Home / โรแมนติก / เด็กเสี่ย / คิแพง - บทที่ 5 -- เรซควีน

Share

คิแพง - บทที่ 5 -- เรซควีน

last update Huling Na-update: 2025-11-10 13:02:22

     

            พะแพงเดินเท้าจากลานจอดรถเข้ามายังร้านอาหารที่เธอทำงานด้วยใบหน้าขาวจัดถัดไปทางซีดซึ่งมีมากกว่าปกติทำให้ผิดสังเกตของคนพบเห็น แม็กกำลังจัดของเตรียมเปิดบาร์ถึงกับขมวดคิ้วยุ่ง

           “แพง?”

           “จะเป็นลม แพงจะเป็นลมแล้วแม็ก”

           คนตัวเล็กเดินมาเกาะบาร์ กว่าจะปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้สูงนั้นได้ ถึงกับใช้พลังที่เหลือหยดสุดท้าย เพราะคนอื่นอาจแค่เขย่ง ส่วนคนที่สูงแค่ระดับล้อรถบรรทุกอย่างเธอจะต้องปีน

           “ไปทำอะไรมา”

           “แพงไปหางานทำมา”

           แก้วน้ำเปล่าถูกเลื่อนมาตรงหน้าโดยที่เธอไม่ได้ร้องขอ นั่นเพราะคนตัวสูงสังเกตว่าเธอไม่ได้มีน้ำมา คนตัวเล็กเลิกคิ้วคล้ายจะถามของเธอไหม แต่เพราะกระหายมาก และมันอยู่ตรงหน้าจึงคว้าดื่มไม่รอคำตอบ แม็กเห็นแบบนั้นถึงกับหลุดยิ้ม เธอน่ารักอีกแล้ว

           “จะลาออก?”

           “เปล่าๆ หาเพิ่ม”

           “งานแบบไหน แล้วมีเวลาพอเหรอ ที่นี่ก็เลิกดึกมากแล้วนะ”

           “ก็งานที่ออกไปทำสายๆ เสร็จก็มาที่นี่ต่อไง แบบงานแจกใบปลิวอะไรแบบนี้อ่า ช่วงปิดเทอมอยากทำให้เยอะหน่อย”

           “โห แพง แค่นี้ยังเหนื่อยไม่พออีกเหรอไง”

           “เงินไม่พอใช้มันเหนื่อยกว่านะแม็ก”

           เธอยกน้ำในแก้วที่เหลือน้อยกว่าครึ่งกระดกรวดเดียวหมด พลางวางปึงลงบนบาร์ จังหวะลงจากเก้าอี้จะไปห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนยูนิฟอร์ม พลันถูกยื้อไว้โดยแม็กเสียก่อน หลังตกผนึกในคำพูดของเธอ แล้วเกิดความเห็นใจขึ้นมา

           “แพงเลือกงานไหมล่ะ”

           แน่นอนเธอหันขวับ

           “ไม่เลย แม็กมีแนะนำเหรอ”

           “อืม แม็กพอจะรู้จักรุ่นพี่คนหนึ่ง แฟนเขาก็ทำที่เดียวกับเขา คล้ายหาคนไปทำน่ะ เป็นงานเสริมเหมือนกัน รายได้ก็..เยอะอยู่นะ ครั้งหนึ่งได้เป็นก้อนเลย  แต่เป็นงานที่แพงอาจไม่ค่อยชอบเท่าไหร่”

           “ไหนว่ามาซิ ถ้าไม่เปลืองตัวมากก็ได้หมดนะ”

           “เรซควีนอะ”

           “.......”

