LOGINเท้าใหญ่เตะเศษไม้ที่แตกหักขวางทางเดินอย่างไม่สนใจเหล็กแหลมและเล็กที่มีสนิมเขรอะเกาะอยู่ มือใหญ่กำหมัดจนแน่นทุบลงไปบนฝาผนังอย่างไม่กลัวเจ็บ ก่อนที่ร่างหนาจะเดินไปหยุดตรงหน้าสองสาว มือใหญ่วางทาบบนขาแข็งแกร่งที่ย่อลงและส่งอีกมือไปจับปลายคางมนเอาไว้ ใบหน้าคมคร้ามแย้มยิ้มอย่างเยือกเย็น “แกสองคนนี่โชคดีจริงๆ นะ แต่ก็อย่าคิดนะ สองคนนั้นจะมาช่วยได้นะ ลุกขึ้น” มือใหญ่กำแขนกลมกลึงที่ตอนนี้ช้ำแดงสลับเขียวเป็นจ้ำๆ “แกจะพาพวกเราไปไหน” กันติชาเอ่ยถาม วงหน้าสวยเหยเกด้วยเจ็บที่แขน เหมือนกับว่ามันกำลังจะหัก พร้อมฝืนกายไม่ยอมไปง่ายๆ “ไปตายไง” อยากรู้นักว่าราชันย์จะทำยังไงถ้าเห็นร่างของนังหุ่นน่าฟัดกับน้องสาวห้อยต่องแต่งเหมือนกับลูกขนุนแล้วจะเลือกช่วยใคร ส่วนสิทธิศักดิ์น่ะหรือ ฮ่าฮ่า อยากรู้นักว่าระหว่างผู้หญิงที่ฟัดเช้าฟัดเย็นทั้งในที่ทำงานและบ้านกับคู่หมั้นที่บอกว่ารักนักรักหนาและกำลังจะแต่งงานกันอีกภายในไม่กี่วันข้างหน้า ที่กำลังตกอยู่ในอุ้งมือของพวกขี้ยาที่เขาจ้างไว้ ไอ้เพื่อนเฮงซวยจะเลือกช่วยใครความจริงเขาไม่ได้คิดจะทำอย่างนั้นกับอาริตาหรอกนะ จากที่คิดว่าหลอกเอาไว้ให้อีกฝ่ายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
Chapter 104“เมียและน้องผมอยู่ไหนคุณวิภพ” ปากถามวิภพแต่กลับปรายสายตามองไปยังนายตำรวจสองสามนายที่ดูเหมือนว่ากำลังคุยและปรึกษากันอย่างเคร่งเครียด ดูได้จากสีหน้าที่ขมวดคิ้วเข้าหากันบ่อยครั้งและสีหน้าที่ดำคล้ำ และมีอีกหลายนายกำลังซุ่มตามจุดต่างๆ อย่างเตรียมพร้อมรอรับคำสั่ง “คุณว่าวและคุณน้องถูกจับขังอยู่ข้างในครับ” วิภพตอบกลับพร้อมชี้มือไปที่ตึกแฝดประมาณสิบกว่าชั้นที่เงียบเชียบ จนแทบจะได้ยินสายลมพัดผ่าน ยิ่งตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงวันอีก การจะทำอะไรผลีผลามบุ่มบ่ามไปนอกจากจะทำให้คนที่อยู่ข้างในรู้ตัวแล้ว คนที่ถูกจับตัวมาก็จะเป็นอันตรายด้วย “คนพวกนั้นทำอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่เข้าไปช่วยเมียและน้องผม” “ใจเย็นๆ ใหญ่” สิทธิศักดิ์ที่จอดรถเรียบร้อยแล้วรีบเข้ามาสมทบกับเพื่อน และก้มศีรษะทักทายนายตำรวจยศร้อยตำรวจตรีที่เขาใช้บริการอยู่บ่อยครั้งยามที่ราชันย์เกิดเรื่อง “แกจะให้ฉันใจเย็นได้ไงวะสิทธิ์ นั่นเมียกับน้องฉันนะโว้ย” ราชันย์หันไปตวาดใส่เพื่อน ดวงตาลุกโชนเป็นเปลวเพลิงไฟ ลมหายใจหอบแรงอัดแน่นเข้าปอด กรามหนาบดเบียดเข้าหากันจนวงหน้าคร้ามแกร่งนูนขึ้นมาตลอดเส้นทางที่มา ด้วยพยายามที่จะไม่คิดถึงเรื่องร้ายๆ
