ไม่อิ่ม...ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นวันนี้เป็นวันที่ห้าแล้ว หลังจากคุยกับเธอวันนั้น
เป็นเมนส์นี่ ปกติเขาเป็นกันกี่วันวะ ว่าแล้วผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาข้อมูล
สามวันถึงหนึ่งสัปดาห์แล้วแต่คนเหรอวะ แล้วเธอเป็นกี่วันกันแน่ ผมไม่แน่ใจ ตอนที่เราคบกัน ผมจำได้ว่าไม่น่าจะเกินห้าวันนะ ถ้าห้าวันเธอก็น่าจะหายแล้วไหม ทำไมยังไม่โทรมาอีก
“ผู้หญิงเป็นเมนส์กี่วัน”
“เฮ้ย!! ไอ้ห่า มาตอนไหนเนี่ย” ผมตกใจเมื่อไอ้ไม้มันมาอยู่ข้างหลังผม แถมไม่พอ ยังอ่านข้อความที่ผมเซิร์ชอีก
“อะไรของมึง ต้องตกใจขนาดนั้น?”
“มึงไม่มีมารยาท มาอ่านหน้าจอกูได้ไง” ผมอดจะด่ามันไม่ได้เลยจริง ๆ ไอ้เพื่อนไร้มารยาท
“อย่างกับมึงมีครับ ไอ้เพื่อนเล มึงนั่นแหละตัวดี”
“ไอ้ฟ้า มึงมาก็ดี ช่วยด่าไอ้ไม้หน่อย มันแอบมาส่องหน้าจอกู” ไอ้ฟ้าเดินเข้าห้องเรียนมาพอดี ผมเลยรีบฟ้องมันทันที ไอ้ฟ้าคือคนที่ดูเป็นผู้ใหญ่สุดในกลุ่ม คงเพราะมันมีน้องสาวมั้ง ผมเลยมองว่ามันดูโตกว่าพวกผม
“ไอ้ไม้ มึงอย่าทำอีก”
“เออ”
“อะไรวะ ทำไมมันเชื่อฟังมึงง่ายขนาดนี้วะ”
ไอ้ไม้ไม่เถียงไอ้ฟ้าสักคำ ทีกับผม เถียงตั้งแต่ผมยังไม่ทันอ้าปาก
“อ้าว เชื่อฟังก็ว่าอีก มึงนี่แปลกนะ ว่าแต่มึงจะอยากรู้ว่าผู้หญิงเป็นเมนส์กี่วันไปทำไม อย่าบอกว่ามีแฟนหรือแม่งไปทำใครท้องหรือเปล่าวะ” ดูความคิดของไอ้ไม้แต่ละอย่าง ความคิดไม่ได้ดีเหมือนหน้าตาที่มีตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยห้อยท้ายเลยสักนิด
“อย่าเสือก” ผมด่ามันไปหนึ่งกรุบ
“มีพิรุธ ใช่แน่ ทำผู้หญิงท้องแน่ว่ะฟ้า มึงเตรียมยกขันหมากไปขอสาวให้มันเลย”
“กูไม่ใช่พ่องมัน! จะได้ไปขอสาวให้มัน”
เรื่องไร้สาระละเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ผมละอยากจะถีบเพื่อนตัวเองสักที ถ้าไม่ติดว่าอาจารย์กำลังจะเริ่มสอน
“เออ กูว่าจะถาม ตกลงมึงกับน้องเตยหอมนี่ยังไง” คำถามของไอ้ฟ้าทำผมชะงัก ผมกับเตยหอมเหรอ แค่เป็นลุงกับหลานรหัส จะมีอะไรมากกว่านั้น
“จะอะไร ก็รุ่นพี่รุ่นน้องไหมวะ” ผมตอบออกไปตามความจริง ไม่ได้คิดอะไรกับรุ่นน้องมากกว่านั้น
“ดูน้องเขาปลื้ม ๆ มึงนะ” คำพูดของไอ้ฟ้าทำผมคิดหนัก ปกติกฎข้อห้ามของผมคือรุ่นน้องในเซตเดียวกัน
