Share

ความวุ่นวาย

last update Dernière mise à jour: 2025-06-06 22:14:33

ความวุ่นวายในลอนดอน

ในที่สุด รถมาก็เดินทางมาถึงลอนดอน เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและเสียงอึกทึกครึกโครม เมรี่ลงจากรถม้าที่สถานีรถม้า เธอรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความจอแจของผู้คน ตึกรามบ้านช่องที่สูงตระหง่าน และร้านค้าที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง

"นี่สินะลอนดอน" เมรี่พึมพำกับตัวเอง เธอสูดหายใจลึกๆ รับกลิ่นควันถ่านหินและเสียงวุ่นวายของเมืองเข้ามาเต็มปอด นี่คือเมืองที่พี่ชายของเธออยู่!

แต่ความตื่นเต้นก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวล เมื่อเธอตระหนักว่าลอนดอนนั้นกว้างใหญ่เกินกว่าที่เธอจะจินตนาการ และการตามหาพี่ชายในเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนนับล้านเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

"ฉันจะเริ่มต้นจากตรงไหนดีนะ?" เมรี่พึมพำ เธอหยิบจดหมายของอเล็กซานเดอร์ออกมาอีกครั้ง มันระบุเพียงแค่ว่าเขากำลังสืบคดีลักพาตัวในลอนดอน แต่ไม่ได้บอกที่อยู่ หรือรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม

เมรี่เดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยผู้คน เธอพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับคดีลักพาตัว แต่ก็ไม่มีใครรู้เรื่องอะไรเลย

"ขอโทษนะคะ คุณพอจะทราบไหมว่ามีคดีลักพาตัวเกิดขึ้นในลอนดอนบ้างไหมคะ?" เมรี่ถามชายสูงอายุคนหนึ่งที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่

ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองเมรี่ด้วยความประหลาดใจ "หนูน้อย มีคดีลักพาตัวเกิดขึ้นบ่อยจะตายไปในเมืองนี้ เจ้ากำลังมองหาคดีไหนกันล่ะ?"

เมรี่ถอนหายใจ "หนูไม่ทราบรายละเอียดเลยค่ะ รู้แค่ว่าเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดีมีสกุล"

ชายคนนั้นส่ายหน้า "มีหลายคดีเหลือเกิน คงไม่มีใครจำได้หรอก"

เมรี่รู้สึกท้อแท้เล็กน้อย เธอเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงบริเวณที่ดูเหมือนจะเป็นสำนักงานตำรวจ เธอตัดสินใจที่จะเข้าไปสอบถามข้อมูล

"ขอโทษนะคะ" เมรี่กล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นั่งอยู่หลังโต๊ะ "ฉันกำลังตามหาพี่ชายของฉันค่ะ เขาเป็นนักสืบชื่ออเล็กซานเดอร์ แบล็ควู้ด เขาอยู่ที่นี่ไหมคะ?"

เจ้าหน้าที่ตำรวจเงยหน้าขึ้นมองเมรี่อย่างไม่พอใจ "ที่นี่ไม่ใช่ศูนย์ข้อมูลบุคคลนะหนูน้อย ถ้าไม่มีธุระอะไร ก็ออกไปซะ!"

เมรี่รู้สึกผิดหวัง แต่ก็ไม่ยอมแพ้ เธอเดินออกมาจากสำนักงานตำรวจ และคิดหาวิธีอื่น

"นักสืบที่ดีต้องไม่ยอมแพ้" เธอพึมพำกับตัวเอง "ต้องหาเบาะแสจากจุดที่คนอื่นไม่คิดจะหา"

เมรี่เริ่มเดินสำรวจรอบๆ สำนักงานตำรวจ เธอสังเกตเห็นประกาศจับอาชญากรจำนวนมากที่ติดอยู่บนกระดานประกาศ และเธอก็สังเกตเห็นประกาศฉบับหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของเธอเป็นพิเศษ

"ประกาศตามหาตัว มิสซิสเอมิลี่ ฮาร์ดวู้ด บุตรสาวของผู้ดีมีสกุล ผู้หายสาบสูญไปจากคฤหาสน์ของบิดาเมื่อหนึ่งเดือนก่อน มีรางวัลนำจับจำนวนมากสำหรับผู้ที่ให้เบาะแส"

เมรี่อ่านประกาศนั้นอย่างละเอียด เธอจำได้ว่าอเล็กซานเดอร์บอกว่าเขากำลังสืบคดีลักพาตัวในลอนดอน นี่อาจจะเป็นคดีนั้น!

