Share

๐๕ รู้ตัวเองดี

Auteur: Cucumber
last update Dernière mise à jour: 2025-07-06 10:30:31

หลังจากที่ลงจากรถพวกเราก็นั่งคุยกันอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจกินหมูกระทะกันเหมือนเดิม เพราะยังไงก็ซื้อของกันมาแล้วถ้าไม่กินก็เสียดายแย่และตอนนี้ทุกคนเลยกำลังช่วยกันเตรียมของอยู่ โดยมีเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าเหมราชลูกศิษย์ของแฟนเพื่อนมาช่วยด้วยอีกแรง เพราะจันทร์เจ้าขาเดินออกไปหาพ่อครูศิลาผัวของเธอที่อยู่ๆ ก็เดินมาเรียกไป

ฉันแอบเห็นว่าเขาทำสีหน้าเคร่งเครียดตอนเดินมาเรียกด้วย คงไม่มีอะไรไม่ดีหรอกใช่ไหม หรือเป็นเพราะฉันกันนะ ที่หมอนั่นพูด เอ่อ…หมายถึงพ่อครูเพลิงฟ้าพูดว่าดวงตก คงจะหมายถึงฉันสินะ

เขาเป็นพ่อครูคงจะดูออกได้ไม่ยาก เพราะหลังจากที่ฉันดูดวงไปวันนั้นก็ไม่มีใครพูดถึงมันอีกจนมาตอนนี้ คนที่พูดขึ้นมาคือเขาซึ่งเป็นคนนอกที่ไม่น่าจะรู้เรื่องของเธอได้

“ติม”

“...”

“ไอติม!”

ฉึบ!

“โอ้ย! ซี้ดด”

“เห้ย! เป็นอะไรไหมมึง”

พริมโรสรีบวางมือลงจากตะกร้าผักที่จันทร์เจ้าขาวางทิ้งไว้ ก่อนจะรีบเดินเข้ามาดูไอติมทันทีที่ตอนนี้โดนมีดบาดจนเลือดออกเต็มไปหมด มือเล็กจับนิ้วที่โดนบาดไว้แน่นพร้อมกับมองมาที่พริมโรสน้ำตาคลอ

“เดี๋ยวผมไปเอาแนวทำแผลมาให้ครับเอื้อย” เหมราชพูดไทยตกอีกสานเอ่ยบอกด้วยความเร่งรีบ ก่อนจะรีบล้างไม้ล้างมือแล้ววิ่งออกไปหาอุปกรณ์ทำแผลมาให้สองสาวทันที

“แกมานั่งก่อน”

พริมโรสรีบเดินไปประคองแขนและโอบตัวไอติมให้เดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวพร้อมกับเดินไปเอากะละมังใส่น้ำมาให้ไอติมล้างเลือดที่เปื้อนออกก่อน

“ฮึก…” ฟันคมซี่เล็กกัดเข้าที่ริมฝีปากของตัวเองแน่นด้วยความเจ็บแสบ เมื่อน้ำเปล่าค่อยๆ ซึมเข้าไปที่แผลตอนเธอเอามือจุ่มลง

“ทนอีกนิดติม”

“อื้ม ฮึก…”

พริมโรสดึงมือไอติมขึ้นจากน้ำก่อนจะใช้ทิชชู่ซับรอบแผลอย่างเบามือ น้ำลายเหนียวค่อยๆ ไหลลงคอช้าๆ ความเจ็บที่แล่นเข้ามาทำเอาไอติมแทบอยากจะร้องไห้ ทำไมช่วงนี้เธอถึงเจ็บตัวบ่อยนักนะ รอยช้ำที่โดนพี่บอยบีบที่ข้อมือก็ยังไม่หายดีเลย ไหนจะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เจอมาอีก แล้วนี่ตอนนี้ก็มาโดนมีดบาดอีก โชคร้ายเกินไปแล้ว…

“มาแล้วครับเอื้อย”

กึก

“ขอบใจจ้ะ เหมทำต่อเลยเดี๋ยวพี่ทำแผลให้เพื่อนแปปนึงแล้วไปช่วย” พริมโรสหันไปเอ่ยขอบคุณเหมราชด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันกลับมาสนใจแผลของไอติมต่อ

