Masuk“นี่ก็ดึกแล้ว กว่าจะเก็บข้าวของเสร็จก็คงจะครึ่งค่อนคืนไปล่ะ หนูจะกลับไปนอนบ้าน หรือจะนอนกับป้า” จันทร์ปล่อยวางเรื่องที่กังวล หันไปถามเรื่องที่อยากรู้
ความจริงการจะนอนที่ไหนของกันติชาไม่ใช่กงการอะไรของนางหรอก แต่คงเป็นเพราะความเอ็นดูส่วนตัว และไม่อยากให้สาวน่ารักต้องเดินทางกลับบ้านคนเดียวท่ามกลางความมืดที่ไม่รู้ว่าจะมีอันตรายซุกซ่อนอยู่เพียงไหน
มันน่ากลัวอยู่ เพราะเท่าที่รู้ กันติชาเป็นสาวน้อยแสนสวยที่ชายหลายคนต่างหมายปอง ถ้าหากรู้ว่าหญิงสาวเดินกลับบ้านเพียงลำพัง เจอช่วงเส้นทางมืดมิดและเปล่าเปลี่ยว พวกนั้นอาจจะมาดักฉุดไปทำมิดีมิร้าย นางไม่มีปัญญาหาหลานสาวเก่งและดีอย่างนี้ไปคือน้าชายขี้เมาหรอกนะ
แม้จะเป็นห่วงน้าชายที่หายหน้าออกจากบ้านไม่รู้ว่าไปเมามายที่ไหน ก่อนที่เธอจะมาทำงานที่นี่ แต่การกลับบ้านท่ามกลางความมืดและบรรยากาศชวนขนหัวลุกแบบนี้ เธอไม่อยากจะเสี่ยง ดีไม่ดีมีใครฉุกลากเข้าพงหญ้าข้างๆ ทำมิดีมิร้ายและฆ่าทิ้งเสียละ คนเราสมัยนี้ไว้ใจใครได้ที่ไหนกัน บางคนเห็นหน้ากันทุกวันยังกลายเป็นคนไม่ดีได้เลย
“นอนกับป้าจ้ะ”
“แล้วเตรียมของมาหรือยังล่ะ ไม่มีเอาเสื้อผ้าของป้าใส่ไปก่อนก็ได้ แต่ลำบากหน่อยนะ เพราะป้าตัวใหญ่” จันทร์บอกอย่างเอ็นดู นึกถึงครั้งแรกที่เธอเห็นหน้ากันติชาแล้วไม่ใช่เพราะว่าดูถูกหรอกนะแต่อึ้งมากกว่า ใครจะคิดว่าสาวน้อยหน้าใสๆ ราวกับเด็กคนนี้จะเป็นคนขายอาหารที่มีคนชมว่าอร่อยและมีลูกค้าติดกันชนิดที่ว่าตักขายแทบไม่ทัน
“เตรียมมาแล้วค่ะ” กันติชาบอกพร้อมรอยยิ้มหวานๆ แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นแก้มอวบอิ่มเป็นรอยบุ๋มลงไปเล็กน้อย กลายเป็นลักยิ้มน่ารักๆ อันเป็นสัญลักษณ์ประจำกายที่ใครเห็นก็ต้องหลงชอบไปเสียทุกคน
“ดูเหมือนว่าตอนนี้นายและเพื่อนๆ ของนายต่างก็ย้ายตัวเองเข้าไปในบ้านกันหมดแล้ว” จันทร์ชะเง้อคอมองออกไปยังสนามหญ้าหน้าบ้านที่เคยเป็นที่ซ่องสุมของกลุ่มเพื่อนและลูกค้าเจ้านาย ซึ่งตอนนี้หายเกลี้ยงไม่มีใครเหลือนั่งอยู่ตรงนั้นแม้แต่คนเดียวแล้ว
