ตอนที่ 2. ยายผ้าป่านกับหมาตลาด/2
“ยายผ้าป่าน ทำไมไม่ร้องเสียงดังๆ ล่ะ ร้องสิให้แม่เธอมาเรียกค่าเสียหายจากฉัน” เขาท้าทาย
“ไอ้... ไอ้บ้า!”
ลินินเอามือถูปากตัวเอง หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธและอับอาย ขยับลุกขึ้นชี้หน้าด่าเขาทันที
“ไอ้ปอนด์ ไอ้หมาตลาด ฉันเกลียดแก!”
“หมาตลาด... หมาตลาดเหรอ ยายผ้าป่าน”
ปรัชญ์กระโดดเข้ามารวบตัวลินินไว้อีกหน ผลักจนหลังติดกำแพง แล้วระดมจูบเธอรุนแรงจนปากบวมเจ่อ เขาหอบหายใจแรงเมื่อปล่อยเธอ จ้องหน้าเธอด้วยแววตาวาววับ
“ถ้าด่าฉันว่าหมาตลาดอีก ฉันจะจูบปากเสียๆ ของเธอให้แตก ยายผ้าป่าน”
พูดจบเขาก็สะบัดหน้าเดินหนีไป ทิ้งร่างอ่อนแรงให้ทรุดฮวบกองบนพื้นด้วยความอดสู สิ่งที่เขากระทำต่อเธอกลายเป็นภาพจำที่ลินินไม่อาจลืมได้ หญิงสาวถอนความคิดออกจากภวังค์อดีต
“ไอ้หมาตลาด หึ ฉันเกลียดนาย เกลียด...”
หญิงสาวรำพึงออกมา ในคำว่าเกลียดกลับแทรกแซมด้วยความรู้สึกบางอย่าง ที่เจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ ปลายนิ้วแตะบนริมฝีปาก รอยประทับของเขาเหมือนยังติดอยู่ไม่ลบเลือนตามกาลเวลา ลินินรีบสลัดความคิดบ้าบอนี่ออกจากหัว เธอคือด็อกเตอร์ลินิน ไม่ใช่เด็กสาวอ่อนแอคนเดิม ไม่มีวันที่ไอ้หมาตลาดอย่างปรัชญ์จะมาทำอะไรเธอได้อีกแล้ว
ลินินอาจจะลืมไปแล้วว่า โลกใบนี้แสนกลม คนที่เธอไม่อยากพบเจอ อาจจะหมุนวนกลับมาพบเจอกันอีก...
อาทิตย์ต่อมาหลังจากได้คนงานมาดูแลมารดาแล้ว ลินินก็เดินทางไปเชียงใหม่ เธอได้ที่พักเป็นทาวน์เฮาส์หลังหนึ่ง หญิงสาวเลือกที่นี่แทนการพักในอพาร์ทเม้นท์ เพราะชอบความเป็นส่วนตัว วันรุ่งขึ้นลินินก็ไปรายงานตัวรับตำแหน่งอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย อธิการบดีให้การต้อนรับด้วยความยินดี และได้พาหญิงสาวไปแนะนำให้รู้จักกับอาจารย์คนอื่นในมหาวิทยาลัย
“ขอแนะนำให้รู้จักกับ ด็อกเตอร์ ลินิน ตระการแสง ผู้ช่วยอธิการบดีคนใหม่ของมหาวิทยาลัยของเรา”
ท่านอธิการบดี เอ่ยแนะนำอาจารย์คนใหม่ ให้อาจารย์และคณบดีของมหาวิทยาลัยรู้จัก ลินินถูกพามารู้จักกับอาจารย์แต่ละท่าน จนมาถึงอาจารย์หนุ่มคนหนึ่งของมหาวิทยาลัย ลินินถึงกับนิ่งงัน
“นี่คืออาจารย์ปรัชญ์ รัศมีปกรณ์ อาจารย์ครับนี่คือด็อกเตอร์ลินิน ผู้ช่วยอธิการบดีคนใหม่ครับ”
