Share

7

last update Last Updated: 2025-09-17 20:52:55

สายลมเย็นพัดผ่านมา ณ สถานที่จัดงานที่เป็นโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา อดีตเคยเป็นวังของขุนน้ำขุนนางมาก่อนจนกลายเป็นสมบัติของตระกูลหนึ่งที่หยิบจับสถานที่นี้มาเป็นที่พักสุดหรูและได้รับความนิยมจากทั้งในไทยและต่างชาติได้ไม่ยาก  

นารยพยัคฆ์ยังคงเป็นที่ต้อนรับและเป็นที่พูดถึงและกำลังถูกสังคมเข้าหาและรุมทึ้ง จากที่ปรกติแทบจะไม่ลงมาจากเหนือ ไม่ค่อยปรากฏตัวสู่สังคมเท่าไหร่นัก นอกเสียจากว่าเป็นงานที่ใหญ่มากพอ หรือจะมีใครบากหน้าขึ้นเหนือเพื่อไปพบและเทียบเชิญนารยพยัคฆ์ด้วยตนเอง  

มิเช่นนั้น คงไม่ได้ยลโฉมนายใหญ่แห่งนารยพยัคฆ์คนปัจจุบันดังเช่นนี้เป็นแน่แท้ 

“เป็นเกียรติมากนะคะที่ได้พบคุณแบบนี้” หลายคนเห็นด้วยกับถ้อยคำของท่านผู้หญิงคนหนึ่งที่กล่าวกับพันทิวา “ลูกสาวของดิฉันแกกำลังเดินทางกลับมาจากอังกฤษ…” แล้วก็ตามด้วยถ้อยคำทาบทามลูกหลานของตนเองมาอีกเป็นพรวนจากอีกหลายคนที่เข้าหาหล่อน 

พันทิวาตอบรับ ยิ้มแย้มอย่างที่ทำมาตลอด ทว่าในใจหล่อนเข้าขั้นเบื่อหน่าย  

หากไม่ใช่เพราะเด็กคนนั้น หล่อนคงไม่ต้องมาวุ่นวายกับคนพวกนี้แบบนี้แน่ ๆ  

ใบไม้จากต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางลานร่วงหล่นเพราะสายลมเย็นพัดพาจากแม่น้ำเจ้าพระยา  

พร้อมด้วยเสียงบรรเลงขิม ดนตรีไทยเดิมที่ทำให้ผู้คนในงานต่างหยุดพูดคุย แล้วหันไปจับจ้องยังต้นเสียงทันใด 

บุคคลที่บังอาจก่อกวนความคิดของหล่อนมาตลอด…ในที่สุดก็มาปรากฏตัวเป็น ๆ ให้หล่อนเห็นต่อตา 

พันทิวากอดอก จับจ้อง จ้องมองยังใครบางคนที่นั่งหน้าแฉล้มไม่เข้ากับสถานที่และบรรยากาศ  

ทั้งที่จริงนั้นเป็นที่สนใจของคนทั้งงาน เพราะท่าทางนั่งพับเพียบสงบเสงี่ยม มือนวลสองข้างค่อย ๆ จับซี่ไม้บอบบางเคาะเลียลามไปตามสายขิมจนเกิดเสียงกังวานพริ้ง...ฟุ้งฟ่องไปทั่วทั้งบรรยากาศงาน  

สายลมพัดผ่านพาปอยผมพลิ้วระใบหน้าอ่อนหวานนั่น อีกทั้งชายสไบของชุดที่พลิ้วสีกลีบบัวอ่อนที่ขับผิวยิ่งนวลลออ นีรามน...เด็กคนนั้นยังคงมีสมาธินิ่ง จดจ่ออยู่กับการละเล่นเครื่องดนตรีไทยเป็นทำนองเพลงลาวดวงเดือน...เพลงไทยเดิมยอดนิยม 

จึงไม่รู้เลยว่าทำใครต่อใครมิอาจละสายตาจาก...  

“เหมือนางในวรรณคดีเลยนะ” ได้ยินเสียงหนึ่งในแขกที่เข้าร่วมงานกล่าวเช่นนั้น ทว่าพันทิวาหาได้เห็นด้วยไม่... หล่อนพยายามไม่สนใจคำชื่นชมและท่าทางชื่นชมของคนทั้งงาน  

ก็แค่เต้นกินรำกิน มันจะอะไรหนักหนา... 

