“ก็เรื่องเรียนนั่นแหละค่ะยาย หนูอยากกู้เงินเรียนแต่แม่ไม่ยอมเซ็นเอกสารให้หนูก็เลยเครียดนิดหน่อย”
“แล้วจะทำยังไงล่ะ ยืมเงินยายไปก่อนไหม ยายพอมีนะ” ยายศรีจันทร์เสนอเพราะความสงสาร
“ขอบคุณค่ะยาย แต่หนูว่าจะลองหางานทำดีกว่าค่ะ ยายพอจะรู้ไหมว่าแถวนี้มีงานอะไรให้เด็กอย่างหนูทำบ้าง รับจ้างทั่วไปก็ได้นะคะ ทำงานบ้านซักผ้าหนูทำได้หมดเลยนะคะ”
“ยายลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงละ” ยายศรีจันทร์มีสีหน้าดีใจเหมือนกำลังคิดอะไรออกสักอย่าง
“ลืมเรื่องไรเหรอคะยาย” ชุติมณฑ์รีบขยับเข้ามานั่งใกล้ด้วยความสนใจ
“ก็เรื่องที่หมอคีรินทร์ให้ยายช่วยไงล่ะ”
“หมอคีรินทร์ข้างบ้านเราเหรอคะ”
“ใช้จ้ะ หมอให้ยายช่วยหาแม่บ้านให้หนูเฟิร์นพอจะทำได้ไหม”
“ได้ค่ะยาย หนูทำความสะอาดบ้าน ซักผ้ารีดผ้า ก็ทำกับข้าวได้หมดเลยนะคะ”
“แบบนี้ก็ตรงตามที่หมอต้องการเลย ว่าแต่หนูกลัวแมวไหม”
“ไม่ค่ะ ทำไมเหรอคะ”
“ก็ที่บ้านหมอมีแมวอยู่ด้วยน่ะ หนูต้องคอยดูแลมันด้วย”
“สบายมากเลยค่ะยายแล้วต้องไปทำที่ไหนคะ”
“บ้านหลังนั้นไง” คุณยายชี้ออกไปด้านข้างบ้านของตนเองซึ่งเป็นบ้านหลังเล็กที่รั้วอยู่ติดกัน
“ยายคะ เขาจะรับหนูทำงานไหมคะ” ขวัญนภัสถามด้วยความสนใจ
“ยายก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ งานค่อนข้างหนักอยู่นะ เพราะต้องให้ทำอาหารเช้าให้หมอด้วย หมออยากได้คนที่มาอยู่ประจำหนูเฟิร์นจะสะดวกหรือเปล่า”
“น่าสนใจดีนะเฟิร์นถ้าได้มาทำงานที่บ้านหมอคีย์ก็จะใกล้โรงเรียนแล้วเราก็จะได้ติวหนังสือด้วยกันด้วยนะ” ชุติมณฑ์สนับสนุน
“แต่ไม่รู้ว่าแม่จะยอมให้ออกมาไหม ถ้าฉันออกมาก็คงไม่มีคนช่วยงานบ้าน”
“แกก็บอกแม่ไปว่าขอออกมาอยู่ข้างนอกและทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยไม่รบกวนเงินของแม่
“เป็นความคิดที่ดีเลยแหละวิว แม่ชอบบ่นว่าฉันใช้เงินเปลืองถ้าออกมาอยู่ข้างนอกและไม่ขอเงินแม่บางทีแม่อาจจะไม่ว่าอะไรก็ได้” เด็กสาวรู้สึกมีความหวัง
“หนูสองคนอย่าเพิ่งคิดวางแผนอะไรกันไปไกลเลย ไม่รู้ว่าหมอที่เขาจะยอมให้มาทำงานที่บ้านหรือเปล่า”
“ยายคะแล้วหนูจะติดต่อหมอยังไงคะ หมอเขาอยู่บ้านไหน”
“ถ้าวันธรรมดาแบบนี้หมอเขาออกบ้านตั้งแต่เช้ากว่าจะกลับก็มืดเลย เอาไว้วันเสาร์หนูค่อยมานะ เดี๋ยวยายจะบอกหมอไว้ให้ก่อน”
“จริงๆ นะคะยาย ยายอย่าให้หมอรับคนอื่นเข้าทำงานก่อนหนูนะคะ”
