ความวุ่นวายในลอนดอน
ในที่สุด รถมาก็เดินทางมาถึงลอนดอน เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและเสียงอึกทึกครึกโครม เมรี่ลงจากรถม้าที่สถานีรถม้า เธอรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความจอแจของผู้คน ตึกรามบ้านช่องที่สูงตระหง่าน และร้านค้าที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง "นี่สินะลอนดอน" เมรี่พึมพำกับตัวเอง เธอสูดหายใจลึกๆ รับกลิ่นควันถ่านหินและเสียงวุ่นวายของเมืองเข้ามาเต็มปอด นี่คือเมืองที่พี่ชายของเธออยู่! แต่ความตื่นเต้นก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวล เมื่อเธอตระหนักว่าลอนดอนนั้นกว้างใหญ่เกินกว่าที่เธอจะจินตนาการ และการตามหาพี่ชายในเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนนับล้านเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย "ฉันจะเริ่มต้นจากตรงไหนดีนะ?" เมรี่พึมพำ เธอหยิบจดหมายของอเล็กซานเดอร์ออกมาอีกครั้ง มันระบุเพียงแค่ว่าเขากำลังสืบคดีลักพาตัวในลอนดอน แต่ไม่ได้บอกที่อยู่ หรือรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม เมรี่เดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยผู้คน เธอพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับคดีลักพาตัว แต่ก็ไม่มีใครรู้เรื่องอะไรเลย "ขอโทษนะคะ คุณพอจะทราบไหมว่ามีคดีลักพาตัวเกิดขึ้นในลอนดอนบ้างไหมคะ?" เมรี่ถามชายสูงอายุคนหนึ่งที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองเมรี่ด้วยความประหลาดใจ "หนูน้อย มีคดีลักพาตัวเกิดขึ้นบ่อยจะตายไปในเมืองนี้ เจ้ากำลังมองหาคดีไหนกันล่ะ?" เมรี่ถอนหายใจ "หนูไม่ทราบรายละเอียดเลยค่ะ รู้แค่ว่าเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดีมีสกุล" ชายคนนั้นส่ายหน้า "มีหลายคดีเหลือเกิน คงไม่มีใครจำได้หรอก" เมรี่รู้สึกท้อแท้เล็กน้อย เธอเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงบริเวณที่ดูเหมือนจะเป็นสำนักงานตำรวจ เธอตัดสินใจที่จะเข้าไปสอบถามข้อมูล "ขอโทษนะคะ" เมรี่กล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นั่งอยู่หลังโต๊ะ "ฉันกำลังตามหาพี่ชายของฉันค่ะ เขาเป็นนักสืบชื่ออเล็กซานเดอร์ แบล็ควู้ด เขาอยู่ที่นี่ไหมคะ?" เจ้าหน้าที่ตำรวจเงยหน้าขึ้นมองเมรี่อย่างไม่พอใจ "ที่นี่ไม่ใช่ศูนย์ข้อมูลบุคคลนะหนูน้อย ถ้าไม่มีธุระอะไร ก็ออกไปซะ!" เมรี่รู้สึกผิดหวัง แต่ก็ไม่ยอมแพ้ เธอเดินออกมาจากสำนักงานตำรวจ และคิดหาวิธีอื่น "นักสืบที่ดีต้องไม่ยอมแพ้" เธอพึมพำกับตัวเอง "ต้องหาเบาะแสจากจุดที่คนอื่นไม่คิดจะหา" เมรี่เริ่มเดินสำรวจรอบๆ สำนักงานตำรวจ เธอสังเกตเห็นประกาศจับอาชญากรจำนวนมากที่ติดอยู่บนกระดานประกาศ และเธอก็สังเกตเห็นประกาศฉบับหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของเธอเป็นพิเศษ "ประกาศตามหาตัว มิสซิสเอมิลี่ ฮาร์ดวู้ด บุตรสาวของผู้ดีมีสกุล ผู้หายสาบสูญไปจากคฤหาสน์ของบิดาเมื่อหนึ่งเดือนก่อน มีรางวัลนำจับจำนวนมากสำหรับผู้ที่ให้เบาะแส" เมรี่อ่านประกาศนั้นอย่างละเอียด เธอจำได้ว่าอเล็กซานเดอร์บอกว่าเขากำลังสืบคดีลักพาตัวในลอนดอน นี่อาจจะเป็นคดีนั้น! "คุณป้าคะ" เมรี่หันไปถามหญิงชราคนหนึ่งที่กำลังกวาดถนนอยู่ใกล้ๆ "คุณป้าพอจะทราบเรื่องราวเกี่ยวกับคดีการหายตัวไปของมิสซิสเอมิลี่ ฮาร์ดวู้ดบ้างไหมคะ?" หญิงชราหยุดกวาดถนน "อ๋อ! คดีนั้นน่ะหรือ! เป็นเรื่องที่น่าเศร้าจริงๆ นะคุณหนู ครอบครัวฮาร์ดวู้ดเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงและร่ำรวยมาก แต่จู่ๆ บุตรสาวคนเดียวก็หายตัวไปอย่างลึกลับ ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอหายไปไหน" "แล้วคุณป้าพอจะทราบเบาะแสอะไรบ้างไหมคะ?" เมรี่ถามด้วยความกระตือรือร้น "อืม...เท่าที่ฉันได้ยินมานะ" หญิงชราคิดอยู่ครู่หนึ่ง "มีข่าวลือว่ามิสซิสฮาร์ดวู้ดแอบมีความสัมพันธ์กับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในชนชั้นเดียวกันน่ะสิ บางคนก็ว่าเธอหนีตามเขาไปแล้ว แต่บางคนก็ว่าเธอถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่" "แล้วตำรวจว่ายังไงบ้างคะ?" "ตำรวจไม่สามารถหาเบาะแสอะไรได้เลยน่ะสิคุณหนู" หญิงชราถอนหายใจ "พวกเขาบอกว่าคดีนี้ซับซ้อนมาก และมีหลายอย่างที่ไม่ตรงไปตรงมา" เมรี่รู้สึกว่าเธอเจอสิ่งที่กำลังมองหาแล้ว นี่ต้องเป็นคดีของอเล็กซานเดอร์แน่ๆ! เธอต้องไปที่คฤหาสน์ของตระกูลฮาร์ดวู้ด เพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม คฤหาสน์ฮาร์ดวู้ด: ความลับที่ซ่อนอยู่ เมรี่ใช้เงินที่เหลือบางส่วนนั่งรถม้าไปยังคฤหาสน์ฮาร์ดวู้ด คฤหาสน์ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางสวนสวยงาม แต่กลับปกคลุมไปด้วยบรรยากาศอันเงียบงันและอึมครึม เมรี่ลงจากรถม้า และเดินตรงไปที่ประตูรั้วเหล็กขนาดใหญ่ เธอเคาะประตูอย่างสุภาพ ประตูเปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นชายชราผู้หนึ่งที่ดูเหมือนเป็นคนเฝ้าประตู "มีอะไรหรือครับคุณหนู?" ชายคนนั้นถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ "ฉันชื่อเมรี่ แบล็ควู้ดค่ะ" เมรี่ตอบ "ฉันมาที่นี่เพื่อสืบสวนคดีการหายตัวไปของมิสซิสเอมิลี่ ฮาร์ดวู้ดค่ะ" ชายคนเฝ้าประตูเบิกตากว้าง "คุณหนูเป็นใครกัน? ตำรวจไม่เห็นจะบอกว่ามีนักสืบหญิงคนไหนจะมาที่นี่เลยนี่ครับ" "ฉันเป็นนักสืบอิสระค่ะ" เมรี่ตอบอย่างมั่นใจ "ฉันได้รับข้อมูลบางอย่างที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อคดีนี้" ชายคนเฝ้าประตูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมเปิดประตูให้เมรี่เข้าไป "ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดกำลังรออยู่ที่ห้องรับรองครับ" ชายคนเฝ้าประตูกล่าว "แต่ผมไม่แน่ใจว่าท่านจะยอมพูดคุยกับคุณหนูนะ" เมรี่เดินเข้าไปในคฤหาสน์ เธอรู้สึกได้ถึงบรรยากาศอันหนักอึ้งของความเศร้าโศกเสียใจและความสิ้นหวัง เธอเดินไปตามทางเดินที่ประดับด้วยภาพวาดและรูปปั้นอันวิจิตรตระการตา ก่อนจะมาถึงห้องรับรองที่โอ่อ่า "ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดคะ" เมรี่กล่าวเมื่อเห็นชายสูงอายุผู้มีใบหน้าเศร้าสร้อยนั่งอยู่ที่โซฟา ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดเงยหน้าขึ้นมองเมรี่ด้วยความประหลาดใจ "เจ้าเป็นใครกัน? ฉันไม่ได้รับแจ้งว่าจะมีนักสืบหญิงคนไหนมาที่นี่" "ฉันชื่อเมรี่ แบล็ควู้ดค่ะท่านลอร์ด" เมรี่ตอบอย่างสุภาพ "ฉันเป็นนักสืบอิสระ และฉันต้องการช่วยท่านไขคดีการหายตัวไปของบุตรสาวของท่านค่ะ" ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดถอนหายใจ "มันไม่มีประโยชน์หรอกหนูน้อย ตำรวจทุกคนก็ไม่สามารถหาเบาะแสอะไรได้เลย บุตรสาวของฉันหายไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับถูกกลืนหายไปในอากาศ" "ท่านลอร์ดคะ" เมรี่กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "หนูเชื่อว่าไม่มีคดีไหนที่ไม่มีทางไขได้ค่ะ หากท่านยอมให้หนูช่วย หนูจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อนำบุตรสาวของท่านกลับคืนมา" ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดมองเมรี่ด้วยสายตาพิจารณา เขาเห็นประกายแห่งความมุ่งมั่นและความฉลาดเฉลียวในดวงตาของเธอ "เจ้ามีความเชื่อมั่นในตัวเองมากทีเดียว" ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดกล่าว "แต่คดีนี้ซับซ้อนกว่าที่เจ้าคิดนัก มีคนมากมายที่อยากให้บุตรสาวของฉันหายไป" "ท่านหมายถึงอะไรคะ?" เมรี่ถาม "บุตรสาวของฉันเอมิลี่ เป็นคนที่มีความสุขุมรอบคอบ และมีปัญญาหลักแหลม เธอไม่เคยทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่เธอกลับไปตกหลุมรักกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในชนชั้นเดียวกัน เขาชื่อ จอร์จ เป็นจิตรกรข้างถนนผู้ยากไร้" ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดเล่าด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด "ฉันห้ามปรามเธอหลายครั้ง แต่เธอก็ไม่เคยฟังเลย" "แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนคะ?" เมรี่ถาม "ไม่มีใครรู้" ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดตอบ "เขาหายตัวไปพร้อมกับเอมิลี่ ไม่มีใครพบเขาเลย" "แล้วตำรวจไม่สงสัยเขาหรือคะ?" "พวกเขาไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่จะกล่าวหาเขา" ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดกล่าว "และเขาก็เป็นเพียงจิตรกรข้างถนน จะไปทำอะไรบุตรสาวของฉันได้" "แต่ในทางกลับกัน เขาก็เป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับเอมิลี่ใช่ไหมคะ?" เมรี่ถาม ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดพยักหน้า "ใช่...แต่ฉันไม่คิดว่าเขาจะทำร้ายเอมิลี่นะ เขารักเอมิลี่มาก" เมรี่รู้สึกว่าเธอเจอเบาะแสสำคัญแล้ว สิ่งที่ตำรวจมองข้ามไปคือความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนี้ "ท่านลอร์ดคะ หนูขออนุญาตสำรวจห้องของมิสซิสเอมิลี่ได้ไหมคะ" เมรี่ถาม ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า "ตามสบายเลยหนูน้อย แต่ระวังอย่าให้ข้าวของเสียหายนะ" เมรี่เดินไปที่ห้องนอนของเอมิลี่ มันเป็นห้องที่โอ่อ่าแต่กลับดูว่างเปล่าและอ้างว้าง เมรี่เดินสำรวจทุกซอกทุกมุม เธอสังเกตเห็นว่าข้าวของหลายอย่างถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่เข้าที่เข้าทาง เช่น รูปภาพที่พลิกคว่ำบนโต๊ะเครื่องแป้ง และหนังสือเล่มหนึ่งที่เปิดค้างไว้บนเตียง เมรี่หยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมา มันคือหนังสือรวมบทกวีรัก เธอเปิดอ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงหน้าหนึ่งที่ถูกขีดเส้นใต้ไว้หลายครั้ง "...แม้เส้นทางจะมืดมิดเพียงใด หากเรามีแสงสว่างในใจ เราก็จะพบทางออกเสมอ..." เมรี่รู้สึกว่านี่ไม่ใช่แค่บทกวีธรรมดา แต่เป็นข้อความลับ! เธอสังเกตเห็นว่ามีตัวอักษรบางตัวในบทกวีที่ถูกเน้นหนักเป็นพิเศษ เมื่อเธอเรียงร้อยตัวอักษรเหล่านั้นเข้าด้วยกัน เธอก็ได้คำว่า "ใต้ต้นหลิว" เมรี่เบิกตากว้าง 'ใต้ต้นหลิว!' นี่อาจจะเป็นสถานที่นัดพบของเอมิลี่กับจอร์จ หรืออาจจะเป็นที่ซ่อนอะไรบางอย่าง! เธอหันไปมองออกไปนอกหน้าต่าง และเห็นต้นหลิวต้นใหญ่ที่ยืนต้นอยู่ริมบ่อน้ำในสวนขนาดใหญ่ "ฉันต้องไปที่นั่น" เมรี่พึมพำกับตัวเอง เมรี่เดินลงไปในสวน เธอเดินตรงไปยังต้นหลิวต้นนั้น มันเป็นต้นหลิวที่เก่าแก่และมีกิ่งก้านสาขาที่ห้อยระย้าลงมาปกคลุมราวกับม่าน เธอเดินเข้าไปใต้ต้นหลิว สัมผัสได้ถึงความเย็นสบายและเงียบสงบ เธอสังเกตเห็นว่ามีรอยเท้าเล็กๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่บนพื้นดินที่ชื้นแฉะใต้ต้นหลิว รอยเท้านั้นดูคุ้นตา...