แม้จะพยายามหลบเลี่ยงไม่ข้องเกี่ยวกับปรัชญ์อีก แต่ลินินก็เลี่ยงไม่ได้เมื่อต้องไปเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยร่วมกับปรัชญ์ ในการอบรมสัมมนา เขาทำหน้ามึนเหมือนไม่เคยมีเรื่องกับเธอมาก่อน หญิงสาวต้องใช้ความอดทนมากในการทำหน้าที่ของตัวเอง จนการสัมมนาผ่านพ้นไป
ช่วงเย็นมีงานเลี้ยงต่อจนถึงช่วงดึก ลินินต้องเดินคู่กับ ปรัชญ์ไปคุยกับอาจารย์ของมหาวิทยาลัยอื่นที่มาร่วมสัมมนา ต้องฝืนปั้นหน้ายิ้มแย้มในฐานะตัวแทนของมหาวิทยาลัย ตรงข้ามกับปรัชญ์เขาดูอารมณ์ดีกว่าปกติ ชายหนุ่มพาลินินเดินไปทั่วงาน ดื่มเครื่องดื่มไปหลายแก้ว เริ่มมีอาการเมานิดๆ จนงานเลิกเขาก็เสียสภาพ
“นี่งานเลิกแล้ว นายกลับไปบ้านนายได้แล้ว”
ลินินไล่ปรัชญ์ที่ยังคงเดินตามเธอเหมือนเป็นเงามาจนถึงลานจอดรถ เธอเหนื่อยและเพลียที่ต้องฝืนปั้นหน้า อยากจะกลับไปพักเสียที ชุดที่สวมเป็นเสื้อคอเต่าทั้งร้อน ทั้งอึดอัด แต่ก็ไม่มีเสื้ออะไรปกปิดรอยจ้ำแดงบนลำคอของเธอได้เท่าเสื้อแบบนี้แล้ว แม้จะใช้ลงรองพื้นทาปกปิด แต่ลินินก็ไม่มั่นใจเกรงใครจะเห็นรอยนั้น เจ้าของรอยอัปยศยังคงป้วนเปี้ยนหน้ามึนอยู่ข้างๆ
“ฉันดื่มเยอะไปหน่อย สงสัยขับรถกลับไปไม่ไหว”
ปรัชญ์ทำเสียงอ้อแอ้แบบคนเมา ร่างสูงมีอาการเซนิดๆ จนต้องเอามือยันประตูรถไว้ ดวงตาเรียวยาวของเขายามนี้ดูวาวเยิ้มแทบจะลืมไม่ขึ้น
“ใครใช้ให้นายไปชนแก้วกับทุกคนเล่า อีตาบ้า!”
ลินินอยากเดินหนี แต่ก็ทำไม่ได้ แม้จะชังน้ำหน้าปรัชญ์นัก ทว่า... ในงานเลี้ยงเขาก็ช่วยรับแก้วเครื่องดื่มมาดื่มแทนเธอหลายครั้ง หากเป็นอาจารย์ระดับเดียวกันพอจะเลี่ยงได้ แต่ระดับผู้บริหารและอธิการบดียากจะปฏิเสธ หลายคนหลายแก้วเข้าก็เริ่มไม่ไหว ใกล้หมดสภาพอย่างที่เห็น
“ฉันช่วยดื่มแทนเธอนะ ยายผ้าป่าน”
ปรัชญ์ทวงบุญคุณ มองหญิงสาวตาเยิ้ม ริมฝีปากกระตุกยิ้มร้ายเมื่อสายตาจับจ้องเสื้อคอเต่าของเธอ อากาศร้อนจะตายยายผ้าป่านคงอึดอัดแย่ เหอะ แต่ก็สมน้ำหน้าอยากมายั่วโมโหเขาดีนัก
“โอเคๆ ฉันไม่อยากติดค้างบุญคุณใคร ฉันไปส่งนายก็ได้”
ลินินยกนาฬิกาขึ้นดูแล้วพบว่ามันดึกมากแล้ว ขืนต่อปากต่อคำกัน ไม่ได้กลับสักที เลยเปิดประตูรถชี้นิ้วให้ปรัชญ์เข้ามานั่งข้างๆ คนขับ ชายหนุ่มเดินขึ้นรถอย่างว่าง่าย พอเข้าไปนั่งเขาก็คอพับหลับตานิ่ง
“เมาเหมือนหมาเลย”
ลินินเข้ามาประจำที่คนขับ แล้วชะโงกหน้าดูคนเมา ก่อนจะส่ายหน้าเมื่อเห็นเขาหมดสภาพไปแล้ว
“ไอ้หมาตลาด นึกว่าจะแน่ที่แท้ก็คออ่อนชะมัด”
อ้วก!
