Accueil / โรแมนติก / เพลิงพยัคฆ์ธารา / ๐๔ นั่นคน...แต่นี่ไม่ใช่

Share

๐๔ นั่นคน...แต่นี่ไม่ใช่

Auteur: Cucumber
last update Dernière mise à jour: 2025-07-06 10:29:11

หลังจากที่เราขึ้นมานอนพักนอนเล่นกันอยู่สามคนในห้องของจันทร์เจ้าขา เราก็ตกลงกันว่าจะไปซื้อของมาทำหมูกระทะกินกัน และตอนนี้พวกเราก็อยู่ในระหว่างทางกลับบ้านโดยมีพริมโรสเป็นคนขับ จันทร์เจ้าขานั่งอยู่ข้างๆ และไอติมนั่งอยู่ด้านหลังตรงแคปของรถเก๋งคันสีขาวของน้าเดือน แม่ของจันทร์เจ้าขา

ไอติมมองออกไปนอกรถมองบรรยากาศใกล้ค่ำของบ้านไร่บ้านนาด้วยสีหน้าที่สดชื่นผ่อนคลาย ทำให้เธอลืมเรื่องราวที่โหดร้ายก่อนหน้านี้ได้ดีไม่น้อย แต่ในขณะที่กำลังเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศโดยรอบ อยู่ๆ เสียงเพลงที่เปิดดังกระหึ่มภายในรถก็เงียบลงและบรรยากาศก็เริ่มแปลกไป

จนไอติมรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกที่คืบคลานเข้ามาภายในรถ ทั้งที่พวกเธอไม่ได้เปิดแอร์หรือลดกระจกลงเลยสักนิด เธอเลยตัดสินใจเอ่ยถามเพื่อนออกไปทันทีเพราะรู้สึกว่ามันแปลกและวังเวง

“กะ เกิดอะไรขึ้นวะ!”

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่น่าจะมีอะไร โรสขับต่อๆ”

จันทร์เจ้าขาเอ่ยตอบพร้อมกับยื่นมือไปตีแขนพริมโรสให้ขับรถต่อ แต่ยัยบ้าพริมโรสสาวติดแกรมของกลุ่มเรามันดันปากพล่อย เอ่ยออกมาจนทำเอาไอติมและจันทร์เจ้าขาตกใจ

“โอเค ปืนกูก็จับมาแล้ว ถ้าผีโผล่มากูยิงแน่”

“แกจะพูดทำไมยัยบ้า!” ไอติมรีบเอ่ยว่าพริมโรสทันที แม้จะไม่ได้เชื่อเต็มร้อย แต่ก็ไม่เคยลบหลู่เพราะเธอเองก็กลัวผีเหมือนกัน 

ดวงตาคู่สวยของเธอก็สอดส่องมองไปยังด้านนอกของรถด้วยความหวาดระแวง เพราะตอนนี้ฟ้าก็เริ่มมืดมากๆ แล้ว ไหนจะบรรยากาศแปลกๆ แบบนี้อีก ถ้าบอกว่าไม่มีอะไรก็คงจะเชื่อยาก…

“ดะ เดี๋ยวฉันจะโทรหาพี่เพชรก่อน ฉันว่ามันแปลกๆ” จันทร์เจ้าขาเอ่ยบอกพวกเราเสียงสั่นพร้อมกับควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋า

ในขณะนั้นจู่ๆ ก็มีอะไรสักอย่างวิ่งตัดหน้ารถทำเอาทั้งสามคนตกใจกรี๊ดออกมากันสุดเสียง พร้อมกับพริมโรสที่เหยียบเบรกทันทีทำเอาไอติมหัวชนเข้ากับเบาะของจันทร์เจ้าขาเข้าเต็มแรง

“กรี๊ดดดด!!!”

เอี๊ยดดด!!

“ตัวอะไรวะ!” พริมโรสสถบออกมาด้วยความตกใจก่อนจะเพ่งมองไปยังอะไรสักอย่างที่หน้ารถ คล้ายกับคนที่กำลังนอนอยู่ เลยทำท่าจะเปิดออกไปดูทว่า

“อย่า! อย่าเปิด”

“แต่นั่น…”

ในขณะที่เพื่อนกำลังคุยกัน ไอติมก็ขยับหัวและตัวของตัวเองออกมาห่างจากเบาะแล้วยกมือขึ้นมาจับคลึงหัวตัวเอง เพราะกำลังมึน แต่ยังไม่ทันได้หายมึนหางตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างเข้าเสียก่อน… จึงไม่รอช้ารีบหันไปมองทันทีเพราะไม่อยากคิดหรือมโนไปเอง

“กรี๊ดด! เจ้าขามึงตรงกระจกข้างกูฮื่ออ!”

แต่พอหันไปเธอก็กรี๊ดออกมาสุดเสียงพร้อมกับเอ่ยบอกเพื่อน ไอติมกระโดดออกห่างจากกระจกข้างๆ ฝั่งเดียวกับจันทร์เจ้าขาก่อนจะถอยกรูดไปหลบอยู่หลังเบาพริมโรสแทน เมื่อเธอเห็นผีผู้หญิงที่มีใบหน้าเละผิวดำคล้ำผมเพ้ายุ่งเหยิงกำลังส่องมองเข้ามาภายในรถฝั่งที่เธอนั่งอยู่ก่อนหน้านี้พอดี

“ฉันจะโทรหาพี่เพชร พวกแกหลับตาไว้อย่ามองออกไป อย่าพูดเป็นเชิงเชิญชวนเข้าใจไหม” จันทร์เจ้าขาเอ่ยบอกเสียงสั่น

ไอติมรีบกลับตาลงทันทีด้วยความหวาดกลัวและไม่กล้ามอง หัวใจดวงน้อยเต้นตุบๆ คล้ายกับตอนที่เธอเจอเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานมาก่อนหน้านี้ไม่มีผิด ต่างกันตรงที่นั่นคนแต่นี่…ไม่ใช่

หลังจากที่หลับตาลงไอติมก็ไม่ได้รับฟังอะไรอีกเลย คล้ายกับว่าเธอปิดหมดทั้งโสทประสาทสัมผัสหรือรับรู้ไปจนหมดสิ้นแล้ว เพราะกลัวจนทำอะไรไม่ถูกไม่กล้าขยับหรือกระดุกกระดิกไปไหน ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย แล้วไอ่ตัวเมื่อกี้น่ะผีใช่ไหม ผีแน่ๆ ฮื่อออ

กุกกัก กุกกัก

ไอติมได้ยินเสียงอะไรบางอย่างคล้ายกับว่ากำลังพยายามกระชากหรือเปิดประตูออก เธอจึงขยับหนีไปติดที่ขอบประตูอีกฝั่งจนแนบชิด มือเรียวยกขึ้นไปเกาะเบาะที่พริมโรสนั่งไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เธอแทบจะกลั้นหายใจได้อยู่แล้ว เมื่อไหร่จะมีคนมาช่วยพวกเราสักที

ปึง!!

“เฮือก! อึก…”

ไอติมสะดุ้งตกใจพร้อมกับรับรู้ได้ถึงความเย็นยะเยือกที่คืบคลานเข้าหา จนเธอต้องขยับถอยหนีแม้ว่ามันจะหนีไปไกลกว่านี้ไม่ได้แล้วก็ตาม ขยับไว้ก่อน…

“โรส ติม อย่าลืมตา! เปิดประตูแล้วออกไป! เชื่อกู!” จันทร์เจ้าขาเอ่ยขึ้นเสียงดังลั่น

หูได้ยิน แต่ด้วยความกลัวเพราะอยู่ๆ ก็บอกห้ามลืมตาขึ้น นั่นแสดงว่าเสียงเมื่อกี้คือ ประตูรถที่ถูกเปิดออกแล้วแน่ๆ … ไอติมเกาะเบาะรถไว้แน่นพร้อมกับหลับตาปี๋กลั้นหายใจไม่กล้าขยับตัว เธอเอ่ยเสียงสั่นบอกจันทร์เจ้าขา

“ฮึก กูกลัว”

ปึง! ตึก ตึก ตึก

โสทประสาทการรับรู้ของไอติมตอนนี้ รู้แค่ว่าจันทร์เจ้าขาเปิดประตูออกจากรถไปแล้ว นี่ยัยบ้านั่นจะปล่อยเธอกับยัยพริมโรสไว้แบบนี้เหรอ! 

