Mag-log inมาไกลแค่นี้ก็ดีแล้ว ฉันยิ้มให้กับตัวเองอีกครั้งที่กล้าตัดสินใจทำแบบนั้นออกไป ตัดความสัมพันธ์ตอนนี้ดีกว่ารอให้มันเรื้อรังกัดกินหัวใจให้เจ็บปวดไปมากกว่านี้“หิวมั้ย”“ไม่อ่ะเจ้ ขอบใจนะที่ขับรถไปรับ”“ไม่เป็นไร ถ้าไม่หิวก็ไปอาบน้ำเข้านอนซะ ดึกแล้วพรุ่งนี้ไปเรียนหรือเปล่า”“ไปสิ เอ่อ เจ้ เกี๊ยวอยากไปฝึกงานเมืองนอกอ่ะ เจ้ช่วยแนะนำหน่อยสิ”“ก็ไหนบอกไม่ไปไง เป็นอะไรเกี๊ยว มีเรื่องอะไรเล่าให้เจ้ฟังได้มั้ย” ฉันนิ่งและเงียบไปอีกครั้ง หลังจากบอกเลิกสัวฉันก็รีบเก็บผ้าแล้วโทรให้เจ๊หมวยมารับที่คอนโด เพราะคิดว่าสัวมันต้องบุกมาแน่ๆ แล้วตอนนี้ฉันกำลังหาวิธีไปจากที่นี่โอกาสประจวบเหมาะปีสี่ฉันต้องฝึกงานพอดีถ้าทำเรื่องทันฉันก็จะไปเมืองนอก“เกี๊ยวเลิกกับสัวแล้ว”“ไปคบกันตอนไหนวะ” ไม่อธิบายตั้งแต่แรกเลยทำให้เจ๊ตกใจ“สักพักแล้วล่ะ ช่างมันเหอะ เลิกแล้ว”“เลิกยังไงทำไมต้องหนี เราเลิกแล้วเขายอมเลิกหรือเปล่าทำไมไม่ลองคุยกันก่อน”“เจ้ ถ้าเราไม่ได้รับการปกป้องจากแฟนตัวเองเลยแบบนี้เจ้จะยังยอมคบคนแบบนี้อยู่มั้ย”“พูดยากนะ แต่ถ้าเป็นเจ้ก็คง ขอบาย”“เกี๊ยวรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าเลยอ่ะ ไอ้รักมันก็รักนะ แต่เกี๊ยวไม่อย
นั่งมองมือถือแล้วถอนหายใจอยู่พักใหญ่ ความคิดในหัวตีกันวุ่นวายไปหมด สถานะของเราตอนนี้คือเป็นแฟนกัน แล้วยังไงต่อ อยู่ๆ ก็มีผู้หญิงโผล่มาโดยที่ฉันไม่รู้เลยว่าเธอคนนั้นเป็นใคร แต่คนอื่นรู้ แล้วฉันก็รู้จากคนอื่นอีกที ฉันรู้สึกแย่มากๆ กับเรื่องนี้ จะหนีต่อไปก็คงไม่รอดเพราะสัวคงไม่ปล่อยไว้แน่ตี๊ดครืด ครืดพอเปิดเครื่องเสียงแจ้งเตือนก็เด้งเข้ารัวๆ สายที่ไม่ได้รับ ร้อยกว่าสายเป็นตัวเลขสีแดงเห็นเด่นชัดอยู่ที่มุมด้านซ้าย นั่นไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเลยเชื่อมั้ย อาการฉันค่อนข้างหนักพอสมควรเกิดเรื่องแบบนี้ยิ่งทำให้รู้ใจตัวเอง ฉันก็รักสัวมากเหมือนกันครืด ครืดมือถือในมือสั่นเตือนว่ามีสายโทรเข้า รูปภาพแจ้งเตือนหน้าจอของปลายสายทำให้ฉันลังเลอีกครั้ง“อือ” สิ่งที่ฉันทำระหว่างยกโทรศัพท์แนบหูคือจิกเล็บลงบนเนื้อต้นขาของตัวเอง ให้รู้สึกตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาเตือนสติตัวเองว่านี่คือเรื่องจริง“ขึ้นไปหาได้มั้ย ตอนนี้อยู่ข้างล่าง” ฉันรีบลุกจากโซฟาแล้วเดินไปเปิดประตูกระจกหลังห้องชะโงกหน้าลงไปมองข้างล่างทันที รถเจ้าสัวจอดอยู่ข้างล่าง ข้างๆ นั้นมีเจ้าของรถยืนมองขึ้นมาด้านบนนั่นทำให้ฉันรีบเดินเข้าห้องแล้วปิดประ