ว้าย !
ยังไม่ทันจะสตาร์ทรถ คนเมาก็ลืมตาขึ้นแล้วหันมาอาเจียนใส่ ของเก่าเหม็นบูดพุ่งเข้าใส่หญิงสาวจนเลอะไปทั้งตัว ลินินกรีดร้องด้วยความตกใจ ผลักเขาออกห่าง แล้วหยิบทิชชูมาเช็ดคราบสกปรก พออาเจียนเสร็จปรัชญ์เอียงตัวเอาศีรษะซบพนักเบาะหลับไปอีกหน
“กรี๊ด ไอ้หมาตลาด แกอ้วกใส่ฉัน”
ลินินเช็ดคราบสกปรกด้วยท่าทางรังเกียจ มองดูคนเมาแล้วอยากทุบให้ตายคามือ แต่เขานอนหลับตานิ่งไปแล้ว ทำอะไรไม่ได้ หญิงสาวลังเลว่าจะไล่เขาลง หรือว่าจะไปส่งทั้งที่ตัวเหม็นๆ แบบนี้ ก่อนจะตัดสินใจขับรถไปยังที่พักของตัวเอง เธอทนไม่ได้ที่จะต้องดมกลิ่นเหม็นบูดนี่ไปตลอดทาง
ลินินขับรถเข้าไปจอดหน้าทาวน์เฮาส์ แล้วลงไปเปิดประตูเข้าไปด้านใน ปล่อยให้คนเมานอนรออยู่ในรถ หญิงสาวเปิดไฟไว้แล้วจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าออก แต่กลิ่นเหม็นบูดจากคราบอาเจียนยังติดตัว ทำใจใส่ชุดใหม่ไม่ได้เลยเข้าไปในห้องน้ำ รีบเปิดฝักบัวจัดการอาบน้ำใหม่ ปรัชญ์เมาอยู่คงรอได้
“ไอ้หมาตลาดบ้า เพราะนายคนเดียวทำให้ฉันต้องเลอะเทอะ”
ลินินอาบน้ำเสร็จก็ใช้ผ้าขนหนูพันร่างออกมาจากห้องน้ำ หยิบเสื้อผ้าสกปรกตั้งใจจะเอาไปหย่อนใส่เครื่องซักผ้าไว้ แต่ต้องตกใจเมื่อเห็นคนที่คิดว่าเมาหลับ นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงนอนในห้องของเธอ
“นายปอนด์ นายเข้ามาได้ยังไง”
“ประตูไม่ได้ล็อกก็เดินเข้ามาสิ อืม ไม่คิดว่าจะได้ดูจ้ำบ๊ะยามดึก”
ใบหน้าหล่อเหลาของเขาไม่มีอาการเหมือนคนเมาสักนิด ดวงตาคมวาวเป็นประกายกล้า เขามองกราดไปทั่วร่างขาวผ่องของเธอ แล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ไอ้บ้า ออกไปนะ !”
ลินินตวาดไล่ เอามือปิดหน้าอกตัวเอง นึกโมโหที่เลินเล่อไม่สวมชุดคลุมออกมา
“อะไรกัน อุตส่าห์หิ้วฉันกลับมาทั้งที มาไล่กันแบบนี้ได้ยังไง”
เขาไม่มีท่าทางสนใจสักนิด เอนกายนอนกางแขนสบายใจ เจ้าของห้องเป็นฝ่ายทนไม่ไหว ลืมตัวเข้าไปกระชากแขนชายหนุ่มให้ลุกขึ้น
“ไปเลยนะ ไปให้พ้น!”
