Home / โรแมนติก / เผลอใจรักเด็กวิศวะ / ตอนที่ 3 ลองทำให้ดูหน่อย

Share

ตอนที่ 3 ลองทำให้ดูหน่อย

last update Last Updated: 2025-10-29 18:43:01

ตอนที่ 3 ลองทำให้ดูหน่อย

หลายวันต่อมา

เจ๋งเข้ามาอยู่ด้วยหลายวันแล้วเราทั้งคู่ต่างคนต่างใช้ชีวิต เจอกันแค่ตอนดึกและเช้าของวันจันทร์ถึงศุกร์ เพราะเขาจะไปเรียนแล้วหลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ตรงไหนระหว่างรอไปทำงานต่อ จะกลับมาตอนหลังเที่ยงคืน

ส่วนฉันก็ยังทำงานที่เดิม แต่ฉันก็ไม่กล้าไว้ใจผู้ชายคนไหนอีกแล้ว เพราะคิดทบทวนดูเรื่องราวทั้งแล้ววันนั้นฉันเชื่อว่ามันต้องมีสักคนที่คิดไม่ดีกับฉันแน่แต่ก็ไม่มีโอกาสเพราะเจ๋งช่วยไว้

แล้วคนที่น่าสงสัยที่สุดตอนนี้ก็เป็นไอ้พี่ต้าหัวหน้าแผนกของฉัน

ฉันวางแผนเอาไว้ว่าจะต้องหางานใหม่ให้ได้ภายในสองเดือน เพราะไม่อยากอยู่ในสังคมที่ไม่ปลอดภัยแบบนี้ต่อ ตั้งใจว่าจะยื่นใบลาออกสิ้นเดือนนี้ ถ้ายังไม่มีงานทำไปอีกหลายเดือนคงต้องขอความช่วยเหลือจากพ่อหรือแม่แน่ๆ

ถึงแม้ว่าพ่อกับแม่จะไม่บ่นแต่ฉันก็ไม่อยากอยู่เฉยๆ เพื่อเกาะพวกเขากินไปวันๆ ความฝันของฉันไม่ใช่การใช้ชีวิตเป็นมนุษย์เงินเดือนไปจนแก่เพราะอย่างไรก็ต้องกลับไปดูแลธุรกิจของพ่อ แต่เวลานี้แค่อยากหาประสบการณ์หลายๆ อย่างให้ตัวเอง

หลายวันมานี้ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไปจากที่เคยเป็น ในแต่ละวันต้องคอยระแวงว่าเขายกเอาของมีค่าออกไปหมดหรือยัง อีกใจก็คิดสงสัยว่าเขาไปไหนใน แต่ก่อนที่คำถามของวันนี้จะเกิดขึ้นมามากมายสายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่แปะอยู่ตรงประตูกระจก พอเดินไปหยิบมันขึ้นมาอ่านก็ต้องเผลอยิ้มไปกับความบ้าบอของผู้ชายคนนั้น

ถึงแม้ว่าเราจะอาศัยอยู่ห้องเดียวกันแต่เราก็ไม่เคยแลกช่องทางติดต่อกันเลยนอกจากเบอร์ที่เขาเคยให้ไว้ ฉันก็ยังไม่เคยโทรไปสักครั้งมีแต่เขานั่นแหละที่โทรมาบอกว่ากลับมาถึงแล้ว ฉันก็ลงไปรับที่ล่างคอนโด เพราะคีย์การ์ดมีแค่ชุดเดียว อีกชุดอยู่กับแม่ที่ต่างจังหวัด

เจ๋งเว้นระยะห่างกับฉันเสมอ นั่นอาจเป็นเพราะลึกๆ แล้วเขาก็เกรงใจ หรือเขาอาจจะกลัวล้ำเส้นกันก็ว่าได้ ทว่าวันนี้เขามาแปลกที่ทิ้งโน้ตไว้ให้แบบนี้

