Home / โรแมนติก / เด็กเสี่ย / คิแพง - บทที่ 6 -- เซอร์ไพรส์

Share

คิแพง - บทที่ 6 -- เซอร์ไพรส์

last update Huling Na-update: 2025-11-10 13:03:30

       

            เช้าของอีกวัน พะแพงตื่นขึ้นมาในเวลาเดิม วันนี้วางแพลนจะไปหางานต่อก่อนจะเข้าร้านเนื่องจากเมื่อวานเวลาไม่พอ และลืมไปซะสนิทเธอได้ส่งข้อความไปหาแม็กเมื่อคืน เกี่ยวกับเรื่องงานที่คุยค้างกันไว้ พอเห็นแจ้งเตือนบนหน้าจอถึงกับเอามือปิดปาก ย้อนอ่านข้อความที่ตัวเองส่ง จนกระทั่งมาถึงข้อความล่าสุดของอีกฝ่ายที่ถูกส่งทิ้งเอาไว้เมื่อตอนตีสาม เป็นเวลาหลังเลิกงานของเขา

           แม็ก (เพื่อนมัธยม) : แน่ใจนะ

               ริมฝีปากบางหยักเม้มเข้าหากันแน่น มาถึงตรงนี้กลับรู้สึกลังเลขึ้นมาซะดื้อๆ ทว่าพอหันไปเห็นบิลค่าอะไรต่อมิอะไรต่างๆที่ทับกันอยู่บนหัวเตียง จึงถอนลมหายใจออกมาทันที พลันพิมพ์กลับไปหาแม็ก

           PP :  อื้ม แน่ใจจ้า

           น่าแปลกที่อีกฝ่ายตอบกลับมาทันควันราวกับรอกันอยู่ และเมื่ออ่านจบคนตัวเล็กก็พาร่างอันหนักอึ้งของตัวเองเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ

           แม็ก (เพื่อนมัธยม) : โอเค วันนี้แม็กหยุด ออกมาเจอกันไหม แม็กจะได้นัดพี่ๆออกมาด้วย ได้ข่าวว่าอีกไม่กี่วันนี้จะมีงานแข่ง ขาดคนอยู่พอดี

           PP : กี่โมงอ่า ขอแพงอาบน้ำแปปนะ พอดีเพิ่งตื่น แม็กส่งโลพร้อมเวลาทิ้งไว้ได้เลย

           แม็ก (เพื่อนมัธยม) : ครับ

           

           ร่างสูงชุดสูทสีกรมในคราบนักธุรกิจยืนมองโมเดลโครงการหมื่นล้านของตัวเองด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ในหัวของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยแผนการมากมายไปเสียหมด ซึ่งค่อนข้างจะเป็นความลับ คล้ายกลยุทธ์ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้แม้ในที่ประชุม เนื่องจากช่วงนี้มีข่าวคราวจากวงในว่าในบริษัทของเขามีหนอน หากให้เดาไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้อง ก็คงจะเป็นญาติฝั่งพ่อคนใดคนหนึ่ง ที่ต้องการจะโค่นล้มเบญจารัญกรุ๊ปให้พังลง เพื่อผลักดันโครงการห่วยๆของตัวเอง เป็นคู่ต่อสู้ที่ใช้ต้นทุนต่ำกว่า มีคุณภาพไม่เทียบเท่า สาเหตุเพราะหัวโขนขององค์กรติดการพนันงอมแงม เงินทุนหมุนเวียนจึงไม่มั่นคง  แต่ฉลาดแกมโกงเป็นที่สุดจนเขาไม่สามารถประมาทได้

           การนิ่งเฉยราวกับคนไม่รู้ร้อนรู้หนาวอย่างเช่นเขาทำอยู่ตอนนี้ อาจทำให้ฝั่งนั้นลำพองใจคิดว่าเขาจับไม่ได้ไล่ไม่ทันอยู่ไม่น้อย ทว่าหารู้ไม่นี่แหละคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด เพราะคนอย่างอาคีรา เมื่อล็อคเป้าใครไว้นั้น จะเปรียบเสมือนคลื่นใต้น้ำที่พร้อมจะก่อตัวเป็นเกลียว สาดซัดเข้ามาชายฝั่งได้ทุกเมื่อ  ที่ยังคงสงบ เขาแค่รอเวลาให้ตายใจก็เท่านั้น คล้ายกับสิ่งมีชีวิตบนหาดทรายสีสวย กว่าจะรู้ตัวว่าเปลือกโลกได้ขยับเกิดเป็นอาฟเตอร์ช็อก ก็หนีไม่ทันซะแล้ว