“ลงทุนมายั่วใกล้ๆ เลยเหรอแม่คุณ”
ปรัชญ์ทำตัวแข็งไม่ยอมลุก ตาจ้องร่องอกของหญิงสาวตาวาว ลินินตกใจรีบปล่อยมือเอามาปิดหน้าอก แต่เขาไม่ปล่อยให้เธอลุกหนี กระชากแขนเธอดึงแรงจนล้มมาบนตัว
“ว้าย ! ปล่อยนะไอ้บ้า”
ลินินกรีดร้องตะเกียกตะกายจะลุก แต่กลับทำปมผ้าหลุด คว้าตะปบไว้แทบไม่ทัน
“ยั่วแรงนะ จัดให้สักหน่อยก็แล้วกัน”
“ปอนด์ .. อ๊ะ ปอนด์ขา...”ลินินร้องครางเสียงพร่า ส่ายหน้าไปมาด้วยความรัญจวน ร่างกายของเธอถูกเขาบงการให้มีสภาพคล้ายดินน้ำมัน ที่จัดแต่งได้ตามใจเขาต้องการ ไม่ว่าจะพลิกพลิ้ว หมุนซ้าย หมุนขวา หันหน้าหรือหันหลัง เธอก็เคลื่อนตัวตามความต้องการของเขาทั้งสิ้น ความสุขสันต์รัญจวนใจ ประทุขึ้นโอบคลุมร่างกาย จนแทบไม่เป็นตัวของตัวเองปรัชญ์เองก็มอบทุกความสุขให้ภรรยาอย่างเต็มความสามารถ เขางัดลีลาเด็ดๆ มาใช้กับเธอ ในน้ำอาจจะทำให้เขาใช้ความรุนแรงไม่เต็มที่ แต่ก็มีความหฤหรรษ์ในทางอื่นชดเชยกัน พอร่างงามเกร็งกระตุก ภายในกายสาวรัดรึงเขาแน่น ชายหนุ่มก็สูดปากร้องครางออกมาแนบอกอวบแสนหวาน เร่งกระหน่ำโจนจ้วงเข้าหาเธอสุดแรง จนไปแตะขอบฟ้าด้วยกัน“อ๊าคคคค / กรี๊ดดดด”เสียงกรีดร้องด้วยความสุขสมของสองสามีภรรยาดังขึ้น พร้อมกับดวงอาทิตย์กลมโต หล่นจมลงไปใต้ขอบน้ำทะเล ความมืดโรยตัวเข้ามาปกคลุมทั่วบริเวณ“ขึ้นจากน้ำกันเถอะ มืดแล้ว”ลินินเอ่ยเสียงหอบ เอนหน้าซบบ่าหนาของสามีไว้ หลังจากเสร็จศึกในน้ำแล้ว“ไปต่อ ที่ห้องกันนะ”ฉลามหนุ่มยังกินนางเงือกไม่อิ่ม อยากจะกินร่างงามๆ นี่ให้สมอยากอีกสักสองสามรอบ“ฉันหนาว แล้วก็หิวข้าวด้ว
“น้ำเย็นสบายจัง”ลินินเอ่ยขึ้น เรียกความสนใจจากสามีให้มองหน้าเธอ หญิงสาวยิ้มหวานยกมือมาเกาะบ่าหนาของเขา ขยับตัวไปแนบชิด จนทรวงอวบงามแตะแนบกับแผงอกของเขา ลอบยิ้มเมื่อเห็นเขาสูดลมหายใจแรงๆ ดูเหมือนความเย็นของน้ำไม่ได้ทำให้อารมณ์ร้อนแรงในตัวเขาเย็นลงแม้แต่น้อย ตัวเธอเองก็ร้อนผ่าวไปกับสายตาเสน่หาของเขาเช่นกัน“อืม... เย็น อ่า... เย็นดีนะ”ปากพูดแต่มือของปรัชญ์เริ่มเลื้อยไปลูบบั้นท้ายของหญิงสาว เขาขยำสะโพกตึงแน่นของเธออย่างมันเขี้ยว กดให้แนบกับน้องชายของเขาที่เริ่มแข็งขึงขึ้นมา ลินินเหมือนจงใจยั่วเขาซ้ำด้วยการส่ายสะโพกไปมา ให้เนินนุ่มเสียดสีกัน เพิ่มแรงประทุในอารมณ์หนุ่มให้ร้อนแรงขึ้นเหมือนภูเขาไฟจวนระเบิด“ปอนด์ขา...”ลินินครางเรียกชื่อเขาเสียงหวานหยด เลื่อนมือมาลูบแผงอกของเขาไปมา ขณะเงยหน้าขึ้นแตะริมฝีปากบนลูกคางของเขาแผ่วๆ ริมฝีปากไต่ขึ้นมาจุมพิตริมฝีปากของเขา พอเขาจะจูบตอบเธอกลับผละออกห่าง แล้วว่ายน้ำหนีปล่อยให้เขาค้างคา จนต้องว่ายน้ำไล่จับแม่เงือกสาวจอมยั่ว แต่ลินินก็ว่ายน้ำเก่งจนคนตามจับต้องออกแรงอยู่นาน“อย่าหนีนะป่าน”“แน่จริง ก็จับฉันให้ได้สิคะปอนด์”ลินินสนุกกับการว่ายน้ำหนีสามีจ
