Share

ความวุ่นวาย

last update Last Updated: 2025-06-06 22:14:33

ความวุ่นวายในลอนดอน

ในที่สุด รถมาก็เดินทางมาถึงลอนดอน เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและเสียงอึกทึกครึกโครม เมรี่ลงจากรถม้าที่สถานีรถม้า เธอรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความจอแจของผู้คน ตึกรามบ้านช่องที่สูงตระหง่าน และร้านค้าที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง

"นี่สินะลอนดอน" เมรี่พึมพำกับตัวเอง เธอสูดหายใจลึกๆ รับกลิ่นควันถ่านหินและเสียงวุ่นวายของเมืองเข้ามาเต็มปอด นี่คือเมืองที่พี่ชายของเธออยู่!

แต่ความตื่นเต้นก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวล เมื่อเธอตระหนักว่าลอนดอนนั้นกว้างใหญ่เกินกว่าที่เธอจะจินตนาการ และการตามหาพี่ชายในเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนนับล้านเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

"ฉันจะเริ่มต้นจากตรงไหนดีนะ?" เมรี่พึมพำ เธอหยิบจดหมายของอเล็กซานเดอร์ออกมาอีกครั้ง มันระบุเพียงแค่ว่าเขากำลังสืบคดีลักพาตัวในลอนดอน แต่ไม่ได้บอกที่อยู่ หรือรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม

เมรี่เดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยผู้คน เธอพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับคดีลักพาตัว แต่ก็ไม่มีใครรู้เรื่องอะไรเลย

"ขอโทษนะคะ คุณพอจะทราบไหมว่ามีคดีลักพาตัวเกิดขึ้นในลอนดอนบ้างไหมคะ?" เมรี่ถามชายสูงอายุคนหนึ่งที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่

ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองเมรี่ด้วยความประหลาดใจ "หนูน้อย มีคดีลักพาตัวเกิดขึ้นบ่อยจะตายไปในเมืองนี้ เจ้ากำลังมองหาคดีไหนกันล่ะ?"

เมรี่ถอนหายใจ "หนูไม่ทราบรายละเอียดเลยค่ะ รู้แค่ว่าเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดีมีสกุล"

ชายคนนั้นส่ายหน้า "มีหลายคดีเหลือเกิน คงไม่มีใครจำได้หรอก"

เมรี่รู้สึกท้อแท้เล็กน้อย เธอเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงบริเวณที่ดูเหมือนจะเป็นสำนักงานตำรวจ เธอตัดสินใจที่จะเข้าไปสอบถามข้อมูล

"ขอโทษนะคะ" เมรี่กล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นั่งอยู่หลังโต๊ะ "ฉันกำลังตามหาพี่ชายของฉันค่ะ เขาเป็นนักสืบชื่ออเล็กซานเดอร์ แบล็ควู้ด เขาอยู่ที่นี่ไหมคะ?"

เจ้าหน้าที่ตำรวจเงยหน้าขึ้นมองเมรี่อย่างไม่พอใจ "ที่นี่ไม่ใช่ศูนย์ข้อมูลบุคคลนะหนูน้อย ถ้าไม่มีธุระอะไร ก็ออกไปซะ!"

เมรี่รู้สึกผิดหวัง แต่ก็ไม่ยอมแพ้ เธอเดินออกมาจากสำนักงานตำรวจ และคิดหาวิธีอื่น

"นักสืบที่ดีต้องไม่ยอมแพ้" เธอพึมพำกับตัวเอง "ต้องหาเบาะแสจากจุดที่คนอื่นไม่คิดจะหา"

เมรี่เริ่มเดินสำรวจรอบๆ สำนักงานตำรวจ เธอสังเกตเห็นประกาศจับอาชญากรจำนวนมากที่ติดอยู่บนกระดานประกาศ และเธอก็สังเกตเห็นประกาศฉบับหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของเธอเป็นพิเศษ

