Início / รักโบราณ / เพลิงรักใต้เงาแค้น / เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 7

Compartilhar

เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 7

Autor: Bosskerr
last update Última atualização: 2025-10-07 01:29:58

“ข้าตายในหลุมทรายนั้นจริง...แต่ไม่ใช่ตายอย่างที่พวกเจ้าคิด วันนั้นร่างข้าถูกทรายถล่มทับ กลบเสียงตะโกนของสหายจนเงียบงัน หากมิใช่เพราะมีผู้คนกลุ่มหนึ่งดึงข้าออกมาอย่างฉับพลัน ป่านนี้คงเหลือเพียงโครงกระดูกใต้ผืนดินแล้ว”

ลู่หยางเงยหน้าขึ้น ดวงตาสั่นระริกด้วยความตกตะลึงและไม่อาจเชื่อ

เหวินซางกัดฟันถามต่อ “ใครกันที่ช่วยเจ้า? และเพื่ออะไร?”

จิ้นเหอยกมุมปากขึ้นยิ้มขมขื่น “พวกนั้นไม่ใช่สหาย และมิใช่คนของเรา แต่เป็นเงาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังศึกครั้งนั้น เงาที่ต้องการเก็บข้าไว้เป็น ‘หมากตัวหนึ่ง’ พวกเขาเยียวยาข้า แต่ก็ตีตราให้ข้าอยู่ในเงื้อมมือ หากข้าไม่ทำตามสิ่งที่พวกเขากำหนด ก็จะถูกกำจัดไปในทันที”

ลู่หยางขมวดคิ้วแน่น “แล้วเหตุใดต้องส่งจดหมายให้ข้า?”

จิ้นเหอหันไปสบตาเขาโดยตรง น้ำเสียงหนักแน่นขึ้น “เพราะจดหมายนั้น...มิใช่สิ่งที่ข้าเขียน หากแต่เป็นคำสั่งเสียสุดท้ายของแม่นางอวิ๋นซู นางฝากให้ข้าเก็บรักษาไว้ และในวันที่ถึงเวลา ข้าต้องส่งไปถึงเจ้าโดยตรง ไม่ว่าตัวข้าจะยังอยู่หรือตายไปแล้วก็ตาม”

            ลู่หยางนิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่ หัวใจที่เต้นรัวเหมือนกลองศึกเมื่อครู่พลันเงียบสงัดลง น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามอย่างแผ่วเบา “แล้วเหตุใดอวิ๋นซูจึง... นางฝากจดหมายไว้ให้เจ้าได้อย่างไร”

            จิ้นเหอถอนหายใจยาว “ก่อนที่นางจะถูกประหารชีวิต ข้าแอบเข้าไปพบนางในคุก นางเป็นคนมอบมันให้ข้ากับมือ บอกเพียงว่า ‘หากเรื่องนี้ยังไม่จบ อย่าเพิ่งเปิดออก และหากข้าต้องตาย ขอให้เจ้าเก็บมันไว้รอผู้ที่คู่ควร’ ข้ายังคงคาใจกับประโยคที่นางกล่าวไว้ ก่อนที่นางจะสิ้นลมหายใจนางได้เรียกข้าเข้าไปหาแล้วฝากคำพูดบางอย่างไว้ให้ข้า”

            “คำพูดอะไร?” ลู่หยางถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง

จิ้นเหอนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวเก่า และทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด

“นางบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นเกมหมากรุกที่ซับซ้อนเกินกว่าจะมองเห็นเบื้องหลังได้ง่ายดาย หากเจ้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว อาจจะต้องเอาชีวิตเข้าแลก”

            “จดหมายที่นางฝากไว้...” ลู่หยางเอ่ยเสียงต่ำ

“มันเหมือนกับเชือกเส้นหนึ่งที่โยงเรากลับไปหาต้นตอ แต่ข้ากลับไม่แน่ใจเลยว่าเมื่อไปถึง จะเจอคำตอบหรือเจอเพียงกับดักอีกชั้น”

            เหวินซางหันมามองเขา แววตาคมส่องผ่านแสงโคมที่ริบหรี่ “เจ้าเองก็รู้...อวิ๋นซูไม่ใช่คนที่จะฝากคำพูดไร้สาระ หากนางเสี่ยงเขียนคำสุดท้ายยกให้เรา นั่นหมายความว่าข้างในนั้นมีบางสิ่งสำคัญจริง ๆ”