“ยายจะไปห้ามหมอได้ยังไง แต่ยายจะบอกหมอพรุงนี้เช้าว่าให้รอเจอหนูก่อนดีไหมล่ะ”
“ดีค่ะยาย ขอบคุณมากๆ นะคะ”
“แต่ยายอยากให้หนูไปคุยกับแม่ก่อนนะ ไม่ใช่ว่าตกลงทำงานกับหมอแล้วแม่ไม่ยอมให้มาทำงานเดี๋ยวยายจะเสียผู้ใหญ่กันพอดี”
“ได้ค่ะยาย เย็นนี้หนูจะกลับไปคุยกับแม่ ยังไงยายช่วยบอกหมอด้วยนะคะว่าหนูทำงานได้ทุกอย่างซักผ้าทำกับข้าวทำความสะอาดบ้านหนูทำได้หมดเลยค่ะแล้วหนูก็รักแมวด้วยค่ะ”
เมื่อคิดว่าตนเองจะได้ทำงานประจำและมีเงินเดือนแม้จะต้องเหนื่อยหน่อยแต่ขวัญนภัสก็ว่ามันจะดีกับตัวเธอมาก
การไปทำงานที่บ้านของหมออาจจะทำให้เธอมีเวลาอ่านหนังสือมากขึ้น มันอาจจะเป็นการเห็นแก่ตัวที่ออกไปจากบ้านและทิ้งภาระการดูแลและการทำความสะอาดบ้านให้กับมารดา แต่ขวัญนภัสก็เลือกที่จะทำเพราะนั่นมันหมายถึงอนาคตของเธอ เธอไม่ได้ทิ้งพวกเขาไปเพียงแต่ออกไป ทำตามความฝันของตนเองเท่านั้น
ขวัญนภัสบอกลาคุณยายก่อนจะเดินทะลุซอยมาอีกฝั่งเพื่อกลับบ้านของตนเอง เธอเดินเข้ามาในซอยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและคิดว่าเมื่อถึงบ้านจะค่อยๆ คุยกับมารดาเพื่อขออนุญาตไปอยู่ข้างนอก
แต่ยังไม่ทันเปิดประตูบ้านเข้าไปเธอก็ได้ยินเสียงคนคุยกันออกมาจากในบ้าน
“มันจะดีเหรอพี่เกษม เฟิร์นเป็นเด็กผู้หญิงนะ จะให้ลงมาอยู่ที่ห้องเก็บของชั้นล่างได้ยังไงล่ะห้องมันเล็กแล้วก็แคบมากด้วย”
“แต่เราไม่มีทางเลือกนะถ้าให้น้องสาวฉันไม่อยู่ห้องข้างบน เราก็จะได้ค่าเช่าเดือนหนึ่งตั้งสองพันห้าเลยนะ”
“แล้วยัยเฟิร์นจะยอมเหรอพี่” ชุลีพรถามอย่างกังวล
“ถ้าไม่ยอมก็ให้จ่ายค่าเช่าสองพันห้ามาสิ บ้านหลังนี้ฉันเป็นคนจ่ายค่าเช่านะ ฉันมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะให้ใครอยู่ห้องไหน” เกษมพูดเสียงห้วน เขารับปากกับน้องสาวว่าจะให้มาอยู่ที่บ้านและเก็บค่าเช่าสองพันห้าร้อยบาทโดยให้อยู่ที่ห้องนอนของขวัญนภัส ส่วนขวัญนภัสก็ให้ย้ายลงมานอนห้องเก็บของด้านล่าง
คนที่ยืนแอบฟังอยู่น้ำตาร่วงเพราะไม่คิดเลยว่าตัวเองกำลังจะถูกย้ายลงมานอนห้องข้างล่าง มันไม่ต่างอะไรกับการถูกไล่ออกจากบ้านเลยสักนิดเพราะห้องเก็บของด้านล่างทั้งเล็ก แคบและเหม็นอับมากๆ
ขวัญนภัสยืนฟังอีกสักพักใหญ่ก่อนเช็ดน้ำตาให้แห้งแล้วเปิดประตูเข้าไป
“สวัสดีค่ะแม่ สวัสดีค่ะลุงเกษม”
“อ้าว....วันนี้ทำไมกลับเร็วล่ะไม่ไปล้างจานที่ร้านหมูกระทะเหรอ” ชุลีพรตกใจที่เห็นลูกสาวกลับมาเร็วกว่าทุกวันและกลัวว่าขวัญนภัสจะได้ยินสิ่งที่ตนเองพูดกับเกษม
