกถึงอาการป่วยของพ่อที่ต้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก...ลำพังแค่เงินก้อนจากประกันก็ยังไม่ครอบคลุม จึงได้มาเสนอเงินนั้นต่อหน้าเธอ ที่อีกฝ่ายคงจะถูกใจหรือแค่ต้องการเอาชนะเธอที่คล้ายดูเหมือนม้าพยศในสายตาของอีกฝ่ายกระมัง
เพราะใคร ๆ ก็ต่างมองเธอว่าเป็นแบบนั้น ‘เคี้ยวยาก’
ย้อนกลับไปในอดีตก่อนหน้านี้อีก...
“ขอบคุณครับ” เสียงนุ่มทุ้มของลูกค้าประจำที่เป็นชายหนุ่มทำให้นีรามนจำต้องยกยิ้มการค้าส่งให้ ทั้งที่ปกติเธอที่เพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ได้ไม่กี่เดือนแต่ก็รู้ดีว่าการบริการเสิร์ฟของเธอมิได้อยู่ที่โซนวีไอพีแห่งนี้
ทว่าจู่ ๆ พนักงานที่เป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นเพื่อนร่วมงานของเธอด้วยก็เข้ามาหาพร้อมทั้งมอบหมายให้นีรามนไปบริการยังโซนนั้น โดยเฉพาะโต๊ะนั้น...ที่จ่ายหนักที่สุด
“นามสกุลนี้คุ้น ๆ นี่มันลูกชายนักการเมืองพรรคร่วมฯ นี่ ...งานดีนะแก” หากได้ร่วมอุ่นเตียงกับเขาคงจ่ายหนักไม่เบา เผลอ ๆ หากเขาถูกใจรับเป็นเด็กเลี้ยงคงสบาย
ทว่านีรามนกลับมิคิดจะเอื้อมสูงไปมากกว่านั้น ท่ามกลางสายตาที่อิจฉาเธอหลายคู่
เพราะเวลาตกลงมา...มันจะเจ็บปางตาย
จนเมื่อหลายวันเข้า เมื่อเขามิสามารถที่จะทำให้นีรามนยอมเลื่อนสถานะและมาสยบอยู่แทบเท้าของเขา
นีรามนหวีดร้องตกใจชั่วครู่ สายตาของเธอแทบจะเถือหนังของอีกฝ่ายที่ฉุดเอวเธอแล้วรั้งเข้าไปนั่งแนบอิงยังตักของเขาทันควัน
กลิ่นน้ำหอมผู้ชายผสานแอลกอฮอล์ทำให้นีรามนคล้ายถูกมึนเมา ผู้คนต่างมองมาด้วยความสนใจใคร่รู้ ทว่ามิคิดมีใครเข้ามายุ่มย่ามหรือช่วยเหลือ
คงคิดว่าเธอเป็นแค่ลูกตาสีตาสาคนหนึ่ง ใครเขาจะมายอมช่วยเพื่องัดข้อกับลูกชายของผู้มีอิทธิพลในการปกครองประเทศ
“คุยกับผมหน่อยสิคนสวย” ปลายจมูกและริมฝีปากร้อนที่ชิดใกล้ทำให้นีรามนสะอิดสะเอียนแทบบ้า ลมหายใจที่เจือกลิ่นน้ำเมานั้นยิ่งทำให้เธอขยะแขยงชนิดที่ว่าน้ำหอมราคาแพงที่อีกฝ่ายบรรจงประโคมมานั้นแทบจะไร้ราคา
“ปล่อยค่ะ” เธอมาทำงานในฐานะเด็กเสิร์ฟ หาใช่ตำแหน่งอื่นที่ตอบสนองเรื่องอย่างว่าอย่างที่พนักงานเสิร์ฟคนอื่นบางคนทำ นีรามนพยายามเบี่ยงกายพร้อมทั้งดันร่างกายอีกฝ่ายออกอย่างรังเกียจที่สุด สัมผัสมือกร้านที่เข้ามายุ่มย่ามกับร่างกายของเธอช่างน่าสะอิดสะเอียน
จนเมื่อนีรามนมิอาจทานทน ศักดิ์ศรีของเธอหาใช่ใครต้องมาปกป้อง
เธอต้องปกป้องตัวเอง...