หลังเพลงจบ คนในงานจึงยิ่งแตกตื่น เมื่อเห็นศิรินภา นราธิปกเดินฝ่าวงล้อมมาด้วยรอยยิ้มบนวงหน้าแฉล้ม 

“พี่มารับค่ะ” ศิรินภายื่นขวดน้ำแร่เย็นเฉียบให้นีรามนที่เพิ่งเล่นดนตรีจบ  

นีรามนยกยิ้มให้คนพี่ รับขวดน้ำแร่นั้นมาจิบ “ขอบคุณค่ะ” 

ท่าทางของนักบรรเลงขิมสาวน้อยกับศิรินภา...หนึ่งในผู้นำนราธิปก ว่าที่นราธิปกคนต่อไป ได้สร้างความฮือฮาอย่างเงียบเชียบ ไหนจะท่าทีถ้อยอาศัยที่ศิรินภามีให้เด็กคนนั้นอีกเล่า ดูที่คุณภาคอยประคองเด็กคนนั้นลงมาจากเวทีโชว์นั่น ดูรอยยิ้มหวาน ๆ ของคุณเขาสิ 

ท่าทางเด็กนักดนตรีคนนั้นคงจะมิใช่แค่นักดนตรีรับจ้างมาบรรเลงงานเลี้ยงนี่เฉย ๆ เสียแล้ว 

“มองแค่พี่คนเดียวก็พอค่ะ” ศิรินภากำชับกับนีรามนที่แม้ภายนอกจะนิ่งสงบ แต่ทว่าหล่อนรู้ดีกว่าใครว่านีรามนต้องแบกรับความเสี่ยงมากแค่ไหนกับการเปิดตัวกลาย ๆ ของเธอเอง 

ความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนและเธอจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป...ศิรินภาต้องการเช่นนั้น และนีรามนจำเป็นต้องทำตามเพราะมิอาจต่อต้านสัญญา ทว่าค่าเสียหายและความปลอดภัยทุกอย่าง ศิรินภาขอแบกรับนีรามนไว้ด้วยชีวิต 

คนพี่จึงก้มลงมองหน้าคนน้องอย่างขอโทษด้วยสายตา ทว่ากลับเป็นนีรามนที่สุดท้ายก็ถอนหายใจแล้วยกยิ้ม กุมมือน้อย ๆ ตอบกลับมือเรียวของคนพี่ในท้ายที่สุด  

“ฉันต้องทำให้คุ้มค่าจ้างสินะ” นีรามนกล่าวเช่นนั้น เธอต้องรับบทว่ารักกับศิรินภานักหนา...  

ศิรินภารู้สึกเจ็บร้าวในอกทว่าสิ่งที่แสดงออกคือยิ้มให้คนน้อง “พี่ต้องรบกวนไม้แล้ว...” เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับคู่และเพื่อประกาศว่าหล่อนนั้นมีเจ้าของแล้ว ก็คือเด็กคนนี้นี่เอง 

และแล้วโจทก์ใหญ่ก็มายืนปะทะอยู่ตรงหน้าเธอจนได้ นีรามนสบสายตากับหล่อนคนนั้นที่จงเกลียดจงชังเธอหนักหนา 

ศิรินภากระชับมือเธอแน่นขึ้น ท่ามกลางสายตาใคร่รู้ของคนนอก ทว่านีรามนมิได้สนใจใคร...เธอสนใจเพียงความเกลียดที่คนตรงหน้าส่งมาให้เธอ  

“ฉลาดดี รู้จักวิธีเปิดตัวให้คนเขาประทับใจ” น้ำเสียงเย้ยหยัน รอยยิ้มงดงามอ่อนหวานทว่าสายตาราวกับยิ้มเยาะ “คุณพ่อรู้เข้าคงชื่นชมว่าสะใภ้ใหญ่นราธิปกก็ไม่น้อยหน้าคนอื่น... เต้นกินรำกิน” 

“พี่แพรคะ” ศิรินภาคล้ายจะอ้อนวอนพี่สาวต่างแม่  

ทว่าสิ่งที่พันทิวาทำกลับเพียงแค่ปรายตามองน้องสาวต่างมารดาเพียงชั่วครู่ ยกยิ้มอ่อนโยน “คุณพ่อคงมาถึงงานแล้วมั้ง แกไม่ไปรับหน่อยล่ะ” เอ่ยเปลี่ยนประเด็นอย่างหน้าตาเฉย ทั้งที่สร้างร่องรอยบาดแผลใหญ่หลวงไว้ให้กับนีรามนที่เพียงนิ่งไป  