“วันนี้ร้านหมูกระทะปิดค่ะ”
“มาเร็วก็ดีเหมือนกันลุงมีเรื่องอะไรจะพูดด้วย นั่งก่อนสิ”
“เรื่องอะไรคะลุง” ขวัญนภัสทำเป็นไม่รู้ว่าก่อนที่ตนเองจะเข้ามานั้นทั้งสองคนคุยอะไรกันอยู่
“ลุงอยากจะให้เฟิร์นย้ายมาอยู่ห้องเก็บของ” เกษมไม่พูดพร่ำทำเพลงเขาพูดออกมาตรงๆ เพราะไม่อยากจะอ้อมค้อมให้เสียเวลา
“ย้ายลงมาเหรอคะ แต่ห้องนั้นมันแคบมากๆ เลยนะคะ”
“แคบก็ยังดีกว่าไม่มีที่ซุกหัวนอนนะ”
“แล้วห้องที่เฟิร์นอยู่ล่ะคะ”
“ลุงจะปล่อยให้น้องสาวลุงเช่าเขาจ่ายตั้งสองพันห้าเลยนะ”
“แล้วทำไมไม่ให้เขาย้ายไปอยู่ที่อื่นล่ะคะ”
“ที่เขามาอยู่ที่นี่เพราะมันใกล้บริษัทของเขาน่ะ หนูก็ทนๆ อยู่เอาหน่อยได้ไหมล่ะเงินสองพันห้ามันไม่ใช่น้อยเลยนะ”
“แม่คะ แม่จะให้หนูลงมาอยู่ห้องเก็บของจริงๆ เหรอคะ” ขวัญนภัสหันไปถามมารดาที่นั่งเงียบทำเหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยที่ลูกสาวต้องย้ายลงมาห้องเก็บของหลังบ้าน
“จะให้ฉันทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อลุงเกษมเขาเป็นคนจ่ายค่าเช่าทั้งหมดเงินสองพันห้ามันฟังดูอาจจะน้อยแต่มันก็ช่วยให้เราใช้จ่ายได้คล่องมือขึ้นนะ”
“ถ้าให้หนูย้ายมาอยู่ห้องเก็บของ หนูขอออกไปอยู่ที่อื่นได้ไหมล่ะ”
“แกจะออกไปอยู่ที่ไหน ฉันไม่มีเงินค่าหอให้แกหรอกนะ” ชุลีพรโวยวาย
“ถ้าหนูออกไปโดยไม่เดือดร้อนเรื่องเงินของแม่ แม่จะให้หนูออกไปอยู่ข้างนอกใช่ไหม” ขวัญนภัสถามด้วยความน้อยใจ
คีรินทร์อุ้มคนรักเข้ามาในบ้านแต่ยังเดินไม่ถึงห้องนอนเขาก็ไปต่อไม่ไหว เพราะทุกจังหวะที่ก้าวขาท่อนเอ็นร้อนก็ครูดกับร่องสวาทจนหญิงสาวได้แต่ครางหวานเพราะเสียวซ่านเกินกว่าจะทนไหว“หมอคีย์ขา...เฟิร์นเสียว”ชายหนุ่มก็รู้สึกเสียวไม่ต่างจากขวัญนภัสเลย เขาหยุดเดินแล้วดันตัวเธอเข้าผนังเพราะเสียวจนก้าวขาไม่ออก“ผมก็เสียวนะเฟิร์น วันนี้เฟิร์นตอดแรงมากเลยรู้ไหม”“ก็เฟิร์นคิดถึงหมอคีย์”“ยั่วเก่งแบบนี้ผมเอาจนหมดแรงอย่ามาบ่นนะที่รัก”คีรินทร์จับสะโพกกลมกลึงไว้แน่น เขายกขึ้นสูงจนท่อนเอ็นเกือบจะหลุดออกจากร่องรักก่อนจะกดต่ำลงเข้าหาตัวในจังหวะที่สะโพกของเขากระแทกสวนเสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั้งห้องรับแขก เสียงหวานครางรับกับเสียงครางต่ำ“ชอบไหม เฟิร์น...ซี๊ดดด...”“ชะ..ชอบ..... เฟิร์นชอบคะหมอคีย์...