“ค่ะ เทียร์อยากโดนคุณวินเอาแรงๆ” คำยอมรับอย่างลืมอายจากริมฝีปากอิ่มสวย ทำเอาผมคึกคักหนักกว่าเก่า
“งั้นผมไม่ออมแรงล่ะนะ” ผมว่าพรางเร่งจังหวะกระแทกให้เร็วยิ่งขึ้น เทียร์ตอบรับด้วยเสียงครางสุดเซ็กซี่ พร้อมกระเด้งเอวขึ้นรับลำกายที่กำลังกระหน่ำร่องรักของเธอจนได้ยินเสียงของน้ำเสียวที่เอ่อล้นเต็มรูดังแจ๊ะๆ
นี่เธอตั้งใจยั่วยวนกันชัดๆ
ผมโถมกายเข้าหาเรือนร่างยั่วตัณหาอย่างลืมตาย กระแทกแก่นกายผ่านเส้นทางอ่อนนุ่มรัดรึง ทุกจังหวะเข้าสุดออกสุด ไม่ลืมโม่บดเนินหน่าวบี้เบียดติ่งเนื้อสีแดงจัดที่สั่นระริกจากความเสียวซ่านที่ผมปรนเปรอให้ แต่แทนที่จะเหนื่อย ผมกลับขยับรุนแรงถี่ยิบ จนกระทั่งเตียงที่เจ้าของไม่เคยใช้งานหนักขาแทบหัก
ร่องสวาทตอดหนึบราวกับจะรัดของผมให้ขาด
ผมคำรามราวสัตว์ป่าที่กำลังทรมาน
อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปบดจูบกลีบปากของคนที่กำลังทำเอาผมแทบคลั่งอย่างหนักหน่วง ก่อนลากลิ้นลงมากตามซอกคอ และลาดไหล่ แล้วกัดลงไปเต็มคำอย่างนึกมันเขี้ยว
“รู้ไหม ผมอยากกินคุณทั้งตัว”
“อ๊า งั้นก็กินเลยสิคะ...คุณวินขา”
ให้ตายสิ! โคตรยั่วเลย
นอกจากท่าทางกับคำพูด ร่องของเธอยังขมิบตุบๆ ตอดดูดท่อนเอ็นอย่างไม่ปรานี มันเสียวซ่านชวนให้ทะลักทลายสุดๆ ผมแทบขาดใจทุกครั้งที่ปลายยอดลำเสียดสีผ่านช่องทางขรุขระแน่นหนึบของเธอ
ไม่คิดว่าการได้ครอบครองคนที่ใจต้องการมันจะทำให้ผมทั้งฮึกเหิม ทั้งมีความสุขมากขนาดนี้ เพราะฉะนั้นผมควรต้องอัดสะโพกส่งลำเอ็นเข้าไปในรูสวาทของเธออย่างดุดันกว่าที่เคยกระทำกับผู้หญิงคนไหนๆ ให้สมกับที่ตัวเองรอคอยเวลาที่จะได้เสพสมกับเธออย่างถูกต้องแบบนี้
“อ๊ะๆ คุณวินคะเบาหน่อย”
“ไม่เอาน่า เมื่อกี้ยังบอกให้ผมกินคุณให้หนำใจอยู่เลย”
“อือ...อ๊ะๆ ๆ เทียร์ทั้งจุกทั้งเสียวไปหมดแล้ว”
“พอดีว่าผมเป็นพวกกินดุ เพราะงั้นอดทนหน่อยนะครับคนเก่ง” ผมยังคงอัดกระแทกแบบไม่ยั้ง อีกทั้งยังบีบเค้นเต้าอวบอิ่มของเธออย่างแรงจนเนื้อขาวปริปริ้นออกมาจากง่ามนิ้ว แทบจะแหลกคามือผม
“ซี๊ด! เทียร์จะทนไม่ไหวแล้ว อื๊อ...คุณวิน”
“ถูกผมกระเด้าแรงๆ ลึกๆ แบบนี้ถึงใจล่ะสิ จะแตกแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ ของคุณวินทั้งยาวทั้งใหญ่ เทียร์...อ๊า เสียวเหลือเกิน” ผมรู้ว่าเธอใกล้จะเสร็จแล้ว
“ของคุณตอดดีชะมัด โอ้ว!!! ผมก็จะทนไม่ไหวแล้ว เสร็จพร้อมกันนะ”
ผมถอนตัวออกมาจนเกือบสุด แล้วกระแทกกลับเข้าไปเต็มแรง ทำซ้ำๆ ย้ำๆ ชุดใหญ่ จนรู้สึกถึงแรงกระตุกตอดถี่รัวของช่องสวาท
“อ๊า วินขา...เทียร์ สะ...เสร็จแล้ว”
“ซี๊ด...สุดยอดเลยเทียร์”
ความเสียดเสียวแล่นปราดไปทั้งลำ ในที่สุดผมก็เสร็จ!