            จิ้นเหอที่นั่งเงียบอยู่ครู่ใหญ่ ค่อย ๆ พูดขึ้น น้ำเสียงทุ้มขรึม “ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ...นางรู้ว่าตนจะต้องตาย และยังกล้าให้พวกเราตามร่องรอยต่อ นั่นแสดงว่ามีเงาลึกลับที่ใหญ่กว่าแค่การประหารครั้งนั้น และอาจเกี่ยวกับที่ข้าโดนวางกับดักด้วย”

            “แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นผู้ใด” ลู่หยางเอ่ยถาม

            “ข้าเองก็มืดแปดด้าน ตลอดสิบปีมานี้ ข้าพยายามแกะรอยหากแต่สูญเปล่า สิ่งที่ข้าทำได้ คือให้เจ้าช่วยตามหาความจริงและทวงความยุติธรรมให้อวิ๋นซู”

            ลมหายใจของลู่หยางช้าลงอย่างหมดแรง ในอกเหมือนมีอะไรหนักทับ เขาจ้องมองจิ้นเหอซึ่งนั่งนิ่งอยู่ใต้แสงโคมหรี่ ๆ ราวกับรูปปั้นที่ถูกลมพายุสลักขึ้นมาใหม่ ทุกคำที่ไหลออกมาจากปากของเพื่อนร่วมรบทำให้ความจริงขยับเข้ามาใกล้จนรู้สึกได้ถึงขอบแผลที่ยังไม่เคยปิดสนิท

            “ข้าจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นเพียงความทรงจำที่ตายจากไป” ลู่หยางกล่าว เสียงหนักแน่นกว่าที่เขารู้สึก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเปลวไฟเก่า ๆ ที่เคยลุกโชนในสนามรบ “อวิ๋นซูถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม ข้าจะต้องเอาคืนให้ได้ ไม่ว่าทางใด”

“แล้วบุคคลที่ช่วยเจ้า เจ้าพอจะบอกเบาะแสแก่พวกข้าได้หรือไม่” เหวินซางเอ่ยถาม

“ข้าบอกนามโดยตรงไม่ได้ หากแต่บอกแหล่งที่พวกเจ้าจะสืบหาได้”

“ที่ใดหรือ” ลู่หยางถามอย่างกระตือรือร้น

“ตลาดมืด ข้าได้ยินว่าจะมีการค้าทาสในเร็ววันนี้ มันคงจะดีหากพวกเจ้าได้สัญญาฉบับนั้น บางทีข้าก็อาจจะหลุดจากการเป็นหมากในเกมนี้สักที” จิ้นเหอเอ่ยพร้อมกับเหม่อมองไปที่ท้องฟ้ายามราตรีราวกัยทอดมองแสงสว่างสุดท้ายในปลายทางอันมืดมิดของเขา

            จิ้นเหอเอ่ยชื่อ “ตลาดมืด” อย่างช้า ๆ ราวกับคำ ๆ นั้นมีคมพอจะบาดลึกลงไปในอกผู้ฟัง กลิ่นควันจากเทียนหอมลอยละมุนผสมกับควันบุหรี่ธูปบาง ๆ ทำให้บรรยากาศในบ้านไม้เก่าครานั้นทั้งเงียบและหนักแน่นไปพร้อมกัน

ลู่หยางกระชับมือที่กุมดาบแนวเอว ยามที่ชื่อแห่งตลาดนั้นดังขึ้น ความทรงจำเก่า ๆ ของสนามรบและเงามืดที่ลากเส้นรอยต่อให้ชีวิตเพื่อนร่วมรบของตนกลับทับซ้อนเข้ามาอีกครั้ง “ตลาดมืดที่ว่า อยู่ที่ใด เบาะแสที่เจ้าได้รับมานั้น เจ้าแต่ใจจริงหรือ” เสียงเขาทุ้มต่ำ แต่แฝงด้วยแรงปรารถนาที่ไม่อาจซ่อน

            จิ้นเหอเงยหน้าขึ้น แสงโคมสะท้อนสีในดวงตาคู่เก่าของเขา แววตาที่เคยเฉียบคมกลับเปลี่ยนเป็นเศร้าสุขุม “กลางใจเมืองหลวงยังมีตรอกหนึ่ง ผู้คนไม่นิยมเอ่ยถึงมัน ชื่อ ‘กู่หลู่’ สถานที่ที่ความมืดค้าขายสิ่งอัปมงคลและคนที่ต้องการถูกลืม หากเจ้าจะสืบ พอดีกับเวลาที่จะมีการประมูลส่งผู้คนไปยังแคว้นซงหนู  พวกมันจะลงประมูลผู้คนและเอกสารบางอย่างที่พัวพันกับการเคลื่อนไหวในราชสำนัก”