"คุณป้าคะ" เมรี่หันไปถามหญิงชราคนหนึ่งที่กำลังกวาดถนนอยู่ใกล้ๆ "คุณป้าพอจะทราบเรื่องราวเกี่ยวกับคดีการหายตัวไปของมิสซิสเอมิลี่ ฮาร์ดวู้ดบ้างไหมคะ?"

หญิงชราหยุดกวาดถนน "อ๋อ! คดีนั้นน่ะหรือ! เป็นเรื่องที่น่าเศร้าจริงๆ นะคุณหนู ครอบครัวฮาร์ดวู้ดเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงและร่ำรวยมาก แต่จู่ๆ บุตรสาวคนเดียวก็หายตัวไปอย่างลึกลับ ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอหายไปไหน"

"แล้วคุณป้าพอจะทราบเบาะแสอะไรบ้างไหมคะ?" เมรี่ถามด้วยความกระตือรือร้น

"อืม...เท่าที่ฉันได้ยินมานะ" หญิงชราคิดอยู่ครู่หนึ่ง "มีข่าวลือว่ามิสซิสฮาร์ดวู้ดแอบมีความสัมพันธ์กับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในชนชั้นเดียวกันน่ะสิ บางคนก็ว่าเธอหนีตามเขาไปแล้ว แต่บางคนก็ว่าเธอถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่"

"แล้วตำรวจว่ายังไงบ้างคะ?"

"ตำรวจไม่สามารถหาเบาะแสอะไรได้เลยน่ะสิคุณหนู" หญิงชราถอนหายใจ "พวกเขาบอกว่าคดีนี้ซับซ้อนมาก และมีหลายอย่างที่ไม่ตรงไปตรงมา"

เมรี่รู้สึกว่าเธอเจอสิ่งที่กำลังมองหาแล้ว นี่ต้องเป็นคดีของอเล็กซานเดอร์แน่ๆ! เธอต้องไปที่คฤหาสน์ของตระกูลฮาร์ดวู้ด เพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม

คฤหาสน์ฮาร์ดวู้ด: ความลับที่ซ่อนอยู่

เมรี่ใช้เงินที่เหลือบางส่วนนั่งรถม้าไปยังคฤหาสน์ฮาร์ดวู้ด คฤหาสน์ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางสวนสวยงาม แต่กลับปกคลุมไปด้วยบรรยากาศอันเงียบงันและอึมครึม เมรี่ลงจากรถม้า และเดินตรงไปที่ประตูรั้วเหล็กขนาดใหญ่

เธอเคาะประตูอย่างสุภาพ ประตูเปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นชายชราผู้หนึ่งที่ดูเหมือนเป็นคนเฝ้าประตู

"มีอะไรหรือครับคุณหนู?" ชายคนนั้นถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

"ฉันชื่อเมรี่ แบล็ควู้ดค่ะ" เมรี่ตอบ "ฉันมาที่นี่เพื่อสืบสวนคดีการหายตัวไปของมิสซิสเอมิลี่ ฮาร์ดวู้ดค่ะ"

ชายคนเฝ้าประตูเบิกตากว้าง "คุณหนูเป็นใครกัน? ตำรวจไม่เห็นจะบอกว่ามีนักสืบหญิงคนไหนจะมาที่นี่เลยนี่ครับ"

"ฉันเป็นนักสืบอิสระค่ะ" เมรี่ตอบอย่างมั่นใจ "ฉันได้รับข้อมูลบางอย่างที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อคดีนี้"