"ประกาศตามหาตัว มิสซิสเอมิลี่ ฮาร์ดวู้ด บุตรสาวของผู้ดีมีสกุล ผู้หายสาบสูญไปจากคฤหาสน์ของบิดาเมื่อหนึ่งเดือนก่อน มีรางวัลนำจับจำนวนมากสำหรับผู้ที่ให้เบาะแส"

เมรี่อ่านประกาศนั้นอย่างละเอียด เธอจำได้ว่าอเล็กซานเดอร์บอกว่าเขากำลังสืบคดีลักพาตัวในลอนดอน นี่อาจจะเป็นคดีนั้น!

"คุณป้าคะ" เมรี่หันไปถามหญิงชราคนหนึ่งที่กำลังกวาดถนนอยู่ใกล้ๆ "คุณป้าพอจะทราบเรื่องราวเกี่ยวกับคดีการหายตัวไปของมิสซิสเอมิลี่ ฮาร์ดวู้ดบ้างไหมคะ?"

หญิงชราหยุดกวาดถนน "อ๋อ! คดีนั้นน่ะหรือ! เป็นเรื่องที่น่าเศร้าจริงๆ นะคุณหนู ครอบครัวฮาร์ดวู้ดเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงและร่ำรวยมาก แต่จู่ๆ บุตรสาวคนเดียวก็หายตัวไปอย่างลึกลับ ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอหายไปไหน"

"แล้วคุณป้าพอจะทราบเบาะแสอะไรบ้างไหมคะ?" เมรี่ถามด้วยความกระตือรือร้น

"อืม...เท่าที่ฉันได้ยินมานะ" หญิงชราคิดอยู่ครู่หนึ่ง "มีข่าวลือว่ามิสซิสฮาร์ดวู้ดแอบมีความสัมพันธ์กับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในชนชั้นเดียวกันน่ะสิ บางคนก็ว่าเธอหนีตามเขาไปแล้ว แต่บางคนก็ว่าเธอถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่"

"แล้วตำรวจว่ายังไงบ้างคะ?"

"ตำรวจไม่สามารถหาเบาะแสอะไรได้เลยน่ะสิคุณหนู" หญิงชราถอนหายใจ "พวกเขาบอกว่าคดีนี้ซับซ้อนมาก และมีหลายอย่างที่ไม่ตรงไปตรงมา"

เมรี่รู้สึกว่าเธอเจอสิ่งที่กำลังมองหาแล้ว นี่ต้องเป็นคดีของอเล็กซานเดอร์แน่ๆ! เธอต้องไปที่คฤหาสน์ของตระกูลฮาร์ดวู้ด เพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม

คฤหาสน์ฮาร์ดวู้ด: ความลับที่ซ่อนอยู่

เมรี่ใช้เงินที่เหลือบางส่วนนั่งรถม้าไปยังคฤหาสน์ฮาร์ดวู้ด คฤหาสน์ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางสวนสวยงาม แต่กลับปกคลุมไปด้วยบรรยากาศอันเงียบงันและอึมครึม เมรี่ลงจากรถม้า และเดินตรงไปที่ประตูรั้วเหล็กขนาดใหญ่

เธอเคาะประตูอย่างสุภาพ ประตูเปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นชายชราผู้หนึ่งที่ดูเหมือนเป็นคนเฝ้าประตู

"มีอะไรหรือครับคุณหนู?" ชายคนนั้นถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

"ฉันชื่อเมรี่ แบล็ควู้ดค่ะ" เมรี่ตอบ "ฉันมาที่นี่เพื่อสืบสวนคดีการหายตัวไปของมิสซิสเอมิลี่ ฮาร์ดวู้ดค่ะ"

ชายคนเฝ้าประตูเบิกตากว้าง "คุณหนูเป็นใครกัน? ตำรวจไม่เห็นจะบอกว่ามีนักสืบหญิงคนไหนจะมาที่นี่เลยนี่ครับ"

