Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2025-02-27 02:07:56

หลังจากที่หญิงสาวจัดการเอาของลงจากรถเรียบร้อย จึงเดินเข้ามาหาย่าดาหลาที่กำลังนั่งคุยอยู่กับป้าอนงค์กันอย่างออกรส โดยมีแก้วน้ำอยู่หนึ่งแก้วตรงหน้าของดาหลา

“ผู้หญิงคนนั้นใครกันว่ะ ทำไมสวยออะไรแบบนี้” มะเฟืองบ่นกับตัวเองเบา ๆ หลังจากที่รินน้ำไปเสริฟ์ให้กับดาหลาก่อนที่จะมาทำหน้าที่ของตัวเองที่ยังค้างอยู่

“ใครกันนะ หน้าคุ้น ๆ แต่นึกไม่ออกนี่สิ” ยังคงนึกไม่ออกมือของเด็กสาวก็ขยี้ผ้าเช็ดมือที่เปื้อนแรง ๆ ตรงอ่างล้างจาน เสียงบ่นที่ว่าแผ่วเบามันทำให้คนที่เดินตามหลังเข้าครัวตามมาได้ยินพอดี

“จำพี่ไม่ได้จริง ๆ เหรอมะเฟือง” น้ำเสียงหวานของคนที่เข้ามาใหม่ดังจากด้านหลังทำเอามะเฟืองที่กำลังยืนคิดอะไรเพลิน ๆ ปกอรกับถกเดถียงกับตัวเองอยู่เมื่อครู้ต้องหันหลังกลับมามองใบหน้าสวย ๆ รูปร่างสูงเพรียวของคนตรงหน้าเพ่งมองอย่างชัด ๆ

“พี่…เอ่อพี่อะไรนะหนูนึกชื่อพี่ไม่ออก แต่ว่าหน้าพี่คุ้นมากเลย” เด็กสาวบอกไปตามตรงเพราะใบหน้าที่เคยเห็นมันเหมือนเคยเจอเมื่อนานมาแล้ว

“พี่ลินเอง เราเคยเจอกันแล้วนี่”

เธอเอ่ยชี้แจงเพื่อที่จะไม่ให้เด็กสาวงวยงงไปมากกว่านี้ ทันทีที่บอกชื่อกับคนตรงหน้าไปทำเอามะเฟืองถึงกับร้องอ๋อในทันที ไม่คิดว่าพี่คนสวยตรงหน้าจะเป็นพี่สาวคนที่เคยอวบอ้วนเมื่อหลายปีก่อนที่พบกันในครั้งนั้น และก็ไม่ค่อยได้มาอีกเลย 

“พี่ลินเหรอ สวยมากเลยค่ะ”

แววตาของเด็กสาวตะลึงไม่น้อยที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับล้างมือให้สะอาดแล้วเดินเข้ามาหานันท์นลินอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งจับตัวของหญิงสาวหมึนไปหมุนมาเพื่อดูว่าใช้ผู้หญิงเมื่อหลายปีก่อนหรือไม่

“พี่ลินสวยมากเลยค่ะ”

“คนเรามันก็ต้องมีกันบ้าง ที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาน่ะ แต่ต้องเปลี่ยนไปและพัฒนาไปในทางที่ดีด้วยนะ” คนตัวเล็กตอบยิ้ม ๆ ก่อนกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ไอซ์แลนด์ที่อยู่กลางห้องครัว มีทั้งผักสดเนื้อสัตว์ ของสด ของแห้งมากมายวางเต็มไปหมด

“แล้วนี่มีอะไรให้พี่ช่วยบ้างไหม”

“ไม่มีค่ะ แค่ล้างผักแล้วก็หันไว้รอป้านงค์มาปรุงอาหารกลางวันค่ะ”

นันท์นลินพยักหน้ารับก่อนที่จะเอ่ยประโยคต่อมา “งั้นพี่ช่วยมา” ว่าแล้วก็ถือวิสาสะเดินเข้าไปข้างใน โดยที่ไม่ฟังคำร้องห้ามของเด็กสาวเลย