           “พริตตี้สนามแข่ง ออกงานนานๆครั้ง เฉพาะตอนมีแข่ง สนใจไหม”

           แม็กเดาว่าพะแพงน่าจะช็อคไปแล้ว เนื่องจากเธอเอาแต่ยืนนิ่งไม่คิดตอบ หรืออาจกำลังประมวลผลอยู่ ซึ่งนั้นเป็นการเดาที่ถูกต้อง เพราะคนตัวเล็กค้างไปตั้งแต่คำว่าเรซควีน พร้อมกับภาพในหัวเต็มไปหมด มันผุดขึ้นมาเองเป็นฉากๆ แถมเห็นตัวเองสวมชุดตรีมนักแข่งอยู่ในนั้นด้วย พอได้สติถึงกับสลัดออกหน้าสั่นกันเลยทีเดียว

           แต่ไม่ทันที่เธอจะอ้าปากตอบ เกียรติที่โผล่มาจากฝั่งขวาซึ่งเป็นทางไปห้องทำงานเขากวักมือเรียกกันเสียก่อน

           “แพง มาหาเฮียหน่อยครับ”

           “ค่ะ”

           ก่อนไปยังไม่วายหันมาทำหน้าตลกใส่แม็ก ที่คราวนี้คนหลังบาร์ถึงกับหัวเราะลั่น เพราะไม่ใช่แค่หน้าทะเล้น หากแต่เธอขยับปากไร้เสียงด้วย ...ซวยแล้ว

           ในห้องเดิมของคืนนั้นที่เกือบจะได้สาดอารมณ์ใส่กัน โชคดีที่มีสติยับยั้งทันจึงยังไม่เกิดขึ้น พะแพงเดินเข้ามาด้วยสภาพอิดโรย หากแต่เธอสวมหน้ากากอนามัย และใส่ฮู้ดติดเสื้อคลุมจึงไม่เป็นจุดสนใจของเกียรติเท่าไหร่

           “นั่งลงสิ พี่จะคุยเรื่องนั้นกับแพง”

           “เรื่องอะไรเหรอคะ”

           ทันทีที่นั่งลงเธอก็เอ่ยออกมาทันที ไม่ปล่อยให้เวลาสูญเปล่า เนื่องจากตอนนี้เริ่มหิวข้าวแล้ว ต้องการไปหาอะไรกินในครัวกับป้าน้อยก่อนเริ่มงาน และเชื่อว่าสิ่งนี้แหละที่ทำให้เธอรู้สึกหวิว คล้ายจะเป็นลม

           “เรื่องที่แพงบอกให้พี่ไปบอก เรื่องเสี่ย”

           “อ๋อ แล้วเขาว่ายังไงบ้างคะ”

           ทีแรกไม่ได้ตั้งใจฟัง หูเธอเหมือนจะดับไปครึ่งหนึ่ง แต่พอได้ยินเป็นเรื่องของเขา ถึงกับผึ่งขึ้นมาใหม่ ใช้งานได้ดีราวกับถูกรีบูต

           “พี่ไม่ได้คุยกับเขาโดยตรง คุยกับลูกน้องเขาแทน พอพูดไปแบบนั้น ไม่มีการโทรกลับมา คิดว่าน่าจะเข้าใจ”

           “เขาว่าง่ายดีจังค่ะ”

           คนตัวเล็กยิ้มกว้าง ประโยคนี้ไม่ได้เหน็บแนม เจตนาจะชมออกมาจากใจจริงๆ แต่อีกคนกลับตีความหมายเป็นอย่างอื่น

           “ระดับนั้นแล้ว ไม่มาวิ่งตามใครหรอก เว้นแต่จะอยากได้มากจนเขาต้องล่า หรือไม่ก็ต้องมีผลประโยชน์กับเขาก่อน”

           พะแพงดึงหัวคิ้วมาชนกัน เธอไม่รู้คนตรงหน้าพูดหมายถึงอะไร แต่ไม่สบายใจราวกับโดนดูถูก ถึงเลือกที่จะเงียบเป็นฝ่ายฟังมากกว่า และเป็นการฟังที่ไม่ได้ใส่ใจอะไรด้วย เมนูอาหารในครัวต่างหากที่สำคัญ เธอกำลังจินตนาการว่าวันนี้เชฟน้อยจะทำอะไรให้กิน

           “ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหมคะพี่ งั้นแพงขอตัวนะ”

           คนตัวเล็กลุกขึ้น มือบางเลื่อนมาเกาะกุมกันเตรียมยกไหว้ แต่พอเขาถามอีกเรื่องจึงชะงักค้างไว้

