“แล้วคิดว่าเขาจะหายโกรธเหรอ” คำถามของใบหญ้าทำให้ฉันส่ายหน้า ฉันคิดว่าเขายังโกรธแหละ แต่มันไม่มีทางเลือก จะให้รอจนเขาหายโกรธ คงไม่มีวันนั้น
“ก็ไม่คิดว่าเขาจะหายโกรธไง เลยต้องใช้ไม้เด็ดเอาตัวเข้าแลก รอบนี้ฉันจะทำให้เขาหลงยิ่งกว่าเดิม ยังไงเขาก็เคยรักฉัน คงจะเหลือเยื่อใยบ้างแหละ...”
เยื่อใยของความรักที่เขาเคยมีให้ฉัน หวังว่าจะยังมีให้ฉันบ้างนะทะเล
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปแล้ว คนที่ผมไม่คิดจะติดต่อ ก็ไม่ยอมติดต่อมาสักที ตกลงเป็นเพื่อนนอนกัน ไม่ใช่วันไนต์สักหน่อย ทำไมหายไปเลย
ไม่อยากส่งข้อความไปหา เดี๋ยวจะเป็นหลักฐานอีก อย่างที่บอก สำหรับผม เธอก็แค่แฟนเก่าคนที่ทิ้งผมไปอย่างไม่ไยดีตั้งแต่เมื่อตอนผมอยู่ปีหนึ่ง
“เป็นอะไรไอ้เล จ้องมือถืออยู่ได้”
“ฟังเพลง” ผมบอกกับไอ้ฟ้าทั้งที่ไม่ได้เปิดเพลง
“เพลงห่าอะไร กูเห็นมันเขี่ยไปเขี่ยมา” ไอ้ไม้นี่เรื่องอื่นฉลาดดีจัง ยกเว้นเรื่องเรียนนี่แหละ
“ไม่เสือกสักเรื่องได้ไหมพี่ไม้”
“มึงแก่กว่ากู อย่าเสือกเรียกกูพี่” มันยังไม่วายด่าผมอีก แค่เรียกพี่ อะไรของมัน
“มันเป็นอะไรวะไอ้ฟ้า ดูอารมณ์ไม่ดี” ผมหันไปถามกับเวหา หรือสายฟ้า แต่พวกผมจะเรียกมันแค่ไอ้ฟ้า สั้น ๆ ฟังง่าย
“ไม่รู้มัน” ไอ้สองคนนี่ดูจะมีความลับกับผม แต่ผมไม่สนใจหรอก สนใจแค่ว่า...
แม่ง โทรไปก่อน เธอจะคิดว่าผมอยากสานต่อความสัมพันธ์ไหมวะ
ส่งข้อความไปยิ่งดูไม่ดี มีหลักฐาน แถมยังอ่านซ้ำ ๆ ได้ เอาไงดีวะ อยากก็อยาก
อารมณ์เหมือนเราได้กลับมากินของโปรดที่ไม่ได้กินมานาน พอได้กินอีก เราก็ไม่อยากหยุดกิน
“เย็นนี้ไปเที่ยวไหม” เสียงของไอ้ไม้ถามขึ้น ไปเที่ยวเหรอ หรือว่าไปเที่ยวรอบนี้อาจจะเจอเธออีก แล้วก็ทำเป็นชวนไปนอนด้วยกันดีไหมวะ
แค่จะนอนกับผู้หญิงสักคนทำไมต้องยุ่งยากขนาดนี้วะ
สุดท้ายคืนนี้ผมก็แห้ว ไม่เจอเธอ กลับห้องมาอย่างเซ็ง ๆ ตอนก่อนออกจากห้องคิดว่าถ้าเธอไม่มา ก็หิ้วใครสักคนเข้าโรงแรม แต่กลับไม่ได้ทำอย่างนั้น
ตอนนี้แม่งไม่มีอารมณ์
หายไปไหนวะ
“อือ” เสียงปลายสายน่าจะหลับอยู่ ผมดูเวลา ตอนนี้ตีหนึ่งแล้ว
“หลับอยู่เหรอ”
“ทะเลเหรอ” น้ำเสียงเธอเหมือนไม่แน่ใจว่าปลายสายคือผมหรือเปล่า เธอไม่ได้เมมเบอร์ผมไว้สินะ
“อืม ออกมาหน่อยไหม โรงแรมเดิม”
