แชร์

chapter 9

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-08 15:53:06

“นี่ก็ดึกแล้ว กว่าจะเก็บข้าวของเสร็จก็คงจะครึ่งค่อนคืนไปล่ะ หนูจะกลับไปนอนบ้าน หรือจะนอนกับป้า” จันทร์ปล่อยวางเรื่องที่กังวล หันไปถามเรื่องที่อยากรู้

ความจริงการจะนอนที่ไหนของกันติชาไม่ใช่กงการอะไรของนางหรอก แต่คงเป็นเพราะความเอ็นดูส่วนตัว และไม่อยากให้สาวน่ารักต้องเดินทางกลับบ้านคนเดียวท่ามกลางความมืดที่ไม่รู้ว่าจะมีอันตรายซุกซ่อนอยู่เพียงไหน

มันน่ากลัวอยู่ เพราะเท่าที่รู้ กันติชาเป็นสาวน้อยแสนสวยที่ชายหลายคนต่างหมายปอง ถ้าหากรู้ว่าหญิงสาวเดินกลับบ้านเพียงลำพัง เจอช่วงเส้นทางมืดมิดและเปล่าเปลี่ยว พวกนั้นอาจจะมาดักฉุดไปทำมิดีมิร้าย นางไม่มีปัญญาหาหลานสาวเก่งและดีอย่างนี้ไปคือน้าชายขี้เมาหรอกนะ

แม้จะเป็นห่วงน้าชายที่หายหน้าออกจากบ้านไม่รู้ว่าไปเมามายที่ไหน ก่อนที่เธอจะมาทำงานที่นี่ แต่การกลับบ้านท่ามกลางความมืดและบรรยากาศชวนขนหัวลุกแบบนี้ เธอไม่อยากจะเสี่ยง ดีไม่ดีมีใครฉุกลากเข้าพงหญ้าข้างๆ ทำมิดีมิร้ายและฆ่าทิ้งเสียละ คนเราสมัยนี้ไว้ใจใครได้ที่ไหนกัน บางคนเห็นหน้ากันทุกวันยังกลายเป็นคนไม่ดีได้เลย

“นอนกับป้าจ้ะ”

“แล้วเตรียมของมาหรือยังล่ะ ไม่มีเอาเสื้อผ้าของป้าใส่ไปก่อนก็ได้ แต่ลำบากหน่อยนะ เพราะป้าตัวใหญ่” จันทร์บอกอย่างเอ็นดู นึกถึงครั้งแรกที่เธอเห็นหน้ากันติชาแล้วไม่ใช่เพราะว่าดูถูกหรอกนะแต่อึ้งมากกว่า ใครจะคิดว่าสาวน้อยหน้าใสๆ ราวกับเด็กคนนี้จะเป็นคนขายอาหารที่มีคนชมว่าอร่อยและมีลูกค้าติดกันชนิดที่ว่าตักขายแทบไม่ทัน

“เตรียมมาแล้วค่ะ” กันติชาบอกพร้อมรอยยิ้มหวานๆ แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นแก้มอวบอิ่มเป็นรอยบุ๋มลงไปเล็กน้อย กลายเป็นลักยิ้มน่ารักๆ อันเป็นสัญลักษณ์ประจำกายที่ใครเห็นก็ต้องหลงชอบไปเสียทุกคน

“ดูเหมือนว่าตอนนี้นายและเพื่อนๆ ของนายต่างก็ย้ายตัวเองเข้าไปในบ้านกันหมดแล้ว” จันทร์ชะเง้อคอมองออกไปยังสนามหญ้าหน้าบ้านที่เคยเป็นที่ซ่องสุมของกลุ่มเพื่อนและลูกค้าเจ้านาย ซึ่งตอนนี้หายเกลี้ยงไม่มีใครเหลือนั่งอยู่ตรงนั้นแม้แต่คนเดียวแล้ว

“คงไม่มีใครเรียกหาเอาอะไรอีกแล้ว ป้าว่าเราช่วยกันเก็บข้าวของที่กลาดเกลื่อนอยู่ให้เข้าที่เข้าทางดีกว่า เราจะได้ไปพักผ่อนกัน ดีไหม” จันทร์เอ่ยถามพร้อมกับเดินไปหวังช่วยหยิบจับข้าวของที่วางระเกะระกะเกลื่อนกลาดอยู่

