2 ทุ่ม@ทางขึ้นลิฟต์คอนโด
“รอด้วยค่ะ...รอด้วย” เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกฉันต้องชะงักเท้าทันที เพราะผู้ชายที่แอบชอบมาตั้งแต่ปีหนึ่งจนตอนนี้ขึ้นปีสามแล้วก็ยังชอบเขาอยู่ยืนขวางประตูจ้องหน้าฉัน ฉันไม่เคยเจอเขาในระยะใกล้เท่านี้มานานแล้ว ใจเต้นแรงจนแอบกังวลกับตัวเอง ว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจนี้ไหม
“จะไปไหม” เสียงทุ้มทำให้ฉันสะดุ้งรีบเดินเข้าลิฟต์ไปทันที กำลังจะแตะการ์ดแต่เห็นว่าหมายเลขชั้นถูกกดไว้แล้ว
“ชั้นเดียวกัน” เขาเอ่ยถาม
“อืม” ไร้เสียงของเราสองคน ฉันยืนมุมสุดของลิฟต์ ไม่กล้ามองหน้าเขา แล้วหยิบมือถือขึ้นมากดเข้าไลน์กลุ่มอ่านข้อความที่เพื่อนส่งมา
เพิ่งรู้ว่าเขาพักที่นี่ทั้งที่อยู่มาแล้วหนึ่งสัปดาห์ บังเอิญหรือจะเป็นพรหมลิขิตของฉันกับเขา..คิดแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ไม่รู้ว่าพวกนี้ส่งอะไรมาแต่ใจฉันมันฟูมาก
“เอ๊ย ..” ฉันร้องเสียงหลงพร้อมสะบัดข้อมือจากมือเขา ด้วยความตกใจเพราะอยู่ ๆ เขาก็มาดึงแขนฉัน
“จะร้องทำไม จะไม่ออกมาหรือไง ลิฟต์จะปิดแล้ว” คงเพราะฉันมัวแต่ยิ้มให้มือถือและพรหมลิขิตของเรา ประตูลิฟต์เปิดปิดตอนไหนฉันยังไม่รู้เลย
“โทษที...โทษที..ออกค่ะออก”
เขาไม่ได้สนใจฉันอีกและเดินนำไปยังทางเดิน ฉันหยุดตรงห้องของน้าสาว ส่วนเขาเดินเลยไป ห้องฉันกับเขาคือห้องเยื้อง ๆ กัน นี่มันพรหมลิขิตชัด ๆ ชัดกว่านี้ไม่มีอีกแล้วแก้ว
คืนนี้ต้องเปิดไลน์เม้าส์ซะแล้วเพราะพฤกษาเป็นขวัญใจของคนทั้งมหาวิทยาลัยและด้วยเหตุที่เขายังไม่มีแฟนตัวจริงเขาจึงตกเป็นแฟนมโนของสาว ๆ เกือบทุกคน
ตัวจริงเขายิ่งหล่อ..หล่อมาก ...ฮือ..อยากได้
ฉัน...แก้ว หรือ กานดา ตอนนี้ฉันไม่ใช่เด็กต่างจังหวัดคนเดิมอีกแล้ว เพราะฉันมาอยู่เมืองหลวงของประเทศได้เกือบสามปีแล้ว ชีวิตใหม่ที่นี่เป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็นไป แต่เพราะเรื่องราวในวันนั้นที่ทำให้ฉันกับเขาต้องมาเกี่ยวข้องกัน
เขาคือผู้ชายที่ฉันแอบชอบมาตั้งแต่อยู่ปีหนึ่ง แต่เพราะอยู่กันคนละคณะฯทำให้ไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไร ไม่สิ…ฉันต่างหากที่อยากเจอเขาบ่อย ๆ เพราะเขาไม่เคยรู้จักฉันเลย เป็นฉันเองที่รู้จักเขา ผู้ชายสุดหล่อที่มีตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัย…ต้นไม้ พฤกษา พฤกษ์ไพศาลสกุล