ปรัชญ์ในวันนี้แตกต่างจากห้าปีก่อน เขามีตำแหน่งเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย รูปลักษณ์ท่าทางดูทรงภูมิ ไม่เหมือนปรัชญ์ลูกแม่ค้าขายขนม ชายหนุ่มมองหน้าด็อกเตอร์สาวอาจารย์คนใหม่ของมหาวิทยาลัยด้วยแววตานิ่งสงบ ราวกับทั้งสองไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
“ไม่รู้มาก่อนว่านายสอนที่นี่”
ลินินทักทาย แต่สายตาของเธอมองเมินใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่าย ข่มกลั้นไม่ให้เขารู้ว่า หัวใจของเธอเต้นแรงแค่ไหน ซ่อนความรู้สึกไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่ง เชิดหยิ่ง มือกำไว้แน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ เตือนตัวเองไม่ให้แสดงอาการอะไรออกมา
“ถ้ารู้ จะไม่มารับตำแหน่งที่นี่หรือครับ ด็อกเตอร์ลินิน”
ปรัชญ์เน้นเสียงเรียกชื่อพร้อมวุฒิฐานะของเธอ ชายหนุ่มแทบอยากจะลาออกเมื่อรู้ว่า ผู้ช่วยอธิการบดีคนใหม่ของมหาวิทยาลัยที่เขาสอนอยู่เป็นใคร ลินินในวันนี้กับห้าปีก่อน มีรูปลักษณ์ไม่แตกต่างกัน แต่ที่ยังคงเหมือนเดิมคือสายตาที่มองเขา มันมีรอยดูแคลนเหยียดหยามไม่เคยจาง ตามตำแหน่งงานเขาต้องเป็นลูกน้องของเธอ มันเป็นเรื่องแย่ที่สุดในชีวิตของเขา หากต้องอยู่ใต้คำสั่งของผู้หญิงคนนี้ ชายหนุ่มคิดอย่างหงุดหงิด
“ทำไมฉันต้องทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นด้วย”
ลินินเชิดหน้าใส่ ทั้งที่อยากลาออกเหมือนกัน แต่ทำไมเธอต้องทำแบบนั้นด้วย เมื่อตอนนี้ตามตำแหน่งแล้วเธอเหนือกว่าเขาทุกประการ เธอต้องทำให้ไอ้หมาตลาดตัวนี้ ยอมรับให้ได้ว่าเธอกับเขามันคนละระดับกัน
ปรัชญ์รู้สึกหงุดหงิดทั้งวัน เขาต้องอดทนให้ตัวเองสอนนักศึกษาจนหมดคาบ ก่อนจะขับรถไปรับหลานชายที่โรงเรียนอนุบาล รับร่างป้อมของเด็กมิ่งกมล แรซฟอร์ด หรือพี่ไม้ ลูกชายของมัสลินพากลับมาส่งที่บ้าน ระหว่างทางก็อดคิดถึงด็อกเตอร์สาวจอมยโสอย่างลินินไม่ได้ ในอดีตเมื่อห้าปีก่อนนางแพรพรรณและนายสมเกียรติ หลอกลวงมัสลินให้ไปแต่งงานกับลูกชายของเจ้าสัวโภคินแทนลินิน มัสลินต้องรับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ถูกโจรลักพาตัวไปและโดนข่มเหงจนตั้งท้อง อีกทั้งยังต้องสูญเสียคุณยายฝ้ายคำ มรดกถูกแพรพรรณใช้อุบายหลอกให้คุณยายฝ้ายคำเปลี่ยนพินัยกรรม