           “ได้ทิปหรือยัง”

           “ยังค่ะ ยังไม่เจอพี่ยิ้มเลย”

           “เดี๋ยวเอาที่พี่ก่อน วันนี้ยิ้มลาป่วย”

           หญิงสาวเลิกคิ้วสูงในแวบแรก พลันพยักหน้าเป็นอันเข้าใจภายหลัง คราวนี้ได้ยกมือขึ้นพนมจริงๆ เพราะต้องรับเงินที่เขายื่นมา หากแต่ภายในใจมีคำถามเป็นล้านคำ ยังสงสัยว่ายิ้มลาป่วยทำไมไม่เห็นบอก ปกติหล่อนหยุดจะแจ้งลงกลุ่มเสมอ

           

“ตะเอ๋!”

           “ถาเถร... ไอ้แพง เด็กคนนี้นี่ ดีป้าไม่ปล่อยหม้อ ไม่งั้นแกเอ้ย”

           คนตัวเล็กทำปากเป็นรูปตัวโอ หลังเพิ่งจะเห็นว่าในมือเชฟน้อยถือหม้อใบหนึ่งซึ่งมีน้ำร้อนอยู่ ก่อนหน้านี้ร่างท้วมยืนหันหลังจึงไม่ทันสังเกต มัวแต่อารมณ์ดีเรื่องเสี่ยคนนั้น และได้เงินพิเศษมาสนองการจับจ่ายเพิ่มขึ้น

           “ขอโทษค่ะ แพงไม่เห็น”

           “หิวไหมหนู วันนี้มีมะกะโรนีมะเขือเทศที่แพงชอบด้วยนะ”

           ใบหน้าสลดเพราะรู้สึกผิดในทีแรกขึงตากว้าง พลันยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมาเขย่าตรงหน้าเบาๆ

     “สุดยอด...”

           เชฟน้อยที่เห็นถึงกับหลุดขำ  ให้กับเพื่อนร่วมงานรุ่นลูก เธอมักจะทำตัวน่ารักแบบนี้เสมอ

           

           

           เลิกงานคนตัวเล็กกลับมาถึงห้องด้วยความเหนื่อยล้าเช่นเคย หากแต่วันนี้หมดแรงคูณสองเมื่อออกจากลิฟต์มาเห็นบิลมากมายอยู่ในกล่องจดหมาย มากถึงขนาดล้นออกมา เธอหยิบมันเข้ามาในห้อง และตัวเลขมากมายหลังเอามาบวกกันทำให้ต้องฟุบลงกลางเตียงด้วยความหมดแรงอีกครั้ง พลันภาพจำของวันนี้กลับปลุกให้ลืมตาตื่น ชนิดขยุมหัวหน้าแหงนมานั่งตัวตรง

           “หรือว่าจะลอง..”

           ไม่พูดเปล่าแต่ควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าผ้าด้วย จากนั้นจึงจะเข้าไปในแชทของแม็กที่ตกไปอยู่ข้างล่างเพราะไม่ได้คุยกันนานเป็นปี แม้เวลานี้จะดึกแล้วแต่ไม่ได้มีผลอะไรต่อพวกเธอ เพราะคนในแชทยังไม่เลิกงาน ยังคงดำรงตำแหน่งส่วนหน้าในผับอยู่

           แม็ก (เพื่อนมัธยม )

                                   : เรื่องที่คุยกันตอนเย็น แพงสนใจนะ

           

           คืนนั้น..

           เวลาเดียวกันกับเธอ อาคีรา เพิ่งจะกลับมาจากประชุมนัดใหญ่ที่รวมคณะกรรมการเกือบทุกหมู่เหล่าเกี่ยวกับการสร้างโครงการใหม่ระดับหมื่นล้าน ที่จะเปิดตัวภายในสองไตรมาสนี้

เมื่อมาถึงบ้านห้องที่เขาจะไปต่อไม่ใช่ห้องนอน อาบน้ำพักผ่อนอย่างเช่นนักธุรกิจทั่วไป แต่เป็นอีกห้องหนึ่งที่สามารถดื่มเหล้าได้ บางครั้งใช้ในเรื่องเซ็กซ์ด้วย

