Share

ตอนที่ 10 : ผู้ร้ายพรากพรหมจรรย์

last update Last Updated: 2025-08-05 11:02:50

ตอนที่

[7]

ผู้ร้ายพรากพรหมจรรย์

 

หลังจากที่กลับมาจากหาหมอที่ตำบลเพ่ยเพ่ยก็เริ่มต้มยาสำหรับบำรุงเจ้าก้อนแป้งที่อยู่ในท้อง จะว่านางไม่กังวลอะไรก็ไม่ได้ ด้วยยุคนี้เครื่องไม้เครื่องมือแม้กระทั่งยายังไม่ล้ำหน้าเช่นในยุคที่นางจากมา จึงทำให้รู้สึกกังวลถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยว่าจะเป็นอย่างไร ยิ่งเมื่อนึกถึงยามคลอดที่ต้องคลอดด้วยหมอตำแยแล้วละก็…คิดแล้วก็รู้สึกหวาดหวั่นจนต้องเลิกคิดไป 

ด้วยความเป็นคนที่ทำอะไรรวดเร็ว หลังจากที่วางหม้อต้มยาบนเตาไฟเรียบร้อยแล้ว เพ่ยเพ่ยก็เตรียมที่จะหมุนกายเพื่อที่จะออกไปเก็บผักจะได้ทำอาหารสำหรับเย็นนี้ แต่จู่ ๆ ร่างกายที่เคยปกติก็เกิดอาการวิงเวียนหน้ามืดและทรงตัวไม่อยู่ขึ้นมากะทันหัน เมื่อทัศนวิสัยถูกความมืดเข้าบดบัง ร่างกายก็โงนเงนอย่างทรงตัวไม่ได้ 

กรี๊ดดดด

แม้จะตกใจทว่าด้วยสัญชาตญาณบางอย่างเพ่ยเพ่ยเอามือกุมท้องของตนเอาไว้ด้วยความหวงแหนในหัวครุ่นคิดว่าจะล้มลงอย่างไรให้กระทบกระเทือนเด็กในครรภ์น้อยที่สุด 

ทว่าในช่วงเสี้ยวเวลาที่คิดว่าตนกำลังจะล้มลงไปกระแทกกับพื้นแข็ง ๆ จู่ ๆ ก็มีอ้อมกอดของใครบางคนมารับเอาไว้

หมับ!

เอ๋

หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเพื่อดูว่าเป็นผู้ใดที่เข้ามาช่วยเหลือและเตรียมที่จะขอบคุณคนผู้นั้น แต่ทว่าเมื่อการมองเห็นกลับมาเป็นปกติ ดวงตากลมก็ต้องเบิกตาขึ้นก่อนจะรีบดีดกายออกจากอ้อมกอดของผู้ที่มาช่วยเหลือด้วยความลนลาน 

“จะ เจิ้งกวนโหว ท่านมาได้อย่างไรเจ้าคะ” 

เป็นเขา! 

เขามาได้อย่างไร เขามาตามหานางหรือ? ผ่านไปสามเดือนนี่เขายังไม่หายโกรธนางอีกหรือ คนอะไรช่างเจ้าคิดเจ้าแค้นเสียจริง

“สมกับเป็นเจ้า ไร้มารยาท ไม่รู้จักขอบคุณคน”

“…..”

และนี่คือคำแรกที่เขาทักทายกัน มาถึงก็ด่าเลย?

“ท่าน…มาตามหาข้าหรือเจ้าคะ” ทว่าคำแรกที่นางตอบกลับไปมิใช่คำขอบคุณแต่เป็นคำถามแทน เจิ้งกวนโหวเหยียดยิ้มเล็กน้อย 

“แล้วข้ามิควรตามหาหรือ ทั้งวางยาข้า ทั้งขโมยเงินข้า หนีไปอย่างไร้ความผิดชอบ เจ้าว่าข้าควรปล่อยผ่านมิเอาเรื่องหรือ” 

นั่นอย่างไร! เขามาเอาเรื่องนางจริง ๆ ด้วย!

