แชร์

๐๒ ใจหวิว

ผู้เขียน: Cucumber
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-30 03:47:48

สายลมพัดโหมกระหน่ำแรงไปทั่วบริเวณในขณะที่เพลิงฟ้ากำลังบอกกล่าวเจ้าป่าเจ้าเขา ซึ่งมันเป็นเพราะความโกรธเกี้ยวของเหล่าดวงวิญญาณผีร้ายที่อยู่ในกระบอกไม้ไผ่ตรงหน้าของเพลิงฟ้า แต่เขากลับไม่สะทกสะท้านหรือหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย

“พะ พ่อครู”นักรบเอ่ยขึ้นเสียงตะกุกตะกัก เมื่อเห็นว่าเทียนที่อยู่ตรงหน้าเขาใกล้จะดับเพราะแรงของลมที่พัดโหมรุนแรงจนต้นไม้โอนเอียง ใบไม้พัดปลิวไปทั่ว และมีหรือที่แสงไฟจากเปลวเทียนนี่จะรอดแต่…

เพลิงฟ้าลืมตาขึ้นก่อนจะเพ่งจิตมองไปยังเปลวไฟที่ปลิวสไวตามสายลม เขาทำสมาธิและใช้วิชาสกินไฟเพื่อไม่ให้เทียนดับตามปรารถนาของพวกผีร้าย

หลังจากนั้นเขาก็หลับตาลงและบริกรรมคาถาหลายต่อหลายบทเพื่อสะกดดวงวิญญาณอาฆาตเหล่านั้นไว้จนกินเวลาไปหลายชั่วโมง สองหนุ่มด้านหลังที่กำลังหวาดกลัวก็เอาแต่กอดกันกลมและหรี่ตาขึ้นมองเป็นระยะ แม้ใจจะกลัวแต่ก็เป็นห่วงพ่อครูตรงหน้าพวกเขาอยู่ดี อย่างน้อยถ้ามีอะไรผิดพลาดก็จะได้รีบพากันลากเขาออกไปได้ทัน…

สามชั่วโมงต่อมา บรรยากาศโดยรอบก็เริ่มสงบลง เหมราชและนักรบก็คลายกอดออกจากกัน ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ เพราะน้อยครั้งนักที่เพลิงฟ้าจะเป็นคนจัดการอะไรแบบนี้ด้วยตัวเอง ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อครูศิลามากกว่า แต่เพราะว่ารอบนี้เขามาไม่ได้คนที่ต้องทำเลยกลายเป็นพ่อครูเพลิงฟ้าที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาทำแทน

เปลือกตาสีเนื้อเปิดขึ้นช้าๆก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกไม่ต่างจากสองหนุ่มข้างหลัง เพราะเขาไม่ได้ใช้วิชาพวกนี้นานเลยไม่ค่อยถนัดสักเท่าไหร่ แต่มันก็ไม่ได้เหนือกว่าความสามารถของเขานักหรอก

“เอาจอบไปขุดหลุม เอาให้ห่างๆกันนะ”

“ครับๆ”

“ออกได่แล้วแม่นบ่” (ออกได้แล้วใช่ไหม)

ขณะที่นักรบก้าวข้ามสายสิญจน์ออกไป เหมราชที่ลุกขึ้นทีหลังก็เอ่ยถามขึ้นทันทีด้วยความกลัว ทำเอาเพลิงฟ้าต้องยกมือขึ้นตบหัวมันไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้

เพี๊ยะ!

“เอ๊อะ! อ้ายตบข่อยเฮ็ดหยังหนิ!” (โอ้ย! พี่ตบผมทำไมเนี่ย!)

“ขั่นบ่ได่กูสิให่ไปขุดหลุมติบักพาก!” (ถ้าไม่ได้กูจะให้ไปขุดหลุมเหรอไอ้บ้า!)

เพลิงฟ้าเอ่ยว่าเหมราชก่อนจะก้าวออกจากวงล้อมสายสิญจน์เพื่อไปช่วยลูกศิษย์ของเขาขุดหลุมและฝังให้มันเสร็จๆไปสักที ร้อนชิบหายอยากอาบน้ำละ

เหมราชเห็นแบบนั้นจึงไม่รอช้ารีบเดินไปหยิบจอบและทำการช่วยกันขุดหลุมลึกกันหลายต่อหลายหลุม ทำเอาเหงื่อไหลซกกันเลยทีเดียว…

.