“คือ...เอ่อ คือ...” เหมือนเธอจะอึดอัด หรือไม่อยากมา
“โอเค เราไม่รบกวนแล้ว แค่นี้นะ”
“เดี๋ยวทะเล คือเราใช้ปากให้ได้ไหม เราเป็นเมนส์”
หัวใจผมเต้นผิดจังหวะกันเลยคราวนี้ นึกถึงภาพเธอจะใช้ปากให้แล้วก็ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หื่นแหละยอมรับ ไม่ใช่ว่าไม่เคย แต่เท่าที่จำได้ กับเธอน่าจะไม่กี่ครั้ง
“เอาไว้หายก่อน กลัวเลอะ” จริง ๆ ผมไม่อยากทำเพราะมันคือการเอาเปรียบเธอ จะให้เธอใช้ปากให้ผม แต่เธอกลับค้างคา
ว่าแต่ปากที่บอกออกไปกับความคิดช่างขัดแย้ง
แล้วกูจะแคร์เพื่อ เป็นแค่เพื่อนนอน ไม่ใช่แฟน
“เราไม่ทำเลอะหรอก”
“ไม่เป็นไร ไว้เธอหายก่อนก็ได้” ผมปฏิเสธอีกครั้ง เธอเงียบไป ผมไม่ได้เห็นสีหน้าเธอ ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอคิดอะไรอยู่
“ทำไมเงียบ ปวดท้องเหรอ” ถ้าจำไม่ผิด เธอไม่ปวดท้องเมนส์นี่นา หรือว่าตอนนี้ปวดแล้ว
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก แค่นี้นะ”
“เดี๋ยว!” ก่อนที่เธอจะวางสาย ผมรีบห้ามเธอไว้ก่อน
“มีอะไร” นั่นสิ มีอะไรวะ เรียกไว้ทำไม แม่งเอ๊ย! ผมได้แต่สบถในใจ ก่อนจะเปล่งคำพูดที่แม่งโคตรแมนออกไป
“เธอติดค่าโรงแรมเราอยู่”
“อ๋อ จะให้โอนให้ไหม เอาหมายเลขบัญชีมาสิ”
“ไว้รอบหน้าเธอออกนะ อย่าเบี้ยว แล้วเมนส์จะหายวันไหน” นอกจากทวงค่าโรงแรมแล้วยังถามวันใช้งานได้อีก เลวกว่านี้คงไม่มีอีกแล้วว่ะ แต่เลวแค่นี้ยังน้อยไปกับสิ่งที่เธอทำให้ผมเสียใจ
ในเมื่อเป็นคนดีแล้วเธอไม่เห็นค่า ตอนนี้ก็จะขอเป็นคนเลวบ้าง
“เราไม่โกงหรอก ไว้เราหายแล้วนัดไปนะ”
“อืม แค่นี้นะ” ผมกดวางสายโดยไม่รอคำล่ำลาจากเธอ ถ้าแค่นี้ทนไม่ได้ก็แล้วแต่ ผมเจอมาเยอะกว่านี้เสียอีก นึกถึงตัวเองตอนเป็นไอ้หน้าโง่เมื่อตอนอยู่ปีหนึ่ง ไม่มีแล้วไอ้ทะเลคนนั้น
“แม่งมือก็ได้วะ” ก้มลงมองน้องชายมันตั้ง ตั้งแต่เธอพูดว่าใช้ปากแล้ว
แค่คำพูดของเธอก็ทำผมแข็งขนาดนี้ได้ยังไงกัน แม่มดชัด ๆ
“อา...ดาว” สุดท้ายภาพที่ผมใช้ในจินตนาการก็ไม่พ้นภาพของเธอ ทุกครั้งที่ปลดปล่อยตัวเอง ภาพในหัวที่ผมคิดมีแค่เธอคนเดียว