            เหวินซางพยักหน้าเบา ๆ ดวงตาคมของเขาทอประกาย “ประมูลทาส... หากแผนการของพวกนั้นเกี่ยวโยงกับการซื้อขายเอกสารหรือจดหมายสำคัญ บรรดาผู้ซื้อบางคนอาจมีความเกี่ยวข้องกับเงามืดที่ช่วยเจ้าตั้งแต่ครั้งก่อน”

            ลู่หยางฝืนกล้ำกลืนความปั่นป่วนภายในอก เขารู้สึกเหมือนยืนอยู่บนสันมีดคม ทุกย่างก้าวที่กำลังก้าวเข้าไปสู่เรื่องราวนี้อาจนำมาซึ่งความจริง หรือกับดัก “เจ้าแน่ใจหรือว่าเราจะได้เข้าไปโดยไม่เปิดโปงตัวตน”

            จิ้นเหอยิ้มบาง ๆ “ข้าจะช่วยอีกแรง เส้นทางนี้ข้ารู้จักดีที่สุด หากต้องมีการพบปะกับผู้คน ข้าจะเป็นผู้ชี้ช่องให้ แต่จำไว้ ลู่หยาง ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงศัตรูที่เห็นด้วยตา หากแต่เป็นเงาที่สวมหน้ากากความจริง ยิ่งพัวพันกับเงาที่ใหญ่กว่าเดิม ทุกสิ่งอาจไม่เป็นอย่างที่ตาเห็น ความจริงบางครั้งต้องแลกมาด้วยเลือดและการทรยศ”

            ลู่หยางฟังแล้วเหมือนถูกลมหนาวพัดผ่าน เขาหันไปมองเหวินซางที่ยืนข้าง ๆ อย่างมั่นคง จังหวะหัวใจของเขาเริ่มสงบลง แต่ความตั้งใจกลับชัดเจนขึ้น “ไม่ว่าอย่างไร ข้าจะไม่ยอมให้อวิ๋นซูต้องตายโดยไร้ความจริง”

            คืนนั้นทั้งสามนั่งวางแผนกันจนดึก จิ้นเหอเล่าเรื่อง “กู่หลู่” สถานที่ลับที่ซ่อนอยู่ใต้คลังกำยานเก่า ที่นั่นเต็มไปด้วยคนหลายหน้า บางคนปลอมแปลงตรายศ บางคนสวมหน้ากากราวกับงานรื่นเริง แต่ล้วนมุ่งหวังอำนาจทั้งสิ้น

            เหวินซางเสนอความคิด “พวกเราแฝงตัวเป็นพ่อค้าสมุนไพร หรือไม่ก็นายหน้าค้าแรงงานและของโบราณ ถ้ามีเอกสารถูกนำมาเปิดประมูล ข้าจะคอยสังเกตพฤติกรรมคนซื้อ ถ้าจำเป็น ข้าจะหาทางขโมยออกมา”

            ลู่หยางพยักหน้า เขารู้สึกได้ถึงความกดดัน แต่ภาพของอวิ๋นซูกลับทำให้เขาต้องเดินต่อไป “หากเราเจอตัวคนที่อยู่เบื้องหลัง หรืออย่างน้อยได้เห็นว่าใครคุมการประมูล ข้าจะหาทางดึงความจริงออกมาให้ได้”

            จิ้นเหอเสริม “ที่กู่หลู่ บางครั้งไม่ใช่การต่อสู้ด้วยดาบ แต่เป็นการทดสอบความสามารถ ใครก็ตามที่ไม่แนบเนียนก็จะถูกไล่ออกโดยไม่ต้องใช้กำลัง เพราะฉะนั้นอย่าลืมว่าเราต้องแสดงให้สมจริง”

            หน้าที่ถูกแบ่งชัดเจน ลู่หยางรับบทพ่อค้าวัตถุโบราณ เหวินซางเป็นนายหน้า ส่วนจิ้นเหอคอยประสานงานและใช้เครือข่ายของตน พวกเขาเตรียมเสื้อผ้าเก่า ๆ กลิ่นสมุนไพรและหน้ากากบางส่วนเพื่อพรางตัว