ชายคนเฝ้าประตูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมเปิดประตูให้เมรี่เข้าไป

"ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดกำลังรออยู่ที่ห้องรับรองครับ" ชายคนเฝ้าประตูกล่าว "แต่ผมไม่แน่ใจว่าท่านจะยอมพูดคุยกับคุณหนูนะ"

เมรี่เดินเข้าไปในคฤหาสน์ เธอรู้สึกได้ถึงบรรยากาศอันหนักอึ้งของความเศร้าโศกเสียใจและความสิ้นหวัง เธอเดินไปตามทางเดินที่ประดับด้วยภาพวาดและรูปปั้นอันวิจิตรตระการตา ก่อนจะมาถึงห้องรับรองที่โอ่อ่า

"ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดคะ" เมรี่กล่าวเมื่อเห็นชายสูงอายุผู้มีใบหน้าเศร้าสร้อยนั่งอยู่ที่โซฟา

ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดเงยหน้าขึ้นมองเมรี่ด้วยความประหลาดใจ "เจ้าเป็นใครกัน? ฉันไม่ได้รับแจ้งว่าจะมีนักสืบหญิงคนไหนมาที่นี่"

"ฉันชื่อเมรี่ แบล็ควู้ดค่ะท่านลอร์ด" เมรี่ตอบอย่างสุภาพ "ฉันเป็นนักสืบอิสระ และฉันต้องการช่วยท่านไขคดีการหายตัวไปของบุตรสาวของท่านค่ะ"

ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดถอนหายใจ "มันไม่มีประโยชน์หรอกหนูน้อย ตำรวจทุกคนก็ไม่สามารถหาเบาะแสอะไรได้เลย บุตรสาวของฉันหายไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับถูกกลืนหายไปในอากาศ"

"ท่านลอร์ดคะ" เมรี่กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "หนูเชื่อว่าไม่มีคดีไหนที่ไม่มีทางไขได้ค่ะ หากท่านยอมให้หนูช่วย หนูจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อนำบุตรสาวของท่านกลับคืนมา"

ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดมองเมรี่ด้วยสายตาพิจารณา เขาเห็นประกายแห่งความมุ่งมั่นและความฉลาดเฉลียวในดวงตาของเธอ

"เจ้ามีความเชื่อมั่นในตัวเองมากทีเดียว" ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดกล่าว "แต่คดีนี้ซับซ้อนกว่าที่เจ้าคิดนัก มีคนมากมายที่อยากให้บุตรสาวของฉันหายไป"

"ท่านหมายถึงอะไรคะ?" เมรี่ถาม

"บุตรสาวของฉันเอมิลี่ เป็นคนที่มีความสุขุมรอบคอบ และมีปัญญาหลักแหลม เธอไม่เคยทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่เธอกลับไปตกหลุมรักกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในชนชั้นเดียวกัน เขาชื่อ จอร์จ เป็นจิตรกรข้างถนนผู้ยากไร้" ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดเล่าด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด "ฉันห้ามปรามเธอหลายครั้ง แต่เธอก็ไม่เคยฟังเลย"

"แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนคะ?" เมรี่ถาม

"ไม่มีใครรู้" ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดตอบ "เขาหายตัวไปพร้อมกับเอมิลี่ ไม่มีใครพบเขาเลย"

"แล้วตำรวจไม่สงสัยเขาหรือคะ?"

"พวกเขาไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่จะกล่าวหาเขา" ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดกล่าว "และเขาก็เป็นเพียงจิตรกรข้างถนน จะไปทำอะไรบุตรสาวของฉันได้"

"แต่ในทางกลับกัน เขาก็เป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับเอมิลี่ใช่ไหมคะ?" เมรี่ถาม

ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดพยักหน้า "ใช่...แต่ฉันไม่คิดว่าเขาจะทำร้ายเอมิลี่นะ เขารักเอมิลี่มาก"

เมรี่รู้สึกว่าเธอเจอเบาะแสสำคัญแล้ว สิ่งที่ตำรวจมองข้ามไปคือความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนี้