           เหล้าคอนยัคถูกเทใส่แก้วสนิฟเตอร์จากเจ้าของมือที่กำลังหงุดหงิด ความพิถีพิถันจึงถูกพลัดพรากไปในพริบตา แต่การวางมือไว้ก้นแก้วรออุณหภูมิ เพิ่มกลิ่นหอมออกมา พลันควงแก้วเบาๆแล้วค่อยจิบนั้นยังคงอยู่ หากแต่ครั้งนี้เหล้าที่เขาดื่มเหมือนจะถูกลดทอนคุณค่า เมื่อความคิดที่พอว่างจากการคิดเรื่องงานแวบไปนึกถึงสาวน้อยคนนึง เธอสวยระดับดารา หุ่นดีระดับนางแบบ แต่กล้าดีอย่างไรมาปฏิเสธเขา!

           ดวงตาคมกริบหลุบต่ำ มองแก้วเปล่าไม่เหลือบรั่นดีสักหยดหลังถูกกระดกไปจนหมดแล้ว ท่าทางของเขาดูคุกรุ่น  ทว่านั้นไม่น่าแปลกใจเท่ากับความคิด

           ร่างสูงมองรูปผู้หญิงมากมายซึ่งเรียงรายอยู่ในแมคบุ๊ค ถูกส่งมาโดยลูกน้องคนสนิทตามคำสั่งของทุกๆเดือน เขาจะใช้บริการผู้หญิงเหล่านี้ที่มีดีกรีระดับนางแบบเป็นว่าเล่น เงื่อนไขไม่ผูกมัด แค่ดื่ม คุย นอนด้วยกันและลืมกันไป ยากนักที่จะมีการสานต่อเป็นครั้งที่สอง เพราะเขาไม่ชอบกินเมนูซ้ำ เว้นแต่จะผ่านไปเนิ่นนานจนลืมรสชาติแล้ว ทว่าวันนี้เขากลับมองพวกหล่อนด้วยสายตานิ่งสนิท ราวกับเป็นภาพถ่ายธรรมดา

ดวงสายตาวางเปล่าไร้ความรู้สึกแต่คมกริบขณะมองอยู่ เปลี่ยนเป็นหลุบต่ำกะทันหันราวโบกมือดับเปลวไฟบนไส้เทียนดับ เหลือแต่ควัน เขาดึงตัวเองลุกจากขอบโต๊ะขึ้นมายืนเต็มความสูง  ตวัดสายตาไปยังลูกน้องคนสนิท ที่ยืนผสานมือกุมต่ำรอรับคำสั่ง พลันกระดิกนิ้วชี้

           “เด็กคนนั้น..”

           “ครับนาย ให้ผมทำยังไงดีครับ”

           “ตาม”

           

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 12 ช่องทางการติดต่อ

    จาก อาคีรา เบญ xxx-xxx000-0ดวงตากลมหรี่แคบเนื่องจากรู้สึกแสบร้อนหลังไม่ได้กะพริบมาหลายวิ ขณะเปิดดูรายการธุรกรรมในธนาคารของตัวเอง และพบว่าใครเป็นคนโอนมา ไม่ต้องคิดนานก็รู้ทันทีว่าเป็นเขา คู่กรณีของเธอเมื่อคืนมันเยอะเกินจนเธอเป็นกังวล และไม่กล้านำออกมาใช้ แม้ตามข้อตกลงก่อนหน้านี้จะเป็นแก้วละห้าหมื่น แต่เชื่อว่าเธอคงไม่ได้ดื่มเยอะจนเขาต้องจ่ายเป็นแสน และต่อให้เป็นค่านั่งดริงก์ทั้งคืน ครึ่งล้านก็ไม่น่าจะถึง อีกอย่างเธอไม่เชื่อว่าคนโอนให้จะไม่มีอะไรแอบแฝงด้วย!ด้วยความกลัวบวกกับความไม่สบายใจ เธอจึงเปิดอินเตอร์เน็ตเข้าไปหาชื่อของเขา เพียงพิมพ์แค่ชื่อไม่ทันได้พิมพ์นามสกุล รูปของเขาก็โชว์หราเต็มจอ ตึกบ้าน คอนโด โครงการเป็นหมื่นล้าน ราวกับจะต้องเรียกเขาว่าเจ้าอสังหาริมทรัพย์!“.....!!”พะแพงในตอนนี้คือช็อคไปแล้ว เธอนั่งตัวแข็งทื่อ หากแต่นิ้วนั้นกำลังเลื่อนดูไปเรื่อยๆ ภาพเขายืนโดดเด่นรวมกลุ่มอยู่กับนักธุรกิจด้วยกัน ส่วนใหญ่ผู้คนเหล่านั้นต่างมีดีกรีเป็นคนชั้นสูง ซึ่งไม่ใช่เจ้าของก็เป็นทายาทอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่เพียงแค่นั้น บางรูปเขายังถ่ายกับดารา หรือนักร้องชื่อดังด้วย ในขณะบางคนเธอยังเป็นแฟนค