เขาผู้มีหน้าตาเป็นอาวุธของแท้ ความหล่อของเขานั้นเรียกได้ว่าหล่อแบบไม่เกรงใจใคร ก็ไม่แปลกที่จะมีตำแหน่งเป็นถึงเดือนมหาวิทยาลัย ถึงคนหล่อในมหาวิทยาลัยจะมีมากมาย แต่เขาแตกต่างกับทุกคนที่ฉันเคยรู้จัก
เดือนมหาวิทยาลัยที่มีดีกรีเป็นถึงเด็กวิศวะฯคอมภาคอินเตอร์ ไม่บอกก็รู้ว่าดูจากหน้าตาท่าทางและสาขาที่เรียนแล้วเขาคงเป็นลูกคนมีเงินและคนอย่างเขาต้องไม่เคยสนใจผู้หญิงธรรมดาอย่างฉันแน่นอนอยู่แล้ว
ฉันรับจ้างทำงานทุกอย่างที่พอจะทำได้ เรียกฉันว่าเป็นวัยรุ่นกำพร้าได้ไหมนะ พ่อแม่และพี่เสียไปตั้งแต่ตอนฉันกำลังจะขึ้นปีสอง ทำให้ฉันต้องดิ้นรนในเมืองหลวงตามลำพัง ฉันมีน้าสาวที่ช่วยฉันบ้างในบางครั้งถ้าฉันขอให้ท่านช่วย แต่ฉันก็พยายามช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด กินให้น้อย นอนให้น้อย แต่ทำงานให้เยอะเข้าไว้
จนวันหนึ่งน้าสาวของฉันต้องย้ายตามสามีไปทำงานที่ต่างประเทศ คอนโดที่ทั้งสองสามีภรรยาพักอาศัยอยู่จึงว่างและไม่ต้องการปล่อยเช่าเพราะไม่ไว้ใจ แต่จะไม่ให้ใครมาอยู่เลยก็จะต้องลำบากเรื่องหาคนทำความสะอาด
ทำให้ฉันได้มีสิทธิ์มาอยู่เฝ้าคอนโดหรูใกล้มหาวิทยาลัยเพราะน้าเขยของฉันเคยทำงานที่มหาวิทยาลัย เลยซื้อคอนโดที่นี่ไว้ มันดีสำหรับฉันมากเพราะไม่ต้องเดินทางให้เสียเวลา เดินข้ามสะพานลอยไปก็ถึงมหาวิทยาลัยแล้ว
ใครจะคิดว่าการมาอยู่ที่นี่จะดีแบบนี้ ได้อยู่คอนโดเดียวกับผู้ชายที่ตัวเองชอบ
“แกทายสิว่าฉันเจอใคร” ฉันถามเพื่อนเพราะรู้ว่าเพื่อนต้องตื่นเต้นกับฉันแน่นอน
“เจอใคร อะไรของแกอีแก้ว” นาตาลีสาวสวยในกลุ่มเอ่ยถามอีกสองสาว วีรดากับอิงดาวทำหน้าเหมือนรอฟังคำตอบอยู่
“ฉันอยู่คอนโดเดียวกับต้นไม้ พฤกษา”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด” เสียงกรีดร้องสนั่นในวิดีโอคอลของกลุ่ม
“แกเดือนมหาวิทยาลัยเลยนะ เป็นไงตัวจริงหล่อไหม” นาตาลีถามขึ้นอย่างตื่นเต้นและสนใจ
“หล่อมากแก..หอมด้วยแก..ฮือ...อยากได้” ฉันบอกเพื่อนไปอย่างที่อยากได้เขาจริง ๆ
“อีแก้วใจเย็น ๆ แก ถึงการข่มขืนผู้ชายมันจะไม่ผิดกฎหมาย แต่มันก็น่าอาย” อิงดาวพูดออกมาแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจสิ่งที่เพื่อนเตือน
“แกรู้ไหม ฉันชอบเขาตั้งแต่ปีหนึ่ง นี่มันพรหมลิขิตชัด ๆ เลยแก”
“งั้นคงพรหมลิขิตทั้งคอนโดแล้วมั้งแก” อิงดาวยังคงพูดทำลายความหวังของฉันต่อไป ส่วนเพื่อนอีกสองคนได้แต่ส่ายหน้าในความหลงสามีมโนของฉัน
