ณ ตึกที่สูงที่สุดในเมืองแอล
ร่างสูงกำลังยืนตรงอย่างสง่างาม สายตาคมทอดมองลงไปยังท้องถนนด้านล่างผ่านกระจกใสๆ เขากำลังครุ่นคิดบางอย่างที่ใครๆ ก็ไม่อาจเดาได้ แม้แต่บอดี้การ์ดสองคนที่สนิทกับเจ้านายที่สุดก็เช่นกัน ทั้งต้าฉิน และจางหลงนั้นเข้ามายืนอยู่ข้างในห้องได้เกือบยี่สิบนาทีแล้ว แต่คุณชายของพวกเขาก็ยังไม่สั่งการอะไรสักที ซึ่งมันไม่ปกติ สองบอดี้การ์ดหันมามองหน้ากัน ก่อนที่จะเกี่ยงกันดึงสติคุณชายให้กลับมา “แกดิ ต้าฉิน คุณชายชมแกบ่อยๆ” จางหลงเอ่ยขึ้นเบาๆ “แกดิ ทำงานถูกใจคุณชายที่สุด รับรองโดนด่าน้อยสุด” ต้าฉินกระซิบกระซาบ แต่มีหรือที่คนรสสัมผัสและการได้ยินไวอย่างคุณชายซือจะไม่ได้ยินที่สองหนุ่มบอดี้การ์ดเกี่ยงกัน “พอทั้งคู่แหละ ฉันเรียกมาเพราะอยากจะถามว่าเด็กในอุปการะของฉันกำลังทำอะไรอยู่ แล้วที่มหาวิทยาลัยมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” คำตอบราบเรียบของซือมู่อันทำให้สองหนุ่มต่างตะลึงกันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คุณชายของเขาสนใจอะไรในตัวเด็กสาวคนนั้นกันนะ ถึงขนาดอยากจะรู้ว่าทำอะไรอยู่ หรือมีปัญหาอะไรไหม “อะเอ่อ เดี๋ยวผมจัดการเรื่องนี้ให้ครับ” ต้าฉินเป็นฝ่ายเสนอตัว ถึงแม้จะยังงงๆ กับพฤติกรรมคุณชายเย็นชาอย่างคุณชายซือของพวกเขา แต่หน้าที่ย่อมมาก่อน ในเมื่อนายต้องการ บอดี้การ์ดอย่างเขาก็ต้องจัดให้ “อืม ดี ส่วนนาย จางหลง ไปสืบที่บ้านเด็กนั่นทีนะ ว่ายังมารบกวนเด็กในอุปการะของฉันอีกหรือเปล่า” เสียงเข้มสั่งขึ้นโดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าสองบอดี้การ์ด “ครับคุณชายซือ ผมจะไปสืบให้คุณชายเดี๋ยวนี้เลยครับ” จางหลงบอกก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องทำงานของคุณชายซือพร้อมๆ กับต้าฉิน ร่างสูงพ่นลมหายใจออกมา ‘นี่เธอทำไมถึงดึงดูดให้เขาสนใจมากมายขนาดนี้ รีบโตไวๆ นะแม่สาวน้อย’ ซือมู่อันคิดในใจ ก่อนที่จะกันหลังกลับมาและเดินไปนั่งที่โต๊ะประธานของตน มหาวิทยาลัยแอล และแล้ววันประกวดดาวและเดือนของแต่ละคณะก็มาถึงซึ่งผลก็เป็นไปตามคาด จ้าวซือซือนั้นคว้าเดือนของคณะนิเทศศาสตร์มาได้อย่างคะแนนนำโด่ง ส่วนหลิวถิงถิงก็ไม่แพ้กัน คว้าเดือนคณะพาณิชศาสตร์และการบัญชีมาได้เช่นกัน ดาวและเดือนนอกจากหน้าตาหล่อสวยแล้ว ยังต้องมีความสามารถและฉลาดในการตอบคำถามอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าหลิวถิงถิงตอบคำถามได้ดี สมแล้วกับเป็นอันดับที่หนึ่งของรุ่นที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้มาได้ เธอจะโดดเด่นจนมีผู้ชายชื่นชอบไม่น้อย ถ้าบ้านของเธอมีฐานะ แต่ใครๆก็รู้ว่าหลิว ถิงถิงนั้นเป็นเด็กในอุปการะของคุณชายซือ หาใช่ลูกคุณหนูมาจากตระกูลผู้ดีมีเงินไม่ “ดีใจด้วยนะเดือนคณะ” ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ที่มีผิวขาว จมูกโด่งสันเป็นคน รับด้วยริมฝีปากหนาสีเลือดฝาด “ดีใจกับนายด้วยเหมือนกันฟางอี้หลง” หลิวถิงถิงเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม ฟางอี้หลงเป็นเพื่อนผู้ชายในห้องเรียนของเธอ เขาไม่ได้รังเกียจที่บ้านเธอจน กลับชอบให้ความช่วยเหลือจนบางครั้งเธอเองก็เกรงใจ “แล้วนี่จะไปฉลองที่ไหนกันหรอ” ฟางอี้หลงเอ่ยถามสาวตรงหน้า เขาสนใจเธอ เธอสวยน่ารักนิสัยดีถูกใจเขา เธอจนแล้วยังไง ในเมื่อตระกูลของเขาก็ร่ำรวยติดอันดับสิบของมหาเศรษฐีเมืองแอลอยู่ดี เพราะฉะนั้นเขาจะเลือกคนที่ชอบไม่ได้เลือกคนที่ฐานะแน่นอน “รอถามจ้าวซือซือก่อนนะ นั่นไงมาพอดี ซือซือ!!! ทางนี้” หลิวถิงถิงร้องเรียกเพื่อนรักที่กำลังเดินมาทางเธอ ตอนนี้จ้าวซือซือถือว่าเนื้อหอมอยู่ไม่น้อย เพราะมีทั้งรุ่นพี่และรุ่นเดียวกันตามขายขนมจีบเธออยู่ ก็เธอทั้งสวยและรวยมากไง ผู้ชายถึงได้สนใจ สำหรับจ้าวซือซือ ผู้ชายพวกนี้ก็เปรียบเหมือนกับแมลงที่มาสร้างความรำคาญให้เธอ “รอนานไหมแม่เดือนคณะ” จ้าวซือซือเดินมาถึงก็เอ่ยแซวเพื่อนรักทันที ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิวถิงถิง หลิวถิงถิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่สูงมากมาย พอได้ยืนคู่กับผู้ชายคนนี้ดูเหมือนเสาร์ไฟฟ้ากับหลักกิโลไปเลย “ไม่นานแม่เดือนนิเทศ เออ ซือซือ นี่ฟางอี้หลง ดาวคณะของเราเอง อี้หลงเป็นเพื่อนในคณะของเราด้วย” หลิวถิงถิง ไม่ลืมที่จะแนะนำเพื่อนทั้งสองคนให้รู้จักกัน “หวัดดี ฟางอี้หลง หวังว่านายคงจะไม่ได้มาแอบจีบเพื่อนรักของฉันรักหรอกนะ ยัยถิงถิงยิ่งซื่อๆ อยู่ด้วย” คนตรงๆ อย่างจ้าวซือซือมีหรือจะมองคนไม่ออก และก็ไม่เคยพลาดที่จะพูดออกไป จนอีกฝ่ายหน้าเสีย ที่โดนเพื่อนรักของหญิงสาวที่ตนแอบชอบจับได้ “ปะ..เปล่า เราเป็นแค่เพื่อนกันน่ะ” เขาปฏิเสธไปทั้งๆ ที่ใจอยากจะบอกว่า ‘ใช่!! เขาชอบหลิวถิงถิง’ แต่ถ้าพูดออกไปตอนนี้ถิงถิงต้องรีบปฏิเสธไมตรีของเขาแน่ เพราะฉะนั้นเขาจะค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป “แค่เพื่อนก็ดีแล้ว ถิงถิงยังเด็กอยู่ ถ้ามีแฟนตอนนี้ คุณชายซือเขาจะไม่ปลื้มเอา ว่าเด็กในอุปการะของตนนั้นใจแตกอยากมีแฟนทั้งๆ ที่ยังเรียนอยู่” ความตรงของจ้าวซือซือ หลิวถิงถิงนั้นไม่เคยถือสา เพราะเธอมักจะพูดแรงและพูดตรงๆ แบบนี้เสมอ เธอเห็นด้วยกับเพื่อนรัก ‘ใช่ ตอนนี้เธอต้องประพฤติตัวให้ดี ให้สมกับที่เขารับเธอไว้ในการดูแล ให้ทุนเธอได้เรียน และให้ทุนเธอได้ใช้ เขาเปรียบเสมือนผู้มีพระคุณของเธอแล้วตอนนี้ “ไม่ต้องห่วงหรอกนะจ้าวซือซือ เราจะยังไม่มีแฟนจนกว่าจะทำงานแล้วตอบแทนพระคุณของคุณชายซือ” หลิวถิงถิงเอ่ยออกมา โดยที่ไม่ได้รู้เลยด้วยซ้ำว่าในอนาคตเธอต้องตอบแทนคุณชายซือด้วยอะไร ก็เธอนะแสนจะต้อยต่ำ ต่างจากผู้ชายอย่างเขาราวฟ้ากับดิน“ยินดีด้วยนะลี่หลิน คุณจางหลง ในที่สุดก็จะลงเอยกันเสียที” เจ้าของร้านคนสวยเอ่ยแสดงความยินดีกับเพื่อนสาวทันทีที่เห็นคู่รักเดินเข้ามาในงานเลี้ยงขนาดเล็กภายในร้านของเธอ วันนี้ร้านของเธอปิดทำการขายหนึ่งวัน และได้นำขนมบางส่วนไปให้เด็กๆ ตามสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้ทาน ส่วนสามีสุดหล่อแถมสายเปย์ก็มอบทุนการศึกษาให้เด็กด้อยโอกาสในนามของตระกูลซือ“จ้ะ ขอบใจเธอมากนะที่ทำให้เราสองคนได้รู้จักกัน” ลี่หลินเอ่ยขึ้นขณะที่เดินมาจับมือเพื่อนสาวคนสวยที่ราศีคุณนายจับ ผิวขาวเนียนผุดผ่องตามประสาคนไม่ค่อยโดนแสงแดด“มันเป็นพรหมลิขิตมากกว่า จริงไหมคะคุณจางหลง” ซือถิงถิงเอ่ยออกมาพร้อมกับเอ่ยถามบอดี้การ์ดมือซ้ายของสามีหนุ่มยิ้มๆ “ใช่ครับคุณนาย” จางหลงตอบพร้อมยิ้มกว้างออกมา ‘อันที่จริงก็เพราะคุณนายหนีไปทำงานที่เมืองเอ็มอยู่กับลี่หลินนั่นแหละครับผมถึงได้เจอเธอ’ จางหลงคิดในใจหากแต่เขาไม่พูดออกมาเพราะการหนีไปครั้งนั้นของเธอทำให้คุณชายซือผู้ที่เคยเย็นชาของเขากลับกลายเป็นคุณชายซือผู้คลั่งรักและแสนอบอุ่นกับภรรยาและลูกๆ ทั้งสองในวันนี้ สองหนุ่มสาวทักทายเจ้าของร้านคนสวยอยู่สักพักก่อนที่จะเข้าไปเล่นกับคุณชายน้อยและคุณหนูน้
5 ปีผ่านไป สองแฝดน้อยเติบโตมาเป็นเด็กดี และด้วยไอคิวและอีคิวที่สูงกว่าเด็กทั่วไปเลยทำให้ทั้งสองเด็กน้อยถูกเรียกว่าเด็กอัจฉริยะ ทั้งลู่ชิงและลู่เหลียนต่างเป็นที่รักของครอบครัว ครูอาจารย์และเพื่อนๆ ทั้งชั้นเรียน เพราะความเก่ง ฉลาด และมีนิสัยน่ารักน่าเอ็นดู ไม่ถือว่าตนอยู่ในตระกูลที่ยิ่งใหญ่หรือสูงส่ง ลู่ชิงและลู่เหลียนมีเพื่อนตั้งแต่ตระกูลธรรมดาไปจนถึงลูกเจ้าของบริษัท“แม่ครับ วันนี้ผมขอไปเตะบอลกับต้าเฟยนะครับ” เสียงเล็กๆ ของบุตรชายเอ่ยดังขึ้นหลังจากกลับมาจากโรงเรียน ต้าเฟยคือบุตรชายของต้าฉิน กับหลินหลิน ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานและมีลูกในทันทีทำให้สองเด็กน้อยมีอายุห่างกันแค่สิบเดือนเท่านั้น“แล้วลู่เหลียนจะไปอยู่ไหนล่ะคะพี่ลู่ชิง” น้องสาวที่คลอดห่างกันไม่กี่นาทีเอ่ยถามพี่ชายขึ้นเพราะต้าเฟยนั้นก็เป็นผู้ชาย เด็กวัยเดียวกันกับเธอนั้นไม่มีเลย มีก็แต่น้องซูหนี่ว์ บุตรสาวของคุณน้าซือซือ ซุปตาร์สาวเพื่อนของมารดาที่อายุน้อยกว่าเธอไปถึงสามปี น้องเพิ่งจะได้สองขวบ เพราะคุณน้าซือซือเพิ่งตกลงแต่งงานกับคุณลุงเจียอีที่ตามจีบคุณน้ามาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย “เอาอย่างนี้ไหมคะลูก เดี๋ยวลู่เหลียนไปที