“สุด ๆ ซื้อมาไว้สักสิบตัวดีไหม ไว้ใส่คู่กัน” เธอเอ่ยแซว ใบหน้ายังซุกหน้าอกผม และมือบางก็เล่นกับเจ้าหนอนนุ่มนิ่มของผมไม่หยุด “เช้า ๆ ทำไมจูจู้แข็งรู้เปล่า” ถ้าเธอไม่บีบ ‘จูจู้’ ผมคงไม่รู้ว่าคำนั้นหมายถึงอะไร “ไม่รู้สิ” ผมเองที่เป็นผู้ชายมาตั้งแต่เกิด ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเจ้าน้องชายถึงได้แข็งในตอนเช้า “เพราะร่างกายไม่อยากให้ทะเลลุกไปฉี่ ต้องการให้หลับพักผ่อนเลยต้องแข็งเพื่อให้อั้นฉี่ได้” คำอธิบายของเธอทำให้ผมขมวดคิ้ว “ทำไมรู้ อย่าบอกนะว่าแอบไปกิ๊กกับหมอ” “โอ๊ย คิดได้นะพ่อคุณ จะเอาเวลาไหนกิ๊กกับใคร ทุกวันนี้อยู่ด้วยกันแทบจะสี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว นั่นสินะ เราสองคนแทบอยู่ด้วยกันยี่สิบสี่ชั่วโมง ผมก็ยึดคติไอ้ไม้แหละ เงินที่มีก็จ้างคนทำงาน ส่วนเวลาของเราเอาไปเลี้ยงลูกกับดูแลเมีย หาอะไรที่ทำแล้วมีความสุข ซึ่งความสุขของผมคือได้เฝ้าทะเลดาว “แล้วทำไมรู้” “ไถติ๊กต็อกไง เดี๋ยวนี้อยากรู้อะไรมีหมดความรู้ต่าง ๆ”ผมลูบผมเธออีกครั้ง พร้อมทั้งจุ๊บเหม่งของคนในอ้อมกอด “เก่ง แต่จะบอกว่าเราไม่ฉี่แล้ว ที่น้องจูจู้แข็งไม่ใช่เพร
“ดาว จะแตกแล้ว” เสียงทุ้มนุ่มพูดขึ้นพร้อมทั้งคำรามไม่หยุด ก่อนที่เขาจะปลดปล่อย อืม...ดีจัง ฉันชอบเวลาเขาไม่อาจต้านทานฉันได้ อืม...ตอนนี้ฉันยังไม่อิ่ม ฉันลุกขึ้นยืน สลัดจีสตริงตัวเล็กบางทิ้งข้างเตียง ทะเลขยับลงจากเตียง ถอดเสื้อคลุมทิ้งไว้ข้างเตียงเช่นกัน เราสลับตำแหน่งกัน จากที่เขาอยู่บนเตียง ตอนนี้เขากำลังคุกเข่าอยู่ข้างเตียง ฉันเองกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอน ขยับสะโพกให้ติดขอบเตียง “อา...ทะเล” มือฉันขยุ้มกลุ่มผมสีเทาเงิน สีประจำตัวของเขา ลิ้นของเขาทั้งสากทั้งร้อนและให้ความรู้สึกสุดยอด ปลายลิ้นสะกิดเล่นกับปลายติ่งเนื้อสีแดงสดฉ่ำน้ำรัก “เราเสียว” ฉันร้องครางออกมาอย่างไม่อาจห้ามตัวเอง เอวฉันร่อนไปตามจังหวะลิ้นเขา นิ้วมือแข็งเย็นสอดเสยเข้าในทางรักฉ่ำน้ำหวาน ใบหน้าฉันแหงนเริดหลับตาพริ้มเพราะความเสียว เสียงดูด เสียงเข้าออกของนิ้วมือยิ่งสร้างความเสียวให้ฉันไม่หยุด สะโพกฉันแทบไม่ติดเตียงเมื่อเขาควานหาปุ่มกระสันที่อยู่ภายในกาย “ปล่อยออกมา” “อ๊า...อา” ฉันปลดปล่อยตามที่เขาสั่ง ดีจัง ดีจังเลย ความสุขที่เขามอบให้ช่างดีเหลือ