Continue a ler este livro gratuitamente
Escaneie o código para baixar o App

Último capítulo

  • เพลิงรักใต้เงาแค้น   เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 23

    แสงจันทร์ลูบไล้ผ่านม่านเมฆ ส่องประกายลงมาบนยอดจวนเจ้าเมืองลั่วหยาง เงาสะท้อนบนกระเบื้องมุงหลังคาเย็นเยียบเหมือนจิตใจที่ถูกแช่แข็งของบุรุษผู้ยืนอยู่เพียงลำพังลู่หยางกำจดหมายของอวิ๋นซูไว้ในมือแน่น ตัวอักษรที่เขียนด้วยลายมืออ่อนหวานนั้นเลือนรางราวกับจะละลายหายไปทุกครั้งที่เขาเพ่งมอง แต่ยิ่งเลือนรางเท่าไร ความทรงจำของเขากลับยิ่งชัดเจนขึ้นเท่านั้นเขาหลับตาลง ภาพรอยยิ้มอ่อนโยนของอวิ๋นซูย้อนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงที่คุ้นเคย“หากวันหนึ่งเจ้าต้องเลือก จงอย่าเลือกด้วยความแค้น แต่จงเลือกด้วยหัวใจของเจ้า”คำสั่งเสียนี้ กัดกินวิญญาณของลู่หยางมาจนถึงยามนี้...กล่องหยกสลักรูปปลาหลีฮื้ออยู่ในมืออีกข้าง มันดูเงียบงามสงบ แต่ภายในกลับซ่อนแผนที่ที่เป็นต้นเหตุแห่งการนองเลือดทั่วแว่นแคว้น เขารู้ดีว่าไม่ว่าผู้ใดครอบครองมัน จะต้องเผชิญกับไฟสงครามที่ไม่อาจหลีกหนี“หากข้าเก็บมันไว้ ข้าจะถูกตามล่าไม่สิ้นสุด... หากข้าส่งต่อ มันจะเป็นชนวนสงครามที่ไม่รู้จบ” ลู่หยางพึมพำเขาเหลือเพียงทางเดียวใช้มันเป็นเครื่องมือตัดสินเกมที่ทุกฝ่ายต่างสวมหน้ากากอยู่เขาเรียกทหารคนสนิทที่เหลืออยู่ไม่กี่นาย มอบหมายให้กระจายข่าว

  • เพลิงรักใต้เงาแค้น   เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 22

    ในขณะที่เขาเริ่มสงสัยในแผนการของตนเอง เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ก็ดังขึ้นหน้าจวนของเขา และคนที่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นหลี่เซียน สหายที่เขาเคยไว้ใจมากที่สุดในชีวิตหลี่เซียนสวมชุดอาภรณ์สีเข้มที่ดูสูงศักดิ์กว่าแต่ก่อนมาก บนใบหน้าของเขายังคงประดับไว้ด้วยรอยยิ้มที่เคยเป็นมิตร แต่ในรอยยิ้มนั้นกลับซ่อนความเยาะเย้ยไว้อย่างเห็นได้ชัด“เจ้าไม่ได้มาหาข้าตั้งนานแล้วนะ สหายของข้า” ลู่หยางเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“ก็ข้ากลัวว่าหากข้ามาแล้วเจ้าจะคิดถึงอวิ๋นซูขึ้นมาน่ะสิ” หลี่เซียนตอบด้วยน้ำเสียงที่หยอกล้อ แต่กลับเสียดแทงลู่หยางราวกับคมมีด“แต่ในที่สุดข้าก็อดรนทนไม่ไหว ข้าอยากจะมาแสดงความยินดีกับเจ้าด้วยตัวเองที่หาความจริงเกี่ยวกับแผนที่นั้นได้แล้ว”“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” ลู่หยางถามด้วยความประหลาดใจ“เจ้าก็รู้ว่าข้าหมายถึงอะไร” หลี่เซียนหัวเราะในลำคอ “แผนที่ที่อยู่ในกล่องไม้สลักลายโบราณน่ะ”ลู่หยางต้องใช้สมาธิอย่างหนักเพื่อที่จะไม่แสดงความตกใจออกมาให้เห็น เขาเก็บกล่องไม้ไว้ในห้องส่วนตัวตลอดเวลา และไม่เคยมีใครรู้เรื่องนี้มาก่อน ยกเว้นเขาและเหวินซางในตอนนั้นเองที่ลู่หยางรู้สึกถึงความผ