           “นายครับ คุณเหนือเมฆโทรมาครับนาย”

           *ปุณ ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาก้มศีรษะพลางยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้ เรียกสติของเขากลับมาได้ทันท่วงที ไม่เช่นนั้นสายตาที่กำลังจ้องมองโมเดลแต่ในหัวคิดเรื่องอื่นอยู่ อาจเลยไปไกลมากกว่านี้ ถึงขั้นกู่ไม่กลับ เผลอๆโมเดลตรงหน้าเสี่ยงถูกพังจนแตกกระจายด้วยอารมณ์ขึ้นๆลงๆของเขา  ไม่สนว่ายืนอยู่ที่แห่งใด อย่างที่เคยทำแต่ไม่ประจำ ขึ้นอยู่ที่ว่าความโกรธตอนนั้น เขาควบคุมได้มากแค่ไหน

           เขารับมันมาพลางเอ่ยเสียงห้วน

           “มีอะไร”

           (โทรไปไม่รับเลยนะท่าน Developer โทรศัพท์คุณมึงอยู่ไหนครับ)

           “ปิดเสียง เพิ่งออกจากห้องประชุมเมื่อกี้”

           (เอาดีๆ งานยุ่งหรือลืมเพื่อน วันนี้วันเกิดลิสานะ)

           “แล้วไง?”

           (ไอ้คี ใจคอมึงจะไม่ออกมาเจอเพื่อนบ้างหรอวะ หรือจะเลิกคบ? นี่มันวันเกิดเพื่อนนะโว้ยนานทีปีครั้ง)

           เขาเงียบไปพักหนึ่ง ราวกับกำลังนึกควรจะไปดีไหม เพราะช่วงนี้งานรัดตัวจริงๆ ไม่มีเวลาแม้แต่จะกลับคอนโดไปนอน เขาทำงานดึกซะจนเพลียและนอนค้างที่ห้องตัวอย่างมาหลายคืนแล้ว บ้านใหญ่ที่มีพ่อแม่เขาอยู่ก็แทบไม่ได้กลับเลย หากนับเวลาเจอกันครั้งสุดท้ายก็คงเป็นเดือนที่แล้ว งานครบรอบวันตายของปู่เขา ประธานบริษัทคนเก่าที่จากไปกะทันหันด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตกเมื่อสามปีก่อน กลายเป็นเขาต้องมารับช่วงต่อ ทั้งที่ยังไม่พร้อม และอายุยังน้อย นั่นเพราะปู่ของเขาเชื่อใจเขาที่สุด เชื่อใจมากกว่าลูกชายของตัวเองที่มีฐานะเป็นพ่อของเขาซะอีก ซึ่งไม่แปลกเลยหากจะมีคนไม่พอใจพาลไม่ชอบเขา อาทิเช่นลูกพี่ลูกน้องในตระกูลที่มีศักดิ์เป็นหลานเช่นกัน

           “จัดที่ไหน”

           (อ๊า ถามแบบนี้ มึงไปใช่ไหม)

           “ถ้ามึงพูดมากกูจะเปลี่ยนใจเดี๋ยวนี้เลย”

           ( โหไอ้เวร ติสท์สัส ยังไม่ทันได้พูดอะไร ... ไม่รู้ว่ะ สาให้กูโทรมาถามมึงเนี่ย มึงก็รู้สาเพิ่งกลับมาจากฝรั่งเศส แทบไม่มีที่ไหนรู้จัก คอนโดมึงดีไหม?)

           “ไม่คิดจะเปลี่ยนบรรยากาศ?”

           (ถ้างั้นที่ไหน...)