“ไม่ต้องหรอกค่ะป้า งานแค่นี้เองหนูทำได้สบายมาก ป้าไปนอนเถอะจ้ะ เดี๋ยวไม่สบายขึ้นมาอีก เจ้านายป้าจะมาหักตังค์หนูเอานะ” กันติชารีบห้ามอย่างเร็วด้วยน้ำเสียงกึ่งเย้ากึ่งจริง

ราชันย์รักและผูกพันกับป้าจันทร์มาก หากหญิงวัยกลางคนเป็นอะไรไป เขาจะต้องโทษเธอเป็นแน่ เดี๋ยวอดได้โบนัสงามๆ เหมือนที่เคยได้ เสียดายแย่ อย่าว่าเธองกนะ ก็เงินๆ ทองๆ มันเข้าใครออกใครเสียที่ไหนล่ะ แต่เธอเลือกที่จะหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงและความถูกต้องเท่านั้น

“อีกอย่างเดี๋ยวหนูทำงานเสร็จก็ต้องไปรับเงินจากคุณราชันย์ก่อนด้วย พรุ่งนี้ตื่นตอนเช้าจะได้รีบออกไปเลย เป็นห่วงน้าค่ะ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะไปเมาอยู่ที่ไหน” หญิงสาวบอกกึ่งรำพันด้วยความหนักอกหนักใจ เมื่อคิดถึงน้าชาย

“อ้าวทำไมล่ะ ป้านึกว่าพรุ่งนี้คุณใหญ่จะฝากเงินกับป้ามาให้หนูว่าวเสียอีก” จันทร์ถามอย่างงุนงง ปกติคือหลังจากเสร็จงาน ราชันย์จะเป็นคนให้นางนำเงินให้กับกันติชาในวันรุ่งขึ้นเสมอ แต่คราวนี้กลับไม่ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

จันทร์สะดุ้ง หรือว่านายคิดจะทำอะไรกับกันติชาเข้าแล้วจริงๆ ไม่ได้การละ จะให้นายมาทำเด็กสาวไร้เดียงสาใจแตกไม่ได้ ต้องรีบเตือน...

แล้วจะเตือนใครล่ะ?

กันติชาหรือ ก็หญิงสาวยังไม่รู้เล่ห์เหลี่ยมนายเสียหน่อย มีแต่นางเท่านั้นที่รู้ อีกอย่างถ้าพูดกันไปตรงๆ อาจทำให้หญิงสาวไม่พอใจก็เป็นได้ เพราะคิดว่านางไปก้าวก่ายและยุ่มย่ามกับชีวิตส่วนตัวจนมากเกินไป หรือจะเตือนนาย อย่ายุ่งกับเด็กก็ไม่ได้อีก ถึงจะรักและเคารพเธอเหมือนกับญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง แต่ก็เป็นคนเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ นอกจากคุณยาย...แต่ท่านก็เสียชีวิตไปตั้งหลายปีแล้ว ถึงตอนนี้จึงไม่มีใครห้ามราชันย์ได้ ยิ่งห้ามกลับจะเป็นยิ่งยุให้เร่งทำเร็วขึ้น

“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ก็วันนั้น คุณใหญ่เอ่อ...”

ไฟร้อนผ่าวแล่นลิ่วมาแตะพวงแก้มอิ่มและกระจายไปทั่ววงหน้าอย่างรวดเร็ว สองมือเล็กจะกำหมัดก็ไม่ใช่ จะคลายออกก็ไม่เชิง รู้สึกว่ามันเป็นเหมือนสิ่งของเกะกะที่ไม่รู้ว่าควรจะนำไปไว้ตรงไหนดี เพียงแค่พูดถึงวันที่เธอเกือบจะกลายเป็นขนมหวานให้กับราชันย์ได้กิน ทั้งความหวาดกลัว วาบวิว เสียวซ่านมันปนเปกันไปจนแยกไม่ออกก็เข้ามาแทนที่ความรู้สึกและทุกๆ อย่างจนลืมไปด้วยซ้ำว่าจะพูดอะไร

“ไม่ต้องพูดละ ป้าเข้าใจดี” จันทร์โบกมืออย่างเข้าใจจริงๆ

“เอาเป็นว่าหนูระวังตัวให้ดีละกันนะ เพื่อนผู้ชายของนายป้าแต่ละคนมือเร็วใช่เล่น คืนนี้ก็เมาได้ที่กันทั้งนั้น ป้ากลัวว่าจะครองสติไม่อยู่แล้วเผลอทำอะไรหนูเข้านะ” ยังไงจันทร์ก็ยังคงมีความรักและจงรักภักดีกับนายผู้ที่ให้ที่อยู่และที่กินอยู่ดี คำพูดที่ออกมาจากปากจึงมีการละไว้ไม่เอ่ยถึง เพื่อไม่ให้นายนั้นต้องมาเสียชื่อเพราะปากคนในอย่างนาง

“ขอบคุณค่ะป้า หนูจะระวังตัวให้มากที่สุดค่ะ” กันติชารับปากอย่างเข้าใจ “เดี๋ยวหนูจะเก็บของพวกนี้ทำความสะอาดจนเสร็จแล้วจะไปเอาค่าจ้างและกลับมาหาป้าให้เร็วที่สุดค่ะ แล้วก็จะไม่ทำตัวให้เป็นที่สังเกตของทุกๆ คนด้วยดีไหมคะ”

กันติชาถามกลับด้วยน้ำเสียงมั่นคงและหนักแน่น เป็นการให้คำสัญญาพร้อมรอยยิ้มหวานๆ ที่ละลายหัวใจใครหลายๆ คนมาแล้ว ส่วนหนึ่งเพราะต้องการให้จันทร์คลายความร้อนรุ่มและเป็นกังวล อีกทั้งเธอเองก็ไม่ค่อยจะไว้ใจเพื่อนของผู้ว่าจ้างนัก ที่สำคัญผู้ว่าจ้างนั่นแหละตัวดี

‘คนอะไรก็ไม่รู้ มือไวเอาแต่ใจชะมัด เจอกันครั้งแรกก็จะปล้ำเธอเข้าให้แล้ว’ ริมฝีปากขมุบขมิบต่อว่าคนที่เป็นนายจ้างชั่วครั้งชั่วคราว จมูกโด่งเป็นสันยู่ย่นเข้าหากัน เพียงแค่วันแรกที่เธอมารับงาน เขาก็ป่วนทั้งหัวใจและร่างกายเธอจนสั่นเหมือนเจ้าเข้าทำอะไรไม่ถูก

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เพลิงร้ายใต้ปีกรัก    chapter 40

    เมื่อถูกจับแขนเอาไว้และตรึงไว้เหนือศีรษะให้เธอทำร้ายเขาไม่ได้ ก็คงจะมีเพียงแค่เสียงจากปากเท่านั้นที่ด่าเป็นน้ำไหลไฟดับ แทบจะไม่ซ้ำคำด้วยสลับหยุดพักหายใจ ก่อนจะพ่นคำด่าออกมาอีกระลอกใหญ่ สองขาเรียวขยับเคลื่อนดันขาแข็งแกร่งที่ทาบอยู่ให้ออกห่างอย่างสุดความสามารถ โดยที่ไม่รู้เลย การกระทำดังกล่าวนอกจากจะพาตัวเองให้หลุดรอดจากเงื้อมมือราชันย์ไม่ได้แล้ว ยังเป็นการยั่วยุและกระตุ้นอารมณ์ปรารถนาของชายหนุ่มให้ลุกเป็นไฟอีกด้วย “ถามจริงไม่เหนื่อยบ้างหรือไงหนูว่าว ด่ายาวเป็นชุดเลย” ราชันย์ถามเสียงกลั้วหัวเราะ แกล้งลูบไล้มือใหญ่ไปตามลำตัวเนียนนุ่มจากด้านหลัง เรื่อยขึ้นไปจนถึงขอบเสื้อชั้นใน และวกกลับลงมาตามสีข้าง ก่อนที่ลากเลยไปด้านหน้า “ไอ้คนเฮงซวย ชอบเอาเปรียบคนอื่น ปล่อยหนูนะ ไอ้ที่เสนอไปน่ะไม่ทำให้แล้ว หนูไม่อยู่กับคุณแล้วด้วย ปล่อย...” หญิงสาวกรีดร้องเสียงยาวดังตามมาอีกระลอก ดวงตาคมวามวาวที่มองมาทำให้กายสาวเริ่มสั่นสะท้าน หัวใจเริ่มสั่นไหว เพราะเข้าใจในความหมายนั้นดี ในลำคอเริ่มที่จะแห้งผากจนกลืนน้ำลายติดๆ ขัดๆ เบือนหน้าหนีไปอีกฝั่งที่ไม่มีหน้าราชันย์อยู่ สมองเริ่มคิด จะทำอย่างไรกับสถานการณ์ที

