มหาวิทยาลัย
“วันนี้ได้อะไรมายะ” มินนี่ยิ้มกริ่มแซวเพื่อนสนิทที่มีอะไรติดมือมาด้วยทุกเช้า
มิลินทิ้งสะโพกนั่งลงที่เก้าอี้แล้วเอากล่องน้ำผลไม้ให้คนแซวไปหนึ่งกล่องตามที่มีคนฝากมาให้ ใบหน้าของเธอบูดบึ้ง ไม่พูดอะไรสักคำจนมินนี่หุบยิ้มลงเพราะท่าทางของเพื่อนรักไม่เล่นด้วยซะแล้ว
“มึงจะใจแข็งไปถึงไหนวะ ปอร์เช่ตื๊อมึงมาหลายวันแล้วนะ” มินนี่พูดพร้อมกับเจาะกล่องน้ำผลไม้ที่ปอร์เช่ฝากมาให้แล้วยกขึ้นดูด
“กูไม่อยากมีเพื่อนผู้ชายนิ” มิลินใจแข็งไม่ยอมรับปอร์เช่เป็นเพื่อนร่วมแก๊งด้วยสักที เธอยังอยากมีเพื่อนเป็นผู้หญิงเท่านั้น เพราะคิดว่าเข้ากันได้ดีกว่าแน่ ๆ
“เพื่อนผู้ชายไม่ดีตรงไหน” มินนี่เลิกคิ้วขึ้นถาม
“ไม่ใช่ว่าไม่ดี…แต่คิดว่าผู้หญิงเข้ากันง่ายกว่า” มิลินตอบเสียงแผ่ว เพื่อนรักของเธอสั่นศีรษะรัว
“ไม่เกี่ยวเลยจ้ะ เพศไหนก็เข้ากันได้หมดแหละ มึงคิดไปเองว่าจะเข้ากันไม่ได้ ลองเปิดใจดูก่อน ถ้าไม่ดีก็เลิกยุ่งกันก็ได้นิ”
มิลินเถียงไม่ออก หากไม่ได้ลองเปิดใจรับมาเป็นเพื่อนดูสักครั้งก็คงไม่รู้ว่าจะเข้ากันได้ไหม หญิงสาวดื่มน้ำผลไม้ของตนเองที่ได้มาจากปอร์เช่จนหมดแล้วลุกหนีไปทิ้งขยะ
“หนีอีกละ” มินนี่รีบลุกตาม เพื่อนรักของเธอเป็นแบบนี้มาตลอด พอจนมุมเถียงไม่ได้ก็เดินหนี
มิลินขึ้นมาที่ห้องแล้วกวาดตามองหาที่นั่ง เธอก็เห็นปอร์เช่ยกแขนขึ้นเรียกให้ไปนั่งด้วยกันเพราะเขาขึ้นมาก่อนก็เลยจองที่เอาไว้ให้ หญิงสาวแกล้งทำเป็นไม่เห็นแต่ทว่ามินนี่กลับลากแขนของเธอให้ไปนั่งกับเขา
“ขอบคุณสำหรับน้ำผลไม้นะปอร์เช่” มินนี่เอ่ยกับปอร์เช่ เขาฝากมาให้เธออยู่เรื่อย
“ไม่เป็นไร”
“นายไม่มีเพื่อนมาเรียนที่นี่เลยเหรอ”
“ไม่มี เพื่อนเราสอบติดที่อื่นกันอะ เราก็เลยมาเรียนที่นี่คนเดียวเลย”
“แล้วทำไมไม่หาเพื่อนที่เป็นผู้ชายล่ะ” มิลินนั่งฟังอยู่เงียบ ๆ ก็หันไปถาม
“เราก็หาทั้งหญิงทั้งชายแหละ กับพวกเธอเราชอบในความตรง ๆ ไม่ยอมคนตั้งแต่วันที่รับน้องแล้ว เราเลยอยากเป็นเพื่อนด้วยน่ะ” ชายหนุ่มยิ้มบาง เขาโกหกก็เพื่อให้ตัวเองได้ใกล้ชิดกับคนที่ชอบ ไม่ว่าสถานะไหนก็ตาม
“เราก็ชอบนายนะ เราว่านายดูจริงใจดีอะ” มินนี่ยิ้มแล้วปรายตามองเพื่อนรัก ปอร์เช่ก็พูดอะไรตรง ๆ ท่าทางไม่ได้มีพิษภัยอะไร
มิลินไม่พูดอะไร อาจารย์เข้าสอนพอดีก็เลยต้องหยุดคุยกัน
วันต่อมา
“มิลิน!!! รอเราด้วย!!!”
เจ้าของชื่อหยุดเดินแล้วหันกลับไปหาต้นเสียง ปอร์เช่วิ่งเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ผุดพราย ชายหนุ่มหอบแฮ่กเพราะรีบวิ่งตามมาให้ทัน
“นึกว่าเธอจะไม่ยอมรอเราซะแล้ว” ปอร์เช่ยิ้มกว้างจนตาหยีด้วยความดีใจ หลายวันที่ผ่านมามิลินก็ยังเว้นระยะห่างไม่ยอมให้เขาเข้าหา ไม่ว่าจะฐานะอะไรก็ตาม
เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะหยุดรอเขาทำไม ปกติเธอได้ยินเสียงเขาตะโกนเรียกก็เดินหนีไม่อยากเข้าใกล้
“นายนี่วุ่นวายกับเราจริง ๆ เลยนะ” มิลินหันหลังให้แล้วรีบเดินไปที่ตึกคณะ วันนี้เธอตื่นสายก็เลยต้องรีบเดินไปให้ทันเข้าเรียนในคาบเช้า
“ก็เราอยากเป็นเพื่อนกับมิลินนิ” ปอร์เช่ยิ้มกว้าง เขาเดินตามมิลินไปต้อย ๆ ต้องเรียนวิชาเดียวกันอยู่แล้ว
หญิงสาวไม่ตอบอะไร เพราะเขาพูดประโยคนี้อยู่ทุกวันที่เข้ามาหา จนตอนนี้เธอก็เริ่มใจอ่อนให้เขาเข้ามาเป็นเพื่อนแล้ว เพียงแต่เธอไม่ใช่คนที่จะมาพูดจาดี ๆ ให้การกระทำบอกเขาแทน
บทส่งท้าย (จบ) 3 เดือนต่อมาภายในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมชื่อดังใจกลางเมืองอบอวลไปด้วยดอกไม้มากมาย โคมไฟระย้าประกายแสงออกมาในโทนอบอุ่น เสียงดนตรีดังคลอเบา ๆแขกเหรื่อมากมายมาร่วมงานฉลองมงคลสมรสระหว่างมิลินและปอร์เช่ จนบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น พ่อแม่ของทั้งสองต้อนรับแขกอยู่ตลอดส่วนบ่าวสาวยังแต่งตัวอยู่ในห้อง มิลินสวยราวกับเจ้าหญิง เพื่อนสนิทเดินเข้าไปหาก็อึ้งในความสวยของเธอ“สวยมากเลยมึง” มินนี่เอ่ยออกมา แววตาของเธอเป็นประกายด้วยความชื่นชม“เห็นมาตั้งแต่ตอนเป็นเพื่อน ตอนจีบ ตอนมีปัญหากัน ในที่สุดก็ได้เห็นถึงวันนี้ด้วย” อลันเอ่ยออกมา“เห็นมาตลอดแต่พอได้แต่งงานกันก็ซึ้งไปด้วยเนอะ” ไม้เอ่ยออกมา อลันก็พยักหน้าให้ เป็นเพื่อนกันมาจนได้เห็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาทั้งอิ่มสุขและซึ้งกับความรักของเพื่อน“ใกล้ได้เวลาแล้วนะคะ” พิธีกรเดินเข้ามาตามในห้องแต่งตัว บ่าวสาวพยักหน้าให้แล้วเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อน ๆ ก็เดินนำไปที่ห้องจัดเลี้ยงก่อนแล้วประตูบานใหญ่เปิดออกกว้าง เจ้าสาวในชุดราตรีสีขาวบริสุทธิ์ยืนควงแขนกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ทั้งสองเดินเข้ามาข้างใน เพื่อน ๆ โปรยก