.

ใช้เวลาร่วมสองชั่วโมงทั้งสามหนุ่มก็จัดการกับกระบอกไม้ไผ่ทั้งหมดจนเสร็จ และพากันเดินออกมาจากป่าลึกด้วยใบหน้าที่อิดโรยและหอบเหนื่อย

ในขณะที่กำลังจะเดินออกมาพ้นเขตป่าอยู่ๆเพลิงฟ้าก็หยุดชะงักก่อนจะหลับตาลงและขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาเอามือค้ำต้นไม้ไว้เพื่อช่วยพยุงร่างกายของตัวเองและพยายามปรับลมหายใจเข้าออกให้สม่ำเสมอ เพราะเมื่อครู่เขารู้สึกจุกเจ็บที่หน้าอกแปลกๆ

ทำเอาสองหนุ่มที่เดินนำหน้าเขารีบหันกลับมาและปรี่เข้ามาหิ้วปีกเขาแทบจะทันที เพราะด้วยวันนี้ทำพิธีก็หนักพอแล้ว แต่เขายังต้องเอาของพวกนั้นมาจัดการอีก ไม่แปลกที่จะมีหน้ามืดหรือหมดแรงกันไปบ้าง…

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับพ่อครู”

“หน้ามืดบ่อ้าย” (หน้ามืดหรอพี่)

“ไม่…”

“แล้วเป็นอะไรครับ”

เพลิงฟ้าเงยหน้าขึ้นหันไปมองสองเด็กหนุ่มก่อนจะส่ายหน้าให้พวกมัน เป็นเชิงบอกว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน

“ผมว่าเรารีบออกไปกันดีกว่า”

“แม่นๆ” (ใช่ๆ)

เขาไม่ได้ตอบอะไรพวกมันสองคน ทำเพียงแค่เดินต่อในขณะที่เหมราชและนักรบช่วยกันหิ้วปีกเขาอยู่คนละข้างด้วยความทุลักทุเลเพราะว่าเขาค่อนข้างตัวใหญ่ เด็กหนุ่มอย่างพวกมันแบกไม่ไหวก็ไม่แปลก เพลิงฟ้าเลิกสนใจพวกมันสองคนก่อนจะมาสนใจสิ่งที่ตัวเองเป็นเมื่อครู่ มันเกิดอะไรขึ้น เกิดจากอะไร ถึงแม้ว่ามันจะเคยเกิดขึ้นมาก่อนตอนที่เขายังเป็นเด็กที่เกิดอุบัติเหตุกับคนคนนั้น…

แต่นั่นมันก็นานมากแล้วและเขาก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้มันกลับมาเป็นอีก… มันรู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วและเขารู้สึกจุกเจ็บที่อกข้างซ้ายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก มันคล้ายกับสิ่งที่คนเขาเรียกกันว่าใจหวิว หรือเปล่า…

.

.

-สองวันต่อมา-

ตลาดไนท์

หลังจากเกิดเรื่องวันนั้นไอติมก็ไม่ได้กลับไปทำงานอีก และรู้ข่าวมาอีกว่าบอยโดนไล่ออกและโดนแบล็คลิสต์ไม่มีที่ไหนรับเขาเข้าทำงานอีกเพราะพฤติกรรมเลวๆของเขา และเพื่อฉลองและปลอบโยนเธอ

วันนี้พริมโรสเลยพาไอติมมาเที่ยวที่ตลาดไนท์เพื่อผ่อนคลายจิตใจ แต่ที่นี่มันกลับวุ่นวายทำเอาเธอไม่สบายใจมากขึ้นไปอีก มีแต่อะไรก็ไม่รู้… ทำให้ไอติมทำสีหน้าบอกบุญไม่รับจนพริมโรสเริ่มจะรู้สึกกร่อยไปด้วย

“แกอย่าทำหน้าแบบนั้นดิ ไม่สนุกเลย”พริมโรสเอ่ยเสียงงอนๆ

“จะให้ฉันรู้สึกยังไงล่ะ แกก็รู้ว่าฉันเพิ่งเจออะไรมา”

“ขอโทษ…”

