โรงอาหาร
“ไม่มีโต๊ะว่างเลย” มิลินเดินเข้ามาที่โรงอาหารแล้วกวาดตามองหาโต๊ะนั่ง แต่คนเยอะมากจนหาที่นั่งไม่ได้
“ไปขอนั่งกับคนอื่นปะ” มินนี่เห็นว่าบางโต๊ะก็นั่งกันแค่ 2 คน ถ้าไปขอร่วมโต๊ะด้วยก็น่าจะได้
มิลินพยักหน้าอย่างจนใจเพราะถ้าไม่ไปนั่งรวมกับคนอื่นก็คงไม่มีโต๊ะให้นั่ง สองสาวเดินเข้าไปที่โต๊ะที่มองเอาไว้แต่แรก แต่ยังเดินไปไม่ถึงก็มีคนอื่นเข้าไปนั่งก่อนซะแล้ว
“เฮ้อ” สองสาวหันมองหน้ากันแล้วถอนหายใจออกมา
“ไปกินร้านข้างนอกด้วยกันไหม เดินออกไปไม่ไกลหรอก”
มิลินและมินนี่หันไปมองที่ต้นเสียง ปอร์เช่คลี่ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร เขาก็จะเข้ามากินข้าวแต่หาโต๊ะนั่งไม่ได้เหมือนกัน
“ไม่ล่ะ”
“ไปเถอะมึง ที่นี่คนเยอะอย่างกับหนอน” มินนี่ดึงแขนมิลินให้ไปด้วยกัน เพราะถ้ารอโต๊ะว่างก็ไม่รู้จะนานแค่ไหน
มิลินต้องยอมเดินตามไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ จนมาถึงร้านอาหารตามสั่งที่อยู่หลังมหาวิทยาลัย ต่างคนต่างสั่งแล้วเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะข้างใน
“นายรู้ได้ไงว่ามีร้านข้าวอยู่ที่นี่” มินนี่เอ่ยถาม
“เมื่อวานเราลองเดินออกมาสำรวจดูน่ะ เธอชื่ออะไรเหรอ”
“มินนี่ นายชื่อปอร์เช่ใช่ปะ” มินนี่จำได้ว่าเขาชื่อปอร์เช่ เพราะเขาเป็นคนที่ออกตัวรับโทษแทน พอกลับเข้ามาก็ตะโกนแนะนำตัว
“ใช่ เราชื่อปอร์เช่ เราเข้ามาเรียนแบบไม่มีเพื่อนเลยสักคนอะ มาหาเพื่อนใหม่เอาที่นี่”
มิลินฟังเพื่อนสนิทพูดคุยกับปอร์เช่ เธอสังเกตสีหน้าท่าทางของปอร์เช่ก็เหมือนตอนเวลาที่คุยกับเธอ หญิงสาวจึงโล่งใจเพราะตอนแรกเธอคิดว่าที่เขาเข้าหาก็เป็นเพราะว่าจะเข้ามาจีบซะอีก ที่แท้เขาก็คงแค่อยากหาเพื่อนใหม่ ๆ
“มิลินเอาน้ำอะไร เดี๋ยวเราไปซื้อให้” ปอร์เช่เอ่ยถามขึ้นมา มิลินกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ ก็สะดุ้ง
“เอ่อ เอาน้ำเปล่าก็ได้”
“มีน้ำผลไม้ปั่นด้วยนะ ไม่สนใจเหรอ” ชายหนุ่มถามเพราะว่าเขาและมินนี่จะสั่งน้ำผลไม้ปั่นกัน แต่มิลินไม่ได้ฟังก็เลยไม่รู้
“มึงไม่กินน้ำส้มปั่นเหรอ ของโปรดมึงเลยนิ” มินนี่เอ่ยถาม
“เอาน้ำส้มปั่นก็ได้”
ปอร์เช่พยักหน้าแล้วเดินออกไปสั่งน้ำผลไม้ปั่นมาให้ สักครู่แม่ค้าก็เอาข้าวมาเสิร์ฟ
“เป็นไงบ้างมิลิน อร่อยไหม”
“อร่อยดีนะ วันหลังถ้าโรงอาหารคนเต็มก็คงจะมาฝากท้องที่นี่” มิลินเห็นว่าปอร์เช่เข้าหาเธอแบบเพื่อนคนนึง เธอเลยยอมพูดคุยกับเขาบ้าง
“กูว่ามากินที่นี่ก็ดีนะ” มินนี่เห็นด้วยเพราะเดินออกมาก็ไม่ไกล อาหารและน้ำก็อร่อยด้วย
“เราออกมาด้วยคนนะ” แววตาของปอร์เช่เป็นประกาย แต่พอเห็นมิลินทำหน้านิ่ง เขาก็กะพริบตาปริบ ๆ
“เราออกมาด้วยไม่ได้เหรอ”