จนโกงเอาทุกสิ่งไปจนหมด อีกทั้งยังขับไล่มัสลินออกจากบ้าน ขายตลาดทรัพย์เจริญที่พึ่งของชาวบ้านรวมทั้งตึกแถวที่เขากับมารดาเช่าเปิดร้านขนม แล้วขนเงินย้ายไปอยู่ต่างแดน ในยามนั้นทุกคนต่างเดือดร้อนไร้ที่ทำกินโดยไม่รับการชดเชย เขาต้องพามัสลินกับมารดา มาอยู่ที่เชียงใหม่เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ ในขณะที่ลินินกับครอบครัวพากันใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน
“ด็อกเตอร์ลินิน ตระการแสง หึ จบสูงถึงด็อกเตอร์ แต่นิสัยของเธอ มันยังไม่เคยเปลี่ยน ยายผ้าป่านจอมหยิ่ง”
ในอดีตเขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเธอมาตลอด ผู้หญิงคนนี้เหยียดหยามเขา เรียกจิกเขาว่า ‘หมาตลาด’ คงเพราะเขาอาศัยอยู่กับมารดาที่ตึกแถวในตลาด แต่เธออยู่คฤหาสน์หลังใหญ่ จึงเหยียบเขาให้ต่ำลงด้วยฐานะทางการเงิน ตอนนี้เธอมีดีกรีเป็น
ด็อกเตอร์ ตำแหน่งผู้ช่วยอธิการบดีของมหาวิทยาลัย ฟ้าช่างเล่นตลกกับเขา พาผู้หญิงที่เขาเกลียดขี้หน้าคนนี้มาอยู่ในวงจรชีวิตของเขาจนได้
“ลุงปอนด์ พี่ไม้จะไปหาแม่จ๋า” เสียงเล็กของหลานชาย เรียกคนเป็นลุงให้หลุดจากภวังค์ความคิด
“วันนี้พี่ไม้เลิกเรียนเร็ว แม่เรายังไม่เลิกงาน ลุงจะพาไปส่งบ้านก่อนนะ” เขายื่นมือมาลูบศีรษะเล็กของหลานชาย ผ่อนคลายความตึงเครียดจากหัวใจ
“พี่ไม้อยากไปรับแม่จ๋า” เด็กชายทำหน้ามุ่ย
“เดี๋ยวเย็นๆ แม่จ๋าก็กลับ ไปหาขนมกินแล้วนอนรอแม่จ๋าที่บ้านก่อนนะ ส่งพี่ไม้เสร็จลุงต้องกลับมาทำงานต่อ”
ปรัชญ์ยังมีคาบสอนอีกหนึ่งคาบ และต้องประชุมช่วงเย็น จึงต้องกลับมาที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง เขาจึงไปส่งหลานชายก่อนจะกลับมาทำงานต่อ
“แม่ครับ ผมต้องไปทำงานต่อ เดี๋ยวตอนเย็นจะแวะไปรับมัสที่ทำงาน ฝากดูพี่ไม้ด้วยนะครับ”
ชายหนุ่มเอาหลานชายมาส่งที่บ้าน เปรมใจย้ายมาอยู่เชียงใหม่ ก็เปิดหน้าบ้านตกแต่งทำเป็นร้านกาแฟและเบเกอรี่ ชื่อร้านต้นไม้ คอฟฟี่แอนด์เบเกอรี่ ภายในร้านตกแต่งไว้อย่างน่ารักตามสไตล์วินเทจ มีโต๊ะให้นั่งดื่มกาแฟและขนม เปรมใจเปิดหน้าบ้านของตัวเองทำเป็นร้านกาแฟพร้อมกับทำขนมขายนักท่องเที่ยวที่ผ่านทาง ที่นี่มีจุดขายที่การตกแต่งและบรรยากาศ รวมถึงรสชาติของขนมและกาแฟทำให้มีคนแวะเวียนมาไม่ขาดสาย ตามคำแนะนำปากต่อปากผ่านทางโลกโซเชียล ร้านต้นไม้คอฟฟี่แอนด์เบเกอรี่ จึงเป็นหนึ่งจุดให้นักท่องเที่ยวได้แวะก่อนขึ้นไปบนดอย