“ช่างมันเถอะ ไปดูตรงนู้นกัน”นิ้วเรียวชี้ไปทางฝั่งโซนเสื้อผ้า

พริมโรสจึงไม่รอช้าจับมือไอติมแล้วพาเธอวิ่งไปทางนั้นทันที สองสาวพากันเดินดูนู่นนี่ไปเรื่อยตามประสาผู้หญิง โดยที่ไม่รู้เลยว่ากำลังมีใครบางคนแอบย่องตามพวกเธอมาอยู่

“หนู หนูสองคนช่วยอุดหนุนป้าหน่อยสิลูก”

ขณะที่สองสามกำลังจะเดินเลยโซนดูดวงไป ก็มีเสียงของแม่หมอวัยกลางคนเอ่ยเรียกไว้ ทำให้พวกเธอหยุดชะงักก่อนจะหันกลับไปมอง เห็นเป็นหญิงสาววัยกลางคนสวมเสื้อผ้าหลุดรุ่ยกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้เรียบๆติดพื้น ด้านหน้าของเธอมีไพ่ยิปซีและลูกแก้วสีใสอยู่หนึ่งลูกวางอยู่บนผ้าปูสีซีดที่พื้นดิน

เธอมองมาที่ทั้งคู่ด้วยแววตาที่ว่างเปล่าแต่มันกลับรู้สึกได้ถึงความเศร้าอย่างอธิบายไม่ได้ จากที่ตอนแรกจะเดินเลยๆไปเพราะไอติมไม่ได้เชื่อเรื่องอะไรพวกนี้มากนักแต่ก็ไม่ได้ลบหลู่หรือดูถูก ก็เลือกที่จะหยุดและเดินเข้าไปหาแม่หมอด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแทน

“ได้สิค่ะ ว่าแต่ป้าดูดวงได้ใช่หรือเปล่า”

“ใช่ลูก ใช่”แม่หมอเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงดีใจก่อนจะรีบหาโต๊ะเล็กๆมาให้พวกเธอนั่ง

“งั้นหนูจะดูดวงค่ะ”ไอติมเอ่ยบอกก่อนจะเดินเข้าไปหา แต่โดนพริมโรสดึงไว้ก่อนจะขยับเข้ามากระซิบ

“แกเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอวะ”

“เปล่า แค่สงสารป้าแกเฉยๆ”ไอติมหันไปเอ่ยตอบก่อนจะเดินยิ้มเข้าไปนั่งตรงหน้าป้าหมอดู โดยมีพริมโรสยืนรออยู่ข้างหลัง

“วันนี้ดูแบบไหนดีจ้ะ”หมอดูเอ่ยถาม

“เลือกให้หนูเลยค่ะ”

“อ๋อ งั้นนี่ไหมลูกแก้ว”

“ลองดูก็ได้ค่ะ”

“หนูเขียนวันเดือนปีเกิดมาให้ฉันนะ แล้วเอามือจับลูกแก้วไว้”หมอดูหญิงเอ่ยบอกก่อนจะยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆสีดำกับปากกาขาวให้ไอติม เธอรับมาก่อนจะจัดการเขียนวันเดือนปีเกิดลงไปแล้วยื่นคืนให้แม่หมอ

เธอรับไปโดยที่ยังไม่ได้ก้มดูก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองไอติมแล้วให้เธอวางมือลงบนลูกแก้วพยากรณ์ของเธอ โดยที่แม่หมอเองก็วางมือลงตามด้วยก่อนที่เธอจะหยิบกระดาษใบนั้นออกมาคลี่ดู

แต่จับได้เพียงไม่นานลูกแก้วที่ตอนแรกจับไปมันเย็นตอนนี้กลับรู้สึกร้อนระอุขึ้น ทำเอาไอติมต้องรีบชักมือออก แม่หมอเองก็ไม่ต่างกัน แต่สายตาของเธอยังคงเบิกกว้างมองไปที่กระดาษในมือไม่หยุด

พรึ่บ!

“อะ ออกไป! ไม่ต้องมาร้านฉัน”

“เห้ยป้า ทำอะไรของป้าน่ะ!”พริมโรสโวยเมื่อหมอดูโยนกระดาษใบนั้นใส่หน้าฉัน

“อะ เอ่อ..ทำไมละคะ?”ฉันเองก็ไม่ต่างกัน และได้แต่เอ่ยถามเขากลับด้วยความสงสัย

“ดวงซวยและตกขนาดนี้ ใครจะอดยากดูให้ ไม่มีใครเขาอยากเดือดร้อนด้วยหรอก ออกไปเลยนะอิตัวซวย!”แกเอ่ยไล่พร้อมกับรีบเก็บของด้วยความรีบร้อน

“เอ้าอิแก่นี่ เรียกคนเขามาดูแล้วยังมาว่าเขาอีก เห็นว่าแต่งตัวน่าสงสารเฉยๆหรอกนะ! คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่!”ไอติมเอ่ยสวนกลับก่อนจะลุกพรวดขึ้นแล้วมองไปที่แม่หมออย่างไม่พอใจ เธอก็พอจะรู้ตัวเองอยู่หรอกเรื่องดวง แต่นี่คนอุตส่าห์มาอุดหนุนไหม ปากแบบนี้มันสมควรแล้วที่ไม่มีลูกค้า!

“อย่าไปสนใจเลย ไปเถอะ”พริมโรสที่ยืนอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้น ก่อนจะพาไอติมออกไปจากตรงนี้เพราะกลัวว่าไอติมจะระเบิดลง

จำได้ว่าคราวก่อนที่ไอติมระเบิดลงคือตอนที่โดนแกล้งหนักๆ จนคนที่เก็บกดมานานทนไม่ไหว ด่ากราดบวกกับลงไม่ลงมือจนอีกฝ่ายติดเตียงไปหลายวัน ดีที่พี่ชายของฉันช่วยเคลียร์ให้ เลยทำให้สามสาวอย่างเราโดนดุและจับตาดูไปเกือบอาทิตย์

.

.

หลังจากที่เจอหมอดูทักแบบนั้น ฉันและพริมโรสเลยกลับมาเลยไม่ได้เดินเที่ยวต่อเพราะหมดสนุก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สนุกตั้งแต่แรกเลยก็ตาม

ในขณะที่ฉันกำลังนั่งเขี่ยข้าวกับกับในจานอยู่จู่ๆพริมโรสก็เอ่ยประโยคเชิญชวนขึ้นทำให้ฉันหันไปมองมันทันที

“ไปเที่ยวหาเจ้าขากันไหม”

“ไปทำไม ไปกวนมันเปล่าๆ”

“เอ้า ก็เผื่อบรรยากาศบ้านนาสดชื่นๆมันจะช่วยให้แกดีขึ้นไง อย่างน้อยก็ถือว่าไปพักผ่อนสักอาทิตย์สองอาทิตย์ก็ได้”

“ทำไม แกจะไปเหรอ?”

ฉันหันไปถามมันพร้อมกับมองหน้าอย่างจับผิด ยัยนี่ต้องมีเรื่องอะไรกวนใจแน่ๆไม่งั้นไม่ชวนฉันไปไหนไกลแบบนี้หรอก คนแบบคุณหนูพริมโรสน่ะติดแกรมจะตายไป มีเหรอที่จะอยากไปเที่ยวบ้านไร่บ้านนาให้ตัวเองลำบากแบบนั้น ฉันไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดอะ

“ก็ถ้าแกไป”เอ่ยเสียงเบาพร้อมกับเดินมานั่งลงข้างๆและทำหน้าอ้อนๆ เธอใช้มือสะกิดหัวไหล่ไอติมยิกๆไม่หยุด

“จะไปก็โทรบอกเจ้าขาก่อน”

“เย้!!”

พริมโรสลุกขึ้นพรวดด้วยความดีใจก่อนจะรีบวิ่งเขาไปในห้องนอนพร้อมกับหยิบไอแพดเครื่องหรูของเธอออกมาด้วย และไม่รอช้ากดโทรหาเจ้าขาทันที

ดูความว่องไวนี่สิ ยัยนี่ต้องมีอะไรปิดบังฉันอยู่แน่ๆเลย แต่ก็ช่างเถอะนั่นมันเรื่องส่วนตัวฉันเองก็ไม่อยากยุ่ง…

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เพลิงพยัคฆ์ธารา   ๐๓ ถูกตาถูกปากถูกใจ