“กลัวเขาไม่รู้หรือไงว่าเราเป็นแฟนกัน” ฉันเบะปากแล้วก้มมองชุดที่ตัวเองใส่เพราะมันบังเอิญโทนสีเดียวกับเสื้อเจ้าสัว“ก็มันมีแค่สีนั้น”“เกี๊ยว ดีกันได้แล้ว กูมีแค่มึงจริงๆ”“แล้วนี่ยังไม่ดีหรือไง ให้ตามมาด้วยเนี่ยเรียกว่าดีได้หรือยัง”“หงุดหงิดไรวะ เมนส์มาหรือไง พูดดีๆ ก็ได้ วันนี้อยากได้อะไรเต็มที่พี่เลี้ยงเองน้อง”“แน่ใจ”“นี่ใคร”ฉันเริ่มยิ้มออก ไม่ใช่เพราะผู้ชายเอาเงินมาล่อหลอกหรอกนะ ที่ยิ้มก็เพราะความหน้ามึนของมันต่างหาก ถ้าไม่ได้คบกับสัวฉันก็ยังนึกไม่ออกเลยว่าแฟนในอนาคตหน้าตาจะเป็นยังไง เพราะแต่ละคนที่เข้ามาถูกเจ้าสัวกันท่าออกไปหมด ชีวิต น่าสงสารสิ้นดีร้านแรกที่ถูกดึงเข้าไปคือร้านชั้นใน ไม่ใช่ฉันที่เป็นคนดึง“เลือก”“กูไม่อยากได้ ของกูยังมีอยู่”“กูอยากได้แบบนั้น” มันชี้นิ้วไปที่ชั้นลูกไม้สีแดงเพลิง “ไอ้บ้า!”“ทำไม”“มึงเริ่มรู้สึกอยากใส่ชั้นในผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่ มีอะไรปรึกษากูได้นะสัว กูไม่โกรธถ้ามึงจะเปลี่ยนใจไปชอบเพศเดียวกัน LGBTQ มีเยอะไปน่ารักดี ไม่ต้องกลัวกูเสียใจนะ กูโอเค”“เป็นตุเป็นตะ ไม่ได้อยากใส่เอง กูจะให้มึงซื้อไปใส่” ฉันรีบส่ายหน้ารัวๆ ใส่แบบนั้นนอนกับมันทุกคืนก
“หยุดพูดมากแล้วถอยออกไปสักที”“โอเค ก็ได้ กูยอมทุกอย่างแล้ว” เจ้าสัวยกมือขึ้นทั้งสองข้างแล้วถอยหลังก้มไปหยิบผ้าขนหนูยื่นให้ฉัน“กูจะไม่คุยกับมึงสองเดือน” ฉันยื่นมือไปดึงผ้าขนหนูจากมือของเจ้าสัวแล้วรีบเอาพันรอบตัวเดินออกจากห้องน้ำทันที“จะไปไหน กูขอโทษ” เจ้าสัวยังเดินตามไม่ปล่อยให้ฉันเป็นอิสระ“ง่ายไปมั้ย ถ้าจะหวังฟันหาคนอื่นแก้ขัดก็ได้”“เกี๊ยวกูจริงจัง”“จริงจังกับหวังฟันมึงไปคิดมาว่าข้อไหนสำคัญกับมึง”“กูหวังทั้งสองอย่างนั่นแหละ ทั้งอยากฟันแล้วก็จริงจังกับมึงมากด้วย จะโกรธก็โกรธ หายโกรธแล้วค่อยคุยกับกูก็ได้เพราะยังไงกูก็ยืนยันว่าอยากฟันมึง”“ไอ้สัว”“เรียกทำไม อยากรู้อะไรอีก”“เด็กเปรต”“เออ ด่าอีกกูชอบ ด่าเลย” ลมหายใจฟึดฟัดของฉันไม่ทำให้มันกลัวได้เลยหรือไง หน้าด้านหน้ามึนเกินเบอร์มาก ฉันขี้เกียจต่อปากต่อคำก็เลยหันหลังเดินเข้าห้องน้ำอีกครั้ง คราวนี้ปิดประตูเสียงดังปัง!เพื่อบ่งบอกว่าไม่พอใจที่สุดฉันใช้เวลาอาบน้ำเกือบครึ่งชั่วโมง ที่จริงเสร็จนานแล้วแหละแต่ยังไม่อยากออกมาพอออกมาแล้วชะโงกหน้าไปมองก็ยังเห็นว่าไอ้ตัวดียังไม่นอน แสงไฟจากมือถือยังส่องหน้าอยู่“อาบน้ำนานจังวะ”“เรื่องของกู