ผมเข้ามอไปทำงานกับเพื่อนแล้วสองทุ่มไปร้านนะ

ถ้าพี่คิดถึงผมก็โทรมา

ไลน์มาก็ได้

Line pokpong02XXX

ฉันดึงกระดาษแผ่นนั้นมาก่อนจะจัดการกรอกไอดีไลน์ของเขาแล้วกดเพิ่มเพื่อน แล้วทันทีที่กดเพิ่มเพื่อนไปรูปโปรไฟล์ของผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกถ่ายจากมุมเผลอที่เดาว่าน่าจะเป็นตอนเขากำลังทำงานอยู่ในร้านก็แสดงขึ้นมาจนต้องกดเข้าไปดู

ชื่อไอดีเขาก็มาจากชื่อจริง เขาชื่อปกป้อง ไม่รู้ว่าพ่อแม่เจ๋งคิดอะไรอยู่ถึงตั้งชื่อลูกง่ายๆ แบบนี้ทั้งที่ยุคของพวกเรามันก็เริ่มมีคนตั้งชื่อลูกยากๆ กันแล้ว

เจ๋ง : คิดถึงผมแล้วเหรอ

ไอ้บ้านี่

ฉันจิปากอย่างนึกรำคาญกับความกะล่อนของเขา ที่บางครั้งเขาก็ดูเป็นคนจริงจัง ดูน่ากลัว บางครั้งก็ดูขี้เล่นจนเดาทางไม่ถูกว่าเขามันเป็นคนแบบไหนกันแน่ แต่ก็เพราะความขี้เล่นของเขานั่นแหละที่ทำให้ฉันหายกลัวและหยุดหวาดระแวงเขาได้บ้าง

เจ๋งหน้าร้ายแต่นิสัยก็ใจดีกว่าหน้าตาเยอะ บวกกับคำพูดเขาที่ชอบกวนๆ เลยทำให้เข้าถึงไม่ยากนัก

มีนา : ก็แอดมา เผื่อว่านายจะยกเค้าห้องฉัน

เจ๋ง : ห้องพี่มีอะไรให้น่ายก นอกจาก...

มีนา : อะไร

เจ๋ง : พี่ไง

เหมือนมีอะไรลมจากด้านนอกกลางวันแสกๆ ตีเข้าเต็มหน้า ส่งผลให้เกิดความร้อนระอุอย่างไม่ทราบสาเหตุ หายกวนไปได้ไม่กี่วันก็กลับมาอีกแล้ว

มีนา : อย่ามาลามก เดี๋ยวตีให้ตาย

ฉันตอบเขาไปด้วยความรู้สึกรำคาญใจ แต่ตอนนี้กลับยิมอย่างกับคนบ้า โดนเด็กกวนใจหน่อยไม่ได้เลย สาวโสดอย่างฉันมันก็ต้องมีขวยเขินบ้างล่ะ

เจ๋ง : พี่คิดอะไร ใครคิดลามกวะ

เบื่อจะเถียงกับเจ๋งแล้วฉันจึงทำได้แค่ส่งสติ๊กเกอร์ถือค้อนเตรียมทุบกลับไปแล้วเขาก็ส่งสติ๊กเกอร์หัวเราะกลับมาให้ ก่อนจะส่งข้อความที่ทิ้งระยะห่างกันเกือบสิบนาทีกลับมาให้อีกรอบ

เจ๋ง : ผมเลิกดึก แต่ลืมของไว้บนห้องพี่จะออกไปไหนไหม

ฉันเปิดอ่านข้อความแล้วก็นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ช่วงนี้อยู่ห้องแล้วรู้สึกเบื่อ เหมือนว่าใช้ชีวิตไปเพื่อรอดูว่าเขาจะเข้ามาตอนไหน แล้ววันนี้ก็เป็นวันหยุดอีก เจ๋งก็น่าจะเลิกตีหนึ่งตีสอง ถ้าให้รอเขาจนดึกก็คงเบื่อ

ที่จริงก็ไม่ต้องรอ เอาคีย์การ์ดให้เขาไปเลยก็ยังได้ แต่เพราะอยู่ห้องเดียวกันแล้วมันกลายเป็นว่าถ้าไม่เห็นเขากลับมามันต้องมีเรื่องให้คิดเรื่อยเปื่อยทุกที