พรึ่บ!

“อ๊ะ!”

ขณะที่กำลังก่นด่าเพื่อนในใจ ประตูอีกฝั่งก็ถูกเปิดออก ก่อนที่ร่างกายของฉันจะโดนยัยเจ้าขาหิ้วปีกออกมานอกรถอย่างทุลักทุเล เมื่อรู้แบบนั้นฉันก็รีบเปลี่ยนที่พึ่งพิงจากเกาะเบาะรถเปลี่ยนมาเป็นเกาะแขนจันทร์เจ้าขาไว้แทน จันทร์เจ้าขาเองก็กอดตอบเธอไว้แน่นเช่นเดียวกัน

ขณะที่กำลังยืนกอดกันกลมก็มีเสียงคล้ายเสียงของรถมอเตอร์ไซค์ขับเข้ามาใกล้และก่อนที่มันจะดังขึ้นมากกว่าเดิม ฉันก็ได้ยินเสียงของจันทร์เจ้าขาเอ่ยบอกพอดี

“พวกมึง ละ ลืมตามีคนมาช่วยเราแล้ว” ได้ยินแบบนั้นไอติมและพริมโรสจึงลืมตาขึ้น แต่ทว่า…. ผีมันยังอยู่! แถมไม่ได้มีตัวเดียวด้วย ยังมีผีเด็กอีกสองตัว

“อะ อีเหี้ย! มึงให้พวกกูลืมตาทำไม” ฉันเอ่ยขึ้นทันทีพร้อมกับยืนเกาะหลังจันทร์เจ้าขาไว้

“จะ จริง หัวใจจะวาย” พริมโรสเอ่ยเสริมพร้อมกับมาเกาะหลังฉันอีกที

“ถ้าพวกมึงไม่ปล่อย มันจะเข้ามาใกล้เราแล้วเราก็จะโดนแดกกันหมด” จันทร์เจ้าขาเอ่ยพร้อมกับพยายามแกะมือพวกเราออก

“อิหล่าเป็นอิหยังบ่” (หนูเป็นอะไรไหม) เสียงนุ่มทุ้มของคนที่มาใหม่เอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหาพวกเธอ คาดว่าน่าจะเป็นพ่อครูศิลาผัวหมาดๆ ของจันทร์เจ้าขา

“ไม่ค่ะ ลืมตาได้แล้วมันไปแล้ว”

ได้ยินแบบนั้นไอติมจึงยอมเปิดเปลือกตาออกและมองสำรวจไปรอบๆ ด้วยความระแวง ไม่ต่างจากพริมโรสที่ยังคงยืนเกาะแขนเธอไว้อยู่ จากคนที่ไม่เชื่อเรื่องอะไรแบบนี้เท่าไหร่ ตอนนี้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วแหละ เพราะเจอกับตาเห็นเป็นตัวๆ

ในขณะที่กำลังมองไปทั่วอย่างหวาดระแวงสายตาของเธอก็ไปสะดุดเข้ากับเขา คนเมื่อเช้าที่ชื่อเพลิงฟ้าและเป็นพ่อครูกำลังเดินตรงมาและมองไปสองข้างทางที่เป็นป่าด้วยสีหน้าและแววตาเรียบนิ่ง ตอนแรกที่คิดว่าเขาหล่อมากๆ แล้ว ตอนนี้กลับหล่อมากขึ้นไปอีก เพราะเมื่อเช้าเขาใส่แว่นเลยเห็นได้ไม่ชัด แต่ตอนนี้… เขาไม่ได้ใส่ ทำให้ฉันได้เห็นใบหน้าที่แสนจะเพอร์เฟคและดวงตาคู่ดุของเขาได้เต็มสองตา หล่อ หล่อมากจริงๆ