  • เพลิงรักใต้เงาแค้น   เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 21

    ห้องของหลี่เซียนสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบเรียบร้อยจนน่าประหลาดใจ ผิดวิสัยของคนทั่วไป เหวินซางไล่สายตาไปทั่วห้อง กระทั่งมาหยุดอยู่ที่ตู้ไม้ฉลุลายโบราณขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่มุมห้อง มันเป็นตู้ที่ดูธรรมดา แต่กลับมีกลไกซับซ้อนที่เหวินซางมองเห็นได้อย่างรวดเร็วเขาใช้ปลายดาบเคาะลงบนจุดที่ดูเหมือนจะเป็นสลักลับ สลักนั้นคลายออกและตู้ก็เปิดออก ภายในมีช่องลับซ่อนอยู่ และในนั้น... มีเพียง กล่องหยกสลักรูปปลาหลีฮื้อ วางอยู่โดดเดี่ยวหัวใจของเหวินซางกระตุกวูบ ความรู้สึกเลวร้ายถาโถมเข้ามาในอกทันที เขาหยิบกล่องหยกขึ้นมาสำรวจ มันเป็นกล่องหยกธรรมดา แต่ใต้ฝากล่องกลับมีกระดาษแผ่นหนึ่งซ่อนอยู่เขาคลี่กระดาษแผ่นนั้นออกอย่างระมัดระวัง บนนั้นมีข้อความที่เขียนด้วยหมึกจางๆ ไม่กี่บรรทัด และเมื่อเขาอ่านจบ ร่างของเหวินซางก็แข็งทื่อราวกับถูกสาป ข้อความนั้นเป็นลายมือของอวิ๋นซู“ท่านพี่หลี่เซียน... ท่านเป็นคนที่ข้าไว้ใจที่สุด... ได้โปรดมอบแผนที่นี้คืนให้ข้าด้วยเถิด...”คำว่า “แผนที่นี้” ถูกขีดเส้นใต้ไว้หลายครั้งอย่างหนักหน่วง ราวกับต้องการเน้นย้ำถึงความสำคัญของมัน เหวินซางกำกระดาษแผ่นนั้นไว้ในมือแน่น เขาเข้าใจทุกอย่างในท

  • เพลิงรักใต้เงาแค้น   เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 20

    ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจเดินทางต่อไปยังแคว้นเป่ยหลานเพื่อหาพันธมิตรและเปิดเผยแผนการของเซี่ยหมิงต่อโลกภายนอก ในที่สุดอวิ๋นซูและหลี่เซียนก็มาถึงเมืองหลวงของแคว้นเป่ยหลาน พวกเขาเข้าไปขอเข้าเฝ้าองค์ฮ่องเต้เป่ยหลานเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ก็ถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย“เราไม่อาจยุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายในของแคว้นอื่นได้” องค์ฮ่องเต้ตรัสอย่างเย็นชา“พวกเจ้ากลับไปเถิด”อวิ๋นซูสิ้นหวัง แต่หลี่เซียนกลับมองเห็นหนทางอื่น “ฝ่าบาท...มีบุรุษผู้หนึ่งนามว่าเซี่ยหมิง...เขาคือผู้ที่ทำให้ซงหนูเกิดสงครามกลางเมือง...และตอนนี้เขาก็กำลังสร้างปัญหาให้กับแคว้นเป่ยหลานด้วย”องค์ฮ่องเต้หันมามองหลี่เซียนด้วยความสนใจ “เจ้าว่าอย่างไรนะ? เซี่ยหมิงรึ?”“พ่ะย่ะค่ะ” หลี่เซียนตอบ“ข้าได้สืบรู้มาว่าเซี่ยหมิงคือคนสนิทของท่านแม่ทัพใหญ่ และเขากำลังวางแผนที่จะโค่นล้มราชบัลลังก์ของฝ่าบาทด้วยการใช้พลังของท่านแม่ทัพ”องค์ฮ่องเต้ทรงตกตะลึงกับคำพูดของหลี่เซียนและเริ่มตระหนักถึงภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่ภายในราชสำนักของพระองค์เอง พระองค์จึงตัดสินใจให้หลี่เซียนและอวิ๋นซูอยู่ที่วังเพื่อรวบรวมหลักฐานเพื่อเปิดโปงเซี่ยหมิงอวิ๋นซูและหลี่เซียนใช้เว