ใบหน้าคมสันสะบัดตามแรงตบ ในหัวของเขามีเสียงวิ้ง...อื้ออึ้ง ความชาจนกลายเป็นแสบร้อนเต้นตุบ ๆ ที่ซีกหน้าด้านหนึ่ง
เขาหันขวับ มองนังตัวดีที่ผลุนผลันออกจากกายของเขาไปอย่างน่าเสียดาย สายตาแน่วแน่และปราศจากความรู้สึกผิดของผู้หญิงคนนี้ช่างถือดียิ่งนัก...
ทว่าก่อนจะได้ทำอันใดเพื่อเป็นการสั่งสอน เขากลับสบถออกมาเมื่อมีลูกน้องของเขาเข้ามาขัดจังหวะร้อนแรง...
นีรามนมิอาจได้ยินว่าอีกฝ่ายกระซิบกระซาบอันใด รู้เพียงแต่ว่ามันผู้นั้นหันมามองเธอด้วยความเคียดแค้นทว่าทำอันใดมิได้ไปมากกว่าลุกขึ้นแล้วเดินออกจากร้านไป
ใครกันที่กล้าขัดจังหวะ...สุ้มเสียงไต่ถามดังขึ้นรายรอบนีรามนที่ลุกขึ้นแล้วรีบเดินออกจากบริเวณนั้นเข้าหลังร้าน
จึงมิทันได้สังเกตเห็นว่ายังชั้นสามซึ่งเป็นชั้นที่เหนือชั้นที่สุด มิใช่ใครที่มีเงินแล้วจะเข้าไปผ่อนคลายอารมณ์ ณ ที่ตรงนั้นได้ง่าย ๆ บัดนี้ได้ถูกเปิดโซนใช้งานอย่างสงบ…เพียงหนึ่งเดียว
จากนั้นนีรามนที่คิดจะลาออกจากที่แห่งนั้นเมื่อคิดว่าอย่างไรเธอก็ไม่น่าที่จะถูกเพิกเฉย
ก็เล่นตบหน้าแขกวีไอพี ไหนยังจะสร้างความวุ่นวายในคืนนั้นอีก
ทว่าน้ำเสียงและสีหน้าเรียบเรื่อยของดิษยา...หนึ่งในเจ้าของร้านที่เธอเพิ่งเคยพบหน้าก็วันนี้ ก็เป็นหลักฐานชั้นดีว่าเรื่องนี้นีรามนมิจำเป็นต้องกังวล
“ทำไมถึงอยากลาออก”
“ฉันทำผิดค่ะ”
คิ้วเข้มพาดองศารับกับใบหน้าเรียวสวยเลิกขึ้น สายตาเรียวรีจับจ้องเธออย่างจะค้นหา “คุณตบเขาเพื่อปกป้องตัวเอง คุณทำอะไรผิด”
คล้ายถูกคาดคั้นให้ตอบโดยใช้จิตสำนึกไตร่ตรองให้มากกว่านี้ จนสุดท้ายนีรามนจึงต้องตอบ “ฉันไม่ผิดค่ะ”
รอยยิ้มเรียบเรื่อยผุดขึ้นบนใบหน้าพริ้มเพรา “ไม่ผิดงั้นก็ไม่จำเป็นต้องออก”
การหารือจบแค่นั้น จดหมายลาออกถูกทิ้งขยะไป หนำซ้ำนีรามนถูกทับถมด้วยเงินจำนวนมากที่เจ้าของคลับคนสวยอ้างว่าให้เธอเป็นค่าทำขวัญไปก้อนใหญ่
จนต่อมา เมื่อนีรามนต้องได้ยินข่าวโคมลอยแปลก ๆ ที่มาพร้อมกับการหายตัวไปเลยของลูกชายนักการเมืองพรรคใหญ่คนนั้น
“เห็นว่าพ่อโดนเลื่อยขาเก้าอี้ทิ้งเลยนะ” ข่าวตามทีวีและอินเทอร์เน็ตออกหรา
“แหงสิ ไปทำคุณภาเขาขุ่นเคืองนี่” พวกพี่ ๆ พนักงานเก่าแก่ที่รู้จักหล่อนคนนั้นดีจึงพากันกริ่งเกรง ยกเว้นนีรามนและพนักงานบางส่วนที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ที่ไม่นึกรู้จักคนน่ากลัวที่ว่า
