“รักษาสิวเนี่ยนะ” ผมไม่แน่ใจว่ายาคุมรักษาสิวได้จริงหรือเปล่า แต่เหมือนจะเคยได้ยินมาบ้าง
“ใช่ค่ะ เพราะงั้นคุณวินไม่ต้องกังวลว่าเทียร์จะปล่อยให้ตัวเองท้อง แล้วมาเรียกร้องให้คุณรับผิดชอบ”
ที่แท้เธอก็เข้าใจว่าที่ผมสบถเมื่อกี้ เพราะกำลังคิดหาวิธีหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบอยู่
ให้ตายสิ ผมดูแย่ในสายตาเธอขนาดนั้นเลยหรือไง ไม่ได้การล่ะ
“ไปกันใหญ่แล้วเทียร์ ผมไม่เคยคิดว่าคุณเป็นผู้หญิงที่จะจับผู้ชายด้วยวิธีแบบนั้นเลยนะ และถ้าเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้คุณท้องขึ้นมาจริงๆ ผมก็ยินดีจะรับผิดชอบอยู่แล้ว” ผมปราดเข้าไปใกล้เธอ พยายามพูดอย่างจริงจังที่สุด
แต่เธอกลับหลุบตาลงไม่ยอมมองหน้ากัน ทำท่าเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แล้วก็ตอบกลับมาแค่ประโยคเดียวว่า “อ๋อ ค่ะ”
ผมถึงกับถอนหายใจ
ก็แน่ล่ะ เราสองคนไม่ได้คบหากันอยู่ สำหรับเธอเรื่องเมื่อคืนเป็นไปเพราะความเมาล้วนๆ โดยไม่ได้รู้เลยว่าผมมองเธอพิเศษเกินกว่าลูกน้องมานานแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่คิดจะบุ่มบ่าม พูดอะไรออกไปตอนที่จิตใจของเธอกำลังเปราะบางอยู่อย่างนี้แน่ ผมคงต้องรออีกสักระยะ ค่อยๆ ให้เธอทำความรู้จักกับ ‘ไรวินท์’ ในฐานะผู้ชาย ไม่ใช่ผู้บริหารคนหนึ่งของบริษัท
ดังนั้น สิ่งที่ผมควรลงมือก่อนเป็นอันดับแรกในตอนนี้ คือทำให้เทียร์เห็นดีด้วยกับสถานะที่เปลี่ยนไประหว่างเราสองคนเสียก่อน
“ผมรู้ว่าเรื่องระหว่างเรามันดูรวดเร็วไปหมด ถ้าผมเป็นคุณ ก็คงรู้สึกสับสนและไม่มั่นใจเหมือนกัน” ผมปรับสีหน้าและน้ำเสียงให้ดูสุขุมอย่างในยามปกติ เพื่อให้ดูจริงจัง
“แต่ฉันไม่ได้คิดโทษคุณฝ่ายเดียวหรอกนะคะ เพราะเมื่อคืนฉัน...ฉันยอมคุณเอง” น้ำเสียงของเธอสั่นน้อยๆ ใบหน้าแดงเรื่อ ดูเหมือนความพยายามสะกดกลั้นความรู้สึกของเธอใกล้พังทลายลงแล้ว
ผมคว้าร่างบอบบางเข้ามาในอ้อมอก แล้วก้มลงจูบบนหน้าผากของเธอเบาๆ “คุณเสียใจงั้นเหรอ ถึงผมจะไม่เคยตีคุณค่าของผู้หญิงด้วยเยื่อบางๆ นั่น แต่ว่าผมรู้สึกดีมากเลยนะเทียร์ ที่ได้เป็นผู้ชายคนแรกของคุณ”
“คุณวิน...” เธอเงยหน้าขึ้นมองผม ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างคล้ายตกใจกับคำตอบที่ได้ยิน ผมจึงส่งยิ้มที่อบอุ่นที่สุด แล้วก้มลงจูบริมฝีปากอิ่มเบาๆ โดยที่เธอไม่ได้ขัดขืน ซ้ำยังจูบตอบอย่างอ่อนหวาน
หลังจูบเนิ่นนาน ผมคิดว่าเธอคงสงบใจขึ้นบ้างแล้ว
“เชื่อเถอะ ผมไม่ใช่ผู้ชายที่จะมีอะไรกับผู้หญิงคนไหนก็ได้ เมื่อคืนนี้ถ้าไม่ใช่คุณ ผมคงกลับไปโดยไม่สนใจว่าผู้หญิงคนนั้นจะนอนจมอ้วกอยู่หน้าบ้านหรือเปล่า แต่เพราะผมแคร์คุณ ผมถึงได้พยายามดูแลคุณให้ดีที่สุด”