“เล่นน้ำกันไหม แดดไม่แรงเท่าไหร่” ปรัชญ์เอ่ยชวน“ต้องทากันแดดก่อน” ลินินชูขวดครีมกันแดดให้เขาดู“ผลัดกันทาดีไหม เธอทาให้ฉันก่อนสิ เดี๋ยวฉันทาให้เธอบ้าง”ปรัชญ์หันหลังให้เธอช่วยทาครีม ลินินเปิดฝาขวดเทครีมบนฝ่ามือ ชโลมบนหลังให้เขานวดเบาจนครีมเข้าใต้ผิว แล้วจับไหล่ให้เขาหมุนตัวมาด้านหน้าทาครีมในส่วนที่เหลือ มือเรียวสวยลูบเบาๆ บนแผงอกหนาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อลอนสวย แก้มแดงระเรื่อไม่กล้าสบตาแวววาวของสามี ผิวของปรัชญ์เนียนลื่นขาวสะอาด ไม่แพ้ผิวของผู้หญิง สายตาคนทามองไปตามฝ่ามือแล้วเผลออมยิ้มเมื่อเห็นจุกนมสีชมพูของเขา มือเลื่อนลูบไปมาบนรอบป้านนมสีสวยนั้นนานเป็นพิเศษ ก่อนจะเลื่อนลงมาตามหน้าท้อง บรรจงทาครีมบนลอนกล้ามเนื้อทั้งหกลอน“อา... ป่านจ๋า นี่เธอทาครีมหรือว่าปลุกอารมณ์ผัวกันแน่”เสียงครางแผ่วพร่าดังใกล้หู ลมหายใจอุ่นๆ รินรดแก้มนวล เมื่อเจ้าของซิกแพกโน้มหน้ามาแตะปลายจมูกบนแก้มหอมๆ ของคนทา“ก็ทาครีมไง” ลินินเงยหน้าขึ้นสบสายตาวาววามของสามี แก้มร้อนผ่าวขึ้นมากับปลายจมูกที่กำลังปัดป่ายบนแก้มเธอ“ทาแค่นี้พอแล้ว ขืนทาอีก ฉันว่าเราคงไม่ได้ลงเล่นน้ำกันแล้ว”ปรัชญ์จับมือเธอไว้ไม่ให้ขยับลูบโลมเขาต่อ
“เหลือเราสองคนแล้วนะ”ปรัชญ์หันมาบอกลินิน หญิงสาวยิ้มสบตาเขาอย่างไม่กลัวเกรง เอ่ยว่า“อยู่กันสองคนแล้ว ทำอะไรกันดีคะ”“ทำอะไรเหรอ”ปรัชญ์ทำตาวาวๆ มองไปทั่วร่างงามของภรรยาสาว ทำเอาคนถูกมองแก้มร้อนผ่าว“ก็เล่นน้ำทะเลกันสองคนน่ะสิ เธอไปจัดเสื้อผ้านะ เดี๋ยวฉันตามไป”“รีบตามมาเร็วๆ นะ”ลินินบอก ก่อนจะเดินตัวปลิวเข้าไปในห้อง หญิงสาวจัดการรื้อเสื้อผ้าออกจากกระเป๋ามาแขวนในตู้เสื้อผ้า จัดของเขาเสร็จก็จัดของตัวเองบ้าง ก่อนจะอมยิ้มเมื่อหยิบชุดว่ายน้ำสีฟ้าออกมา ชุดนี้มัสลินให้มาเป็นของขวัญ และยังมีอีกสองชุดสีดำกับสีชมพู“พี่ป่าน ต้องหัดทำตัวเซ็กซี่เอาใจสามีบ้าง ยิ่งมีลูกแล้วเรายิ่งต้องสวยกว่าเดิม ให้สามีเราไปไหนไม่รอด” คำแนะนำของน้องสาวมาพร้อมชุดว่ายน้ำสามชุด และชุดนอนโปร่งบางอีกสองชุด แถมยังมีน้ำหอมและเครื่องสำอางอีกชุดใหญ่ เรียกว่าการมาฮันนีมูนครั้งนี้ เตรียมตัวมาอย่างดีเพื่อกระชากใจสามีอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน“เมื่อคืนก็แทบแย่ ถ้าใส่ชุดนี้ จะรอดไหมเรา”ลินินมองชุดแล้วชั่งใจ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ สวมชุดนั้นไว้ข้างใน แล้วสวมชุดกระโปรงยาวกรุยกรายทับไว้ด้านนอก พอออกมาพบว่าปรัชญ์นั่งรออยู่บนเตี