เพ่ยเพ่ยยามนี้กำลังทำอันใดไม่ถูก หากเขาเอาเรื่องนาง นางคงต้องไม่รอดเป็นแน่ แต่ว่าคืนนั้นนางก็เป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกัน เขาจะกล่าวเช่นนั้นก็ไม่ถูก

“ข้าทำผิดก็จริง แต่ท่านจะมาอะไรกับข้าอีก ความบริสุทธิ์ของข้าท่านก็เอาไปแล้ว แล้วจะ…” 

“แล้วคิดว่าเจ้าถูกพรากคนเดียวหรือ!”

“…..” นางที่ยังกล่าวไม่จบจู่ ๆ เขาก็โพล่งบางอย่างอันน่าตกตะลึงออกมา หนำซ้ำเมื่อสบตาเขาก็พบว่าอารมณ์ของเขากำลังคุกรุ่น

“หึ ผู้ร้ายพรากพรหมจรรย์ พรากความบริสุทธิ์ของข้าไปไม่พอ ยังไม่สำนึกผิด นอกจากเรื่องที่เจ้ากระทำการไร้ศีลธรรมที่ผ่านมาแล้วหนีมา ตอนนี้เจ้ายังคิดพรากเลือดเนื้อเชื้อไขข้าไปอีกหรือ!?” 

!!!

จากที่ตกใจประโยคก่อนหน้ายังต้องมาตกใจในประโยคสุดท้ายที่ได้ยินจากเขาอีก สองเท้าถอยหลังออกไปอย่างไม่รู้ตัว

นี่เขารู้ว่านางท้อง… 

คิดแล้วก็รีบยกมือขึ้นปกป้องครรภ์เอาไว้ด้วยความหวงแหน

ทว่าเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาอาจจะกล่าวลอย ๆ ก็เป็นได้ อาจจะคิดว่าเมื่อมีความสัมพันธ์กันก็อาจจะตั้งครรภ์ก็เป็นได้ คิดได้ดังนั้นจึงได้เชิดใบหน้าขึ้นก่อนจะกล่าวด้วยความมั่นใจ

“ท่านพูดอะไรกัน เลือดเนื้อเชื้อไขอะไรของท่าน” 

“อันลู่เพ่ยเรื่องที่เจ้าไปหาหมอวันนี้ข้ารู้หมดแล้ว”

“…..”

เรียบร้อย….

เขารู้จริง ๆ ด้วยแล้วนางจะทำอย่างไรดีทีนี้ 

มีทางเดียวเท่านั้น! 

ฟุบ! 

เพ่ยเพ่ยคุกเข่าลงตรงหน้าเจิ้งซวี่จื่อพลางถูมือไปมาด้วยความอ้อนวอน

“ท่านโหว ท่านอย่าเอาผิดข้าเลย ข้าสำนึกผิดแล้ว ที่หนีมาก็เพราะข้ารู้สึกผิดจนทำอันใดไม่ถูกเจ้าค่ะ” 

“รวมถึงเรื่องที่ขโมยเงินข้า?”

“นั่น…มันเพราะจวนตัว เมื่อคิดจะหนีแต่ตอนนั้นข้าไม่มีเงินติดตัวเลย จึงได้คิดหยิบยืมมาก่อน ถ้ามีก็จะนำไปคืนให้เจ้าค่ะ” 

“หึ” 

“ไม่สิ ข้าจะคืนให้ตอนนี้เลย แต่ท่านอย่าพาข้ากลับไปเลยนะเจ้าคะ” ว่าแล้วเพ่ยเพ่ยก็รีบเข้าไปในบ้าน ก่อนจะนำเงินทั้งหมดของเขาที่ซ่อนเอาไว้มาคืนเจ้าของ 

“นี่เจ้าค่ะ ครบถ้วนไม่ขาดไม่เกิน”

เจิ้งกวนโหวเต็มไปด้วยความแปลกใจ อันลู่เพ่ยไม่คิดจะใช้เงินของเขาเลยแม้แต่นิด นี่เป็นไปได้อย่างไร เท่าที่เขารู้สตรีผู้นี้ใช้เงินราวกับใบไม้ 

เพ่ยเพ่ยเห็นว่าชายหนุ่มยังคงยืนนิ่งและเอาแต่จดจ้องตนเช่นนี้ นางจึงนำเงินไปยัดใส่มือผู้ติดตามของเขาแทน หลี่จิ้นปิงสะดุ้งโหยงและส่งสายตามองผู้เป็นนายว่าจะเอาอย่างไรดี เจิ้งซวี่จื่อจึงได้ส่งสายตากลับไปว่าให้เก็บเอาไว้ก่อน