“ได่ครับๆ” (ได้ครับๆ)

พริมโรสหยิบสำลีออกมาจากห่อของมันก่อนจะชุบไปด้วยแอลกอฮอล์เพื่อล้างแผล เธอหันกลับมามองไอติมแล้วถอนหายใจออกมาก่อนจะเอ่ยบอก

“แสบหน่อยนะติม ทนนิดเดียว

“อื้ม ขอบใจนะโรส”

เอ่ยจบพริมโรสก็ค่อยๆ ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดรอบๆ แผลของไอติมช้าๆ และเบามือที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ เนื่องจากไอติมเป็นคนที่อ่อนแอและบอบบางที่สุดในพวกเราสามคน เธอจึงได้รับการดูแลที่ดีมากๆ จากทุกคน เพราะนอกจากเรื่องในอดีตที่ไอติมเจอมานั้นจะหนักมาแล้ว

เรื่องที่เธอมาเรียนต่อก็หนักมากเหมือนกัน เธอโดนแกล้ง โดนต่อว่าบ่อยๆ และรอดจากคนนิสัยไม่ดีพวกนั้นมาได้เพราะพริมโรสและจันทร์เจ้าขา จนสุดท้ายก็กลายมาเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกันด้วยความที่ช่วยเหลือกันมาตลอดทั้งเทอม พวกเธอช่วยไอติมเรื่องพวกนั้น ไอติมก็ช่วยพวกเธอในเรื่องเรียนเช่นเดียวกัน

“เสร็จแล้ว เดี๋ยวแกนั่งพักนะที่เหลือฉันทำเอง”

“ลำบากแกเลย ฉันขอโทษนะโรส” ไอติมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เพราะเธอกำลังรู้สึกผิดที่ต้องปล่อยให้เพื่อนต้องทำส่วนที่เหลือต่อคนเดียว

“ไม่เป็นไร สบายมาก”

เอ่ยจบพริมโรสก็เดินไปช่วยเหมราชทำในส่วนที่เหลือต่อ ไอติมได้แต่ถอนหายใจออกมาก่อนจะมองไปรอบๆ บ้านเรือนไทยหลังนี้ไปเรื่อย เพราะไม่รู้จะทำอะไร โทรศัพท์ก็ไม่อยากเล่นเพราะเพื่อนร่วมงานที่เก่ายังคงทักมาหาเธออยู่ตลอด เลยเลือกที่จะไม่สนใจมันและหาอย่างอื่นทำแทนการเล่นโทรศัพท์ และตลอดเวลาที่อยู่กับพริมโรส เธอก็พาฉันไปบริษัทกับเธอบ้าง ไปสนามแข่งรถของเพื่อนเธอบ้างเพื่อให้ฉันหายเบื่อและลืมเรื่องราวพวกนั้น แม้ว่าจะดีขึ้นแต่มันก็ยังคงจำฝังใจอยู่ดี…

.

.

ไม่นานนักทุกอย่างก็ถูกจัดวางเรียงรายกันอยู่บนโต๊ะ โดยมีเตาหมูกระทะวางอยู่ตรงกลาง และจันทร์เจ้าขาก็เดินกลับมาพร้อมกับสองหนุ่มพ่อครูที่เดินตามหลังมาในเวลาไล่เรี่ยกัน สายตาคมดุของเพลิงฟ้ามองมาสบตากับไอติมครู่นึงก่อนจะละสายตาและเดินมานั่งลงด้านข้าง

หลากจากนั้นทุกคนก็กินหมูกระทะพร้อมกับพูดคุยกันไปเรื่อยเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันกร่อยและเงียบจนเกินไป ส่วนใหญ่จะเป็นเหมราชที่เอ่ยชวนทุกคนคุยก่อนที่เสียงเข้มๆ ดุๆ ของพ่อครูเพลิงฟ้าจะเอ่ยขึ้น ทำให้ทุกคนชะงักมือและหันไปมองเขาเป็นตาเดียวทันที

“ไอติม…”

“...”