“กูไม่ได้คิดอะไร” ผมย้ำความมั่นใจให้เพื่อนอีกรอบ
“มึงไม่ได้คิด ไม่ได้แปลว่าน้องมันจะไม่คิด ไอ้ภพ บอกว่าน้องเขาคิดกับมึงมากกว่ารุ่นพี่” คำพูดของไอ้ไม้ไม่ได้ทำให้ผมกังวล เพราะปกติก็มีคนมาชอบพวกผมสามคนเยอะอยู่แล้ว ผมยังไม่เข้าใจว่าพวกมันจะกังวลใจอะไรกับเรื่องนี้
“รู้แล้วน่า กูรู้ว่าอะไรเป็นอะไร” ผมบอกเพื่อนให้คลายกังวล สำหรับผม เรื่องพวกนี้ไม่มีอะไรน่ากลัว ทุกอย่างควบคุมได้
“พี่เล วันนี้มีซ้อมเหรอคะ” เสียงของเตยหอมทำให้ผมเงยหน้าจากหนังสือในมือ เธอเดินเข้ามากับเพื่อนสนิท ถ้าผมจำไม่ผิด น่าจะชื่อเบล
ขวามือผมคือไอ้ไม้ที่กำลังหลับฟุบโต๊ะอยู่ ไม่รู้ว่ามันอดนอนมาจากไหน นอกจากนอนในห้องเรียนแล้วมันยังมานอนที่หน้าลานเกียร์อีก
“อืม มีซ้อม อย่าลืมไปเชียร์นะ ไอจีมอประกาศแล้วเหรอ” ผมถามคนที่มานั่งข้าง ๆ ผมอย่างเนียน ๆ รู้แหละว่าเธอชอบผม แต่ผมไม่ได้คิดไปมากกว่ารุ่นน้อง แต่จะให้แสดงความรังเกียจเธอก็ใช่ที่ ถ้ายังอยู่ในขอบเขตที่ไม่มากเกินไป ผมก็พอรับได้
“ภพอธิบายตรงนี้ให้หน่อยได้ไหม เราอ่านแล้วไม่เข้าใจ” น้องเบลที่นั่งตรงข้ามผมกระซิบถามกับไอ้ภพซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับพวกเธอสองคน
ที่พวกผมสนิทกับไอ้ภพเพราะมันเป็นหลานรหัสของไอ้ไม้ แต่กลับเรียนเก่งกว่าลุงรหัส นัดเจอกับมันวันนี้เพราะมันจะช่วยไอ้ไม้ทำรายงานนั่นแหละ
ผมดูแล้ว น้องคนที่ชื่อเบลนี่คงชอบหลานรหัสไอ้ไม้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ดูแล้วไอ้เด็กหน้าหล่อนี่จะไม่ได้สนใจเพื่อนร่วมสาขาสักเท่าไร
“เดี๋ยวเราส่งชอร์ตโน้ตให้ ตอนนี้ขอทำรายงานก่อน” น้ำเสียงเย็นชาถูกส่งออกไป ทำให้น้องเบลถึงกับหน้าเสีย ผมใส่หูฟังและอ่านหนังสือต่อเพราะไม่อยากคุยกับสองสาวนี้เพิ่มแล้ว
ไม่นานสองสาวก็ขอตัวออกไป ผมจึงมองหน้าหลานรหัสของไอ้ไม้อย่างมีคำถาม
“เบลชอบมึง?” ผมพูดออกไปเพราะอยากได้คำอธิบายเพิ่ม ว่าเขาชอบมึง มึงไม่ชอบเขาเหรอ อะไรทำนองนี้ แต่ดูเหมือนไอ้เด็กปีหนึ่งคนนี้มันกวนตีนใช้ได้