มีนา : ว่าจะออกไปเที่ยวพอดี

เจ๋ง : กับใคร

มีนา : คนเดียว

เขาเปิดอ่านข้อความนั้นแล้วก็เงียบไปนานทีเดียวจนฉันต้องวางมือถือทิ้งไว้ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแล้วกลับมาแต่งตัว เริ่มรู้ตัวว่าหิวจึงเดินไปหยิบมือถือขึ้นมาตั้งใจว่าจะสั่งอะไรมากินแต่ก็เห็นข้อความของเจ๋งที่ส่งมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว

เจ๋ง : ให้ผมไปรับไหม จะไปร้านไหน

เจ๋ง : แต่มอไซค์พี่น่าจะลำบาก ไปเองเถอะ

มีนา : ถ้าทันก็มารับ มอไซค์น่าจะสะดวกกว่า ไปร้านที่นายร้องเพลงก็ได้

ยิ่งเวลาทุ่มกว่ารถยิ่งติดหนักถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์คงลดเวลาการเดินทางไปอีกมาก ระยะทางมันก็ไม่ได้ไกลเสียทีเดียว

เจ๋ง : ผมอยู่ข้างล่างขึ้นไปไม่ได้

ฉันแปลกใจกับความเป็นเขาที่ไม่คิดวางแผนเอาไว้แต่แรก จะออกไปก็ไม่บอกกันก่อนฉันจะได้เอาคีย์การ์ดให้เพราะวันนี้มันก็เป็นวันหยุดของฉันอยู่แล้ว

ทีแรกตั้งใจว่าจะอยู่แต่ห้อง พอเขาทักมาก็เลยเปลี่ยนใจออกไปเที่ยวให้หายเบื่อ ไหนจะเรื่องที่ต้องมารับกันอีกเขาคงมาก่อนที่ฉันจะตอบด้วยซ้ำ บางทีเขาก็ดีด้วยมากจนฉันแอบกลัว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เผลอใจรักเด็กวิศวะ   บทที่ 7.1 หวั่นไหว

    ตอนที่ 7 หวั่นไหวตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วที่ฉันไม่ชอบเสียงฟ้าร้องและไฟดับแบบนี้ ยิ่งเสียงฟ้าผ่ามันทำเอาฉันกลัวจนต้องวิ่งไปหาสิ่งที่พึ่งพิงได้ แล้วมันก็เป็นสิ่งเดียวที่มีอยู่ในห้องนี้“กลัวอะไรขนาดนั้น”สิบสี่ปีก่อนคุณตาของฉันถูกฟ้าผ่าจนเสียชีวิตเพราะยืนอยู่กลางทุ่งนา เป็นวันที่ฉันตามติดตาไปด้วยเพราะอยากไปเที่ยวเล่นช่วงปิดเทอม นานครั้งถึงจะไปที่นั่นไปอยู่กับตาและยาย ภาพนั้นมันยังจำไม่เคยลืมเลย สายฟ้าที่ฟาดลงมาสู่ร่างของตาวันนั้นจนท่านล้มลง อยู่ในระยะสายตาที่ฉันมองเห็น ความสว่างสไวนั้นทำให้เห็นความเจ็บปวดในเสี้ยววินาทีของคนที่ฉันรักมันกลายเป็นเหตุการณ์ที่ถูกฝังลงในจิตใจ ทำให้กลัวเสียงฟ้าร้อง เสียงฟ้าผ่า มาตั้งแต่ตอนนั้น หัวใจของฉันมันสั่นไหวทุกครั้งที่ได้ยินมันรู้ตัวอีกทีฉันก็นั่งอยู่บนตักเจ๋ง กอดคอซบหน้าลงกับบ่าแกร่งจนลืมทุกความอึดอัดที่เคยมีต่อเขา เวลานี้มันแทนที่ด้วยความกลัวไปแล้ว“กลัว”เจ๋งไม่ได้พูดอะไรอีก เขาใช้แขนแข็งแรงนั้นโอบกอดฉันเอาไว้ มือหนาลูบลงกลางหลังราวกับต้องการให้ฉันรู้สึกปลอดภัยขึ้น แล้วมันก็ได้ผล ไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกดีขึ้นได้ขนาดนี้หรือเพราะอ้อมกอดของเขามันกว้างและอบ

  • เผลอใจรักเด็กวิศวะ   บทที่ 6.2หึง?