"ฉันเป็นนักสืบอิสระค่ะ" เมรี่ตอบอย่างมั่นใจ "ฉันได้รับข้อมูลบางอย่างที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อคดีนี้"

ชายคนเฝ้าประตูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมเปิดประตูให้เมรี่เข้าไป

"ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดกำลังรออยู่ที่ห้องรับรองครับ" ชายคนเฝ้าประตูกล่าว "แต่ผมไม่แน่ใจว่าท่านจะยอมพูดคุยกับคุณหนูนะ"

เมรี่เดินเข้าไปในคฤหาสน์ เธอรู้สึกได้ถึงบรรยากาศอันหนักอึ้งของความเศร้าโศกเสียใจและความสิ้นหวัง เธอเดินไปตามทางเดินที่ประดับด้วยภาพวาดและรูปปั้นอันวิจิตรตระการตา ก่อนจะมาถึงห้องรับรองที่โอ่อ่า

"ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดคะ" เมรี่กล่าวเมื่อเห็นชายสูงอายุผู้มีใบหน้าเศร้าสร้อยนั่งอยู่ที่โซฟา

ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดเงยหน้าขึ้นมองเมรี่ด้วยความประหลาดใจ "เจ้าเป็นใครกัน? ฉันไม่ได้รับแจ้งว่าจะมีนักสืบหญิงคนไหนมาที่นี่"

"ฉันชื่อเมรี่ แบล็ควู้ดค่ะท่านลอร์ด" เมรี่ตอบอย่างสุภาพ "ฉันเป็นนักสืบอิสระ และฉันต้องการช่วยท่านไขคดีการหายตัวไปของบุตรสาวของท่านค่ะ"

ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดถอนหายใจ "มันไม่มีประโยชน์หรอกหนูน้อย ตำรวจทุกคนก็ไม่สามารถหาเบาะแสอะไรได้เลย บุตรสาวของฉันหายไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับถูกกลืนหายไปในอากาศ"

"ท่านลอร์ดคะ" เมรี่กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "หนูเชื่อว่าไม่มีคดีไหนที่ไม่มีทางไขได้ค่ะ หากท่านยอมให้หนูช่วย หนูจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อนำบุตรสาวของท่านกลับคืนมา"

ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดมองเมรี่ด้วยสายตาพิจารณา เขาเห็นประกายแห่งความมุ่งมั่นและความฉลาดเฉลียวในดวงตาของเธอ

"เจ้ามีความเชื่อมั่นในตัวเองมากทีเดียว" ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดกล่าว "แต่คดีนี้ซับซ้อนกว่าที่เจ้าคิดนัก มีคนมากมายที่อยากให้บุตรสาวของฉันหายไป"

"ท่านหมายถึงอะไรคะ?" เมรี่ถาม

"บุตรสาวของฉันเอมิลี่ เป็นคนที่มีความสุขุมรอบคอบ และมีปัญญาหลักแหลม เธอไม่เคยทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่เธอกลับไปตกหลุมรักกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในชนชั้นเดียวกัน เขาชื่อ จอร์จ เป็นจิตรกรข้างถนนผู้ยากไร้" ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดเล่าด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด "ฉันห้ามปรามเธอหลายครั้ง แต่เธอก็ไม่เคยฟังเลย"

"แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนคะ?" เมรี่ถาม

"ไม่มีใครรู้" ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดตอบ "เขาหายตัวไปพร้อมกับเอมิลี่ ไม่มีใครพบเขาเลย"

"แล้วตำรวจไม่สงสัยเขาหรือคะ?"

"พวกเขาไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่จะกล่าวหาเขา" ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดกล่าว "และเขาก็เป็นเพียงจิตรกรข้างถนน จะไปทำอะไรบุตรสาวของฉันได้"

"แต่ในทางกลับกัน เขาก็เป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับเอมิลี่ใช่ไหมคะ?" เมรี่ถาม

ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดพยักหน้า "ใช่...แต่ฉันไม่คิดว่าเขาจะทำร้ายเอมิลี่นะ เขารักเอมิลี่มาก"

เมรี่รู้สึกว่าเธอเจอเบาะแสสำคัญแล้ว สิ่งที่ตำรวจมองข้ามไปคือความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนี้

"ท่านลอร์ดคะ หนูขออนุญาตสำรวจห้องของมิสซิสเอมิลี่ได้ไหมคะ" เมรี่ถาม

ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า "ตามสบายเลยหนูน้อย แต่ระวังอย่าให้ข้าวของเสียหายนะ"

เมรี่เดินไปที่ห้องนอนของเอมิลี่ มันเป็นห้องที่โอ่อ่าแต่กลับดูว่างเปล่าและอ้างว้าง เมรี่เดินสำรวจทุกซอกทุกมุม เธอสังเกตเห็นว่าข้าวของหลายอย่างถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่เข้าที่เข้าทาง เช่น รูปภาพที่พลิกคว่ำบนโต๊ะเครื่องแป้ง และหนังสือเล่มหนึ่งที่เปิดค้างไว้บนเตียง

เมรี่หยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมา มันคือหนังสือรวมบทกวีรัก เธอเปิดอ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงหน้าหนึ่งที่ถูกขีดเส้นใต้ไว้หลายครั้ง

"...แม้เส้นทางจะมืดมิดเพียงใด หากเรามีแสงสว่างในใจ เราก็จะพบทางออกเสมอ..."

เมรี่รู้สึกว่านี่ไม่ใช่แค่บทกวีธรรมดา แต่เป็นข้อความลับ! เธอสังเกตเห็นว่ามีตัวอักษรบางตัวในบทกวีที่ถูกเน้นหนักเป็นพิเศษ เมื่อเธอเรียงร้อยตัวอักษรเหล่านั้นเข้าด้วยกัน เธอก็ได้คำว่า "ใต้ต้นหลิว"

เมรี่เบิกตากว้าง 'ใต้ต้นหลิว!' นี่อาจจะเป็นสถานที่นัดพบของเอมิลี่กับจอร์จ หรืออาจจะเป็นที่ซ่อนอะไรบางอย่าง!

เธอหันไปมองออกไปนอกหน้าต่าง และเห็นต้นหลิวต้นใหญ่ที่ยืนต้นอยู่ริมบ่อน้ำในสวนขนาดใหญ่

"ฉันต้องไปที่นั่น" เมรี่พึมพำกับตัวเอง

เมรี่เดินลงไปในสวน เธอเดินตรงไปยังต้นหลิวต้นนั้น มันเป็นต้นหลิวที่เก่าแก่และมีกิ่งก้านสาขาที่ห้อยระย้าลงมาปกคลุมราวกับม่าน เธอเดินเข้าไปใต้ต้นหลิว สัมผัสได้ถึงความเย็นสบายและเงียบสงบ

เธอสังเกตเห็นว่ามีรอยเท้าเล็กๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่บนพื้นดินที่ชื้นแฉะใต้ต้นหลิว รอยเท้านั้นดูคุ้นตา...เหมือนกับรอยเท้าของรองเท้าบูทขนาดเล็กที่เธอเคยเห็นมาก่อน

เมรี่ก้มลงมองใกล้ๆ เธอเห็นรอยบุ๋มเล็กๆ ที่ปลายเท้าของรอยเท้าเหล่านั้น ไม่ผิดแน่! นี่คือรอยเท้าของ ลูซี่! เด็กสาวที่เธอเพิ่งช่วยไขคดีขโมยแหวน

"เป็นไปได้อย่างไร?" เมรี่พึมพำด้วยความตกใจ "ลูซี่มาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร?"