“สุด ๆ ซื้อมาไว้สักสิบตัวดีไหม ไว้ใส่คู่กัน” เธอเอ่ยแซว ใบหน้ายังซุกหน้าอกผม และมือบางก็เล่นกับเจ้าหนอนนุ่มนิ่มของผมไม่หยุด “เช้า ๆ ทำไมจูจู้แข็งรู้เปล่า” ถ้าเธอไม่บีบ ‘จูจู้’ ผมคงไม่รู้ว่าคำนั้นหมายถึงอะไร “ไม่รู้สิ” ผมเองที่เป็นผู้ชายมาตั้งแต่เกิด ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเจ้าน้องชายถึงได้แข็งในตอนเช้า “เพราะร่างกายไม่อยากให้ทะเลลุกไปฉี่ ต้องการให้หลับพักผ่อนเลยต้องแข็งเพื่อให้อั้นฉี่ได้” คำอธิบายของเธอทำให้ผมขมวดคิ้ว “ทำไมรู้ อย่าบอกนะว่าแอบไปกิ๊กกับหมอ” “โอ๊ย คิดได้นะพ่อคุณ จะเอาเวลาไหนกิ๊กกับใคร ทุกวันนี้อยู่ด้วยกันแทบจะสี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว นั่นสินะ เราสองคนแทบอยู่ด้วยกันยี่สิบสี่ชั่วโมง ผมก็ยึดคติไอ้ไม้แหละ เงินที่มีก็จ้างคนทำงาน ส่วนเวลาของเราเอาไปเลี้ยงลูกกับดูแลเมีย หาอะไรที่ทำแล้วมีความสุข ซึ่งความสุขของผมคือได้เฝ้าทะเลดาว “แล้วทำไมรู้” “ไถติ๊กต็อกไง เดี๋ยวนี้อยากรู้อะไรมีหมดความรู้ต่าง ๆ”ผมลูบผมเธออีกครั้ง พร้อมทั้งจุ๊บเหม่งของคนในอ้อมกอด “เก่ง แต่จะบอกว่าเราไม่ฉี่แล้ว ที่น้องจูจู้แข็งไม่ใช่เพร
“ดาว จะแตกแล้ว” เสียงทุ้มนุ่มพูดขึ้นพร้อมทั้งคำรามไม่หยุด ก่อนที่เขาจะปลดปล่อย อืม...ดีจัง ฉันชอบเวลาเขาไม่อาจต้านทานฉันได้ อืม...ตอนนี้ฉันยังไม่อิ่ม ฉันลุกขึ้นยืน สลัดจีสตริงตัวเล็กบางทิ้งข้างเตียง ทะเลขยับลงจากเตียง ถอดเสื้อคลุมทิ้งไว้ข้างเตียงเช่นกัน เราสลับตำแหน่งกัน จากที่เขาอยู่บนเตียง ตอนนี้เขากำลังคุกเข่าอยู่ข้างเตียง ฉันเองกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอน ขยับสะโพกให้ติดขอบเตียง “อา...ทะเล” มือฉันขยุ้มกลุ่มผมสีเทาเงิน สีประจำตัวของเขา ลิ้นของเขาทั้งสากทั้งร้อนและให้ความรู้สึกสุดยอด ปลายลิ้นสะกิดเล่นกับปลายติ่งเนื้อสีแดงสดฉ่ำน้ำรัก “เราเสียว” ฉันร้องครางออกมาอย่างไม่อาจห้ามตัวเอง เอวฉันร่อนไปตามจังหวะลิ้นเขา นิ้วมือแข็งเย็นสอดเสยเข้าในทางรักฉ่ำน้ำหวาน ใบหน้าฉันแหงนเริดหลับตาพริ้มเพราะความเสียว เสียงดูด เสียงเข้าออกของนิ้วมือยิ่งสร้างความเสียวให้ฉันไม่หยุด สะโพกฉันแทบไม่ติดเตียงเมื่อเขาควานหาปุ่มกระสันที่อยู่ภายในกาย “ปล่อยออกมา” “อ๊า...อา” ฉันปลดปล่อยตามที่เขาสั่ง ดีจัง ดีจังเลย ความสุขที่เขามอบให้ช่างดีเหลือ