“คงไม่มีใครเรียกหาเอาอะไรอีกแล้ว ป้าว่าเราช่วยกันเก็บข้าวของที่กลาดเกลื่อนอยู่ให้เข้าที่เข้าทางดีกว่า เราจะได้ไปพักผ่อนกัน ดีไหม” จันทร์เอ่ยถามพร้อมกับเดินไปหวังช่วยหยิบจับข้าวของที่วางระเกะระกะเกลื่อนกลาดอยู่
“ไม่ต้องหรอกค่ะป้า งานแค่นี้เองหนูทำได้สบายมาก ป้าไปนอนเถอะจ้ะ เดี๋ยวไม่สบายขึ้นมาอีก เจ้านายป้าจะมาหักตังค์หนูเอานะ” กันติชารีบห้ามอย่างเร็วด้วยน้ำเสียงกึ่งเย้ากึ่งจริง
ราชันย์รักและผูกพันกับป้าจันทร์มาก หากหญิงวัยกลางคนเป็นอะไรไป เขาจะต้องโทษเธอเป็นแน่ เดี๋ยวอดได้โบนัสงามๆ เหมือนที่เคยได้ เสียดายแย่ อย่าว่าเธองกนะ ก็เงินๆ ทองๆ มันเข้าใครออกใครเสียที่ไหนล่ะ แต่เธอเลือกที่จะหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงและความถูกต้องเท่านั้น
“อีกอย่างเดี๋ยวหนูทำงานเสร็จก็ต้องไปรับเงินจากคุณราชันย์ก่อนด้วย พรุ่งนี้ตื่นตอนเช้าจะได้รีบออกไปเลย เป็นห่วงน้าค่ะ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะไปเมาอยู่ที่ไหน” หญิงสาวบอกกึ่งรำพันด้วยความหนักอกหนักใจ เมื่อคิดถึงน้าชาย
“อ้าวทำไมล่ะ ป้านึกว่าพรุ่งนี้คุณใหญ่จะฝากเงินกับป้ามาให้หนูว่าวเสียอีก” จันทร์ถามอย่างงุนงง ปกติคือหลังจากเสร็จงาน ราชันย์จะเป็นคนให้นางนำเงินให้กับกันติชาในวันรุ่งขึ้นเสมอ แต่คราวนี้กลับไม่ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
จันทร์สะดุ้ง หรือว่านายคิดจะทำอะไรกับกันติชาเข้าแล้วจริงๆ ไม่ได้การละ จะให้นายมาทำเด็กสาวไร้เดียงสาใจแตกไม่ได้ ต้องรีบเตือน...
แล้วจะเตือนใครล่ะ?
กันติชาหรือ ก็หญิงสาวยังไม่รู้เล่ห์เหลี่ยมนายเสียหน่อย มีแต่นางเท่านั้นที่รู้ อีกอย่างถ้าพูดกันไปตรงๆ อาจทำให้หญิงสาวไม่พอใจก็เป็นได้ เพราะคิดว่านางไปก้าวก่ายและยุ่มย่ามกับชีวิตส่วนตัวจนมากเกินไป หรือจะเตือนนาย อย่ายุ่งกับเด็กก็ไม่ได้อีก ถึงจะรักและเคารพเธอเหมือนกับญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง แต่ก็เป็นคนเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ นอกจากคุณยาย...แต่ท่านก็เสียชีวิตไปตั้งหลายปีแล้ว ถึงตอนนี้จึงไม่มีใครห้ามราชันย์ได้ ยิ่งห้ามกลับจะเป็นยิ่งยุให้เร่งทำเร็วขึ้น
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ก็วันนั้น คุณใหญ่เอ่อ...”