คุณภา... ชื่อเรียกขานย่อ ๆ นั้นติดอยู่ในหัวของนีรามน นึกขอบคุณผู้หญิงคนนั้นที่กำจัดผู้ชายมือปลาหมึกนั่นออกจากชีวิตของเธอได้ ทั้งที่ไม่อยากรู้สักนิดว่าผู้ชายคนนั้นพร้อมทั้งครอบครัวของเขาต้องล่มจมอย่างไรในเบื้องลึก และถูกกำจัดด้วยเพราะสาเหตุใด...นีรามนไม่ค่อยอยากรู้จักคนจำพวกสูง ๆ แบบนี้เท่าใดนัก มันไม่จำเป็นสำหรับเธอ
ทว่าโลกของเธอที่แสนจะธรรมดาและยากเข็ญนั้นกลับต้องมาบรรจบกับผู้หญิงคนนั้นจนได้ในวันหนึ่ง
“เข้ามาสิ” ดิษยาที่นั่งอยู่ในห้องนั้นด้วย และเป็นคนที่เรียกให้นีรามนขึ้นมาบริการที่นี่แบบเจาะจงว่าต้องเป็นเธอเท่านั้น ทั้งที่ปรกติชั้นนั้นรวมทั้งลูกค้าคนนั้นมักจะมีเด็กประจำที่คอยบริการหล่อนอยู่แล้ว
นีรามนจึงถูกพวกรุ่นพี่บางส่วนเขม่นง่ายดาย โดยเฉพาะรุ่นพี่ที่เป็นเหมือนดาวเด่นของที่นี่ แต่จะออกตัวแรงมากไม่ได้เพราะกฎของที่นี่เข้มงวดมากเรื่องพนักงานขัดแย้งกัน
“ได้ดีแล้วอย่าลืมพวกพี่นะน้องไม้” พวกเขาเอ่ยคล้อยหลังแบบนั้น... ทว่าเธอมิได้ตอบรับอันใด
นีรามนตีหน้านิ่งเรียบ เป็นเอกลักษณ์ของเธอไปเสียแล้วที่หากจะยิ้มก็ต่อเมื่อเสิร์ฟเสร็จเรียบร้อย ทว่าก็เป็นรอยยิ้มที่เพียงมุมปากเล็กน้อยเท่านั้น
เธอไม่สบตา ไม่จ้องหน้าแขกคนสำคัญที่ขนาดเจ้าของร้านมารับรองเอง ใบหน้าและไรผมยังคงชื้นเหงื่อเพราะเลิกงานสอนพิเศษตอนเย็นสายไปนิดจนต้องรีบถ่อมาเข้างานที่นี่อย่างรวดเร็ว ลมหายใจหอบเล็กน้อย...
ซึ่งเหล่านี้ของนีรามนถูกจับสังเกตอย่างไม่ยากนัก เพราะอยู่ใกล้กันแค่นี้
นีรามนเบิกตากว้าง สะดุ้งเมื่อสัมผัสถึงมือร้อนผ่าวและหอมกลิ่นอายบางอย่างจากใครที่อยู่ใกล้กัน
จนต้องเงยหน้ามองเจ้าของผ้าเช็ดหน้าเนื้อนุ่มและหอมนั่นที่เจ้าตัวถือวิสาสะเอามันมาซับเหงื่อที่ขมับชื้นของเธอ... สัมผัสจากปลายนิ้วร้อนเพียงแค่มีเนื้อผ้าเรียบลื่นกางกั้นเท่านั้น
ความกรุ่นโกรธตีคุขึ้น ทว่าช่างขี้โกงที่รอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าปานหยาดน้ำผึ้งนั่นทำให้ใจเธอเย็นลงอย่างประหลาด จากการล่วงละเมิดกลายเป็นความหวังดีเสียอย่างนั้น
พร้อมน้ำเสียงนุ่มที่เอ่ยขึ้นข้างหู “เหนื่อยแย่เลยนะคะ” สายตาหวานล้ำนั่นราวกับล่วงรู้ความเหนื่อยยากทุกอย่างของเธอทั้งหมด
มันจะเกินไปแล้ว...
