“เตยหอมชอบพี่?” มันถามคำถามกลับมาเหมือนอย่างที่ผมถามมัน
“อืม แต่กูไม่ได้คิดอะไร” ผมตอบออกไปตามความจริง เพราะรู้ว่าไอ้ภพนี่แหละคอยเตือนผมเรื่องของเตยหอม
“ไม่คิดก็อย่าให้ความหวัง” มันบอกด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ตกลงผมเป็นรุ่นพี่หรือมันเป็นรุ่นพี่
“ว่าแต่มึงไม่ชอบเหรอ”
“ชอบได้ไง ผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว” ผมตาโตกับคำตอบของมัน คนอย่างรณภพมีคนที่ชอบแล้ว แต่ยังไม่ยอมเปิดเผย ไม่ธรรมดาแน่นอน
“ใครวะ” ความอยากรู้ทำให้ผมถามออกไปอย่างเสียมารยาท แต่คงไม่เป็นไรหรอก เพราะมารยาทของพวกผมมันไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว
“ไม่เสือกดิพี่ ทำงานไป” เห็นไหม บอกแล้วว่ามันไม่ค่อยเห็นพวกผมเป็นรุ่นพี่หรอก โดยเฉพาะลุงรหัสของมัน ซึ่งตอนนี้ฝากความหวังในการเรียนจบไว้ที่หลานรหัส
“เออ แม่งถามนิดเดียว” ผมสบถอย่างไม่ค่อยใส่ใจ ก่อนจะหันไปสะกิดไอ้คนที่หลับอย่างเอาเป็นเอาตายข้าง ๆ นี่มันจะหลับจนห้องสมุดปิดหรือไง
“ไอ้ไม้ ตื่น! เดี๋ยวต้องไปซ้อมแล้ว ไปอดหลับอดนอนมาจากไหนวะ” บ่นไปด้วยมองหาไอ้ฟ้าไปด้วย เห็นบอกจะไปหาอาจารย์ หายไปตั้งแต่เที่ยง ไม่เข้าใจว่าหาอาจารย์อะไรของมันถึงได้หายไปขนาดนั้น
“เดี๋ยวมันก็มา มึงจะโวยวายทำไมไอ้เล เมนส์ไม่มา หรือน้ำไม่ได้ออก” ดูมัน ไอ้เดือนมหาวิทยาลัย ไอ้หล่อ ไอ้พ่อรวย ผมควรจะหาคำไหนมาด่ามันดี แต่ไม่ดีกว่า เรื่องอะไรผมจะต้องไปด่ามันให้เสียปาก
“มึงเตรียมชุดมาใช่ไหม เย็นนี้มีซ้อม”
“เออ เตรียมมา รู้น่า มึงพูดมากจังวะไอ้เล เพราะงี้ไงสาวถึงได้ทิ้ง” คำพูดนี้มันเจ็บจี๊ด แค่โดนผู้หญิงทิ้งครั้งเดียว มันต้องเอาเรื่องนี้มาล้อด้วยเหรอวะ
“อย่างพี่ทะเลเคยโดนทิ้งด้วยเหรอครับ”
“ไอ้ภพ เรื่องอื่นมึงดูไม่สนใจ แต่ทำไมเรื่องกูนี่สนใจดีจัง”
“ผมแค่แปลกใจ คนอย่างพี่ทะเลไม่น่าจะเคยมีแฟน ดูไม่เหมาะกับการมีแฟนเลย” คำพูดของไอ้ภพทำเอาผมสะอึก
“เมื่อก่อนมันเป็นคนดี เด็กเนิร์ด แต่พอโดนสาวหักอกเท่านั้นแหละ ลุกขึ้นมาสลัดขนแกะออก กลายร่างอย่างที่มึงเห็นนี่แหละ” ดูมันพูดเสียผมเห็นภาพชัดเจนเลย
“มึงก็เว่อร์ ตอนปีหนึ่งก็ยังใส ๆ อยู่ไหมวะ จะแปลกอะไรที่ตอนนั้นยังไม่ค่อยรู้ว่าตัวเองหล่อ ไอ้ภพ มึงจำไว้ อย่าเพิ่งมีแฟนตอนปีหนึ่ง เลือกให้พอใจก่อนแล้วค่อยมี”
