"พาพี่มาคอนโดนานทำไม อย่าบอกนะ" ฉันชี้หน้าเขา
"อะไรกันพี่ริน พี่คิดอะไร ผมน่ะสั่งอาหารเอาไว้กะจะเอาไปกินคนเดียวบนห้อง แต่ไหนๆ พี่ก็มากับผมแล้ว มาทานข้าวด้วยกันนะครับ" "พี่ไม่หิวอ่ะ อยากกลับแล้วเมื่อกี้นานหลบใครไปมีเรื่องกับใครมา" ฉันจับแขนเขา "ไม่มีสักหน่อย พี่น่ะคิดมาก" เขาดึงแขนฉันให้ตามเขามาพร้อมกล่องอาหารตั้งมากที่อยู่ตรงหน้าเค้าเตอร์ คิดไปคิดมาที่นี่ก็หรูใช่ย่อยนะ นานเองก็เก่งที่อายุแค่นี้กลับมีชีวิตดีที่ดีมาก "นี่เราสนิทกันจนนายดึงฉันขึ้นห้องเลยเหรอ" ฉันสะบัดข้อมือ "ผมอยากสนิทกับพี่ไวๆ ไงครับ มาเถอะน่า" "ตอนเจอกันวันแรก กับวันนี้ต่างกันมากเลยนะนาน" ฉันถลึงตาใส่เขา สงสัยคงแอ๊บไม่ไหวแล้ว ไอ้ท่าทางที่ดูนิ่งๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่พอเปิดเผยตัวจริงขึ้นมาน่าจะเอาเรื่องไม่เบา กับเจ้าอาร์ก็ไม่ได้อ่านยากขนาดนี้วันนี้อาจจะเป็นวันที่ฉันจะได้รู้จักเขาขึ้น เวลาทำงานด้วยกันจะได้ง่ายๆ หน่อย "พี่มองผมแบบนี้อีกแล้วนะ พี่มีแฟนแล้วห้ามส่งสายตาแบบนี้ให้ใครเด็ดขาด บางคนไม่รู้จะคิดว่าพี่มีใจให้" เขาดึงจมูกฉัน "เฮ้ย พี่เพื่อนเล่นเราหรือไง เปี๊ยะ" ฉันตีไปที่แขนเขาหนึ่งที "โอ๊ย พี่ริน" เขาลูบแขนขึ้นลงคงจะเจ็บไม่น้อย แต่ทำไมเด็กคนนี้อ้อนแอ้นดีซะเหลือเกิน "ก็ตีให้เจ็บนี่แหละ แล้วนานอยู่คนเดียวเหรอ ไม่มีเพื่อนหรือแฟนมาอยู่ด้วยเหรอ" ฉันถามเขาพลางเดินเข้าไปในห้องเมื่อเขาเปิดประตู ไม่รู้ว่าฉันเอาความเชื่อใจเขามาจากไหนมากมายขนาดนี้ แต่เขาคงไม่ทำอะไรฉันหรอกถ้าทำขึ้นมาจริงๆ ก็คงตั้งแต่ฉันเมาครั้งนั้นแล้วแต่นี่เขากลับไปนอนห้องเพื่อนซะงั้น เลยยิ่งทำให้รู้ว่ายังไงเขาก็คงไม่สนหญิงแน่ๆ "อยู่คนเดียวครับ จะให้ผมอยู่กับใครได้ล่ะ กินข้าวกันดีกว่าครับหิวแล้ว" ครืดดด…เสียงโทรศัพท์ของกาลนานสั่นบนโต๊ะกินข้าว 'ฮัลโล ว่าไง' เขารับสายรู้เลยว่าปลายสายไม่ใช่ผู้หญิง 'ไอ้รันมันไปป้วนเปี้ยนแถวคอนโดกูเหรอวะ' 'เออ ใช่ มึงอยู่ไหน' เสียงปลายสายพูดแทรกผ่านลำโพง 'คอนโดกูนี่แหละ ทำไม' 'กูโทรบอกมึงเฉยๆ เผื่อมึงพลาดอีก แค่นี้แหละ" "เอ่อ นานพี่ว่าพี่กลับก่อนดีกว่า" ฉันลุกหยิบกระเป๋าจากโต๊ะทานข้าวเพราะได้ยินว่ามีคนมาแถวคอนโดนานน่าจะเป็นแฟนของเขา ดีไม่ดีจะโดนแฟนนานชกหน้าเอาที่เข้ามาในห้องกับนานสองต่อสองแบบนี้ "ทำไมล่ะพี่ ยังไม่ทานข้าวกันเลย" "ก็ได้ยินนานคุยโทรศัพท์ พี่คิดว่าแฟนนานจะมาที่นี่น่ะสิ พี่ไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด" "อ๋อ ไอ่รันน่ะเหรอ ไม่มีอะไรหรอกพี่ มันไปอีกคอนโดนึงอ่ะ แล้วมันก็ไม่ใช่แฟนผมด้วย กินข้าวกันเถอะเดี๋ยวอาหารจะเย็นซะก่อน" เขาเดินมาจับไหล่ฉันและกดให้นั่งลงเก้าอี้ตามเดิม "งั้นแสดงว่านายเองก็มีคอนโดสองที่เหรอ ครั้งที่แล้วที่บอกว่าไปนอนห้องเพื่อน โกหกหรือจริง" "โกหกครับ" เขายอมรับหน้าตาย "พี่ก็คิดว่าไปนอนห้องเพื่อนจริงๆ ทำให้รู้สึกไม่ดีอ่ะที่พี่ไปนอนห้องนานแล้วนานต้องไปนอนห้องคนอื่นแทน" "ไม่เป็นไรหรอกพี่ ผมเองก็ไม่ได้ไปที่นั่นนานแล้วเหมือนกันไปนอนสักหน่อยก็ดี" "ทำไมไว้พาหนุ่มๆ ไปนอนหรือไง กิ้วๆ " ฉันแกล้งแซวเกาคางเขาเล่น "นี่พี่คิดว่าผมเป็นเกย์อย่างนั้นเหรอ คิดว่าผมเป็นจริงๆ อย่างนั้นเหรอพี่" เขาถามด้วยสีหน้าตกใจ ทำให้ฉันตกใจไปด้วย "ขอโทษนะ ที่พี่คิดว่าใช่หรือว่านานไม่ใช่…" "กินข้าวไปเลยพี่" เขาบอกมือปัดๆ ให้ฉันรีบกินข้าว "พี่น่ะเข้าใจนานนะ เรื่องนี้พี่จะไม่จะไม่บอกใครเด็ดขาด" ฉันยกนิ้วก้อยขึ้นมาทำท่าสัญญา "ดีแล้วพี่อย่าบอกใครล่ะ อายเขา" "พี่ไม่ให้เราอายหรอก" ฉันใช้สายตามุ่งมั่นส่งไปให้เขาเผื่อว่าจะเชื่อใจฉันได้ "พี่รินน่ะจะอายเขา กินๆ ข้าวพี่ เดี๋ยวผมจะไปส่งที่บ้าน" "มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วเพราะนานลากพี่มาเอง" แล้วอีกอย่างยัยน้ำตาลก็กลับแล้วด้วย ห้องที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อยทำให้บ่งบอกว่าเขาเป็นสะอาดสะอ้านแค่ไหน ข้าวของเครื่องใช้ถูกวางอยู่บนชั้นวางไม่มีชิ้นไหนเลยที่ระเกะระกะออกมาให้ดูรกตา ดูรวมๆ แล้วเหมือนเขาจะอยู่คนเดียวจริงๆ เพราะข้าวของเครื่องใช้ในห้องน้ำมีแต่ของเขาเท่านั้น ห้องครัวที่ดูสะอาดราวกับว่าไม่เคยมีใครมาใช้ทำอาหาร แน่ล่ะสิ เขาทำอาหารไม่เป็นแน่ๆ ฉันเดินสำรวจครุ่นคิดพลางเอามือลูบคางตัวเองไปมาอย่างลืมตัว "เป็นนักสำรวจหรือไงครับ…พี่ริน" เขาเดินมายืนอยู่ข้างหลังฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ทำเอาฉันตกใจถึงกับสะดุ้งโหย่ง ทำให้กาลนานต้องจับไหล่สองข้างของฉันให้พิงหลังมาที่หน้าอกกว้างๆ ของเขาแทน ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ หัวใจของฉันเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ ในขณะที่เขายังจับไหล่ของฉันเอาไว้ ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกันนะ "ปล่อยพี่ได้แล้วนาน" ฉันแกะมือของเขาออกจากไหล่ เขาจึงเอื้อมมือไปเปิดตู้ซิ้งที่อยู่สูงกว่าหัวของฉันแทน "ดื่มสักหน่อยมั้ยพี่" "ก็พี่มาเพื่อดื่มหนิ จัดไปน้องนาน" ฉันยักคิ้วให้เขาไปหนึ่งที เพราะมั่นใจว่ายังไงวันนี้ฉันต้องรู้จักเขาให้มากกว่าเดิม “พี่ริน” “ว่า” ฉันเงยหน้าจากอาหารตรงหน้าเมื่อเขาเรียก “พี่ทะเลาะกับแฟนพี่เหรอ” คำถามของเขาทำเอาฉันอึดอัดอยู่ไม่น้อย “ก็ทะเลาะกันเรื่อยๆ แหละคู่รักก็เป็นอย่างนี้แหละนาน” ฉันโกหกเขาความจริงฉันเลิกกับคินไปหลายเดือนแล้วก่อนที่เขาจะเข้ามาทำงานที่นี่อีก “แต่พี่รินเหมือนคนอกหักเลยนะคืนนั้นน่ะ..ที่ผับ” ฉันนึกถึงที่ปาแก้วแตกวันนั้น “ทำไมเหรอนาน เพราะว่าวันนี้เห็นพี่ดื่มเยอะเหรอ เลยตั้งคำถามแบบนี้กับพี่” “เปล่าๆ นะพี่ ผมแค่สงสัยว่าผู้หญิงที่ดื่มจนเมาร้องไห้ขนาดนั้น มีเรื่องอะไรให้เสียใจมากต่างหากล่ะครับ” “นายเองคงยังไม่เคยอกหักล่ะสิ คงมีคนมาชอบเยอะอย่างนานน่าจะมีแฟนเยอะแน่ๆ เลย” “ผมยังไม่เคยมีแฟน” คำพูดของเขาทำเอาฉันตกใจอยู่เหมือนกัน เพราะคิดว่าผู้ชายคนนี้พูดจริงหรือว่ากำลังโปรยเสน่ห์กันแน่ “อ่ะ พี่เชื่อก็ได้ แต่พี่ว่าวันนี้พี่กลับก่อนดีกว่า สงสัยแผนนี้จะล้มเหลว” ก็ฉันตั้งใจจะถามเขาแต่ดันมาโดนเขาถามซะเอง ฉันลุกจากเก้าอี้ด้วยอาการมึนๆ ตึงๆ ที่หัว “พี่ดื่มนิดเดียวก็เมาแล้วเหรอครับ แล้วแบบนี้จะมอมเหล้าผมได้ยังไงกัน กาลนานเอื้อมมือมาจับแขนของฉัน “จะทำอะไรพี่น่ะนาน” ฉันสะบัดข้อมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของเขา “ผมมีวิธีที่จะทำให้ผู้ชายที่พี่คบชอบพี่มากๆ” “วิธีอะไรของนาย” “ผมจะสอนวิธีจูบให้พี่ดีมั้ยนะ” พร้อมกับใช้ปลายนิ้วมาแตะที่ริมฝีปากของฉัน “บ้า เรื่องแบบนี้ไม่ต้องมาสอนพี่หรอกจ้ะพี่ระดับไหน แล้วเราระดับไหนกระดูกมันคนละเบอร์กันอยู่แล้วค่ะน้องนาน” ฉันพูดกระแทกเสียงใส่ “ฮ่าๆ พี่รินนี่ตลกจัง ผมน่ะโคตรชอบพี่เลยที่เป็นแบบนี้ มาๆ ให้ผมกอดหน่อย เดี๋ยวผมจะไปส่งพี่ที่บ้านหรือว่าจะนอนที่นี่กับผม” ไม่ทันขาดคำเขาเดินอ้อมมากอดฉันจากทางด้านหลังที่กำลังนั่งเก้าอี้อยู่(ตอนพิเศษที่ 2 วันวานกับเรื่องบาดหมางของกาลนานกับนิรันด์และโมเม้นกาลนานเจอรินรดาครั้งแรก)เมื่อกาลนานกำลังจะขึ้นปีสองก็ได้มีการบรรยายพิเศษที่คณะจากทีมวิศวะมืออาชีพหญิงสาวสวยสะพรั่งในชุดกระโปรงทรงเอรัดรูปกับผมที่ถูกมัดขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าและต้นคองามระหงเด่นชัด“ไอ้นาน