Share

หาทางหนี

last update Last Updated: 2025-06-04 23:53:01

"ยินดีต้อนรับสู่เลดี้เอเมไลน์ มิสแบล็ควู้ด" ท่านอาจารย์ใหญ่ มาดามเซเลสต์ หญิงชราผู้ดูสง่างามแต่มีดวงตาเฉียบคมดุจเหยี่ยว กล่าวต้อนรับเมรี่ที่ประตูทางเข้า เสียงของนางเย็นชาและไร้ความรู้สึก "หวังว่าเธอจะมีความสุขกับการเรียนรู้การเป็นสุภาพสตรีที่แท้จริงที่นี่"

ภายในโรงเรียน ทุกสิ่งล้วนถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ห้องเรียนสะอาดสะอ้าน บรรยากาศเงียบสงบจนน่าอึดอัด เด็กสาวทุกคนแต่งกายด้วยชุดนักเรียนสีเทาเข้มเหมือนกันหมด ผมถูกรวบเรียบร้อย ไม่มีเส้นใดเล็ดลอดออกมา กิริยาท่าทางงดงามราวกับตุ๊กตาเคลือบเซรามิก เมรี่รู้สึกราวกับเป็นแกะดำในฝูงหงส์หิมะ

เมรี่พยายามปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ แต่ทุกวันคือการทรมาน เธอถูกบังคับให้เรียนรู้การปักครอสติช การเล่นเปียโน การจัดดอกไม้ และที่น่าเบื่อที่สุดคือ วิชาการวางตัวเป็นสุภาพสตรี ซึ่งสอนโดย มิสพริสซิลล่า อาจารย์ผู้มีท่าทางเคร่งขรึมและรอยยิ้มที่ไม่เคยไปถึงดวงตา

"มิสแบล็ควู้ด! หลังตรง! ไหล่ผาย! อย่าห่อไหล่เยี่ยงบุรุษ!" เสียงแหลมๆ ของมิสพริสซิลล่าดังก้องในห้องโถงกว้าง เมื่อเมรี่เผลอเอียงตัวเล็กน้อยขณะจดบันทึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การปักผ้าเช็ดหน้า

"แต่หลังหนูตรงอยู่แล้วนะคะมิสพริสซิลล่า" เมรี่แย้งเบาๆ แต่ก็ถูกสายตาพิฆาตของอาจารย์จ้องมองกลับมา

"อย่าเถียง! สุภาพสตรีที่ดีไม่เคยโต้เถียงผู้ใหญ่!" มิสพริสซิลล่าชี้ไม้เรียวไปที่เมรี่ "และจำไว้ว่า รอยยิ้มของสุภาพสตรีควรเปี่ยมด้วยความอ่อนโยน ไม่ใช่รอยยิ้มแบบ...แบบที่ผู้ชายชอบใช้กัน!"

เมรี่กัดฟันแน่น เธออยากจะตะโกนออกไปว่ารอยยิ้มที่เธอมีคือรอยยิ้มที่แสดงความมั่นใจ ไม่ใช่รอยยิ้มจอมปลอมที่ต้องเสแสร้ง แต่เธอก็ทำได้เพียงก้มหน้ายอมรับ

ในยามค่ำคืน เมื่อแสงเทียนในห้องนอนรวมริบหรี่ลง เด็กสาวคนอื่นๆ หลับใหลไปแล้ว เมรี่มักจะแอบหยิบสมุดบันทึกเก่าๆ ที่พ่อของเธอเคยใช้จดคดีต่างๆ ออกมาเปิดอ่าน เธอจำได้ว่าครั้งหนึ่ง พ่อเคยบอกเธอว่า "เมรี่เอ๋ย ดวงตาที่ดีไม่ใช่แค่เห็น แต่ต้องมองเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น และนั่นแหละคือนักสืบที่แท้จริง"