เหมือนกับรอยเท้าของรองเท้าบูทขนาดเล็กที่เธอเคยเห็นมาก่อน เมรี่ก้มลงมองใกล้ๆ เธอเห็นรอยบุ๋มเล็กๆ ที่ปลายเท้าของรอยเท้าเหล่านั้น ไม่ผิดแน่! นี่คือรอยเท้าของ ลูซี่! เด็กสาวที่เธอเพิ่งช่วยไขคดีขโมยแหวน "เป็นไปได้อย่างไร?" เมรี่พึมพำด้วยความตกใจ "ลูซี่มาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร?" เธอเดินตามรอยเท้าเหล่านั้นไปเรื่อยๆ รอยเท้าพาเธอไปยังพุ่มไม้หนาทึบที่อยู่ไม่ไกลจากต้นหลิว เมรี่พยายามแหวกพุ่มไม้เข้าไป และเธอก็พบกับทางเข้าเล็กๆ ที่นำไปสู่โพรงใต้ดินที่มืดมิด "นี่มันอะไรกัน?" เมรี่กระซิบ เธอรู้สึกถึงความตื่นเต้นและความกลัวที่ผสมปนเปกัน เธอหยิบไม้ขีดไฟออกมาจากกระเป๋า จุดไฟ แล้วค่อยๆ ก้าวเข้าไปในโพรงใต้ดิน กลิ่นดินชื้นและอากาศที่อับชื้นปะทะเข้ากับโสตประสาทของเธอ โพรงนั้นนำไปสู่ห้องลับเล็กๆ ที่ถูกแกะสลักจากหินธรรมชาติ ภายในห้องมีของใช้ส่วนตัวเล็กน้อย และที่สำคัญที่สุดคือ มีจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะหินเล็กๆ เมรี่หยิบจดหมายขึ้นมา มันเป็นลายมือของเอมิลี่! "...ถึงจอร์จที่รัก เมื่อเจ้าอ่านจดหมายฉบับนี้ ข้าคงจากไปแล้ว ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องเป็นห่วง ข้ารู้ว่าพ่อของข้าจะไม่มีวันยอมรับความรักของเรา และข้าก็ทนอยู่ในสภาพนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว ข้าตัดสินใจที่จะหนีไปจากที่นี่ เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเจ้าที่ไอร์แลนด์ ข้าหวังว่าเจ้าจะตามมาหาข้าที่นั่น..." เมรี่อ่านจดหมายจนจบ เธอรู้สึกประหลาดใจ เอมิลี่ไม่ได้ถูกลักพาตัว! เธอหนีตามชายคนรักไปต่างหาก! และลูซี่...ลูซี่ก็คงเป็นคนนำจดหมายนี้มาทิ้งไว้ที่นี่ เพื่อให้จอร์จมาพบ เมรี่เดินกลับออกมาจากโพรงใต้ดิน เธอรู้สึกโล่งใจที่เอมิลี่ปลอดภัย แต่ก็รู้สึกกังวลว่าเธอจะอธิบายเรื่องนี้ให้ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดฟังได้อย่างไร ขณะที่เธอกำลังเดินกลับไปยังคฤหาสน์ จู่ๆ ก็มีมือคู่หนึ่งคว้าเข้าที่แขนของเธออย่างรวดเร็ว เมรี่หันไปมอง และพบกับชายร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่มุมรถม้าคนเดิม เขาไม่ได้สวมหมวกปีกกว้างอีกต่อไป เผยให้เห็นใบหน้าคมคาย ดวงตาที่คมกริบของเขาจ้องมองมาที่เธออย่างไม่วางตา "ดูเหมือนเจ้าจะไขปริศนาได้อย่างรวดเร็วเกินคาดนะ มิสแบล็ควู้ด" เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "หรือว่าเจ้ากำลังจะค้นพบความจริงบางอย่างที่ฉันไม่ต้องการให้ใครรู้?" เมรี่เบิกตากว้าง เธอตกใจจนพูดไม่ออก ชายคนนี้! เขาตามเธอมา! และเขารู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่! "คุณ...