ไฟร้อนผ่าวแล่นลิ่วมาแตะพวงแก้มอิ่มและกระจายไปทั่ววงหน้าอย่างรวดเร็ว สองมือเล็กจะกำหมัดก็ไม่ใช่ จะคลายออกก็ไม่เชิง รู้สึกว่ามันเป็นเหมือนสิ่งของเกะกะที่ไม่รู้ว่าควรจะนำไปไว้ตรงไหนดี เพียงแค่พูดถึงวันที่เธอเกือบจะกลายเป็นขนมหวานให้กับราชันย์ได้กิน ทั้งความหวาดกลัว วาบวิว เสียวซ่านมันปนเปกันไปจนแยกไม่ออกก็เข้ามาแทนที่ความรู้สึกและทุกๆ อย่างจนลืมไปด้วยซ้ำว่าจะพูดอะไร
“ไม่ต้องพูดละ ป้าเข้าใจดี” จันทร์โบกมืออย่างเข้าใจจริงๆ
“เอาเป็นว่าหนูระวังตัวให้ดีละกันนะ เพื่อนผู้ชายของนายป้าแต่ละคนมือเร็วใช่เล่น คืนนี้ก็เมาได้ที่กันทั้งนั้น ป้ากลัวว่าจะครองสติไม่อยู่แล้วเผลอทำอะไรหนูเข้านะ” ยังไงจันทร์ก็ยังคงมีความรักและจงรักภักดีกับนายผู้ที่ให้ที่อยู่และที่กินอยู่ดี คำพูดที่ออกมาจากปากจึงมีการละไว้ไม่เอ่ยถึง เพื่อไม่ให้นายนั้นต้องมาเสียชื่อเพราะปากคนในอย่างนาง
“ขอบคุณค่ะป้า หนูจะระวังตัวให้มากที่สุดค่ะ” กันติชารับปากอย่างเข้าใจ “เดี๋ยวหนูจะเก็บของพวกนี้ทำความสะอาดจนเสร็จแล้วจะไปเอาค่าจ้างและกลับมาหาป้าให้เร็วที่สุดค่ะ แล้วก็จะไม่ทำตัวให้เป็นที่สังเกตของทุกๆ คนด้วยดีไหมคะ”
กันติชาถามกลับด้วยน้ำเสียงมั่นคงและหนักแน่น เป็นการให้คำสัญญาพร้อมรอยยิ้มหวานๆ ที่ละลายหัวใจใครหลายๆ คนมาแล้ว ส่วนหนึ่งเพราะต้องการให้จันทร์คลายความร้อนรุ่มและเป็นกังวล อีกทั้งเธอเองก็ไม่ค่อยจะไว้ใจเพื่อนของผู้ว่าจ้างนัก ที่สำคัญผู้ว่าจ้างนั่นแหละตัวดี
‘คนอะไรก็ไม่รู้ มือไวเอาแต่ใจชะมัด เจอกันครั้งแรกก็จะปล้ำเธอเข้าให้แล้ว’ ริมฝีปากขมุบขมิบต่อว่าคนที่เป็นนายจ้างชั่วครั้งชั่วคราว จมูกโด่งเป็นสันยู่ย่นเข้าหากัน เพียงแค่วันแรกที่เธอมารับงาน เขาก็ป่วนทั้งหัวใจและร่างกายเธอจนสั่นเหมือนเจ้าเข้าทำอะไรไม่ถูก
สะโพกสอบแทรกลึกจุ่มจ้วงกายแข็งแกร่งและร้อนระอุไปในความอุ่นร้อนชื้นอย่างไม่บันยะบันยัง กายสาวตอบรับถี่ยิบทุกสัมผัสที่ถาโถมเข้าหาอย่างเร่าร้อนส่งมอบความสุขให้สองร่างหล่อหลอมกลายเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์บทรักครั้งแรกผ่านพ้น ครั้งที่สองสามก็ตามมาตลอดจนเกือบจะรุ่งสางของอีกวัน ก่อนที่สองร่างจะนอนกกกอดอย่างแนบชิด พลั่ก!! พลั่ก!! “ว้าย!!! พี่ใหญ่/คุณใหญ่” สองสาวกรีดร้องอย่างตกใจ เมื่ออยู่ดีๆ เพียงแค่เห็นหน้าสิทธิศักดิ์เท่านั้นราชันย์ก็ต่อยอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ชายิกาถลาเข้าไปกกกอดคนรัก