นีรามนรีบผละออกมาพร้อมถาดเสิร์ฟในมือ เธอก้มหัวให้ดิษยาและหล่อนคนนั้นที่มองอยู่
หัวใจมันสั่นไหวแม้กระทั่งเดินเข้ามาประจำที่ยังที่ประจำก็ยังไม่คลาย สายตาพยายามละจากชั้นสามนั่นที่มีกระจกกว้างใสทำให้มองมาเห็นด้านล่างทั้งหมด...ไม่เว้นแม้กระทั่งที่ที่เธอยืนอยู่
จนเพื่อนร่วมงานน้อยใหญ่เข้ามาเกาะแกะและทู่ซี้เธออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “เป็นไงบ้างไม้”
นีรามนคนที่ค่อนข้างเข้าถึงยากและดูถือตัว ทว่าเมื่อพวกเขาได้ลองทำความรู้จักมาสักพัก พบว่ามันก็แค่เปลือกนอก ก็เป็นแค่เด็กสาวน่าเอ็นดูที่สู้ชีวิตคนหนึ่งเท่านั้น
นีรามนที่กำลังช่วยล้างแก้วและจานเลิกคิ้ว “อะไรคะ”
ก่อนคำตอบของเพื่อนร่วมงานพวกนั้นจะทำให้นีรามนเงยหน้าขึ้นมองยังที่ที่เพิ่งออกมา
คนคนนั้น...ที่กำลังหยิบยื่นข้อเสนอมาให้เธอถึงที่ อย่างที่หากอยากได้คนที่เอาไว้สำหรับทำเรื่องอย่างว่า ระดับอย่างผู้หญิงคนนี้ เพียงกระดิกนิ้วก็มีแต่คนดาหน้าเข้ามาให้เลือกเกลื่อนกลาด
หลังจากวันนั้น จนเวลาผ่านไปสักพัก นีรามนดันเจอผู้หญิงคนนี้อีก ราวกับเจ้ากรรมนายเวรที่คอยตามตัวเธอ รู้ทุกย่างก้าวของเธอ
และจะตามติด จนกว่าจะได้เธอ...
“พี่ไม่รู้ว่าไม้เจออะไรมาถึงได้ซึมขนาดนี้ ปกติไม้ไม่เคยเป็นถึงขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เรื่องครอบครัว แต่คุณน้าก็ดูสบายดี พี่เลยคิดว่าไม่น่าใช่เรื่องนั้น...” ศิรินภาฉลาดและสังเกตเธอเสมอ“พี่ไม่คาดหวังให้ไม้เชื่อใจและเล่าทุกอย่างให้พี่ฟังหรอก พี่เลยคิดแค่ว่าอยากมาอยู่ข้าง ๆ ไม้ ให้ไม้รู้ว่าไม้ไม่ได้ตัวคนเดียว”“…”“ไม้ยังมีพี่อยู่ตรงนี้ และถ้าไม้อยากบอกเมื่อไหร่ พี่จะฟังและจะช่วยเหลือไม้เท่าที่ไม้อยากจะให้พี่ช่วย” เสียงนกร้องบินกลับรังดังขึ้นภายนอกตึก ทว่าภายในห้องกลับเงียบงัน “ขอบคุณมากค่ะ” นีรามนกล่าวแค่นั้น จะให้บอกอะไรอื่นได้เล่า จะให้บอกหรือว่าที่เธอต้องเศร้าแบบนี้ก็เพราะพี่สาวของคุณนั่นแหละศิรินภาเอื้อมมือไปหาคนน้อง ปลายนิ้วเกลี่ยเช็ดหยดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาที่แสนน่ารักของคนน้อง การกระทำที่ทะนุถนอมนี้ยิ่งทำนีรามนยิ่งร้องไห้หนักกว่าเก่าคนน้องหันมองไปทางอื่น หลังมือใช้ปาดน้ำตาป้อย ๆ ในหัวพลันคิด…ว่าหากคนใจร้ายคนนั้นใจดีได้เท่า หรืออาจจะเพียงเสี้ยวหนึ่งของศิรินภา ก็คงจะดีไม่น้อยไม่ใช่มองเธอเป็นตัวอะไรไม่รู้แบบนี้…ศิรินภาไม่อาจทนเห็นน้ำตาของคนน้อง ลุกขึ้นเข้าไปสวมกอดนีรามน หยาดน้ำตาข