สะโพก เผยให้เห็นข้างเอวที่เป็นส่วนเว้าลึกของบอดี้สูทที่หายเข้าไปในกางเกงยีนชุดนี้ทำให้หัวใจผมสูบฉีดอย่างไม่ต้องสงสัย เลือดลมหนุ่มใหญ่วัยจะสี่สิบกำลังจะขาดใจเพราะหวงเมีย“ไม้ว่าวันนี้เราไม่ต้องไปดีไหม นอนฟังเพลงที่บ้านก็ได้เมาก็จะได้หลับ” ผมเริ่มไม่อยากพาเมียไปเลย ไม่อยากให้คนมอง แต่ถ้าจะให้เธอไปเปลี่ยนชุดใหม่มันก็ดูขี้หวงเกินไป หรือผมควรจะทำอย่างไรดี แกล้งป่วยจะได้ผลไหมนะ“ ไม่ได้วันนี้แก้วนัดวี อิงดาวไว้” สองสาวเพื่อนซี้ของเมียผมตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย“อืม แต่ถ้าพ่อไม่อยากไปด้วยแม่ไปคนเดียวก็ได้นะ“ไม่เอาไปด้วย” เรื่องอะไรผมจะปล่อยเมียไปคนเดียว แล้วยิ่งเมียแต่งตัวแบบนี้บอกได้คำเดียวว่าผมไม่มีทางปล่อยไปแน่นอน“งั้นก็ไปค่ะ”“ผ้าคลุมไหม ในนั้นหนาวนะ” ผมแสร้งเป็นหวังดีแต่เพราะหวงนั่นแหละ“ก็ได้ค่ะ” เธอยิ้มให้ผมกอดแขนอย่างออดอ้อน ไม่ชอบเลยที่เธออ้อนแบบนี้เพราะผมจากปกติที่หลงเมียอยู่แล้วกลับหลงหนักกว่าเดิม@เดอะไนต์กู๊ด (The Nightgood)[1] ผมชอบไนต์คลับแห่งนี้มาก ไม่คิดว่าเพื่อนเมียจะชอบเหมือนกัน ผมโทรหาไอ้ฟ้า กับ ไอ้เลให้แวะมาเที่ยวด้วยกัน อย่างที่รู้ ๆ กันพวกเรามันพวกชมรมพ่อบ้
ผมชอบนะเวลาได้แกล้งเมียรัก ความรู้สึกเวลาเธอโมโห เธอแหวใส่ผมมันทำให้ผมอบอุ่นใจทุกครั้ง รู้สึกเหมือนได้อยู่กับแม่ เธอมีความเป็นแม่สูงมาก พวกเราเลี้ยงลูกสามคนมาด้วยกัน ยากลำบากเหนื่อยแต่ก็ช่วยกันมาถึงทุกวันนี้ มันดีมากเลย แค่คิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาและคิดถึงช่วงเวลาในอนาคตผมก็ยิ้มกับความคิดแล้ว“พ่อขาวันนี้มีผู้ชายมาขอหอมแก้มต้นหลิวด้วย” เสียงเล็กบอกเล่าเรื่องราวของวันนี้ทำให้ผมหน้าตาขึงขังขึ้นมาทันที ใครกันที่มันกล้ามาขอหอมแก้มลูกสาวของผมกัน“แล้วต้นหลิวบอกเขาว่าไงครับ” ผมถามกลับอย่างใจเย็น เมียรักถึงกลับบีบต้นแขนผมอย่างให้กำลังใจไม่ให้โมโหมากจนเกินไป“ต้นหลิวบอกจะมาถามพ่อก่อนค่ะ” ลูกสาวผู้ฉลาดที่สุดของผม“ไม่ได้/ไม่ได้” เสียงลูกชายที่หวงน้องสาวไม่ต่างจากพ่อดังมาจากเบาะหลัง ผืนป่ากับใบไผ่รีบบอกน้องสาวทันที“ลูกได้ยินหรือยังคะ” ผมถามลูกสาวคนเล็ก“ค่ะ” หน้าเศร้าของลูกสาวทำให้ผมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้“ทำไมครับ หนูอยากให้เพื่อนคนนั้นหอมแก้มเหรอครับ”“คือ ต้นหลิวไปหอมแก้มมิกก่อน มิกเลยจะขอหอมบ้าง แต่ต้นหลิวบอกว่าจะมาถามพ่อก่อน” ลูกสาวผมหน้าเสียยิ่งกว่าเดิม ปากน้อยกำลังคว่ำลงอย่างเอาแต่ใ