“เด็กคนนั้น...จะพาไปด้วยมั้ย” พันทิวาเอ่ยออกมาตรง ๆ “หรือจะฝากไว้กับฉันก่อน” 

แน่นอนว่าศิรินภาไม่มีทางเลือกอย่างหลังแน่นอน “ไม้อยู่กับน้องดีที่สุดแล้วค่ะ” คนเป็นน้องสาวบอกกับพี่สาวอย่างติดงอน ๆ ที่พี่สาวร้ายกับคนของน้องเหลือเกิน 

นีรามนเงยหน้ามองศิรินภาที่เพิ่งเอ่ยออกไปว่าจะพาเธอไปด้วย...ไปหาผู้นำบ้านนราธิปกที่หมายมาดในชีวิตเธอที่สุด 

ก็ไม่รู้ว่าจะเลือกอยู่ที่นี่ให้พันทิวาโขกสับหรือเลือกที่จะตัวติดกับศิรินภาจะดีกว่ากัน... 

ศิรินภาจูบที่หลังมือที่สั่นเทาเล็กน้อยของนีรามนที่ยังคงยิ้มน้อย ๆ รักษาทีท่านิ่งสงบได้เป็นอย่างดีทีเดียว...ในสายตาของพันทิวาที่สังเกตสังกาเด็กคนนี้ 

จึงทำให้นายเหนือหัวของนารยพยัคฆ์นั้นยิ่งสนเท่ห์...สนเท่ห์ในสายตาที่เศร้าสร้อยตัดพ้อของเด็กคนนั้นที่มองมาทางตนเอง 

เธอควรจะโกรธฉันสิ...ถึงจะถูก ไม่ใช่ทำหน้าทำตาเหมือนโดนปฏิเสธแบบนั้น 

“คุณไปเถอะ ฉันรอที่นี่แหละค่ะ” นีรามนตัดสินใจกร้าวแกร่ง กล่าวกับศิรินภา  

เธอไม่อยากดูเป็นคนอ่อนแอสำหรับใครบางคน ไม่ได้อยากดูสนิมสร้อยให้ใครบางคนหยามเหยียด 

นีรามนพยักหน้าให้ศิรินภาพร้อมปล่อยมือจาก... 

ศิรินภาถอนหายใจ ยกมือขึ้นลูบที่ศีรษะของเด็กน้อย “เดี๋ยวพี่มา” ละสายตาไปสบตากับพันทิวา “ฝากด้วยนะคะพี่แพร” เอย่ถ่อยคำชัด ไม่ได้ขู่คนพี่ แต่เป็นการขอร้อง... 

ศิรินภาจากไป เหลือเพียงนีรามนในงาน เด็กสาวเตรียมจะเดินไปที่อื่นเพราะไม่อยากเป็นจุดเด่นไปมากกว่านี้ ทว่าเธอกลับหยุดเพราะเสียงเรียกของใครบางคน 

“เดี๋ยวสิ...”  

นีรามนหยุดฝีเท้าแล้วหันกลับไป 

พันทิวาหยิบเช็คเปล่าออกมาจากกระเป๋าคลัตช์หรู ปลายนิ้วเหวี่ยงแผ่นเช็คเปล่าเบา ๆ จนเหมือนจะปะทะเข้ากับใบหน้าอ่อนละมุนของนีรามน  

“จะเอาเท่าไหร่ก็เขียนมา ฉันเซ็นแล้ว” สายตานิ่งพร้อมรอยยิ้มเหยียดหยามเต็มขั้น รอยยิ้มเหยียดหยันของพันทิวาช่างกรีดลึกในใจเธอ 