มึงมองพี่เขาขนาดนั้นเดี๋ยวพี่เขาก็ถามมึงหรอก” เจตเพื่อนที่เรียนวิศวะด้วยกันกับเขาพูดขึ้น“ถ้าพี่เขาถามกู กูจะให้เบอร์โทรพี่เขาเลย ผู้หญิงอะไรสวยแท้วะ” กาลนานนั่งพูดอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องโดยที่หญิงสาวยังคงพูดบรรยายไปโดยที่ไม่ทันได้เห็นกาลนานด้วยซ้ำ“ต้องขอขอบคุณทุกคนนะคะ ที่ฟังพี่รินพูดอย่างตั้งใจหวังว่าทุกคนจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในการเรียนหรือวันข้างหน้าก็สามารถปรับเปลี่ยนกับการทำงานได้ค่ะ” รินรดาพูดจบเธอก็เก็บอุปกรณ์ของตัวเอง“พี่รินครับ ผมมีข้อสงสัยครับ” นักศึกษาชายยกมือขึ้นทำให้กาลนานหันไปมองเพื่อนในชั้นทันที“มีอะไรคะ ถามได้เลยค่ะ” รินรดายิ้มแย้ม“พี่รินมีแฟนหรือยังครับ” นักศึกษาคนนั้นถามทำให้เพื่อนๆ ในห้องโห่แซวกันใหญ่“ไอ่เชี่ย” กาลนานอุทาน“พี่ยังไม่มีแฟนค่ะ และพี่ก็ไม่ชอบเด็กด้วยค่ะ” รินรดาพูดตัดจบไป ทุกคนในค
เผลอใจรักพักใจเหรอ ตอนพิเศษ1 วันวานกับพี่ชายที่ชื่อนิรันด์ย้อนกลับไปในช่วงวัยรุ่นตอนอายุสิบแปดของกาลนานที่เริ่มโตเป็นหนุ่มมีใบหน้าที่หล่อเหลาแม้ร่างกายที่ดูภายนอกจะบอบบางแต่จริงๆ แล้ว เขานั้นซ่อนรูปไม่เบามันเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจของหญิงแท้ชายเทียมเป็นอย่างมาก ท่ามกลางแสงสีไฟสลัวๆ ที่กระทบกับร่างกายของชายหนุ่มที่เต้นใช้เอวเป็นซะส่วนใหญ่ ค่อยๆ หมุน ค่อยๆ ควงเอวให้มันต่ำลงจนตัวเองนั่งคุกเข่าลงแล้วยกเสยเอวเด้งขึ้นเด้งลงไม่หยุด เสียงกรี๊ดของผู้หญิงในผับก็ดังแข่งกับเสียงดนตรีที่เขาเต้นอยู่บนเวทีด้วยเช่นกัน คงจะถูกใจกันไม่น้อยเลยทีเดียว เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวที่ปลดกระดุมลงจนเห็นสะดือกับหัวเข็มขัดถูกถอดและเหวี่ยงลงไปกองกับพื้น ยิ่งทำให้เห็นกล้ามเนื้อและแผ่นหลังที่ดูแข็งแรงจนไม่อาจละสายตาไปไหนได้เลย“กรี๊ดดด ถอดอีกๆ” เสียงร้องตะโกนของสาวๆ ในผับตะโกนกู่ร้องดังเหมือนยิ่งยุให้เขาทำในสิ่งที่พวกเธอต้องการ“ข้างล่างถอดไม่ได้ครับ ขืนผมถอดเจ้าของผับแบนไม่ให้ผมเข้าอีกแน่ๆ” เมื่อกาลนานพูดจบเขาก็ก้มโค้งขอบคุณแล้วเก็บเสื้อที่เขาโยนมันลงพื้นไปแต่แรก ทันใดนั้นสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นผู้ชายที่เขาคุ้นเคยเป็นอ