  • เพลิงร้ายใต้ปีกรัก    chapter 39

    “แหมคุณ...เอ่อ...โทษนะคะ ถ้าฉันจำไม่ผิดคุณคือคนที่มาขออาหารฉันกินเมื่อคืนใช่ไหมคะ” กันติชาถามน้ำเสียงเหมือนกำลังหัวเราะ “โทษทีนะคะที่ฉันเรียกชื่อคุณไม่ถูก เผอิญว่าเราสองคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ฉันเลยสงสัย คุณเป็นอะไรคะถึงได้ทำตัวเหมือนเจ้าสัตว์สี่ขาที่คอยแยกขาฉี่ตามแถวสี่แยกนะคะ แบบ...เวลาใครเดินผ่านไปมาหรือมันไม่ชอบใจใคร ก็มักจะส่งเสียงแงดๆ แล้วก็วิ่งไล่งับจนหางสั่น” “เฮ้ย...ยาย...” มือใหญ่ยกขึ้นชี้หน้ากันติชาอย่างเร็วรี่ นภดลโกรธจนเรียกได้ว่าเลือดขึ้นหน้า ใบหน้าคร้ามขาวอย่างคนผิวดีแดงปลั่งลามไปถึงใบหู ประกายในดวงตาแดงจัดและลุกเป็นเปลวเพลิง จ้องคนในอ้อมแขนเพื่อนกึ่งนายเหมือนกับจะเผาไหม้ให้เป็นจุณ “จุ๊ๆ อย่าโกรธซิคะคุณขา ฉันเพียงแค่พูดความจริงเท่านั้นเอง แล้วก็อยากจะเตือนคุณไว้สักอย่างด้วยค่ะ ปากอย่างนี้ระวังจะมีคนเอาสีมาป้ายที่ปากกับหัว จนต้องไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มโรงบาลนะคะ” ใบหน้าสวยยังคงแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มหวานนุ่ม ไหล่กว้างเลิกขึ้นสูงอย่างไม่แคร์ ทีตัวเองว่าคนอื่นได้ แต่พอเขาสวนกลับก็โกรธ ผู้ชายอะไรไม่แมนเลย...ดวงตากลมโตกวาดไล่มองนภดลใหม่ตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นไปจนถึงศีรษะอย่างไม่แคร

