Beranda / รักโบราณ / เพียงนางที่ข้าจะรัก / บทที่ 27 พี่ไม่ต้องน้องเริ่มเอง ตอนปลาย

Share

บทที่ 27 พี่ไม่ต้องน้องเริ่มเอง ตอนปลาย

last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-26 20:42:59

ถึงแม้ภายในใจของมู่ซูซินกำลังตะโกนว่าซวยแล้ว ทว่าภายนอกกลับดูสุขุมอย่างไม่น่าเชื่อ นางรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เปล่งเสียงหวานหยดย้อยปานน้ำผึ้งเดือนห้า เรียกขานคนตัวโตหน้าน้ำแข็งด้วยรอยยิ้มประจบประแจง

“สามี…” แผนการแถเพื่อเอาตัวรอดเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

ร่างอรชรเยื้องย่างเข้าไปในห้อง ก้าวไปหยุดตรงหน้าสามีตัวร้าย เอียงใบหน้างามในองศาที่มั่นใจว่ากำลังน่ารัก ดวงตาคู่สวยฉ่ำน้ำกะพริบปริบๆ มองสามีรูปงามด้วยแววตากรุ้มกริ่ม

“แล้วสามีเล่าเพคะ ดึกดื่นค่อนคืนแบบนี้ แทนที่จะแกล้งนอนป่วยอยู่ในตำหนักตามข่าวลือ แต่ทรงกลับลอบออกมาจากตำหนัก หรือเป็นเพราะว่า…สามีคิดถึงซินเอ๋อร์จนทนไม่ไหวเลยต้องย่องมาหา ใช่หรือไม่เพคะ” มารยาหญิงพันล้านเล่มเกวียนถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่!

คนถูกรู้ทันความร้อนแผ่ซ่านตั้งแต่ลำคอไปจนถึงใบหู จะให้เขายอมรับว่านางพูดถูกก็คงไม่ได้ เสียเชิงชายหมด

“เฮอะ! หลงตัวเองไปหน่อยกระมัง ที่ข้ามาก็เพราะเรื่องนี้นี่แหละ เจ้าที่เป็นชายาสมควรอยู่ข้างกายข้าในยามที่สามีป่วยไข้ ไม่ใช่แยกมาอยู่กับมารดาเช่นนี้” แค่นเสียงขึ้นจมูกด้วยท่าทางขึงขังเพื่อกลบเกลื่อนความเก้อเขิน จากนั้นจึงหรี่ดวงเนตรมอง
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 31 ฮ่องเต้สุนัขถูกวางยาพิษ ตอนปลาย

    เมื่อได้รับยาถอนพิษอัครมหาเสนาบดีเร่งฝีเท้ากลับมายังตำหนักหย่งเทียน ปล่อยให้มหาขันทีเจรจากับนายน้อยเหว่ยซินอยู่หน้าพระราชวัง “ได้ยาถอนพิษมาแล้วพะย่ะค่ะ” ซ่งเถียนเวยท่าทางตื่นเต้นมอบยาถอนพิษหลิงคุนให้ฉีอ๋อง ทว่าร่างสูงกลับถามขึ้นมาว่านายน้อยเหว่ยซินยังอยู่ที่หน้าวังหรือกลับไปแล้ว “ยังสนทนาอยู่กับมหาขันทีพะย่ะค่ะ” ครั้นได้ทราบว่าคนที่ตนเองตามหายังอยู่ร่างสูงรีบก้าวออกไปจากตำหนักหย่งเทียน ขอให้องครักษ์ไปตามหานเย่มาพบเขาเป็นการด่วน พอหานเย่มาถึงก็รีบสั่งการทันที “นายน้อยเหว่ยซินอยู่ที่หน้าวังหลวง สั่งให้องครักษ์เงาด้านนอกสะกดรอยตามอย่าให้คลาดสายตา ข้าต้องการรู้ว่าเขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ให้คนติดต่อเย่เฟิงข้าอยากรู้ว่าพระชายาได้ออกมานอกตำหนักรึเปล่า” เฟิ่งเสวียนจีรู้สึกเหมือนตนเองกำลังวางแผนจับสายลับกบฏอย่างไรอย่างนั้น ตื่นเต้นจนเลือดลมสูบฉีดไปทั่วทั้งร่าง ฮ่องเต้ฮุ่ยจงที่เสวยยาหลิงคุนไปได้เพียงไม่กี่อึดใจ อาการทรมานดุจไฟแผดเผาในช่องท้องทุเลาจนแทบไม่รู้สึกอีกต่อไป เมื่อเห็นว่าพระบิดาอาการดีขึ้นแล้วเฟิ่งเสวียนจีจึงบอกแผนการของตนกับเขา ไม่น่าเชื่อว่าฮ่องเต้ฮุ่ยจงยินดีร่วมมือกับโอรสอย่าง