“ไม่ต้องค่ะ พี่ลินเป็นแขกเพิ่งมาถึงไปนั่งพักดีกว่าของแค่นี้หนูทำเองได้ค่ะ”

“ในเมื่อเขาอยากช่วยก็ให้เขาทำไปสิ”

เสียงทุ้มที่ดังขึ้นอย่างไม่ชอบใจทำเอาสองสาวที่อยู่ภายในครัวหันหลังกลับไปมองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับมะเฟืองเป็นเสียงทีคุ้นหูเพราะเจ้าตัวได้ยินทุกวัน ทว่าผิดกับผู้ที่ย่างกายเข้ามาถึงที่ไร่นี้เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาย่อมแปลกใจอยู่แล้วว่าเสียงใคร

“นายกลับมาเร็วจังคะ”

ใช่ เจ้านายของเขากลับเร็วมากในวันนี้ หากเป็นวันอื่น ๆ บ่ายโมงเกือบบ่ายสองโมงโน่นถึงจะกลับเข้ามาที่บ้าน หรือว่าอาจเป็นเพราะวันนี้ที่ย่าของชายหนุ่มมาที่นี่จึงรีบกลับเร็ว

“คุณทิว”

เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวได้พบกับชายหนุ่มจัง ๆ และเต็มตาอีกครั้ง เธอยังคงจำเขาได้ดีไม่เคยลืมหายไปจากใจ ไม่ว่าวันไหนเธอก็คิดถึง ถึงแม้ว่าทยากรจะเกลียดเธอก็ตาม

“อยากช่วยมะเฟืองก็ทำซะสิ ยืนนิ่งอยู่ทำไม มันก็เป็นหน้าที่ของเธออยู่แล้วนี่”

ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานขนาดไหนเขายังคงเป็นเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นการกระทำหรือคำพูดแต่ละครั้งที่เคลือบด้วยคำที่กระแทกแดกดันเธออยู่เรื่อยมา

“ค่ะ มันเป็นหน้าที่ของลินอยู่แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม” คนตัวเล็กตอบด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงนุ่ม ๆ ในตามปกติของเธอโดยที่พยายามเก็บความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ ในตอนนี้มันตีกันไปหมดไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรดี

“ตาทิวนี่ว่าน้องอีกแล้ว”

“ผมพูดจริงนี่ครับคุณย่า มันเป็นหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว เป็นแม่บ้าน”

“ตาทิว!”ดาหลาเสียงดุเข้มโกรธขึ้นมาทันมี่ที่ได้ยินหลานชายพูดคำนั้นออกมา

“ไม่เป็นไรค่ะคุณย่า มันเป็นจริงอย่างที่คุณทิวพูดนั่นแหละค่ะ เรียกง่าย ๆ ก็คนรับใช้นั่นแหละค่ะ” เธอบอกพยายามข่มน้ำเสียงของตัวเองไม่ให้สั่นไหวตามจังหวะการพูด

“มานี่เลย” ว่าแล้วดาหลาก็คว้าหมับเข้ากับหูของทยากรและเดินออกไปท่ามกลางเสียดวยวายของผู้เป็นหลาน ทิ้งให้คนที่อยู่ในครัวยืนมองอย่างงุ่นงง

“คุณลินอยากช่วยงานครัวใช่ไหมคะ”

เธอก้มหน้าก้มตามองผักต่าง ๆ ที่วางอยู่ตรงหน้า ก่อนจะหายใจเข้าลึก ๆ ตอบกลับป้าอนงค์ที่ถามเมื่อครู่ “ค่ะป้าอนงค์ แต่ลินทำอาหารไม่เป็นนะคะ ถ้าหันผัดเตรียมของพอทำได้ค่ะ”

เธอตอบไปตามความจริงความสามารถการเป็นแม้บ้านแม่เรือนเธอมีน้อยมาก แต่ทุกอย่างมันขึ้นกับการเรียนรู้และฝึกฝนในแต่ละวัน

“งั้นช่วยนังเฟืองหั่นผักดีกว่าค่ะ วันนี้ป้าจะทำแกงจืดกับผัดผักเมนูง่าย ๆ คุณท่านชอบทาน”

“ได้ค่ะ เดี๋ยวลินช่วย”