วันนี้ต้องบอกว่าฉันค่อนข้างเมา วันเกิดเพื่อนแมนทั้งที ไม่เมาก็คงแปลก คนขับรถที่บ้านถึงกับถามว่าคุณดาวไหวไหม ให้เรียกคุณทะเลมารับหรือเปล่า ฉันต้องรีบบอกกับคนขับรถว่าไม่ต้อง ป่านนี้ไม่รู้ว่าพ่อของลูกจะหลับไปหรือยัง ตอนนี้จะห้าทุ่มแล้ว ถามว่าทำไมเลิกเร็วอย่างนั้นเหรอ คนอื่นเขายังไม่เลิก แต่ฉันไม่ไหวแล้ว ถ้ารู้ตัวว่าเริ่มเมาก็ขอตัวกลับ “ที่รักจ๋า...อึก” ฉันสะอึกทันทีเมื่อเห็นคนที่นอนพิงหัวเตียงด้วยลุคสุดกร้าวใจ เสื้อคลุมสีแดงแหวกให้เห็นอกแน่น ๆ ขาข้างหนึ่งตั้งขึ้น ทำให้สาบเสื้อคลุมไหลร่นกองอยู่บนหน้าขาแกร่ง ลมหายใจของฉันติดขัดขึ้นมาทันที ขาขาว ๆ ของเขาตัดกับเสื้อคลุมสีแดง ผิวที่ฉันเคยลูบไล้ทั้งตัวมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง “ทำอะไรอยู่คะ” “อ่านหนังสือ มานี่สิ” เสียงของทะเลเหมือนกำลังสะกดฉันให้ทำตามคำสั่งอย่างไม่คิดอะไร ฉันนั่งลงข้างเตียง มือของฉันข้างหนึ่งวางบนขาแกร่ง อยากจับอย่างอื่นมากกว่าขา แว่นสายตากรอบสีดำที่เขาใส่ยิ่งทำให้กร้าวใจกว่าเดิม ผัวฉันหล่อขนาดนี้ได้อย่างไรกัน หล่อจนน้ำเดินเป็นอย่างนี้สินะ “หนาวเหรอคะ ทำไมขนล
“เออ ๆ กูก็ไม่แน่ใจ ฟังมาแค่นี้ แต่กูรู้ว่าถ้าเมื่อไหร่กูใส่เสื้อคลุมสีแดงแล้วแหวก ๆ โชว์ขาล่ำ ๆ หรือไม่ก็แก้มก้น วันนั้นน่ะมึงเอ๊ย ร้องขอชีวิตกันเลย” คำว่าร้องขอชีวิตของเพื่อนทำให้ทั้งนาวาและเวหาถึงกับกลืนน้ำลาย “จริงเหรอวะ” นาวาผู้อยากร้องขอชีวิตถึงกับต้องถามย้ำ เขาอยากร้องขอชีวิต และคืนนี้ทุกอย่างช่างปลอดโปร่ง เพราะเด็ก ๆ ไปเที่ยวเขาใหญ่กับคุณปู่คุณย่า ถ้าเขาจะร้องขอชีวิตทั้งคืนคงดีไม่น้อย “มึงต้องลองไอ้เล เสื้อคลุมที่กูส่งไปให้พวกมึงเมื่อเดือนก่อนไง” พฤกษาผู้ได้ลองเสื้อคลุมล่อเมีย เมื่อรู้ว่าเด็ดถึงกับซื้อส่งไปถึงบ้านเพื่อนทั้งสอง แต่ดูเหมือนเพื่อนของเขาจะยังไม่เคยลอง “กูไม่ชอบสีแดงไง เลยไม่เคยเอามาใส่สักครั้ง” เวหาพูดขึ้นมา พร้อมทั้งจินตนาการถึงหน้าเมียรัก ถ้าเธอทำให้เขาร้องขอชีวิตบ้างจะเป็นอย่างไรนะ “เออใช่ กูเองก็ไม่ได้ลอง กลัวดาวว่ากูเป็นเกย์ สีมันแดงขนาดนั้น” นาวาเองก็เก็บเสื้อคลุมร้องขอชีวิตไว้ในตู้เช่นกัน เขาไม่กล้าเอาออกมาใช้เช่นเดียวกับเวหา “เขาล่อวัวกระทิงยังใช้ผ้าแดงเลยมึง แล้วทำไมพวกเราล่อเมียจะใช้สีแดงไม่ได้วะ” พฤกษาผู้มีปร