“แล้วฉันก็ดันอ่อยคุณจนตบะแตกใช่ไหมคะ”
ผมหัวเราะเบาๆ “ถ้าคุณไม่อ่อยผม ผมก็จะอ่อยคุณอยู่ดี”
“คุณวินอย่าล้อเทียร์เล่นได้ไหมคะ”
“ผมไม่เคยล้อคุณเล่น ผม ‘เอา’ จริง”
“แต่ว่าเทียร์เพิ่งจะเลิกกับแฟน แล้วเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน เทียร์ไม่อยากทำตัวไม่ดีจริงๆ ค่ะคุณวิน”
“ผมถามคำเดียว ตอนที่เรามีอะไรกัน คุณขยะแขยง หรือรู้สึกรังเกียจผมสักนิดบ้างหรือเปล่า” ผมมั่นใจว่าเธอไม่มีทางรังเกียจผม เธอออกจะชอบที่ผมทำอะไรต่อมิอะไรกับเธอด้วยซ้ำ
อย่าปากแข็งนักเลย รีบยอมรับเถอะคนสวย เร็วเข้า
“เทียร์...ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นค่ะ แต่ว่า...”
ผมรีบตัดบทก่อนที่เธอจะพูดอะไรที่จะสร้างปมปัญหาใหม่ออกมา “แค่นี้ก็พอแล้ว ในเมื่อเรื่องระหว่างเราเมื่อคืนเป็นความรู้สึกดีๆ ผมว่า เรามาลองศึกษากันและกันดูก่อนก็ไม่เห็นมีอะไรเสียหาย”
“นี่คุณวินกำลังขอเทียร์คบอยู่เหรอคะ”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ผมโสด คุณเองก็โสด”
“แต่เทียร์เพิ่งเลิกกับนิกกี้ เกรงว่าคนในออฟฟิตจะพากันนินทาจนคุณวินเสื่อมเสียเอานะคะ”
“เรื่องนั้น ผมไม่สนใจอยู่แล้ว”
“แต่ฉันสนใจค่ะ” เธอจ้องตาผมเขม็ง มองก็รู้ว่าจริงจัง
“ชื่อเสียงสำคัญก็จริง แต่ผมไม่อยากให้ทุกอย่างจบลงแค่นี้ เพียงเพราะเราต้องแคร์ความคิดของคนอื่น”
“ฉันเสียใจค่ะคุณวิน” เธอตอบเสียงเครือ ไม่มีความเข้มแข็งสักนิด
ให้ตายสิ! เทียร์นี่ดื้อชะมัดยาด ทั้งที่มองจากดาวอังคารก็รู้ว่าเธอหวั่นไหวให้กับผมแล้ว
แต่ก่อนที่เธอจะไล่ผมกลับบ้าน ผมต้องยื่นข้อเสนอที่ยืดหยุ่นกว่านั้นดูก่อน บางทีเธออาจจะโอเค
“ในเมื่อสถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมาะสมให้เราคบหากันอย่างโจ่งแจ้ง เอาเป็นว่า เราจะเก็บเรื่องนี้เอาไว้ ให้รู้กันเพียงสองคน ความจริงผมไม่ชอบทำอะไรหลบๆ ซ่อนๆ หรอกนะ แต่ในเมื่อคุณยังพร้อม ผมก็จะรอ พอถึงวันที่พวกเรามั่นใจจริงๆ แล้วค่อยประกาศออกไปก็ยังไม่สาย”
“แต่ว่าคุณเป็นถึงหลานชายท่านประธาน เราสองคนฐานะต่างกันเกินไป”
“นั่นจะไม่เป็นปัญหาแน่นอน คุณอย่าปฏิเสธผมอีกเลยนะ”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น เพราะผมจะทำให้คุณตอบตกลงเดี๋ยวนี้แหละ”
ใช่แล้ว แทนที่ผมจะมาต่อล้อต่อเถียงกับเทียร์ด้วยเรื่องไร้สาระ ผมว่า...ผมเอาเวลาที่เหลือของวันนี้มาสานสัมพันธ์กับเธอชนิดแนบแน่นสุดๆ ไปเลยน่าจะดีกว่า
ผมตั้งใจว่าวันนั้นทั้งวันจะอาศัยทุกมุมในบ้านฝากฝังตัวตน และความทรงจำในขณะพาเธอขึ้นสวรรค์อีกนับครั้งไม่ถ้วน เพียงเท่านี้ ต่อไปไม่ว่าเธอจะมองตรงไหน ก็ไม่มีทางที่จะไม่คิดถึงผม...