           อยู่ๆสมองของเขาก็ผุดไปนึกถึงใครคนหนึ่ง เจ้าของใบหน้าสวยหวาน ดวงตากลมโต ภาพนั้นถูกฉายซ้ำในหัวของเขาอีกครั้ง เขาจำตอนที่เธอมองเขาได้แม่น ดวงตาไม่กะพริบนั้นช่างมีเสน่ห์ซะจนอยากจะครอบครอง

           “กูมีที่นึง”

           (ที่ไหนว่ามาเลย ต้องจองรึเปล่า)

           ริมฝีปากหยักยกขึ้นเล็กน้อยให้กับคำถามนั้น ดวงตาคมกริบฉายความเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างชัดเจน จนคนที่มองอยู่อย่างปุณยังขนลุก

           “ไม่ต้อง กูอยากเซอร์ไพรส์เจ้าของร้าน”

           ในเวลาบ่ายโมงด้านของคนตัวเล็ก เธอเดินเลาะฟุตบาทมายังร้านที่แม็กปักหมุดไว้ตอนเธอไปอาบน้ำ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงาน ขี่รถเลยไปอีกสองซอยก็ถึง การกระทำนี้ของเขาทำให้เห็นได้ว่าเขาเป็นคนรอบคอบแค่ไหน ซึ่งแน่นอนการใส่ใจเล็กๆทำให้พะแพงหัวใจพองโตไม่น้อย

           เดินเข้ามาในร้านเธอก็เห็นเพื่อนนั่งหันหลังอยู่ ตรงหน้าเพื่อนคือผู้ชายอีกคนที่เธอไม่รู้จัก และเดาว่ากำลังดูบางอย่างในโทรศัพท์เสียงลอดลำโพงออกมาคล้ายบอลย้อนหลัง เพราะมีการประกาศชื่อทีมที่เธอรู้จักด้วย

           “แม็ก” เธอโน้มตัวลงไปกระซิบชื่อเพื่อน พลันไม่ลืมเงยหน้าขึ้นไปยิ้มทักทายอีกคน “สวัสดีค่ะ”

           “อ่าวแพงมาแล้วเหรอ”

           คนตัวเล็กคงไม่รู้ว่าจังหวะโน้มตัวลงไปน้ำหอมจางๆที่กลิ่นของมันหวานเหมือนหน้าของเธอโชยมาแตะจมูก จังหวะแม็กสะดุ้งเผลอสูดดมเข้าไปพอดี และนั่นทำเขาเสียอาการไม่น้อย

           “อื้ม..รอนานไหม”

           “ไม่เลย พวกเราก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน นั่งสิ”

           คนตัวสูงลุกขึ้นไปดึงเก้าอี้ให้ หญิงสาวพยักหน้าแทนคำขอบคุณ

           “น้องแพงเหรอ”

           เสียงของอีกคนเรียกให้เธอหันไปมอง ก่อนพยักหน้าลงอีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มที่ยังคงเปื้อนหน้าอยู่ นั่นทำให้ผู้ชายทั้งคู่หันมองกันเอง และพยายามควบคุมเสียงในหัวไม่ให้หลุดลอดออกมา

           “แพงนี่พี่เพลิงนักแข่งรถ ส่วนพี่เพลิงนี่แพง คนที่ผมเล่าให้ฟัง”

           “สวัสดีอีกครั้งนะคะพี่เพลิง”

           ประจวบเหมาะกับอีกคนเดินกลับมาจากห้องน้ำพอดี พะแพงที่นั่งหันหลังจึงหันไปมองตามพวกเขา เห็นเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆที่ถัดไปทางสาวหมวย เดินยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตรมาแต่ไกล

           “มาแล้วๆ”

           “แพงนี่พี่หลิน แฟนพี่เพลิง”

           ทันทีที่แม็กแนะนำเธอก็ยิ้มกว้างอีกครั้ง เป็นรอยยิ้มที่หวานกว่าตอนยิ้มให้พวกหนุ่มๆ เนื่องจากผู้หญิงด้วยกันเธอจึงไม่ประหม่า ทว่ากลับต้องมาสะดุ้งเปลี่ยนเป็นยิ้มเจื่อนก็ตอนหล่อนทักทาย

           “ให้ตายเถอะลูกสาว ทำไมหนูน่ารักอย่างนี้คะลูก...”