“ชอบเขาหรอวะจางหลง” ต้าฉินโพล่งถามขึ้นมาทันที จางหลงที่ยกน้ำขึ้นมากระดกพอดีน้ำแทบจะพุ่งพรวดออกจากปาก มือหนายกขึ้นมาเช็ดปากก่อนที่จะหันขวับไปมองใบหน้าหล่อเหลาของไอ้เพื่อนสนิท “เออ...ว่าแต่อาการของข้ามันมองออกขนาดนั้นเลยหรอวะ” จางหลงเอ่ยถามขึ้นเสียงหลง “มาก ไม่ค่อยแสดงออกเลยฮ่าๆๆ” “เออ..ใครมันจะไปเก็บความรู้สึกเก่งแบบแก ระวังเถอะ ระวังสุนัขคาบไปรับประทาน แม่นักข่าวสาวเพื่อนสนิทของแกน่ะ” จางหลงไม่ยอมให้เพื่อนมาแขวะอยู่ฝ่ายเดียว เลยเอาความลับที่รู้มาแขวะเพื่อนกลับไปเช่นกัน ต้าฉินมองหน้าเพื่อนสนิทอย่างตกใจ “เฮ้ย!! แล้วแกรู้ได้ไงวะ ฉันไม่เคยแสดงออกเลยนะ” ต้าฉินอุทานพร้อมเอ่ยถามด้วยความสงสัยปนตกใจ “ก็แกน่ะคบผู้หญิงสักคนที่ไหน ก็เห็นจะมีแต่หลินหลินคนเดียวที่แกคุยด้วย โถ่!! ไอ้ต้าฉินอย่าคิดว่าแกถือไพ่เหนือกว่าคนเดียวสิวะ ขนาดเรื่องนี้คุณชายยังรู้เลยฮ่าๆๆๆ” จางหลงเอ่ยขึ้นก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ต้าฉินตาเบิกโพลงเขาไม่คิดว่าคุณชายผู้ที่ไม่สนใจเรื่องราวใดๆ แต่ดันมารู้เรื่องของหัวใจที่เขาปิดบังเอาไว้สองหนุ่มหยอกล้อกันระหว่างที่นั่งคุมเชิงอยู่หน้าห้องพักฟื้นVVIPของคุณนายซือ
หกเดือนต่อมา และแล้วช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงวันที่สองแฝดน้อยได้กำหนดการในการลืมตามาดูโลก คุณนายใหญ่ดูจะเป็นผู้ที่ตื่นเต้นกว่าใครทั้งหมด ด้วยยังไม่รู้ว่าหลานๆ ของตนนั้นเป็นเพศไหน เพราะทั้งบุตรชายและสะใภ้ต่างอยากจะรอลุ้นในวันคลอดทีเดียว ผู้เป็นย่าจึงทำได้แค่เพียงรอคอยและเตรียมชื่อไว้ให้สองแฝดเท่านั้น ซือมู่อันตื่นเต้นไม่แพ้กัน เขาคอยทะนุถนอมดูแลเอาใจใส่ภรรยาสาวมาเป็นอย่างดี แถมเขายังงดเรื่องบนเตียงมาได้เกือบสามเดือนแล้ว เนื่องจากกลัวว่าจะกระทบกระเทือนไปถึงลูกน้อยทั้งสอง ซือถิงถิงเคยพูดเล่นให้เขาไปทำแบบเดิมช่วงที่เธอไม่สามารถมอบความสุขให้เขาได้ แต่ผู้ชายแบบเขาก็ไม่มีทางผิดคำพูดที่เคยให้ไว้กับภรรยาเด็ดขาด เขาเลือกที่จะช่วยตนเองและออกกำลังกาย แทนการไปปลดปล่อยกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตน “สวัสดีค่ะแม่ สวัสดีค่ะพ่อ สวัสดีค่ะพี่ตงตง ถิงถิงเข้าห้องคลอดไปนานหรือยังคะ” เสียงหวานจากซุปตาร์สาวที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดังในขณะนี้เอ่ยทักทายครอบครัวของเพื่อนสนิท ก่อนที่จะถามถึงเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “อ้าว สวัสดีจ้ะหนูซือซือ เข้าไปได้สักพักแล้วจ้ะ เห็นว่าจะคลอดเองนะ แม่ก็อดท