หลังจากเต้นรำและดื่มฉลองในอาฟเตอร์ปาร์ตี้ของงานแต่งจนพอใจแล้ว ณภัทรก็อุ้มเจ้าสาวคนสวยขึ้นไปยังห้องพักสุดหรูของโรงแรมห้าดาวซึ่งเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานของพวกเขาที่จัดขึ้นหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานบริษัทคนใหม่ได้ไม่นานเขาวางเจ้าสาวที่ใส่สวมชุดเดรสสั้นรัดรูปสีขาวแหวกอกสุดเซ็กซี่ลงบนเตียงขนาดคิงไซส์ แล้วตามขึ้นไปกอดก่าย ลูบไล้ผิวกายเนียนละเอียดไปมาช้าๆ สายตาคมจดจ้องเนินอกที่โผล่พ้นเนื้อผ้าออกมาอย่างหมิ่นเหม่ด้วยแววปรารถนาร้อนแรง“เจ้าสาวของอาเซ็กซี่มากเลยรู้ไหม”“เซ็กซี่ แล้วน่าเอาด้วยไหมคะ” พริ้มพราวยิ้มยั่วยวน พลางรั้งกระโปรงที่สั้นอยู่แล้วให้เลิกขึ้นมาจนเห็นจีสตริงสีขาวประดับไข่มุกรำไรณภัทรกลืนน้ำลายพลางครางลึกในลำคอ ทั้งที่เห็นเพียงเท่านี้ แต่ในหัวสมองกลับจินตนาการเตลิดไปไกลแล้ว พอเห็นเขาเอาแต่จ้อง พริ้มพราวจึงต้องสร้างแรงจูงใจให้เจ้าบ่าวของเธอด้วยการแยกขาออก เผยให้เห็นพูเนื้ออวบอูมที่ฉ่ำแฉะเพราะถูกเม็ดมุกเสียดสีตลอดงานเลี้ยง“ว่ายังไงคะ”“พราวของอาทั้งสวยทั้งน่ากิน” ณภัทรตอบเสียงพร่า เพราะบางสิ่งบางอย่างกำลังพองขยายจัดรู้สึกอึดอัดที่กลางหว่างขาจนปวดตุบๆ“งั้นก็กินสิคะ ทำให้พ
“แต่พราวเป็นแค่นักศึกษาจบใหม่ จะไปรับผิดชอบบริษัทไหวได้ยังไงคะ” ตอนคุณปู่ถ่ายโอนอำนาจการบริหารให้พ่อเธอ ท่านก็คร่ำหวอดในวงการธุรกิจจนมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับแล้ว แตกต่างจากเธอที่ผ่านการฝึกงานก่อนจบการศึกษาแค่ปีเดียวเท่านั้น“เรื่องนั้นพราวไม่ต้องห่วง เพราะอาเตรียมการทุกอย่างไว้หมดแล้ว”ความจริงณภัทรสามารถอาศัยตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงบวกกับการเป็นผู้จัดการมรดก กระทำการลับหลังทายาทที่อายุน้อยด้อยประสบการณ์อย่างเธอได้ไม่ยาก แต่จากเอกสารที่ทนายประจำตระกูลนำมาแสดง ไม่มีส่วนใดเลยที่เขาจะเล่นแง่แล้วยักย้ายถ่ายเทไปเป็นของตนเอง ดังนั้นถ้าเขาบอกว่าจัดการทุกอย่างไว้รอเธอแล้ว เขาก็ต้องทำแบบนั้นจริงๆ อย่างแน่นอน “พราวจะทำได้แน่เหรอคะ”“อย่าลืมสิครับ ว่าพราวยังมีอาอยู่อีกทั้งคน” สายตาที่เขาจับจ้องพริ้มพราวเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น และไม่ใช่แค่เชื่อในตัวเธอเท่านั้น แต่ยังมีความเชื่อมั่นในตัวเองอีกด้วย“พราวเชื่ออาภัทรค่ะ” พริ้มพราวสบตาที่เต็มไปด้วยความมั่นคงของเขา แล้วจรดปลายปากกาเซ็นรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเก็บรักษาไว้ให้เธอมาในที่สุด“เนื่องจากทรัพย์สินของตระกูลมีจำนวนมาก ผมคงต้องใช้เวลาประมาณหนึ่ง