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 31 ฮ่องเต้สุนัขถูกวางยาพิษ ตอนต้น

    ความตื่นตระหนกพลันบังเกิดกับทุกคนซึ่งอยู่ในห้องทรงงาน มหาขันทีที่ยืนอยู่ด้านข้างขยับตัวประคองนายเหนือหัวไว้ได้ทัน พยุงฮ่องเต้ฮุ่ยจงกลับไปนั่งที่เก้าอี้หลังโต๊ะทรงงาน อาจเป็นเพราะเลือดที่ฮ่องเต้กระอักออกมามีสีดำอันเป็นลักษณะของคนที่ถูกพิษ ฉีอ๋องพระพักตร์ตึงเครียดทันที รีบกำชับองครักษ์ที่ถูกส่งไปตามหมอหลวงประจำพระองค์ว่าให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ อย่าได้แพร่งพรายออกไปเด็ดขาดหากใครถามให้ตอบว่าฝ่าบาทเรียกมาตรวจอาการฉีอ๋อง มหาขันทีเองก็เข้าใจความประสงค์ของฉีอ๋อง เขาพยักหน้ารับก่อนเรียกหัวหน้าขันทีคนสนิทมาสั่งงาน ไม่นานนักเสียงขององครักษ์หน้าห้องได้ดังขึ้น “ท่านหัวหน้าหมอหลวงมาถึงแล้วพะย่ะค่ะ” ประตูห้องทรงงานปิดตามหลังทันทีที่หมอหลวงประจำพระองค์ก้าวเข้ามาด้านใน ดวงตาของเขาเบิกโพลงเมื่อได้เห็นสีของพระโลหิต “กระหม่อมจะฝังเข็มชะลอพิษไว้ก่อนนะพะย่ะค่ะ” เขาทูลฮ่องเต้ที่ยังพอมีสติหลงเหลือ ครั้นได้ยินว่าตนถูกลอบปลงพระชนม์ด้วยยาพิษ ความตื่นตกใจร่วมกับโทสะกระตุ้นให้ฮ่องเต้ฮุ่ยจงกระอักพระโลหิตออกมาอีกครั้งก่อนจะหมดสติไป ความหวั่นวิตกผุดขึ้นบนใบหน้าของแต่ละคนอย่างมิอาจปิดบัง แม้แต่ตัวเฟ

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 30 คำสารภาพของฉู่ปิน ตอนปลาย