เธอรับคำเรียบร้อยก็ลงมือช่วยมะเฟืองหั่นผักและของสดที่อยู่ตรงหน้าพร้อมทั้งคอยสังเกตุดูวิธีการทำอาหารจากป้าอนงค์ด้วย เผื่อจะได้เอาไว้ลองทำรับประทานเองบ้าง

“ง่ายไหมคะเมนูพวกนี้”

“มันก็ยากนิดหน่อยสำหรับคนที่ไม่ค่อยทำอาหารนะคะป้าอนงค์”

“เรียกป้านงค์เฉยๆก็ได้ค่ะคุณลิน”

“ป้านงค์คะ ไม่ต้องเรียกคุณลินหรอกค่ะ หนูเองก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่งเอง ไม่ได้มีฐานะพิเศษอะไร”

“งั้นก็ได้ค่ะ แต่บางครั้งป้าอาจจะเผลอเรียกนำหน้าว่าคุณลินบ้างอย่างโกรธกันนะคะ”

คนตัวเล็กไม่ได้เอ่ยตอบอะไรนอกเสียจากส่งยิ้มจาง ๆให้กับคนตรงหน้าเท่านั้นก่อนที่จะลงมือช่วยมะเฟืองยกของจัดโต๊ะรับประทานอาหารกลางวันจนเรียบร้อย ส่วนตัวหญิงสาวนั้นไม่ได้ร่วมโต๊ะด้วยเพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าเจ้าของบ้านไม่ต้อนรับเธอสักเท่าใด จึงออกมาเดินเล่นหรือไม่ก็ไปหาอะไรรองท้องที่ร้านอาหารของที่นี่แล้วกัน จากนั้นก็ไปเดินเล่นแล้วค่อยเดินกลับไปบ้านหลังใหญ่หาดาหลาที่เธอเองก็น่าจะคาดว่ากำลังคุยกับหลานชายอยู่เป็นแน่

สิ่งที่เธอคิดเอาไว้ไม่มีผิดเสียที่ไหน เธอออกไปเดินเล่นดูความสวยงามรอบ ๆ ไร่ยามตกบ่ายจนเกือบค่ำก็ยังเห็นสองย่าหลานนั่งคุยกันอยู่ คนตัวเล็กค้อมหลังลงอย่างมีมารยาท เพื่อที่จะไม่รบกวนการสนทนาตรงนั้น แต่ก็คนที่กำลังจะเดินผ่านไปก็ต้องหยุดชะงักเพราะเสียงเรียกของดาหลา

“ลินมานี่หน่อยลูก”

“ขา…คุณย่า” เธอเดินเข้ามาหาย่าดาหลาทีกางมืออ้าแขนรับให้คนตัวเล็กมานั่งอยู่ข้าง ๆ

“มีอะไรหรือเปล่าคะ”

นันท์นลินหย่อนกายนั่งข้าง ๆ ผู้มากวัย โดยมีทยากรนั่งอยู่ตรงข้ามกัน เธอแอบเหลือบมองชายหนุ่มเล็กน้อยก่อนที่จะหันกลับมามองย่าดาหลา ราวกับมีคำถามว่านางจะคุยอะไรกับตน

“ย่าคุยกับพี่เขาเรื่องของเราทั้งคู่แล้วนะ”

“ทำไมคะ มีอะไรหรือเปล่า” ใบหน้าของหญิงสาวงวยงงไม่น้อย เพราะเธอเองก็ไม่ทราบว่าย่าดาหลาคุยอะไรกัน แต่ที่เอ่ยขึ้นมามันเกี่ยวกับตนทั้งสั้น

“ไหน ๆ หนูกับตาทิวก็จดทะเบียนกันมาตั้งนานแล้ว ย่าอยากจะให้เราสองคนอยู่ด้วยกัน ลองใช้ชีวิตคู่ฉันท์สามีภรรยาดู”

ทันทีที่ได้ยินประโยคเมื่อครู่ความรู้สึกของนันท์นลินทีทั้งความดีใจและสับสนในเวลาเดียวกัน ความดีใจของเธอนั้นเธอกำลังจะได้อยู่กับคนที่เธอรัก แต่ทว่าอีกใจหนึ่งก็คือกลัวคนที่อยู่ตรงข้ามจะไม่ต้อนรับเพราะเขาเองแสดงออกมาโดยตลอดว่ารังเกียจเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เปลืองรัก   ตอนที่ 14