หลิวถิงถิงเขินจนหน้าแดง ก่อนที่จะหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ของสามีหนุ่มอย่างหมั่นไส้ และหันไปมองสองบอดี้การ์ดหนุ่มข้างหลังก็พบว่าคนทั้งคู่กำลังมองไปทางอื่นเลยถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างรู้สึกโล่งใจที่สองบอดี้การ์ดหนุ่มไม่ทันเห็น แต่หารู้ไม่ว่าริมฝีปากหนาของทั้งจางหลงและต้าฉินยกยิ้มขึ้นมาอย่างขบขันเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกที่แผนกบัญชีและการเงิน ร่างอวบอิ่มในชุดเดรสสีขาวลายดอกไม้ก็เดินออกมาจากลิฟต์อย่างสง่างาม พร้อมด้วยบอดี้การ์ดหนุ่มอย่างจางหลงที่มาคอยดูแลความปลอดภัยให้กับคุณนายซือ สี่สาวและสองหนุ่มมองมาที่หญิงสาวในสถานะใหม่อย่างตกตะลึง ก่อนที่ทุกคนจะรีบเดินออกมายืนเรียงกันเป็นหน้ากระดานเพื่อต้อนรับคุณนายซือ“สวัสดีค่ะพี่จินหยูและพี่ๆ ทุกคน สบายดีกันไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวาน ผู้จัดการแผนกมองไปที่หญิงสาวที่มีรูปร่างอวบอิ่มอย่างตื่นเต้นและดีใจ“พี่สบายดีค่ะ น้องถิงถิง เอ่อ...คุณนายซือก็สบายดีใช่ไหมคะ” หญิงสูงวัยกว่าทักทายกลับก่อนที่จะเอ่ยถามภรรยาของท่านประธาน“เรียกว่าถิงถิงเหมือนเดิมก็ได้ค่ะพี่จินหยู พี่ๆ ทุกคนด้วยนะคะ”“ไม่ได้หรอกค่ะ ตอนนี้น้องถิงถิง..เอ
เรือนร่างบอบบางเปลือยเปล่านอนกอดก่ายอยู่บนเรือนร่างหนั่นแน่นที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของสามีหมาดๆ เปลือกตาบางหลับพริ้มอย่างมีความสุขหลังจากผ่านค่ำคืนที่บ่งบอกว่าเธอและเขาคือคนคนเดียวกันโดยสมบูรณ์ วงแขนอบอุ่นโอบกอดเธอเอาไว้ราวกับไม่ต้องการให้เธอจากไปไหน แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาภายในห้องเป็นการเตือนว่าเช้านี้ทั้งสองชีวิตได้เริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่อย่างแท้จริงแล้ว ร่างหนาของซือมู่อันค่อยๆ ขยับร่างระหงของภรรยาสาวที่ยังนอนหลับอยู่บนหน้าอกของเขาด้วยสีหน้าที่แสดงออกมาถึงความสุข มือเรียวดึงผ้าห่มมาคลุมร่างอวบอิ่มของภรรยาสาวเอาไว้ก่อนที่สายตาคมที่ทอแสงแห่งความอบอุ่นส่งไปยามมองไปที่ใบหน้าสวย เขาค่อยๆ ลุกขึ้นจากที่นอนก่อนที่จะตรงไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย ในเวลาต่อมาร่างหนาในชุดคลุมสีขาวเดินตรงไปยังส่วนของห้องครัว มื้อนี้เขาจะเป็นคนลงมือทำอาหารเช้ามื้อแรกสำหรับภรรยาคนสวยของเขา ขณะที่มือเรียวยาวของพ่อครัวหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งกำลังจับตะหลิวคนโจ๊กร้อนๆ อยู่ที่หน้าเตา ช่วงเอวสอบก็ถูกลำแขนเสลาสอดเข้ามากอดจากทางด้านหลัง ริมฝีปากบางสีกุหลาบยกยิ้มขึ้นมาอย่างอบอุ่น“กำลังทำอะไรอยู่คะ...คุณสามี” เสียงหว