คุณเป็นใครกันคะ?" เมรี่ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ชายคนนั้นยิ้มมุมปาก "ผมชื่อ เอดิสัน เกรย์สัน มิสแบล็ควู้ด และผมคิดว่าเราจำเป็นต้องคุยกันเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้"รุ่งอรุณของลอนดอนมาถึงช้าๆ แสงสีส้มอ่อนๆ สาดส่องผ่านผืนฟ้าที่ยังคงมืดมิด เมรี่ เฟรเดอริค และเอดิสันนั่งประชุมกันอยู่ที่โต๊ะกลางบ้านพักลับของเอดิสัน แผนการที่จะเผชิญหน้ากับ เซอร์เรจินัลด์ แบล็กวูด และ 'เงาแห่งลอนดอน' ถูกวาดขึ้นมาอย่างละเอียดรอบคอบ"เซอร์เรจินัลด์มักจะใช้เวลาช่วงเช้าที่บ้านพักส่วนตัวของเขาในย่านเมย์แฟร์ครับ" เอดิสันอธิบายขณะชี้ไปยังจุดหนึ่งบนแผนที่ลอนดอนที่กางอยู่บนโต๊ะ "ที่นั่นมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมาก แต่ผมคิดว่าเราสามารถใช้จังหวะที่เขากำลังเดินทางไปทำงานเพื่อเข้าถึงตัวเขาได้"เฟรเดอริคพยักหน้า "เราต้องทำให้แน่ใจว่าเราจะมีหลักฐานเพียงพอที่จะมัดตัวเขาได้ เมรี่...เธอจำรายละเอียดเกี่ยวกับแก๊ส 'ควันสีม่วง' และ 'แก๊สควบคุมจิตใจ' ได้ดีแค่ไหน?"เมรี่หยิบสมุดบันทึกที่เธอแอบนำออกมาจากโกดังออกมา "ฉันจดรายละเอียดทั้งหมดไว้ค่ะ สูตรเคมี วิธีการผลิต และผลกระทบต่อมนุษย์""ดีมากครับ" เอดิสันกล่าว "นี่คือหลักฐานสำคัญที่เราจะใช้ในการเปิดโปงเขา""แล้วอเล็กซานเดอร์ล่ะคะ?" เมรี่ถามด้วยความเป็นห่วง "เราจะหาเขาเจอได้อย่างไร?"เอดิสันถอนหายใจ "ผมคิดว่าอเล็กซานเดอร์อาจจะถูกควบคุมตัวไ
เรือลำเล็กของเอดิสันแล่นตัดผิวน้ำที่มืดมิดของแม่น้ำเทมส์ เสียงเครื่องยนต์ดังกระทบกับความเงียบของยามค่ำคืนที่ปกคลุมลอนดอน เมรี่นั่งอยู่ข้างเฟรเดอริค พยายามสำรวจบาดแผลและร่องรอยการถูกทรมานบนร่างกายของพี่ชาย เฟรเดอริคซูบผอมลงไปมาก ดวงตาของเขาลึกโหล แต่ก็ยังคงฉายแววความมุ่งมั่นที่ไม่เคยจางหาย"พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?" เมรี่กระซิบถาม น้ำเสียงของเธอสั่นเครือด้วยความเป็นห่วงเฟรเดอริคยิ้มจางๆ "ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกเมรี่ แค่เหนื่อยหน่อยเท่านั้น" เขาจับมือเมรี่เบาๆ "ไม่คิดเลยว่าเธอจะมาช่วยฉันถึงที่นี่""หนูจะไม่ทิ้งพี่ไว้แน่ค่ะ" เมรี่ตอบ "เราจะต้องหาอเล็กซานเดอร์ให้เจอ และเปิดโปงแผนการของ 'เงาแห่งลอนดอน' ให้ได้"เอดิสันซึ่งกำลังบังคับเรืออยู่ หันมามองพวกเขา "ผมคิดว่าเราปลอดภัยแล้วครับในตอนนี้ แต่เรายังวางใจไม่ได้ พวกนั้นจะตามล่าเราอย่างแน่นอน""คุณมีแผนจะไปไหนต่อคะคุณเอดิสัน?" เมรี่ถาม"ผมจะพาพวกคุณไปที่บ้านพักลับของผมครับ" เอดิสันตอบ "เป็นสถานที่ที่ปลอดภัย และไม่มีใครรู้จัก"เรือลำเล็กแล่นมาถึงท่าน้ำส่วนตัวแห่งหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้หนาทึบ เอดิสันผูกเรือไว้กับเสา แล้วพาเมรี่และเฟรเดอริ