หลายวันต่อมา คุณนิรันด์กาลเรียกฉันให้เข้าไปพบที่ห้องทำงานของเขา “สวัสดีค่ะ คุณนิรันด์กาล” ฉันยกมือไหว้อย่างนอบน้อม “เชิญนั่งก่อนครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะแจ้ง” “ขอบคุณค่ะ” ฉันนั่งลงตรงข้ามเขาด้วยใจที่ลุ้นระทึกอีกรอบ เขาส่งกระดาษใบสี่เหลี่ยมให้ฉัน “เงินเจ็ดล้านตามที่ตกลงกันไว้ครับ คุณทำสำเร็จนะขอบใจคุณรินมากที่ช่วยครอบครัวของเรา” “ฉันรับไม่ได้หรอกค่ะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ” ฉันส่งเช็คนั้นคืนกลับไป “ทำไมจะยังไม่ได้ทำครับ ก็ลูกชายทั้งสองของผมบอกว่าถ้าไม่ได้คุณรินป่านนี้น่าจะยังทะเลาะกันอยู่ผมเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องครับ เลี้ยงลูกตามใจจนเอาลูกไม่อยู่จนต้องไปขอให้คุณรินช่วย” “ฉันยินดีค่ะ แต่เขาสองคนดีกันแล้วเหรอคะ” “ใช่ครับ เมื่อคืนเขาคุยกันหัวเราะชอบใจใหญ่ผมมีความสุขมากครับ” อ๋อว่าแล้วเมื่อคืนกาลนานบอกว่าจะมานอนที่บ้านเป็นแบบนี้นี่เอง “ดีใจด้วยนะคะคุณนิรันด์กาล แต่ฉันไม่ขอรับเงินจำนวนนี้หรอกค่ะเพราะว่าฉันเองก็มีส่วนทำให้เขาทั้งสองทะเลาะกันด้วย” “งั้นถ้าผมจะสู่ขอคุณรินให้เจ้ากาลนานลูกชายคนเล็กของผมล่ะครับ คุณจะรังเกียจครอบครัวของเรามั้ย“ “คะ คุณรู้เรื่องของเราเหรอคะ” ฉันก้มหน้าพูด
“รินครับ ผมมีอะไรจะให้” เขาเดินมานั่งข้างๆ ฉันที่นั่งหน้าบ้านเพราะว่าเราจะมานั่งดูพระจันทร์ด้วยกัน“อะไรคะ” เขาหยิบกิ๊บติดผมขึ้นมาแล้วติดที่ผมของฉันมันวิบวับแวววาวมากจนฉันต้องหยิบลงมาดู“ดาวครับ สวยมั้ย” เขาใช้นิ้วเกลี่ยแก้มของฉันเล่นอย่างแผ่วเบา“เพชรนี่คะ สวยจัง” ฉันทำท่าจะเอากิ๊บเข้าปากเพื่อเช็คว่าแท้มั้ย“รินทำน่ารักอีกแล้วนะแท้สิครับผมเป็นใคร ผมคือกาลนานนะ”“ล้อเล่นเฉยๆ เองขอบคุณนะคะ” แล้วฉันก็ติดกิ๊บที่ผมตามเดิม“ครั้งนี้ไม่ปฏิเสธเหรอครับ หลายล้านบาทนะอย่าเอาไปขายล่ะเวลางอนผม” “ปฏิเสธก็บ้าแล้ว นานกระแทกรินจนช่วงล่างแทบจะพังรินเสียหายนะ” “งั้นเหรอครับ งั้นผมให้ใบนี้รินไว้ใช้ดีกว่าเพราะผมจะกระแทกอีกนานเลยครับ” เขาหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาพร้อมกับหยิบบัตรการ์ดใบแข็งสีดำส่งให้ฉัน“นี่มันแบล็คการ์ดเหรอคะ นานมีจริงๆ ด้วยเพราะเมื่อก่อนรินว่าเคยเห็นนานถืออยู่นะ”ฉันหยิบมาดูพลิกไปพลิกมา“จริงสิครับ ผมให้”“สายเปย์ของจริงเลยนะเนี่ย” “แน่อยู่แล้วครับ”“งั้นคืนนี้รินขอใช้บัตรนี้ซื้อตัวนานได้มั้ยคะ เหมาทั้งคืน” ฉันขยิบตาให้พร้อมกับหย่อนบัตรลงไปในกระเป๋าเสื้อของเขา“อย่ามาร้องขอชีวิตกับผมแล้ว