เพลิงฟ้าหันมาสบตาเข้ากับเธอ ทำให้ไอติมรีบละสายตาออกจากเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อมองแล้วไม่มีอะไรจึงอดไม่ได้ที่จะต้องเอ่ยปากขอบคุณ แม้จะไม่ชอบขี้หน้าเขาก็ตาม ไม่สิหน้าน่ะชอบอยู่แต่ปาก… ไม่อยากพูดถึง แต่เอาเถอะยังไงก็มาช่วยพวกเธอ

“ขอบคุณนะคะที่มาช่วยพวกเรา” ไอติมเอ่ยขอบคุณพร้อมกับมองไปที่เพลิงฟ้าที่กำลังยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองมาที่เธออยู่

“หึ ดวงตกจนพาคนอื่นมาซวย” เพลิงฟ้าเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปนั่งในรถเก๋งอย่างถือวิสาสะ

.

.

ไอติมเข้ามานั่งในรถอีกครั้ง โดยมีพริมโรสและเพลิงฟ้านั่งขนาบข้างเธออยู่ จนไอติมแทบจะทำตัวไม่ถูกเพราะไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายแบบนี้มาก่อน ถ้าไม่นับเรื่องเลวร้ายที่เจอมาน่ะนะ แล้วอีกอย่างกลิ่นหอมอ่อนๆ นี่มันคืออะไร ผู้ชายปากหมาแบบนี้รู้จักฉีดน้ำหอมกับเขาด้วยเหรอ แต่มันคือกลิ่นอะไรทำไมหอมจัง…

ใช้เวลาไม่นานรถเก๋งคันสีขาวก็ขับตามหลังรถสามล้อเข้ามายังลานกว้างบริเวณหน้าบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ ซึ่งตอนแรกมันมืดสนิทเพราะไม่ได้เปิดไฟไว้ แต่พอรถที่พวกเรานั่งมาดับลง แสงไฟบนบ้านก็สว่างจ้าขึ้นทันที ทำเอาไอติมตกใจกลัวขึ้นมาอีกครั้งเพราะเมื่อกี้ก็ยังไม่หายตกใจเลยด้วยซ้ำ ทำให้เผลอเลื่อนมือไปจับและออกแรงบีบจิกลงที่หน้าขาของใครอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างไม่ได้ตั้งใจ มือเล็กสั่นระริกจนลามไปทั้งตัวและหอบหายในถี่

ทำเอาคนที่ถูกเธอใช้เล็บจิกและออกแรงบีบต้องหันไปมอง จากคนที่ปากกล้าเมื่อเช้าตอนนี้กลับกลายเป็นลูกแมวน้อยที่กำลังหวาดกลัวตัวสั่นเสียอย่างนั้น 

นึกแล้วก็อดที่จะขำและเอ็นดูเธอไม่น้อย หากว่าตัดเรื่องที่ปากไม่ดีว่าเขาจะหาเมียไม่ได้ละก็… หึ เขาอาจจะเก็บเธอมาเป็นหนึ่งในตัวเลือกก็ได้ ถึงแม้ว่าจะมีคนที่อยู่ในใจมานานแล้วก็เถอะ แต่เพราะว่าตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยไม่รู้ว่าเธอเป็นยังไบ้างและอยู่ที่ไหน…

เพลิงฟ้าปล่อยให้เธอจับอยู่แบบนั้นไม่ได้เอ่ยปากว่าอะไรแต่เพราะเธอยังสั่นและออกแรงบีบไม่หยุด อีกทั้งเล็บคมๆ ของเธอกำลังจิกเขาจนเนื้อผ้ากางเกงราคาแพงของเขาแทบจะขาด 

เพลิงฟ้าจึงถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเลื่อนมือไปจับมือเล็กนั่นไว้แล้วออกแรงบีบเบาๆ เป็นเชิงบอกเธอว่าไม่มีอะไร ไม่เป็นอะไรแล้ว ไอติมจึงผ่อนแรงบีบลงพร้อมกับหันไปมองเขาด้วยสายตาที่อ่อนลงกว่าในตอนแรกที่เจอกัน เพลิงฟ้าเองก็ไม่ต่างกันเขามองเสี้ยวใบหน้าหวานของเธอไม่ละไปไหน 