เมื่อลงมาถึงด้านล่าง พวกเขาก็พบกับทางเดินแคบๆ ที่ทอดไปสู่ห้องขังหลายห้อง เสียงไอค่อกแค่กและเสียงครวญครางดังแว่วมาจากห้องขังบางห้อง"เฟรเดอริคอยู่ที่ไหนกันนะ?" เมรี่พึมพำพวกเขาเดินสำรวจไปทีละห้อง จนกระทั่งมาถึงห้องขังห้องหนึ่งที่อยู่สุดทางเดิน เมรี่มองลอดลูกกรงเข้าไป และเห็นชายร่างผอมบางคนหนึ่งนอนซมอยู่บนพื้น ใบหน้าของเขาซูบผอมและซีดเซียว แต่เมรี่จำได้ทันที...นั่นคือเฟรเดอริค!"เฟรเดอริค!" เมรี่กระซิบเรียก เสียงของเธอสั่นเครือด้วยความดีใจและโล่งใจเฟรเดอริคเงยหน้าขึ้นมองเมรี่ ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจและไม่เชื่อ"เมรี่! เป็นเธอจริงๆ หรือนี่!" เฟรเดอริคถาม เสียงของเขาแหบพร่าและอ่อนแรง "เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?""ฉันมาช่วยพี่ไงคะ!" เมรี่ตอบ น้ำตาคลอเบ้า "พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?""ฉันไม่เป็นไร" เฟรเดอริคตอบ "แต่ฉันไม่คิดเลยว่าจะได้เจอเธอที่นี่" เขาเหลือบมองเอดิสัน "แล้วชายผู้นี้คือใคร?""เขาคือคุณเอดิสัน เกรย์สันค่ะพี่" เมรี่แนะนำ "เขาเป็นนักสืบ และเขาก็ช่วยหนูตามหาพี่ด้วยค่ะ"เอดิสันโค้งคำนับเล็กน้อย "ยินดีที่ได้รู้จักครับมิสเตอร์เฟรเดอริค""แล้วพวกเขากำลังจะทำอะไรกับพี่คะ
ลมหนาวพัดโชยมาปะทะใบหน้าของเมรี่ กลิ่นเค็มของน้ำทะเลและกลิ่นคาวปลาคละคลุ้งไปทั่วท่าเรือลอนดอน ในยามวิกาลเช่นนี้ ท่าเรือยังคงคึกคักไปด้วยแสงไฟจากเรือที่จอดเทียบท่าและเสียงเครื่องจักรที่ทำงาน เมรี่และเอดิสันยืนหลบอยู่ในมุมมืดของตรอกแคบๆ แห่งหนึ่ง สอดส่องสายตาไปยังโกดังเก่าที่ลอร์ดแอชตันบอกว่าเป็นที่คุมขังเฟรเดอริคโกดังหลังนั้นตั้งอยู่โดดเดี่ยวริมน้ำ ผนังอิฐสีเข้มดูเก่าแก่และทรุดโทรม หน้าต่างบางบานถูกปิดตายด้วยไม้กระดานผุๆ แต่บางบานก็เปิดแง้ม เผยให้เห็นแสงไฟสลัวๆ ที่ลอดออกมา เอดิสันก้มลงมองแผนที่ที่กางอยู่บนมือของเขา"ตามข้อมูลของลอร์ดแอชตัน โกดังแห่งนี้มีทางเข้าออกหลายทางครับ" เอดิสันกระซิบ "แต่ทางเข้าหลักถูกเฝ้าอย่างแน่นหนา เราจะต้องหาทางเข้าไปทางอื่น""แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเฟรเดอริคอยู่ที่ไหนในโกดังแห่งนี้คะ?" เมรี่ถาม ดวงตาของเธอกวาดมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง"เราจะต้องเข้าไปข้างใน และหาเบาะแสครับ" เอดิสันตอบ "ผมเชื่อว่าเฟรเดอริคจะต้องทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ให้เราได้ติดตาม"เสียงฝีเท้าของชายสองคนดังใกล้เข้ามา เมรี่และเอดิสันรีบซ่อนตัวอยู่หลังลังไม้ขนาดใหญ่ ชายสองคนนั้นแต่งกายด้วยเ