ในขณะที่กันติชาก็รีบเขากอดราชันย์ขัดขวางไม่ให้ชายหนุ่มไปซ้ำเติมอีกครั้ง“มีอะไรคะคุณใหญ่ ต่อยคุณสิทธิ์ทำไม ไหนเราตกลงกันแล้วนะคะว่าจะยอมปล่อยให้...” “หมัดแรก เพราะมันไม่เชื่อฟังคำพูดฉัน เมื่อวานจำได้ไหมว่าให้เวลาแค่สิบนาที แต่ทำไมวันนี้ยังเสือกอยู่ในบ้านฉันอีก แล้วดูเหมือนไอ้เพื่อนเฮงซวยยังไม่ได้กลับบ้านด้วยซ้ำ ส่วนหมัดสองต่อย เพราะอยากเอาคืนในทุกๆ เรื่อง” ราชันย์ยกมือชี้หน้าสิทธิ์ “แกจำไว้เลยนะไอ้สิทธิ์ ถึงฉันจะยกน้องสาวให้ แต่เมื่อไหร่ที่แกทำให้ยายน้องต้องเจ็บปวด รับรองได้เลยว่าแกได้ไปนอนหยอดน้ำข้าวต
“ได้...ให้โอกาส แต่ขอดูความประพฤติสักสามปีได้ไหมล่ะ ถ้าทำตัวดีก็ให้คบกับยายน้องได้ แล้วก็ดูใจกันอีกสักสี่ห้าปีค่อยแต่งงาน รอได้ไหมล่ะ” วงหน้าคมคร้ามผุดรอยยิ้มในดวงตา สามปีที่อีกฝ่ายจะไม่ได้เจอหน้าชายิกา เพราะเขาจะให้น้องสาวอยู่กับแม่ ให้โอกาสแค่โทรคุยไม่ให้พบหน้า ส่วนเวลาอีกสี่ห้าปีก็ประมาณว่าดูแลแบบห้ามแตะต้อง ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ไต่ตอมแน่ะ...ยังไม่วายตั้งแง่อีก เฮ้อ...วงหน้าสวยส่ายเบาๆ หันไปส่งกำลังใจให้สองคนที่ตอนนี้เริ่มขยับเข้าไปยืนใกล้กัน มือเล็กอยู่ในอุ้งมือใหญ่ที่เริ่มขยับเคลื่อนสอดไปด้านหลัง หวังโอบรอบกายบอบบาง แต่ต้องหยุดชะงัก เมื่อเจอกับสายตาคมกริบที่จับจ้องอย่างไม่คลาดแม้สักนิดเดียว “คุณใหญ่อย่าแกล้งคุณสิทธิ์กับคุณน้องซิคะ” “ไม่ได้แกล้ง แต่ยายน้องยังเด็ก ก็อยากให้คบกันนานๆ สักหน่อย อีกอย่างฉันอยากให้ยายน้องเรียนจบตรีก่อนจะมีแฟน เรียนจบโทแล้วค่อยแต่งงาน” ราชันย์พูดกลั้วหัวเราะ แล้วเมื่อเห็นหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของสิทธิศักดิ์จนอยากจะหัวเราะให้ดังลั่นห้อง เออ...แกล้งคนนี่สนุกดีเหมือนกัน ทำให้น้องสาวเขาเจ็บและเป็นทุกข์จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ผอมไปเป็นกอง ก็ทรมานอีกสักหน่
“ได้...ให้โอกาส แต่ขอดูความประพฤติสักสามปีได้ไหมล่ะ ถ้าทำตัวดีก็ให้คบกับยายน้องได้ แล้วก็ดูใจกันอีกสักสี่ห้าปีค่อยแต่งงาน รอได้ไหมล่ะ” วงหน้าคมคร้ามผุดรอยยิ้มในดวงตา สามปีที่อีกฝ่ายจะไม่ได้เจอหน้าชายิกา เพราะเขาจะให้น้องสาวอยู่กับแม่ ให้โอกาสแค่โทรคุยไม่ให้พบหน้า ส่วนเวลาอีกสี่ห้าปีก็ประมาณว่าดูแลแบบห้ามแตะต้อง ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ไต่ตอมแน่ะ...