“ทีนี้จะให้ข้าโขกศีรษะขอโทษดีหรือไม่เจ้าคะ ท่านโหวจึงจะยกโทษให้ข้า และให้ข้าอยู่ที่นี่ต่อ”

“คนเช่นเจ้าโขกศีรษะไปก็เท่านั้น ไม่รู้ว่าจะโขกไปสาปแช่งข้าไปด้วยหรือไม่”

“…..”

นี่เขาคิดว่านางร้ายกาจถึงเพียงนั้น

“แล้วท่านจะเอาอย่างไรเจ้าคะ ข้าสำนึกผิดจริง ๆ และไม่อยากกลับไปที่เมืองหลวง ข้าอยากจะเลี้ยงลูกที่นี่ มีความสุขสองคนตามประสาแม่ลูก” 

“เจ้าคิดว่าสตรีเช่นเจ้าจะทำให้เขามีความสุขได้จริง ๆ น่ะหรือ” 

เมื่อเขาพูดมาถึงตอนนี้นางก็รู้สึกหวาดหวั่นในใจอย่าบอกนะว่าเขาจะพรากลูกไปจากนาง 

“ท่านจะพูดอะไรกันแน่” 

ในตอนนั้นเองที่เจิ้งกวนโหวค่อย ๆ ก้าวเข้าไปหาหญิงสาว นัยน์ตาคมจดจ้องราวกับต้องการหาความจริงบางอย่าง เพ่ยเพ่ยที่ทำตัวอันใดไม่ถูกก็ได้แต่ยืนนิ่ง คนผู้นี้แม้จะหล่อเหลามาก ใบหน้าดูเกลี้ยงเกลาสะอาดสะอ้าน แต่รังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากตัวเขานี่ไม่ธรรมดาเลย อันลู่เพ่ยคิดอย่างไรจึงได้ไปวางยาบุรุษผู้นี้ สิ้นคิดชะมัด!

“ข้าอยากรู้ว่าเจ้าวางแผนมาเนิ่นนานเพื่อจะจัดการข้า แล้วเหตุใดพอทำสำเร็จแล้ว ทำไมถึงหนีมาเล่า” 

แล้วเมื่อครู่นางบอกว่าอยากอยู่กับลูกสองคนที่นี่?

แทนที่จะบอกให้เขารับตัวนางกลับไปแต่งตั้งเป็นเจิ้งกวนโหวฮูหยินเพราะตอนนี้นางตั้งครรภ์แล้ว ซึ่งนี่มันเป็นสิ่งที่นางต้องการ เหตุใดนางจึงไม่ทำเช่นนั้น

จะว่าไปแล้วอันลู่เพ่ยที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ก็ดูจะแตกต่างจาก

อันลู่เพ่ยที่เขารู้จักมากโข

เพ่ยเพ่ยที่รู้สึกว่าตนเองราวกับถูกจับผิดจึงรีบปรับสีหน้าให้สลดที่สุดก่อนจะกล่าว 

“ที่จริงแล้วข้ารู้สึกผิดกับท่านโหวและน้องรองมากเจ้าค่ะ ท่านกับน้องรองเหมาะสมกันมาก ข้าไม่อยากขวางทางพวกท่าน ส่วนเด็กคนนี้ท่านไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ให้ไปยุ่งวุ่นวายกับท่านแม้แต่น้อย ตัวข้าก็เช่นกัน เราทำสัญญาเลยก็ได้” เพ่ยเพ่ยพยายามต่อรองอย่างเต็มที่ ทำยังไงก็ได้ให้เขาไม่มายุ่งกับนางและมั่นใจว่านางจะไม่ไปยุ่งกับเขา 

ทว่าสายตาของเจิ้งกวนโหวกลับแวววับขึ้น เพ่งมองไปที่สตรีตรงหน้าอีกครั้ง 

นางกำลังพยายามไล่เขาสินะ 

อันลู่เพ่ยผู้นี้ช่างแปลกนัก ยิ่งใบหน้าที่ไร้การประทินโฉมพยายามแสดงต่อหน้าเขา มันยิ่งรู้สึกว่านาง…น่ากลั่นแกล้งนัก