หลังจากงานแต่งงาน ปรัชญ์ก็พาลินินไปฮันนีมูนกันสองคน เปรมใจรับอาสาเลี้ยงหลานให้คู่แต่งงานได้ใช้ช่วงเวลาแสนหวานร่วมกัน กริชกับมัสลินให้ของขวัญพี่ชายกับพี่สาว เป็นทริปฮันนีมูนบนเกาะส่วนตัว กริชลงทุนให้ยืมเรือยอร์ชของเขาและแถมใจดีให้ทั้งสองไปพักผ่อนที่บ้านพักบนเกาะส่วนตัวตอนแรกปรัชญ์กับลินินไม่อยากไปเพราะห่วงสองแฝด แต่กริชกับมัสลินช่วยกันเกลี้ยกล่อมบวกกับเปรมใจรับอาสาดูแลหลานให้ ทั้งสองผ่านช่วงเวลาแสนตึงเครียดและทุกข์ใจอย่างหนัก ในตอนที่ลินินตั้งท้องมาแล้ว ควรจะได้มีช่วงเวลาดีๆ ในความทรงจำบ้าง“ไม่รู้ตอนนี้ลูกจะเป็นยังไงบ้างนะ” ลินินบ่นถึงลูกทั้งสอง“โธ่... พูดแบบนี้ ฉันอยากแบกกระเป๋าพาเธอกลับบ้านเลยนะ ยิ่งคิดถึงตาหนูกับยายหนูอยู่”คนเป็นพ่อเอ่ยขึ้น มีความคิดถึงลูกแฝดจนอยากล้มทริปฮันนีมูนเลยทีเดียว ติดตรงเขากับลินินอยู่บนเรือกลางทะเล และเรือใกล้ถึงเกาะส่วนตัวแล้ว กว่าจะทำใจจากลูกน้อยมาได้น้ำตาแทบหยด ตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาไม่เคยห่างลูกทั้งสองสักหน เฝ้าเลี้ยงดูประคบประหงม จนเจ้าตัวน้อยเติบโตแข็งแรง มีพัฒนาการทั้งร่างกายและสติปัญญาเท่าเด็กวันเดียวกัน เหนื่อยแสนเหนื่อย แต่ก็มีความสุขมาก ยา
“ป่านจ๋า เหนื่อยไหมคนดี”ปรัชญ์มายืนดูภรรยาปลดเครื่องประดับ และกิ๊บติดผมหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เขาช่วยเธอดึงกิ๊บออก วันนี้ลินินสวยมาก สวยจนเขาใจสั่นไปหมด อยากเร่งให้ถึงเวลาเข้าหอไวๆ โชคดีที่เขาเลือกจัดงานแบบเรียบง่าย ไม่มีพิธีการยุ่งยากหรือแขกมากมายต้องรับรอง นอกจากมีเพื่อนฝูงและญาติมิตรมาร่วมงาน“นิดหน่อยค่ะ นายเมื่อยไหม ไหวหรือเปล่าเห็นดื่มไปหลายแก้ว” ลินินหันมาถาม“แค่จิบๆ เอง ฉันคอแข็งจะตาย แค่นี้ไม่ทำให้เมาหรอก ขืนเมาในวันเข้าหอก็เสียดายแย่สิ”เขาพูดไปทำตาวาวจ้องมองเนินไหล่และร่องอกของเธอไป มือลูบไล้ไปบนผิวนุ่มเนียน ขณะแตะปลายนิ้วบนซิปรูดลงช้าๆ ปากก็แตะบนหัวไหล่มนของเธอ จูบไล่ไปตามซอกคอขาวผ่อง อย่างหลงใหล“อื้อ... ยังไม่ได้อาบน้ำเลย เหม็นเหงื่อจะแย่”ลินินบ่ายเบี่ยง ใจเต้นแรงกับการจู่โจมของเขา รู้ดีว่าเจ้าบ่าวของเธอหื่นหนักแค่ไหน ตาวาวของเขา ราวกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว“เดี๋ยวค่อยอาบ”เจ้าบ่าวไม่สนใจเรื่องอาบน้ำ ตอนนี้เขาร้อนไปทั้งตัว อยากเชยชมเจ้าสาวแทบขาดใจแล้ว รีบช้อนอุ้มเจ้าสาวพาไปยังเตียง เขาวางเธอลงบนที่นอน แล้วลงมือช่วยถอดชุดเจ้าสาวให้ ด้วยวิธีแสนวาบหวาม ริมฝีปากแตะจุมพิตไปบน