บทที่ 97ปอร์เช่พามิลินเดินออกมานั่งดูดาวกันสองคนแบบเงียบ ๆ ส่วนลูกสาวของเขาก็มีเพื่อน ๆ คอยดูแลให้อยู่ “เราเตรียมแผนนี้ไว้ตั้งแต่วันที่รู้ว่าจะไปเลย” ปอร์เช่เอ่ยออกมา “ปิดเป็นความลับเก่งมากเลย” ก่อนที่จะไปมิลินไม่เอะใจเลยสักนิด ทั้งที่เพื่อน ๆ ก็รู้กันหมด ทุกคนกำความลับเอาไว้ได้มิดมาก “ฮ่า ๆ ถ้าไม่ปิดสนิท มิลินรู้ก่อนก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ” ปอร์เช่ลูบศีรษะของแฟนสาวก่อนที่จะดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด มิลินเอียงหัวซบที่แผงอกของเขาแล้วมองแหวนที่นิ้วตัวเอง “แล้วไปซื้อแหวนมาตอนไหน” “ตอนที่ออกไปทำงานน่ะ เรามีเวลาว่างก็ออกไปซื้อแหวนมา” ตัวติดกันตลอดเขามีโอกาสไปซื้อได้แค่ตอนที่ออกไปทำงานเท่านั้น “แล้วแบบนี้เคยหนีเที่ยวบ้างหรือเปล่าเนี่ย” “ไม่เคยครับ” ปอร์เช่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาไม่เคยออกนอกลู่นอกทางอยู่แล้ว นอกจากไปซื้อแหวนวงนี้ มิลินหันไปส่งยิ้มให้ก่อนจะจูบปากเขาด้วยความรัก แฟนของเธอทำน่ารักขนาดนี้จนเธอรู้สึกว่าโชคดีจริง ๆ ที่ได้รักกัน “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยนะ” “ครับ” ปอร์เช่กอดมิลินเอาไว
บทที่ 96“เตรียมแหวนไว้พร้อมแล้วใช่ไหม” ไม้เอ่ยถามเมื่อมิลินเดินออกไปแล้ว“เตรียมไว้แล้ว ขอบคุณมากนะครับที่ทำตามแผนของผม” ปอร์เช่ตอบไม้แล้วเอ่ยกับผู้นำ เขาเป็นคนวางแผนเอาไว้เองว่าจะจัดงานเลี้ยงส่ง แล้วเขาก็จะขอแฟนสาวแต่งงานในคืนนี้“ไม่เป็นไรเลยครับ” ผู้นำตอบกลับปอร์เช่มองไปที่สองแม่ลูกแล้วเดินออกไปหา เขานั่งลงข้าง ๆ แฟนสาวแล้วมองเมญ่าเล่นขายของกับเด็ก ๆ “ลูกเรานี่เข้ากับคนง่ายจริง ๆ เลยเนอะ” ปอร์เช่เอ่ยขึ้นมา “คิดถูกแล้วที่พาลูกมาด้วย” มิลินตอบกลับ ทีแรกก็กังวลว่าจะอยู่ไม่ได้ แต่เมญ่ากลับอยู่ได้แบบสบาย ๆ นั่งเล่นกับพื้นไม่ได้กลัวเปื้อน แล้วยังสนุกไปกับเพื่อนใหม่อีกด้วย “ลูกกินง่ายอยู่ง่ายเหมือนเราสองคน” มิลินหันไปมองหน้าปอร์เช่แล้วคลี่ยิ้ม เธอเห็นด้วยที่ลูกสาวเป็นเหมือนเราสองคนที่อยู่ตรงไหนได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้ชีวิตหรูหราสะดวกสบายอะไร ตกเย็นชาวบ้านก็มารวมตัวกันที่ลานกว้าง ทำอาหารแล้วมาตั้งไว้ พร้อมกับช่วยกันตกแต่งเป็นสถานที่เลี้ยงส่งกลุ่มหนุ่มสาวที่เข้ามาช่วยกันซ่อมแซมโรงเรียน “มิลินเสร็จแล้วเดินไปก่อนก็ได้” ปอร์เช่เอ่ย
บทที่ 95 วันต่อมาปอร์เช่และกลุ่มเพื่อนตื่นขึ้นมาแต่เช้าท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น เมญ่ายังคงนอนหลับสบาย มิลินไม่ได้ปลุกขึ้นมา ให้ลูกนอนห่มผ้าหนา ๆ ไปก่อนเพราะกลัวว่าถ้าลุกออกมาเล่นตอนนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปอาบน้ำ แล้วมานั่งเล่นมองหมอกจาง ๆ อยู่ที่หน้าบ้าน สักพักนึงชาวบ้านก็เอากับข้าวมาให้ “ขอบคุณมากนะครับ” ปอร์เช่เอ่ยออกมา “คุณแม่ขา” “จ้า เดี๋ยวแม่เข้าไปหานะ” มิลินได้ยินเสียงลูกสาวเรียกหาก็เลยลุกเข้าไปในห้องนอน เมญ่าอ้าปากหาวแล้วลุกขึ้นมาหาผู้เป็นแม่ “หนาวไหมลูก” มิลินเอ่ยถาม ถึงตอนนี้จะมีแดดขึ้นมาแต่ก็ยังมีความเย็นอยู่ “ไม่หนาวมากค่ะ” “ถ้างั้นเราไปแปรงฟันกันนะคะ ลุง ๆ ป้า ๆ เอาของกินมาให้เยอะเลย”“ค่ะคุณแม่”มิลินพาน้องเมญ่าไปแปรงฟันแล้วออกมานั่งกินข้าวด้วยกัน หลังจากกินข้าวกันอิ่มแล้วทุกคนก็พากันไปขนของที่รถลงมาโดยที่มีชาวบ้านไปช่วยกันขนด้วย“ไปเล่นกันไหม” เด็กหญิงคนเดิมเดินเข้ามาหาเมญ่า“ไปค่ะ” เมญ่าตอบกลับแล้วพากันเดินไปนั่งเล่นอยู่แถวบ้านอีกหลังนึง ซึ่งอยู่ในสายตาของมิลินและปอร์เ
บทที่ 94 “เมญ่าอยากได้สไลด์เดอร์ค่ะคุณปู่ คุณพ่อคุณแม่เคยพาไปเล่น เมญ่าชอบมากเลยค่ะ” “ได้เลยหลานรัก เดี๋ยวปู่ซื้อให้นะ” “อย่าเลยค่ะพ่อ ไว้พาไปเล่นข้างนอกดีกว่าค่ะ เพราะเล่นไม่นานเดี๋ยวก็เมญ่าโตขึ้นแล้วเล่นไม่ได้อีกค่ะ” มิลินเดินออกมาได้ยินที่ลูกสาวอ้อนขอของเล่นพอดีก็เลยห้ามไว้ ท่านตามใจเมญ่ามากเกินไปเธอกลัวว่าลูกสาวจะเอาแต่ใจ พออยากได้อะไรก็ต้องได้ ใบหน้าของเมญ่างอง้ำที่ถูกขัดใจ “หน้างอแบบนี้ แม่เอาไก่ทอดไปเก็บดีกว่า” มิลินแกล้งเดินหนีเข้าไปที่ครัว เมญ่ารีบลุกจากตักของคุณปู่แล้ววิ่งตามไป “กินค่ะคุณแม่ เมญ่าไม่หน้างอแล้วค่ะ” “พ่อคงตามใจหลานมากเกินไปหน่อย” พ่อของปอร์เช่เอ่ยขึ้นมา พอถูกมิลินขัดท่านก็รู้สึกผิดที่ตามใจเมญ่ามากไป พอขอสไลด์เดอร์ก็จะซื้อให้เลยโดยที่ไม่ต้องคิด “ผมเข้าใจพ่อนะครับ ผมเองก็รักลูกหลงลูกจนอยากซื้อของให้ลูกเยอะแยะไปหมดเลย” ปอร์เช่ตอบกลับ เขารักลูกมากพอลูกขออะไรก็อยากให้ แต่เขาก็หักห้ามใจไว้เพราะกลัวว่าลูกจะเสียนิสัย “พ่อก็ต้องห้ามใจแล้วล่ะ” มาเฟียใหญ่คลี่ยิ้มบางแล้วเดินไปที่โต๊ะ
บทที่ 93 หลังจากงานรับปริญญาแล้ว ปอร์เช่เปิดโน้ตบุ๊กค้นหาข้อมูลเรื่องของเด็กบนดอย เขาเคยมีความฝันว่าอยากเข้าไปช่วยเหลือเด็ก ๆ บนนั้นแต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไป ตอนนี้เขาและแฟนสาวก็เรียนจบแล้วเขาเลยอยากหาโอกาสไปสักครั้ง “ทำอะไร” มิลินเดินออกมาหลังจากที่พาลูกสาวนอนในช่วงกลางวันแล้ว เห็นคนตัวโตกำลังดูหน้าโน้ตบุ๊กด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เธอก็เลยเอ่ยถามออกมา “เราอยากชวนกันไปช่วยเหลือเด็กบนดอย มิลินสนใจไหม” ปอร์เช่มองหน้ามิลินด้วยความกังวล เพราะว่าการไปที่นั่นก็ค่อนข้างลำบาก ไม่รู้ว่าแฟนสาวจะอยากไปด้วยไหม “สนใจสิ เราก็อยากไปเหมือนกัน” ได้คำตอบจากมิลินแล้วปอร์เช่ก็คลี่ยิ้มด้วยความโล่งใจ เขาเลยเปิดข้อมูลที่หาเอาไว้ให้มิลินดู หญิงสาวตอบตกลงแบบไม่ลังเลเลย “ชวนเพื่อนไปด้วยใช่ปะ” มิลินเอ่ยถาม “ใช่ครับ พวกเรายังไม่ได้รวมตัวฉลองที่เรียนจบกันเลย เราก็เลยว่าจะชวนเพื่อนไปที่นั่น” ปอร์เช่ตอบกลับพร้อมกับเอาโทรศัพท์ออกมาส่งเข้าไปในไลน์กลุ่ม “ตอบตกลงกันทุกคนเลยมิลิน” ปอร์เช่หันหน้าจอให้มิลินดู เพื่อนทุกคนตอบว่าไปกันหมด ให้เขาหาสถานท