  • เพลิงรักใต้เงาแค้น   เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 19

    หลายปีก่อน แคว้นซงหนูตั้งอยู่ทางเหนือประสบกับความระส่ำระสายไม่ต่างจากใบไม้ร่วงหล่นท่ามกลางลมหนาวที่พัดพาความเหี่ยวเฉามาถึง ราชสำนักที่เคยเป็นศูนย์รวมอำนาจและเอกภาพแตกออกเป็นสองเสี่ยงอย่างมิอาจประสานได้ฝ่ายหนึ่งสนับสนุนองค์หญิงใหญ่ซูเหยียนผู้เปี่ยมด้วยความทะเยอทะยานและเหี้ยมหาญ ดุจเดียวกับพญาอินทรีผู้พร้อมจะจิกกระชากทุกอย่างที่ขวางทางสู่บัลลังก์ อีกฝ่ายยืนข้างองค์หญิงรองอวิ๋นซูผู้อ่อนโยนและรักความสงบราวกับหยาดน้ำค้างยามเช้าที่โหยหาเพียงความสงบสุขของผืนป่าความขัดแย้งที่เคยเป็นเพียงรอยร้าวเล็ก ๆ ในที่สุดก็ปะทุขึ้นกลายเป็นสงครามกลางเมือง เลือดและไฟแผดเผาเมืองหลวงจนสิ้นซากซูเหยียนเลือกที่จะเผชิญหน้ากับความโกลาหลด้วยพลังและความเด็ดขาด นางใช้กลยุทธ์อันซับซ้อนและกำลังพลอันเกรียงไกร เพื่อรักษาอำนาจของตนไว้ดุจเดียวกับพยัคฆ์ที่ปกป้องดินแดนของมัน ทุกย่างก้าวของนางคือการแสดงให้เห็นถึงความเด็ดขาดและความเฉียบคมในการเป็นผู้นำในทางกลับกัน อวิ๋นซูไม่อาจทนเห็นราษฎรต้องตกอยู่ในห้วงเพลิงสงคราม นางแอบลอบพาเหล่าข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์และเอกสารลับสำคัญบางส่วนออกจากเมืองไปในยามวิกาลท่ามกลางความมืดมิดการหลบ

  • เพลิงรักใต้เงาแค้น   เพลิงรักใต้เงาแค้น ตอนที่ 18

    ในที่สุดการเดินทางอันแสนยาวนานก็สิ้นสุดลง เบื้องหน้าคือประตูไม้ขนาดใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงความเก่าแก่ของวัดไท่ฝู ลู่หยางกับเหวินซางยืนอยู่เบื้องล่างของบันไดหินที่ทอดยาวขึ้นไปสู่ยอดเขา หมอกยามเช้าปกคลุมรอบบริเวณ ทำให้บรรยากาศดูยิ่งใหญ่และลึกลับกว่าที่คิด“ดูเหมือนว่าความลับจะไม่ยอมเปิดเผยตัวตนง่าย ๆ นะ” เหวินซางเอ่ยขึ้น สายตาจับจ้องไปที่ประตูไม้ที่ปิดสนิทลู่หยางไม่ตอบ เพียงแต่ก้าวเท้าขึ้นบันไดอย่างไม่ลังเล เขารู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่แผ่ออกมาจากวัดแห่งนี้ มันไม่ใช่พลังงานที่ชั่วร้าย แต่เป็นความรู้สึกสงบที่ซ่อนเร้นความยิ่งใหญ่เอาไว้เมื่อมาถึงลานกว้างหน้าประตู เสียงระฆังก็ดังกังวานขึ้นเป็นจังหวะเนิบช้าและหนักแน่น ประตูไม้เปิดออกเองโดยไร้ผู้คน ปรากฏร่างของพระรูปหนึ่งยืนรออยู่ภายใน ลมพัดผ่านมาเบา ๆ คลอไปกับกลิ่นกำยานจาง ๆพระรูปนั้นมีอายุมากแล้ว ใบหน้าเหี่ยวย่นตามกาลเวลาแต่แววตากลับสดใสและเต็มไปด้วยปัญญา ท่านยิ้มให้ลู่หยางอย่างคุ้นเคย ราวกับรู้ว่าเขาจะมาถึง“ในที่สุดเจ้าก็มาถึง ผู้ที่ตามหาความจริงแห่งสายน้ำจิ้นเหอ” พระรูปนั้นกล่าวทักทาย เสียงของท่านสงบแต่ก้องกังวานในความรู้สึกลู่หยาง

Mais capítulos
Explore e leia bons romances gratuitamente
Acesso gratuito a um vasto número de bons romances no app GoodNovel. Baixe os livros que você gosta e leia em qualquer lugar e a qualquer hora.
Leia livros gratuitamente no app
ESCANEIE O CÓDIGO PARA LER NO APP
DMCA.com Protection Status