ตอนแรกเพลิงฟ้ากะจะพูดออกมาเลย แต่พอเห็นว่าทุกคนกำลังมองมาที่เขาอย่างให้ความสนใจกันหมดแบบนี้ก็ถึงกับพูดไม่ออก จึงถอนหายใจออกมาก่อนจะปัดมือบอกเป็นเชิงว่าไม่มีอะไร แล้วก้มหน้าก้มตากินต่อโดยที่ปล่อยให้ทุกคนมองเขาด้วยความงุนงง

“อะไรของเขา” ไอติมเอ่ยพึมพำกับตัวเองก่อนจะหันมาสนใจหมูตรงหน้าต่อ

มือเล็กพยายามใช้ตะเกียบคีบหมูในกระทะ แต่ทว่าไม่ว่าจะทำเท่าไหร่ก็ไม่สามารถคีบมันได้ เห้อ ใช้ตะเกียบปกติก็ลำบากมากพอแล้ว ตอนนี้ยังต้องมาใช้ตอนที่นิ้วเจ็บอีก ลำบากเกินชีวิตฉัน

พรึ่บ!

“คะ?”

ขณะที่ฉันกำลังตั้งใจใช้ความพยายามคีบหมูบนกระทะ จู่ๆ เนื้อหมูชิ้นนั้นก็ถูกคีบออกจากกระทะต่อหน้าต่อตาก่อนที่มันจะถูกวางลงมาใส่จานของฉันโดยฝีมือของคนที่เอ่ยเรียกชื่อฉันเมื่อกี้ ทำเอาทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ต่างก้มหน้าก้มตากินกันต่อ แต่ฉันแอบเห็นนะว่ายัยพริมโรสกับยัยเจ้าขาแอบยิ้มและส่งซิกกันนะ นิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้เลย จ้องจะเอามาแซวมาหยอกฉันตลอดยัยพวกนี้

“กินสิ”

“อะ เอ่อค่ะ ขอบคุณ…”

เพลิงฟ้าที่เห็นว่าไอติมไม่ยอมกินสักที ก็เอ่ยบอกพร้อมกับมองหน้าเธอนิ่งๆ ไอติมจึงตอบรับและก้มหน้ากินไม่กล้าเงยขึ้นมามองสบตากับเขา คนบ้าอะไรพอถอดแว่นออกแล้วความปากหมาปากไม่ดีก็หายไปด้วย แถมมีความอบอุ่นและอ่อนโยนเข้ามาแทนที่ราวกับคนละคน… แต่แบบนี้ก็ดี ฉันชอบ…

.

.

.

-ตกดึก-

ไอติมที่นอนไม่หลับ ก็เดินออกมาจากห้องนอนพร้อมกับคลุมผ้าคลุมที่หยิบติดมาด้วยตั้งแต่เมื่อบ่าย เธอเดินออกมายังชานบ้านด้านบนก่อนจะเดินไปนั่งห้อยขาลงที่ริมระเบียงไม้แล้วมองบรรยากาศทุ่งนารอบๆ ในยามค่ำยามคืนด้วยสีหน้าที่เหมือนจะสดชื่น เพราะมันคล้ายกับว่าเธอมีอะไรในใจตลอดเลยยิ้มออกมาได้ไม่เต็มที่นัก

เพลิงฟ้าที่นั่งอยู่ไม่ไกลหันไปมองทันทีเมื่อได้ยินเสียงเหมือนคนเดิน เมื่อกวาดสายตามองหาก็พบว่าเป็นไอติมที่ออกมานั่งอยู่ที่ริมระเบียงมองออกไปยังนอกบ้าน เสี้ยวใบหน้าสวยหวานกระทบกับแสงจันทร์สีนวลยามค่ำคืนที่สาดส่องลงมา ทำให้ผิวหน้าขาวเนียนส่องประกายแวววาวราวกับมีมนต์สะกด ปลายจมูกเล็กโด่งรั้น ริมฝีปากบางกระจับอวบอิ่มน่าจูบ….

