สัปดาห์ต่อมา
“ลุงจะพาไปเที่ยวทุ่งนาด้านหลัง... ดีมั้ย ถ้าหนูอยากสูดอากาศบริสุทธิ์”
“ดีค่ะ... น้อยหน่าอยากเห็นค่ะลุงโรม”
ท่าทางของสาวน้อยดูตื่นเต้น
“มีเสื้อกันหนาวมาด้วยมั้ย... ”
เสียงของโรมบอกความห่วงใย ขณะสายตาจับอยู่ที่พวงแก้มนวลปลั่งของหลานสาวแสนสวย ตอนนี้ใกล้จะค่ำแล้ว อากาศเริ่มเย็นลงทุกที
“มีค่ะ... ”
น้อยหน่าตอบพลางเงยหน้าขึ้นสบตาลุงโรมขณะยกนิ้วขึ้นเกลี่ยช่อผมบางส่วนที่ปลิวลงมาเคลียแก้ม เกี่ยวด้วยนิ้วขึ้นไปทัดเอาไว้หลังใบหู
“ลุงโรมหล่อจัง”
แสงแดดลำสุดท้ายที่สาดมากระทบโครงร่างสูงใหญ่สุดสมาร์ทของเจ้าของบ้าน ทำให้น้อยหน่ามองเห็นความหล่อเหลาของโรมได้อย่างชัดเจนเต็มตา
“นึกยังไงมาชมลุง”
โรมขัยบเข้ามาใกล้ร่างเอิบอิ่ม ยกมือขึ้นลูบศีรษะของน้อยหน่าด้วยความรู้สึกเอ็นดู ยิ่งเข้ามาใกล้หล่อนเขายิ่งรู้สึกตื่นเต้น
“มองอะไรจ๊ะ”
โรมถามเมื่อเห็นน้อยหน่าตะลึงจ้องหน้าเขาไม่วางตา ผิวสีทองแดงคร้ามแดดยิ่งเสริมส่งให้โรมดูคมเข้มสมชายชาตรี เนื้อตัวกำยำไปด้วยมัดกล้าม ใบหน้าคมคร้ามไร้ที่ติติง แพหนวดดกหนาเหนือริมฝีปากทำให้ยิ่งแลดูน่าครั่นคร้าม แต่ในสายตาของน้อยหน่ากลับมองว่าน่ารัก
“ถามก็ไม่ตอบ”
“มองลุงโรมนั่นแหละ... ทำไมกล้ามใหญ่จังคะ”
มือเรียวเผลอยกขึ้นลูบต้นแขนของลุงโรมเบาๆ ทำเอาเจ้าตัวออกอาการเขิน
“ก็ทั้งทำงานหนัก... ทั้งออกกำลังกายเป็นประจำ เมื่อก่อนลุงเข้ายิมบ่อย แต่ตอนนี้ซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายมาใช้เองที่บ้านเพราะว่าสะดวกกว่า อยู่ด้านหลังโน่นแน่ะ มีหลายอย่าง ถ้าหนูสนใจจะไปออกกำลังกายที่นั่นก็ได้”
โรมกล่าวยิ้มๆ
“ดีจังค่ะ... วันหลังน้อยหน่าจะไปออกกำลังกายด้วยคนนะคะ”
“ได้เลย”
“ดูสิ... แขนลุงโรมใหญ่กว่าขาน้อยหน่าอีกค่ะ”
สายตาจับอยู่ที่ต้นแขนกำยำ
“จริงด้วยสิ”
โรมยกแขนขึ้นอวดกล้ามแล้วเหลือบมองช่วงขาเรียวยาวของน้อยหน่า
“ลุงชอบออกกำลังกายจ้ะ... มันทำให้แข็งแรง แล้วก็แก่ช้า”
โรมกล่าว ตอนนั้นสายตาของหญิงสาวแทบไม่ละจากใบหน้าครึ้มเคราของเขา ยิ่งได้อยู่ใกล้ชิดยิ่งเห็นชัดว่าเขาหล่อมาก ลุงโรมคนนี้เป็นผู้ชายเปี่ยมเสน่ห์จริงๆ