มองๆ ดูไปแล้ว ยัยนี่ก็สวยเหมือนกันแฮะ เหมือนกับเธอคนนั้นเลย ริมฝีปากบางๆ เล็กๆ สีชมพูอ่อน แก้มเนียนใสมีสีเลือดฝาดสองข้างแก้ม คิ้วโก่งโค้งเรียงตัวสวย ดวงตาสีดำขลับคู่สวยที่พอมองแล้วมันคล้ายกับว่าเขากำลังถูกต้องมนต์สะกดจากแววตานั่น ไหนจะโครงหน้ารูปไข่นี่อีก บอกตามตรงเลยว่านี่คือสเป็กของเขา แต่ว่าตอนที่เจอกันปากดันไม่ดีใส่กันไปหน่อย…

ก่อนที่จะมองไปมากกว่านั้น เพลิงฟ้าก็รีบละสายตาออกจากเธอและเบนไปทางอื่น เมื่อได้ยินเสียงของจันทร์เจ้าขาเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในรถที่จอดสนิท

“ลงไปกันเถอะ”

สายตาของจันทร์เจ้าขาเลื่อนมองต่ำลงไปเห็นมือของไอติมกำลังถูกกุมไว้ในมือของเพลิงฟ้าอยู่จึงเผลอยิ้มออกมา นั่นทำให้ไอติมที่เพิ่งรู้สึกตัวรีบดึงมือของตัวเองออกจากการเกาะกุมของเขาทันที ก่อนจะรีบลุกออกจากรถตามหลังของพริมโรสไปด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน

“หึ” เพลิงฟ้าขำในลำคอและเผลอยิ้มออกมา ทำให้ศิลาที่นั่งอยู่ไม่ยอมลงจากรถไปไหนมองเขาผ่านกระจกแล้วกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นก่อนจะเอ่ยแซว

“ได่ข่าววาตีกัน เป็นหยังยามนี่บ่เห็นสิคือคนตีกันเลยวะ” (ได้ข่าวว่าตีกัน ทำไมตอนนี้ไม่เห็นจะเหมือนคนตีกันเลยวะ) 

“เสือก!”

ศิลาส่ายหน้าให้เพื่อนก่อนจะขำเงียบๆ อยู่คนเดียวในลำคออย่างชอบใจที่ได้เอาคืนมันที่ชอบแซวเรื่องเขากับจันทร์เจ้าขา 

ศิลาเอื้อมมือไปเปิดประตูออกแล้วลงไปจากรถทันที และยังไม่ลืมที่จะหยิบของที่สาวๆ ซื้อมาที่ฝากระโปงหลังของรถออกมาด้วย ซึ่งเขาก็ไม่รู้หรอกว่าพวกเธอจะยังมีกะจิตกะใจจะกินหมูกระทะกันลงอยู่หรือเปล่าหลังจากที่เจอเหตุการณ์แบบนั้นมา…

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • เพลิงพยัคฆ์ธารา   ๐๕ รู้ตัวเองดี

    หลังจากที่ลงจากรถพวกเราก็นั่งคุยกันอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจกินหมูกระทะกันเหมือนเดิม เพราะยังไงก็ซื้อของกันมาแล้วถ้าไม่กินก็เสียดายแย่และตอนนี้ทุกคนเลยกำลังช่วยกันเตรียมของอยู่ โดยมีเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าเหมราชลูกศิษย์ของแฟนเพื่อนมาช่วยด้วยอีกแรง เพราะจันทร์เจ้าขาเดินออกไปหาพ่อครูศิลาผัวของเธอที่อยู่ๆ ก็เดินมาเรียกไปฉันแอบเห็นว่าเขาทำสีหน้าเคร่งเครียดตอนเดินมาเรียกด้วย คงไม่มีอะไรไม่ดีหรอกใช่ไหม หรือเป็นเพราะฉันกันนะ ที่หมอนั่นพูด เอ่อ…หมายถึงพ่อครูเพลิงฟ้าพูดว่าดวงตก คงจะหมายถึงฉันสินะเขาเป็นพ่อครูคงจะดูออกได้ไม่ยาก เพราะหลังจากที่ฉันดูดวงไปวันนั้นก็ไม่มีใครพูดถึงมันอีกจนมาตอนนี้ คนที่พูดขึ้นมาคือเขาซึ่งเป็นคนนอกที่ไม่น่าจะรู้เรื่องของเธอได้“ติม”“...”“ไอติม!”ฉึบ!“โอ้ย! ซี้ดด”“เห้ย! เป็นอะไรไหมมึง”พริมโรสรีบวางมือลงจากตะกร้าผักที่จันทร์เจ้าขาวางทิ้งไว้ ก่อนจะรีบเดินเข้ามาดูไอติมทันทีที่ตอนนี้โดนมีดบาดจนเลือดออกเต็มไปหมด มือเล็กจับนิ้วที่โดนบาดไว้แน่นพร้อมกับมองมาที่พริมโรสน้ำตาคลอ“เดี๋ยวผมไปเอาแนวทำแผลมาให้ครับเอื้อย” เหมราชพูดไทยตกอีกสานเอ่ยบอกด้วยความเร่งรีบ ก่อนจะรีบล้างไม้ล