น้ำกามสีขาวขุ่นฉีดพุ่งเข้าไปเต็มร่องรักสดใหม่ที่ตอดตุบๆ ผมเสียวขึ้นสมอง จนแทบไม่อยากถอนตัวออกจากเธอเลยพับผ่า ผมมองใบหน้ากับเรือนร่างยั่วเย้าที่หอบหายใจด้วยความรู้สึกดีสุดบรรยาย สุดท้ายเลยไม่วายก้มลงไปบดคลึงริมฝีปากแลกลิ้นกับเทียร์อย่างหนักหน่วง
ตอนนี้ผมนึกอยากจะกลืนสาวสวยสุดเซ็กซี่คนนี้ลงท้องไปจริงๆ พร้อมความรู้สึกอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเธอ ก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเป็นเท่าตัว...
เมื่อคืนผมมีอะไรกับเทียร์ต่ออีกสามยก และทุกยกก็ฝากฝังน้ำรักสีขาวขุ่นเข้าไปในร่องสวาทของเธอจนล้น บอกตามตรงว่ามันรู้สึกดีสุดๆ ที่ได้โจนจ้วงเข้าออกช่องทางแน่นหนึบที่กระตุกเกร็งจากความเสร็จสมของเธอ
เรือนร่างเย้ายวนผนวกกับความรู้สึกที่เก็บกักมาเนิ่นนาน ทำให้ผมหน้ามืดตามัว เลยร่วมรักกับเธออย่างเผ็ดร้อนโดยไม่ได้ป้องกัน พอได้สติคืนมาก็ออกไปร้านขายยาตอนนี้ไม่ได้ เพราะเสื้อผ้าของผมทั้งเลอะทั้งเหม็นอ้วก
แต่จะปล่อยไปแบบนี้ก็ไม่ได้อีก
“เอายังไงดีวะเนี่ย” ผมยกมือขึ้นกุมขมับแล้วบ่นพึมพำ
“คุณวินว่ายังไงนะคะ” เสียงหวานจากคนที่น่าจะหลับอยู่ทำให้ผมหันกลับไปมอง ก็เห็นเทียร์ลุกขึ้นมานั่ง โดยไม่ลืมใช้ผ้าห่มบดบังเรือนร่างเปล่าเปลือยที่เต็มไปด้วยคิสมาร์กฝีมือผม
“ตื่นแล้วเหรอครับ”
“ค่ะ ว่าแต่คุณวินเถอะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ ถึงได้ดูเป็นกังวลขนาดนั้น” คำถามที่เจือความเป็นห่วงของเธอยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิด
“คือ...ผมขอโทษนะที่ไม่ได้ป้องกัน แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้น คุณไม่ต้องห่วงนะผมยินดีรับ...”