เธอเดินตามรอยเท้าเหล่านั้นไปเรื่อยๆ รอยเท้าพาเธอไปยังพุ่มไม้หนาทึบที่อยู่ไม่ไกลจากต้นหลิว เมรี่พยายามแหวกพุ่มไม้เข้าไป และเธอก็พบกับทางเข้าเล็กๆ ที่นำไปสู่โพรงใต้ดินที่มืดมิด

"นี่มันอะไรกัน?" เมรี่กระซิบ เธอรู้สึกถึงความตื่นเต้นและความกลัวที่ผสมปนเปกัน

เธอหยิบไม้ขีดไฟออกมาจากกระเป๋า จุดไฟ แล้วค่อยๆ ก้าวเข้าไปในโพรงใต้ดิน กลิ่นดินชื้นและอากาศที่อับชื้นปะทะเข้ากับโสตประสาทของเธอ โพรงนั้นนำไปสู่ห้องลับเล็กๆ ที่ถูกแกะสลักจากหินธรรมชาติ ภายในห้องมีของใช้ส่วนตัวเล็กน้อย และที่สำคัญที่สุดคือ มีจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะหินเล็กๆ

เมรี่หยิบจดหมายขึ้นมา มันเป็นลายมือของเอมิลี่!

"...ถึงจอร์จที่รัก เมื่อเจ้าอ่านจดหมายฉบับนี้ ข้าคงจากไปแล้ว ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องเป็นห่วง ข้ารู้ว่าพ่อของข้าจะไม่มีวันยอมรับความรักของเรา และข้าก็ทนอยู่ในสภาพนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว ข้าตัดสินใจที่จะหนีไปจากที่นี่ เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเจ้าที่ไอร์แลนด์ ข้าหวังว่าเจ้าจะตามมาหาข้าที่นั่น..."

เมรี่อ่านจดหมายจนจบ เธอรู้สึกประหลาดใจ เอมิลี่ไม่ได้ถูกลักพาตัว! เธอหนีตามชายคนรักไปต่างหาก! และลูซี่...ลูซี่ก็คงเป็นคนนำจดหมายนี้มาทิ้งไว้ที่นี่ เพื่อให้จอร์จมาพบ

เมรี่เดินกลับออกมาจากโพรงใต้ดิน เธอรู้สึกโล่งใจที่เอมิลี่ปลอดภัย แต่ก็รู้สึกกังวลว่าเธอจะอธิบายเรื่องนี้ให้ท่านลอร์ดฮาร์ดวู้ดฟังได้อย่างไร

ขณะที่เธอกำลังเดินกลับไปยังคฤหาสน์ จู่ๆ ก็มีมือคู่หนึ่งคว้าเข้าที่แขนของเธออย่างรวดเร็ว เมรี่หันไปมอง และพบกับชายร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่มุมรถม้าคนเดิม เขาไม่ได้สวมหมวกปีกกว้างอีกต่อไป เผยให้เห็นใบหน้าคมคาย ดวงตาที่คมกริบของเขาจ้องมองมาที่เธออย่างไม่วางตา

"ดูเหมือนเจ้าจะไขปริศนาได้อย่างรวดเร็วเกินคาดนะ มิสแบล็ควู้ด" เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "หรือว่าเจ้ากำลังจะค้นพบความจริงบางอย่างที่ฉันไม่ต้องการให้ใครรู้?"

เมรี่เบิกตากว้าง เธอตกใจจนพูดไม่ออก ชายคนนี้! เขาตามเธอมา! และเขารู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่!