ความลับในห้องทำงานจังหวะที่ลอร์ดแอชตันกำลังให้ความสนใจกับแขกคนอื่นๆ เอดิสันก็ฉวยโอกาสพาเมรี่เข้าไปในห้องทำงานของเขาได้อย่างแนบเนียน ห้องทำงานโอ่อ่าและเต็มไปด้วยหนังสือและเอกสารมากมาย มีกลิ่นหนังและกระดาษเก่าๆ คลุ้งอยู่ในอากาศ"เรามีเวลาน้อยมากครับมิสแบล็ควู้ด" เอดิสันกล่าว "เราต้องหาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ 'เงาแห่งลอนดอน' และข้อมูลเกี่ยวกับการหายตัวไปของมิสซิสอลิซาเบธให้ได้มากที่สุด"เมรี่พยักหน้า เธอเริ่มค้นหาเอกสารบนโต๊ะทำงาน ขณะที่เอดิสันกำลังค้นหาในตู้หนังสือและลิ้นชักต่างๆ"คุณเอดิสันคะ หนูเจออะไรบางอย่างค่ะ!" เมรี่กระซิบ เธอหยิบสมุดบันทึกเล่มหนึ่งขึ้นมา มันเป็นสมุดบันทึกส่วนตัวของลอร์ดแอชตัน"คุณเห็นอะไรบ้าง?" เอดิสันถาม"เขาเขียนบันทึกเกี่ยวกับการทดลองบางอย่างค่ะ" เมรี่ตอบ "มันเป็นสูตรเคมีที่ซับซ้อนมาก และมีคำว่า 'ควันสีม่วง' และ 'หายตัวไป' ปรากฏอยู่หลายครั้ง"เอดิสันเดินเข้ามาดูสมุดบันทึก เขาสังเกตเห็นว่ามีบางหน้าถูกฉีกออกไปอย่างระมัดระวัง"ดูเหมือนว่าลอร์ดแอชตันกำลังทำการทดลองอะไรบางอย่างที่ผิดกฎหมายนะครับ" เอดิสันกล่าว "และผมก็เชื่อว่ามันเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของภรรยาของเข
เสียงเพลงบรรเลงเบาๆ คลอเคล้าไปกับเสียงสนทนาของผู้คนในงานเลี้ยงที่คฤหาสน์แอชตันยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย เมรี่พยายามรักษากิริยาท่าทางที่สง่างาม แม้ภายในใจจะเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะไขปริศนาการหายตัวไปของมิสซิสอลิซาเบธ แบล็ควู้ด ภรรยาของลอร์ดแอชตัน เธอรู้สึกว่านี่คือเบาะแสสำคัญที่เชื่อมโยงไปถึงเฟรเดอริค และ 'เงาแห่งลอนดอน' ได้"คุณเอดิสันคะ ฉันจะหาข้อมูลเกี่ยวกับการหายตัวไปของมิสซิสอลิซาเบธได้จากที่ไหนคะ?" เมรี่กระซิบถามเอดิสันขณะที่พวกเขากำลังยืนอยู่ใกล้กับภาพวาดของมิสซิสอลิซาเบธเอดิสันมองไปรอบๆ ก่อนจะตอบด้วยเสียงแผ่วเบา "ดูเหมือนว่าเธอจะถูกกล่าวถึงน้อยมากในงานเลี้ยงนี้ครับ ไม่มีใครอยากพูดถึงเรื่องนี้เลย" เขาเหลือบมองไปที่ลอร์ดแอชตัน "ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนัก หากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ 'เงาแห่งลอนดอน' จริงๆ""แล้วเราจะทำอย่างไรกันดีคะ?" เมรี่ถาม"เราจะต้องแยกกันสืบครับ มิสแบล็ควู้ด" เอดิสันกล่าว "ผมจะพยายามหาทางเข้าไปในห้องทำงานของลอร์ดแอชตัน ส่วนคุณ...ลองหาโอกาสพูดคุยกับคนรับใช้เก่าๆ ที่นี่ดูสิครับ พวกเขาอาจจะรู้เรื่องราวบางอย่างที่ไม่มีใครรู้"เมรี่พยักหน้า เธอเข้าใจดีถึ