    -หนึ่งอาทิตย์ต่อมา-สถานีขนส่งจังหวัดกำแพงเพชรสองสาวสุดสวยเดินลากกระเป๋าไปนั่งรอเพื่อนสาวอย่างจันทร์เจ้าขามารับกันตั้งแต่ตอน7โมงเช้า ตอนนี้ปาเข้าไป8โมงเกือบ9โมงแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นเงายัยเพื่อนตัวดีเลยสักนิด จนพริมโรสเริ่มจะบ่นอิดออดและเอ่ยคาดโทษจันทร์เจ้าขาไว้“มันไม่รับสาย”“ลืมพวกเราแล้วไหมวะ เดี๋ยวถ้ามานะจะจับตีก้นเลย”ปี๊บบ!!“เฮือก!”“เฮือก!”ขณะที่กำลังนั่งบ่นกับเรื่องเพื่อนที่ไม่เห็นจะโผล่หัวมาสักที ทั้งที่คุยกันไว้แล้วแท้ๆ ก็มีเสียงแตรรถดังขึ้นมาเสียก่อนทำเอาเราสองคนสะดุ้งตกใจยกมือขึ้นทาบอกทันที ไอ่บ้าที่ไหนมันมาบีบแตรรถใส่พวกฉันแถวนี้เนี่ย“ไอ้บ้าที่ไหนวะ!”“ใครวะแม่ง”ไอติมและพริมโรสสถบออกมาพร้อมๆกันด้วยความไม่พอใจก่อนจะหันไปทางต้นเสียงด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวเตรียมจะฉะกับคนที่ทำให้พวกเธอตกใจพวกเธอเห็นรถกระบะคันสีดำเงากำลังขับตรงมายังพวกเราสองคน ก่อนที่กระจกรถจะถูกลดลงและเผยให้เห็นคนที่อยู่ด้านใน เป็นชายหนุ่มรูปร่างกายสูงใหญ่เนื้อตัวเต็มไปด้วยมัดกล้าม ผิวสีแทนสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวกับกางเกงสแลคสีดำและคาดด้วยเข็มขัดสีน้ำตาลทรงลุงที่ไม่คิดว่าจะมีใครใช้ แต่เมื่อจับมาอยู่บนตัวขอ

  • เพลิงพยัคฆ์ธารา   ๐๒ ใจหวิว

    สายลมพัดโหมกระหน่ำแรงไปทั่วบริเวณในขณะที่เพลิงฟ้ากำลังบอกกล่าวเจ้าป่าเจ้าเขา ซึ่งมันเป็นเพราะความโกรธเกี้ยวของเหล่าดวงวิญญาณผีร้ายที่อยู่ในกระบอกไม้ไผ่ตรงหน้าของเพลิงฟ้า แต่เขากลับไม่สะทกสะท้านหรือหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย “พะ พ่อครู”นักรบเอ่ยขึ้นเสียงตะกุกตะกัก เมื่อเห็นว่าเทียนที่อยู่ตรงหน้าเขาใกล้จะดับเพราะแรงของลมที่พัดโหมรุนแรงจนต้นไม้โอนเอียง ใบไม้พัดปลิวไปทั่ว และมีหรือที่แสงไฟจากเปลวเทียนนี่จะรอดแต่…เพลิงฟ้าลืมตาขึ้นก่อนจะเพ่งจิตมองไปยังเปลวไฟที่ปลิวสไวตามสายลม เขาทำสมาธิและใช้วิชาสกินไฟเพื่อไม่ให้เทียนดับตามปรารถนาของพวกผีร้าย หลังจากนั้นเขาก็หลับตาลงและบริกรรมคาถาหลายต่อหลายบทเพื่อสะกดดวงวิญญาณอาฆาตเหล่านั้นไว้จนกินเวลาไปหลายชั่วโมง สองหนุ่มด้านหลังที่กำลังหวาดกลัวก็เอาแต่กอดกันกลมและหรี่ตาขึ้นมองเป็นระยะ แม้ใจจะกลัวแต่ก็เป็นห่วงพ่อครูตรงหน้าพวกเขาอยู่ดี อย่างน้อยถ้ามีอะไรผิดพลาดก็จะได้รีบพากันลากเขาออกไปได้ทัน…สามชั่วโมงต่อมา บรรยากาศโดยรอบก็เริ่มสงบลง เหมราชและนักรบก็คลายกอดออกจากกัน ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ เพราะน้อยครั้งนักที่เพลิงฟ้าจะเป็นคนจัดการอะไรแบบนี้ด้

