Home / LGBTQ+ / เพรงพ่าย / หุ่นนางแบบ

Share

เพรงพ่าย
เพรงพ่าย
Author: ลลนล

หุ่นนางแบบ

Author: ลลนล
last update Huling Na-update: 2025-11-04 23:00:57

แปร๊น~~

เสียงร้องของช้างดังขึ้นในเช้าวันสดใส อากาศเย็นชื้น จนได้กลิ่นดินกลิ่นหญ้าชัดขึ้นกว่าทุกวัน เพราะฝนที่พรำลงมากว่าครึ่งชั่วโมงที่แล้ว เพิ่งจะซาเม็ดลงไป

หลังจากลาป่วยมาหลายวัน สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลช้าง ก็เดินออกมาจากห้องนอนด้วยชุดยูนิฟอร์ม เป็นเสื้อแขนสั้นสีม่วงลายช้างน้อยที่สวมทับเสื้อแขนยาวสีดำเอาไว้ภายใน เข้าชุดกับแบล็กยีนส์ผ้ายืด เพื่อเพิ่มความคล่องตัวเวลาทำงาน

หมอกิดากานต์

เธอประจำอยู่ที่นี่มา 4 ปีแล้ว เธอรักสัตว์ทุกชนิด แต่ชอบช้างมากเป็นพิเศษ เลยทำงานอุทิศตัวให้กับสัตว์โลกตัวใหญ่ด้วยใจเมตตา ซึ่งถือได้ว่า เธอเป็นบุคลากรที่สำคัญของประเทศคนหนึ่ง เพราะหมอที่ทำงานสายนี้ ยังถือว่ามีจำนวนน้อยนัก

เมื่อได้ทำงานที่รัก แม้จะเจออุปสรรคบ้างก็ไม่ใช่ปัญหา เธอไม่เคยโกรธช้าง ที่บางคราวก็เล่นงานกันยามเผลอจนได้เข้าโรงพยาบาล

ใช่แล้วล่ะ เธอเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาเมื่อคืนนี้เอง โรงพยาบาลคนนะ ไม่ใช่โรงพยาบาลสัตว์ เพราะโดนงวงช้างพังเดือนหงายสะบัดใส่ร่างจนตัวปลิว ขณะที่หมอเดินเข้าใกล้ลูกช้างพลายจุมพล ที่กำลังเจ็บป่วยมีอาการขาบวมไม่ทราบสาเหตุ

เพราะนั่นเป็นการออกไปทำงานนอกสถานที่ เคสดังกล่าวจึงไม่ได้จัดการให้ช้างอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยต่อผู้รักษาเท่าที่ควร เหตุการณ์ไม่คาดฝันเลยแจ็คพอตเข้าให้ เล่นเอาเห็นดาวเห็นเดือนกลางวันแสกๆ กันเลยทีเดียว

เดือนหงายนะเดือนหงาย เปรี้ยงเดียวทำเอาไปฟื้นอีกทีบนเตียงในโรงพยาบาล แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่โกรธหรือโทษใคร เพราะเป็นความประมาทของเธอเองทั้งนั้น ที่ดันสะเพร่าไม่ยอมถอด AirPods ออกจากหู เลยทำให้ไม่ได้ยินว่ามีคนกำลังร้องห้าม เพราะมันอยู่ในรัศมีที่ช้างพังเดือนหงายจะโจมตีถึงตัว

AirPods แทบจะกลายเป็นอวัยวะชิ้นที่สามสิบสาม ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางอย่าง ที่ไม่มีใครกล้าถามว่าทำไมหมอกิดากานต์จะต้องสวมมันติดหูเอาไว้แทบจะตลอดเวลา

และที่ทำให้ทุกคนตกใจพอๆ กับที่ปลุกหมอไม่ตื่นในตอนตัวกระเด็นไปอีกฟาก ก็เพราะเสียงเพลงที่ดังออกมาจากหูฟังนั่นเอง ที่เป็นต้นเหตุทำให้เธอไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ในตอนที่ใครๆ พยายามจะร้องห้าม

เธอชอบฟังเพลงเสียงดังขณะเครียดๆ หรือไม่ก็แสนสบายใจ และแน่นอน คนเรามันก็จะมีแค่สองอารมณ์นี้สลับไปมาระหว่างวัน และเหตุการณ์ในวันนั้นคือเธอกำลังเครียด เรื่องอยากได้หมอเด็กๆ เข้ามาช่วยแบ่งเบางาน