“ไม่ทันแล้วมั้งพี่” ไอ้ภพหัวเราะยิ้ม ๆ พร้อมทั้งมือที่เกาท้ายทอยอย่างเขิน ๆ
“ไอ้ห่า แม่งไวไฟ”
“แล้วจะช้าไปทำไมครับ เสียเวลาความสุข” โห ไอ้เด็กปีหนึ่งฟันยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม อยากจะกินนมหญิงแล้ว
“เออ ๆ ลุก ๆ แรดทั้งสาย ทั้งลุงทั้งหลานเหมาะกันดีพวกมึง” ผมโวยวายพวกมันให้ลุก
“สงสัยมันของขาดว่ะ อารมณ์เสียชิบ” เสียงไอ้ไม้ แม่งมันคงเคยของขาด รู้ดีเชียว
โทรมาก็ไม่โทร ไลน์มาก็ไม่ไลน์ เป็นเมนส์หรือผ่าตัดวะ สิบวันแม่งยังไม่หาย บอกให้โทรมายังไม่โทรมาอีก ไม่ใช่ไปหาคนอื่นหรือกลับไปคืนดีกันแล้วนะ
โวะ...ยิ่งคิดยิ่งโมโห
“สงสัยมันของขาดจริงว่ะ หน้างี้แดงเชียว” ยังอีก ยังอีกไอ้ไม้ ยังไม่หยุดอีก อย่าให้ถึงทีกูนะ อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่ามึงแอบชอบสาวอยู่
“พูดมาก!” ผมด่ามันไปแค่นั้น ไม่อยากจะด่ามากกว่านี้ เดี๋ยวมันรู้ว่าของขาดจริง
“ไม่เถียง? แสดงว่าของขาดจริง ๆ แหละ สงสัยรอบนี้จะเป็นของโปรดนะเนี่ย ถึงได้ดูงุ่นง่านขนาดนี้” หน้าไอ้ไม้เวลากวนตีนนี่มันน่าโดนตีนจริง ๆ แจกตีนเพื่อนในห้องสมุดจะโดนไล่ออกไหมวะ
“ไปเถอะพี่ไม้ อย่าไปแกล้งพี่เลสิ เขายิ่งของขาดอยู่ อย่าทำบาปคนอยากนักเลย บาปกรรม”
พอกันทั้งลุงทั้งหลาน หน้าหล่อ ๆ ของพวกมันนี่ควรจะโดนซ่อมสักห้ารอบ เสียดายที่ผ่านการรับน้องมาแล้ว ไม่อย่างนั้นมึงโดนซ่อมแน่ ไอ้ภพ
เสียงตบมือแสดงความดีใจที่วันนี้ทีมมหาวิทยาลัยกลับมาซ้อม เพราะอีกสามเดือนข้างหน้าจะมีการแข่งขันกีฬาระดับอุดมศึกษาของกรุงเทพมหานคร
ต้องบอกว่าการแข่งครั้งนี้พวกผมหวังไว้มาก เพราะปีนี้เป็นปีแรกที่ผมเข้ามาเป็นกัปตันทีม
ผมกวาดตามองโดยรอบ เธอมาดูผม นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาดูผมซ้อม ไหนบอกว่าหายแล้วจะไลน์มา นี่ตั้งกี่วันแล้ว อย่างว่าแหละ สถานะเพื่อนนอนหรือเซ็กซ์บัดดี มันก็ต้องอยากทั้งสองฝ่ายแล้วถึงนัดกัน
จะให้ผมเป็นคนนัดทุกครั้ง มันก็กระดากปาก อีกอย่างกลัวเธอปฏิเสธ ถ้าเจอแห้วสองรอบนี่ไม่ไหวนะ ทะเลนะครับ ทะเลไม่ใช่ไก่กา ใช่ว่าใครอยากนอนกับผมแล้วจะได้นอนนะครับ เห็นอย่างนี้ผมก็เลือกมากใช่ย่อย
“เป็นไร สีหน้ามึงไม่ดี” ผมหันไปถามไอ้ไม้ที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับ
“ไม่มีอะไร” ปากบอกไม่มีอะไร แต่หน้าไอ้เพื่อนผมมันเหมือนมีอะไร แล้วใครจะสนใจกัน ผมไล่ให้พวกมันไปวอร์มก่อนที่จะแข่งจริง รู้สึกวันนี้มีแรงอยากเล่นให้ดีกว่าทุกวัน