เธอคิดถึงเสียงหัวเราะของพ่อ คิดถึงพี่ชายทั้งสอง อเล็กซานเดอร์ผู้เงียบขรึมแต่เฉียบคม และเฟรเดอริคผู้ร่าเริงและมีไหวพริบ ทุกครั้งที่พ่อและพี่ชายกลับมาจากคดีใหม่ๆ บ้านของเธอก็จะกลายเป็นห้องสืบสวนเล็กๆ พวกเขาถกเถียง แลกเปลี่ยนความเห็น วาดภาพจุดเกิดเหตุ และเมรี่มักจะแอบฟังอย่างตั้งใจ จดจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการไขปริศนา เธอเคยไขปริศนาเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านได้ด้วยตัวเองหลายครั้ง จนพ่อถึงกับเอ่ยปากชมว่าเธอมีพรสวรรค์

"เมรี่" พ่อเคยพูดกับเธอ ดวงตาของท่านเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ "ลูกมีความสามารถพิเศษจริงๆ บางที...ลูกอาจจะเป็นนักสืบที่เก่งที่สุดในตระกูลแบล็ควู้ดเลยก็ได้"

คำพูดเหล่านั้นยังคงก้องอยู่ในหูของเมรี่ ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกผิดที่เธอไม่สามารถทำตามความฝันของตัวเองได้

"ฉันจะไม่ยอมอยู่ที่นี่เด็ดขาด" เมรี่กระซิบกับตัวเองในความมืด ดวงตาของเธอฉายแววมุ่งมั่น "ฉันจะต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้ และตามหาพี่ชายของฉัน"

วันเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าในโรงเรียนแห่งนี้ เมรี่พยายามสังเกตการณ์ทุกสิ่งรอบตัว เธอเรียนรู้เส้นทางหนีไฟ เรียนรู้ตารางเวรของแม่บ้านและยามกลางคืน สังเกตพฤติกรรมของอาจารย์แต่ละคน และทำความเข้าใจกฎระเบียบที่เข้มงวดที่สุด

เพื่อนร่วมห้องของเมรี่ส่วนใหญ่เป็นเด็กสาวที่มาจากตระกูลดี มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้าพูดคุยกับเธออย่างเปิดเผย หนึ่งในนั้นคือ เอมิลี่ เด็กสาวร่างเล็ก ผมสีทอง ผู้มีดวงตาที่เต็มไปด้วยความฝันคล้ายเมรี่

"เธอทำท่าทางเหมือนกำลังสืบคดีเลยนะเมรี่" เอมิลี่กระซิบขณะที่พวกเขากำลังช่วยกันจัดดอกไม้ในห้องโถง "เธอรู้ไหมว่ามาดามเซเลสต์ชอบเดินตรวจเวรตอนตีสาม"

เมรี่หันไปมองเอมิลี่อย่างประหลาดใจ "เธอรู้ได้อย่างไร?"

เอมิลี่หัวเราะคิกคัก "ฉันแอบเห็นท่านเดินผ่านห้องนอนฉันบ่อยๆ ในตอนกลางคืนน่ะสิ เธอคิดว่าท่านอาจารย์ใหญ่เป็นแวมไพร์รึเปล่า?"

"บางทีอาจจะแย่กว่านั้นก็ได้นะเอมิลี่" เมรี่ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าที่เอมิลี่คาดไว้ "การรู้ตารางชีวิตของคนอื่นคือข้อมูลสำคัญที่จะทำให้เราได้เปรียบ"

เอมิลี่เลิกคิ้วขึ้น "หมายความว่ายังไง?"