“ถึงว่าสิคะ... ลุงโรมยังดูหนุ่มมาก แมนมาก แล้วก็หล่อมากด้วยค่ะ”
“อุ๊บส์... ”
โรมตกใจ ใครจะเชื่อว่าคำชมสั้นๆ จากปากของสาวน้อยมากเสน่ห์คนนี้จะทำให้หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ
“นึกยังไงมาชมคนแก่อย่างลุงว่าหล่อ”
เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่โรมแสดงอาการเคอะเขินออกมาจนเห็นได้ชัด แต่ตอนเขินเขายิ่งดูน่ารัก
“ก็ลุงโรมหล่อจริงๆ นี่คะ... ”
หญิงสาวยืนยัน
“จริงอ่ะ... ”
สีหน้าและแววตาซุกซนซ่อนเร้นความเร่าร้อนของหลานสาวที่มองมาพร้อมกับคำชม ทำให้หัวใจของหนุ่มใหญ่อย่างโรมเต้นแรง พองโตขึ้นมาเหมือนลูกโป่งที่สูบลมเข้าไปจนเต็ม น้อยหน่าคงไม่รู้หลอกว่าสัมผัสจากมือเรียวที่เอื้อมมาลูบไล้ต้นแขนเมื่อครู่ ทำให้เลือดในกายของเขาพลุ่งพล่านสูบฉีดราวจะเดือดขึ้นมาได้
“งั้นน้อยหน่าไปเอาเสื้อกันหนาวก่อนนะคะ”
“จ้ะ”
โรมพยักหน้า ทอดสายตามองตามเรือนร่างเอิบอิ่ม ที่วิ่งเหมือนเด็กๆ กลับเข้าไปหยิบเสื้อกันหนาวในบ้าน
โรมนึกชื่นชมบุคลิกภาพอันร่าเริงและสดใสเป็นธรรมชาติของน้อยหน่า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการได้อยู่ใกล้ๆ หลานสาวแสนสวยคนนี้... จะทำให้ทุกๆ อย่างรอบกายดูสดชื่นมีชีวิตชีวาไปหมด
“พร้อมนะ”
โรมซึ่งตอนนั้นนั่งอยู่บนรถโฟล์คกอล์ฟยื่นมือใหญ่ลงมารับฝ่ามือน้อยๆ ของหลานสาวที่บีบมือเขาแน่นเป็นสัญญาณให้ลุงโรมช่วยฉุดร่างน้อยๆ ขึ้นมานั่งเคียงคู่กันบนรถ
“ไปเลยค่ะ”
สาวน้อยร้องบอกเมื่อทรุดร่างลงนั่งเรียบร้อย โรมเหยียบคันเร่งเบาๆ รถก็แล่นออกมา ใช้เวลาไม่นานหญิงชายต่างวัยก็พากันมาถึงหนองน้ำที่อยู่ท้ายทุ่ง
“ว้าว... สวยจังค่ะ... มีดอกบัวด้วยค่ะลุงโรม”
หญิงสาวตื่นตาตื่นใจกับธรรมชาติรายรอบ แต่จิตใจของโรมกลับจดจ่ออยู่กับเรือนร่างเอิบอิ่มของหญิงสาวที่เบียดแนบเข้าหาลำตัวของเขาคล้ายจะโอบกอด ในบางจังหวะที่รถโฟล์คกอล์ฟแล่นขึ้นไปบนเนินดินลาดชัน
“ว้าย... ”
น้อยหน่าตกใจ ตอนรถแล่นลิ่วลงมาจากเนินดินกลางทุ่งนา ทำให้หล่อนสวมกอดร่างกำยำของลุงโรมเอาไว้แน่น
“ไม่ต้องกลัวจ้ะ... ”