มันเสียวมาก”คนถามครางต่ำเพราะมันทั้งลึกและคับแน่น ช่องทางรักของขวัญนภัสตอดรัดเขาอย่างรุนแรง นั่นยิ่งส่งให้ชายหนุ่มกระแทกเข้าแรงยิ่งขึ้นจนหญิงสาวครางลั่นห้องอีกครั้งเธอกระตุกถี่และหอบเหนื่อยจนตัวโยนคีรินทร์วางขาข้างหนึ่งของเธอลงบนพื้น ส่วนอีกข้างเอาพาดไว้ท่อนแขนของตน แล้วส่งตัวตนเข้าหาเธออย่างบ้าคลั่งก่อนจะ
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่คีรินทร์ไม่สามารถติดต่อขวัญนภัสได้ เขาไปดักรอเธอที่หน้าบริษัทแต่ก็ไม่เจอ พอถามเพื่อนร่วมงานจึงรู้ว่าหญิงสาวแอบติดรถออกไปกับเพื่อนคนหนึ่งตอนนี้คีรินทร์ไม่รู้จะทำยังไงให้ขวัญนภัสยอมคุยกับตนเองเขาไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนเธอคนไหนเลยแม้กระทั่งเบอร์โทรของชุติมณฑ์เขาก็ไม่เคยขอไว้ชายหนุ่มได้แต่หวังเพียงว่าระหว่างนี้ขวัญนภัสจะรู้ใจตัวเองและติดต่อกลับมาหาเขาส่วนเรื่องที่มารดาอยากให้แต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งนั้นคีรินทร์ปฏิเสธไปอย่างเด็ดขาดและบอกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการอะไรแบบนั้นเลยเขาอยากมีชีวิตเรียบง่ายมีความสุขอยู่กับคนที่เขารักเขาออกไปทำงานตั้งแต่เช้าพอตกเย็นก็รีบกลับบ้านและหวังว่าเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอคนรักอยู่ในบ้านแต่มันก็ไม่ใช่แบบนั้นคีรินทร์ทำความสะอาดบ้านจนสะอาดทุกซอกทุกมุม เขาทำหน้าที่แทนขวัญนภัสเพราะกลัวว่าถ้าหากเธอกลับมาแล้วเห็นบ้านสกปรกจะทำให้เธอต้องเหนื่อยไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่คิดถึงขวัญนภัสแต่แมวตัวอ้วนก็เหมือนจะเศร้าไปมากเมื่อไม่เจอกับเธอนานนับสัปดาห์“เจ้านุ่มนิ่มทำไมเฟิร์นเขาถึงใจร้ายกับเราจังเลยนะ เมื่อไหร่เธอจะยอมใจอ่อนกับฉันเสียที” คีริ
หมอคีรินทร์กลับมาถึงบ้านในเย็นวันจันทร์เขารู้สึกแปลกใจมากเมื่อเห็นรถยนต์ที่ไม่คุ้นตาจอดอยู่หน้าบ้านเมื่อชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปในบ้านก็ต้องตกใจเมื่อเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ในห้องรับแขก แต่พอเดินไปใกล้ๆ เขาก็คลายความสงสัยเพราะยังคงจำหน้ามารดาของตัวเองได้ แม้จะไม่ติดต่อกันมานานหลายปีก็ตาม“สวัสดีครับ” เขายกมือไหว้ก่อนจะนั่งลงตรงข้าม“มาแล้วเหรอลูก” คุณสุวิมลยิ้มกว้างด้วยความดีใจเพราะเธอรอลูกชายมานานเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว“คุณเข้ามาในนี้ได้ยังไง”“ก็นี่เป็นบ้านของลูกชายแม่ แล้วแม่จะเข้ามามันก็คงไม่แปลกเท่าไหร่”“คุณมีธุระอะไรกับผมเหรอ แล้วเฟิร์นไปไหน” เขาถามด้วยความแปลกใจเพราะปกติทุกครั้งที่กลับเข้ามาในบ้านขวัญนภัสจะต้องรอต้อนรับเขาพร้อมกับเจ้าแมวตัวอ้วน“แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเธอไปไหน”“แล้วคุณเข้ามาที่นี่ได้ยังไง”“คีย์ ทำไมต้องเรียกแม่ห่างเหินแบบนั้นล่ะลูก ถึงเราจะไม่ได้ติดต่อกันแต่ความเป็นแม่เป็นลูกก็ยังเหมือนเดิมนะ”“ผมว่าเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว คุณยังไม่บอกผมเลยว่าเข้ามาได้ยังไง” เขาถามย้ำด้วยสีหน้าไม่พอใจ“วันก่อนแม่บังเอิญผ่านมาแถวนี้เลยแวะเข้ามาหา ผู้หญิงคนนั้นก็เลยให้กุญแจบ้านแ
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นหลังจากนั้นไม่นานขวัญนภัสมองหน้าจอเมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามาคือคีรินทร์ก็รีบกดรับ“ว่าไงครับเฟิร์นออกจากบ้านหรือยังเดี๋ยวจะตกเครื่องเอานะ” คีรินทร์โทรมาเตือนคนรักและรอคอยที่จะเจอกับเธอในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า“หมอคีย์คะเฟิร์นขอโทษค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยเสียงที่สั่นเพราะตอนนี้ตัดสินใจได้แล้วว่าตนเองจะไม่ไปหาเขาที่เชียงใหม่“เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมน้ำเสียงฟังดูไม่ดีเลยหรือเครื่องมีปัญหา”“คือวันเสาร์ที่บริษัทมีงานด่วนค่ะหมอคีย์ เฟิร์นก็เลยไปหาหมอไม่ได้ขอโทษด้วยนะคะที่ผิดนัด”“งั้นให้ผมจะบินกลับคืนนี้เลยดีมั้ย”“แต่วันจันทร์หมอยังมีงานนี่คะ หมอคีย์อยู่ทำงานต่อนะคะ”“แต่ผมรู้สึกเป็นห่วงเฟิร์นยังไงก็ไม่ รู้น้ำเสียงของเฟิร์นฟังดูไม่ค่อยดีเลยนะ งานมีปัญหาหรือเปล่า”“ไม่หรอกค่ะ แค่มีงานด่วนเข้ามา เรื่องไปเจอแม่เอาไว้โอกาสหน้าเราค่อยไปหาท่านก็ได้นะคะ”“ไม่เป็นไร ยังเหลือเวลาอีกหลายเดือน เฟิร์นกินอะไรหรือยัง”“ยังเลยค่ะ เฟิร์นว่าจะทำข้าวผัดค่ะง่ายดีและไม่เสียเวลาด้วย”“สั่งเดลิเวอรี่ก็ได้นะ ถ้าไม่อยากทำจะได้ไม่เหนื่อยมาก”“เฟิร์นทำไหว หมอคีย์ก็อย่าลืมทานข้าวด้วยนะคะ”“ผมอย