  • เพลิงพยัคฆ์ธารา   ๐๔ นั่นคน...แต่นี่ไม่ใช่

    หลังจากที่เราขึ้นมานอนพักนอนเล่นกันอยู่สามคนในห้องของจันทร์เจ้าขา เราก็ตกลงกันว่าจะไปซื้อของมาทำหมูกระทะกินกัน และตอนนี้พวกเราก็อยู่ในระหว่างทางกลับบ้านโดยมีพริมโรสเป็นคนขับ จันทร์เจ้าขานั่งอยู่ข้างๆ และไอติมนั่งอยู่ด้านหลังตรงแคปของรถเก๋งคันสีขาวของน้าเดือน แม่ของจันทร์เจ้าขาไอติมมองออกไปนอกรถมองบรรยากาศใกล้ค่ำของบ้านไร่บ้านนาด้วยสีหน้าที่สดชื่นผ่อนคลาย ทำให้เธอลืมเรื่องราวที่โหดร้ายก่อนหน้านี้ได้ดีไม่น้อย แต่ในขณะที่กำลังเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศโดยรอบ อยู่ๆ เสียงเพลงที่เปิดดังกระหึ่มภายในรถก็เงียบลงและบรรยากาศก็เริ่มแปลกไปจนไอติมรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกที่คืบคลานเข้ามาภายในรถ ทั้งที่พวกเธอไม่ได้เปิดแอร์หรือลดกระจกลงเลยสักนิด เธอเลยตัดสินใจเอ่ยถามเพื่อนออกไปทันทีเพราะรู้สึกว่ามันแปลกและวังเวง“กะ เกิดอะไรขึ้นวะ!”“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่น่าจะมีอะไร โรสขับต่อๆ”จันทร์เจ้าขาเอ่ยตอบพร้อมกับยื่นมือไปตีแขนพริมโรสให้ขับรถต่อ แต่ยัยบ้าพริมโรสสาวติดแกรมของกลุ่มเรามันดันปากพล่อย เอ่ยออกมาจนทำเอาไอติมและจันทร์เจ้าขาตกใจ“โอเค ปืนกูก็จับมาแล้ว ถ้าผีโผล่มากูยิงแน่”“แกจะพูดทำไมยัยบ้า!” ไอติมร