ทรวงอกอวบใหญ่ของคนข้างๆ ที่เบียดเข้าหาลำตัวของเขาทำให้โรมรู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ไม่น่าเชื่อว่ามันทำให้รู้สึกร้อนวูบวาบ ทั้งที่ตอนนี้ก็เป็นฤดูหนาว
“น้อยหน่าหนาวค่ะ... ลุงโรมกอดน้อยหน่าหน่อยได้ไหมคะ”
สุ้มเสียงออดอ้อน เหลือบมองหน้าเขา ขณะสายตาของโรมยังคงจ้องมองไปยังเส้นทางเบื้องหน้า
“ได้สิจ๊ะ... ”
โรมเอื้อมมือข้างหนึ่งมาโอบเอวของหญิงสาว น้อยหน่ารีบเอนศีรษะพิงซบช่วงไหล่กว้างแสนอบอุ่น กลิ่นเหงื่อกลิ่นกายแบบชายชาตรีของลุงโรมทำให้หัวใจของหล่อนเต้นไม่เป็นจังหวะ
และด้วยตำแหน่งของศีรษะที่เอนซบอยู่กับอกข้างซ้ายซึ่งเป็นตำแหน่งของหัวใจพอดิบพอดี ทำให้น้อยหน่ารับรู้ว่าหัวใจของลุงโรมก็กำลังเต้นแรงไม่ต่างกัน
“ทำไมลุงโรมใจเต้นแรงจังคะ”
หล่อนถามยิ้มๆ
“ก็... ”
โรมอึกอัก เขายอมรับว่าร่างอวบอัดของหลานสาวที่เบียดกายเข้ามากอด ทำให้เขารู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาอีก ทั้งกลิ่นหอมของเส้นผม กลิ่นแป้งอ่อนๆ ที่ปะปนอยู่กับกลิ่นสาบสาว ทำให้เลือดในกายของหนุ่มใหญ่อย่างโรมราวจะเดือดปุดๆ ขึ้นมาได้
โชว์ลีลาชิวหาพาเพลินเบิร์นกุหลาบงามของหล่อนได้อย่างถึงอกถึงใจ“อีกนิดนะจ๊ะ... ”คนชอบดูด ชอบเลียอยากลิ้มรสเม็ดทับทิมแดงๆ ที่ปูดเป่งขึ้นมาเหนือรอยแยกของร่องสวาท“โห... สวยเหลือเกิน”เขาแบะบีบกลีบเสียวจนปลิ้นขึ้นมาจากพุ่มขนสีดำ ก่อนจะกระหน่ำด้วยปลายลิ้นตั้งเป็นลำกระแทกทิ่มลงมาถี่ๆ บางครั้งก็ตะแคงลิ้นเสียดสีไล้เลียเม็ดกระสัน นั่นอาจจะเป็นเทคนิควิธีที่ทำให้ปลายลิ้นของโรมเคลื่อนไหวส่ายสั่นไปในทิศทางใหม่ๆ ถูกอกถูกใจจนเมียรักร้องคราง“อ๊อยยย... ”น้อยหน่าสะดุ้งเมื่อติ่งกระสันโดนขบกัดเบาๆ สลับดูดแรงๆ แล้วรวบเอาไว้ด้วยปลายลิ้น ส่งผลให้ปุ่มเนื้อเม็ดน้อยนูนเด่นแดงเรื่ออยู่ในอุ้งปากของพ่อโรมที่ขบเม้มเมามัน ไม่นานน้ำหล่อลื่นก็แตกซ่านออกมาอีกคำรบ “ไม่ไหวแล้วค่ะ... อูย” มือเรียวของหล่อนขยุ้มศีรษะของพ่อโรมเอาไว้แน่น แผ่นหลังบอบบางแอ่นระแน้ขึ้นจากพนักหัวเตียง ขณะปลายลิ้นของโรมรู้สึกได้ถึงอาการตอดตุบรุนแรง“อูย... เนื้อเต้นตุบๆ เชียว”หนุ่มใหญ่สายเบิร์นรับรู้ได้ถึงอาการตอบสนองรุนแรง กลีบสวาทของเมียรักหนีบแน่นอยู่กับปลายลิ้นของเขาที่ชอนไชเข้ามากวาดเลียความนุ่มอ่อนเหมือนใจกลางของเกลีย