เจิ้งซวี่จื่อแปลกใจตัวเองไม่น้อย เขาเคยไม่ชื่นชอบนาง ยิ่งยามทำเรื่องเลวร้ายเช่นนั้นเขายิ่งไม่อยากเข้าใกล้ ทว่ายามนี้เหตุใดจึงคิดว่าสีหน้าประหลาดของนางยามนี้ช่างน่าดึงดูดไม่น้อย

“หึ”

เขาแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะหมุนออกไปท่ามกลางความมึนงงของเพ่ยเพ่ยและหลี่จิ้นปิงที่เมื่อรู้ตัวก็รีบวิ่งตามผู้เป็นนายไปทันที

เย็นวันนั้นเมื่อได้กินอาหารและดื่มยาที่ต้มเอาไว้ (จนเกือบไหม้) แล้ว เพ่ยเพ่ยก็เอาแต่นอนกระสับกระส่าย นอนอย่างไรก็นอนไม่หลับ กังวลว่าเขาจะมาพาตัวนางกลับไปเมืองหลวงหรือไม่ รู้ตัวอีกทีก็ใกล้เวลาที่นางต้องทำน้ำเต้าหู้แล้ว อีกทั้งเมื่อรู้ตัวว่าตนเองตั้งครรภ์ไหนจะได้พบกับเจิ้งกวนโหวแล้ว เจ้าก้อนแป้งก็คล้ายจะแสดงอิทธิฤทธิ์ทันที เพราะนางเอาแต่อาเจียนไม่หยุดจนแทบไร้เรี่ยวแรง จากนั้นก็รู้สึกว่าหิวมาก ๆ กินอย่างไรก็ไม่อิ่ม จนต้องลูบท้องตนเองเบา ๆ 

“อย่าบอกนะว่าเจ้าเป็นลูกพ่อ…”

ยังไม่ทันออกมาก็เลือกข้างแล้วหรือ

แม่ท้องจะแตกแล้วพอได้แล้วลูก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เป็นนางร้ายกลับใจไม่ได้ง่ายถึงเพียงนั้น   ตอนพิเศษที่ 3 : จุดจบที่แท้จริงของสือหนิงอ้ายและซือจางจิ้ง 1/2

    ตอนพิเศษ[3]จุดจบที่แท้จริงของสือหนิงอ้ายและซือจางจิ้งในช่วงค่ำ หลังจากที่จัดการธุระต่าง ๆ เสร็จ ซือจางจิ้งก็ไปอาบน้ำชำระร่างกายที่ลำธารที่อยู่ห่างจากบ้านไปไม่มาก เมื่ออาบเสร็จก็มาเตรียมอาหารง่าย ๆ ระหว่างรอมารดาที่ไปอาบน้ำเช่นกัน อนุฉีที่ไปอาบน้ำตามปกติอย่างไม่คิดสิ่งใด แต่ผู้ใดจะคิดว่าระหว่างที่จะกลับ กลับพบกับบุรุษที่ท่าทางไม่น่าไว้วางใจยืนรออยู่ ความไม่ปลอดภัยเข้าเกาะกุมจิตใจ คิดได้ดังนั้นจึงเตรียมที่จะวิ่งหนี แต่อนิจจา ทว่าเพียงแค่หันหลังไม่ได้ทำสิ่งใด อนุฉีก็โดนของแข็งฟาดเข้าที่ศีรษะจนใบหน้าคว่ำลงไปทั้งอย่างนั้นสิ้นใจลงทันที ซือจางจิ้งที่เห็นว่ามารดาไปอาบน้ำนานเกินไปจึงเตรียมที่จะไปตาม แต่ไม่ทันจะได้ก้าวเท้าออกจากบ้านก็พบสตรีที่คุ้นหน้ามากับบุรุษอีกสามคน จางหง“เจ้าจะไปที่ใด จะไปตามหามารดาหรือ” เมื่อจางหงกล่าวเช่นนั้นซือจางจิ้งก็คิ้วกระตุกทันที “ข้าจะไปทำอันใดก็เรื่องของข้า” “ปากดีนักนะ” จางหงไม่พอใจทันที “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นสตรีจากในเมืองหลวงแล้วก็จะสามารถแต่งงานกับพี่จื่อได้หรือ”ที่แท้ก็มาด้วยเรื่องนี้ “ข้ามีใจให้พี่จื่อมานาน หากไม่มีเจ้าเขากับข้าจะต้องได้ลงเอยกันแน่”