คงเพราะคนมาดูเยอะนั่นแหละ ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลยสักนิด
“สุด ๆ ซื้อมาไว้สักสิบตัวดีไหม ไว้ใส่คู่กัน” เธอเอ่ยแซว ใบหน้ายังซุกหน้าอกผม และมือบางก็เล่นกับเจ้าหนอนนุ่มนิ่มของผมไม่หยุด “เช้า ๆ ทำไมจูจู้แข็งรู้เปล่า” ถ้าเธอไม่บีบ ‘จูจู้’ ผมคงไม่รู้ว่าคำนั้นหมายถึงอะไร “ไม่รู้สิ” ผมเองที่เป็นผู้ชายมาตั้งแต่เกิด ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเจ้าน้องชายถึงได้แข็งในตอนเช้า “เพราะร่างกายไม่อยากให้ทะเลลุกไปฉี่ ต้องการให้หลับพักผ่อนเลยต้องแข็งเพื่อให้อั้นฉี่ได้” คำอธิบายของเธอทำให้ผมขมวดคิ้ว “ทำไมรู้ อย่าบอกนะว่าแอบไปกิ๊กกับหมอ” “โอ๊ย คิดได้นะพ่อคุณ จะเอาเวลาไหนกิ๊กกับใคร ทุกวันนี้อยู่ด้วยกันแทบจะสี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว นั่นสินะ เราสองคนแทบอยู่ด้วยกันยี่สิบสี่ชั่วโมง ผมก็ยึดคติไอ้ไม้แหละ เงินที่มีก็จ้างคนทำงาน ส่วนเวลาของเราเอาไปเลี้ยงลูกกับดูแลเมีย หาอะไรที่ทำแล้วมีความสุข ซึ่งความสุขของผมคือได้เฝ้าทะเลดาว “แล้วทำไมรู้” “ไถติ๊กต็อกไง เดี๋ยวนี้อยากรู้อะไรมีหมดความรู้ต่าง ๆ”ผมลูบผมเธออีกครั้ง พร้อมทั้งจุ๊บเหม่งของคนในอ้อมกอด “เก่ง แต่จะบอกว่าเราไม่ฉี่แล้ว ที่น้องจูจู้แข็งไม่ใช่เพร
“ดาว จะแตกแล้ว” เสียงทุ้มนุ่มพูดขึ้นพร้อมทั้งคำรามไม่หยุด ก่อนที่เขาจะปลดปล่อย อืม...ดีจัง ฉันชอบเวลาเขาไม่อาจต้านทานฉันได้ อืม...ตอนนี้ฉันยังไม่อิ่ม ฉันลุกขึ้นยืน สลัดจีสตริงตัวเล็กบางทิ้งข้างเตียง ทะเลขยับลงจากเตียง ถอดเสื้อคลุมทิ้งไว้ข้างเตียงเช่นกัน เราสลับตำแหน่งกัน จากที่เขาอยู่บนเตียง ตอนนี้เขากำลังคุกเข่าอยู่ข้างเตียง ฉันเองกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอน ขยับสะโพกให้ติดขอบเตียง “อา...ทะเล” มือฉันขยุ้มกลุ่มผมสีเทาเงิน สีประจำตัวของเขา ลิ้นของเขาทั้งสากทั้งร้อนและให้ความรู้สึกสุดยอด ปลายลิ้นสะกิดเล่นกับปลายติ่งเนื้อสีแดงสดฉ่ำน้ำรัก “เราเสียว” ฉันร้องครางออกมาอย่างไม่อาจห้ามตัวเอง เอวฉันร่อนไปตามจังหวะลิ้นเขา นิ้วมือแข็งเย็นสอดเสยเข้าในทางรักฉ่ำน้ำหวาน ใบหน้าฉันแหงนเริดหลับตาพริ้มเพราะความเสียว เสียงดูด เสียงเข้าออกของนิ้วมือยิ่งสร้างความเสียวให้ฉันไม่หยุด สะโพกฉันแทบไม่ติดเตียงเมื่อเขาควานหาปุ่มกระสันที่อยู่ภายในกาย “ปล่อยออกมา” “อ๊า...อา” ฉันปลดปล่อยตามที่เขาสั่ง ดีจัง ดีจังเลย ความสุขที่เขามอบให้ช่างดีเหลือ