วันนี้ต้องบอกว่าฉันค่อนข้างเมา วันเกิดเพื่อนแมนทั้งที ไม่เมาก็คงแปลก คนขับรถที่บ้านถึงกับถามว่าคุณดาวไหวไหม ให้เรียกคุณทะเลมารับหรือเปล่า ฉันต้องรีบบอกกับคนขับรถว่าไม่ต้อง ป่านนี้ไม่รู้ว่าพ่อของลูกจะหลับไปหรือยัง ตอนนี้จะห้าทุ่มแล้ว ถามว่าทำไมเลิกเร็วอย่างนั้นเหรอ คนอื่นเขายังไม่เลิก แต่ฉันไม่ไหวแล้ว ถ้ารู้ตัวว่าเริ่มเมาก็ขอตัวกลับ “ที่รักจ๋า...อึก” ฉันสะอึกทันทีเมื่อเห็นคนที่นอนพิงหัวเตียงด้วยลุคสุดกร้าวใจ เสื้อคลุมสีแดงแหวกให้เห็นอกแน่น ๆ ขาข้างหนึ่งตั้งขึ้น ทำให้สาบเสื้อคลุมไหลร่นกองอยู่บนหน้าขาแกร่ง ลมหายใจของฉันติดขัดขึ้นมาทันที ขาขาว ๆ ของเขาตัดกับเสื้อคลุมสีแดง ผิวที่ฉันเคยลูบไล้ทั้งตัวมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง “ทำอะไรอยู่คะ” “อ่านหนังสือ มานี่สิ” เสียงของทะเลเหมือนกำลังสะกดฉันให้ทำตามคำสั่งอย่างไม่คิดอะไร ฉันนั่งลงข้างเตียง มือของฉันข้างหนึ่งวางบนขาแกร่ง อยากจับอย่างอื่นมากกว่าขา แว่นสายตากรอบสีดำที่เขาใส่ยิ่งทำให้กร้าวใจกว่าเดิม ผัวฉันหล่อขนาดนี้ได้อย่างไรกัน หล่อจนน้ำเดินเป็นอย่างนี้สินะ “หนาวเหรอคะ ทำไมขนล
“เออ ๆ กูก็ไม่แน่ใจ ฟังมาแค่นี้ แต่กูรู้ว่าถ้าเมื่อไหร่กูใส่เสื้อคลุมสีแดงแล้วแหวก ๆ โชว์ขาล่ำ ๆ หรือไม่ก็แก้มก้น วันนั้นน่ะมึงเอ๊ย ร้องขอชีวิตกันเลย” คำว่าร้องขอชีวิตของเพื่อนทำให้ทั้งนาวาและเวหาถึงกับกลืนน้ำลาย “จริงเหรอวะ” นาวาผู้อยากร้องขอชีวิตถึงกับต้องถามย้ำ เขาอยากร้องขอชีวิต และคืนนี้ทุกอย่างช่างปลอดโปร่ง เพราะเด็ก ๆ ไปเที่ยวเขาใหญ่กับคุณปู่คุณย่า ถ้าเขาจะร้องขอชีวิตทั้งคืนคงดีไม่น้อย “มึงต้องลองไอ้เล เสื้อคลุมที่กูส่งไปให้พวกมึงเมื่อเดือนก่อนไง” พฤกษาผู้ได้ลองเสื้อคลุมล่อเมีย เมื่อรู้ว่าเด็ดถึงกับซื้อส่งไปถึงบ้านเพื่อนทั้งสอง แต่ดูเหมือนเพื่อนของเขาจะยังไม่เคยลอง “กูไม่ชอบสีแดงไง เลยไม่เคยเอามาใส่สักครั้ง” เวหาพูดขึ้นมา พร้อมทั้งจินตนาการถึงหน้าเมียรัก ถ้าเธอทำให้เขาร้องขอชีวิตบ้างจะเป็นอย่างไรนะ “เออใช่ กูเองก็ไม่ได้ลอง กลัวดาวว่ากูเป็นเกย์ สีมันแดงขนาดนั้น” นาวาเองก็เก็บเสื้อคลุมร้องขอชีวิตไว้ในตู้เช่นกัน เขาไม่กล้าเอาออกมาใช้เช่นเดียวกับเวหา “เขาล่อวัวกระทิงยังใช้ผ้าแดงเลยมึง แล้วทำไมพวกเราล่อเมียจะใช้สีแดงไม่ได้วะ” พฤกษาผู้มีปร