หลังจากเหตุการณ์นั้นไม่นานในวันเดียวกัน ศิรินภาที่ติดภารกิจอยู่จึงส่งคนสนิทอย่างจันทร์จิราให้มาดูนีรามนถึงที่ นีรามนบอกไปว่าทุกอย่างโอเค จันทร์จิราที่เพียงรับฟังและเก็บรายละเอียดเงียบ ๆ ก่อนจะทำเป็นรับรู้เรื่องราวแล้วกลับไป จากนั้นนีรามนจึงเอาแต่นั่งซึม บางครั้งหน่วงถึงขั้นไม่รู้ตัวว่าน้ำตาไหลออกมา นีรามนไม่ใช่คนที่ร้องไห้กับอะไรง่าย ๆ ...ทำไมต้องใจร้ายกับฉันขนาดนี้ด้วยคะ...คุณพันทิวา ประโยคคำถามนี้มันเอาแต่วนเวียนอยู่ในใจของเธอพันทิวายังคงอยู่ในความคิด อยู่ในห้อง รสจูบยังอยู่ในความทรงจำไม่หายมันหวาน ทว่าขมขื่นเป็นหมื่นเท่าจูบที่ยัดเยียด หาใช่เกิดจากความต้องการจูบจริง ๆ จูบเพื่อเอาชนะ เพื่อเหนือกว่าเธอ...นีรามนปาดน้ำตาขณะนั่งกอดเข่าอยู่บนเก้าอี้ทำงาน พอดีกับที่มือถือมีสายเรียกเข้า...“พี่ไปหาได้มั้ย” เป็นศิรินภาที่โทรมา“คุณจันทร์จิราเพิ่งมาหาหนูเองค่ะ”“พี่รู้ แต่พี่อยากไปหาไม้” นีรามนเหม่อมองนอกหน้าต่าง เป็นท้องฟ้ายามเย็นที่อึมครึม มันไม่มีสีส้มอบอุ่นแฝงนีรามนกรอกเสียงตอบไป “หนูขอเวลาอาบ--” “พี่ไม่ได้มาเพราะเรื่องนั้น” ถ้อยคำของคนพี่ทำให้นีรามนนิ่งไป “พี่แค่อยากมาดูว่าไม
เรียวลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดอย่างป่าเถื่อนจนเธอคล้ายถูกสูบลมหายใจ...ขณะเดียวกันนีรามนกลับรู้สึกคล้ายเติมเต็มราวกับรอคอยจูบนี้มาเนิ่นนาน...ทว่าไม่ควรเป็นจังหวะเวลานี้ ไม่ใช่เธอ...ที่เป็นผู้หญิงหน้าไม่อายที่อีกฝ่ายจงเกลียดจงชังเธอไม่นึกต้องการสัมผัสแบบนี้ แม้จะมาจากคนที่เธอมอบหัวใจให้ก็ตาม...คิดดังนั้นมือสั่นเทาจึงขึ้นผลักไสเต็มแรง และจนเมื่อปลายนิ้วร้อนสัมผัสถึงหยาดน้ำตาอุ่น...