เพลิงฟ้าที่กำลังเหม่อมองเธอและคิดไปไกลรีบสะบัดหน้าไปมาเพื่อไล่ความคิดของตน ก่อนจะหันกลับไปมองเธออีกครั้งและนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องจะคุยกับเธอตั้งแต่ตอนที่กินหมูกระทะกันแล้วจึงไม่รอช้ารีบสาวเท้าเดินตรงไปหาทันที แต่เหมือนว่าเธอกำลังจะคิดอะไรอยู่ไม่ตกเพราะคิ้วนี่ขมวดเข้ามากันเป็นปมจนจะผูกเป็นโบว์ได้อยู่แล้ว ขนาดเขาเดินมาขนาดนี้ยังไม่ได้ยินและไม่แม้แต่จะหันมามองเลย

เพลิงฟ้าจึงหยุดฝีเท้าลง ซึ่งมันก็อยู่ไม่ไกลจากเธอเท่าไหร่นัก เขายกแขนขึ้นกอดอกแล้วเอนหลังพิงเสาใกล้ๆ ก่อนจะเอ่ยเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเพราะเรื่องที่จะพูดมันค่อนข้างซีเรียส

“ไอติม”

“...”

“ฉันรู้ว่าเธอได้ยิน”

“พ่อครูมีอะไรก็พูดสิคะ”

เธอเอ่ยตอบแต่ไม่ยอมหันมาคุยกับเขาดีๆ แต่รอบนี้พูดดีกว่าตอนแรกที่เจอแฮะ แถมยังเรียกเขาว่าพ่อครูอีกทำเอาคนที่ถูกเรียกแบบนั้นรู้สึกไม่ชินไปเสียเองทั้งๆ ที่ปกติคนอื่นก็เรียกเขาว่าพ่อครู

“มีเรื่องจะบอก”

“เรื่องที่ว่า ใช่เรื่องดวงของฉันหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ขอตอบไว้ก่อนเลยว่ารู้ตัวอยู่แล้ว” เธอหันกลับมามองพร้อมกับเอ่ยบอกในเรื่องที่เขากำลังจะพูดกับเธอพอดี

“เหรอ..”

“ค่ะ” ไอติมนั่งแกว่งขาไปมาแล้วมองมาที่เพลิงฟ้าพร้อมกับขมวดคิ้วใส่และเอ่ยถามกลับ

“ทำไมคะ จะช่วยฉันเหรอ”

“ใครบอก?”

“ก็เห็นถาม”

“แค่จะเตือนเฉยๆ”

“อ๋อ งั้นก็ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันรู้ตัวเองดี” เอ่ยจบไอติมก็กระโดดลงจากระเบียงไม้ ก่อนจะเดินผ่านหน้าเพลิงฟ้าไป แต่ทว่า…

หมับ

“เดี๋ยว”

“คะ?”

มือหนาเลื่อนมาจับข้อมือเล็กไว้พร้อมกับเอ่ยเรียกเธอไว้ ไอติมจึงหันกลับมามองเขาอย่างไม่เข้าใจพร้อมกับเอียงคอถาม

เขาไม่ได้เอ่ยตอบทำเพียงแค่ยกมือเธอขึ้นมาดูใกล้ๆ พร้อมกับเพ่งสายตามองไปที่นิ้วชี้เล็กๆ ที่ตอนนี้มีพลาสเตอร์แปะแผลติดไว้อยู่ ก่อนที่ริมฝีปากหยักสีสดจะเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลงจนน่าแปลกใจ

“เจ็บไหม”

“...”

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • เพลิงพยัคฆ์ธารา   ๐๕ รู้ตัวเองดี