    บริษัทมีเวลาเลิกงานที่สี่โมงเย็น ฉันใช้รถส่วนตัวในการเดินทางไปกลับ ถึงแม้ว่าจะเจอรถติดบ้างแต่ก็สะดวกกว่า ไม่ต้องไปเบียดผู้คนมากมายระหว่างที่รอรถติดก็เพิ่งเห็นข้อความจากเจ๋งที่ส่งมาเมื่อกลางวัน เพราะไม่ได้เปิดดูเลย มีงานเข้าตั้งแต่ช่วงบ่าย ที่แจ้งเตือนมาก็คิดว่าเป็นครามนั่นแหละ จึงไม่ได้สนใจเปิดอ่าน เดี๋ยวเขาจะรู้กันว่าฉันแอบเล่นมือถือตลอดเจ๋ง : เลิกกี่โมง ผมรอที่ล็อบบี้นะตั้งแต่เมื่อคืนที่เกิดเรื่องฉันก็ไม่ได้คุยกับเจ๋งเลย คิดว่าเขาโกรธฉันเสียอีก เพราะปกติเขาจะส่งข้อความมาวอแวกวนประสาทกันไม่เลิกแม้กระทั่งเวลาทำงานมีนา : ใกล้ถึงแล้วฉันตอบแค่นั้นแล้วก็เคลื่อนรถไปข้างหน้า ใช้เวลาจากบริษัทกลับถึงคอนโดก็คงประมาณหนึ่งชั่วโมง ไม่รู้ว่าเขารออยู่ตรงนั้นตั้งแต่ตอนไหน อาจจะเป็นตอนที่ส่งข้อความาหากัน ถ้าเป็นอย่างนั้นคงเกือบสี่ชั่วโมงแล้วเจ๋งมันบ้าหรือเปล่านะ จะรีบกลับมาทำไมทั้งที่รู้ว่าขึ้นห้องไม่ได้“จะรีบกลับมาทำไม” พอเดินเข้ามาที่ล็อบบี้ก็เห็นเจ๋งนั่งรออยู่พร้อมกับโน้ตบุ๊คค่ใจของเขาที่น่าจะใช้ทำงานไปด้วยระหว่างรอฉันจะว่าไปอยู่ตรงนี้รอมันก็ไม่ได้แย่เสียทีเดียวเพราะมีห้องสำหรับให้นั่งเล่น

  • เผลอใจรักเด็กวิศวะ   ตอนที่ 6 เว้นระยะห่าง

    ตอนที่ 6 เว้นระยะห่างฉันออกมาทำงานตั้งแต่เจ็ดโมงกว่า ส่วนเจ๋งนั้นยังไม่ตื่น ไม่รู้ว่าเขาหลับอยู่จริงๆ หรือแกล้งหลับเพราะไม่อยากคุยกับฉันกันแน่ เพราะปกติถ้าฉันตื่นมาต้องเห็นเขาตื่นรอแล้ว เท่าที่เห็นเขามาเกือบครึ่งดือน เจ๋งไม่ใช่คนตื่นสายเลย“มีนา”เสียงของใครบางคนเรียกฉันไว้ พอหันไปมองก็ต้องแปลกใจที่เป็นคราม ผู้ชายเมื่อคืนนี้ ทั้งที่ปกติไม่เคยเห็นเขาอยู่ในบริษัทมาก่อน“คราม”“นึกว่าจะลาป่วย” เขาแซว คงเป็นเพราะเห็นฉันกลับดึกเมื่อคืน“ไม่ขนาดนั้น คอเกรดเอ” ฉันตอบพลางขำ ทั้งที่เมื่อคืนก็เมาเอาเรื่องแต่ก็พอมีสติถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลาไปดื่มกับเพื่อนรับรองว่าถึงไหนถึงกันแน่นอน แต่มีผู้ชายอยู่ด้วยในห้องอีกคนฉันก็ไม่กล้าเมาขนาดนั้น ถึงแม้ว่าเจ๋งจะเอ่ยปากบอกว่าฉันมันไม่สวย ไม่ทำอะไรฉันก็เถอะ มันก็ไม่แน่หรอกนะ“สรุปเมื่อคืน เพื่อนหรือแฟน” ครามถามกันตรงๆ แต่ก็สื่อทางสายตาว่าเขาแค่แซว“น้องน่ะ”“ใช่เหรอ เขามองเราตาขวางขนาดนั้น แถมยังร้องเพลงให้อีก” ครามหัวเราะเบาๆ“จริงๆ ไม่ใช่แฟน” ฉันตอบแล้วยิ้ม เราทั้งคู่เดินเข้าลิฟต์มาด้วยกันเวลานี้มีคนทยอยเข้ามาเรื่อย จนคุยกันเหมือนเดิมไม่ได้ กระทั่งถึงชั้นสาม