จนในที่สุดเธอก็ได้คลายเครียดสมใจ ได้นอนพักผ่อนข้าวฟรียาฟรีอยู่ 3 วัน ก็ขอออกมาทำงาน เพราะอยากจะมาดูว่า เด็กใหม่ที่รับเข้ามาในช่วงที่เธอพักรักษาตัว ทำงานเป็นเช่นไร จะมาช่วยเหลือหรือเพิ่มภาระกันแน่

จะว่าไปแล้ว เธอก็ออกจะตื่นเต้นอยู่สักหน่อย เพราะหมอคนใหม่ ผอ. ให้สิทธิ์เธอคัดเลือกเองกับมือ เธอจึงอยากจะออกไปทักทายเขาในเช้าวันแรกที่จะได้พบกัน

แต่เพียงแค่เปิดประตูบ้านพักออกมา กิดากานต์ก็ยิ้มเยือนคนที่กำลังเดินตรงเข้ามาหาด้วยท่าทีกระตือรือร้น

“หมอไม่พักต่ออีกสักวันเหรอครับ” ลุงอู๊ด คนขับรถประจำโรงพยาบาลถามคนที่ยังสวมเฝือกอ่อนดามคอเอาไว้

“ฮะ!? ไม่ล่ะ ขาดงานหลายวันแล้ว คนก็ยิ่งขาดๆ อยู่ด้วย แล้วเป็นไงบ้าง หมอใหม่ที่มา โอเคมั้ยคะ”

“ตอนที่หมอไม่อยู่ มันมีการเปลี่ยนแปลงกันนิดหน่อยนะครับ ผอ. เซ็นต์รับหมอใหม่ที่มาแทนคนที่มาไม่ได้ เพราะคนนั้นมีเหตุสุดวิสัยอะไรสักอย่าง”

ในแววตาของคนฟังไม่ได้กังขาต่อสิ่งใด มีเพียงคำถามสั้นๆ กลับมาว่า “ผู้ชายป่ะ”

ทันทีเลยทีเดียวที่ลุงอู๊ดหนวดขาวพลันส่ายหน้าดิก

“หมอคงงานหนักอีกตามเคย คนมาแทนเป็นผู้หญิงครับ”

เสียงถอนหายใจยืดยาว และการสบตากันนิ่งๆ อย่างไร้อารมณ์ นั่นคือการบ่งบอกว่า กิดากานต์ไม่ปลื้มเอาเสียเลย

“แต่ท่าทางแข็งขันเอาเรื่องอยู่นะครับ”

“เคยงานมั้ย” กิดากานต์ถามหน้านิ่ง แล้วเบือนหน้ามองไปยังอาคารพยาบาลเปิดโล่งขนาดใหญ่ด้วยความหนักใจ

“เคยฝึกงานที่ลำปางมาครับ”

หมอทำหน้านิ่งกดหัวคิ้วเข้าหากันด้วยความรู้สึกบางอย่าง แล้วก็พ่นลมหายใจ ระบายความอึดอัดที่ยังไม่ทราบถึงสาเหตุออกมาอีกระลอก

“จะทนรึเปล่าเหอะ ช้างถีบทีนอนโรงบาลไปสามวัน เจอแล้วจะรู้สึก”

ได้ยินอย่างนั้น ลุงอู๊ดก็กลั้นยิ้มแทบไม่ไหว ก่อนจะทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เลยรีบหยิบเอาถุงซิปใสจากกระเป๋ากางเกงออกมายื่นให้ทั้งรอยยิ้มแหย

“นี่ครับ อันนึงมันเสียบอยู่ที่หู แต่อีกอันนึงพากันหาแทบตาย มันหลุดไปไกลเลยหมอ”

AirPods คู่ใจในถุงซองซิปที่กำไว้ในมือ สร้างรอยยิ้มสวยขึ้นมาให้อีกคนยิ้มตาม

“ขอบคุณมากนะคะ ก็ยังคิดอยู่ว่า วันนี้มันขาดๆ อะไรไป”

แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็เดินเคียงข้างกันมา ซึ่งเรือนพักกับสถานพยาบาลห่างจากกันไม่ถึงร้อยเมตรเท่านั้น…และหลังจากได้รู้ว่าหมอคนใหม่เป็นผู้หญิง เธอก็ไม่สนใจที่จะตั้งคำถามอะไรอีกเลย