    หลังจากที่ลงจากรถพวกเราก็นั่งคุยกันอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจกินหมูกระทะกันเหมือนเดิม เพราะยังไงก็ซื้อของกันมาแล้วถ้าไม่กินก็เสียดายแย่และตอนนี้ทุกคนเลยกำลังช่วยกันเตรียมของอยู่ โดยมีเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าเหมราชลูกศิษย์ของแฟนเพื่อนมาช่วยด้วยอีกแรง เพราะจันทร์เจ้าขาเดินออกไปหาพ่อครูศิลาผัวของเธอที่อยู่ๆ ก็เดินมาเรียกไปฉันแอบเห็นว่าเขาทำสีหน้าเคร่งเครียดตอนเดินมาเรียกด้วย คงไม่มีอะไรไม่ดีหรอกใช่ไหม หรือเป็นเพราะฉันกันนะ ที่หมอนั่นพูด เอ่อ…หมายถึงพ่อครูเพลิงฟ้าพูดว่าดวงตก คงจะหมายถึงฉันสินะเขาเป็นพ่อครูคงจะดูออกได้ไม่ยาก เพราะหลังจากที่ฉันดูดวงไปวันนั้นก็ไม่มีใครพูดถึงมันอีกจนมาตอนนี้ คนที่พูดขึ้นมาคือเขาซึ่งเป็นคนนอกที่ไม่น่าจะรู้เรื่องของเธอได้“ติม”“...”“ไอติม!”ฉึบ!“โอ้ย! ซี้ดด”“เห้ย! เป็นอะไรไหมมึง”พริมโรสรีบวางมือลงจากตะกร้าผักที่จันทร์เจ้าขาวางทิ้งไว้ ก่อนจะรีบเดินเข้ามาดูไอติมทันทีที่ตอนนี้โดนมีดบาดจนเลือดออกเต็มไปหมด มือเล็กจับนิ้วที่โดนบาดไว้แน่นพร้อมกับมองมาที่พริมโรสน้ำตาคลอ“เดี๋ยวผมไปเอาแนวทำแผลมาให้ครับเอื้อย” เหมราชพูดไทยตกอีกสานเอ่ยบอกด้วยความเร่งรีบ ก่อนจะรีบล้างไม้ล

  • เพลิงพยัคฆ์ธารา   ๐๔ นั่นคน...แต่นี่ไม่ใช่

    หลังจากที่เราขึ้นมานอนพักนอนเล่นกันอยู่สามคนในห้องของจันทร์เจ้าขา เราก็ตกลงกันว่าจะไปซื้อของมาทำหมูกระทะกินกัน และตอนนี้พวกเราก็อยู่ในระหว่างทางกลับบ้านโดยมีพริมโรสเป็นคนขับ จันทร์เจ้าขานั่งอยู่ข้างๆ และไอติมนั่งอยู่ด้านหลังตรงแคปของรถเก๋งคันสีขาวของน้าเดือน แม่ของจันทร์เจ้าขาไอติมมองออกไปนอกรถมองบรรยากาศใกล้ค่ำของบ้านไร่บ้านนาด้วยสีหน้าที่สดชื่นผ่อนคลาย ทำให้เธอลืมเรื่องราวที่โหดร้ายก่อนหน้านี้ได้ดีไม่น้อย แต่ในขณะที่กำลังเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศโดยรอบ อยู่ๆ เสียงเพลงที่เปิดดังกระหึ่มภายในรถก็เงียบลงและบรรยากาศก็เริ่มแปลกไปจนไอติมรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกที่คืบคลานเข้ามาภายในรถ ทั้งที่พวกเธอไม่ได้เปิดแอร์หรือลดกระจกลงเลยสักนิด เธอเลยตัดสินใจเอ่ยถามเพื่อนออกไปทันทีเพราะรู้สึกว่ามันแปลกและวังเวง“กะ เกิดอะไรขึ้นวะ!”“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่น่าจะมีอะไร โรสขับต่อๆ”จันทร์เจ้าขาเอ่ยตอบพร้อมกับยื่นมือไปตีแขนพริมโรสให้ขับรถต่อ แต่ยัยบ้าพริมโรสสาวติดแกรมของกลุ่มเรามันดันปากพล่อย เอ่ยออกมาจนทำเอาไอติมและจันทร์เจ้าขาตกใจ“โอเค ปืนกูก็จับมาแล้ว ถ้าผีโผล่มากูยิงแน่”“แกจะพูดทำไมยัยบ้า!” ไอติมร

  • เพลิงพยัคฆ์ธารา   ๐๓ ถูกตาถูกปากถูกใจ

    -หนึ่งอาทิตย์ต่อมา-สถานีขนส่งจังหวัดกำแพงเพชรสองสาวสุดสวยเดินลากกระเป๋าไปนั่งรอเพื่อนสาวอย่างจันทร์เจ้าขามารับกันตั้งแต่ตอน7โมงเช้า ตอนนี้ปาเข้าไป8โมงเกือบ9โมงแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นเงายัยเพื่อนตัวดีเลยสักนิด จนพริมโรสเริ่มจะบ่นอิดออดและเอ่ยคาดโทษจันทร์เจ้าขาไว้“มันไม่รับสาย”“ลืมพวกเราแล้วไหมวะ เดี๋ยวถ้ามานะจะจับตีก้นเลย”ปี๊บบ!!“เฮือก!”“เฮือก!”ขณะที่กำลังนั่งบ่นกับเรื่องเพื่อนที่ไม่เห็นจะโผล่หัวมาสักที ทั้งที่คุยกันไว้แล้วแท้ๆ ก็มีเสียงแตรรถดังขึ้นมาเสียก่อนทำเอาเราสองคนสะดุ้งตกใจยกมือขึ้นทาบอกทันที ไอ่บ้าที่ไหนมันมาบีบแตรรถใส่พวกฉันแถวนี้เนี่ย“ไอ้บ้าที่ไหนวะ!”“ใครวะแม่ง”ไอติมและพริมโรสสถบออกมาพร้อมๆกันด้วยความไม่พอใจก่อนจะหันไปทางต้นเสียงด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวเตรียมจะฉะกับคนที่ทำให้พวกเธอตกใจพวกเธอเห็นรถกระบะคันสีดำเงากำลังขับตรงมายังพวกเราสองคน ก่อนที่กระจกรถจะถูกลดลงและเผยให้เห็นคนที่อยู่ด้านใน เป็นชายหนุ่มรูปร่างกายสูงใหญ่เนื้อตัวเต็มไปด้วยมัดกล้าม ผิวสีแทนสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวกับกางเกงสแลคสีดำและคาดด้วยเข็มขัดสีน้ำตาลทรงลุงที่ไม่คิดว่าจะมีใครใช้ แต่เมื่อจับมาอยู่บนตัวขอ

  • เพลิงพยัคฆ์ธารา   ๐๒ ใจหวิว

    สายลมพัดโหมกระหน่ำแรงไปทั่วบริเวณในขณะที่เพลิงฟ้ากำลังบอกกล่าวเจ้าป่าเจ้าเขา ซึ่งมันเป็นเพราะความโกรธเกี้ยวของเหล่าดวงวิญญาณผีร้ายที่อยู่ในกระบอกไม้ไผ่ตรงหน้าของเพลิงฟ้า แต่เขากลับไม่สะทกสะท้านหรือหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย “พะ พ่อครู”นักรบเอ่ยขึ้นเสียงตะกุกตะกัก เมื่อเห็นว่าเทียนที่อยู่ตรงหน้าเขาใกล้จะดับเพราะแรงของลมที่พัดโหมรุนแรงจนต้นไม้โอนเอียง ใบไม้พัดปลิวไปทั่ว และมีหรือที่แสงไฟจากเปลวเทียนนี่จะรอดแต่…เพลิงฟ้าลืมตาขึ้นก่อนจะเพ่งจิตมองไปยังเปลวไฟที่ปลิวสไวตามสายลม เขาทำสมาธิและใช้วิชาสกินไฟเพื่อไม่ให้เทียนดับตามปรารถนาของพวกผีร้าย หลังจากนั้นเขาก็หลับตาลงและบริกรรมคาถาหลายต่อหลายบทเพื่อสะกดดวงวิญญาณอาฆาตเหล่านั้นไว้จนกินเวลาไปหลายชั่วโมง สองหนุ่มด้านหลังที่กำลังหวาดกลัวก็เอาแต่กอดกันกลมและหรี่ตาขึ้นมองเป็นระยะ แม้ใจจะกลัวแต่ก็เป็นห่วงพ่อครูตรงหน้าพวกเขาอยู่ดี อย่างน้อยถ้ามีอะไรผิดพลาดก็จะได้รีบพากันลากเขาออกไปได้ทัน…สามชั่วโมงต่อมา บรรยากาศโดยรอบก็เริ่มสงบลง เหมราชและนักรบก็คลายกอดออกจากกัน ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ เพราะน้อยครั้งนักที่เพลิงฟ้าจะเป็นคนจัดการอะไรแบบนี้ด้