มีเพศสัมพันธ์กันได้ทันทีเสียเมื่อไหร่ คงต้องรอให้ภรรยาได้พักฟื้นร่างกายจนกว่าจะพร้อม“ขอพ่อเข้าไปทักทายลูกนะครับ”คนดื้อไม่หยุดอ้อน“ไม่ได้ค่ะ... ” น้อยหน่ารีบห้าม อันที่จริงหล่อนกับพ่อโรมก็งดร่วมรักตลอดช่วงสามเดือนแรกที่รู้ว่าท้อง หมอสั่งว่าควรงดเพื่อความปลอดภัย เพราะในช่วงสามเดือนแรกครรภ์ยังอ่อน จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการแท้ง“วันนี้ขอพ่อเข้าไปทักทายลูกนะจ๊ะ”“ไม่ได้ค่ะ... ของพ่อโรมทั้งใหญ่ทั้งยาว”น้อยหน่าส่ายหน้า เพราะรู้ว่าจะเป็นอันตรายกับลูก“พ่อไม่ได้หมายความว่าจะเอาน้องชายของพ่อใส่เข้าไปเมื่อไร... แต่พ่อโรมจะใช้ลิ้น... นะจ๊ะ”เพียงแค่สามีแลบลิ้นออกมาตวัดเลียริมฝีปาก น้อยหน่าก็รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งช่องท้อง “จะดีหรือคะ?”โรมรู้ว่าถ้าภรรยาถามแบบนี้แสดงว่า ‘โอเค’ เพราะนานแล้วที่เขากับหล่อนไม่ได้ร่วมรักกัน น้อยหน่าเองก็ต้องอยากเป็นธรรมดา แต่การที่ต้องอุ้มท้องทำให้หล่อนเป็นกังวลทุกวันนี้โรมเฝ้าดูแลแม่ของลูกมิได้ห่าง อายุครรภ์เจ็ดเดือนเป็นช่วงที่เด็กทารกเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ท้องของน้อยหน่าโตขึ้นมากพ่อโรมคอยช่วยบีบนวดให้เป็นประจำเมื่อเห็นหล่อนแสดงอาการอึดอัด แน่นท้อง ปวดหลังปวดเ
ที่คลินิกในเมืองเชียงใหม่ ในตอนสายของวันเดียวกันนั้น ด้วยความตื่นเต้นดีใจจนออกนอกหน้า ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงพ่อเลี้ยงโรมก็ขับรถพาน้อยหน่าเดินทางมาถึงคลินิกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่“พ่อรออยู่ข้างนอกนะจ๊ะ”เสร็จจากพยุงร่างเอิบอิ่มของน้อยหน่าเข้ามาส่งในห้องตรวจซึ่งมีคุณหมอนั่งรออยู่ข้างใน พ่อโรมก็ก้าวกลับออกมาทรุดร่างสูงใหญ่ลงนั่งรออยู่ที่เก้าอี้หน้าห้องตรวจ จิตใจเอาแต่จดจ่อว้าวุ่นกระวนกระวายรอฟังว่าภรรยาจะท้องหรือเปล่า? ครู่ใหญ่ๆ ต่อมา น้อยหน่าเดินออกมาจากห้องตรวจด้วยใบหน้าซีดเซียว พ่อโรมรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ ตรงรี่เข้าประคองร่างของภรรยายสุดที่รัก ก่อนจะเหลือบไปเห็นว่าคุณหมอถือแฟ้มเดินตามออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ผลตรวจเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ”โรมถาม“ครับ... ลูกสาวคุณกำลังตั้งครรภ์ครับ ยินดีด้วยนะครับ... คุณกำลังจะมีหลานแล้วครับ”คุณหมอตอบ คำว่า ‘ลูกสาวคุณ’ และ ‘คำว่า ‘หลาน’ บอกให้รู้ว่าคุณหมอคิดว่าโรมเป็นพ่อของน้อยหน่าอย่างไม่ต้องสงสัยที่คุณหมอเข้าใจไปอย่างนั้นก็เป็นเพราะว่าได้ยินโรมแทนตัวเองว่า ‘พ่อ’ ทุกคำตอนที่พูดกับน้อยหน่า“ขอบคุณมากนะครับคุณหมอ”สี
น้อยหน่าถึงสวรรค์อย่างรุนแรง ยังคงโยกบั้นท้ายบดโม่หมุนวนก้นกอยเนิบนาบอยู่บนหน้าตักของเขาตอนนั้นโรมยังกระเด้าไม่หยุดสลับค้อมใบหน้าลงมาดูดสองเต้าเสียงดังจ๊วบจั๊บ สองมือเกร็งขยำบั้นท้ายของเมียรักเอาไว้แน่น แอ่นสะโพกกระเด้า กด เกร็งกล้ามเนื้อทุกส่วนเพื่อถ่ายเทน้ำรักฝากเอาไว้ในกายของภรรยาทุกหยดหยาดอีกสัปดาห์ต่อมาแผลของโรมเริ่มหายสนิทเป็นปกติ หลังจากตัดไหมเรียบร้อยแล้วเขาก็เริ่มออกตรวจงานในไร่ในนาตามปกติโรมทอดสายตาไปกลางทุ่ง ข้าวเหลืองเต็มนาที่ถูกเก็บเกี่ยวออกมาเป็นเมล็ดกว่าร้อยไร่เริ่มนำออกมาตากแดดให้แห้ง เพื่อนำส่งเข้าสู่กระบวนการสีออกมาเป็นเมล็ดข้าวต่อไป เช่นเดียวกับเมล็ดกาแฟในไร่ที่ถูกเก็บมาตากไว้กลางลานกว้าง โรมประเมินคร่าวๆ ด้วยสายตาก็พอจะรู้ว่าปีนี้ผลผลิตทั้งไร่ทั้งนาได้เกินกว่าเป้าที่ตั้งเอาไว้เมื่อกลับเข้ามาถึงบ้าน“น้อยหน่า”โรมเรียกภรรยาในทันทีที่ผลักประตูเข้ามาแล้วไม่เห็นหล่อน“คะ... พ่อโรมเรียกน้อยหน่าทำไมคะ”คนที่กำลังก้มหน้าอาเจียนอยู่ที่อ่างล้างหน้ารีบหันมาขานรับ“เป็นอะไร... ไม่สบายหรือยังไง?”โรมตกใจ เสียงอาเจียนดังลั่นทำให้เขารู้สึกเป็นห่วง“ไม่รู้ค่ะ... น้
“ถ้าอยากกินน้อยหน่าก็ได้... แต่หลังจากกินข้าวกินยาก่อนนะคะ... ค่อยกินน้อยหน่า”ภรรยารีบต่อรอง“วันนี้มีอะไรมาให้พ่อโรมกิน”“ข้าวต้มกุ้งค่ะ”หล่อนรู้ว่าพ่อโรมชอบ“เดี๋ยวนี้รู้ใจพ่อไปซะทุกอย่าง... น่ารักจัง”โรมเหลือบมองภรรยายกถ้วยข้าวต้มขึ้นจากถาด นำมาวางลงใกล้เตียง ใช้ช้อนคนเบาๆ ระบายควันร้อนที่ลอยขึ้นมาจากปากถ้วย“น้อยหน่าป้อนให้นะคะ”“จ้ะ... ”โรมรู้ว่าหญิงสาวคงอยากตอบแทน เพราะว่าถ้าเมื่อวานเขาไม่เสี่ยงชีวิตเข้าช่วยเอาไว้ หล่อนก็คงไม่มีโอกาสมานั่งป้อนข้าวต้มให้เขา“ขอบคุณพ่อโรมนะคะ”“เรื่องอะไร”“ก็ที่พ่อโรมเสี่ยงชีวิตช่วยหนู”“ก็หนูเป็นดวงใจของพ่อ... ไม่มีหนูพ่อโรมก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ยังไง”น้อยหน่าเหลือบมองหน้าสามีแวบหนึ่ง โรมเห็นประกายซาบซึ้งในดวงตา“ทานข้าวแล้วเดี๋ยวทานยานะคะ”“จ้ะ”โรมอมยิ้ม รู้สึกได้เลยว่ายาแก้ปวดใดๆ ก็ไม่ดีไปกว่าการที่มีน้อยหน่านั่งเคียงข้างเอาอกเอาใจอยู่ใกล้ๆ“เมื่อวานหนูตกใจแทบช็อค... กลัวพ่อโรมถูกยิง... คราวหลังพ่อโรมอย่าทำอะไรเสี่ยงแบบนั้นอีกนะคะ”“แต่ก็คุ้มค่ากับการเสี่ยง” เสียงของพ่อโรมตอบกลับมาอย่างคนที่มีความดื้อรั้นอยู่ในตัว“คุ้มยังไง”“คุ้มสิจ๊ะ...
“อย่านะเสี่ย... ก็ไหนเสี่ยบอกว่าจะไม่ทำอันตรายคุณน้อยหน่า ถ้ากำนันโรมไม่พาคนบุกมา”สิ้นเสียงของคำแก้วหลังมือของเสี่ยเบิ้มก็สะบัดใส่หน้าของหล่อนเสียงดังฉาด ปรามว่าอย่ายุ่ง ทำให้คำแก้วจำต้องนิ่งอยู่ในอาการสะกดเก็บความโกรธ กัดฟันมองเสี่ยเบิ้มเดินกลับเข้าไปในแค้มป์เพื่อจัดการกับน้อยหน่าโรมได้โอกาสก็ไม่รอรี่ เขาปรี่ออกมาจากพุ่มไม้ที่ซ่อนดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆ“ใครวะ... ”ปังๆ ๆ ๆ ๆ ๆเสียงปืนอูซี่ในมือลูกสมุนเสี่ยเบิ้มสาดเข้ามาที่ร่างของกำนันโรม เขาสามารถตีลังกาหลบหลีกห่ากระสุนได้อย่างเหลือเชื่อ“รู้จักกูน้อยไปแล้ว”โรมกระเสือกกายหลบอยู่หลังขอนไม้ เมื่อสุดปลาย ของที่กำบังเขาก็ผงาดขึ้นมากราดปืนใส่ร่างสมุนเสี่ยเบิ้มทั้งห้าคนจนงายหลังตกไปยังซอกเหวที่อยู่ด้านหลังโรมพุ่งเข้ามาในแค้มป์คนงานซึ่งตอนนั้นมีเพียงไอ้เสี่ยเบิ้มกับน้อยหน่า เสี่ยเบิ้มกำลังจะแก้มัดให้น้อยหน่าเพื่ออุ้มขึ้นมาปลุกปล้ำขืนใจบนเตียงโรมยกเท้าขึ้นถีบหน้าต่างดังโครมแล้วพุ่งเข้าตัวเข้ามาในห้อง“ไอ้เสี่ยนรก... อย่าแตะต้องเมียกูแม้แต่เส้นผม”เสี่ยเบิ้มซึ่งตอนนั้นกำลังเงอะงะ ทำอะไรไม่ถูกเพราะเสียงปืนที่ดังขึ้นจากภายนอก“ตายเสียเถอะม