“แม่จ๋า สวยไหมคะ” เพียงฟ้า เด็กหญิงตัวน้อยในวันวาน ตอนนี้ลูกสาวเธอห้าขวบแล้ว น่ารักอ่อนหวานเหมือนผู้เป็นย่า เพราะลูกคนนี้ย่าเป็นคนเลี้ยงมากับมือจริง ๆ คลอดเพียงฟ้าได้เพียงห้าเดือน เธอก็ท้องลออตาทันที จะโทษใครก็คงไม่ได้ นอกจากสามีตัวดีของเธอที่ขยันทำลูกเหลือเกิน พอเธอท้อง ภาระหน้าที่การเลี้ยงเพียงฟ้าจึงกลายเป็นของปู่กับย่าและพี่เลี้ยงเป็นหลัก “สวยแล้วค่ะลูก” “แม่ ๆ ขุนมีแฟนแล้วเหรอคะ” ลออตาลูกสาวคนที่สองที่นิสัยใจคอค่อนข้างเหมือนกับทะเลดาวผสมกับทะเล “แม่ก็ไม่แน่ใจ ไปโรงเรียนแค่สัปดาห์เดียวมีแฟนแล้วมั้ง น้องเราคุยเก่ง” “ใคร ๆ ก็บอกว่าน้องน่ารักค่ะ เวลาไปเดินเล่นมีแต่คนชมขุนเขาว่าหล่อเหมือนพ่อ” “หืม” ทะเลดาวหันหน้ามองลูกสาวคนรอง เดี๋ยวนะ คำว่าหล่อเหมือนพ่อนี่เธอเพิ่งได้ยินลูกสาวพูด “ออตา! พ่อบอกไม่ให้บอกแม่ไง” เสียงของเพียงฟ้าที่รีบห้ามไม่ให้น้องสาวเผยความลับของผู้เป็นพ่อ “เดี๋ยวนี้มีความลับกับแม่ เล่ามาเลยสองสาว พ่อไปก่อวีรกรรมอะไรไว้” ทะเลดาวคาดคั้นกับลูกสาวทั้งสองเพียงไม่นาน เด็กทั้งสองก็คายความลับบอกผู้เป็นแม่
นาวานั่งมองลูกสาวสองคนซึ่งห่างกันแค่หนึ่งปี และลูกชายคนเล็กที่ห่างจากลูกคนกลางสองปี ลูกเขาอยู่ในวัยน่ารัก กำลังช่างพูดและกำลังช่างจดจำ อย่างวันนี้คนเล็กอย่างเด็กชายขุนเขาที่ได้ยินมุกกำลังฮิตในแอปพลิเคชันชื่อดัง “ไอ้เราก็หล่อเสียด้วย ทีนี้ก็ว้าวุ่นใจ มีแต่สาวเข้ามาเพียบ” จู่ ๆ ลูกชายสุดที่รักของทะเลดาวก็พูดประโยคที่กำลังฮิต ซึ่งขุนเขาเองก็ดัดแปลงตามที่ตัวเองชื่นชอบ “ออตาว่าขุนหล่อไหม” ขุนเขาหันไปถามพี่สาวที่กำลังนั่งเล่นกองทรายด้วยกัน อากาศยามเย็นริมชายหาด และได้ก่อกองทรายรอพระอาทิตย์ตกนี่บรรยากาศดีจริง ๆ “หล่อมั้ง” “หล่อก็บอกหล่อ ไม่ต้องเขินนะออตา” คนหล่อพูดกับพี่สาวด้วยท่าทางที่เลียนแบบพ่อของตัวเองมา “ลูกพ่อชัด ๆ” ทะเลดาวมองลูกชาย จากนั้นก็หันไปบอกกับสามี นาวาหัวเราะชอบใจกับคำชมของเมีย “หล่อเหมือนพ่อเหรอ” “เปล่า หลงตัวเองเหมือนพ่อ” ทะเลดาวเบะปาก แต่ยังนอนซบไหล่คนหลงตัวเอง “หลงตัวเองยังไม่เท่าเมียที่หลงผัว” “มั่นใจ ขนาดนั้นเชียว” พ่อของลูกไม่ว่าวันนี้หรือเมื่อหลายปีที่แล้ว ความหล่อ ความน่ารักของเขายังคงเห