  • เพลิงพยัคฆ์ธารา   ๐๑ เกิดแต่กับฉัน

    ปึก!“อ้ากกกกก! นังบ้า!!”บอยร้องออกมาเสียงดังลั่นด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับยกมือขึ้นกุมท้ายทอยตัวเองไว้เพราะมันทั้งเจ็บและมึน“สมน้ำหน้าไอ้ชั่ว!”เอ่ยจบไอติมก็รีบลุกออกจากเตียงนั่นทันที เธอวิ่งออกมาจากห้องและไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าของตัวเองติดมือมาด้วย มือเล็กรีบล้วงหาโทรศัพท์พร้อมกับกดโทรออกหาเพื่อนทันทีเพื่อขอความช่วยเหลือ“ฮึก… รับสิโรสฮื่อออ”ไอติมเอ่ยออกมาทั้งน้ำตาพร้อมกับวิ่งลงทางบันไดหนีไฟอย่างไม่คิดชีวิต เพราะหากเธอใช้ลิฟท์บอยก็จะรู้ว่าเธอหนีไปไหนและตามไปได้อยู่ดี เธอจึงเลือกกดลิฟท์ให้มันขึ้นไปบนดาดฟ้าและตัวเองวิ่งลงมาชั้นล่างทางบันไดแทนรอสายอยู่สักพักก็มีเสียงปลายสายเอ่ยทักทาย ไอติมรีบกรอกเสียงที่สั่นเครือปนสะอื้นของตนขอความช่วยเหลทอจากเพื่อนทันที“โรส มาหาติมหน่อย ช่วยติมด้วย ฮื่ออ”(มึงอยู่ไหนติม) พริมโรสเอ่ยถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง“ที่….”(ออกมา แล้วหาที่หลบกูกำลังไป)ได้ยินแบบนั้นไอติมก็รีบวิ่งลงไปชั้นล่าง ก่อนจะเห็นว่าบอยยืนกุมหัวและมองหาเธออยู่ ไอติมจึงรีบหลบและแอบมองบอยอยู่ไกลๆ มือเล็กยกขึ้นมาปิดปากและกลั้นหายใจไว้ด้วยความหวาดกลัว..รอไม่นานนักไอติมก็ได้รับข้อความจากเ

  • เพลิงพยัคฆ์ธารา   ๐๐ อารัมภบท

    เสียงเพลงดังกระหึ่มไปทั่วทั้งห้องโถงขนาดใหญ่ บรรยากาศแสงสีเสียงภายในงานทำเอาสาวน้อยหน้าหวานอย่างไอติมอดที่จะใจเต้นตุบๆไม่ได้ แม้จะเคยไปเที่ยวที่ผับที่บาร์กับเพื่อนมาบ้างแต่ว่าตัวเธอนั้นก็ไม่เคยที่จะชินกับมันสักครั้งเท้าเล็กๆเดินตรงไปยังโซนของพนักงานในบริษัทก่อนจะนั่งลงยังโซฟาที่ว่างเพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่าเธอนั้นมาแล้ว เพราะในตอนแรกไม่ได้คิดจะมาแต่เพราะว่ามันเป็นงานของบริษัทที่เธอเพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียงแค่อาทิตย์เดียงเท่านั้น จึงไม่อาจที่จะปฏิเสธได้ อีกอย่างหัวหน้างานของเธอก็เอาแต่คะยั้นคะยอให้มาให้ได้ สุดท้ายก็เลยต้องมานั่งจ๋องอยู่นี่ท่ามกลางผู้คนมากหน้าหลายตาที่แต่งองค์ทรงเครื่องกันมาซะสวยสดหยดย้อยกันไปหมด ซึ่งต่างจากเธอที่สวมเพียงชุดเดรสสั้นเหนือเข่าสีครีมเรียบหรูกับรองเท้าส้นสูงที่ยืมเพื่อนอย่างพริมโรสมา“อ้าว มาแล้วเหรอครับน้องไอติม”บอยหัวหน้างานหัวกะทิของบริษัทเอ่ยทักทายเธอ ก่อนจะถือแก้วไวน์สีใสเดินมานั่งอยู่ด้านข้างแล้วส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร แต่แค่มองดูปราดเดียวก็รู้ว่าคิดไม่ซื่อ!“ค่ะ แต่เดี๋ยวก็จะกลับแล้วพอดีว่ามี…”“มีธุระ”บอยเอ่ยสวนขึ้นก่อนที่เธอจะพูดจบอย่างรู้ทัน เพราะ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status