           

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 12 ช่องทางการติดต่อ

    จาก อาคีรา เบญ xxx-xxx000-0ดวงตากลมหรี่แคบเนื่องจากรู้สึกแสบร้อนหลังไม่ได้กะพริบมาหลายวิ ขณะเปิดดูรายการธุรกรรมในธนาคารของตัวเอง และพบว่าใครเป็นคนโอนมา ไม่ต้องคิดนานก็รู้ทันทีว่าเป็นเขา คู่กรณีของเธอเมื่อคืนมันเยอะเกินจนเธอเป็นกังวล และไม่กล้านำออกมาใช้ แม้ตามข้อตกลงก่อนหน้านี้จะเป็นแก้วละห้าหมื่น แต่เชื่อว่าเธอคงไม่ได้ดื่มเยอะจนเขาต้องจ่ายเป็นแสน และต่อให้เป็นค่านั่งดริงก์ทั้งคืน ครึ่งล้านก็ไม่น่าจะถึง อีกอย่างเธอไม่เชื่อว่าคนโอนให้จะไม่มีอะไรแอบแฝงด้วย!ด้วยความกลัวบวกกับความไม่สบายใจ เธอจึงเปิดอินเตอร์เน็ตเข้าไปหาชื่อของเขา เพียงพิมพ์แค่ชื่อไม่ทันได้พิมพ์นามสกุล รูปของเขาก็โชว์หราเต็มจอ ตึกบ้าน คอนโด โครงการเป็นหมื่นล้าน ราวกับจะต้องเรียกเขาว่าเจ้าอสังหาริมทรัพย์!“.....!!”พะแพงในตอนนี้คือช็อคไปแล้ว เธอนั่งตัวแข็งทื่อ หากแต่นิ้วนั้นกำลังเลื่อนดูไปเรื่อยๆ ภาพเขายืนโดดเด่นรวมกลุ่มอยู่กับนักธุรกิจด้วยกัน ส่วนใหญ่ผู้คนเหล่านั้นต่างมีดีกรีเป็นคนชั้นสูง ซึ่งไม่ใช่เจ้าของก็เป็นทายาทอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่เพียงแค่นั้น บางรูปเขายังถ่ายกับดารา หรือนักร้องชื่อดังด้วย ในขณะบางคนเธอยังเป็นแฟนค

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 11 ข้อความ

    คนตัวเล็กถูกกระชากออกจากโซฟาเกือบหัวคะมำ โดยร่างสูงที่อยู่ๆ ก็ทนไม่ไหวขึ้นมา เขาต้องการจะพาเธอไปที่พัก ซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ไม่มาก หากแต่จังหวะนั้นเหนือเมฆผลักประตูเข้ามาซะก่อน และนั่นทำเขาหัวเสียไม่น้อย“เฮ้ยๆ จะพาน้องเขาไปไหน”“โรงแรม..”อีกมือที่ว่างดันคนยืนขวางประตูให้ถอยห่าง ทว่ากลับต้องฉุนอีกครั้งเมื่อถูกเขายื้อแขนเอาไว้ และไม่มีทีท่าจะว่าจะหลบไป แรงนั้นกระชากคนตัวเล็กจังหวะพุ่งไปข้างหน้าแต่ถูกกระชากกลับมาข้างหลังถึงกับเวียนหัว โชคดีที่เขาคว้าทันจังหวะหันไปเห็น และกลัวเธอจะล้มจึงโอบเอวไว้“ใจเย็นก่อนไอ้เสือ” ทั้งที่รู้ยิ่งเมาเพื่อนของเขาจะยิ่งหัวร้อน การไปขวางทางกันแบบนั้นมีแต่เสี่ยงจะเสียชีวิต หากแต่จำเป็นต้องทำเพราะความเป็นห่วง ดูท่าเพื่อนเขาเองก็เมาไม่เบา ถึงได้ขาดสติลากเด็กออกจากร้านอย่างประเจิดประเจ้อแบบนี้ “ใจเย็นแล้วฟังกูก่อน มึงจะลากน้องเขาไปแบบนี้ไม่ได้ มึงดูสภาพน้องเขาด้วย กล้องวงจรปิดเต็มไปหมด อยากโดนข่าวดราม่ารึไง เรามันนักธุรกิจดังนะโว้ย”คราวนี้เขานิ่ง ประหนึ่งกำลังฉุกคิดตามคำเตือนเพื่อน หันมองคนตัวเล็ก ที่ขนาดทรงตัวยืนยังต้องใช้การบังคับจากเขาเลย และเมื่อเห็นด้วยร