"หมายความว่า...ถ้าฉันคิดจะทำอะไรบางอย่าง ฉันก็ต้องรู้ว่าใครจะอยู่ที่ไหนเมื่อไหร่" เมรี่ตอบพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก เอมิลี่จ้องมองเธอด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ

คืนหนึ่ง เมรี่แอบย่องเข้าไปในห้องสมุดของโรงเรียน เธอเคยได้ยินมาว่าในห้องสมุดมีหนังสือเก่าๆ ที่ถูกเก็บไว้ในส่วนที่ไม่มีใครสนใจ และหวังว่าจะเจอแผนที่เมืองบาธ หรือข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางรถไฟที่สามารถพาเธอไปยังเมืองที่พี่ชายของเธออยู่ได้

"อะไรนะ? หนังสือเก่าๆ ที่นี่น่ะหรือ?" มิสพริสซิลล่าเคยหัวเราะเยาะเมื่อเมรี่เคยถามหาหนังสือเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ "ที่นี่มีแต่ตำราการเรือนและบทกวีโรแมนติกเท่านั้นแหละจ้ะ มิสแบล็ควู้ด!"

แต่เมรี่ไม่เชื่อ เธอรู้ว่าพ่อของเธอเคยบอกเสมอว่า "คำตอบมักจะซ่อนอยู่ในที่ที่คนอื่นไม่คิดจะมองหา"

ในมุมมืดของห้องสมุด กองหนังสือเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยฝุ่นถูกวางซ้อนกัน เมรี่ค่อยๆ ค้นหาอย่างระมัดระวัง มือของเธอสัมผัสได้ถึงปกหนังที่เปื่อยยุ่ยและกระดาษสีเหลืองที่กรอบ เธอสะดุดเข้ากับสมุดเล่มหนึ่งที่มีตราประทับของเมืองบาธอยู่บนปก เมื่อเปิดออกดูก็พบว่าเป็นไดอารี่เก่าๆ ของเด็กสาวคนหนึ่งที่เคยเรียนที่นี่เมื่อหลายสิบปีก่อน เมรี่เริ่มอ่านอย่างรวดเร็ว

"...วันนี้ฉันพยายามหนีออกจากโรงเรียนนี้อีกครั้ง แต่ก็ถูกจับได้ที่ทางออกลับหลังสวน...'

เมรี่เบิกตากว้าง 'ทางออกลับหลังสวน!' เธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน! เธออ่านต่ออย่างกระหาย

"...อาจารย์ลงโทษฉันด้วยการกักบริเวณในห้องเก็บของเก่าใต้ดิน...เป็นห้องที่มืดและเหม็นอับ แต่ฉันเห็นช่องระบายอากาศเล็กๆ ที่เชื่อมออกไปด้านนอก..."

เมรี่รู้สึกหัวใจเต้นแรง นี่คือเบาะแสสำคัญ! ทางออกลับ! ช่องระบายอากาศ! เธอจะต้องไปสำรวจที่นั่นให้ได้ในไม่ช้า

ขณะที่เธอกำลังจดจ่ออยู่กับการอ่าน เสียงฝีเท้าเบาๆ ก็ดังขึ้นจากทางเดิน เมรี่รีบปิดสมุดและซ่อนมันไว้ใต้เสื้อคลุมของเธอ เธอแกล้งทำเป็นกำลังจัดหนังสืออยู่บนชั้น

"มิสแบล็ควู้ด? ยังไม่นอนอีกหรือคะ?" เสียงของมาดามเซเลสต์ดังขึ้นจากทางเดินที่มืดมิด มาดามเซเลสต์เดินเข้ามาในห้องสมุดอย่างช้าๆ แสงจันทร์สาดส่องผ่านหน้าต่างกระทบกับใบหน้าของนาง ทำให้ดูน่าเกรงขามยิ่งขึ้น

"หนู...หนูแค่รู้สึกนอนไม่หลับค่ะมาดามเซเลสต์ เลยลงมาหาหนังสืออ่าน" เมรี่ตอบเสียงตะกุกตะกัก

"หนังสืออะไรหรือคะ?" มาดามเซเลสต์เดินตรงมายังมุมที่เมรี่ยืนอยู่ ดวงตาของนางกวาดมองไปรอบๆ อย่างไม่ไว้วางใจ "มิสพริสซิลล่าบอกว่าเธอมีความสนใจในเรื่องแปลกๆ อยู่เสมอ"