"คุณ...คุณเป็นใครกันคะ?" เมรี่ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ชายคนนั้นยิ้มมุมปาก "ผมชื่อ เอดิสัน เกรย์สัน มิสแบล็ควู้ด และผมคิดว่าเราจำเป็นต้องคุยกันเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   ซากปริศนา

    ความจริงที่ มิสเตอร์คลาร์ก เปิดเผยนั้นหนักหน่วงเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ไม่ได้แค่ต้องการทำลายกาลเวลา แต่ยังล้างแค้นราชวงศ์อังกฤษจากการกระทำในอดีต นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังต่อสู้กับภัยคุกคามที่หยั่งรากลึกมาหลายศตวรรษ การที่กษัตริย์ทรงถูกควบคุมอยู่คือหัวใจของแผนการทั้งหมดนี้"ถ้าอย่างนั้น 'สายรัดแห่งคำสาป' ที่ควบคุมกษัตริย์อยู่คืออะไรคะ?" เมรี่ ถาม มิสเตอร์คลาร์กที่ดูอ่อนล้าแล้วมิสเตอร์คลาร์กพาพวกเขาเดินลึกเข้าไปในทางเดินใต้ดินของพระราชวังวินด์เซอร์ โดยมี 'ผู้พิทักษ์แห่งราชบัลลังก์' ที่ตอนนี้ปลอดจากคำสาป เดินนำทางไปเงียบๆ เขาเล่าเรื่องราวที่น่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับชะตากรรมของราชวงศ์วินด์เซอร์"มันคือ 'มงกุฎแห่งเวลา' ที่แท้จริงครับ" มิสเตอร์คลาร์กตอบ "ไม่ใช่แค่สายรัด แต่เป็นมงกุฎที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' สร้างขึ้นจากพลังของ 'กระจกแห่งความจริง' เพื่อผูกมัดกษัตริย์องค์ปัจจุบันให้เป็นหุ่นเชิดของเขา""แล้วเราจะถอดมันออกได้อย่างไรครับ?" เอดิสัน ถาม"มันถูกออกแบบมาให้หลอมรวมกับผู้สวมใส่ครับ" มิสเตอร์คลาร์กถอนหายใจ "วิธีเดียวที่จะถอดมันได้คือต้องใช้พลังที่แข็งแกร่งกว่า 'กระจกแห่งค

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   ความลับราชวงค์

    กระดาษที่ 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' มอบให้เมรี่ไม่ได้เป็นแค่แผนที่ แต่มันเป็นเหมือนภาพวาดที่สลักเสลาด้วยลายมือประณีต บอกเล่าถึงอนาคตที่กำลังจะมาถึง หนึ่งในภาพเหล่านั้นคือภาพของ มิสเตอร์คลาร์ก กำลังยืนอยู่หน้าอาคารเก่าแก่แห่งหนึ่งในลอนดอน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของ พระราชวังวินด์เซอร์ สถานที่พำนักของราชวงศ์อังกฤษ"มิสเตอร์คลาร์กไปที่นั่นทำไมครับ!" เฟรเดอริค อุทานด้วยความแปลกใจ"ดูเหมือนว่าเขากำลังรอเราอยู่ที่นั่น" เมรี่ ตอบ เธอกำแผนที่ไว้ในมือแน่น "เราต้องไปที่นั่นให้เร็วที่สุด"หลังจากเดินทางกลับมายังลอนดอน เมรี่และทีมใช้เวลาสองวันเต็มๆ ในการเตรียมตัวและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพระราชวังวินด์เซอร์ แต่การจะเข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขารู้ว่าต้องใช้แผนการที่แยบยลและละเอียดรอบคอบ"เราจะเข้าไปได้อย่างไรครับ?" อเล็กซานเดอร์ ถาม "ที่นั่นมีทหารรักษาการณ์อยู่ทุกตารางนิ้วเลยนะครับ""เราต้องหาทางเข้าที่ไม่มีใครสังเกตเห็น" เบ็น ตอบ "และผมคิดว่าผมรู้ว่ามันอยู่ตรงไหน"ภารกิจลับใต้ดินพวกเขาเดินทางไปยังพระราชวังวินด์เซอร์ในคืนหนึ่งที่มืดมิดและไร้ดวงจันทร์ พวกเขาแต่งกายด้วยชุด