"ท่านลอร์ดคะ หนูขออนุญาตสำรวจห้องของมิสซิสเอมิลี่ได้ไหมคะ" เมรี่ถาม

ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า "ตามสบายเลยหนูน้อย แต่ระวังอย่าให้ข้าวของเสียหายนะ"

เมรี่เดินไปที่ห้องนอนของเอมิลี่ มันเป็นห้องที่โอ่อ่าแต่กลับดูว่างเปล่าและอ้างว้าง เมรี่เดินสำรวจทุกซอกทุกมุม เธอสังเกตเห็นว่าข้าวของหลายอย่างถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่เข้าที่เข้าทาง เช่น รูปภาพที่พลิกคว่ำบนโต๊ะเครื่องแป้ง และหนังสือเล่มหนึ่งที่เปิดค้างไว้บนเตียง

เมรี่หยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมา มันคือหนังสือรวมบทกวีรัก เธอเปิดอ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงหน้าหนึ่งที่ถูกขีดเส้นใต้ไว้หลายครั้ง

"...แม้เส้นทางจะมืดมิดเพียงใด หากเรามีแสงสว่างในใจ เราก็จะพบทางออกเสมอ..."

เมรี่รู้สึกว่านี่ไม่ใช่แค่บทกวีธรรมดา แต่เป็นข้อความลับ! เธอสังเกตเห็นว่ามีตัวอักษรบางตัวในบทกวีที่ถูกเน้นหนักเป็นพิเศษ เมื่อเธอเรียงร้อยตัวอักษรเหล่านั้นเข้าด้วยกัน เธอก็ได้คำว่า "ใต้ต้นหลิว"

เมรี่เบิกตากว้าง 'ใต้ต้นหลิว!' นี่อาจจะเป็นสถานที่นัดพบของเอมิลี่กับจอร์จ หรืออาจจะเป็นที่ซ่อนอะไรบางอย่าง!

เธอหันไปมองออกไปนอกหน้าต่าง และเห็นต้นหลิวต้นใหญ่ที่ยืนต้นอยู่ริมบ่อน้ำในสวนขนาดใหญ่

"ฉันต้องไปที่นั่น" เมรี่พึมพำกับตัวเอง

เมรี่เดินลงไปในสวน เธอเดินตรงไปยังต้นหลิวต้นนั้น มันเป็นต้นหลิวที่เก่าแก่และมีกิ่งก้านสาขาที่ห้อยระย้าลงมาปกคลุมราวกับม่าน เธอเดินเข้าไปใต้ต้นหลิว สัมผัสได้ถึงความเย็นสบายและเงียบสงบ

เธอสังเกตเห็นว่ามีรอยเท้าเล็กๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่บนพื้นดินที่ชื้นแฉะใต้ต้นหลิว รอยเท้านั้นดูคุ้นตา...เหมือนกับรอยเท้าของรองเท้าบูทขนาดเล็กที่เธอเคยเห็นมาก่อน

เมรี่ก้มลงมองใกล้ๆ เธอเห็นรอยบุ๋มเล็กๆ ที่ปลายเท้าของรอยเท้าเหล่านั้น ไม่ผิดแน่! นี่คือรอยเท้าของ ลูซี่! เด็กสาวที่เธอเพิ่งช่วยไขคดีขโมยแหวน

"เป็นไปได้อย่างไร?" เมรี่พึมพำด้วยความตกใจ "ลูซี่มาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร?"