ณภัทรโน้มกายลงทาบทับร่างงามที่สั่นสะท้าน แล้วประกบริมฝีปากจูบหญิงสาวที่เสร็จสมสุดขีดจากการกระทำของเขาอย่างดูดดื่ม แต่ไม่ลืมขยับสะโพกตอกตรึงเข้าไปในช่องทางแน่นหนึบระรัว กระทั่งอารมณ์พลุ่งพล่านแตกกระจายใส่ร่องแมวน้อยยั่วเยอย่างแสนสะใจ“โอ้ว!!! พริ้มพราว” ณภัทรกดสะโพกแนบแน่นหลับตาพริ้ม ซึมซับความรู้สึกสุดยอดจากการหลั่งน้ำกามแรงๆ จนหยาดหยดสุดท้าย ในขณะบดจูบริมฝีปากอิ่มอย่างรักใคร่หลงใหลสองร่างกอดก่ายลูบไล้สัมผัสกันอย่างแสนคิดถึงอยู่บนพรมนุ่มเนิ่นนาน ความสุขและเสียวซ่านที่มอบให้กันเอ่อล้นเป็นหลักฐานเต็มหว่างขาของพริ้มพราว น้ำสีขาวขุ่นตัดกับสีแดงจัดของร่องสาวดูสวยเซ็กซี่จนณภัทรตื่นตัวอีกครั้ง แต่ก็อดสงสารสาวน้อยที่ถูกเขาสูบแรงไปจนแทบหมดเกลี้ยงไม่ได้ณภัทรค่อยๆ หยัดกายขึ้นนั่ง แล้วจัดการถอดชุดแมวและหางแมวให้พริ้มพราว แต่กว่าเขาจะยอมถอนมันออกมาจนสุดได้ พริ้มพราวต้องทนรับความเสียวซ่านแปลกใหม่ สูดปากครางกระเส่าอยู่นาน เพราะถูกคนเกเรแกล้งแยงของเล่นเข้าออกร่องรักด้านหลังต่อเสียหลายนาที“ครางดังขนาดนี้ พราวอยากลองทางประตูหลังงั้นเหรอ” เขาว่าพลางใช้ปลายนิ้วแตะวนที่รูร่องจีบตรงบั้นท้ายงามที่ขมิบตอบ
“มะ...ไม่ต้องค่ะ” พริ้มพราวตอบกลับไปโดยที่ไม่ได้คิดด้วยซ้ำ เรียกรอยยิ้มร้ายที่มุมปากของณภัทร“หันหลัง”“ค่ะ”พริ้มพราวค่อยๆ หมุนตัวหันหลังให้ณภัทรในท่าคลาน พอมั่นใจว่าได้ตำแหน่งดีแล้ว ก็กระดกบั้นท้ายขึ้นพร้อมกับส่ายสะโพกน้อยๆ อวดพวงหางสีขาวที่ณภัทรสั่งทำพิเศษให้เธอเขาจดจ้องภาพตรงหน้าตาเป็นมัน หูแมวและชุดวาบหวิวยังไม่ทำให้เขากระหายอยากเท่ากับการได้เห็นเธอยอมสอดใส่หางแมวเข้าไปทางประตูหลัง แค่คิดว่าอีกไม่กี่อึดใจตนจะได้ร่วมรักกับเธอทั้งที่มีเจ้านี่เสียบคาอยู่ตรงนั้น เขาก็แทบอดรนทนไม่ไหวณภัทรปราดเข้าไปประชิดติดเธอจากด้านหลัง แล้วส่งปลายนิ้วร้อนเข้าไปทักทายเส้นทางแน่นหนึบที่เขาร้างราไปเสียนาน ส่วนมืออีกข้างก็แกล้งดึงหางเธอเบาๆ“ยะ...อย่าดึงไปล้วงไปแบบนี้สิคะ อูย…” พริ้มพราวสูดปากพลางส่ายก้นไปมาอย่างร่านสวาท“ทำไมล่ะ มันรู้สึกแย่งั้นเหรอ” ณภัทรออกแรงอีกนิด แต่ยังไม่มากพอจะถอนหางแมวปลอมออกมา ในขณะที่ควานปลายนิ้วในร่องสวาท แล้วขยี้ติ่งเสียวของเธอไปพร้อมๆ กัน จนน้ำหวานหลั่งล้นเต็มรูสาว“อ๊า อาภัทรอย่าทำแบบนี้สิคะ พราวเสียวจะตายอยู่แล้ว”“แค่นิ้วเองไม่ตายหรอก ยังมีเด็ดกว่านี้อีก”พริ้มพราวยัง