    ใครว่าทยากรไม่ร้อนใจที่ติดต่อเมียของตัวเองไม่ได้ตั้งแต่เมื่อคืน เขาเพียรพยายามโทรหาหญิงสาวหลายต่อหลายครั้งแต่เธอก็ไม่ยอมรับสายเขาแม้แต่ครั้งเดียว ครั้นโทรฯมาก ๆ เข้า หญิงสาวก็เปิดเครื่องหนีเขาเสียอย่างนั้นมันยิ่งทำให้เขากระวนกระวายใจไม่น้อย จนต้องรีบตรงดิ่งกลับมาบ้านในคืนนั้น แต่ด้วยความที่ไม่อยากให้คนที่บ้านแตกตื่นว่าทะเลาะอะไรกัน จนต้องข่มใจอดทนรอให้ถึงเช้าเสียก่อน ค่อยมาหานันท์นลินเพื่อที่จะปรับความเข้าใจกันใหม่อีกครั้งและอธิบายในสิ่งที่เธอได้ยินว่ามันไม่เป็นความจริง เขาไม่อยากเสียหน้าในยามที่อยู่ต่อหน้าเพื่อน เพราะเขขาเองเป็นคนที่ยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะกับพวกนั้นว่าจะไม่มีวันชอบนันท์นลินและไม่ยอมรับมาตลอดว่าตนจดทะเบียนสมรสและมีภรรยาแล้ว อีกทั้งเขาไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะอยู่ที่นั่นด้วยและบังเอิญได้ยินเรื่องพวกนั้นทยากรเดินวนไปมาราวกับหนูติดจั่นอยู่หน้าบ้านของย่าดาหลา อันที่จริงเขานอนไม่หลับตั้งแต่เมื่อคืนเฝ้ารอให้เช้าเร็ว ๆ ชายหนุ่มชะเง้อคอมองหานันท์ลินว่าจะลงมาตอนไหน เขาอยากจะคุยกับเธอเหลือเกิน จนกระทั่งป้าเนียมที่กำลังยกอะไรบางอย่างเข้าไปเ

  • เปลืองรัก   บทที่ 13

    "หนูลิน!" บทสนทนาที่ดังขึ้น ณ ขณะนั้นหยุดชะงักขึ้นมาทันที หันมองไปตามต้นเสียงว่าเป็นใคร "คุณลุง...เอ่อคุณพ่อ" ถึงแม้ว่าเวลานานผ่านไปเท่าใดเธอก็ยังไม่ชินกับสรรพนามที่นนทกรให้เรียกเสียที เพราะด้วยความเกรงใจมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เธอเองก็พยายามที่จะปรับเปลี่ยน มีบ้างที่จะเผลอเรียกแบบเดิมไป "ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วล่ะลูก" นางถามอย่างสงสัยเพราะนี่ไม่ใช่เวลากลับบ้านของบุตรชาย "ประชุมและทำทุกอย่างเรียบร้อยเร็ว ผมเลยกลับมาแวะตลาด ได้ยินคุณแม่บ่นอยากกินมาหลายวันแล้ว ""ขอบใจมากลูก มาเหนื่อย ๆ มานั่งกินอะไรก่อน"“ครับแม่ แต่ผมยังไม่ค่อยหิวสักเท่าไหร่ ผมมีงานที่ต้องจัดการอีกเยอะเลยครับ” คนเป็นลูกชายหย่อนกายนั่งตรงข้ามมารดาและลูกสะใภ้ที่กำลังนั่งรับประทานขนมไทยอย่างอเอร็ดอร่อย“แล้วนี้เจ้าทิวไปไหนซะล่ะครับ ทิ้งเมียให้อยู่บ้านแบบนี้ยังไง”“คุณทิวไปเป็นวิทยากรให้กับทางมหาวิทยาลัย สามว