พันทิวาผละริมฝีปากออก สายใยสีใสยังเชื่อมต่อถึงกันก่อนคนใจร้ายจะยกยิ้ม ทั้งที่ความเป็นจริงในใจนั้นเริ่มหนักอึ้งราวถูกเหล็กถ่วง เมื่อได้สบสายตาแดงก่ำที่ฉ่ำน้ำทว่าปากนั้นร้ายไปก่อน แค่นยิ้มสะใจ “ก็ไม่ได้รังเกียจนี่” ทำเป็นหวงตัว จะตีราคาตนให้สูงขึ้นหรือไงทว่ารอยยิ้มกลับกระตุกวูบพอกันกับใจ เมื่อนีรามนเงยหน้าขึ้นสบสายตาเต็มขั้น ไม่ได้ร้องไห้คร่ำครวญ ทว่ากำลังกัดฟัน ปากบวมแดงเจ่อน่าจูบต่อนั้นปิดนิ่ง สายตาฉ่ำน้ำแดงก่ำ ก่อนที่น้ำตาหยดต่อไปจะไหลอาบหน้าเป็นทางยาว... ทว่าคนปากร้ายกลับอยากนึกตบปากตนเองให้เลือดอาบ ที่ดันเอ่ยเสียงเรียบเรื่อยอย่างเย็นใจยิ่งนักกับการกระทำสามานย์นี้ “ทำกับฉันมันก็ไม่ได้แย่ ถูกมั้ย?” ไม่
นีรามนซ่อนสายตาสั่นไหวของตน เปลี่ยนเป็นสู้เสือ “คุณมีเท่าไหร่ล่ะ” บังเกิดรอยยิ้มถูกใจบนใบหน้างามผุดผาด ถูกใจมาก... “มีมากกว่าไอ้ภาแล้วกัน สนใจมั้ย” จนอยากปราบให้หายพยศ ไวกว่าความคิด นีรามนจึงเบิกตากว้าง เนื้อตัวนิ่งค้าง ผิดกับความคาดหวังที่ว่าต้องช่ำชองชำนิชำนาญตามประสาเด็กกร้านโลก...คนใจดำคิด ก่อนจะเริ่มเดินเกมต่อมิคิดปล่อยให้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเป็นอิสระ “อื้อ” นีรามนครางเครือกับการรุกรานแสนวาบหวาม เมื่อได้สติเข้า เรี่ยวแรงมดในความคิดคนใจร้ายจึงผลักไส ทั้งทุบตี อย่างที่มิเคยมีใครหาญกล้าริทำ...แม้หล่อนจะไม่ปฏิเสธว่าสารเลวที่เข้าขืนใจอีกฝ่ายก่อนก็ตาม ทั้งปฏิเสธจูบ ทั้งประทุษร้าย... เอวถูกรวบเข้าแนบแน่น พอกันกับเสี้ยวหน้าที่ถูกมืออุ่นร้อนประคองไว้แนบแน่นคล้ายกักกันมิให้ไม้ปฏิเสธจูบอุกอาจตรงหน้า ความหวานอุ่นนุ่มล้ำซึมซ่านเข้า...พันทิวาครางออกมาด้วยความพึงพอใจ รวบกอดคนตัวเล็กกว่าแน่นเข้า ความเป็นนีรามนกำลังทำให้หล่อนคลั่ง นีรามนเริ่มอ่อนปวกเปียก มือสั่นเทาเผลอวางทาบบนไหล่ระหงมั่นคง แล้วร่างก็ถูกรวบเข้าอ้อมกอดคล้ายหลักยึดไว้พอดี ความร้อนถ่ายเทกันและกัน นีรามนยิ่งใจสั่น ราว
รอเธอหันมา พลันเมื่อเห็นนายของพวกเขาเดินตามเด็กสาวคนนั้นเข้าไปในหอพัก นายของเขากลายเป็นคนในหอพักไปเรียบร้อย ทั้งชานนท์และศิลามองนายเหนือหัวของพวกเขาจนลับสายตา ก่อนจะหันมามองตากันอย่างไม่พูดอะไรก็เข้าใจ ตอนนี้นายของพวกเขาคล้ายหมาจรที่เอาแต่คอยขู่กรรโชกคนที่หวังดี อยากรับเลี้ยง... ทว่าเมื่อเห็นว่าเขาถอยห่าง ก็กลับหงอย ได้แต่คาบสายจูงไว้รอท่า ด้วยท่าทีหูลู่ หางตก และ ณ ตอนนี้นายของพวกเขาก็โดนตกเข้าให้แล้ว ตก...