ยังไม่วายตั้งแง่อีก เฮ้อ...วงหน้าสวยส่ายเบาๆ หันไปส่งกำลังใจให้สองคนที่ตอนนี้เริ่มขยับเข้าไปยืนใกล้กัน มือเล็กอยู่ในอุ้งมือใหญ่ที่เริ่มขยับเคลื่อนสอดไปด้านหลัง หวังโอบรอบกายบอบบาง แต่ต้องหยุดชะงัก เมื่อเจอกับสายตาคมกริบที่จับจ้องอย่างไม่คลาดแม้สักนิดเดียว “คุณใหญ่อย่าแกล้งคุณสิทธิ์กับคุณน้องซิคะ” “ไม่ได้แกล้ง แต่ยายน้องยังเด็ก ก็อยากให้คบกันนานๆ สักหน่อย อีกอย่างฉันอยากให้ยายน้องเรียนจบตรีก่อนจะมีแฟน เรียนจบโทแล้วค่อยแต่งงาน” ราชันย์พูดกลั้วหัวเราะ แล้วเมื่อเห็นหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของสิทธิศักดิ์จนอยากจะหัวเราะให้ดังลั่นห้อง เออ...แกล้งคนนี่สนุกดีเหมือนกัน ทำให้น้องสาวเขาเจ็บและเป็นทุกข์จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ผอมไปเป็นกอง ก็ทรมานอีกสักหน่
“ผมรู้ว่าคำตอบที่ให้ไปจะทำให้คุณเจ็บปวด เพราะตัวผมเองก็เจ็บปวดเหมือนกัน แต่ผมรู้อย่างเดียวว่าผมทำร้ายริตาไม่ได้” นี่คือความจริงใจจากเขาที่จะยังทำให้อาริตาได้ ความซื่อสัตย์และภักดีอย่างที่คนรักควรจะมอบให้แก่กัน แม้อีกฝ่ายจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตามที“ถ้าอย่างนั้นนายมาที่นี่ทำไม มาทำให้ฉันเจ็บปวดอีกทำไม” หญิงสาวถามพร้อมเสียงสะอื้น น้ำตาอุ่นร้อนไหลอาบสองแก้ม ร่างบอบบางสั่นสะท้านกับความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั่วหัวใจและร่างกาย กัดกร่อนหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ให้แทบจะหยุดเต้น ทำไมถึงไม่บอกให้เธอดีใจก่อน แล้วค่อยบอกให้รู้ในวันหลัง ซึ่งคงจะทำใจได้มากที่จะยอมรับความจริงนี้ได้แล้ว“ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยฉันไป ไม่นานฉันคงทำใจได้” “เพราะผมรักคุณ ผมรักคุณน้อง คุณจะให้โอกาสผมได้ไหม” “ไม่ได้...ถ้าแกยังคิดว่ายายฉันมีบุญคุณกับแกอยู่ และยังคิดว่าฉันเป็นเพื่อนก็ออกไปจากบ้านฉัน อย่าให้ต้องเรียกตำรวจ” ราชันย์ห้ามเสียงแข็งกร้าวและดุร้าย ใบหน้าคมคร้ามแดงคล้ำด้วยความโกรธ มือใหญ่กำหมัดเอาไว้แน่น นี่ถ้าไม่ฉุกใจว่าไอ้รถที่แอบจอดอยู่ห่างจากบ้านไปไม่มากเป็นรถสิทธิศักดิ์ละก็ ไม่รู้ว่าป่านนี้อีกฝ่ายจะทำร้ายอะไรน้องสาวเขาอี