กลับเอาแต่รู้สึกเหนื่อยหน่ายขึ้นมาเสียอย่างนั้น เพราะด้วยร่างกายที่ไม่อาจจะกระฉับกระเฉงได้เท่าเมื่อก่อน มันอาจจะทำให้เธอสู้รบปรบมือกับงานหนักๆ ของที่นี่ไม่ไหวเข้าในสักวัน

เฝือกอ่อนที่สวมดามคอ นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่สวม เพราะหมอเคยเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์มาก่อน เลยมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกคอมาตั้งแต่ตอนนั้น ส่งผลให้มันกลายเป็นความเปราะบางของร่างกายอยู่ไม่น้อย

และที่ทำให้เครียดต่อเนื่องมาหลายเดือน ก็เพราะเธอกังวลว่าจะพยุงองค์กรที่เสี่ยงจะถูกปิดเอาไว้ไม่ไหว ที่นี่เป็นเพียงสาขาเล็กที่สับซอยลงมาให้เล็กลงไปอีก เพราะตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ได้มีจำนวนช้างชุกชุมเช่นอิสานใต้

จริงอยู่ที่โรงพยาบาลช้างขอนแก่น เคสไม่เยอะ แต่กลับมีแต่เคสที่หนัก ต้องใช้ระยะเวลารักษานานหลายเดือนเพื่อดูแลกันทั้งนั้น เธอจึงรักและผูกพันกับที่นี่มาก

และตอนนี้สถานการณ์ของที่นี่ก็กำลังเข้าขั้นวิกฤติ การโดนใบเตือนว่าทางเอกชนอาจจะถอนเงินสนับสนุน มันทำให้เธอถึงกับนั่งซึมมาเป็นเดือนๆ จากแต่ก่อนที่เคยมีหมอประจำอยู่หลายคน ตอนนี้ก็มีแค่เธอและเด็กใหม่อีกหนึ่งคนเท่านั้น

หากได้หมอหนุ่มตัวโตๆ มาช่วยเบาแรงก็คงจะดี เธอคิดแค่นี้ ไม่ได้คิดดูถูกความเป็นหญิง และกำลังพยายามทำใจยอมรับอยู่ว่า สิ่งที่คาดหวังมันไม่ได้เกิดขึ้นเสียแล้ว

“หมอใหม่ตัวใหญ่ป่ะ” กิดากานต์ถามสิ่งที่คิดออกมาในที่สุด

“ไม่นะครับ หุ่นนางแบบเหมือนหมออูนนี่แหละ”

คำตอบจากลุงอู๊ด ทำเอาอีกคนถึงกับกลอกตามองบนด้วยใจอันห่อเหี่ยวอย่างสุดๆ

“จะไหวมั้ยเนี่ย”

“ทำงานสไตล์หมออูนเป๊ะเลย ใช่แฮะ ขนาดท่าพันผ้าก็อซยัดลงแผลคุณยายสร้อยสังวาล ยังเหมือนกันไม่มีผิด ผมก็ว่ามันคุ้นๆ”

ชักน่าสนใจขึ้นมาทีละนิด แม้หมอกิดากานต์จะไม่ชอบทำอะไรเหมือนใคร แต่ทำไมใครคนนี้กลับดึงความสนใจให้ถึงกับกะพริบตาถี่ได้ขนาดนี้ล่ะ

“เข้างานตรงเวลามั้ย”

“มาถึงก่อนด้วยซ้ำครับ อีกเดี๋ยวก็คงจะมา” ลุงอู๊ดบอกหลังจากพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นมามอง

“ก็ยังดี เพราะหมอทำงานกับคนมาสายไม่ได้จริงๆ”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เพรงพ่าย   คุณหมอรถแห่