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 11 ข้อความ

    คนตัวเล็กถูกกระชากออกจากโซฟาเกือบหัวคะมำ โดยร่างสูงที่อยู่ๆ ก็ทนไม่ไหวขึ้นมา เขาต้องการจะพาเธอไปที่พัก ซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ไม่มาก หากแต่จังหวะนั้นเหนือเมฆผลักประตูเข้ามาซะก่อน และนั่นทำเขาหัวเสียไม่น้อย“เฮ้ยๆ จะพาน้องเขาไปไหน”“โรงแรม..”อีกมือที่ว่างดันคนยืนขวางประตูให้ถอยห่าง ทว่ากลับต้องฉุนอีกครั้งเมื่อถูกเขายื้อแขนเอาไว้ และไม่มีทีท่าจะว่าจะหลบไป แรงนั้นกระชากคนตัวเล็กจังหวะพุ่งไปข้างหน้าแต่ถูกกระชากกลับมาข้างหลังถึงกับเวียนหัว โชคดีที่เขาคว้าทันจังหวะหันไปเห็น และกลัวเธอจะล้มจึงโอบเอวไว้“ใจเย็นก่อนไอ้เสือ” ทั้งที่รู้ยิ่งเมาเพื่อนของเขาจะยิ่งหัวร้อน การไปขวางทางกันแบบนั้นมีแต่เสี่ยงจะเสียชีวิต หากแต่จำเป็นต้องทำเพราะความเป็นห่วง ดูท่าเพื่อนเขาเองก็เมาไม่เบา ถึงได้ขาดสติลากเด็กออกจากร้านอย่างประเจิดประเจ้อแบบนี้ “ใจเย็นแล้วฟังกูก่อน มึงจะลากน้องเขาไปแบบนี้ไม่ได้ มึงดูสภาพน้องเขาด้วย กล้องวงจรปิดเต็มไปหมด อยากโดนข่าวดราม่ารึไง เรามันนักธุรกิจดังนะโว้ย”คราวนี้เขานิ่ง ประหนึ่งกำลังฉุกคิดตามคำเตือนเพื่อน หันมองคนตัวเล็ก ที่ขนาดทรงตัวยืนยังต้องใช้การบังคับจากเขาเลย และเมื่อเห็นด้วยร