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวแม่ดูแลหลานให้ ช่วงนี้นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะ ไม่ยุ่งเท่าไหร่”
เปรมใจมารับหลานเข้าบ้านไป ปรัชญ์ขับรถกลับมาทำงานต่อ ช่วงใกล้เลิกงานมารดาโทรเข้ามาหา พร้อมกับบอกข่าวร้ายว่า หลานชายหายตัวไปจากบ้าน เขาต้องฝากอาจารย์คนอื่นช่วยสอนต่อ รีบกลับมาบ้าน และพบว่าเจ้าตัวน้อยถูกคนช่วยพามาส่งที่บ้านแล้ว
“พี่ไม้แอบขี่จักรยานไปหาแม่ที่รีสอร์ต โชคดีที่มีคนช่วยพามาส่ง มัสเพิ่งกลับขึ้นไปทำงานต่อเมื่อกี้”
เปรมใจบอกลูกชาย ขณะทำตาดุใส่หลานชายตัวแสบ ที่สร้างเรื่องยุ่งจนทุกคนวุ่นวายไปหมด
“ก็พี่ไม้อยากไปหาแม่จ๋านี่ ลุงปอนด์ กับยายเปรมไม่พาไป พี่ไม้เลยไปเองจิ” เด็กชายให้เหตุผลตามประสาแก
“ทำแบบนี้ไม่ได้นะพี่ไม้ ถ้าทำอีกลุงจะลงโทษ และไม่พาพี่ไม้ไปรับแม่จ๋าอีก เข้าใจไหม”
ปรัชญ์อบรมเจ้าตัวเล็ก เขารู้ข่าวรีบกลับมาด้วยความเป็นห่วง หัวใจร้อนรนกลัวว่าหลานจะเป็นอันตรายหรือถูกคนลักพาตัวไป
“คับ พี่ไม้ไม่ทำอีกแล้วคับ”
เด็กชายเข้ามากอดผู้เป็นลุง ใช้ลูกอ้อนให้ลุงใจอ่อน แน่ล่ะ มีหรือปรัชญ์จะไม่ใจอ่อน เขาขยี้หัวทุยสวยกอดร่างเล็กแนบอก หัวใจผ่อนคลายความตึงเครียดลง
เขารุนหลังหญิงสาวให้เข้าไปในห้องน้ำ หยิบผ้าเช็ดตัวโยนให้ผืนหนึ่ง แล้วปิดประตูปล่อยเธอไว้ข้างใน ก่อนจะเดินไปหยิบยาแก้ปวดพร้อมกับน้ำมาวางไว้บนโต๊ะ นั่งอยู่ขอบเตียงฟังเสียงน้ำไหล แล้วรู้สึกหงุดหงิดเมื่อหญิงสาวอาบน้ำนานไม่ยอมออกมาสักที เขาลุกขึ้นถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป ก่อนจะยืนตะลึงภาพตรงหน้าคือ ร่างเปลือยเปล่าขาวผุดผ่อง ยืนอยู่ใต้สายน้ำอุ่น ละอองไอน้ำฟุ้งเต็มห้องน้ำ แต่ไม่อาบปิดบังร่างงดงามราวกับเทพธิดานั้นจากสายตาคนมองได้ ปรัชญ์เดินเข้าหาราวกับต้องมนตร์ เขาสลัดเสื้อผ้าตัวเองทิ้งไปตามทาง เหลือเพียงตัวเปล่า ตรงเข้าไปรวบกอดร่างนุ่มเนียนของลินินเอาไว้ หญิงสาวลืมตาขึ้นมองด้วยความตกใจ“นายปอนด์ เข้ามาทำไม อ๊ะ”เธอยกมือขึ้นปิดทรวงอกอวบงาม แต่ถูกเขาดันไปติดผนังห้องน้ำ ชายหนุ่มยื่นมือไปปิดน้ำ แล้วทาบตัวแนบชิดร่างงาม ตรึงเธอไว้ไม่ให้ดิ้นหนี ก่อนจะก้มลงไปจูบริมฝีปากอิ่มอย่างหื่นกระหาย“อื้อ... อย่านะ”ลินินครางประท้วง แต่คนตัวโตกว่าไม่ยอมปล่อย บดเคล้าริมฝีปากเธอหนักหน่วง มือลูบไปตามเรือนร่างงามผุดผ่อง ปลุกเร้าให้เธอวาบหวามขึ้นมา เขาจูบเธอจนหัวหมุนไปหมด ริมฝีปากครอบครองริมฝีปากอิ่ม ดูดแรงทั้งบนแ
“เจ็บเหรอ... อืม ขอโทษนะ ที่ฉันมันใหญ่ไปหน่อย หึ หึ”แทนที่เขาจะเห็นใจ กลับอวดอ้างสรรพคุณตัวเองได้น่าตบ ลินินอยากตบคนปากดีจนตัวสั่น แต่สังขารไม่อำนวยให้ทำตามใจนึก“นายมียาแก้อักเสบ แก้ปวดอะไรไหม ฉันต้องกินยา” เธอข่มใจถามออกไป“มียาพารา แต่เธอต้องกินข้าวก่อน ถึงจะกินยาได้ มาฉันจะช่วยใส่เสื้อผ้าให้”“ไม่นะ อย่านะ ตาบ้า!”เขาดึงผ้าห่มออก แต่ลินินยื้อไว้ไม่ยอมให้เขาช่วย ปรัชญ์นิ่วหน้ารำคาญ“อายอะไร คิดว่าหุ่นผอมแห้งเหมือนกุ้งเสียบ จะเร้าอารมณ์ฉันรึไง!”เขาตวาดเสียงดัง ลินินสะดุ้งโหยง ห่อไหล่ด้วยความกลัว เธอเจอพายุร้ายจากเขามาแล้ว รู้ดีว่ายามโมโหผู้ชายคนนี้ ร้ายได้แค่ไหน จำต้องฝืนข่มความอายยอมให้เขาช่วยแต่งตัว“เดินไหวไหม หรือต้องให้ฉันอุ้ม”“ไหว นายเดินนำไปสิ”ลินินค่อยๆ เดินกระย่องกระแย่งตามหลังปรัชญ์ไป ภายในกายสาวร้าวระบมไปหมด ยังดีที่กางเกงหลวมไม่ทำให้เสียดสีจนเจ็บตัวหนักกว่าเดิม เธอตามเขามาจนถึงห้องครัว บนโต๊ะอาหารวางเรียงส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย“มานั่งนี่สิ”ปรัชญ์จับแขนพาลินินมานั่งที่เก้าอี้ เลื่อนจานใส่ข้าวให้เธอ แล้วเดินอ้อมไปนั่งอีกฝั่ง ตักแกงจืดใส่ถ้วยแบ่งมาวางให้ ตักไข่เจียวเป็น
“ยายผ้าป่าน... ถ้าเธอกับแม่อยู่ในที่ของเธอ ไม่มาวุ่นวายกับฉัน ไม่ทำร้ายมัสซ้ำอีก วันนี้ฉันคงไม่ทำร้ายเธอแบบนี้หรอก”ชายหนุ่มรำพึง เขาถอนหายใจแรง การทำร้ายผู้หญิงไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดทำมาก่อน แต่เพราะนางแพรพรรณกับลินินทำร้ายคนที่เขารักอย่างมัสลิน หากเขาไม่ตอบโต้คืนสองแม่ลูกก็คงได้ใจ ครั้งนี้เขาหาทางเล่นงานแพรพรรณโดยหวังให้กริชเป็นคนช่วยลงมือ ส่วนลูกสาวอย่างลินินเธอเองคือเครื่องมือในการทำให้นางแพรพรรณเจ็บใจ และเขาต้องการทำให้เธอสำนึกถึงสิ่งที่ทำกับมัสลิน และกำราบความอวดดีจองหองของด็อกเตอร์สาวให้ได้“แม่ครับ ผมขอโทษ ที่ผมเป็นคนดีอย่างที่แม่ต้องการไม่ได้”ปรัชญ์เอ่ยขอโทษมารดา เขาไม่ได้ทำตามที่ท่านสั่งสอน เขากลายเป็นคนเลวทำร้ายผู้หญิง เพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่เมื่อทำไปแล้วคงย้อนคืนไม่ได้ เขาต้องเดินหน้าต่อและมันอาจจะทำให้เขากลายเป็นคนเลวที่น่าชัง ชายหนุ่มปัดความรู้สึกแย่ๆ ออกจากหัว แล้วหันไปสนใจการทำอาหาร เขาไม่ได้กินอะไรตั้งแต่กลับมา และยายผ้าป่านเองก็คงหิวเหมือนกัน ปรัชญ์ลงมือเจียวไข่ ผัดผักและอุ่นแกงจืด จัดการตั้งโต๊ะไว้รอ ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง“ขี้เซาจริง นึกว่ากลับมาแล้วจะตื่
“บ้านฝั่งนั้นเป็นบ้านป้าแพรค่ะพี่ปอนด์” มัสลินในฐานะเจ้าถิ่นบอกพี่ชายคนใหม่“ลูกสาวของคุณยายน่ะหรือ”ปรัชญ์มองข้ามรั้วไม้เตี้ยๆ ไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่ฝั่งตรงข้าม บ้านหลังนั้นใหญ่โตราวกับวังในสายตาของเขา แล้วเขาก็เห็นเด็กสาวคนหนึ่งนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้ข้างตึกหลังนั้น“ใช่ค่ะ ป้าแพรเป็นพี่สาวของแม่ของมัสค่ะ นั่นพี่ป่านลูกสาวป้าแพร แก่กว่ามัสสองปีค่ะ พี่ป่านเรียนเก่งมากเลยนะคะ สอบเทียบข้ามชั้นจนตอนนี้เรียนมัธยมปลายแล้ว” มัสลินชื่นชมพี่สาวมาก“เก่งขนาดนั้นเชียว”ปรัชญ์มองเด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูผู้ดี เธอนั่งตัวตรงบนเก้าอี้อ่านตำราเล่มหนาในมืออย่างตั้งใจ ใบหน้ารูปไข่สวยผุดผ่องน่ารัก หัวใจคนมองเต้นไม่เป็นส่ำ นิ่งมองอยู่นานหวังให้เธหันกลับมามองเขาบ้าง“พี่ป่าน พี่ป่านขา!”มัสลินตะโกนเรียกพี่สาวเสียงแจ๋ว ทำให้ลินินเงยหน้าจากตำรา หันมามองเจ้าของเสียง สบสายตาที่กำลังจ้องมองของปรัชญ์พอดี เธอชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะทำคอแข็งเชิดหน้าขึ้นแล้วเดินมาหาน้องสาว“ตะโกนเสียงดังอะไรกัน พี่กำลังอ่านหนังสือไม่เห็นหรือมัส”ลินินดุน้องสาว เธอไม่มองหน้าปรัชญ์สักนิด เหมือนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา ทำเอาคนที่ตั้ง