  • เปลืองรัก   บทที่ 12

    ความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาของทยากรและนันท์นลินดำเนินการไปด้วยดี โดยที่ไม่มีเรื่องราวอะไรมาให้กวนจิตใจ หรือให้คิดมากไปเอง รวมถึงเรื่องที่ต้องการหย่าขาดจากกันด้วย วันนี้นันท์นลินที่ถูกห้ามไม่ให้ทำงานจากผู้เป็นสามีได้มาที่แปลงองุ่นที่คนงานกำลังเก็บผลผลิตอยู่นั้น หญิงสาวไม่ชอบอยู่เฉย ๆ โดยที่ไม่ได้ทำอะไรหากหยิบจับอะไรเพียงนิดเดียวก็ถูกห้ามอยู่ตลอด จนวันหนึ่งเธอตั้งใจที่จะคุยกับทยากรอย่างจริงจังเรื่องการทำงานของเธอ ด้วยความเคยชินจากหลายเดือนมานี้ทำงานทุกวันจนแทบไม่ได้หยุดพักผ่อนอะไร แต่พอมาวันหนึ่งไม่ได้ทำงานชีวิตเหมือนขาดอะไรไปเสียนี่“พี่ทิวจ๋า พาลินไปหาคุณย่าหน่อยสิคะ”ตกค่ำของวันเดียวกันหลังจากที่ทยากรกลับถึงบ้านมีคนตัวเล็กมาคอยต้อนรับเหมือนเช่นทุกวัน เพียงเขาได้เห็นใบหน้าหวาน ๆ ของเธอก็ทำให้หายเหนื่อยแล้ว แล้วยิ้มได้ยินเสียงออดอ้อนหวานอีก“หืม ว่าไงนะ” ทั้งที่ได้ยินเสียงออดอ้อนเต็มสองหูก็ตาม แต่เขาก็ยังอยากได้ยินเสียงของเธออีก“ลินอยากไปหาคุณย่าค่ะ พาลินไปนะคะ” ว่าแล้วพลางเดินเข้ามาควงแขนออเซอะเอียงใบหน้าสวยหวานซบลงที่ท่อนแขนแกร่งของสามี

  • เปลืองรัก   บทที่ 11

    หนึ่งเดือนผ่านไป หลังจากที่ทยากรเห็นเมียตัวเล็กเศร้าสร้อยจากเรื่องข่าวลือ ถึงแม้จะเป็นเรื่องจริงหากเรื่องเท็จมีเพียงเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น เขาก็ต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย เพราะแน่นอนมันล่วงรู้ไปถึงหูของผู้เป็นย่า ถึงขั้นต่อสายตรงมาหาเขา หากไม่จัดการให้เรียบร้อยจะลงมาเป็นคนพูดเอง หลังจากวันนั้นทุกคนต่างไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีกเลย อาจมีบ้างที่บางคนคับข้องใจ ว่าทำไมทั้งสองคนนี้ถึงลงเอ่ยซึ่งกันและกันแบบนี้“เมื่อวานไปไหนมา ทำไมถึงกลับดึก”“เดินเล่นเพลินไปหน่อยน่ะค่ะ” หญิงสาวตอบทั้ง ๆ ที่ตัวของเธอนั้นอยู่หน้าเตาปรุงอาหาร เพราะเวลานี้ก็สายมากแล้ว อาหารที่ป้าอนงค์ทำเอาไว้ก็เย็นชืดจึงเอามาอุ่นให้ร้อนเสียหน่อย“แน่ใจ” ชายหนุ่มเดินเข้ามาไกล้คนตัวเล็กใบหน้าคมคายโน้มเข้าไกล้หญิงสาวอีกทั้งกระซิบข้างหูเธอเบา ๆ“ค่ะ ฉันแค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนลืมเวลา”“บอกแล้วไงว่าให้เรียกแทนตัวเองว่ายังไง”หญิงสาวไม่ตอบอะไรได้แต่ปิดเตา แล้วหันมาเผชิญหน้ากับเข้า ใบหน้าคมคายของชายหนุ่มห่างเพียงคืบเดียวเท่านั้น เขาเอาลมหายใจของนันท์นลินติดขัดไม่น้อย ถึงแม้ว่าจะเคยแนบชิดมาก