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 10 ห่อกลับบ้าน

    เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ท่ามกลางเสียงเพลงในผับ แต่ดังอยู่ภายนอก มีแค่เสียงเบสเท่านั้นที่เล็ดลอดเข้ามาได้ ทั้งห้องมีแค่พวกเขาสองคน อีกสองคนไม่อยู่แล้ว พวกเขาพากันหายไปตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงก่อน ไม่มีวี่แววจะกลับมา นานจนเธอแอบคิดติดตลกว่าบางทีพวกเขาอาจจะไปเข้าห้องน้ำกันที่บ้านคนตัวเล็กมองแก้วช็อตที่วางว่างเปล่าเรียงกันอยู่สองแก้วด้วยดวงตาพร่ามัว ส่วนในมือถืออยู่อีกแก้วหนึ่ง และถ้ากระดกเข้าไปอีกคงจะเป็นแก้วที่สาม และแน่นอนเมื่อเหลือบไปเห็นคนข้างกายนั่งเฉยไม่ไหวติง เธอจึงกระดกรวดเดียวหมด ทว่าทันทีที่หมด แก้วใบนั้นก็ถูกฉกไปด้วยมือของเขา“เต็มที่ได้แค่นี้” เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหู “มากกว่านี้เดี๋ยวมันจะไม่สนุก”ไม่พูดเปล่า แต่มือใหญ่ที่ไม่ได้สากมากถูกยกมาวางไว้บนต้นขาเนียนด้วย พลางใช้ท้องนิ้วหัวแม่มือกดลงมาเบาๆ สลับกับการลูบไล้ไปมา และไม่รู้เพราะอะไรเธอถึงปล่อยให้เขาทำเช่นนั้นไม่คิดจะปัดป่ายหรือเพราะเธอเมาแล้วทีแรกกะจะดื่มแค่แก้วเดียวตามแผนที่คิดไว้ เพราะเงินแค่นั้นสามารถเอาตัวรอดได้หลังลาออกจากงาน และระหว่างหางานใหม่ แต่ด้วยแรงกดดันจากการถูกคะยั้นคะยอย่างเหนือชั้นจนเกินไป ทำให้เธอปฏิเสธไม่ลง“ใค

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 9 -- หนูยังได้อีกนะพี่ว่า

    เอาเข้าจริงเธอก็เกร็งไม่ใช่น้อย เมื่อมาอยู่ตรงจุดนี้ จุดที่ตอบตกลงเขาไปแล้ว ร่างบางยืนประจันหน้ากับเขา ด้วยชุดเดรสสั้นสีแดงที่ระดับของชายผ้าพ้นเข่ามาคืบนึง เธอจำได้ชุดนี้ยิ้มเคยใส่ และเธอก็เอ่ยปากชมว่าหล่อนสวย แต่หารู้ไม่เมื่อมาอยู่บนตัวเธอกลับสวยยิ่งกว่า มันทั้งเซ็กซี่และเย้ายวนในเวลาเดียวกันท่ามกลางการมองอยู่ของชายชุดดำที่แค่นั่งเฉยๆ ยังดูน่าค้นหา เขามองเธอนับตั้งแต่เดินเข้ามา มองตั้งแต่วินาทีแรกที่สบตากัน ด้วยสายตานี้ แววตานี้ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งแน่นอนตอนนี้ที่เธอได้มายืนอยู่ตรงหน้าเขา ไม่ว่าด้วยกลอุบายใดของใคร นั่นหมายความว่าไปเปิดทางให้เขาได้เดินเข้ามาแล้วกึ่งหนึ่ง“จะ จะให้นั่งตรงไหนคะ”เสี่ยคิระเลิกคิ้วสูง คำถามของเธอราวกับปลุกเขาตื่นจากภวังค์ ขณะจ้องมองคนตรงหน้าแบบตาไม่วางตา เธอสวยมาก สวยชนิดที่ว่าไม่สามารถละสายตาไปไหนได้“ตรงนี้ก็ได้”มือหนาตบเบาะตรงที่ว่างข้างๆ พลางกระเถิบไปฝั่งซ้ายที่มีลลิสานั่งอยู่และหล่อนก็กระเถิบหลีกให้ตามสัญชาตญาณไปประชิดกับอีกคน ปลุกให้อีกคนหลุดจากการเหม่อลอยตื่นตามกัน ละสายตาจากการมองแก้วบรั่นดีในมือมาสนใจพวกเขาทั้งหมด แต่พอสายตาไปปะทะกับคนคู่นั้น ถึง