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   จุดเริ่มต้น

    เมรี่ และทีมของเธอออกเดินทางจากเอดินบะระในเช้าวันรุ่งขึ้น พวกเขาใช้รถยนต์เก่าๆ คันหนึ่งที่ นักสืบโธมัส เตรียมไว้ให้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยรถไฟที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แผนที่สู่ห้วงเวลาที่ได้มาจากนักสืบโธมัสดูจะนำพวกเขาไปยังสถานที่ที่ห่างไกลจากความเจริญ และเป็นจุดที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีสิ่งมีชีวิตใดๆ อยู่การเดินทางของพวกเขากินเวลากว่าสองวันเต็มๆ พวกเขาขับรถผ่านทิวทัศน์ที่สวยงามของชนบทในสกอตแลนด์ ท่ามกลางเนินเขาที่เขียวขจี ทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ และทะเลสาบที่เงียบสงบ แต่ในใจของพวกเขายังคงเต็มไปด้วยความสงสัยและความตื่นเต้นกับภารกิจที่กำลังจะมาถึงในที่สุด แผนที่ก็พาพวกเขามาถึงปลายทาง มันเป็น ปราสาทเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาที่โดดเดี่ยว ท่ามกลางหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอกและต้นไม้ที่ดูน่าเกรงขาม ปราสาทแห่งนี้ดูทรุดโทรมและถูกทิ้งร้างมานานหลายศตวรรษ แต่ก็ยังคงความยิ่งใหญ่และน่ากลัวเอาไว้"ที่นี่แหละ" เอดิสัน กล่าวขณะมองไปที่แผนที่ "จุดหมายปลายทางของเราคือที่นี่""แล้ว 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' อยู่ที่ไหนกันครับ?" เฟรเดอริค ถามด้วยความสงสัย"เขาน่าจะอยู่ในปราสาทแห่งนี้ครับ" ปู่ทวด ตอบ "เราต

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   แผนที่ลับ

    หลังจากที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ถูกลบเลือนออกจากกาลเวลา บรรยากาศในห้องลับใต้พระราชวังเอดินบะระก็กลับมาสู่ความสงบเงียบอีกครั้ง เมรี่และทีมยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันระหว่างความโล่งใจจากชัยชนะและความสับสนจากคำพูดปริศนาที่พวกเขาได้ยิน"อนาคต...ของพวกเจ้า...ได้เปลี่ยนไปแล้ว..." เสียงนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเมรี่เอดิสัน ก้มลงเก็บเศษ 'กระจกแห่งความจริง' ที่แตกกระจายอยู่บนพื้น เศษกระจกชิ้นหนึ่งยังคงเรืองแสงสีฟ้าอ่อนๆ อยู่ในมือของเขา"เราควรจะทำอย่างไรกับมันดีครับ?" เอดิสันถามด้วยความลังเลปู่ทวด มองไปที่เศษกระจกนั้นด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความระมัดระวัง "มันอันตรายนัก...มันคือพลังที่เกินกว่ามนุษย์จะควบคุมได้""แต่เราก็ต้องเก็บมันไว้ครับ" อเล็กซานเดอร์ กล่าว "ถ้าปล่อยทิ้งไว้ที่นี่ อาจจะมีคนอื่นมาเจอมันอีก""อเล็กซานเดอร์พูดถูก" เฟรเดอริค เสริม "เราไม่สามารถปล่อยให้พลังแบบนี้ไปอยู่ในมือคนผิดได้อีกแล้ว"เมรี่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย เธอรู้ว่าภารกิจของพวกเขายังไม่จบลง การที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ถูกลบเลือนไปไม่ได้หมายความว่าอันตรายจะหมดไป"เราต้องหาที่เก็บมันไว้ในที่ที่ปลอดภัยที่ส