เธอไม่รอให้ผมพูดจบ ก็เอ่ยขัดขึ้นมาก่อน “เรื่องท้อง เทียร์ไม่ท้องหรอกค่ะ คุณวินสบายใจได้”
“ผมไม่ได้หลั่งข้างนอกแม้แต่หยดเดียว ทำไมคุณถึงยังพูดจาแบบนี้ พวกหน้าเจ็ดหลังเจ็ดตามความเชื่ออะไรนั่น พลาดกันมากี่คู่แล้ว” ผมทำเสียงดุ เพราะเธอประมาทและไม่ห่วงตัวเองเอาเสียเลย มันน่าจับมาตีก้นสักเพียะสองเพียะ
“คือเทียร์ทานยาคุมอยู่น่ะค่ะ ถึงได้กล้าบอกให้คุณวินสบายใจ” เธออธิบายด้วยน้ำเสียงที่น่าจะพยายามปรับให้เป็นปกติที่สุด
“แค่กๆ ว่าไงนะ” คำตอบของเธอทำเอาผมสำลักน้ำลาย เธอเป็นหญิงสาวที่ยังไม่มีประสบการณ์ แล้วจะกินยาคุมไปเพื่ออะไรกัน และดูเหมือนสีหน้าของผมจะบอกความคิดตัวเองออกไปทุกอย่าง
“คือว่า เทียร์กินเพื่อรักษาสิวมาสักระยะแล้วค่ะ”
“หนามยกโทษให้พี่แล้วใช่ไหม” เขากุมมือเธอแน่น เงยหน้าขึ้นสบตาที่สั่นระริกด้วยความอ่อนไหวของเธออย่างวิงวอน“หนามยกโทษให้แค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น อีกครึ่งหนึ่งจะคาดโทษเอาไว้ก่อน ถ้าวันหลังพี่ว่านคิดแผนพิเรนทร์อะไรทำนองนี้อีก หนามจะหย่าจริงๆ ด้วย”“จ้าๆ พี่ไม่กล้าทำแล้วจ้ะเมียจ๋า” วรภพพุ่งเข้ากอดเมียอย่างหมดท่า ภาพเจ้าของไร่สุดเข้มที่ลูกน้องต่างเคารพยำเกรงถูกภรรยาสุดที่รักทำลายจนไม่มีเหลือทว่าพอได้กอด ได้ซุกหน้าลงบนอกอวบอั๋น สูดกลิ่นหอมอ่อนจางของเรือนร่างที่ตนหลงใหล เลือดในกายพลันพุ่งพล่านเกินควบคุม“อะ พี่ว่าน จะทำอะไรคะนั่น”เขาไม่ได้ตอบ แต่ใช้สองมือนวดคลึงเอวคอด ก่อนจะเลื่อนลงไปทำอย่างเดียวกันกับสะโพกงามงอน ไม่ต้องพูดถึงใบหน้าที่ตอนนี้จมอยู่กลางหน้าอกเธอ แม้บนร่างจะยังมีเสื้อผ้ากั้นขวางอยู่ แต่ลมหายใจร้อนระอุก็แทรกซึมผ่านไปกระทบผิวอ่อนบางของเธอได้ไม่ยากเย็นพอรุกเร้าร่างระหงจนอ่อนระทวย คนที่คิดจะพลีกายไถ่โทษก็หยัดกายขึ้นจนใบหน้าของทั้งสองห่างกันแค่คืบ ฉับพลันเขาประกบริมฝีปากหยักลงบนกลีบปากฉ่ำวาวสีชมพูอย่างร้อนแรง ราวกับจะกลืนกินลมหายใจของเธอให้หมดสิ้น นวิยายกมือคล้องลำคอแกร่ง แล้ว
“เลิกพาลได้แล้ว หนามไม่เกี่ยว” วรภพกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นเพื่อให้นวิยารู้สึกอุ่นใจ พร้อมกับแสดงออกให้วรัญญารู้ว่าอย่ามาแตะต้องภรรยาของเขา“แหม รู้ย่ะว่ารักกัน แต่น้ำโดนซะขนาดนี้จะขอระบายอารมณ์บ้างไม่ได้หรือไง” วรัญญามองภาพเบื้องหน้าอย่างหมั่นไส้“จริงอยู่ที่เธอต้องทนลำบากกายใจเป็นปี แต่อย่าลืมสิว่าฉันทำตามที่สัญญากับเธอไว้ทุกอย่าง ตอนนี้กิจการที่บ้านเธอฟื้นตัวแล้ว ส่วนหนามก็ได้แต่งงานกับผู้ชายดีๆ อย่างฉัน แล้วเธอจะโมโหอะไรนักหนาไม่ทราบ ยกเว้นก็แต่ว่าตอนนี้เธอนึกเสียดาย เพราะอยากจะแต่งงานกับฉัน”“อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย พี่ว่านไม่ใช่สเปกน้ำ” วรัญญาแค่นเสียงหึ แต่ก็เถียงอะไรอย่างอื่นไม่ออกอีก เพราะหากคิดดีๆ ถึงแผนของวรภพจะทำให้เธอต้องพบกับความยากลำบากอยู่บ้าง แต่เขาก็ทำตามทุกอย่างที่ได้ลั่นวาจาไว้โดยไม่ขาดตกบกพร่อง“พี่น้ำยกโทษให้พวกเราเถอะนะคะ” นวิยาปราดเข้าไปกุมมือที่กำแน่นของวรัญญา เธอทำท่าเหมือนจะร้องไห้ อ้อนวอนคนเป็นพี่ให้อภัย“แกนี่นะ เอะอะก็ร้องไห้ พอๆ อย่าร้องนะ พี่ยกโทษให้ก็ได้ แค่นี้พอใจแล้วใช่ไหม” ถึงจะดูเหมือนคนแข็งๆ แต่ความจริงเธอแพ้น้ำตาของน้องสาวตลอด“ขอบคุณนะคะพี่น้ำ”