ฝนตกลงมาในช่วงบ่าย สายฝนยังคงหลั่งรินมาไม่ขาดสาย คนที่นอนอยู่บนเตียงยังคงก่ายเกยในสภาพอ่อนเพลียจากบทรักหลายต่อหลายรอบ ปรัชญ์เป็นคนที่ลืมตาตื่นขึ้นมาเป็นคนแรก เสียงฝนนอกหน้าต่างทำให้เขาเงยหน้าขึ้นจากหมอนหันไปดู ก่อนจะมองดูนาฬิกาบนฝาผนังห้อง เข็มสั้นชี้ไปที่เลขหนึ่ง เข็มยาวมาแตะที่เลขหก บ่ายคล้อยแล้ว นับตั้งแต่ลินินเข้ามาในห้องนี้ เธอนอนหลับตาพริ้มมองเห็นคราบน้ำตาเป็นรอยชื้นบนขนตางอนสวย ร่างขาวผ่องซุกตัวในอ้อมแขนแข็งแรงของปรัชญ์ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้างาม ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยไรผมทัดหูให้ สายตาจ้องมองคนที่นอนหลับด้วยแววตาอ่อนแสงลง ยามหลับยายผ้าป่านเหมือนเด็กเล็กๆ ไม่มีพิษสง ต่างกับยามตื่นเป็นคนละคน ปรัชญ์สำรวจเครื่องหน้าของหญิงสาวทีละส่วน คิ้วเรียวได้รูป จมูกโด่งเล็กบ่งบอกความดื้อรั้นชวนให้ปราบพยศ ริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อ ยามนี้บวมเจ่อขึ้นเล็กน้อย ปากล่างย้อยลงมาน่าจูบ จนคนมองอดใจไม่อยู่ ก้มลงไปจุมพิตคนนิทราอย่างดูดดื่ม เสียงครางอืออาในคอของเธอ ทำให้ปรัชญ์ถอนริมฝีปากออก แต่เจ้าของปากอิ่มน่าจูบกลับนอนหลับลึก ไม่ตื่นมาอย่างที่อยากให้ตื่น เธอขยับศีรษะซุกแนบอกกกว้างของเขาเหมือนเด็กน้อยฝนตกทำให้
ลินินส่ายหน้าไปมา พยายามจะขยับหนีแต่ก็หนีไม่พ้น กุหลาบสาวเจ็บแปลบเมื่อถูกบางสิ่งที่ใหญ่โต แทรกผ่านเข้ามาในกายสาว ความวาบหวามเลือนหายไปหมด มันคับแน่นจุกหน่วงจนต้องถดกายถอยหนี แต่เขาจับเอวคอดไว้แน่น ผลักดันตัวตนเข้ามาทำลายพรหมจรรย์สาวจนแหลกสลาย“อา... ยายผ้าป่าน เธอเป็นของฉัน อา...”ภายในกายสาวรัดรอบความกร้าวแกร่งแน่นหนึบ แรงตอดรัด ทำให้เขาต้องสูดปาก พยายามผลักดันตัวตนเข้าไป ไม่สนใจว่าเธอจะขัดขืน น้ำตาของเธอมันไม่ทำให้เขาใจอ่อน แต่ยิ่งสะใจที่เห็นผู้หญิงอวดดีตกอยู่ใต้อำนาจของเขา ด็อกเตอร์ลินิน ตระการแสง กลายเป็นเมียของไอ้หมาตลาดอย่างเขาแล้ว ยายแม่อย่างแพรพรรณรู้เข้าคงอกแตกตาย สิ่งที่สองแม่ลูกทำกับมัสลินร้ายกาจนัก เขาไม่ยอมให้ทั้งสองลอยนวลไปง่ายๆ เหมือนที่ผ่านมาเด็ดขาด ชายหนุ่มตาลุกวาบด้วยความเคียดแค้น ขยับกายโจนจ้วงเข้าทำลายความสาวของลินินอย่างไร้ความปราณี“กรี๊ดดดด อย่านะ...”ลินินกรีดร้องส่ายหน้าไปมา น้ำตาไหลอาบแก้ม เล็บจิกข่วนแผ่นหลังหนาของเขาด้วยความเจ็บปวด แต่เขาไม่สนใจยังคงกระหน่ำกายเข้าใส่อย่างหนักหน่วง“ยายผ้าป่าน อ๊า...”ชายหนุ่มจับต้นขาสวยแยกออกกว้าง สอดท่อนแขนใต้ข้อพับเข่า แล้