  • เป็นนางร้ายกลับใจไม่ได้ง่ายถึงเพียงนั้น   ตอนพิเศษที่ 3 : จุดจบที่แท้จริงของสือหนิงอ้ายและซือจางจิ้ง 1/1

    ตอนพิเศษ[3]จุดจบที่แท้จริงของสือหนิงอ้ายและซือจางจิ้งสตรีที่ผมเผ้าเว้าแหว่งบ้างสั้นบ้างยาว นั่งมองผู้คนผ่านไปมาที่หน้าจวนของตนอย่างเหม่อลอย บางครานางก็มีสติ บางคราก็เลอะเลือนจดจำสิ่งใดไม่ได้ แต่โดยส่วนมากก็ราวกับผู้ที่ผู้คนมองว่าสติไม่ดีผู้หนึ่ง เพราะบางวันนางก็ไปกรีดร้องโวยวายที่หน้าจวนตระกูลโจวที่ยามนี้ประตูหน้าต่างปิดสนิท เพราะถูกเนรเทศทั้งตระกูลเนื่องจากกระทำความผิดทุจริตเงินของทางการ ผู้คนต่างก็มีทั้งสงสาร ที่นางถูกกล้อนผมจนตกอยู่ในสภาพครึ่งผีครึ่งคนจนถูกสามีปลดจากตระกูล บ้างก็สมเพชให้กับชะตากรรมของสตรีที่แย่งคู่หมายของสหายสนิท จนสุดท้ายก็พบจุดจบเช่นนี้ ก็สมควรแล้ว ยามที่นางมีสติ นางก็เอาแต่ถามว่าตนผิดอย่างไร เหตุใดจึงต้องพบพานกับเรื่องราวเหล่านี้ และเมื่อหวนนึงถึงอดีตสหายผู้นั้น....ที่ได้กลายเป็นถึงพระชายาผู้สูงส่งขององค์ชายสามแห่งแคว้นเสวี่ยที่ยิ่งใหญ่ ตนก็เริ่มคิดว่าเรื่องราวเหล่านี้มันผิดพลาดตั้งแต่ที่ใด ซือเฟยฟา เหตุใดเจ้าถึงได้โชคดีนัก ยามสายของวันหนึ่งสือหนิงอ้ายไม่ได้มีสติครบถ้วนเท่าใดนัก นางเอาผ้าคลุมผมและเดินเท้าเปล่าไปตามถนน ในมือถือปิ่นปักผมอันหนึ่ง จิตสั่งการบอ