“ไม่จริงๆ ” เป็นชายิกาที่ตั้งสติได้ก่อน เถียงออกไปเสียงแหลมเล็กบาดเข้าในช่องหู “ทั้งพี่ใหญ่และนายสิทธิ์จะต้องมาช่วยฉันกับว่าว แกไม่มีทางที่จะทำได้สำเร็จ” มั่นใจ ถึงแม้สิทธิศักดิ์จะไม่รักเธอก็ตาม แต่ชายหนุ่มย่อมไม่ต้องการเห็นเธอได้รับอันตรายถึงชีวิตเป็นแน่ และไม่ต้องเอ่ยถึงพี่ชายแม้เมื่อก่อนจะไม่สนใจ แต่ตอนนี้ บอกได้คำเดียว รักเธอแน่นอน “งั้นเรามาลองดูกันไหม ไอ้ใหญ่กับไอ้สิทธิ์ไม่มีทางมาช่วยเหลือเธอสองคนเป็นแน่ เพราะมันจะต้องกัดกันเองจนตายไปข้างหนึ่ง” เขามั่นใจ แผนการที่วางไว้จะต้องไม่มีข้อผิดพลาด ราชันย์จะต้องจัดการขับไล่สิทธิศักดิ์ออกไปจากบริษัทและชีวิต แล้วเขาจะกลายเป็นฮีโร่ที่ช่วยบริษัทและจะเป็นคนที่คอยปลอบใจเพื่อนรัก และดึงให้ชายหนุ่มไม่สนใจผู้หญิงหิวเงินทั้งหลายที่รายหน้าเข้ามา ใครก็ตามที่จะเข้ามาหลังจากนี้ จะไม่มีวันได้เข้าใกล้คนที่เขารักอีกแล้ว เขาจะไม่ยอมผิดพลาดซ้ำสองเหมือนกรณีของกันติชา ที่เผลอแป๊บเดียวยายผู้หญิงบ้านี่ก็ดันจับราชันย์เอาไว้จนอยู่หมัด ความโกรธพลุ่งพล่านในหัวใจหนุ่มมือใหญ่จับแขนกลมกลึงอย่างแรงจนแทบจะหักออกเป็นสองท่อน“โอ๊ย!! ฉันเจ็บนะไอ้บ้า” พลั่ก!!!!!เท้
“ขยับเบาๆ ซิยายบ้า ฉันเจ็บนะ” ชายิกากระซิบพูดเสียงลอดไรฟัน กับความเจ็บที่แทรกซึมเข้าไปในเนื้อทุกครั้งที่ขยับด้วยคมเชือกมันบาดผิวเนื้อจนเจ็บร้าวไปทั้งสองแขน แต่ยังไม่สู้ที่ใบหน้าบวมเป่งจนดวงตาที่เคยกลมโตกลับหยีลงมองอะไรรายรอบไม่ค่อยจะเห็นเสียแล้ว ในปากได้ลิ้มรสเลือดปะแล่มๆ ด้วยฤทธิ์ฝ่ามือใหญ่ที่ประทับลงไปอย่างไม่ยั้ง ตอนที่เธอสองคนพยายามจะหนี ผมบนศีรษะก็ยุ่งเหยิง เพราะถูกจิกทึ้งอย่างไม่บันยะบันยัง เหมือนโกรธแค้นกันมาสักสิบชาติ ทั้งที่เธอและไอ้สัตว์ร้ายนั่นเพิ่งจะได้เจอกันเพียงแค่ครั้งแรก “พวกมึงสองคนคิดจะทำอะไรอีก อยากเจ็บตัวอีกหรือไง” เสียงลอดไรฟันที่ดังจากปากคนตรงหน้า ยังไม่สู้มือแข็งกร้าวที่กดลงบนปลายคางมน ทำเอากันติชาและชายิกาถึงกับน้ำตาคลอเบ้า “ปล่อยฉันนะไอ้บ้า แกจับตัวฉันมาทำไม ถ้าพี่ใหญ่รู้เข้า เขาเอาแกตายแน่” แม้จะเจ็บทั้งตัวและใจ แต่ชายิกาก็ยังไม่คิดจะยอมแพ้ เธอใช้เสียงแหลมเล็กขู่เอาๆ ขณะที่กันติชาก็พยายามอ้อนวอนอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงหวานนุ่ม แต่ดูเหมือนไอ้บ้าตรงหน้าจะไม่สนใจแม้แต่น้อย กลับยังจมอยู่ในความคิดของตัวเอง อารมณ์ก็ปรวนแปรง่ายเหลือเกินยิ่งกว่าผู้หญิงวัยทองเสียอีก “ฮ่