เธอเดินตามรอยเท้าเหล่านั้นไปเรื่อยๆ รอยเท้าพาเธอไปยังพุ่มไม้หนาทึบที่อยู่ไม่ไกลจากต้นหลิว เมรี่พยายามแหวกพุ่มไม้เข้าไป และเธอก็พบกับทางเข้าเล็กๆ ที่นำไปสู่โพรงใต้ดินที่มืดมิด

"นี่มันอะไรกัน?" เมรี่กระซิบ เธอรู้สึกถึงความตื่นเต้นและความกลัวที่ผสมปนเปกัน

เธอหยิบไม้ขีดไฟออกมาจากกระเป๋า จุดไฟ แล้วค่อยๆ ก้าวเข้าไปในโพรงใต้ดิน กลิ่นดินชื้นและอากาศที่อับชื้นปะทะเข้ากับโสตประสาทของเธอ โพรงนั้นนำไปสู่ห้องลับเล็กๆ ที่ถูกแกะสลักจากหินธรรมชาติ ภายในห้องมีของใช้ส่วนตัวเล็กน้อย และที่สำคัญที่สุดคือ มีจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะหินเล็กๆ

เมรี่หยิบจดหมายขึ้นมา มันเป็นลายมือของเอมิลี่!

"...ถึงจอร์จที่รัก เมื่อเจ้าอ่านจดหมายฉบับนี้ ข้าคงจากไปแล้ว ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องเป็นห่วง ข้ารู้ว่าพ่อของข้าจะไม่มีวันยอมรับความรักของเรา และข้าก็ทนอยู่ในสภาพนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว ข้าตัดสินใจที่จะหนีไปจากที่นี่ เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเจ้าที่ไอร์แลนด์ ข้าหวังว่าเจ้าจะตามมาหาข้าที่นั่น..."

เมรี่อ่านจดหมายจนจบ เธอรู้สึกประหลาดใจ เอมิลี่ไม่ได้ถูกลักพาตัว! เธอหนีตามชายคนรักไปต่างหาก! และลูซี่...ลูซี่ก็คงเป็นคนนำจดหมายนี้มาทิ้งไว้ที่นี่ เพื่อให้จอร์จมาพบ

เมรี่เดินกลับออกมาจากโพรงใต้ดิน เธอรู้สึกโล่งใจที่เอมิลี่ปลอดภัย แต่ก็รู้สึกกังวลว่าเธอจะอธิบายเรื่องนี้ให้ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดฟังได้อย่างไร

ขณะที่เธอกำลังเดินกลับไปยังคฤหาสน์ จู่ๆ ก็มีมือคู่หนึ่งคว้าเข้าที่แขนของเธออย่างรวดเร็ว เมรี่หันไปมอง และพบกับชายร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่มุมรถม้าคนเดิม เขาไม่ได้สวมหมวกปีกกว้างอีกต่อไป เผยให้เห็นใบหน้าคมคาย ดวงตาที่คมกริบของเขาจ้องมองมาที่เธออย่างไม่วางตา

"ดูเหมือนเจ้าจะไขปริศนาได้อย่างรวดเร็วเกินคาดนะ มิสแบล็ควู้ด" เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "หรือว่าเจ้ากำลังจะค้นพบความจริงบางอย่างที่ฉันไม่ต้องการให้ใครรู้?"

เมรี่เบิกตากว้าง เธอตกใจจนพูดไม่ออก ชายคนนี้! เขาตามเธอมา! และเขารู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่!

"คุณ...คุณเป็นใครกันคะ?" เมรี่ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ชายคนนั้นยิ้มมุมปาก "ผมชื่อ เอดิสัน เกรย์สัน มิสแบล็ควู้ด และผมคิดว่าเราจำเป็นต้องคุยกันเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้"