  • เพลิงพยัคฆ์ธารา   ๐๑ เกิดแต่กับฉัน

    ปึก!“อ้ากกกกก! นังบ้า!!”บอยร้องออกมาเสียงดังลั่นด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับยกมือขึ้นกุมท้ายทอยตัวเองไว้เพราะมันทั้งเจ็บและมึน“สมน้ำหน้าไอ้ชั่ว!”เอ่ยจบไอติมก็รีบลุกออกจากเตียงนั่นทันที เธอวิ่งออกมาจากห้องและไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าของตัวเองติดมือมาด้วย มือเล็กรีบล้วงหาโทรศัพท์พร้อมกับกดโทรออกหาเพื่อนทันทีเพื่อขอความช่วยเหลือ“ฮึก… รับสิโรสฮื่อออ”ไอติมเอ่ยออกมาทั้งน้ำตาพร้อมกับวิ่งลงทางบันไดหนีไฟอย่างไม่คิดชีวิต เพราะหากเธอใช้ลิฟท์บอยก็จะรู้ว่าเธอหนีไปไหนและตามไปได้อยู่ดี เธอจึงเลือกกดลิฟท์ให้มันขึ้นไปบนดาดฟ้าและตัวเองวิ่งลงมาชั้นล่างทางบันไดแทนรอสายอยู่สักพักก็มีเสียงปลายสายเอ่ยทักทาย ไอติมรีบกรอกเสียงที่สั่นเครือปนสะอื้นของตนขอความช่วยเหลทอจากเพื่อนทันที“โรส มาหาติมหน่อย ช่วยติมด้วย ฮื่ออ”(มึงอยู่ไหนติม) พริมโรสเอ่ยถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง“ที่….”(ออกมา แล้วหาที่หลบกูกำลังไป)ได้ยินแบบนั้นไอติมก็รีบวิ่งลงไปชั้นล่าง ก่อนจะเห็นว่าบอยยืนกุมหัวและมองหาเธออยู่ ไอติมจึงรีบหลบและแอบมองบอยอยู่ไกลๆ มือเล็กยกขึ้นมาปิดปากและกลั้นหายใจไว้ด้วยความหวาดกลัว..รอไม่นานนักไอติมก็ได้รับข้อความจากเ

  • เพลิงพยัคฆ์ธารา   ๐๐ อารัมภบท

    เสียงเพลงดังกระหึ่มไปทั่วทั้งห้องโถงขนาดใหญ่ บรรยากาศแสงสีเสียงภายในงานทำเอาสาวน้อยหน้าหวานอย่างไอติมอดที่จะใจเต้นตุบๆไม่ได้ แม้จะเคยไปเที่ยวที่ผับที่บาร์กับเพื่อนมาบ้างแต่ว่าตัวเธอนั้นก็ไม่เคยที่จะชินกับมันสักครั้งเท้าเล็กๆเดินตรงไปยังโซนของพนักงานในบริษัทก่อนจะนั่งลงยังโซฟาที่ว่างเพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่าเธอนั้นมาแล้ว เพราะในตอนแรกไม่ได้คิดจะมาแต่เพราะว่ามันเป็นงานของบริษัทที่เธอเพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียงแค่อาทิตย์เดียงเท่านั้น จึงไม่อาจที่จะปฏิเสธได้ อีกอย่างหัวหน้างานของเธอก็เอาแต่คะยั้นคะยอให้มาให้ได้ สุดท้ายก็เลยต้องมานั่งจ๋องอยู่นี่ท่ามกลางผู้คนมากหน้าหลายตาที่แต่งองค์ทรงเครื่องกันมาซะสวยสดหยดย้อยกันไปหมด ซึ่งต่างจากเธอที่สวมเพียงชุดเดรสสั้นเหนือเข่าสีครีมเรียบหรูกับรองเท้าส้นสูงที่ยืมเพื่อนอย่างพริมโรสมา“อ้าว มาแล้วเหรอครับน้องไอติม”บอยหัวหน้างานหัวกะทิของบริษัทเอ่ยทักทายเธอ ก่อนจะถือแก้วไวน์สีใสเดินมานั่งอยู่ด้านข้างแล้วส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร แต่แค่มองดูปราดเดียวก็รู้ว่าคิดไม่ซื่อ!“ค่ะ แต่เดี๋ยวก็จะกลับแล้วพอดีว่ามี…”“มีธุระ”บอยเอ่ยสวนขึ้นก่อนที่เธอจะพูดจบอย่างรู้ทัน เพราะ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status