“แกไปให้พ้นหน้าฉันก่อนดีกว่าสิทธิ์ ฉันยังไม่อยากจะเห็นหน้าแกในตอนนี้” ราชันย์กัดฟันพูดเสียงลอดไรฟัน เมินหน้าหนีไปอีกทางอย่างไม่ต้องการที่จะเห็นหน้า มันทำให้อารมณ์โกรธที่เผาผลาญหัวใจจนแทบจะเป็นผุยผงอยู่ตอนนี้มันลุกโชนเป็นไฟแล้วจะทนไม่ได้ลงมือทำร้ายสิทธิศักดิ์ให้กลายเป็นเรื่องทะเลาะต่อยตีกันไปเสียเปล่าๆ มันเสียไปถึงเรื่องที่เขากำลังจะจัดการในบ่ายวันนี้ “ใหญ่ ฉันไม่รู้ว่าแกไปรู้ไปเห็นอะไรมา แต่แกต้องฟังฉันนะโว้ย” สิทธิศักดิ์ตวาดกลับไปด้วยความหงุดหงิดและเป็นห่วงสองสาวที่กำลังได้รับอันตราย แม้จะรับรู้ถึงเพลิงโทสะของราชันย์ที่สาดกระจายมา จนคิดได้ว่าจะต้องมีใครนำหลักฐานที่ชี้ชัดว่าเขากำลังมีปัญหา สิทธิศักดิ์เชื่อเช่นนั้น เพราะสำหรับราชันย์หลักฐานสำคัญที่สุดเสมอ จะทำอะไรสักอย่างจะต้องมีหลักฐานชัดเจน“แกจะออกไปดีๆ หรือจะให้ฉันส่งแกออกไป” ราชันย์กัดฟันถาม ในดวงตาเต็มไปด้วยประกายแห่งความเกรี้ยวกราดและแค้นเคือง มือกำหมัดสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้แน่น ถ้าเป็นคนอื่น เขาไม่ปล่อยให้ลอยหน้าลอยตาอยู่แบบนี้หรอก แต่สำหรับสิทธิศักดิ์ เพื่อนที่เหมือนจะตายแทนกันได้คนนี้มันทำให้เขาทำอะไรไม่ถนัด คอยแต่หวงคิดถึง
“คะ...คุณเป็นใคร มาล้อเล่นกันแบบนี้มันไม่ดีนะ” “ไม่ใช่นะ ฉันไม่เอาเรื่องความเป็นความตายของเพื่อนมาล้อเล่นหรอกนะ” ปลายสายตอบกลับมาน้ำเสียงร้อนรนกระวนกระวาย เมื่อสิ่งที่ได้ยินไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ร่างโปร่งบางก็ค่อยๆ ทรุดตัวลงกองกับพื้น วงหน้าขาวสวยซีดเผือด ริมฝีปากสั่นระริก น้ำตาไหลอาบสองแก้มกับเหงื่อเม็ดเล็กๆ ที่ผุดขึ้นเต็มวงหน้า ลมหายใจแผ่วเบาลง “ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ คุณใหญ่...คุณใหญ่ต้องไม่เป็นอะไร” “ฮัลโหลๆ ว่าวๆ ได้ยินไหม ยังฟังอยู่หรือเปล่า” ปลายสายตะโกนเรียกอย่างหงุดหงิดและเสียอารมณ์ “ฉิบหายแล้ว” ชายิกาซึ่งเดินเข้าไปในครัว รินน้ำส้มเย็นๆ และเดินดื่มมาคว้านิตยสารที่กันติชาจัดไว้อย่างเรียบร้อยเอ่ยถาม เมื่อเห็นคนที่เธอไม่ชอบหน้านั่งหน้าซีดตัวสั่นเหงื่อแตกซิกกับน้ำตาที่มันไหลรินลงเป็นสายตามร่องแก้ม“เป็นอะไรไปน่ะยายบ้า” มือเล็กตบไปบนใบหน้าเรียวสวยเบาๆ แต่ดูเหมือนกับว่าอีกฝ่ายจะช็อกจนสมองไม่สั่งการแล้ว“ตื่นๆ โว้ยจะบ้าตาย เป็นอะไรล่ะนี่” ชายิกาบ่นพึมๆ สองแขนสอดรัดและดึงร่างโปร่งมาแนบกาย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่ดูเหมือนว่าปลายสายจะยังคงร้องเรียกเสียงดังลั่นอยู่มาแนบหู ด้วยความอยากรู้ว