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   กุญแจแห่งอนาคต

    เมรี่ กุม กุญแจทั้งสี่ดอกแห่งกาลเวลา ไว้ในมือ แต่ละดอกเปล่งประกายพลังงานที่แตกต่างกันออกไป บัดนี้ พวกเขาได้เรียนรู้ถึงความหมายของแต่ละดอก: ความทรงจำที่หายไป, บทเพลงแห่งผู้ถูกจองจำ, ความเจ็บปวดจากอดีต และ แสงสว่างแห่งศรัทธา เหลือเพียง กุญแจดอกสุดท้าย — 'กุญแจแห่งอนาคต' — ที่จะเปิด 'ประตูแห่งกาลเวลา' สู่ 'เมืองแห่งดวงดาวที่สาบแช่ง' และเผชิญหน้ากับ 'ผู้สร้างแห่งหายนะ'หลังจากได้รับกุญแจดอกที่ 4 จากโบสถ์แห่งศรัทธา ทุกคนก็รีบเดินทางกลับมาที่ 'ป่าต้องห้าม' เพื่อพบกับ เอเลนอร์ ผู้เฝ้าประตู พวกเขาเชื่อว่าเธออาจมีเบาะแสสุดท้ายเกี่ยวกับกุญแจดอกที่ 5เมื่อมาถึง ประตูแห่งกาลเวลา ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางป่า เอเลนอร์ก็ยืนรอพวกเขาอยู่แล้ว ร่างของเธอยังคงเปล่งแสงสีเขียวมรกตที่อบอุ่น"ยินดีด้วยที่พวกเจ้าได้กุญแจดอกที่ 4 มา" เอเลนอร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม "แต่เส้นทางข้างหน้ายังคงอันตรายนัก""ท่านพอจะบอกได้ไหมครับว่ากุญแจดอกที่ 5 อยู่ที่ไหน?" ปู่ทวด ถามอย่างมีความหวังเอเลนอร์หลับตาลงชั่วครู่ แล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยแสงแห่งปัญญา "กุญแจดอกที่ 5 นั้น...อยู่ใกล้กว่า

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   โบสถ์แห่งศัทธา

    เมรี่ กุม กุญแจทั้งสามดอกแห่งกาลเวลา ไว้ในมือแน่น แต่ละดอกเป็นเครื่องยืนยันถึงการเดินทางที่ยาวนานและอันตรายที่พวกเขาได้เผชิญหน้ามา ตอนนี้พวกเขามีกุญแจสามในห้าดอกแล้ว เหลืออีกเพียงสองดอกเท่านั้นที่จะเปิด 'ประตูแห่งกาลเวลา' สู่ 'เมืองแห่งดวงดาวที่สาปแช่ง' หลังจากได้รับกุญแจดอกที่ 3 จากหัวหน้าหมู่บ้านแบล็ควินด์ พวกเขาก็รีบออกเดินทางต่อทันที ปู่ทวด กำลังตรวจสอบแผนที่โบราณและจารึกที่ได้มาจากหอสมุดหลวงอีกครั้ง เพื่อค้นหาเบาะแสของกุญแจดอกที่ 4 "คำใบ้ของกุญแจดอกที่ 4 คือ 'ที่ซึ่งความศรัทธาถูกทดสอบ... ที่ซึ่งแสงสว่างส่องนำทางในความมืดมิด...'" ปู่ทวดพึมพำ "มันฟังดูเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์" "โบสถ์อย่างนั้นหรือครับ!" นักสืบโธมัส กล่าว "อาจจะเป็นไปได้" ปู่ทวดพยักหน้า "โบสถ์เก่าแก่บางแห่งถูกสร้างขึ้นบนจุดที่พลังงานแห่งกาลเวลาไหลเวียน...และอาจมีบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ 'กุญแจแห่งกาลเวลา' ซ่อนอยู่" พวกเขาตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังโบสถ์เก่าแก่ที่อยู่ใกล้ที่สุด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของประวัติศาสตร์อันยาวนานและตำนานลึกลับที่เล่าขานกันมา แม่ชีผู้รอคอย การเดินทางไปยังโบสถ์นั้นค่อนข้างราบรื่น หล