หลายสัปดาห์ต่อมา“เฮือก!”“สัว สัว เป็นอะไร สัวตื่น ตื่น”“เกี๊ยว กูฝันร้ายอีกแล้ว” ฉันเชื่อแล้วฉันก็ตกใจมากที่เห็นมันเป็นแบบนี้“มึงจะนอนคนเดียวไม่ได้เลยหรือไง”“มึงคิดว่าไง ทุกครั้งที่กูนอนคนเดียวมันก็เป็นแบบนี้ตลอดเลย” ใบหน้าเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อน้ำเสียงตื่นกลัวก็พอบอกได้แล้วว่าเป็นไปตามอย่างที่มันพูด“ทีแรกกูจะไม่กลับมา”“ถ้ามึงไม่กลับมากูก็คงไม่ได้นอนทั้งคืน สะดุ้งตื่นอยู่แบบนี้”“เรื่องมันก็นานมากแล้ว มึงยังไม่ลืมอีกเหรอ”“มันอยู่ในใจกู ฝังไปแล้วมั้งแต่พออยู่กับมึงกลับไม่เป็นอะไรเลย” เพราะแบบนี้หรือเปล่ามันถึงขาดฉันไม่ได้ตามติดยิ่งกว่าเงา“ถ้าวันนึง เราต้องเลิกกัน มึงจะอยู่ยังไง”“แล้วทำไมต้องเลิกวะ” มันทำเสียงหงุดหงิดใส่“ก็ไม่รู้ ถามเอาไว้ก่อนไง เผื่อมึงเข้าใจปะ อย่าหลับหูหลับตาดิสัว”“ก็คง แดกยาให้มันตายๆ ไป” ฉันเข้าใจสิ่งที่สัวเป็นอยู่ในตอนนี้ เหตุการณ์เลวร้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเด็กสิบขวบมันยากที่จะลืมเลือน“บ้าหรือไง ป๊าม๊าเสียใจแย่เลย”“ป๊ากับม๊าคงดีใจมากกว่าที่ไม่เห็นกูทรมานอีก”เหตุการณ์คืนนั้นเจ้าสัวจำมันได้ดี คืนวันเกิดเหตุในห้องนอนชั้นบน เป็นวันพายุเข้า ฝนตก ลมแรง
กิจกรรมไม่ได้ติดขัดดำเนินต่อไปได้เรื่อยๆ จนเสร็จสิ้นภารกิจที่พวกเราตั้งใจเอาไว้ พี่เคสเป็นรุ่นพี่ที่มืออาชีพมาก บรีฟน้องๆ เก่งและทำให้เรื่องร้ายที่พวกเราพบเจอบรรเทาลงจนเราโฟกัสแค่เรื่องงาน“พี่เกี๊ยว คิดว่าพี่แคทจะเอาคืนเรามั้ยคะ”“เรื่องที่พี่แคททำ มันเรื่องใหญ่มากนะ”แล้วตอนนี้พวกเราก็อยู่ในห้องประชุมของมหาวิทยาลัย เรื่องมันไม่ได้จบแค่นั้น ผู้ปกครองของน้องน้ำและน้องๆ ที่ในคืนนั้นร่วมชะตากรรมด้วยกันในป่าไม่ยอมความและจบเรื่องง่ายๆ ส่วนฉันป๊าของเจ้าสัวส่งเลขาส่วนตัวและทนายความมาจัดการเรื่องนี้ให้ สุดวีไอพีจนอธิการบดีต้องเข้าร่วมตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองฉันอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่และรุ่นน้องที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นรุ่นพี่ในอนาคต ตัดเรื่องส่วนตัวออกไปแล้วกัน ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ก็ไม่ควรเอาเรื่องความปลอดภัยมาล้อเล่นกันแบบนี้ กฎมีไว้ให้รักษา ถ้าเกิดคืนนั้นฉันกับน้องๆ เป็นอะไรไปขึ้นมาอีพี่แคทจะรับผิดชอบยังไงไหว“น้ำได้ข่าวมาว่า ผู้ปกครองของพี่แคทไม่มีใครมาเลยค่ะ”“ติดธุระหรือเปล่า” ที่ต้องถามเพราะป๊าเจ้าสัวก็ติดธุระเหมือนกันแต่ส่งทีมงานมืออาชีพมาแทน“คง