    ชายหนุ่มแต่งกายด้วยเสื้อผ้าราคาแพงในสภาพโดนจับมัดเป็นขนมจ้าง ใบหน้าเขียวช้ำผมเผ้ายุ่งเหยิงในปากมีผ้าอุดไว้ไม่ให้ส่งเสียง นอนตัวงอคุดคู้อยู่บนพื้นเงยหน้ามองฉีอ๋องด้วยความหวาดผวา เรือนกายสูงสง่าสาวเท้าเข้ามาหาคนบนพื้นที่เนื้อตัวสั่นเทิ้มเหงื่อกาฬแตกท่วมร่าง ท่าทางยโสโอหังที่มักใช้ข่มเหงผู้อื่นเพราะคิดว่าตระกูลของตนยิ่งใหญ่ แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าพยัคฆ์อหังการอย่างฉีอ๋องใกล้ๆ ฉู่ปินถึงตระหนักว่าผู้ที่ทรงอำนาจแท้จริงรอบกายโอบล้อมด้วยรัศมีสูงส่งและกดข่มเพียงใด ยามที่ดวงเนตรคมกริบปรายตามองเขาความรู้สึกต่ำต้อยราวกับตนเป็นเพียงมดปลวกถาโถมจิตวิญญาณทันที ร่างสูงหยุดอยู่ตรงหน้าฉู่ปินรับสั่งถามย้ำเพื่อความแน่ใจ “คุณชายฉู่คำสารภาพของเจ้าเป็นความจริง?” ฉู่ปินพยักหน้ารัวเป็นไก่จิกข้าวสารทั้งที่ยังถูกมัดและมีผ้าอุดปากไว้ การถูกหานจี้ทรมานด้วยวิธีพิเศษทำเขาฝันร้ายอยู่ทุกค่ำคืน เฟิ่งเสวียนจียกมุมปากกดลึกหันมาหาขันทีคนสนิท “ต้องรบกวนเหวินกงกงช่วยแจ้งท่านเหลียงให้ทีว่าอีกสักครู่ข้าจะพาบางคนไปเยี่ยมเยียน” พร้อมกับแสยะยิ้มชั่วร้ายให้ฉู่ปิน เรือนไผ่คราม ควันจากกำยานชั้นยอดผสานไอน้ำจากหม้อต้มชาในโถงพั

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 30 คำสารภาพของฉู่ปิน ตอนต้น

    ทั้งคำพูดและสายตาขององค์รัชทายาทยามรับสั่งกับน้องสะใภ้ หากมิได้ไร้เดียงสาหรืออ่อนต่อโลกเกินไป อย่างไรก็มองออกว่าเฟิ่งหวังเหว่ยมีเจตนาไม่บริสุทธิ์แอบแฝง ถึงแม้ตัวเขาจะเป็นคนอ่อนโยนอยู่แล้วก็ตาม ทว่าอากัปกิริยาที่แสดงออก ณ ตอนนี้ ค่อนข้างจะมากกว่าปกติไปไกลโข เหวินกงกงซึ่งยืนหลุบตาต่ำยามอยู่ต่อหน้าเชื้อพระวงศ์ ยอมแหกกฎเหลือบตาขึ้นมองพระพักตร์ขององค์รัชทายาท และได้ทันเห็นแววตาเปี่ยมล้นไปด้วยความคะนึงหานั้นเข้าพอดี ‘ไอหยา! นี่ นี่มันไม่ปกติแล้ว‘ ขันทีสูงวัยอุทานในใจ ทว่าสีหน้ายังคงเรียบเฉยราวกับมิได้รับรู้เรื่องใดๆ เขาเก็บซ่อนความรู้สึกไม่ชอบใจไว้ได้อย่างมิดชิด จากนั้นจึงผายมือเชิญองค์รัชทายาทไปยังเรือนเฟยหรง ภายในห้องบรรทมของฉีอ๋องยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นยาสมุนไพรฉุนจมูก บานหน้าต่างถูกเปิดแง้มไว้เล็กน้อยพอมีให้ช่องอากาศถ่ายเท เจ้าของตำหนักเว่ยจงนอนพิงหัวเตียงด้วยสีหน้าซีดเซียว ขอบตาลึกโหลริมฝีปากมีสีคล้ำดูแห้งเป็นขุย ดวงเนตรที่เคยเย็นชาทรงอำนาจบัดนี้ดูอ่อนล้าอย่างที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน แค่กๆๆ เสียงไอหนักๆดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงหอบหายใจดังลอดออกมาจากประตูห้องบรรทม องครักษ์ที่เฝ้าอยู่ห

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 29 ความสงสัยของเฟิ่งเสวียนจี ตอนปลาย