“อยากมากเมียจ๋า” เขาจัดการเสื้อผ้าตัวเองอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งบอกฉันให้จัดการเสื้อผ้าของฉัน หลายวันแล้วที่เราไม่ได้มีกิจกรรมตื่นเต้นแบบนี้เขากระโดดขึ้นเตียงเข้ามาโรมรันจนฉันแทบหายใจไม่ออก จูบเร่าร้อนทำเอาฉันแทบหายใจไม่ออก ฉันทุบอกเขาแรง ๆ ให้รู้ว่าตอนนี้เมียเขากำลังจะขาดอากาศหายใจ“อื้อ” ฉันสูดอากาศหายใจเมื่อเขาปล่อยปากให้สูดอากาศเข้าเต็มที่ เขาเปลี่ยนเป้าหมายไปกินกลางลำตัวฉันแล้ว นั่นยิ่งทำให้ฉันหายใจติดขัดไม่ต่างจากเดิม ไม้เล่นฉันไม่หยุดเลย ทุกการกระทำของเขากำลังจะฆ่าฉันด้วยความสุขจนล้นความร้อนชื้นลากเลียตรงดอกไม้งามจนฉันต้องจิกทึ้ง นอนหอบหายใจให้เขาได้กระทำตามใจ ไม่ไหวแล้วฉันแทบจะตาย เขาหอบฉันขึ้นไปบนยอดเขาก่อนจะปล่อยให้ร่วงลงมาลอยคว้างบนอากาศ ความไหวหวามแตกกระจายไหลรดจนเกิดความฉ่ำชื้น“ไม้ อื้อ” เสียงครางของฉันคือสิ่งที่เขาพอใจ ทุกครั้งเขาต้องเป็นแบบนี้ ปรนเปรอฉันจนหนำใจ ครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าไม่ทำหมันรับรองว่ามีน้องให้เจ้าสามแสบเพิ่มแน่ แต่เพราะไม้ทำหมันแล้ว ยิ่งทำหมันแล้วยิ่งหื่นขึ้นเยอะ ความถี่ของเขามากขึ้น ใช้เวลาแต่ละครั้งแม้นไม่นานในบางครั้งเพราะต้องทำเวลา แต่ระดับความถี่ไ
ฉันยิ้มให้กับคุณพ่อลูกสาม เช้ามาความวุ่นวายของคุณพ่อคือจัดการลูกแต่ละคนพาไปโรงเรียน สิ่งที่น่ารักสุดสำหรับผู้ชายคนนี้คือความรักที่มากมายเหลือเกินฉันไม่เคยคิดว่าเขาจะน่ารักได้ขนาดนี้ ยิ่งอยู่ด้วยกันฉันยิ่งหลงรักเขาเพิ่มขึ้นทุกวัน“เป็นอะไรยิ้มไม่หุบ” ไม้ถามฉันในตอนที่นั่งยิ้มมองเขากลับมาจากส่งลูก พ่อคนอื่นอาจวุ่นวายกับการทำงานนอกบ้านแล้วทิ้งเรื่องเลี้ยงลูกให้เป็นหน้าที่ของแม่บ้าน แต่ไม่ใช่สำหรับเขา“ยิ้มเพราะพ่อบ้านน่ารัก”“พ่อก็น่ารักแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว” พ่อ...คำเปลี่ยนเรียกตัวเองตั้งแต่เราสองคนเริ่มมีลูก ตอนนี้ลูกคนที่สามของเราได้สามขวบแล้ว เร็วมากไม่คิดว่าชีวิตที่มีความสุขจะผ่านไปเร็วขนาดนี้“น่ารักอะไรตอนคบกันแรก ๆ ให้เป็นแค่เพื่อนนอนเอง” ฉันกระเซ้า คนที่ให้เป็นแค่เพื่อนนอนในตอนแรกทำหน้าระเรื่อ“จีบใครไม่เป็นคิดว่าอยู่ด้วยกันเรื่อย ๆ เดี๋ยวแม่คงเข้าใจว่าพ่อรักแม่ รักแม่ที่สุด” แม่...คำที่เขาเรียกฉันในตอนนี้ อบอุ่นหัวใจและบ่งบอกถึงการเป็นครอบครัว“เว่อร์”“จริง ๆ พ่อรักแม่จริงนะ ไม้รักแก้วมาก บอกตั้งหลายหนไม่เชื่ออีก” เขาหอมแก้มซ้ายขวา ละลายหมดแล้วฉันเนี่ย ไม่ใช่ไม่เชื่อว
นานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่ได้กลับมาที่แห่งนี้ มหาวิทยาลัยที่เราเจอกันครั้งแรก หลังจากส่งเด็ก ๆ ไปโรงเรียนเรียบร้อย เราทั้งสองก็เลยแวะมาทานข้าวในมหาวิทยาลัย“มีอะไรจะบอก เราเคยเจอไม้ตรงนั้น ไม้ถามว่าปากกาเราหรือเปล่า” แก้วเริ่มเล่าก่อน ผมยังยิ้มและตั้งใจฟัง“เราชอบไม้ตั้งแต่ตอนนั้นเลยนะ ชอบมาตลอด” เธอมองผมสายตาเป็นประกายเหมือนครั้งแรกที่เราเจอกัน ใช่สายตาแบบนี้แหละ ที่ทำผมตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอ“ชอบแล้วทำไมไม่จีบ”“ใครจะกล้าจีบ พฤกษา เดือนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นเธอดังมาก ส่วนเราเหรอเด็กบ้าน ๆ คนหนึ่ง แล้วแต่ละคนที่จีบเธอ ทั้งดัง ทั้งเด่นขนาดนั้น ยังโดนตอกหน้ากลับ หมอไม่รับเย็บตั้งหลายต่อหลายคน แล้วเราจะเอาความกล้ามาจากไหน อีกอย่างเราต้องทำงานหาเงินเรียนไม่มีเวลามานั่งวิ่งตามความรักหรอก”“เหมือนเก็บกดเลยแฮะ” ผมอดแซวเธอไม่ได้ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามีคนแอบรักตัวเองมานานขนาดนี้“เก็บกด ยิ่งเวลาเห็นคนกรี๊ดไม้เยอะขึ้น เรายิ่งดูห่างจากเธอไปอีก แล้วแบบนั้นใครจะกล้าจีบ เพื่อนแต่ละคนยิ่งทับถมด้วยว่าเราไม่เหมาะสมกับเธอ”“น่าสงสารจังเลย นะเนี่ย” ผมยื่นมือไปบีบจมูกเล็กของคนน่าสงสาร“ แล้วตอนนั้นนะ ตอนที่เราไ
ความแข็งขืนที่ตั้งตระหง่าน เย้ายวนใจจนเธอต้องเลียริมฝีปากตัวเอง แค่เธอเลียริมฝีปากตัวเอง ทำไมผมถึงได้ขนลุกไปทั้งร่าง ร่างกายผมจำสัมผัสจากปลายลิ้นเล็ก ๆ นั้นได้ดีริมฝีปากนั่น ลิ้นนั่น ทำผมดิ้นทุรนทุรายมากี่ครั้ง ฝ่ามือบางลูบปลายชุดนอนให้ร่นกองที่เอว เปิดเผยดอกไม้อวบอูมของเธอ ปลายนิ้วเรียวแยกส่วนแนบชิดตรงกลางกายออกเล็กน้อย เกสรดอกไม้สีแดงสด ที่ผมชื่นชอบกลิ่นหอมหวานของมันทำผมแทบคลั่ง สายตาเย้ายวนใจของเธอยิ่งทำผมอยากกระโดดขึ้นเตียง“อยากลองจังว่าลีลาจะแค่ไหน” เสียงหวาน ๆ พร้อมนิ้วมือกรีดตามรอยแยก หมดแล้วครับความอดทนของผมสิ้นสุดแล้วครับ ผมกระโดดขึ้นเตียงกระโจนเข้าหาเธออย่างบ้าคลั่ง“เบา ๆ ไม้”“แล้วใครยั่ว”“อื้อ..อ๊า เบา” เสียงห้ามบอกเบาแต่การกระทำช่างแตกต่าง เธอกำลังขยุ้มเส้นผมของผมแน่น กดให้หน้าผม ลิ้นผมจมจ่อกับดอกไม้งามของเธอ เสียงครางหวานดังไม่หยุดเมื่อผมไล้ชิมจุดนั้นของเธอ ทุกซอกทุกมุมที่ลิ้นผมซอกซอน ความสุขหรรษาของเราจบลงในอีกหลายชั่วโมงต่อมา“เป็นไงครับ ผมได้ทิปเยอะไหมครับ” ผมกระซิบถามร่างบางในอ้อมกอด“ให้หมดตัว หมดกระเป๋าเลยค่ะ ลีลาดี ขนาดดี หน้าตาดี ดีทุกอย่าง” ผมหัวเราะชอบใจกั