  • เพลิงพยัคฆ์ธารา   ๐๓ ถูกตาถูกปากถูกใจ

    -หนึ่งอาทิตย์ต่อมา-สถานีขนส่งจังหวัดกำแพงเพชรสองสาวสุดสวยเดินลากกระเป๋าไปนั่งรอเพื่อนสาวอย่างจันทร์เจ้าขามารับกันตั้งแต่ตอน7โมงเช้า ตอนนี้ปาเข้าไป8โมงเกือบ9โมงแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นเงายัยเพื่อนตัวดีเลยสักนิด จนพริมโรสเริ่มจะบ่นอิดออดและเอ่ยคาดโทษจันทร์เจ้าขาไว้“มันไม่รับสาย”“ลืมพวกเราแล้วไหมวะ เดี๋ยวถ้ามานะจะจับตีก้นเลย”ปี๊บบ!!“เฮือก!”“เฮือก!”ขณะที่กำลังนั่งบ่นกับเรื่องเพื่อนที่ไม่เห็นจะโผล่หัวมาสักที ทั้งที่คุยกันไว้แล้วแท้ๆ ก็มีเสียงแตรรถดังขึ้นมาเสียก่อนทำเอาเราสองคนสะดุ้งตกใจยกมือขึ้นทาบอกทันที ไอ่บ้าที่ไหนมันมาบีบแตรรถใส่พวกฉันแถวนี้เนี่ย“ไอ้บ้าที่ไหนวะ!”“ใครวะแม่ง”ไอติมและพริมโรสสถบออกมาพร้อมๆกันด้วยความไม่พอใจก่อนจะหันไปทางต้นเสียงด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวเตรียมจะฉะกับคนที่ทำให้พวกเธอตกใจพวกเธอเห็นรถกระบะคันสีดำเงากำลังขับตรงมายังพวกเราสองคน ก่อนที่กระจกรถจะถูกลดลงและเผยให้เห็นคนที่อยู่ด้านใน เป็นชายหนุ่มรูปร่างกายสูงใหญ่เนื้อตัวเต็มไปด้วยมัดกล้าม ผิวสีแทนสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวกับกางเกงสแลคสีดำและคาดด้วยเข็มขัดสีน้ำตาลทรงลุงที่ไม่คิดว่าจะมีใครใช้ แต่เมื่อจับมาอยู่บนตัวขอ

  • เพลิงพยัคฆ์ธารา   ๐๒ ใจหวิว

    สายลมพัดโหมกระหน่ำแรงไปทั่วบริเวณในขณะที่เพลิงฟ้ากำลังบอกกล่าวเจ้าป่าเจ้าเขา ซึ่งมันเป็นเพราะความโกรธเกี้ยวของเหล่าดวงวิญญาณผีร้ายที่อยู่ในกระบอกไม้ไผ่ตรงหน้าของเพลิงฟ้า แต่เขากลับไม่สะทกสะท้านหรือหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย “พะ พ่อครู”นักรบเอ่ยขึ้นเสียงตะกุกตะกัก เมื่อเห็นว่าเทียนที่อยู่ตรงหน้าเขาใกล้จะดับเพราะแรงของลมที่พัดโหมรุนแรงจนต้นไม้โอนเอียง ใบไม้พัดปลิวไปทั่ว และมีหรือที่แสงไฟจากเปลวเทียนนี่จะรอดแต่…เพลิงฟ้าลืมตาขึ้นก่อนจะเพ่งจิตมองไปยังเปลวไฟที่ปลิวสไวตามสายลม เขาทำสมาธิและใช้วิชาสกินไฟเพื่อไม่ให้เทียนดับตามปรารถนาของพวกผีร้าย หลังจากนั้นเขาก็หลับตาลงและบริกรรมคาถาหลายต่อหลายบทเพื่อสะกดดวงวิญญาณอาฆาตเหล่านั้นไว้จนกินเวลาไปหลายชั่วโมง สองหนุ่มด้านหลังที่กำลังหวาดกลัวก็เอาแต่กอดกันกลมและหรี่ตาขึ้นมองเป็นระยะ แม้ใจจะกลัวแต่ก็เป็นห่วงพ่อครูตรงหน้าพวกเขาอยู่ดี อย่างน้อยถ้ามีอะไรผิดพลาดก็จะได้รีบพากันลากเขาออกไปได้ทัน…สามชั่วโมงต่อมา บรรยากาศโดยรอบก็เริ่มสงบลง เหมราชและนักรบก็คลายกอดออกจากกัน ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ เพราะน้อยครั้งนักที่เพลิงฟ้าจะเป็นคนจัดการอะไรแบบนี้ด้