    เสียดายที่กิดากานต์สะบัดหน้าหนีไม่ได้เหมือนทุกครั้ง คนคอแข็งทื่อที่หมดอารมณ์จะต่อกรกันเป็นเด็กๆ ก็หมุนตัวไปอีกทาง เพื่อที่จะเริ่มงานในเช้าวันใหม่ได้อย่างขมุกขมัวปล่อยทิ้งให้อีกคนมองตามด้วยความรู้สึกห่วงใยมากขึ้นไปอีก...จริงๆ แล้ว ตั้งแต่ที่เลิกกัน ปริญญ์ก็ค่อยๆ คายความเป็นตัวตน แล้วกลืนเอาความหลากหลายของกิดากานต์มาเป็นตัวเองเธอเริ่มฟังเพลงลูกทุ่งได้เพราะขึ้นมานานหลายปีแล้ว และเธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าหลงคิดว่าพวกเพลงเหล่านั้นคือสิ่งที่เข้ามาทดแทนคนรักเก่าและที่สำคัญที่สุด คือมันไม่ใช่เหตุผลจริงๆ ที่ทำให้เราเลิกกัน...นับจากนี้ ไม่ว่ากิดากานต์จะจิกกัดกันเรื่องเก่าๆ มากขนาดไหน เธอก็จะพยายามไม่ใส่ใจ เพราะสิ่งที่เธอห่วงใยจนต้องรีบรับปากบ๊อบบี้ในทันที ก็เพราะสิ่งที่กิดากานต์ชื่นชอบ มันล้อมรอบไปด้วยหนุ่มๆ ทั้งหนุ่มแตกสาว และหนุ่มฉกรรจ์ พวกเขาให้เหตุผลว่าเพื่อไปคุ้มครอง คุณหมอรถแห่ ฉายาที่ไม่ใกล้กับบุคลิกที่คนทั่วไปพบเห็นแต่นั่นคือตัวตนที่กิดากานต์ไม่กล้าเปิดเผยกับปริญญ์มาก่อน อยู่ที่นี่ได้ทำอะไรในสิ่งที่ชอบ คุณหมอรถแห่คงมีความสุขมากสินะ แล้วใครจะกล้าทำลายความสดใสนั้นลงคอล่ะไม่คิดว่าการกล

  • เพรงพ่าย   เปลี่ยนแผน

    ทำเหมือนห่วง ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่ากิดากานต์นอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลมาตั้งสามวัน เขาเรียกว่าห่วงประสาอะไร ไม่เห็นโผล่หัวไปเยี่ยมสักวัน!ผิดหวังอยู่ลึกๆ แล้วถุงผ้าสีเทาก็ถูกจับโยนเข้าไปในตู้เอกสารข้างผนังไปอย่างไม่ใยดี...อารมณ์ของเธอขุ่นมัวตั้งแต่เช้า กาแฟดำยามเช้าน่าจะทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาได้...เกล็ดกาแฟสำเร็จรูปถูกตักออกจากขวดด้วยใจจดจ่อ ทีละช้อนอย่างเชื่องช้า แล้วตามด้วยน้ำร้อนจัด ไอขาวพวยพุ่งลอยขึ้นเหนือแก้วกาแฟอย่างอ้อยอิ่งเสียงโทรศัพท์จากกระเป๋าเสื้อดังขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ทำลายอารมณ์ที่กำลังจะดีขึ้นให้หม่นลง เพราะปลายสายคือผู้ช่วยที่รู้ใจ“มีอะไรบ๊อบบี้โทรมาแต่เช้า”“อาทิตย์นี้ บ้านดอนย่านาง คุณแม่ว่างมั้ยคะ” สาวสองผมทองผิวเป็นสีขาวจัด กรอกเสียงผ่านมือถือมาอย่างรู้ใจและทุกครั้งคำตอบที่ผู้ช่วยคิดว่าจะได้ก็คือ...กี่โมง?กิดากานต์ไม่มีทางปฏิเสธกิจกรรมที่แสนชื่นชอบเหล่านี้ไปได้!“คิดดูก่อน”มีคนผิดหวังในคำตอบไปแล้วหนึ่ง แต่เขาก็ยังจะกรีดเสียงตามออกมาอีกว่า “ไม่ได้นะแม่ รอบนี้เค้าจัดเต็ม ลุงอู๊ดก็รับปากแล้วด้วย คุณแม่จะมาชิ่งอย่างนี้ไม่ได้นะคะ”“ก็บอกว่าคิดดูก่อน แต่ก็ไม่ได้บอกว่าไม่นี่