    หลังรับมื้อเที่ยงกับมารดาและน้องชายเป็นที่เรียบร้อย มู่ซูซินจึงเดินทางกลับตำหนักเว่ยจงโดยมีมู่เหยียนติดสอยห้อยตามมาด้วย จุดประสงค์ของเจ้าตัวน้อยคือต้องการไปเจรจากับพี่เขยให้รู้เรื่อง “ข้าจะไม่ยอมให้ท่านอ๋องทำร้ายจิตใจพี่ใหญ่อีกเป็นอันขาด เป็นสุภาพบุรุษต้องรู้จักรักหยกถนอมบุปผา จะมาทำพี่สาวของข้าเสียอกเสียใจอีกไม่ได้ เสี่ยวเหยียนไม่ยอม!” เขายังจดจำเสียงร้องไห้ปานขาดใจของพี่สาวได้ดี ฉีอ๋องนี่ใช้ไม่ได้จริงๆ! ฮัดชิ้ว! เฟิ่งเสวียนจีที่กำลังเขียนสาส์นถึงเจียงไทเฮาจามออกมาเสียงดัง มู่ซูซินยกมือกุมขมับหลังจากรับฟังถ้อยคำของน้องชาย ดูท่าว่ามารดาคงบอกมู่เหยียนว่านางถูกสามีเอ็ดเลยร้องไห้สินะ เรือนเฟยหรง ภายในห้องบรรทมของฉีอ๋อง พยัคฆ์อหังการกำลังถูกลูกกระต่ายตัวน้อยแยกเขี้ยวขู่ฟ่อใส่อย่างไม่กลัวเกรง มู่เหยียนนั่งกอดอกทำหน้าดุดัน ซึ่งมองอย่างไรก็น่าเอ็นดูใส่พี่เขยสูงศักดิ์ ที่แกล้งนอนประชวรอยู่บนเตียง ถ้อยคำติเตียนกึ่งสั่งสอนว่าสามีที่ดี ต้องรู้จักรักษาน้ำใจภรรยา จะมาข่มเหงเอาตามใจชอบไม่ได้ พี่สาวของเขาบอบบางราวตุ๊กตากระเบื้อง (ทั้งที่ความจริงถึกทนยิ่งกว่าสิงโตหินเสียอีก!) ฉีอ๋องต้องอ่อนโยน

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 29 ความสงสัยของเฟิ่งเสวียนจี ตอนต้น

    แต่ก่อนที่สาวใช้สองลี่จะได้ตอบคำถาม ร่างเล็กในชุดสีเขียวอ่อนสดใสดูคล้ายตั๊กแตนตำข้าวตัวน้อยได้ปรากฏกายขึ้นหน้าเรือนของมู่ซูซิน “พี่ใหญ่…ตื่นรึยังขอร้าบบ” เสียงเจื้อยแจ้วแฝงกำลังภายในของมู่เหยียนทำสาวใช้สองลี่สะดุ้งโหยง รีบปรี่มาหาเจ้าตัวน้อยแสนน่ารักอย่างลนลาน (0;0!) “ว้าย คุณชายน้อย อย่าเสียงดังไปเจ้าค่ะพระชายาตื่นแล้ว แต่ว่า เอ่อ…” จะให้บอกยังไงดีล่ะว่าพระชายากำลังติดภารกิจสำคัญกับท่านอ๋อง “แต่ว่าอะไรหรือขอรับ ถ้าพี่ใหญ่ตื่นแล้วทำไมถึงยังไม่เปิดประตู” “นั่นสิ ปกติซินเอ๋อร์ชอบเปิดประตูให้อากาศระบายยามเช้า มีอะไรหรือเปล่าลี่อิ่ง ลี่เจิน” คนเป็นแม่เริ่มเอะใจ เพราะปกติยามนี้มู่ซูซินต้องกำลังยืดเส้นยืดสายด้วยท่าทางประหลาดที่นางเรียกว่า โยคะ หรือว่าบุตรสาวของนางไม่สบายจากการต้องลมหนาว แต่จะเป็นไปได้อย่างไรกันรายนั้นถึกทนอย่างกับเหล็กนิล ถึงกระนั้นคนเป็นแม่ก็อดกังวลไม่ได้ หยางซื่อขยับขาเตรียมออกเดิน ทว่ายังช้ากว่ากระต่ายน้อยที่พุ่งไปราวลูกธนูถูกปล่อยจากคันศร “กรี๊ดดด คุณชายน้อย อย่า…!” ลี่เจินหวีดร้องเสียงหลง พุ่งตัวไปขวางหน้ามู่เหยียนที่เกือบถึงหน้าประตูในอีกสองก้าว! “พี่ลี่เจินม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status