“แม่จ๋า สวยไหมคะ” เพียงฟ้า เด็กหญิงตัวน้อยในวันวาน ตอนนี้ลูกสาวเธอห้าขวบแล้ว น่ารักอ่อนหวานเหมือนผู้เป็นย่า เพราะลูกคนนี้ย่าเป็นคนเลี้ยงมากับมือจริง ๆ คลอดเพียงฟ้าได้เพียงห้าเดือน เธอก็ท้องลออตาทันที จะโทษใครก็คงไม่ได้ นอกจากสามีตัวดีของเธอที่ขยันทำลูกเหลือเกิน พอเธอท้อง ภาระหน้าที่การเลี้ยงเพียงฟ้าจึงกลายเป็นของปู่กับย่าและพี่เลี้ยงเป็นหลัก “สวยแล้วค่ะลูก” “แม่ ๆ ขุนมีแฟนแล้วเหรอคะ” ลออตาลูกสาวคนที่สองที่นิสัยใจคอค่อนข้างเหมือนกับทะเลดาวผสมกับทะเล “แม่ก็ไม่แน่ใจ ไปโรงเรียนแค่สัปดาห์เดียวมีแฟนแล้วมั้ง น้องเราคุยเก่ง” “ใคร ๆ ก็บอกว่าน้องน่ารักค่ะ เวลาไปเดินเล่นมีแต่คนชมขุนเขาว่าหล่อเหมือนพ่อ” “หืม” ทะเลดาวหันหน้ามองลูกสาวคนรอง เดี๋ยวนะ คำว่าหล่อเหมือนพ่อนี่เธอเพิ่งได้ยินลูกสาวพูด “ออตา! พ่อบอกไม่ให้บอกแม่ไง” เสียงของเพียงฟ้าที่รีบห้ามไม่ให้น้องสาวเผยความลับของผู้เป็นพ่อ “เดี๋ยวนี้มีความลับกับแม่ เล่ามาเลยสองสาว พ่อไปก่อวีรกรรมอะไรไว้” ทะเลดาวคาดคั้นกับลูกสาวทั้งสองเพียงไม่นาน เด็กทั้งสองก็คายความลับบอกผู้เป็นแม่
นาวานั่งมองลูกสาวสองคนซึ่งห่างกันแค่หนึ่งปี และลูกชายคนเล็กที่ห่างจากลูกคนกลางสองปี ลูกเขาอยู่ในวัยน่ารัก กำลังช่างพูดและกำลังช่างจดจำ อย่างวันนี้คนเล็กอย่างเด็กชายขุนเขาที่ได้ยินมุกกำลังฮิตในแอปพลิเคชันชื่อดัง “ไอ้เราก็หล่อเสียด้วย ทีนี้ก็ว้าวุ่นใจ มีแต่สาวเข้ามาเพียบ” จู่ ๆ ลูกชายสุดที่รักของทะเลดาวก็พูดประโยคที่กำลังฮิต ซึ่งขุนเขาเองก็ดัดแปลงตามที่ตัวเองชื่นชอบ “ออตาว่าขุนหล่อไหม” ขุนเขาหันไปถามพี่สาวที่กำลังนั่งเล่นกองทรายด้วยกัน อากาศยามเย็นริมชายหาด และได้ก่อกองทรายรอพระอาทิตย์ตกนี่บรรยากาศดีจริง ๆ “หล่อมั้ง” “หล่อก็บอกหล่อ ไม่ต้องเขินนะออตา” คนหล่อพูดกับพี่สาวด้วยท่าทางที่เลียนแบบพ่อของตัวเองมา “ลูกพ่อชัด ๆ” ทะเลดาวมองลูกชาย จากนั้นก็หันไปบอกกับสามี นาวาหัวเราะชอบใจกับคำชมของเมีย “หล่อเหมือนพ่อเหรอ” “เปล่า หลงตัวเองเหมือนพ่อ” ทะเลดาวเบะปาก แต่ยังนอนซบไหล่คนหลงตัวเอง “หลงตัวเองยังไม่เท่าเมียที่หลงผัว” “มั่นใจ ขนาดนั้นเชียว” พ่อของลูกไม่ว่าวันนี้หรือเมื่อหลายปีที่แล้ว ความหล่อ ความน่ารักของเขายังคงเห