  • เพลิงร้ายใต้ปีกรัก    chapter 38

    “แกล่ะ ไปไหนมาแต่เช้า หรือว่า...” นภดลปรายสายตามองยายแม่บ้านที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนกำยำด้วยความหงุดหงิด“ไปหาไอ้สิทธิ์มา มีธุระกับมันนิดหน่อย” “อ้าว แล้วไอ้สิทธิ์กลับตั้งแต่เมื่อไหร่ เห็นเมื่อคืนก็มานี่หว่า” นภดลเอ่ยถาม วาดสายตามองไปรอบๆ อย่างคนกำลังขบคิดเรื่องสำคัญ ราชันย์ไปหาสิทธิศักดิ์ทำไม มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า ทำไมสองคนนี้ถึงได้ชอบคิดชอบทำอะไรลับหลังเขาเสมอนะ “แกก็รู้ว่าไอ้สิทธิ์เป็นเด็กดี ตื่นเช้าเข้านอนเร็ว เหล้ากินบุหรี่ไม่สูบ แล้วก็เกรงใจแฟนจะตาย ไอ้เรื่องนอนค้างอ้างแรมที่อื่นนะไม่มีทาง อาริตาเช็กตลอดยี่สิบชั่วโมง ถ้าทำได้” ราชันย์แขวะไปถึงเพื่อนรักที่ไม่น่าจะเข้ามาข้องแวะกับกลุ่มของเขาได้เลย เพราะพวกเขาบางคนตะวันไม่ขึ้นไม่กลับเข้าบ้านนอน แต่สิทธิศักดิ์ไม่เคยที่กลับบ้านเกินเที่ยงคืนซึ่งนั่นคือสูงสุดแล้ว ด้วยแฟนสาวเป็นห่วงยิ่งกว่าแม่เสียอีก คอยโทรเช็กเช้าเย็นตลอดจนถึงค่ำคืน ยิ่งวันไหนรู้ว่าไปกับกลุ่มของเขาละก็ แม่โทรเช็กนาทีต่อนาทีเลยเชียวล่ะ แต่อย่างน้อยการมีสิทธิศักดิ์เข้ามาในกลุ่มก็มีเรื่องดีในหลายๆ ด้าน เพราะสามารถพึ่งพาได้ในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหน เพียงแค่โ

  • เพลิงร้ายใต้ปีกรัก    chapter 37

    ริมฝีปากเล็กขบกัดติ่งหูพร้อมสอดแทรกปลายลิ้นเล็กและร้อนไปในช่องหูกว้าง ในขณะที่มือก็ลูบไล้ปลดเข็มขัดหนัก จิกทึ้งเสื้อโปโลออกจากตัวกางเกงและสอดมือไปลูบไล้อกกว้าง บอกแล้วว่าเธอมันหน้าด้านและเก่งเรื่องจดและจำในสิ่งที่ได้พบเจอ การสอนสั่งของราชันย์ที่มอบให้เมื่อคืนจึงย้อนกลับมาสู่ตัวเขา แม้จะยังไม่เต็มที่เท่าไหร่ก็ตามเถอะ มือเล็กเคลื่อนลงไปด้านล่างอย่างเชื่องช้า และเมื่อถึงบางส่วนของเรือนกายแข็งแกร่ง แทนที่เธอจะทักทายอย่างที่ราชันย์ต้องการ กันติชาเลือกที่จะหยุดและขยับตัวถอยห่าง แต่ยังคงไม่ปล่อยมือจากกายแกร่ง “ว่าไงคะคุณใหญ่ จะตัดสินใจยังไงเอ่ย” หญิงสาวถามเสียงนุ่มและเซ็กซี่เล็กๆ ปลายลิ้นลากไล้ริมฝีปากอย่างเย้ายวนชวนเชิญ ดวงตาเป็นประกายหวานเซ็กซี่ ราชันย์ถึงกับร้อนราวถูกไฟเผา เมื่อเจอกับการยั่วยวนของแม่นางบำเรอฝึกหัด มือใหญ่ยกขึ้นลูบไล้ปลายคางเบาๆ ดวงตาตวัดมองใบหน้านวลเนียนที่มีรอยยิ้มหวานหยาดเยิ้มเชิญชวน ไพล่มือไปจับมือเล็กมาดมดอม ริมฝีปากหนาขบกัดปลายนิ้วเล็กๆ เหมือนกับคนกำลังคิดสะระตะ การทำตามความต้องการของกันติชา แลกกับสิ่งที่เธอจะมอบให้มันคุ้มค่ากันหรือเปล่า ทั้งที่เขาตัดสินใจได้ตั้ง