  • เผลอใจรักเด็กวิศวะ   บทที่ 5.2ขอเตือน

    เจ๋งพาซ้อนมอเตอร์ไซด์ออกจากร้านแล้วขับช้าๆ รับลมเย็นยามค่ำคืนบนท้องถนนที่เวลานี้รถราบางตากว่าตอนกลางวัน มีแสงไฟเรียงรายอยู่ด้านข้างเพราะมีร้านข้างทางมาเปิดเพื่อรับลูกค้าที่กลับมาจากการท่องราตรี บางร้านเปิดตั้งแต่ดึกถึงเช้ากันเลย“หิวข้าว ขอแวะซื้อแป๊บนึงได้ไหม”“ทานนี่ก็ได้ เดี๋ยวนั่งรอ”“พี่กินไหม”“ไม่ กินเข้าไปคงอ๊วกแตก”บอกตามตรงตอนนี้ฉันก็เมาแล้วเพียงแต่พยายามทำตัวเหมือนไม่เมามาก ให้เจ๋งต้องเยอะเย้ยกัน ถ้าไอ้เด็กนี่รู้เข้ามีหวังหัวเราะเยาะแน่ แต่จะทำยังไงไม่ให้เขารู้นี่สิ แค่จะก้าวขาลงจากรถก็คิดว่าคงได้ล้ม“ลงมาสิ” เจ๋งยืนมองฉันที่ไม่ยอมลงจากรถมอเตอร์ไซด์เสียที“นั่งรอ ตรงนี้แหละ”“พี่เป็นไร” เจ๋งไม่ยอมง่ายๆ เขาขยับเข้ามาใกล้แล้วขมวดคิ้วมองหน้ากันจนฉันต้องรีบหันหน้าหนีเพราะตอนนี้ตาปรือมาก เรียกสติกลับมาหลายรอบแล้วด้วย“เปล่า ไม่อยากลงไป จะนั่งรอตรงนี้แหละ” ว่าแล้วก็ขยับแขนขึ้นมากอดอก มองนั่นมองนี่เรื่อยเปื่อย แต่ไม่มองหน้าเจ๋งหรอก“เมา?”“บ้า!”“งั้นก็ลงมา ไปนั่งตรงนั้น”“บอกว่าจะนั่งตรงนี้”“ดื้อจังวะ” เจ๋งไม่พูดเปล่า เขาก้าวเท้าเข้ามาใกล้แล้วตวัดแขนรวบเอวฉันก่อนจะอุ้มลงไปยืนบน