หลังจากที่ฉันบอกว่าจะลาออกฉันก็ไม่เจอคุณนิรันด์ที่นี่อีกเลย ฉันเหลือบมองกาลนานที่นั่งทำงานอย่างเคร่งเครียดเลยอยากเอาใจเขา“รับกาแฟมั้ยคะคุณกาลนาน” เขาเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารตรงหน้าด้วยอาการคิ้วขมวด“เรียกคุณอีกแล้ว เราอยู่กันสองคนเรียกผมนานเฉยๆ ก็ได้หรือจะเรียกผัวจ๋าแบบที่เคยเรียกก็ได้นะครับ” เขายิ้มพร้อมทั้งขยิบตาใส่“บ้า อือ แล้วพี่ชายของคุณล่ะฉันยังไม่เห็นเขาเลยตั้งแต่มา” ฉันลองถามเขาเพราะเห็นว่าเขาอารมณ์ดีอยู่“ทำไมคิดถึงเขาเหรอ” กาลนานหน้าบึ้ง“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย พี่แค่ถามดู”“มันไปดูอีกบริษัทละครับ เสือสองตัวจะอยู่ถ้ำเดียวกันได้ไงครับ”“จร้าๆ พ่อเสือใหญ่ถอดเขี้ยวเล็บด้วยนะคะ ถ้าไม่ถอดพี่จะถอดให้เอง” ฉันทำท่าเสือกางเล็บใส่เขา “เสือสิ้นลายแล้วครับโดนพี่ขี่ผมไปไหนไม่ได้แล้วครับ ว่าแล้วก็อยากโดนขี่อีกจังในนี้ดีมั้ย” กาลนานลุกมาหาฉัน“หยุดเลย ไว้ไปทำที่บ้าน”“คืนนี้ไม่อดแล้วเว้ยเราชักจนปวดมือแล้ว”“ทะลึ่ง” พอเราสองคนมาคืนดีกันแบบนี้ก็ยิ่งเติมเต็มความรักให้กันมากขึ้นกว่าเดิม ฉันมัวแต่มีความสุขจนลืมคำพูดที่รับปากไว้กับคุณนิรันด์กาลพ่อของเขาสนิทเลย จะทำยังไงดี ถึงจะให้สองคนมาคืนดีก
“กาลนานอย่า” ฉันห้ามเขา แต่อคินก็ยังสวนหมัดกลับมาใส่ใบหน้าของกาลนานเต็มๆ เช่นกัน“หยุดนะคิน ถ้าคุณไม่หยุดฉันจะแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุก” ฉันควักโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงขาสั้นจุ๊ดที่ฉันใส่อยู่บ้าน“ทีไอ้นี่ยังเข้ามาได้” เขาชี้หน้ากาลนาน“ก็เขาเป็นสามีของฉันทำไมจะเข้ามาไม่ได้ล่ะ” ฉันยืนพูดเพราะยังไงวันนี้ฉันต้องจัดการเรื่องฉันกับอคินให้มันจบๆ ไปเสียที“พูดได้เต็มปาก เด็กมันจะสู้ผมได้ยังไง” อคินยังคงดื้อดึง ยิ่งทำให้กาลนานโกรธเข้าไปใหญ่“อย่าค่ะผัวจ๋า เดี๋ยวเมียจัดการเอง” ฉันแกล้งพูดให้อคินโดยมีกาลนานที่ยืนยิ้มอยู่“พอเถอะค่ะคินฉันมีผัวใหม่แล้วฉันไม่กลับไปกินของเก่าแบบคุณอีกแน่ๆ”“ถ้าคุณพูดเต็มปากขนาดนี้ว่าไอ้อ่อนนี่มันเป็นผัวใหม่ของคุณ ผมก็ไม่เอาคุณแล้วเหมือนกัน”“เชิญค่ะ นั่นประตู” อคินเดินไปอย่างหัวเสียเจอแบบนี้ใครกลับมาอีกก็บ้าแล้ว“ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้” ฉันหยิบเสื้อที่ตกลงกับพื้นส่งให้เขาคืน“ครับ แต่ผมโดนเขาต่อยช่วยทำแผลให้ผมหน่อยไม่ได้เหรอ”“ก็ได้ค่ะ เห็นแก่ความดีของคุณนะ” ฉันเดินไปหยิบยาทาแล้วมานั่งรอเขาที่กำลังใส่เสื้ออยู่“เดือนนี้ทั้งเดือนไม่รู้ปากของผมเป็นอะไรไปรับแต่กำปั้