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 8 -- ข้อเสนอของเสี่ย

    พะแพงเพิ่งเข้าใจถึงความรู้สึกคอแห้ง กลืนก้อนแข็งติดคอก็คราวนี้ เป็นสิ่งที่มาพร้อมๆ กับความตกใจ และอีกมากมายที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ใบหน้าของเธอร้อนวูบขณะสบตากับเขา ร่างสูงในชุดดำทั้งชุดจ้องเขม็งมา ราวกับว่าเขานั้นนั่งรออยู่ก่อนแล้ว“พี่ยิ้ม?”คนตัวเล็กหันไปเค้นเสียงใส่รุ่นพี่ วินาทีแรกยังคงมองหล่อนในแง่ดีอยู่ คิดว่าไม่รู้เรื่องราว แต่พอได้ยินประโยคนั้นจากปากของเกียรติ แทบจะล้มทั้งยืน“ยิ้มไปพูดอีท่าไหนน้องถึงยอมมา” เขาทำราวกับเป็นเรื่องน่าขัน พลันหันไปทางอีกคนที่เอาแต่นั่งทำหน้าเรียบ แต่ไม่คิดจะละสายตาออกไปจากเธอ “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับเสี่ย”“จะรีบไปไหน อยู่ฉลองวันเกิดด้วยกันก่อน”เห็นได้ชัดว่าเกียรติหน้าถอดสี เมื่อไม่ได้รับการอนุญาตจากเขา แต่ขอให้อยู่ต่อเพื่อฉลองวันเกิดให้กับเพื่อน ความคิดที่ต้องการหลบหลีกไม่กล้าเผชิญหน้ากับพะแพงจึงหายไปทันที เสมือนคิระรู้ ถึงได้ยกยิ้มริมฝีปากหยัก จังหวะรินบรั่นดีเพิ่มในแก้วตัวเองอย่างพอใจ“จะไปบอกเด็กให้นำค็อกเทลชุดพิเศษสำหรับวันเกิดมาให้น่ะครับ”“ไม่ต้องหรอก กูกับเพื่อนไม่ดื่มค็อกเทล”จังหวะนั้นถ้าสังเกตจะเห็นว่าลลิสาเพื่อนของเข

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 7 -- โดนหลอก

    เกียรติชะลอรถช้าลงขณะถึงที่หมายและกำลังเลี้ยวเข้าซองจอดที่ประจำของตัวเอง หน้าจอโทรศัพท์กะพริบถี่แจ้งหมายเลขของคนคุ้นเคย ที่พักนี้โทรบ่อยซะจนน่าใจหาย เริ่มเป็นห่วงชีวิตของตัวเองและกังวลมากขึ้น ถึงชะตากรรมที่เสี่ยงขาดสะบั้นในไม่ช้านี้ทันทีที่เขาเห็นชื่อถึงกับใช้เกียร์ถอยไม่ถูก กว่าจะหาองศาจอดให้เรียบร้อย สายนั้นก็ถูกตัดไปเองโดยอัตโนมัติ ก่อนจะโทรกลับในเวลาไล่เลี่ยกัน“ขอโทษทีครับคุณปุณ ผมกำลังจอดรถถึงร้านพอดี มีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ”(เปล่า แค่จะบอกว่านายกูอยู่ร้านมึง)ได้ยินอย่างนั้นเจ้าของร้านถึงกับหูดับทันที พร้อมใบหน้าร้อนวูบ ใจสั่นอัตโนมัติราวกับคนหิวจัดแต่ไม่มีเวลากิน“ครับ? ตอนนี้นะเหรอครับ”(ใช่ นายพาเพื่อนไปจัดงานวันเกิด กูรอรับอยู่ข้างนอก ส่วนข้างในยกให้เป็นหน้าที่ของมึง ดูแลดีๆ ล่ะ ถ้าเป็นไปได้อย่าขัดใจนาย เขาเพิ่งจะทะเลาะกับพี่ชายมา)นี่ไม่ใช่การขู่ แต่เป็นการบอกกล่าวและตักเตือน ประหนึ่งว่าอาจเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นได้ ถ้ามีบางอย่างผิดพลาด เผลอทำนายเขาไม่พอใจ เกียรติหน้าเสีย จังหวะนั้นการพาตัวเองไปข้างหน้าแทบจะลอยไปมากกว่าเดิน โชคดีที่ขาไม่สะดุดจนพาตัวเองล้มลงให้ขายขี้หน้าลูก

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status