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   หมู่บ้านที่เงียบงัน

    เมรี่ กุม กุญแจทั้งสองดอกแห่งกาลเวลา ไว้ในมือแน่น พร้อมกับ เข็มทิศแห่งความจริง และ เศษเสี้ยวของผลึกแห่งดวงดาว หลังจากที่ได้ กุญแจดอกที่ 2 จาก ป่าต้องคำสาป ตอนนี้พวกเขามีกุญแจสองในห้าดอกแล้ว แต่ละดอกล้วนเป็นหลักฐานของการเดินทางอันยาวนานและความลึกลับของ 'เมืองแห่งดวงดาวที่สาปแช่ง' ที่รออยู่เบื้องหน้าพวกเขาออกเดินทางจากป่าฮอคเฮิร์สท์ด้วยรถม้า โดยมี ไคโรส และสมาชิกของ 'หน่วยบิดเบือนกาลเวลา' ร่วมเดินทางไปด้วย แม้จะยังคงมีคำถามเกี่ยวกับจุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกเขา แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ การมีพันธมิตรที่รู้เรื่องกาลเวลาดีก็ถือเป็นเรื่องดี"เราจะไปหากุญแจดอกที่ 3 ที่ไหนกันครับปู่ทวด?" นักสืบโธมัส ถามขณะที่รถม้าเคลื่อนตัวไปตามถนนลูกรังที่คดเคี้ยวปู่ทวด กำลังตรวจสอบแผนที่โบราณและจารึกที่ได้มาจากหอสมุดหลวง เขาพยายามถอดรหัสคำใบ้ของ เอเลนอร์ ผู้เฝ้าประตู"คำใบ้ของกุญแจดอกที่ 3 คือ 'ที่ซึ่งเสียงหัวเราะกลายเป็นความเงียบงัน... ที่ซึ่งชีวิตถูกพรากไปโดยไร้ร่องรอย...'" ปู่ทวดพึมพำ "มันฟังดูเหมือนสถานที่ที่กำลังประสบปัญหาใหญ่"คำขอจากชายชราผู้ผอมโทรมยังไม่ทันที่พวกเขาจะตัดสิน

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   ผู้เฝ้ากุญญาและปริศนาทั้ง5

    เบื้องหน้า เมรี่ และทีม คือ 'ประตูแห่งกาลเวลา' บานมหึมาที่ปกคลุมด้วยเถาวัลย์และสัญลักษณ์โบราณ มันดูเก่าแก่และน่าเกรงขาม ราวกับเป็นประตูสู่โลกอีกใบหนึ่ง หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดใน 'ป่าต้องห้าม' และการได้มาซึ่งพันธมิตรที่ไม่คาดฝันอย่าง ไคโรส ผู้นำ 'หน่วยบิดเบือนกาลเวลา' ตอนนี้ทุกคนต่างจ้องมองไปยังประตูบานนั้นด้วยความคาดหวังและกังวลใจ"เราจะเปิดมันได้อย่างไรครับ?" นักสืบโธมัส ถามพลางสำรวจประตูปู่ทวด มองไปที่แผนที่โบราณในมือ "ตำราโบราณกล่าวว่า 'ประตูแห่งกาลเวลา' ไม่ได้เปิดออกด้วยพละกำลัง...แต่ด้วยกุญแจแห่งความเข้าใจ"ทันใดนั้นเอง แสงสว่างสีเขียวมรกตก็ส่องประกายออกมาจากบริเวณด้านบนของประตู!"วูบบบบบบบบบบบ!"ร่างของ หญิงสาวคนหนึ่ง ที่สวมชุดสีเขียวมรกตดูราวกับชุดของเทพธิดา ปรากฏขึ้นจากแสงสว่างนั้น เธอมีใบหน้าที่งดงาม ดวงตาของเธอเปล่งประกายสีเขียวมรกตราวกับดวงดาวในยามค่ำคืน เส้นผมของเธอพลิ้วไหวราวกับกระแสเวลาที่มองไม่เห็น"ยินดีต้อนรับ...ผู้พิทักษ์แห่งกาลเวลา" หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน แต่ก้องกังวานไปทั่วทั้งป่า "ข้าคือ เอเลนอร์... ผู้เฝ้าประตูแห่งกาลเวลา"เมรี่เบิกตากว้าง "เลดี้เ