“ถ้าออกมาบ้างก็คงได้นะ แต่ถ้าบ่อย ๆ ก็คงไม่ได้อะ เราไม่ได้อยากมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชาย” มิลินเอ่ยออกไปตามตรง เธอไม่ได้เปิดใจให้ปอร์เช่มาเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน เพราะเธอไม่เคยคิดอยากมีเพื่อนผู้ชายเลย อยากมีเพื่อนผู้หญิงมากกว่าจะได้ชวนกันช็อปปิงได้
“มิลิน” มินนี่กดเสียงต่ำดุเพื่อนรัก ที่พูดตรงซะอีกฝ่ายหน้าเหวอไปแล้ว
“ขอโทษที่พูดตรง ๆ นะ” มิลินเอ่ยออกมาเสียงเรียบ ถึงเธอจะขอโทษที่พูดแบบนั้นแต่ก็ยังยืนกรานว่าจะไม่รับปอร์เช่เข้ากลุ่มด้วย
“ไม่เป็นไรเลย เธอตรง ๆ แบบนี้แหละดีแล้ว”
มิลินคลี่ยิ้มบาง ๆ แล้วกินข้าวต่อ ปอร์เช่ลอบมองมิลินอยู่เรื่อย ๆ ตอนแรกแค่ตกใจเพราะไม่เคยเจอใครพูดตรงแบบนี้ แต่นั่นก็ทำให้เขายิ่งรู้สึกว่าเธอน่าสนใจมากขึ้นไปอีก และจะหาทางให้มิลินยอมเปิดใจให้เขาจนได้…
บทส่งท้าย (จบ) 3 เดือนต่อมาภายในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมชื่อดังใจกลางเมืองอบอวลไปด้วยดอกไม้มากมาย โคมไฟระย้าประกายแสงออกมาในโทนอบอุ่น เสียงดนตรีดังคลอเบา ๆแขกเหรื่อมากมายมาร่วมงานฉลองมงคลสมรสระหว่างมิลินและปอร์เช่ จนบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น พ่อแม่ของทั้งสองต้อนรับแขกอยู่ตลอดส่วนบ่าวสาวยังแต่งตัวอยู่ในห้อง มิลินสวยราวกับเจ้าหญิง เพื่อนสนิทเดินเข้าไปหาก็อึ้งในความสวยของเธอ“สวยมากเลยมึง” มินนี่เอ่ยออกมา แววตาของเธอเป็นประกายด้วยความชื่นชม“เห็นมาตั้งแต่ตอนเป็นเพื่อน ตอนจีบ ตอนมีปัญหากัน ในที่สุดก็ได้เห็นถึงวันนี้ด้วย” อลันเอ่ยออกมา“เห็นมาตลอดแต่พอได้แต่งงานกันก็ซึ้งไปด้วยเนอะ” ไม้เอ่ยออกมา อลันก็พยักหน้าให้ เป็นเพื่อนกันมาจนได้เห็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาทั้งอิ่มสุขและซึ้งกับความรักของเพื่อน“ใกล้ได้เวลาแล้วนะคะ” พิธีกรเดินเข้ามาตามในห้องแต่งตัว บ่าวสาวพยักหน้าให้แล้วเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อน ๆ ก็เดินนำไปที่ห้องจัดเลี้ยงก่อนแล้วประตูบานใหญ่เปิดออกกว้าง เจ้าสาวในชุดราตรีสีขาวบริสุทธิ์ยืนควงแขนกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ทั้งสองเดินเข้ามาข้างใน เพื่อน ๆ โปรยก
บทที่ 97ปอร์เช่พามิลินเดินออกมานั่งดูดาวกันสองคนแบบเงียบ ๆ ส่วนลูกสาวของเขาก็มีเพื่อน ๆ คอยดูแลให้อยู่ “เราเตรียมแผนนี้ไว้ตั้งแต่วันที่รู้ว่าจะไปเลย” ปอร์เช่เอ่ยออกมา “ปิดเป็นความลับเก่งมากเลย” ก่อนที่จะไปมิลินไม่เอะใจเลยสักนิด ทั้งที่เพื่อน ๆ ก็รู้กันหมด ทุกคนกำความลับเอาไว้ได้มิดมาก “ฮ่า ๆ ถ้าไม่ปิดสนิท