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   อนาคตได้เปลี่ยนไปแล้ว

    ความเงียบสงัดเข้าปกคลุมห้องลับใต้พระราชวังเอดินบะระ มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นรัวของทุกคนเท่านั้นที่ดังก้องไปมา แสงสลัวๆ จากโคมไฟโบราณส่องกระทบใบหน้าของ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ที่กำลังยืนถือ 'กระจกแห่งความจริง' ไว้ในมืออย่างเยือกเย็น แสงสีฟ้าอ่อนๆ จากกระจกสะท้อนอยู่ในดวงตาของเขา ทำให้เขาดูเหมือนไม่ใช่คนอีกต่อไป"แกไม่ควรเข้ามาถึงที่นี่" 'สถาปนิกแห่งหายนะ' กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์ "พวกแกได้ทำลายแผนการที่ข้าใช้เวลาหลายร้อยปีสร้างขึ้นมา"เขาเหลือบไปมองศพของทหารรักษาการณ์ที่ไม่มีเงา แล้วยิ้มเยาะ "การต่อต้านเป็นสิ่งไร้ค่า... เพราะสุดท้ายแล้ว พวกแกก็จะถูกลบเลือนออกจากประวัติศาสตร์เหมือนอย่างเขา"นักสืบโธมัสไม่รอช้า เขาและทหารอีกคนพุ่งเข้าใส่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ทันที ปืนพกในมือของพวกเขายิงกระสุนออกไปไม่ยั้ง!"ไร้ประโยชน์" 'สถาปนิกแห่งหายนะ' พึมพำก่อนที่กระสุนจะถึงตัวเขา 'สถาปนิกแห่งหายนะ' เพียงแค่โบกมือเบาๆ แล้วเวลาก็หยุดลง! กระสุนที่พุ่งไปข้างหน้าทั้งหมดหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศราวกับถูกแช่แข็ง เขาก้าวผ่านพวกมันไปอย่างช้าๆ แล้วใช้มือแตะที่หน้าอกของนักสืบโธมัสและทหารคนนั้น"ไปสู่ความว่างเปล่าเถอ

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   กระจกแห่งความจริง

    เมรี่กอดบันทึกสำคัญที่ได้จากเลดี้เอลีนอร์ไว้แน่น เธอวิ่งไปตามทางเดินลับใต้พระราชวังเอดินบะระ ทิ้งกลิ่นอายของตำนานและคำเตือนจาก 'ผู้พิทักษ์แห่งเวลา' ไว้เบื้องหลัง ในใจของเธอมีเพียงเป้าหมายเดียว นั่นคือการไปถึง 'กระจกแห่งความจริง' ก่อนที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' จะใช้มันเปิดฉาก 'สงครามแห่งกาลเวลา'ทางเดินลับสิ้นสุดลงที่กำแพงหินทึบ เมรี่รู้ว่าห้องลับที่เธอตามหาจะต้องอยู่หลังกำแพงนี้ แผนผังของจอห์น สมิธ แสดงให้เห็นจุดที่ซ่อนกลไกไว้ แต่เธอจะเปิดมันได้อย่างไรท่ามกลางความมืดมิดและไร้ซึ่งเครื่องมือ?ทันใดนั้น แสงสว่างจ้าก็สาดเข้ามาจากด้านหลัง พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาอย่างหนักแน่น เมรี่หันขวับด้วยความตกใจ พร้อมที่จะป้องกันตัว แต่เมื่อแสงนั้นส่องชัดเจนขึ้น เธอก็เห็นร่างที่คุ้นเคย"เมรี่! เธอปลอดภัยนะ!"อเล็กซานเดอร์, เฟรเดอริค, เอดิสัน, เบ็น, และปู่ทวด ก้าวเข้ามาในทางเดินลับ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนและคราบฝุ่นจากการต่อสู้ แต่แววตาของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความโล่งใจที่ได้เจอเมรี่"ปู่ทวด! ทุกคน!" เมรี่โผเข้ากอดพวกเขาอย่างดีใจ "พวกคุณจัดการกับ 'เงาที่หลงเหลือ' ได้แล้วเหรอคะ!""ใช่แล้ว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status