ท่ามกลางสายตาใครต่อใครที่ต่างสนเท่ห์ในตัวเด็กคนนี้  

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เด็กเลี้ยง   43 44

    “พี่ไม่รู้ว่าไม้เจออะไรมาถึงได้ซึมขนาดนี้ ปกติไม้ไม่เคยเป็นถึงขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เรื่องครอบครัว แต่คุณน้าก็ดูสบายดี พี่เลยคิดว่าไม่น่าใช่เรื่องนั้น...” ศิรินภาฉลาดและสังเกตเธอเสมอ“พี่ไม่คาดหวังให้ไม้เชื่อใจและเล่าทุกอย่างให้พี่ฟังหรอก พี่เลยคิดแค่ว่าอยากมาอยู่ข้าง ๆ ไม้ ให้ไม้รู้ว่าไม้ไม่ได้ตัวคนเดียว”“…”“ไม้ยังมีพี่อยู่ตรงนี้ และถ้าไม้อยากบอกเมื่อไหร่ พี่จะฟังและจะช่วยเหลือไม้เท่าที่ไม้อยากจะให้พี่ช่วย” เสียงนกร้องบินกลับรังดังขึ้นภายนอกตึก ทว่าภายในห้องกลับเงียบงัน “ขอบคุณมากค่ะ” นีรามนกล่าวแค่นั้น จะให้บอกอะไรอื่นได้เล่า จะให้บอกหรือว่าที่เธอต้องเศร้าแบบนี้ก็เพราะพี่สาวของคุณนั่นแหละศิรินภาเอื้อมมือไปหาคนน้อง ปลายนิ้วเกลี่ยเช็ดหยดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาที่แสนน่ารักของคนน้อง การกระทำที่ทะนุถนอมนี้ยิ่งทำนีรามนยิ่งร้องไห้หนักกว่าเก่าคนน้องหันมองไปทางอื่น หลังมือใช้ปาดน้ำตาป้อย ๆ ในหัวพลันคิด…ว่าหากคนใจร้ายคนนั้นใจดีได้เท่า หรืออาจจะเพียงเสี้ยวหนึ่งของศิรินภา ก็คงจะดีไม่น้อยไม่ใช่มองเธอเป็นตัวอะไรไม่รู้แบบนี้…ศิรินภาไม่อาจทนเห็นน้ำตาของคนน้อง ลุกขึ้นเข้าไปสวมกอดนีรามน หยาดน้ำตาข

  • เด็กเลี้ยง   41 42

    หลังจากเหตุการณ์นั้นไม่นานในวันเดียวกัน ศิรินภาที่ติดภารกิจอยู่จึงส่งคนสนิทอย่างจันทร์จิราให้มาดูนีรามนถึงที่ นีรามนบอกไปว่าทุกอย่างโอเค จันทร์จิราที่เพียงรับฟังและเก็บรายละเอียดเงียบ ๆ ก่อนจะทำเป็นรับรู้เรื่องราวแล้วกลับไป จากนั้นนีรามนจึงเอาแต่นั่งซึม บางครั้งหน่วงถึงขั้นไม่รู้ตัวว่าน้ำตาไหลออกมา นีรามนไม่ใช่คนที่ร้องไห้กับอะไรง่าย ๆ ...ทำไมต้องใจร้ายกับฉันขนาดนี้ด้วยคะ...คุณพันทิวา ประโยคคำถามนี้มันเอาแต่วนเวียนอยู่ในใจของเธอพันทิวายังคงอยู่ในความคิด อยู่ในห้อง รสจูบยังอยู่ในความทรงจำไม่หายมันหวาน ทว่าขมขื่นเป็นหมื่นเท่าจูบที่ยัดเยียด หาใช่เกิดจากความต้องการจูบจริง ๆ จูบเพื่อเอาชนะ เพื่อเหนือกว่าเธอ...นีรามนปาดน้ำตาขณะนั่งกอดเข่าอยู่บนเก้าอี้ทำงาน พอดีกับที่มือถือมีสายเรียกเข้า...“พี่ไปหาได้มั้ย” เป็นศิรินภาที่โทรมา“คุณจันทร์จิราเพิ่งมาหาหนูเองค่ะ”“พี่รู้ แต่พี่อยากไปหาไม้” นีรามนเหม่อมองนอกหน้าต่าง เป็นท้องฟ้ายามเย็นที่อึมครึม มันไม่มีสีส้มอบอุ่นแฝงนีรามนกรอกเสียงตอบไป “หนูขอเวลาอาบ--” “พี่ไม่ได้มาเพราะเรื่องนั้น” ถ้อยคำของคนพี่ทำให้นีรามนนิ่งไป “พี่แค่อยากมาดูว่าไม