มิลินรู้ก่อนก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ” ปอร์เช่ลูบศีรษะของแฟนสาวก่อนที่จะดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด มิลินเอียงหัวซบที่แผงอกของเขาแล้วมองแหวนที่นิ้วตัวเอง “แล้วไปซื้อแหวนมาตอนไหน” “ตอนที่ออกไปทำงานน่ะ เรามีเวลาว่างก็ออกไปซื้อแหวนมา” ตัวติดกันตลอดเขามีโอกาสไปซื้อได้แค่ตอนที่ออกไปทำงานเท่านั้น “แล้วแบบนี้เคยหนีเที่ยวบ้างหรือเปล่าเนี่ย” “ไม่เคยครับ” ปอร์เช่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาไม่เคยออกนอกลู่นอกทางอยู่แล้ว นอกจากไปซื้อแหวนวงนี้ มิลินหันไปส่งยิ้มให้ก่อนจะจูบปากเขาด้วยความรัก แฟนของเธอทำน่ารักขนาดนี้จนเธอรู้สึกว่าโชคดีจริง ๆ ที่ได้รักกัน “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยนะ” “ครับ” ปอร์เช่กอดมิลินเอาไว
บทที่ 96“เตรียมแหวนไว้พร้อมแล้วใช่ไหม” ไม้เอ่ยถามเมื่อมิลินเดินออกไปแล้ว“เตรียมไว้แล้ว ขอบคุณมากนะครับที่ทำตามแผนของผม” ปอร์เช่ตอบไม้แล้วเอ่ยกับผู้นำ เขาเป็นคนวางแผนเอาไว้เองว่าจะจัดงานเลี้ยงส่ง แล้วเขาก็จะขอแฟนสาวแต่งงานในคืนนี้“ไม่เป็นไรเลยครับ” ผู้นำตอบกลับปอร์เช่มองไปที่สองแม่ลูกแล้วเดินออกไปหา เขานั่งลงข้าง ๆ แฟนสาวแล้วมองเมญ่าเล่นขายของกับเด็ก ๆ “ลูกเรานี่เข้ากับคนง่ายจริง ๆ เลยเนอะ” ปอร์เช่เอ่ยขึ้นมา “คิดถูกแล้วที่พาลูกมาด้วย” มิลินตอบกลับ ทีแรกก็กังวลว่าจะอยู่ไม่ได้ แต่เมญ่ากลับอยู่ได้แบบสบาย ๆ นั่งเล่นกับพื้นไม่ได้กลัวเปื้อน แล้วยังสนุกไปกับเพื่อนใหม่อีกด้วย “ลูกกินง่ายอยู่ง่ายเหมือนเราสองคน” มิลินหันไปมองหน้าปอร์เช่แล้วคลี่ยิ้ม เธอเห็นด้วยที่ลูกสาวเป็นเหมือนเราสองคนที่อยู่ตรงไหนได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้ชีวิตหรูหราสะดวกสบายอะไร ตกเย็นชาวบ้านก็มารวมตัวกันที่ลานกว้าง ทำอาหารแล้วมาตั้งไว้ พร้อมกับช่วยกันตกแต่งเป็นสถานที่เลี้ยงส่งกลุ่มหนุ่มสาวที่เข้ามาช่วยกันซ่อมแซมโรงเรียน “มิลินเสร็จแล้วเดินไปก่อนก็ได้” ปอร์เช่เอ่ย
บทที่ 95 วันต่อมาปอร์เช่และกลุ่มเพื่อนตื่นขึ้นมาแต่เช้าท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น เมญ่ายังคงนอนหลับสบาย มิลินไม่ได้ปลุกขึ้นมา ให้ลูกนอนห่มผ้าหนา ๆ ไปก่อนเพราะกลัวว่าถ้าลุกออกมาเล่นตอนนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปอาบน้ำ แล้วมานั่งเล่นมองหมอกจาง ๆ อยู่ที่หน้าบ้าน สักพักนึงชาวบ้านก็เอากับข้าวมาให้ “ขอบคุณมากนะครับ” ปอร์เช่เอ่ยออกมา “คุณแม่ขา” “จ้า เดี๋ยวแม่เข้าไปหานะ” มิลินได้ยินเสียงลูกสาวเรียกหาก็เลยลุกเข้าไปในห้องนอน เมญ่าอ้าปากหาวแล้วลุกขึ้นมาหาผู้เป็นแม่ “หนาวไหมลูก” มิลินเอ่ยถาม ถึงตอนนี้จะมีแดดขึ้นมาแต่ก็ยังมีความเย็นอยู่ “ไม่หนาวมากค่ะ” “ถ้างั้นเราไปแปรงฟันกันนะคะ ลุง ๆ ป้า ๆ เอาของกินมาให้เยอะเลย”“ค่ะคุณแม่”มิลินพาน้องเมญ่าไปแปรงฟันแล้วออกมานั่งกินข้าวด้วยกัน หลังจากกินข้าวกันอิ่มแล้วทุกคนก็พากันไปขนของที่รถลงมาโดยที่มีชาวบ้านไปช่วยกันขนด้วย“ไปเล่นกันไหม” เด็กหญิงคนเดิมเดินเข้ามาหาเมญ่า“ไปค่ะ” เมญ่าตอบกลับแล้วพากันเดินไปนั่งเล่นอยู่แถวบ้านอีกหลังนึง ซึ่งอยู่ในสายตาของมิลินและปอร์เ