“นายมาทำไมอีกนายสิทธิ์” เพียงแค่เห็นหน้าสิทธิศักดิ์เท่านั้นชายิกาก็ยิงคำถามไปในทันที และแทบจะไม่รอฟังคำตอบด้วยซ้ำ ปิดหนังสือนิตยสารในมือลงดังปังใหญ่ รีบวางลงบนโต๊ะพร้อมร่างเล็กบอบบางผุดลุกจากที่นั่ง แต่ก็ไม่ทัน ร่างหนาที่ถลาเข้ามาดักทางไว้ แล้วเมื่อจะหันไปอีกด้านการตัดสินใจก็ช้าไป แขนเรียวถูกคว้าไว้และออกแรงดึงเพียงเล็กน้อยร่างอรชรอ้อนแอ้นก็ถลาขึ้นไปนั่งบนตักกว้าง พร้อมแขนที่สอดรัดระหว่างลำตัว“ปล่อยฉันนะนายสิทธิ์ นายไม่มีสิทธิ์จะมาทำแบบนี้กับฉัน” หญิงสาวตวาดเสียงเขียว ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มจนแบนราบเรียบ สองมือเล็กพยายามจิกทึ้งดึงแขนใหญ่ออกจากกาย แต่ยิ่งขัดขืนอ้อมแขนแข็งแกร่งก็ยิ่งรัดแน่นมากขึ้น หัวใจที่เพียรสร้างความเข้มแข็ง พยายามบอกว่าอย่าหวั่นไหว แต่เพียงแค่ได้เห็นหน้า ได้สัมผัสกลิ่นกายที่คุ้นเคย หัวใจก็เริ่มไหวหวั่นเสียแล้ว “ปล่อยฉันนะนายสิทธิ์ ถ้าพี่ใหญ่มานายเจ็บตัวแน่” ในเมื่อทำอย่างไรแล้วอีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมปล่อยก็ยกชื่อพี่ชายมาขู่ หวังว่าอีกฝ่ายจะกลัวและรีบไปเสียที ก่อนที่หัวใจซึ่งเธอพยายามก่อกำแพงไม่ให้หวั่นไหวจะพังทลายครืนลงมาสิทธิศักดิ์หัวเราะในลำคอ ก็เขาน่ะเฝ้าอยู่หน้าบ้าน
วงหน้าคมหวานเหลียวมองซ้ายขวาลากพากันติชาและชายิกาไปยังมุมสุดของห้องที่ก่อสร้างไม่เสร็จและมีเส้นทางเล็กๆ ให้เดิน แต่ต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังที่สุด เพราะมีเศษดินเศษไม้และเหล็กแหลมๆ กองอยู่เต็ม ถึงแม้จะพยายามระมัดระวังตัวมากเท่าไหร่ แต่อีกสองสาวที่พยายามขัดขืนอย่างสุดฤทธิ์ไม่ยอมเดินตามง่ายๆ ก่อนที่ขาใหญ่จะเดินพลาด เหยียบเข้ากับกองไม้ขนาดใหญ่ซึ่งภายในนั้นมีเหล็กแหลมๆ ซุกซ่อนอยู่ “โอ๊ย!”แต่ถึงแม้จะเจ็บกายสักเพียงใดนภดลก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มือใหญ่กระชากร่างเล็กทั้งสองร่างตามติดไปด้วย แต่ทั้งราชันย์และสิทธิศักดิ์ รวมถึงตำรวจอีกหลายนายที่เฝ้าจับตาดูอยู่ไม่ยอมให้ชายหนุ่มทำได้ง่ายๆ รีบตรงเข้าไปช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนจะยังเป็นความซวยของชายิกา เพราะเมื่อราชันย์กระชากตัวน้องสาวมาได้ร่างเล็กก็กลิ้งไป จนลอยคว้างอยู่บนปลายเหล็กแหลมๆ ที่สอดไว้ทำคานพื้น ในขณะที่นภดลนั้นก็เหมือนจะเป็นคราวเคราะห์ เมื่อร่างใหญ่ล้มทับเหล็กแหลมและมันได้เสียบเข้าที่ช่องท้อง เหนือทรวงอกเล็กน้อย เลือดไหลทะลักออกจากร่างที่กำลังกระตุกถี่ๆ ดวงตาเบิกกว้าง แต่กระนั้นอีกฝ่ายก็หารับรู้ถึงความเจ็บปวดไม่ ยังคงส่งเสียงแผดร้องด่าทอกันติชา