  • เพรงพ่าย   เยื่อใย

    เดชะบุญฟิล์มดำของเธอทำให้อีกฝ่ายคงไม่มีทางเห็นหน้าเจื่อนๆ ของกันได้ เฝือกอ่อนที่ดามคออยู่ของกิดากานต์ทำให้ความเป็นห่วงที่พยายามกลบมันไว้ กลับเผยตัวตนออกมาจนรู้สึกหมั่นไส้ตัวเองเมื่อไรเธอจะควบคุมตัวเองได้เสียที เธอเกลียดเลือดลมฟุ้งซ่านนี้เต็มทน เกลียดที่ใบหน้าสวยๆ นั้นยังทำให้ใจเต้นแรงได้เสมอให้ตายเหอะ เธอลืมรักที่ผ่านมาทั้งเจ็ดคนไปได้อย่างไร พวกหล่อนๆ ทั้งหลาย เธอจำได้แค่ชื่อ ไม่เหมือนผู้หญิงคนนั้นที่ยังหมุนตัวมองกันมาจนรถเข้าจอดที่โรงจอดรถ“ป้ายทะเบียนกรุงเทพนี่”“อ๋อใช่ หมอปริญญ์เคยบอกว่าเคยทำงานกับหมออูนมาก่อนนี่นา”ได้ยินอย่างนั้น กิดากานต์ก็ถึงกับกัดฟันแน่น หลับตาปิดลงเพื่อควบคุมสติ เพียงชั่วขณะก็ลืมตาขึ้นมาถามกันชัดๆ ว่า“ปริญญ์ พุทธพัลลภ?”“ใช่ครับ”“....................”หญิงสาวทำเพียงแสยะยิ้ม อารมณ์ใดๆ ไม่หลงเหลือ ตัวมันชา ขามันสั่น ใจเต้นรัว เหมือนเกลียดกลัวอะไรสักสิ่ง แต่เธอก็ไม่ได้คิดที่จะหมุนตัวกลับ หากแต่ยังอยากยืนตั้งรับรออยู่ตรงนี้หญิงวัยสามสิบแปด เธอผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร เลยไม่คิดจะหนี อยากอยู่ตรงนี้ รออยู่ตรงนี้ รักครั้งนั้นเธอไม่ได้ผิด คนที่ควรจะไปจากที่นี่ไม

  • เพรงพ่าย   กลิ่นถ่านไฟเก่า

    แต่ขออภัยเถอะ เธอโกรธกันจนไม่อยากจะให้อีกฝ่ายมีความสุขแม้สักวินาทีเดียว“ก็ไม่มีอะไรนะคะ คือที่ถามน่ะ ถามเผื่อพี่ชายที่เพิ่งอกหักค่ะ เผื่อจะได้เป็นแม่สื่อแม่ชักอะไรประมาณนั้น”ปริญญ์หาทางลงด้วยเหตุผลที่ฟังเข้าท่าจนอีกคนเชื่อสนิท และเธอก็ผูกมิตรกับลุงอู๊ดได้ด้วยเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็ต้องสารภาพเลยว่า ตลอดเวลาที่ตรวจเช็คร่างกายพลายจุมพล เธอไม่มีสมาธิเท่าใดนัก ในหัวมันมีแต่เรื่องของกิดากานต์ มีทั้งเรื่องที่ทำให้สุขและเรื่องที่ทำให้เสียน้ำตาสรุปแล้วเคสนี้ เธอก็ตัดสินใจบอกกับครวญช้างเจ้าของพลายจุมพลว่าให้เอาตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล เพื่อที่จะได้ทำการเอกซเรย์หาจุดแตกหักของกระดูกทุกอย่างเสร็จสิ้นลงไปอย่างง่ายดาย จนกระทั่งกลับมานั่งบนรถ เพื่อเตรียมตัวกลับ คนที่เคยถามมาตลอดทาง ก็เอาแต่นั่งนิ่งคล้ายมีความคิดวิ่งวนอยู่ในสมองตลอดเวลา“ผมจะไปส่งหมอปริญญ์ไว้ที่โรงพยาบาลเลยนะครับ”“อ๋อ...ค่ะ”“ส่งแล้วก็จะออกไปดูหมออูนที่โรงพยาบาลสักหน่อย วันนี้ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว”“................”ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากใจสั่นๆ ขณะนี้หมอปริญญ์ไม่หลงเหลือความเป็นตัวเองมายาวนานหลายชั่วโมงเหลือเกิน มีแต่แววตาสองจิตสอง