บทที่ 94 “เมญ่าอยากได้สไลด์เดอร์ค่ะคุณปู่ คุณพ่อคุณแม่เคยพาไปเล่น เมญ่าชอบมากเลยค่ะ” “ได้เลยหลานรัก เดี๋ยวปู่ซื้อให้นะ” “อย่าเลยค่ะพ่อ ไว้พาไปเล่นข้างนอกดีกว่าค่ะ เพราะเล่นไม่นานเดี๋ยวก็เมญ่าโตขึ้นแล้วเล่นไม่ได้อีกค่ะ” มิลินเดินออกมาได้ยินที่ลูกสาวอ้อนขอของเล่นพอดีก็เลยห้ามไว้ ท่านตามใจเมญ่ามากเกินไปเธอกลัวว่าลูกสาวจะเอาแต่ใจ พออยากได้อะไรก็ต้องได้ ใบหน้าของเมญ่างอง้ำที่ถูกขัดใจ “หน้างอแบบนี้ แม่เอาไก่ทอดไปเก็บดีกว่า” มิลินแกล้งเดินหนีเข้าไปที่ครัว เมญ่ารีบลุกจากตักของคุณปู่แล้ววิ่งตามไป “กินค่ะคุณแม่ เมญ่าไม่หน้างอแล้วค่ะ” “พ่อคงตามใจหลานมากเกินไปหน่อย” พ่อของปอร์เช่เอ่ยขึ้นมา พอถูกมิลินขัดท่านก็รู้สึกผิดที่ตามใจเมญ่ามากไป พอขอสไลด์เดอร์ก็จะซื้อให้เลยโดยที่ไม่ต้องคิด “ผมเข้าใจพ่อนะครับ ผมเองก็รักลูกหลงลูกจนอยากซื้อของให้ลูกเยอะแยะไปหมดเลย” ปอร์เช่ตอบกลับ เขารักลูกมากพอลูกขออะไรก็อยากให้ แต่เขาก็หักห้ามใจไว้เพราะกลัวว่าลูกจะเสียนิสัย “พ่อก็ต้องห้ามใจแล้วล่ะ” มาเฟียใหญ่คลี่ยิ้มบางแล้วเดินไปที่โต๊ะ
บทที่ 93 หลังจากงานรับปริญญาแล้ว ปอร์เช่เปิดโน้ตบุ๊กค้นหาข้อมูลเรื่องของเด็กบนดอย เขาเคยมีความฝันว่าอยากเข้าไปช่วยเหลือเด็ก ๆ บนนั้นแต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไป ตอนนี้เขาและแฟนสาวก็เรียนจบแล้วเขาเลยอยากหาโอกาสไปสักครั้ง “ทำอะไร” มิลินเดินออกมาหลังจากที่พาลูกสาวนอนในช่วงกลางวันแล้ว เห็นคนตัวโตกำลังดูหน้าโน้ตบุ๊กด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เธอก็เลยเอ่ยถามออกมา “เราอยากชวนกันไปช่วยเหลือเด็กบนดอย มิลินสนใจไหม” ปอร์เช่มองหน้ามิลินด้วยความกังวล เพราะว่าการไปที่นั่นก็ค่อนข้างลำบาก ไม่รู้ว่าแฟนสาวจะอยากไปด้วยไหม “สนใจสิ เราก็อยากไปเหมือนกัน” ได้คำตอบจากมิลินแล้วปอร์เช่ก็คลี่ยิ้มด้วยความโล่งใจ เขาเลยเปิดข้อมูลที่หาเอาไว้ให้มิลินดู หญิงสาวตอบตกลงแบบไม่ลังเลเลย “ชวนเพื่อนไปด้วยใช่ปะ” มิลินเอ่ยถาม “ใช่ครับ พวกเรายังไม่ได้รวมตัวฉลองที่เรียนจบกันเลย เราก็เลยว่าจะชวนเพื่อนไปที่นั่น” ปอร์เช่ตอบกลับพร้อมกับเอาโทรศัพท์ออกมาส่งเข้าไปในไลน์กลุ่ม “ตอบตกลงกันทุกคนเลยมิลิน” ปอร์เช่หันหน้าจอให้มิลินดู เพื่อนทุกคนตอบว่าไปกันหมด ให้เขาหาสถานท