หมอคีรินทร์เดินทางไปเชียงใหม่ได้สองวันแล้วส่วนขวัญนภัสก็เตรียมตั๋วเครื่องบินและจะเดินทางไปหาเขาในเที่ยวดึกของวันศุกร์ หลังจากเลิกงานเธอจึงรีบตรงกลับมาบ้านทันที แต่เมื่อมาถึงหน้าบ้านก็ต้องแปลกใจเมื่อมีรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน และเมื่อเธอกำลังจะเดินผ่านประตูรถก็เปิดออกมา“นี่ใช่บ้านหมอคีรินทร์ใช่ไหม” ผู้หญิงท่าทางภูมิฐานเปิดประตูออกมาแล้วถามกับขวัญนภัส“ใช่ค่ะ คุณน้ามีธุระอะไรกับหมอคีรินทร์หรือเปล่าคะ พอดีว่าตอนนี้หมอคีย์ไม่อยู่ที่บ้านค่ะ” ขวัญนภัสตอบอย่างสุภาพ เธอไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครแต่ที่รู้คงไม่ใช่เพื่อนของหมอคีรินทร์อย่างแน่นอน“แล้วเธอเป็นอะไรกับลูกชายของฉัน”“ลูกชายของคุณน้าคือหมอคีรินทร์เหรอคะ”“ก็ใช่น่ะสิหมอคีรินทร์คือลูกชายของฉัน แล้วเธอล่ะเป็นใคร” ขวัญนภัสมองหน้าผู้หญิงคนนี้ด้วยแววตาสงสัย คิ้วสวยขมวดเข้าหากันเพราะหมอคีรินทร์บอกว่าไม่ได้ติดต่อกับมารดามานานแล้ว“สวัสดีค่ะ หนูชื่อเฟิร์นเป็นแฟนหมอคีรินทร์ค่ะ” ขวัญนภัสยกมือไหว้มารดาของคนรักอย่างอ่อนน้อม“แฟนเหรอ ถ้ายังงั้นก็ดีเลยฉันกำลังอยากจะคุยกับเธอพอดี ขอฉันเข้าไปข้างในได้ไหม”“ได้ค่ะคุณน้าเชิญค่ะ” ขวัญนภัสเปิดประต
คีรินทร์มองท่าทางของคนรักแล้วได้แต่ครางอยู่ในลำคอ หญิงสาวมองตาเขาอีกครั้งด้วยสายตาที่ยั่วยวนก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วก้มลงใช้ริมฝีปากสัมผัสส่วนปลายที่ปริ่มน้ำอย่างแผ่วเบา“ซี๊ดดด......เฟิร์น....”เมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มขวัญนภัสก็มั่นใจมากขึ้นเธอใช้มือรูดท่อนเอ็นของเขาขึ้นลง ปลายลิ้นเล็กสัมผัสลากไล้ไปทั่วแท่งร้อน กดนวดรอยบุ๋มแล้วตวัดรอบรอยคอดหยักก่อนจะส่งเข้าไปในโพรงปากเล็กจนลึกสุดเท่าที่ตัวเองจะรับไหว“ดีมากเลยเฟิร์นของฉัน เธอเก่งมาก”เสียงเอ่ยชมทำให้หญิงสาวเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น จนชายหนุ่มเสียวซ่านไปทั่วกายแกร่งเขาเอามือมาประคองใบหน้าหวานของขวัญนภัสไว้แล้วยกสะโพกขึ้นสูงส่งแท่งร้อนเข้าออกโพรงปากรัวเร็วตามอารมณ์ดิบเถื่อนจนหญิงสาวแทบสำลัก ตอนนี้คีรินทร์กำลังคุมตัวเองไม่อยู่“ซี๊ด.....เฟิร์นจ๋า เสียวอะไรอย่างนี้ ดีมากมันดีมาก แต่พอก่อนนะผมยังไม่อยากแตกตอนนี้”คีรินทร์รีบดึงความเป็นชายออกจากโพรงปากนุ่ม แล้วรีบพลิกให้ขวัญนภัสนอนราบลงกับเตียง กางขาเธอออกแทรกตัวเข้าไปอยู่กึ่งกลางถูไถท่อนเอ็นร้อนไปบนกลีบกุหลาบและกดย้ำบนเกสรสวาท“อื้อ...หมอคีย์”“พร้อมนะเฟิร์นขอเข้าไปนะ”ชายหนุ่มกดจูบลงบ