วันนี้ต้องบอกว่าฉันค่อนข้างเมา วันเกิดเพื่อนแมนทั้งที ไม่เมาก็คงแปลก คนขับรถที่บ้านถึงกับถามว่าคุณดาวไหวไหม ให้เรียกคุณทะเลมารับหรือเปล่า ฉันต้องรีบบอกกับคนขับรถว่าไม่ต้อง ป่านนี้ไม่รู้ว่าพ่อของลูกจะหลับไปหรือยัง ตอนนี้จะห้าทุ่มแล้ว ถามว่าทำไมเลิกเร็วอย่างนั้นเหรอ คนอื่นเขายังไม่เลิก แต่ฉันไม่ไหวแล้ว ถ้ารู้ตัวว่าเริ่มเมาก็ขอตัวกลับ “ที่รักจ๋า...อึก” ฉันสะอึกทันทีเมื่อเห็นคนที่นอนพิงหัวเตียงด้วยลุคสุดกร้าวใจ เสื้อคลุมสีแดงแหวกให้เห็นอกแน่น ๆ ขาข้างหนึ่งตั้งขึ้น ทำให้สาบเสื้อคลุมไหลร่นกองอยู่บนหน้าขาแกร่ง ลมหายใจของฉันติดขัดขึ้นมาทันที ขาขาว ๆ ของเขาตัดกับเสื้อคลุมสีแดง ผิวที่ฉันเคยลูบไล้ทั้งตัวมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง “ทำอะไรอยู่คะ” “อ่านหนังสือ มานี่สิ” เสียงของทะเลเหมือนกำลังสะกดฉันให้ทำตามคำสั่งอย่างไม่คิดอะไร ฉันนั่งลงข้างเตียง มือของฉันข้างหนึ่งวางบนขาแกร่ง อยากจับอย่างอื่นมากกว่าขา แว่นสายตากรอบสีดำที่เขาใส่ยิ่งทำให้กร้าวใจกว่าเดิม ผัวฉันหล่อขนาดนี้ได้อย่างไรกัน หล่อจนน้ำเดินเป็นอย่างนี้สินะ “หนาวเหรอคะ ทำไมขนล
“เออ ๆ กูก็ไม่แน่ใจ ฟังมาแค่นี้ แต่กูรู้ว่าถ้าเมื่อไหร่กูใส่เสื้อคลุมสีแดงแล้วแหวก ๆ โชว์ขาล่ำ ๆ หรือไม่ก็แก้มก้น วันนั้นน่ะมึงเอ๊ย ร้องขอชีวิตกันเลย” คำว่าร้องขอชีวิตของเพื่อนทำให้ทั้งนาวาและเวหาถึงกับกลืนน้ำลาย “จริงเหรอวะ” นาวาผู้อยากร้องขอชีวิตถึงกับต้องถามย้ำ เขาอยากร้องขอชีวิต และคืนนี้ทุกอย่างช่างปลอดโปร่ง เพราะเด็ก ๆ ไปเที่ยวเขาใหญ่กับคุณปู่คุณย่า ถ้าเขาจะร้องขอชีวิตทั้งคืนคงดีไม่น้อย “มึงต้องลองไอ้เล เสื้อคลุมที่กูส่งไปให้พวกมึงเมื่อเดือนก่อนไง” พฤกษาผู้ได้ลองเสื้อคลุมล่อเมีย เมื่อรู้ว่าเด็ดถึงกับซื้อส่งไปถึงบ้านเพื่อนทั้งสอง แต่ดูเหมือนเพื่อนของเขาจะยังไม่เคยลอง “กูไม่ชอบสีแดงไง เลยไม่เคยเอามาใส่สักครั้ง” เวหาพูดขึ้นมา พร้อมทั้งจินตนาการถึงหน้าเมียรัก ถ้าเธอทำให้เขาร้องขอชีวิตบ้างจะเป็นอย่างไรนะ “เออใช่ กูเองก็ไม่ได้ลอง กลัวดาวว่ากูเป็นเกย์ สีมันแดงขนาดนั้น” นาวาเองก็เก็บเสื้อคลุมร้องขอชีวิตไว้ในตู้เช่นกัน เขาไม่กล้าเอาออกมาใช้เช่นเดียวกับเวหา “เขาล่อวัวกระทิงยังใช้ผ้าแดงเลยมึง แล้วทำไมพวกเราล่อเมียจะใช้สีแดงไม่ได้วะ” พฤกษาผู้มีปร