“ถ้าพวกท่านเป็นห่วงพี่จริง ก็คงไม่บังคับให้พี่แต่งงานกับผู้ชายรุ่นราวคราวพ่อ โดยไม่สนว่าพี่จะรู้สึกยังไงแบบนั้นหรอก”“พี่น้ำก็เลยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แล้วโยนความรับผิดชอบทั้งหมดให้หนามแทนใช่ไหมคะ” นวิยาอดตัดพ้อไม่ได้“พี่ยอมรับว่ามันดูเห็นแก่ตัว แต่ความจริงพี่ก็ไม่ได้คิดจะปัดความรับผิดชอบให้แกตั้งแต่แรกนะ แต่เป็นพี่ว่านต่างหากที่มาพบพี่ เพื่อขอร้องให้หนีการแต่งงาน”“พี่ว่านมาพบพี่น้ำ แล้วขอให้หนีงานแต่ง?”“ใช่แล้วล่ะ” วรัญญามองไปทางทะเลอย่างครุ่นคิดแล้วเล่าต่อ “วันนั้นพี่ว่านมาถามฉันว่าชอบคนแก่คราวพ่อเหรอถึงได้ตกลงง่ายๆ แบบนั้น หึ ชอบกับผีน่ะสิ พี่เลยตอกกลับไปว่าเป็นพ่อเขาต่างหากที่มาพูดว่าจะมาสู่ขอพี่เพื่อแลกกับความช่วยเหลือ ไม่ใช่ทางนี้เสนอไปสักหน่อย พอพี่ว่านได้ยินแบบนั้น ก็พูดว่าเขาไม่อยากได้แม่เลี้ยงแบบพี่ ฉันงี้โกรธแทบตาย เลยสวนไปอีกรอบว่าควรจะไปบอกพ่อเขาต่างหาก เพราะทางนี้ก็ไม่ได้อยากเป็นหญ้าอ่อนโดนโคแก่รุ่นลุงรุ่นพ่อและเล็ม” “แล้วยังไงต่อคะ”“พี่ว่านก็เลยเสนอให้พี่หนีไปต่างประเทศก่อนสักปี รอให้เรื่องมันซาแล้วค่อยกลับมา”“แล้วพี่น้ำก็ไปง่ายๆ ?”“ทำไมแกถึงได้มองพี่ในแง่ร้ายขนาด
“ก็เออน่ะสิ” กรกนกหันไปถลึงตาดุๆ ใส่น้องชาย“ในเมื่อเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็พอแค่นี้เถอะค่ะ ตอนนี้หนามเข้าใจทุกอย่างแล้ว พี่ว่านกับพี่แตมอย่าเอาเรื่องพี่ตั้มอีกเลยนะคะ พี่เขาคงห่วงว่าหนามจะเสียใจเลยมาเตือนเท่านั้นเอง”ถึงจะไม่พอใจในสิ่งที่กรวิทย์ทำ แต่พอเห็นเขาดูสำนึกผิด แถมยังถูกหมัดลุ่นๆ ของวรภพกับกระเป๋าราคาแพงหูดับของกรกนกกระแทกจนหน้าช้ำไปหมด นวิยาเลยคิดว่าเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว“ก็ได้ นี่ฉันเห็นแก่หนามกับแตมหรอกนะ ไม่งั้นแกได้คุยกับลูกปืนแน่”“ตั้มขอโทษจริงๆ ครับพี่ว่าน ตั้มก็แค่เป็นห่วงกลัวหนามจะเสียใจ” เมื่อรูปการณ์ออกมาเป็นแบบนี้ กรวิทย์ก็รู้แล้วว่าควรจะยอมรับความจริง แล้วถอยออกมา เพราะระหว่างเขากับนวิยาคงไม่มีทางหวนคืนหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์“เออ แต่อย่าทำอะไรรุ่มร่ามกับหนามอีกแล้วกัน ไม่งั้นอย่าหาว่ากูโหด ไม่ไว้หน้าพี่สาวมึง”กรวิทย์ได้แต่รับคำเสียงอ่อย “ครับพี่ว่าน”“เอาล่ะๆ ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว พวกเราก็ไปหาอะไรกินกันเถอะ ขับรถมาตั้งไกล ฉันหิวจะแย่อยู่แล้วเนี่ย” พูดจบกรกนกก็เดินไปทางร้านอาหารโดยไม่รอคนอื่น กรวิทย์ที่ยังทำตัวไม่ค่อยถูกก็เร่งฝีเท้าตามพี่สาวไปสองสามีภรรยาสบประสา