ด้วยรอยยิ้มของเด็กคนนั้น นีรามน . . . พันทิวากวาดตามองห้องเล็กแคบของนีรามนอย่างประเมิน สายตานั่นไม่ใช่แค่สงสัย...มันดูหมิ่น แต่ซ่อนความสนใจบางอย่างอยู่ด้วย “อยู่ที่แบบนี้ทุกวันเหรอ?” เสียงที่เอ่ยฟังดูปกติ แต่แฝงแรงตัดสินลึก ๆ ในทุกถ้อยคำ นีรามนวางถุงข้าวของลง “สำหรับอยู่คนเดียว ก็พออยู่ได้ค่ะ” “ไอ้ภามันไม่เคยมาดูแลบ้างเลยเหรอ?” “มันไม่เกี่ยวกับคุณภา” เธอว่าเสียงเรียบ พันทิวาหัวเราะเบา ๆ เดินสำรวจห้องราวกับถือกรรมสิทธิ์ เธอไม่ควรปล่อยให้คนคนนี้อยู่ใกล้ แต่ก็ไม่เคยห้ามเขาได้เลยตั้งแต่ต้น "ดูเธอเหมือนอยากให้ฉันอยู่ อยากให้ฉันเห็น" พันทิวา...คนสวยของเธอ เดินสำรวจไปท
เหตุใดยามที่เห็นรอยยิ้มของเด็กคนนั้นที่เพียงแย้มยิ้มใส่แมวสีส้มและสีขาว และลายขมุกขมัวที่เดิมก็นอนอยู่แถว ๆ ทางเข้าหอพัก เมื่อเห็นนีรามนพวกมันจึงเดินเข้ามาหาอย่างรู้งาน หางสะบัดไหวไปมา ท่าทางที่เด็กคนนั้นยอบตัวลงลูบหัวพวกมันพร้อมเทอาหารเปียกที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อใส่จานข้าวที่ตั้งอยู่หน้าทางเข้าหอพัก คล้ายภายในของหล่อนที่มันว้าวุ่น หาที่ลงไม่ได้ สุดท้ายจึงสงบลงในที่สุด...เมื่อพบเห็นเด็กอวดดีว่ายังอยู่ดี . . . “แค่เขาให้ข้าวก็เชื่องแล้วหรือไง โง่...” เสียงหนึ่งที่ดังขึ้นจากด้านหลัง เสียงที่เธอไม่ได้ยินมาสักพักทว่ายังคงดังในความรู้สึก นีรามนหันขวับไปหา พบว่ามีใครก็ไม่รู้ที่ปรามาสได้แม้กระทั่งแมวที่ไม่รู้เดียงสา พันทิวายกยิ้มสะใจ ทว่าภายในรู้สึกวูบโหวงเล็กน้อยเมื่อเห็นสายตาที่วูบไหวของเด็กอวดดี ราวกับไม่ดีใจสักนิดที่หล่อนมาอยู่ตรงนี้ “คุณพันทิวา” นีรามนยืนขึ้นในรองเท้าผ้าใบ เธออยู่ในกางเกงยีนขายาว เสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบ ๆ มวยผมเกล้าที่หลังท้ายทอย เธอยกมือไหว้อีกคนที่ยังคงสวยสง่าดังเดิม ดูไม่เข้ากันกับพื้นที่นี้สักนิด พันทิวามองดูเด็กกะโปโลยกมือไหว้หล่อน ไม่ได้รับไหว้ มอง



![นายบำเรอของมาเฟีย [Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)