“แม่จ๋า สวยไหมคะ” เพียงฟ้า เด็กหญิงตัวน้อยในวันวาน ตอนนี้ลูกสาวเธอห้าขวบแล้ว น่ารักอ่อนหวานเหมือนผู้เป็นย่า เพราะลูกคนนี้ย่าเป็นคนเลี้ยงมากับมือจริง ๆ คลอดเพียงฟ้าได้เพียงห้าเดือน เธอก็ท้องลออตาทันที จะโทษใครก็คงไม่ได้ นอกจากสามีตัวดีของเธอที่ขยันทำลูกเหลือเกิน พอเธอท้อง ภาระหน้าที่การเลี้ยงเพียงฟ้าจึงกลายเป็นของปู่กับย่าและพี่เลี้ยงเป็นหลัก “สวยแล้วค่ะลูก” “แม่ ๆ ขุนมีแฟนแล้วเหรอคะ” ลออตาลูกสาวคนที่สองที่นิสัยใจคอค่อนข้างเหมือนกับทะเลดาวผสมกับทะเล “แม่ก็ไม่แน่ใจ ไปโรงเรียนแค่สัปดาห์เดียวมีแฟนแล้วมั้ง น้องเราคุยเก่ง” “ใคร ๆ ก็บอกว่าน้องน่ารักค่ะ เวลาไปเดินเล่นมีแต่คนชมขุนเขาว่าหล่อเหมือนพ่อ” “หืม” ทะเลดาวหันหน้ามองลูกสาวคนรอง เดี๋ยวนะ คำว่าหล่อเหมือนพ่อนี่เธอเพิ่งได้ยินลูกสาวพูด “ออตา! พ่อบอกไม่ให้บอกแม่ไง” เสียงของเพียงฟ้าที่รีบห้ามไม่ให้น้องสาวเผยความลับของผู้เป็นพ่อ “เดี๋ยวนี้มีความลับกับแม่ เล่ามาเลยสองสาว พ่อไปก่อวีรกรรมอะไรไว้” ทะเลดาวคาดคั้นกับลูกสาวทั้งสองเพียงไม่นาน เด็กทั้งสองก็คายความลับบอกผู้เป็นแม่
นาวานั่งมองลูกสาวสองคนซึ่งห่างกันแค่หนึ่งปี และลูกชายคนเล็กที่ห่างจากลูกคนกลางสองปี ลูกเขาอยู่ในวัยน่ารัก กำลังช่างพูดและกำลังช่างจดจำ อย่างวันนี้คนเล็กอย่างเด็กชายขุนเขาที่ได้ยินมุกกำลังฮิตในแอปพลิเคชันชื่อดัง “ไอ้เราก็หล่อเสียด้วย ทีนี้ก็ว้าวุ่นใจ มีแต่สาวเข้ามาเพียบ” จู่ ๆ ลูกชายสุดที่รักของทะเลดาวก็พูดประโยคที่กำลังฮิต ซึ่งขุนเขาเองก็ดัดแปลงตามที่ตัวเองชื่นชอบ “ออตาว่าขุนหล่อไหม” ขุนเขาหันไปถามพี่สาวที่กำลังนั่งเล่นกองทรายด้วยกัน อากาศยามเย็นริมชายหาด และได้ก่อกองทรายรอพระอาทิตย์ตกนี่บรรยากาศดีจริง ๆ “หล่อมั้ง” “หล่อก็บอกหล่อ ไม่ต้องเขินนะออตา” คนหล่อพูดกับพี่สาวด้วยท่าทางที่เลียนแบบพ่อของตัวเองมา “ลูกพ่อชัด ๆ” ทะเลดาวมองลูกชาย จากนั้นก็หันไปบอกกับสามี นาวาหัวเราะชอบใจกับคำชมของเมีย “หล่อเหมือนพ่อเหรอ” “เปล่า หลงตัวเองเหมือนพ่อ” ทะเลดาวเบะปาก แต่ยังนอนซบไหล่คนหลงตัวเอง “หลงตัวเองยังไม่เท่าเมียที่หลงผัว” “มั่นใจ ขนาดนั้นเชียว” พ่อของลูกไม่ว่าวันนี้หรือเมื่อหลายปีที่แล้ว ความหล่อ ความน่ารักของเขายังคงเห