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 10 ห่อกลับบ้าน

    เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ท่ามกลางเสียงเพลงในผับ แต่ดังอยู่ภายนอก มีแค่เสียงเบสเท่านั้นที่เล็ดลอดเข้ามาได้ ทั้งห้องมีแค่พวกเขาสองคน อีกสองคนไม่อยู่แล้ว พวกเขาพากันหายไปตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงก่อน ไม่มีวี่แววจะกลับมา นานจนเธอแอบคิดติดตลกว่าบางทีพวกเขาอาจจะไปเข้าห้องน้ำกันที่บ้านคนตัวเล็กมองแก้วช็อตที่วางว่างเปล่าเรียงกันอยู่สองแก้วด้วยดวงตาพร่ามัว ส่วนในมือถืออยู่อีกแก้วหนึ่ง และถ้ากระดกเข้าไปอีกคงจะเป็นแก้วที่สาม และแน่นอนเมื่อเหลือบไปเห็นคนข้างกายนั่งเฉยไม่ไหวติง เธอจึงกระดกรวดเดียวหมด ทว่าทันทีที่หมด แก้วใบนั้นก็ถูกฉกไปด้วยมือของเขา“เต็มที่ได้แค่นี้” เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหู “มากกว่านี้เดี๋ยวมันจะไม่สนุก”ไม่พูดเปล่า แต่มือใหญ่ที่ไม่ได้สากมากถูกยกมาวางไว้บนต้นขาเนียนด้วย พลางใช้ท้องนิ้วหัวแม่มือกดลงมาเบาๆ สลับกับการลูบไล้ไปมา และไม่รู้เพราะอะไรเธอถึงปล่อยให้เขาทำเช่นนั้นไม่คิดจะปัดป่ายหรือเพราะเธอเมาแล้วทีแรกกะจะดื่มแค่แก้วเดียวตามแผนที่คิดไว้ เพราะเงินแค่นั้นสามารถเอาตัวรอดได้หลังลาออกจากงาน และระหว่างหางานใหม่ แต่ด้วยแรงกดดันจากการถูกคะยั้นคะยอย่างเหนือชั้นจนเกินไป ทำให้เธอปฏิเสธไม่ลง“ใค

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 9 -- หนูยังได้อีกนะพี่ว่า

    เอาเข้าจริงเธอก็เกร็งไม่ใช่น้อย เมื่อมาอยู่ตรงจุดนี้ จุดที่ตอบตกลงเขาไปแล้ว ร่างบางยืนประจันหน้ากับเขา ด้วยชุดเดรสสั้นสีแดงที่ระดับของชายผ้าพ้นเข่ามาคืบนึง เธอจำได้ชุดนี้ยิ้มเคยใส่ และเธอก็เอ่ยปากชมว่าหล่อนสวย แต่หารู้ไม่เมื่อมาอยู่บนตัวเธอกลับสวยยิ่งกว่า มันทั้งเซ็กซี่และเย้ายวนในเวลาเดียวกันท่ามกลางการมองอยู่ของชายชุดดำที่แค่นั่งเฉยๆ ยังดูน่าค้นหา เขามองเธอนับตั้งแต่เดินเข้ามา มองตั้งแต่วินาทีแรกที่สบตากัน ด้วยสายตานี้ แววตานี้ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งแน่นอนตอนนี้ที่เธอได้มายืนอยู่ตรงหน้าเขา ไม่ว่าด้วยกลอุบายใดของใคร นั่นหมายความว่าไปเปิดทางให้เขาได้เดินเข้ามาแล้วกึ่งหนึ่ง“จะ จะให้นั่งตรงไหนคะ”เสี่ยคิระเลิกคิ้วสูง คำถามของเธอราวกับปลุกเขาตื่นจากภวังค์ ขณะจ้องมองคนตรงหน้าแบบตาไม่วางตา เธอสวยมาก สวยชนิดที่ว่าไม่สามารถละสายตาไปไหนได้“ตรงนี้ก็ได้”มือหนาตบเบาะตรงที่ว่างข้างๆ พลางกระเถิบไปฝั่งซ้ายที่มีลลิสานั่งอยู่และหล่อนก็กระเถิบหลีกให้ตามสัญชาตญาณไปประชิดกับอีกคน ปลุกให้อีกคนหลุดจากการเหม่อลอยตื่นตามกัน ละสายตาจากการมองแก้วบรั่นดีในมือมาสนใจพวกเขาทั้งหมด แต่พอสายตาไปปะทะกับคนคู่นั้น ถึง