  • เพลิงพยัคฆ์ธารา   ๐๑ เกิดแต่กับฉัน

    ปึก!“อ้ากกกกก! นังบ้า!!”บอยร้องออกมาเสียงดังลั่นด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับยกมือขึ้นกุมท้ายทอยตัวเองไว้เพราะมันทั้งเจ็บและมึน“สมน้ำหน้าไอ้ชั่ว!”เอ่ยจบไอติมก็รีบลุกออกจากเตียงนั่นทันที เธอวิ่งออกมาจากห้องและไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าของตัวเองติดมือมาด้วย มือเล็กรีบล้วงหาโทรศัพท์พร้อมกับกดโทรออกหาเพื่อนทันทีเพื่อขอความช่วยเหลือ“ฮึก… รับสิโรสฮื่อออ”ไอติมเอ่ยออกมาทั้งน้ำตาพร้อมกับวิ่งลงทางบันไดหนีไฟอย่างไม่คิดชีวิต เพราะหากเธอใช้ลิฟท์บอยก็จะรู้ว่าเธอหนีไปไหนและตามไปได้อยู่ดี เธอจึงเลือกกดลิฟท์ให้มันขึ้นไปบนดาดฟ้าและตัวเองวิ่งลงมาชั้นล่างทางบันไดแทนรอสายอยู่สักพักก็มีเสียงปลายสายเอ่ยทักทาย ไอติมรีบกรอกเสียงที่สั่นเครือปนสะอื้นของตนขอความช่วยเหลทอจากเพื่อนทันที“โรส มาหาติมหน่อย ช่วยติมด้วย ฮื่ออ”(มึงอยู่ไหนติม) พริมโรสเอ่ยถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง“ที่….”(ออกมา แล้วหาที่หลบกูกำลังไป)ได้ยินแบบนั้นไอติมก็รีบวิ่งลงไปชั้นล่าง ก่อนจะเห็นว่าบอยยืนกุมหัวและมองหาเธออยู่ ไอติมจึงรีบหลบและแอบมองบอยอยู่ไกลๆ มือเล็กยกขึ้นมาปิดปากและกลั้นหายใจไว้ด้วยความหวาดกลัว..รอไม่นานนักไอติมก็ได้รับข้อความจากเ

  • เพลิงพยัคฆ์ธารา   ๐๐ อารัมภบท

    เสียงเพลงดังกระหึ่มไปทั่วทั้งห้องโถงขนาดใหญ่ บรรยากาศแสงสีเสียงภายในงานทำเอาสาวน้อยหน้าหวานอย่างไอติมอดที่จะใจเต้นตุบๆไม่ได้ แม้จะเคยไปเที่ยวที่ผับที่บาร์กับเพื่อนมาบ้างแต่ว่าตัวเธอนั้นก็ไม่เคยที่จะชินกับมันสักครั้งเท้าเล็กๆเดินตรงไปยังโซนของพนักงานในบริษัทก่อนจะนั่งลงยังโซฟาที่ว่างเพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่าเธอนั้นมาแล้ว เพราะในตอนแรกไม่ได้คิดจะมาแต่เพราะว่ามันเป็นงานของบริษัทที่เธอเพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียงแค่อาทิตย์เดียงเท่านั้น จึงไม่อาจที่จะปฏิเสธได้ อีกอย่างหัวหน้างานของเธอก็เอาแต่คะยั้นคะยอให้มาให้ได้ สุดท้ายก็เลยต้องมานั่งจ๋องอยู่นี่ท่ามกลางผู้คนมากหน้าหลายตาที่แต่งองค์ทรงเครื่องกันมาซะสวยสดหยดย้อยกันไปหมด ซึ่งต่างจากเธอที่สวมเพียงชุดเดรสสั้นเหนือเข่าสีครีมเรียบหรูกับรองเท้าส้นสูงที่ยืมเพื่อนอย่างพริมโรสมา“อ้าว มาแล้วเหรอครับน้องไอติม”บอยหัวหน้างานหัวกะทิของบริษัทเอ่ยทักทายเธอ ก่อนจะถือแก้วไวน์สีใสเดินมานั่งอยู่ด้านข้างแล้วส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร แต่แค่มองดูปราดเดียวก็รู้ว่าคิดไม่ซื่อ!“ค่ะ แต่เดี๋ยวก็จะกลับแล้วพอดีว่ามี…”“มีธุระ”บอยเอ่ยสวนขึ้นก่อนที่เธอจะพูดจบอย่างรู้ทัน เพราะ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status