  • เด็กเลี้ยง   39+40

    เรียวลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดอย่างป่าเถื่อนจนเธอคล้ายถูกสูบลมหายใจ...ขณะเดียวกันนีรามนกลับรู้สึกคล้ายเติมเต็มราวกับรอคอยจูบนี้มาเนิ่นนาน...ทว่าไม่ควรเป็นจังหวะเวลานี้ ไม่ใช่เธอ...ที่เป็นผู้หญิงหน้าไม่อายที่อีกฝ่ายจงเกลียดจงชังเธอไม่นึกต้องการสัมผัสแบบนี้ แม้จะมาจากคนที่เธอมอบหัวใจให้ก็ตาม...คิดดังนั้นมือสั่นเทาจึงขึ้นผลักไสเต็มแรง และจนเมื่อปลายนิ้วร้อนสัมผัสถึงหยาดน้ำตาอุ่น...พันทิวาผละริมฝีปากออก สายใยสีใสยังเชื่อมต่อถึงกันก่อนคนใจร้ายจะยกยิ้ม ทั้งที่ความเป็นจริงในใจนั้นเริ่มหนักอึ้งราวถูกเหล็กถ่วง เมื่อได้สบสายตาแดงก่ำที่ฉ่ำน้ำทว่าปากนั้นร้ายไปก่อน แค่นยิ้มสะใจ “ก็ไม่ได้รังเกียจนี่” ทำเป็นหวงตัว จะตีราคาตนให้สูงขึ้นหรือไงทว่ารอยยิ้มกลับกระตุกวูบพอกันกับใจ เมื่อนีรามนเงยหน้าขึ้นสบสายตาเต็มขั้น ไม่ได้ร้องไห้คร่ำครวญ ทว่ากำลังกัดฟัน ปากบวมแดงเจ่อน่าจูบต่อนั้นปิดนิ่ง สายตาฉ่ำน้ำแดงก่ำ ก่อนที่น้ำตาหยดต่อไปจะไหลอาบหน้าเป็นทางยาว... ทว่าคนปากร้ายกลับอยากนึกตบปากตนเองให้เลือดอาบ ที่ดันเอ่ยเสียงเรียบเรื่อยอย่างเย็นใจยิ่งนักกับการกระทำสามานย์นี้ “ทำกับฉันมันก็ไม่ได้แย่ ถูกมั้ย?” ไม่

  • เด็กเลี้ยง   36+37+38

    นีรามนซ่อนสายตาสั่นไหวของตน เปลี่ยนเป็นสู้เสือ “คุณมีเท่าไหร่ล่ะ” บังเกิดรอยยิ้มถูกใจบนใบหน้างามผุดผาด ถูกใจมาก... “มีมากกว่าไอ้ภาแล้วกัน สนใจมั้ย” จนอยากปราบให้หายพยศ ไวกว่าความคิด นีรามนจึงเบิกตากว้าง เนื้อตัวนิ่งค้าง ผิดกับความคาดหวังที่ว่าต้องช่ำชองชำนิชำนาญตามประสาเด็กกร้านโลก...คนใจดำคิด ก่อนจะเริ่มเดินเกมต่อมิคิดปล่อยให้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเป็นอิสระ “อื้อ” นีรามนครางเครือกับการรุกรานแสนวาบหวาม เมื่อได้สติเข้า เรี่ยวแรงมดในความคิดคนใจร้ายจึงผลักไส ทั้งทุบตี อย่างที่มิเคยมีใครหาญกล้าริทำ...แม้หล่อนจะไม่ปฏิเสธว่าสารเลวที่เข้าขืนใจอีกฝ่ายก่อนก็ตาม ทั้งปฏิเสธจูบ ทั้งประทุษร้าย... เอวถูกรวบเข้าแนบแน่น พอกันกับเสี้ยวหน้าที่ถูกมืออุ่นร้อนประคองไว้แนบแน่นคล้ายกักกันมิให้ไม้ปฏิเสธจูบอุกอาจตรงหน้า ความหวานอุ่นนุ่มล้ำซึมซ่านเข้า...พันทิวาครางออกมาด้วยความพึงพอใจ รวบกอดคนตัวเล็กกว่าแน่นเข้า ความเป็นนีรามนกำลังทำให้หล่อนคลั่ง นีรามนเริ่มอ่อนปวกเปียก มือสั่นเทาเผลอวางทาบบนไหล่ระหงมั่นคง แล้วร่างก็ถูกรวบเข้าอ้อมกอดคล้ายหลักยึดไว้พอดี ความร้อนถ่ายเทกันและกัน นีรามนยิ่งใจสั่น ราว