  • เพลิงร้ายใต้ปีกรัก    chapter 36

    “โธ่...หนูว่าวก็ พี่คิดถึ้งคิดถึงหนูจริงๆ นี่จ๊ะ หนูไม่คิดถึงพี่บ้างเลยหรือไง” วสันต์เอ่ยอย่างยอมแพ้เมื่อเห็นพวงแก้มอิ่มนุ่มทั้งสองข้างเริ่มมีสีแดงระเรื่อแต่งแต้ม“เอาละๆ ยอมแล้วจ้ายอมแล้ว แหม...น้องหนูว่าวนี่ดุจริงๆ ได้เป็นเมียแล้วจะดุแบบนี้ไหมจ๊ะ” เห็นแล้ว อยากจับมาใกล้แล้วก็จูบสักฟอดสองฟอด ปากก็เหมือนกันน่าจับบดขยี้ด้วยปากหนาๆ สักทีสองที สอดแทรกปลายลิ้นไปในโพรงปากนุ่ม แหม...แค่คิด ร่างกายก็คึกคะนองแล้ว ไฟร้อนผ่าวพุ่งขึ้นทั่วร่างกายที่สั่นเทิ้มด้วยความโกรธกับคำพูดลามเลียอย่างโจ่งแจ้งที่ได้ยินเต็มสองหู ริมฝีปากอวบอิ่มขบกัดจนห้อเลือด “เสี่ยจะพูดดีๆ หรือให้ฉันเชิญออกจากห้อง” “แหม...น้องว่าวจ๋า พูดกับเสี่ยเขาให้เพราะๆ หน่อยซิจ๊ะ เดี๋ยวถ้าเสี่ยเกิดโมโหเข้า น้องกับน้าจะลำบากนะจ๊ะ” หนึ่งในลูกน้องของวสันต์เอ่ยอย่างอดรนทนไม่ได้ ดวงตาวามวาวไล่มองไปตามสัดส่วนเรือนกายสาวอย่างโลมเลียและจาบจ้วง “ไอ้...” ฤทธิ์รงค์อดทนรนไม่ได้ด่ากราดอย่างไม่ไว้หน้า กายผอมแห้งเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกพยายามผุดลุกจากเตียง แต่เพราะความเจ็บจากบาดแผลที่มีอยู่เต็มกายเลยทำให้ทำไม่ได้ดั่งใจ จึงได้แต่หงุดหงิดจนต้องระบายคว

  • เพลิงร้ายใต้ปีกรัก    chapter 35

    “โธ่...หนูว่าวก็ พี่คิดถึ้งคิดถึงหนูจริงๆ นี่จ๊ะ หนูไม่คิดถึงพี่บ้างเลยหรือไง” วสันต์เอ่ยอย่างยอมแพ้เมื่อเห็นพวงแก้มอิ่มนุ่มทั้งสองข้างเริ่มมีสีแดงระเรื่อแต่งแต้ม“เอาละๆ ยอมแล้วจ้ายอมแล้ว แหม...น้องหนูว่าวนี่ดุจริงๆ ได้เป็นเมียแล้วจะดุแบบนี้ไหมจ๊ะ” เห็นแล้ว อยากจับมาใกล้แล้วก็จูบสักฟอดสองฟอด ปากก็เหมือนกันน่าจับบดขยี้ด้วยปากหนาๆ สักทีสองที สอดแทรกปลายลิ้นไปในโพรงปากนุ่ม แหม...แค่คิด ร่างกายก็คึกคะนองแล้ว ไฟร้อนผ่าวพุ่งขึ้นทั่วร่างกายที่สั่นเทิ้มด้วยความโกรธกับคำพูดลามเลียอย่างโจ่งแจ้งที่ได้ยินเต็มสองหู ริมฝีปากอวบอิ่มขบกัดจนห้อเลือด “เสี่ยจะพูดดีๆ หรือให้ฉันเชิญออกจากห้อง” “แหม...น้องว่าวจ๋า พูดกับเสี่ยเขาให้เพราะๆ หน่อยซิจ๊ะ เดี๋ยวถ้าเสี่ยเกิดโมโหเข้า น้องกับน้าจะลำบากนะจ๊ะ” หนึ่งในลูกน้องของวสันต์เอ่ยอย่างอดรนทนไม่ได้ ดวงตาวามวาวไล่มองไปตามสัดส่วนเรือนกายสาวอย่างโลมเลียและจาบจ้วง “ไอ้...” ฤทธิ์รงค์อดทนรนไม่ได้ด่ากราดอย่างไม่ไว้หน้า กายผอมแห้งเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกพยายามผุดลุกจากเตียง แต่เพราะความเจ็บจากบาดแผลที่มีอยู่เต็มกายเลยทำให้ทำไม่ได้ดั่งใจ จึงได้แต่หงุดหงิดจนต้องระบายคว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status