พอพูดจบเธอก็นั่งลงที่พื้น แล้วหยิบสายจูงที่ต่อกับปลอกคอเอามาคาบไว้ในปาก จากนั้นก็ค่อยๆ คลานเข่าเขาไปหาณภัทร แล้วปล่อยสายจูงเส้นนั้นลงบนฝ่ามือของเขาณภัทรมองสายหนังที่อยู่บนมือ แล้วถามเสียงเรียบ “ไหนว่าเกลียดคนโรคจิต”“ถ้าอาภัทรโรคจิต พราวก็เป็นคนโรคจิตเหมือนกัน เพราะพราวชอบให้อาภัทรลงโทษแรงๆ” เสียงสั่นเล็กน้อยตรงคำว่า ‘แรงๆ’ ทำให้ชายหนุ่มท่าทางเครียดขรึมรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจ นึกอยากฟังเสียงครวญครางของเธอตอนถูกเขาลงโทษเหลือเกิน“แน่ใจแล้วใช่ไหม เพราะถ้าคืนนี้เธอยอม คืนต่อๆ ไปฉันจะไม่มีทางกลับมามีเซ็กซ์แบบปกติกับเธออีก”“แน่ใจสิคะ ก็พราวเคยบอกอาภัทรไปแล้วว่า พราวพร้อมจะเป็นผู้หญิงในแบบที่อาภัทรชอบ”“งั้นเตรียมใจเอาไว้ให้ดีล่ะ แล้วอย่าหาว่าคนอย่างอาภัทรไม่อ่อนโยนละกัน”หญิงสาวยืนยันคำตอบด้วยการเคลื่อนกายไปนั่งคร่อมตักเขา แล้วก้มลงจูบริมฝีปากบางอย่างโหยหา แลกเปลี่ยนลมหายใจร้อนผ่าวให้กันและกัน เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดนิ่ง เมื่อร่างบางบดเบียดแนบชิดกับร่างแกร่งกำยำ ในช่วงเวลานั้นทั้งสองสัมผัสได้ถึงความรู้สึกล้ำลึกที่ห่างหายไปแสนนาน ความต้องการปลุกไฟพิศวาสให้โหมกระพือ ค่อยๆ กลืนกินเหตุผล
ตอนแรกเธอก็ตั้งใจว่าจะอดทนรอเงียบๆ จนกว่าณภัทรจะหายโกรธแล้วกลับมาเอง แต่การแสดงออกว่าเขาอยากยุติความสัมพันธ์นั้นชัดเจนมากขึ้นทุกที หากเธอยังมัวรีรอปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ โดยไม่ทำอะไรสักอย่าง งานนี้เธอคงต้องสูญเสียเขาไปตลอดกาลจริงๆ แน่พริ้มพราวมองดูเวลาที่หน้าจอมือถือ ตอนนี้เพิ่งจะห้าโมงเย็น อีกหนึ่งชั่วโมงคนของณภัทรถึงจะมาเอาของที่บ้าน เธอยังมีเวลาแก้ไขเรื่องนี้อยู่ร่างระหงผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้ววิ่งขึ้นบันไดตรงไปที่ห้องนอนหลังจากค้นหาของในห้องแต่งตัวอยู่ครู่หนึ่ง พริ้มพราวก็คว้ากล่องของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ณภัทรวางทิ้งไว้ในคืนนั้นออกมาจากในตู้ได้สำเร็จเพนต์เฮาส์กลางใจเมืองของณภัทรณภัทรปรายตามองแขกไม่ได้รับเชิญ ก่อนจะหันไปถามเลขาส่วนตัวเสียงเย็น “ผมให้คุณไปรับของแทน ไม่ใช่ให้ไปพาคนมาที่นี่ด้วย”“กิ่งขอโทษค่ะคุณภัทร” กิ่งแก้วก้มหน้า ยืนกุมมือแน่น ถึงเธอจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของณภัทรโดยตรง แต่พริ้มพราวก็เป็นเจ้านายคนหนึ่งที่ให้คุณให้โทษกับเธอได้ แล้วใครจะไปกล้าทัดทาน“คุณเป็นเลขาของผม ก็ควรทำตามแค่ที่ผมสั่ง”“อาภัทรอย่าโกรธคุณกิ่งเลยนะคะ ทั้งหมดเป็นความผิดของพราวเอง” พริ้มพราวพย