  • เผลอใจรักเด็กวิศวะ   บทที่ 5.1อย่ายุ่งกับเมียชาวบ้าน

    ตอนที่ 5 อย่ามายุ่งกับเมียชาวบ้านเจ๋งขึ้นร้องเพลงแล้ว เพิ่งรู้ว่าเวลาเขาร้องเพลงอยู่บนนั้นมันมีเสน่ห์มากมายขนาดนี้ ทั้งหน้าตา ทั้งเสียงร้อง ทำเอาสาวๆ หลงกันทั้งร้าน ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะมีคนชอบมากมาย เดินไปทางไหนกับเขาฉันก็ต้องเจอกับแรงอาฆาตแค้นเจ๋งถนัดร้องเพลงช้า ส่วนมากจะเป็นเพลงเศร้าซึ้งๆ ซึ่งมันยิ่งสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที่ชวนให้หลงใหลของเขา ระดับเจ๋งไปเป็นดาราหรือนักร้องได้เลย จะไม่มีแมวมองมาเห็นบ้างเลยหรือ น่าแปลกแต่ความเป็นเจ๋งก็ทำให้ฉันคาดไม่ถึงมาหลายเรื่องแล้ว ตั้งแต่เรื่องเพื่อนที่เยอะมากมาย ไหนจะเรื่องผู้หญิงที่ฉันคิดมาตลอดว่าคนปากหมาแบบนี้คงไม่มีใครคบ สุดท้ายเป็นยังไงล่ะ นี่มันหนุ่มฮอตของมหาวิทยาลัยชัดๆ“ขอโทษนะครับ”“คะ”ขณะที่นั่งมองคนหน้าเวทีกำลังร้องเพลงอยู่ จนลืมสนใจสิ่งรอบข้างเพราะเคลิ้มกับเพลงที่เจ๋งกำลังร้อง ปลายนิ้วของใครบางคนก็มาสะกิดที่ไหล่ซ้าย เล่นเอาฉันตกใจรีบหันไปมอง ก่อนจะพบว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกำลังโน้มหน้าลงมาแล้วส่งยิ้มให้“มาคนเดียวเหรอ”“คือ เปล่าค่ะ มากับเพื่อน”“ออ ขอชนแก้วได้ไหม”ฉันไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร ก็แค่ชนแก้ว จึงพย

  • เผลอใจรักเด็กวิศวะ   บทที่ 4.2ลูกชิ้นแทนใจ

    “หมดธุระมึงยัง” เจ๋งถามต่อ“เออ ไปก็ได้วะ แล้วมึงไม่ไปร้องเพลงเหรอวันนี้” เพื่อนลุกออกไปนั่งโต๊ะข้างกันซึ่งมันก็ไม่ได้ต่างจากนั่งตรงนี้เลย โต๊ะติดกันจนกระซิบยังได้ยิน“กำลังจะไป”“โอ้ว พาสาวไปเฝ้า” เพื่อนอีกคนแซวอีกสองสามคนก็แซวกันจนฉันเขิน“เรื่องของกู”“เจ๋งมันไม่น่ารักเลยเนอะพี่”เพื่อนเขาคนหนึ่งยื่นหน้ามาคุยกับฉัน ที่เวลานี้แทบจะไม่กล้ากินก๋วยเตี๋ยวแล้ว ก็มาแซวกันขนาดนี้ใครมันจะไปกล้าคีบเส้นแล้วอ้าปากกินได้ ฉันก็อายเป็นเหมือนกัน เลยได้แต่ยิ้มแห้งเป็นคำตอบ รับบทแฟนเจ๋งคนปากหมาไปเลยยายมีนาดีนะที่ฉันกินลูกชิ้นไปแล้วไม่อย่างนั้นคงเสียดายแย่ นี่ไงล่ะคือเหตุผลที่ว่าทำไมเราต้องกินของที่อร่อยที่สุดก่อนเป็นอันดับแรก“กินไหม”เจ๋งไม่สนใจคำพูดเพื่อนเขาอีก คีบลูกชิ้นลูกใหญ่มาตรงหน้าก่อนจะวางมันในชามของฉันที่เหลือแต่เส้นเล็กขาวๆ อืดๆ กับผักใบเขียวที่ถูกเขี่ยไปด้านข้าง สร้างความแปลกใจให้ฉันไม่น้อยเลย“ไม่กินเหรอ”“แลกกัน” ว่าแล้วเจ๋งก็คีบเส้นฉันไปใส่ในจานตัวเอง แล้วคีบลูกชิ้นอีกสองลูกกลับมาให้กันอีก“คนอะไรไม่ชอบลูกชิ้น”เจ๋งไม่ตอบ เขาหัวเราะเบาๆ ในลำคอแล้วคีบเส้นเข้าปากอย่างไม่เกรงใจ แม้แต่ผั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status