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   ป่าต้องห้ามและพันธมิตร

    หลังจากช่วยเหลือชาวบ้านจากกลุ่มโจรป่าที่ถูกควบคุมโดย 'ดวงดาวที่สาปแช่ง' ได้สำเร็จ เมรี่ และทีมก็เร่งรัดการเดินทางไปยัง 'ประตูแห่งกาลเวลา' ที่ซ่อนอยู่ในป่าลึกทางตะวันตกเฉียงเหนือของลอนดอน พวกเขาขึ้นรถม้าอีกครั้ง โดยมีชาวบ้านที่รอดชีวิตช่วยส่งไปถึงปากทางเข้าป่าที่เปล่าเปลี่ยว"ประตูแห่งกาลเวลาอยู่ที่นี่ครับ" ปู่ทวด ชี้ไปที่แผนที่เก่าแก่ที่บัดนี้ดูเหมือนจะส่องแสงเรืองรองขึ้นมาเองเมื่ออยู่ใกล้ เข็มทิศแห่งความจริง ของเมรี่ "มันถูกซ่อนไว้อย่างดี...เพื่อไม่ให้ผู้คนภายนอกล่วงรู้ถึงการมีอยู่ของมัน"ป่าที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาดูไม่เหมือนป่าทั่วไป ต้นไม้สูงใหญ่หนาทึบจนแสงอาทิตย์แทบส่องไม่ถึง บรรยากาศเงียบสงัดจนน่าขนลุก มีเพียงเสียงลมพัดผ่านยอดไม้ที่สร้างเสียงหวิวๆ ราวกับเสียงกระซิบของสิ่งเร้นลับ"ป่าแห่งนี้ถูกเรียกว่า 'ป่าต้องห้าม' ครับ" นักสืบโธมัส กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ตำนานเล่าว่าไม่มีใครเคยเข้าไปในป่าแห่งนี้แล้วกลับออกมาได้อีกเลย""นั่นเพราะมันคือทางเข้าสู่มิติอื่น" ปู่ทวดเสริม "มันไม่ได้มีแค่ต้นไม้และสัตว์ป่า...แต่มันมี กับดักแห่งกาลเวลา ที่ซ่อนอยู่"เมรี่กำเข็มทิศแห่งความจริงไว้แน่น เธอรู้

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   หญิงชราและโจรป่า

    เมรี่ กุม เข็มทิศแห่งความจริง ไว้ในมือแน่น พร้อมกับ เศษเสี้ยวของผลึกแห่งดวงดาว ที่เธอเก็บรักษามาอย่างดี ทั้งหมดคือสิ่งจำเป็นที่จะเปิด 'ประตูแห่งกาลเวลา' สู่ 'เมืองแห่งดวงดาวที่สาบแช่ง' หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในหอสมุดหลวง พวกเขาตัดสินใจที่จะเดินทางด้วยรถม้าอีกครั้ง เพราะเกรงว่าการใช้รถไฟอาจทำให้พวกเขาถูก 'ผู้สร้างแห่งหายนะ' หรือกลุ่ม 'ดวงดาวที่สาปแช่ง' ดักทางได้ง่ายกว่าพวกเขาเช่ารถม้าที่ดูเก่าแต่แข็งแรงคันหนึ่ง มุ่งหน้าออกจากลอนดอนในยามเช้าตรู่ โดยมี ปู่ทวด นั่งอยู่ข้างเมรี่ในห้องโดยสาร นักสืบโธมัส สลับกันนั่งกับ อเล็กซานเดอร์ ที่บังเหียน ขณะที่ เฟรเดอริค, เบ็น, เอดิสัน, มิสเตอร์คลาร์ก และ 'ผู้พิทักษ์แห่งราชบัลลังก์' ติดตามไปอีกคัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีกำลังเพียงพอหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน"ตามแผนที่โบราณ 'ประตูแห่งกาลเวลา' ตั้งอยู่ในป่าลึกทางตะวันตกเฉียงเหนือของลอนดอนครับ" ปู่ทวดกล่าวพลางกางแผนที่ที่ได้มาจากหอสมุดหลวงเมรี่มองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ของชนบทอังกฤษกำลังผลัดเปลี่ยนจากทุ่งหญ้าเขียวขจีเป็นป่าทึบที่ปกคลุมด้วยหมอกยามเช้า บรรยากาศเงียบสงบ แต่ในใจของเมรี่กลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status