  • เพรงพ่าย   เกลียด

    แต่พอเดินตามกันออกมานอกห้อง ผอ. ก็ไม่ลืมที่จะผายมือไปยังทิศทางหน้าอาคารอำนวยการ ว่าให้ยืนรอคนขับรถมารับที่ตรงนั้นเมื่อผู้อำนวยการขับรถจากไป หมอปริญญ์ก็กลับมาอยู่เพียงลำพัง ที่อาคารพยาบาลไม่มีใครอยู่เลย ไม่มีแม้ช้างสักเชือก ซึ่งอันนี้พอเข้าใจได้ว่า อาจจะไม่มีช้างที่ดูแลต่อเนื่องค้างคืน แต่ถึงจะมีก็อาจจะอยู่ในคอกที่เตรียมไว้ให้ต่างหากมันเกิดขึ้นได้ แต่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นก็คือ ขนาดเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่มีสักคน สิ่งมีชีวิตที่มีตัวๆ พอมองเห็นได้ ก็น่าจะมีแค่เธอ และนกเกาะกิ่งไม้อีกสองตัวเท่านั้นไม่มีปัญหาๆคำๆ นี้ของผู้อำนวยการทำให้เธอถึงกับส่ายหน้ายิ้มขันใครเชื่อก็บ้าแล้ว!หญิงสาวยืนรออยู่ที่เดิมได้เกือบสิบนาที ก็ค่อยๆ สืบเท้ากลับเข้าสู่ตัวอาคารบอร์ดแผนงาน และบอร์ดจิปาถะ ถูกตกแต่งด้วยกระดาษหลากสีแบบฝีมือเด็กประถม ซึ่งมันเคยเหวี่ยงตัวออกจากความน่าสนใจมาตั้งแต่แรกเริ่ม แต่เพราะเวลานี้ ไม่มีสิ่งไหนที่น่าสนใจแม้แต่นิด มันเลยดูมีคุณค่าขึ้นมาทีละนิด ขณะที่คนคิ้วยับย่นเซ็งจัด กำลังขยับเท้าเป็นปู ขนานไปกับบอร์ดติดผนัง เพื่อเดินดูรูปถ่ายการทำงานของคนที่นี่ แต่แล้วหนึ่งในภาพนั้น มันก็ถ่ายติดสัตวแพทย

  • เพรงพ่าย   หมอปริญญ์

    “มาไม่สาย แต่กลับเร็ว เข็มนาฬิกาตรงเป๊ะ ก็ชิ่งเลยครับ”“ถือว่าไม่ผิด แล้วพักที่ไหนอ่ะ ทำไมไม่พักด้วยกันที่นี่”“บ้านนั้นหลังคารั่วยังเข้าไม่ได้ครับ” เขาพูดถึงบ้านพักอีกหลังที่ไม่มีคนอยู่มานานมากแล้ว“อยู่ด้วยกันก็ได้ ดีซะอีก หมอจะได้มีเพื่อน”“หมอปริญญ์รอมาคุยกับหมออูนก่อนครับว่าจะอนุญาตให้อยู่ด้วยรึเปล่า”นอกจากคอจะแข็งเพราะเฝือกแล้ว ดวงตาของคุณหมอกิดากานต์ยังจะขยันกระตุกถี่ๆ คล้ายจะเป็นลางบอกเหตุอะไรสักอย่างปริน มันคือปรินแบบไหน ปริญ ปริน ปริณ ปิน ปริญญ์ไม่หรอกน่า มันคงไม่บังเอิญขนาดนั้น...ถ้าอย่างนั้น ก็ขอถามอีกสักคำถามแล้วกัน“คนขอนแก่นเหรอ”“ไม่นะครับ เพราะตอนนี้พักกับเพื่อนในตัวเมือง ไปกลับหกสิบกิโล เลยอยากพักอยู่ที่นี่”“คนที่ไหน”เอาซี้...หากตอบมาว่าเป็นคนกรุงเทพฯ กิดากานต์สาบานกับตัวเองเลยว่า จะขอกรี๊ดให้มันดังๆ เอาให้สุดเสียงตอนนี้ ตรงนี้เลย พับผ่าสิ!“อันนี้ผมไม่ทราบ”หญิงสาวพ่นลมหายใจฟืดยาวออกมาไม่รู้ตัว หลังจากลุ้นจนตัวโก่ง แต่แล้วก็ต้องรีบหันไปทางเข้าโรงพยาบาล เมื่อลุงคนขับรถชี้บอกว่า“นั่นไง หมอมาแล้ว”เก๋งสีดำ ป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานคร ตัวอักษรในป้ายตามระยะสายตาของห

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status