  • เป็นนางร้ายกลับใจไม่ได้ง่ายถึงเพียงนั้น   ตอนพิเศษที่ 2 : หึงหวง....และยอมรับ

    ตอนพิเศษ[2]หึงหวง....และยอมรับจู่ ๆ ภายใต้ความสงบที่อยู่กับชาวแคว้นอี้มาเนิ่นนานก็ถูกรบกวนจากชาวนอกด่านที่ซ่องสุมกำลังบุกรุกชายแดนทางด้านตะวันออกของแคว้นอี้เพื่อปล้นเสบียงและทรัพย์สินของชาวบ้านรวมถึงมีการยึดพื้นที่ในบางจุดเอาไว้ คล้ายกับว่าพวกมันวางแผนมานานแล้วแน่นอนว่าบิดาของนางก็คือผู้นำทัพหลักที่จะจัดการปัญหาในครั้งนี้ คราแรกนางจะกลับแคว้นอี้เพื่อกลับไปเยี่ยมครอบครัว แต่เมื่อได้ยินข่าวเช่นนี้นางจึงชวนองค์ชายสามไปดูสถานการณ์เพราะเป็นห่วงบิดา องค์ชายสาม แม้ว่าจะเป็นห่วงนางแต่ท้ายที่สุดแล้วก็ยอมตามใจ การเดินทางอันแสนลำบากจึงเริ่มต้นขึ้นแต่เมื่อไปถึงก็ทำให้นางรู้สึกว่าตนตัดสินใจถูก เพราะเพียงแค่เห็นรอยยิ้มของบิดายามที่เห็นนาง นางก็รู้สึกว่าอบอุ่นอยู่ภายในใจ“พระชายา” ซือเว่ยโผเข้าสวมกอดบุตรสาวอย่างโหยหา หลายเดือนแล้วที่อีกฝ่ายไปอยู่ที่แคว้นเสวี่ย แม้ว่าจะมีจดหมายส่งมาตลอด แต่จะเหมือนการพบหน้าได้อย่างไร เมื่อผละอ้อมกอดแล้วก็กันไปทักทายบุตรเขย“องค์ชายสาม”“ท่านพ่อตาเป็นอย่างไรบ้าง” ทันใดนั้นแม่ทัพซือก็รับรู้ถึงบรรยากาศแปลก ๆ เหตุใดองค์ชายสามกล่าวกับเขา แต่สายตากลับมองไปที่บุตรสาวแล

  • เป็นนางร้ายกลับใจไม่ได้ง่ายถึงเพียงนั้น   ตอนพิเศษที่ 1 : เส้นทางสายใหม่ 1/2

    ตอนพิเศษ[1]เส้นทางสายใหม่เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางจึงยังไม่อยากถือสาเอาความอันใดเพราะนางก็เพิ่งมาอยู่ที่นี่ จึงได้แต่คิดว่าจะเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ แต่เมื่อหันหลัง หนึ่งในสามก็เอ่ยขึ้น“ตายจริง พี่สะใภ้ก็อยู่ที่นี่หรอกหรือนี่ เมื่อครู่ข้ามองไม่เห็นเลย”แหม เชื่อก็บ้าแล้วนางได้แต่ยิ้มกว้างแล้วกล่าวไปว่า “องค์หญิงห้าน่าจะต้องไปตรวจสายตาเสียหน่อย มิเช่นนั้นอาจจะต้องตาบอดตั้งแต่อายุยังน้อยได้” “นี่เจ้าแช่งข้าหรือ” ลี่จูพยายามที่จะสูดหายใจเข้าเพื่อระงับอารมณ์ตนเอง ไม่นานก็ฉีกยิ้มออกมา “ข้าได้ข่าวว่าพี่สะใภ้นั้นเก่งด้านการเอาอกเอาใจผู้อื่น แม้แต่มามาของฮองเฮายังเอ่ยปากชม รองเท้าของพวกข้าเปื้อนนัก เช่นนั้นท่านเช็ดให้พวกข้าได้หรือไม่ พวกข้าคงประทับใจไม่น้อย” กล่าวแล้วก็ทิ้งผ้าลงที่พื้นผืนหนึ่งก่อนจะหันไปหัวเราะกันหนิงอันที่อยู่ด้านหลังเจ้านายได้แต่กำหมัดและก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าว หากทั้งสามเหยียดหยามเจ้านายของตนอีกเพียงนิด นางจะไม่ยอมแม้แต่น้อย ตายเป็นตาย แต่ซือเฟยฟาที่รู้ทันจึงได้แต่ส่ายหน้าให้คนของตน“เรื่องที่ต้องให้บ่าวทำเช่นนั้นข้าไม่ถนัด อีกอย่าง...” นางก้าวเข้าไปหาพวกนางหนึ่งก้าว แต่ม