“ไม่จริง นี่หนามรังเกียจพี่ แต่ไม่รังเกียจไอ้ผู้ชายสารเลวที่หลอกใช้หนามอย่างไอ้ว่านเนี่ยนะ เป็นไปไม่ได้” ความโกรธทำให้กรวิทย์ออกแรงหนักขึ้นอีก เขาพยายามจะดึงนวิยาเข้ามากอดจูบ มั่นใจว่าถ้าได้ทำแบบนี้แล้วเธอจะนึกถึงความรู้สึกสมัยที่ยังเป็นแฟนกันอย่างแน่นอนกระทั่งคนที่ทนฟังคำใส่ร้ายป้ายสีจากปากของกรวิทย์อยู่นานก็อดรนทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เจ้าของไร่หนุ่มก้าวเท้าเร็วๆ จนกระทั่งประชิดตัวคนทั้งคู่ก่อนโพล่งออกมาด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง“เฮ้ย! พูดให้มันดีๆ หน่อย ใครหลอกใช้ใครไม่ทราบ”“พะ...พี่ว่าน” กรวิทย์ผงะ ตกใจจนดวงตาเบิกกว้างราวกับเห็นผี“เออ กูเอง” วรภพปราดเข้าไปดึงนวิยาให้ออกมาอยู่ด้านหลังตนเองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะชกเข้าที่ใบหน้าของคนที่บังอาจทำให้เธอเสียใจร้องไห้เต็มแรงจนล้มคว่ำไปกองกับพื้น“โอ๊ย! ไอ้ว่าน! มึงต่อยกู” กรวิทย์รับรู้รสชาติเลือดในปากได้อย่างชัดเจนเริ่มเดือดปุดๆ เขารีบยันตัวลุกขึ้นยืนแล้วมองอีกฝ่ายตาขวาง“กูไม่เอาปืนเป่าหัวมึงกระจุยก็บุญแล้ว ต้องขอบใจพี่มึงโน่นที่ขอไว้” วรภพพูดแล้วประคองนวิยาไปอีกด้าน เปิดทางให้เห็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยรูปร่างสูงโปร่งในชุดสูททันสมัยยืนตัวสั่นด้วยควา
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาหลังจากใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนที่บ้านพักริมธารน้ำตกปรับความเข้าใจกัน วรภพที่งานยุ่ง แต่ก็อยากอยู่ใกล้ๆ เมียจึงกระเตงนวิยาออกมาทำงานด้วย แต่เพราะรู้ว่าเธอเป็นคนขี้ร้อน และผิวบางๆ นั่นก็ถูกแดดเผาจนแสบแดงง่ายเหลือเกิน หากเขามีความจำเป็นต้องออกไปดูงานกลางแจ้ง ก็จะให้เธอรออยู่ที่ห้องทำงานส่วนตัวซึ่งอยู่ในส่วนของรีสอร์ตแต่วันนี้วรภพออกไปนานแล้วก็ยังไม่กลับมา คุณนายไร่องุ่นที่ไม่มีอะไรทำเป็นชิ้นเป็นอันก็นึกเบื่อ เลยออกจากห้องทำงานของสามีแล้วไปเดินเล่นที่สวนด้านนอกเพื่อฆ่าเวลานวิยาเรียนจบบริหารธุรกิจการโรงแรมจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ทว่าจนถึงตอนนี้เธอยังไม่มีโอกาสได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาเลย คิดถึงตรงนี้เธอก็อดนึกเสียดายไม่ได้ คนอุตส่าห์ร่ำเรียนมาหลายปีกลับทำได้เพียงใช้ปริญญาเรียกรอยยิ้มภาคภูมิใจของพ่อแม่ได้อย่างเดียวหลายครั้งนวิยาคิดจะเอ่ยปากขอตำแหน่งงานเล็กๆ ในไร่จากวรภพ แต่กลัวเขาจะมองว่าเธอจุ้นจ้านไม่เข้าเรื่อง ครั้นจะขอไปช่วยงานที่บริษัทของพ่อแม่ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะพวกเขาสองคนใช้ชีวิตอยู่ที่โคราช ไม่รู้ว่าปีๆ หนึ่งจะมีโอกาสเข้ากรุงเทพกี่วันกัน“น้องหนาม” เสียงเรียกทุ้มน