  • เปลืองรัก   บทที่ 10

    ตกดึกของวันเดียวกัน หลังจากที่ทยากรพานันท์นลินไปซื้อของเรียบร้อยแล้ว เขาเองก็กลับไปทำงานต่อ โดยที่ก็ไม่ยอมปล่อยให้เธอนั้นพักผ่อนหรือว่างงานแม้แต่น้อย เขาสั่งให้พนักงานในออฟฟิศอีกคนนำเอกสารและรายละเอียดต่าง ๆ มาให้เธออ่านทำความเข้าใจ พร้อมทำให้หาข้อมูลเกี่ยวกับองุ่นพันธุ์ใหม่ว่าเป็นอย่างไรให้กับเขา โดยการสั่งงานผ่านบุลคคลที่สามอีกทีตามเคยแน่นอนว่าคนที่อยากได้หัวใจของเขาก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย ถึงแม้ว่าจะงวยงงนในการกระทำอยู่บ้างก็ตาม แต่บางทีเธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ใจหนึ่งก็รัก แต่อีกดใจก็ปฎิเสธชายหนุ่ม ทว่าสมาธิที่จดจ่อกับงานกลับหายไปเกือบครึ่งเพราะเธอนั้นรู้สึกเป็นห่วงคนที่ยังไม่กลับบ้านอย่าง ทยากร โดยปกติแล้วเขาไม่กลับดึก ในยามนี้ก็จวนจะเข้าวันใหม่เสียแล้วก็ยังไม่เห็นหรือมีวี่แววว่าจะกลับ“ทำไมยังไม่กลับนะ หรือว่าเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า”คนตัวเล็กพึมพำกับตัวเองอย่างเป็นห่วง พลันลุกจากโซฟาที่กำลังทำงานของตนชะเง้อมองทางด้านนอก ไม่วายที่มือเล็กๆ ไม่วายที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือที่เปิดเพลงฟังเมื่อครู่มาด้วย ในตอนนี้สภาพอากาศไม่ค่อยเป็นใจสักเท่าไหร่นัก ช่วงก

  • เปลืองรัก   บทที่ 9

    เช้าวันใหม่นันท์นลินออกบ้านเช้ากว่าปกติดั่งเช่นเมื่อวาน เพราะเธอนั้นไม่อยากเจอหน้าคนที่อยู่ในบ้าน ในยามนี้เขายังไม่ตื่นหรอก หากว่าเธอไปออฟฟิศในตอนนี้ก็ยังไม่ได้เริ่มงาน ทว่าคราแรกจะปั่นจักรยานไปเหมือนทุกครั้งด้วยความที่กลัวว่าจะถึงเร็วจึงตัดสินใจเดินเล่นไปเรื่อย ๆ ซึมซับบรรยากาศในตอนเข้าที่หาไม่ได้จากในกรุงเทพฯคนตัวเล็กหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ากางเกงของตนขึ้นมาถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศ ไปเรื่อย ๆ ไม่วายที่จะถ่ายคลิปวิดิโอสั้นพร้อมทั้งข้อความเล็ก ๆ น้อยลงไปในนั้นด้วย“ตื่นเช้ามันก็ดีเหมือนกันนะ”หญิงสาวบ่นกับตัวเองเบา ๆ พลางยิ้มขำให้กับคำพูดของตัวเองไม่น้อย หากพูดว่านอนแล้วก็ไม่ใช่ เพราะเธอนั้นนอนไม่หลับไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี อยู่ ๆ ก็หวนคิดถึงใบหน้าหล่อเหลาของคนที่ใจร้ายกับเธอมาตลอด ไม่รู้ทำไมเธอยังรักเขาอยู่ทุกวันแต่ก็ต้องเอาใบหน้านั้นออกไปจากความคิดที่รบกวนการหลับการนอน มือเล็กเอื้อมไปคว้าสมาท์โฟนคู่ใจของตนขึ้นมาเปิดแอพพลิเคชันสั่งของออนไลน์ เพราะเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาเธอขอที่อยู่ของที่นี่กับมะเฟือง ด้วยความที่มีของใช

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status