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 8 -- ข้อเสนอของเสี่ย

    พะแพงเพิ่งเข้าใจถึงความรู้สึกคอแห้ง กลืนก้อนแข็งติดคอก็คราวนี้ เป็นสิ่งที่มาพร้อมๆ กับความตกใจ และอีกมากมายที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ใบหน้าของเธอร้อนวูบขณะสบตากับเขา ร่างสูงในชุดดำทั้งชุดจ้องเขม็งมา ราวกับว่าเขานั้นนั่งรออยู่ก่อนแล้ว“พี่ยิ้ม?”คนตัวเล็กหันไปเค้นเสียงใส่รุ่นพี่ วินาทีแรกยังคงมองหล่อนในแง่ดีอยู่ คิดว่าไม่รู้เรื่องราว แต่พอได้ยินประโยคนั้นจากปากของเกียรติ แทบจะล้มทั้งยืน“ยิ้มไปพูดอีท่าไหนน้องถึงยอมมา” เขาทำราวกับเป็นเรื่องน่าขัน พลันหันไปทางอีกคนที่เอาแต่นั่งทำหน้าเรียบ แต่ไม่คิดจะละสายตาออกไปจากเธอ “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับเสี่ย”“จะรีบไปไหน อยู่ฉลองวันเกิดด้วยกันก่อน”เห็นได้ชัดว่าเกียรติหน้าถอดสี เมื่อไม่ได้รับการอนุญาตจากเขา แต่ขอให้อยู่ต่อเพื่อฉลองวันเกิดให้กับเพื่อน ความคิดที่ต้องการหลบหลีกไม่กล้าเผชิญหน้ากับพะแพงจึงหายไปทันที เสมือนคิระรู้ ถึงได้ยกยิ้มริมฝีปากหยัก จังหวะรินบรั่นดีเพิ่มในแก้วตัวเองอย่างพอใจ“จะไปบอกเด็กให้นำค็อกเทลชุดพิเศษสำหรับวันเกิดมาให้น่ะครับ”“ไม่ต้องหรอก กูกับเพื่อนไม่ดื่มค็อกเทล”จังหวะนั้นถ้าสังเกตจะเห็นว่าลลิสาเพื่อนของเข

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 7 -- โดนหลอก

    เกียรติชะลอรถช้าลงขณะถึงที่หมายและกำลังเลี้ยวเข้าซองจอดที่ประจำของตัวเอง หน้าจอโทรศัพท์กะพริบถี่แจ้งหมายเลขของคนคุ้นเคย ที่พักนี้โทรบ่อยซะจนน่าใจหาย เริ่มเป็นห่วงชีวิตของตัวเองและกังวลมากขึ้น ถึงชะตากรรมที่เสี่ยงขาดสะบั้นในไม่ช้านี้ทันทีที่เขาเห็นชื่อถึงกับใช้เกียร์ถอยไม่ถูก กว่าจะหาองศาจอดให้เรียบร้อย สายนั้นก็ถูกตัดไปเองโดยอัตโนมัติ ก่อนจะโทรกลับในเวลาไล่เลี่ยกัน“ขอโทษทีครับคุณปุณ ผมกำลังจอดรถถึงร้านพอดี มีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ”(เปล่า แค่จะบอกว่านายกูอยู่ร้านมึง)ได้ยินอย่างนั้นเจ้าของร้านถึงกับหูดับทันที พร้อมใบหน้าร้อนวูบ ใจสั่นอัตโนมัติราวกับคนหิวจัดแต่ไม่มีเวลากิน“ครับ? ตอนนี้นะเหรอครับ”(ใช่ นายพาเพื่อนไปจัดงานวันเกิด กูรอรับอยู่ข้างนอก ส่วนข้างในยกให้เป็นหน้าที่ของมึง ดูแลดีๆ ล่ะ ถ้าเป็นไปได้อย่าขัดใจนาย เขาเพิ่งจะทะเลาะกับพี่ชายมา)นี่ไม่ใช่การขู่ แต่เป็นการบอกกล่าวและตักเตือน ประหนึ่งว่าอาจเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นได้ ถ้ามีบางอย่างผิดพลาด เผลอทำนายเขาไม่พอใจ เกียรติหน้าเสีย จังหวะนั้นการพาตัวเองไปข้างหน้าแทบจะลอยไปมากกว่าเดิน โชคดีที่ขาไม่สะดุดจนพาตัวเองล้มลงให้ขายขี้หน้าลูก

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status