  • เป็นนางร้ายกลับใจไม่ได้ง่ายถึงเพียงนั้น   ตอนพิเศษที่ 1 : เส้นทางสายใหม่ 1/1

    ตอนพิเศษ[1]เส้นทางสายใหม่การเดินทางไปแคว้นเสวี่ยล่าช้าไปถึงสิบวัน เพราะกว่าที่นางจะได้ผ่านช่วงเข้าหอก็ผ่านพ้นไปถึงเจ็ดวัน และจากนั้นกว่าจะเก็บของและเตรียมตัวก็อีกสามวัน นางไม่คิดว่าเขาจะคลั่งรักนางถึงเพียงนั้น เสวี่ยอี้หลินหาใช่มนุษย์ก้อนหินอีกแล้วสำหรับนาง แค่สำหรับนางน่ะนะ แต่สำหรับผู้อื่นก็ยังเป็นเช่นเคย แต่ยิ่งเป็นมากกว่าเดิมหากผู้ใดเข้าใกล้นางมากเกินไป เช่นนี้ยามนี้ที่องค์รัชทายาทชิงจื่อชวนกำลังจะกอดลานาง “อี้หลิน เจ้าจะมากเกินไปแล้วนะ นี่น้องสาวข้า เหตุใดข้าจะกอดไม่ได้”“นางเป็นชายาของข้า” ว่าแล้วก็ผลักสหายออกห่างจากภรรยาของตน ส่งผลให้ชิงจื่อชวนไม่พอใจทันที นางได้แต่ส่ายหัวให้กับการกระทำของทั้งคู่ ก่อนจะเบนสายตาไปมองที่ฮองเฮาและบิดามารดา ทุกคนต่างก็ตาแดงก่ำและเดินเข้ามาหานาง แม้การจะมีการร่ำลากันมาตลอดหลายวัน ก็อดที่จะใจหายไม่น้อย แต่อย่างไรแล้วนางไม่ได้จะจากแคว้นอี้ไปตลอดเสียหน่อย ไม่ช้าไม่เร็วก็ต้องกลับมา จึงได้แต่เข้าสวมกอดทุกคนเพื่อปลอบใจและได้แต่กล่าวว่าจะมาใหม่ กว่าจะร่ำลากันเสร็จก็ใช้เวลาไปมากโข หนิงอันก็เช่นกัน กว่าจะร่ำลาจากท่านยายของตนก็ต้องเสียน้ำตาไปมากเช่นกัน บร

  • เป็นนางร้ายกลับใจไม่ได้ง่ายถึงเพียงนั้น   ตอนที่ 54 : พระชายาคนงามของพี่ (ตอนจบ)

    ตอนที่[36]พระชายาคนงามของพี่ในที่สุดวันมงคลที่สุดยิ่งใหญ่ของแคว้นอี้ในปีนี้ก็มาถึง ทั้งในวังหลวงและในเมืองต่างก็ประดับผ้าแดง โดยเฉพาะในเมืองหลวง ยังมีการทำอาหารแจกชาวบ้านอยู่หลายจุด วันนี้จึงเป็นที่คึกคักและเต็มไปด้วยความสุขกันอย่างถ้วนหน้า คนสำคัญของตระกูลซือต่างก็ไปเตรียมตัวอยู่ในวังหลวงกันทั้งหมด ซือฮูหยินและแม่นมถังต่างก็น้ำตารื้นเมื่อเห็นสตรีงดงามตรงหน้า ที่อดีตเป็นเพียงเด็กตัวเล็กที่พวกนางต่างก็ช่วยกันเลี้ยงดู ในยามนี้กำลังจะแต่งงานทั้งจะกลายเป็นพระชายาเสียแล้ว ซือเฟยฟาเปลี่ยนไปมาก จนไม่น่าเชื่อว่าทุกอย่างจะมาอยู่จุดนี้ได้ เดิมทีหากเป็นในอดีต ต้องโทษพวกนางที่เลี้ยงซือเฟยฟาให้กลายเป็นคนที่ผู้ใดก็ไม่อยากเข้าใกล้เช่นนั้น แต่ยามนี้กลับไม่ใช่เช่นนั้นแล้ว เห็นทีเบื้องบนยังคงเอ็นดูพวกนางคงจึงได้มีเรื่องที่ดีเช่นนี้เกิดขึ้น “พวกท่านทั้งเดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวร้องไห้ เหล่าช่างกลัวกันหมดแล้วเจ้าค่ะ” ซือเฟยฟาเอ่ยเย้าทั้งคู่ ส่งผลให้ทั้งคู่ต่างก็ส่งสายตาคาดโทษไปให้ทันที แม้จะเป็นเช่นนั้นก็มีความภูมิใจส่งผ่านสายตาของทั้งคู่ไปด้วย ‘นี่น่าจะเป็นเจ้าสาวที่งดงามที่สุดที่พวกนางเคยพบเจอมา’ที่จริง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status