  • เด็กเลี้ยง   34+35

    รอเธอหันมา พลันเมื่อเห็นนายของพวกเขาเดินตามเด็กสาวคนนั้นเข้าไปในหอพัก นายของเขากลายเป็นคนในหอพักไปเรียบร้อย ทั้งชานนท์และศิลามองนายเหนือหัวของพวกเขาจนลับสายตา ก่อนจะหันมามองตากันอย่างไม่พูดอะไรก็เข้าใจ ตอนนี้นายของพวกเขาคล้ายหมาจรที่เอาแต่คอยขู่กรรโชกคนที่หวังดี อยากรับเลี้ยง... ทว่าเมื่อเห็นว่าเขาถอยห่าง ก็กลับหงอย ได้แต่คาบสายจูงไว้รอท่า ด้วยท่าทีหูลู่ หางตก และ ณ ตอนนี้นายของพวกเขาก็โดนตกเข้าให้แล้ว ตก...ด้วยรอยยิ้มของเด็กคนนั้น นีรามน . . . พันทิวากวาดตามองห้องเล็กแคบของนีรามนอย่างประเมิน สายตานั่นไม่ใช่แค่สงสัย...มันดูหมิ่น แต่ซ่อนความสนใจบางอย่างอยู่ด้วย “อยู่ที่แบบนี้ทุกวันเหรอ?” เสียงที่เอ่ยฟังดูปกติ แต่แฝงแรงตัดสินลึก ๆ ในทุกถ้อยคำ นีรามนวางถุงข้าวของลง “สำหรับอยู่คนเดียว ก็พออยู่ได้ค่ะ” “ไอ้ภามันไม่เคยมาดูแลบ้างเลยเหรอ?” “มันไม่เกี่ยวกับคุณภา” เธอว่าเสียงเรียบ พันทิวาหัวเราะเบา ๆ เดินสำรวจห้องราวกับถือกรรมสิทธิ์ เธอไม่ควรปล่อยให้คนคนนี้อยู่ใกล้ แต่ก็ไม่เคยห้ามเขาได้เลยตั้งแต่ต้น "ดูเธอเหมือนอยากให้ฉันอยู่ อยากให้ฉันเห็น" พันทิวา...คนสวยของเธอ เดินสำรวจไปท

  • เด็กเลี้ยง   32+33

    เหตุใดยามที่เห็นรอยยิ้มของเด็กคนนั้นที่เพียงแย้มยิ้มใส่แมวสีส้มและสีขาว และลายขมุกขมัวที่เดิมก็นอนอยู่แถว ๆ ทางเข้าหอพัก เมื่อเห็นนีรามนพวกมันจึงเดินเข้ามาหาอย่างรู้งาน หางสะบัดไหวไปมา ท่าทางที่เด็กคนนั้นยอบตัวลงลูบหัวพวกมันพร้อมเทอาหารเปียกที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อใส่จานข้าวที่ตั้งอยู่หน้าทางเข้าหอพัก คล้ายภายในของหล่อนที่มันว้าวุ่น หาที่ลงไม่ได้ สุดท้ายจึงสงบลงในที่สุด...เมื่อพบเห็นเด็กอวดดีว่ายังอยู่ดี . . . “แค่เขาให้ข้าวก็เชื่องแล้วหรือไง โง่...” เสียงหนึ่งที่ดังขึ้นจากด้านหลัง เสียงที่เธอไม่ได้ยินมาสักพักทว่ายังคงดังในความรู้สึก นีรามนหันขวับไปหา พบว่ามีใครก็ไม่รู้ที่ปรามาสได้แม้กระทั่งแมวที่ไม่รู้เดียงสา พันทิวายกยิ้มสะใจ ทว่าภายในรู้สึกวูบโหวงเล็กน้อยเมื่อเห็นสายตาที่วูบไหวของเด็กอวดดี ราวกับไม่ดีใจสักนิดที่หล่อนมาอยู่ตรงนี้ “คุณพันทิวา” นีรามนยืนขึ้นในรองเท้าผ้าใบ เธออยู่ในกางเกงยีนขายาว เสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบ ๆ มวยผมเกล้าที่หลังท้ายทอย เธอยกมือไหว้อีกคนที่ยังคงสวยสง่าดังเดิม ดูไม่เข้ากันกับพื้นที่นี้สักนิด พันทิวามองดูเด็กกะโปโลยกมือไหว้หล่อน ไม่ได้รับไหว้ มอง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status