เมรี่พยายามสงบสติอารมณ์ "ก็...หนูแค่อยากอ่านวรรณคดีคลาสสิกน่ะค่ะ ท่านอาจารย์ใหญ่" เธอหยิบหนังสือเล่มหนาที่ใกล้ที่สุดออกมาจากชั้น มันคือหนังสือบทกวีเล่มหนึ่ง

มาดามเซเลสต์มองเมรี่ด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ "ดูเหมือนเธอจะชอบใช้เวลาอยู่คนเดียวในที่เงียบๆ นะ มิสแบล็ควู้ด"

"หนู...หนูแค่อยากมีสมาธิกับการอ่านค่ะ"

"อืม...ดีแล้วที่เธอมีความขยัน แต่เธอควรจะเข้ากับเพื่อนร่วมห้องให้มากกว่านี้ สุภาพสตรีที่ดีควรมีสังคมและเรียนรู้ที่จะเข้าหาผู้อื่น" มาดามเซเลสต์กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่แฝงไปด้วยคำเตือน "อย่าให้ฉันต้องได้ยินเรื่องที่เธอแอบทำอะไรที่ไม่เหมาะสมอีกนะ ไม่เช่นนั้น...ฉันจะแจ้งให้ท่านลุงท่านป้าของเธอทราบ"

เมรี่รู้สึกเหมือนถูกจับได้ แต่ก็พยายามรักษาสีหน้าให้ปกติ "ค่ะ มาดามเซเลสต์"

มาดามเซเลสต์พยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินจากไป ทิ้งให้เมรี่ยืนใจเต้นระทึกอยู่คนเดียวในความมืด เธอรู้ว่าการหลบหนีครั้งนี้จะต้องไม่ใช่เรื่องง่าย มาดามเซเลสต์เป็นคนฉลาดและระมัดระวัง แต่เมรี่ก็จะไม่ยอมแพ้ เธอจะใช้ทุกสิ่งที่เธอเรียนรู้จากพ่อและพี่ชาย เพื่อไขปริศนาที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ นั่นคือการปลดปล่อยตัวเองจากกรงขังแห่งนี้

เธอกำสมุดไดอารี่เก่าๆ ในมือแน่น ราวกับมันเป็นแสงสว่างเดียวในความมืดมิดนี้ 'ทางออกลับ...ห้องเก็บของเก่าใต้ดิน...ช่องระบายอากาศ...' แผนการหลบหนีเริ่มก่อตัวขึ้นในความคิดของเมรี่อย่างช้าๆ แต่ชัดเจน เธอจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด เพราะการหลบหนีครั้งนี้คือเดิมพันทั้งหมดในชีวิตของเธอ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   ซากปริศนา

    ความจริงที่ มิสเตอร์คลาร์ก เปิดเผยนั้นหนักหน่วงเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ไม่ได้แค่ต้องการทำลายกาลเวลา แต่ยังล้างแค้นราชวงศ์อังกฤษจากการกระทำในอดีต นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังต่อสู้กับภัยคุกคามที่หยั่งรากลึกมาหลายศตวรรษ การที่กษัตริย์ทรงถูกควบคุมอยู่คือหัวใจของแผนการทั้งหมดนี้"ถ้าอย่างนั้น 'สายรัดแห่งคำสาป' ที่ควบคุมกษัตริย์อยู่คืออะไรคะ?" เมรี่ ถาม มิสเตอร์คลาร์กที่ดูอ่อนล้าแล้วมิสเตอร์คลาร์กพาพวกเขาเดินลึกเข้าไปในทางเดินใต้ดินของพระราชวังวินด์เซอร์ โดยมี 'ผู้พิทักษ์แห่งราชบัลลังก์' ที่ตอนนี้ปลอดจากคำสาป เดินนำทางไปเงียบๆ เขาเล่าเรื่องราวที่น่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับชะตากรรมของราชวงศ์วินด์เซอร์"มันคือ 'มงกุฎแห่งเวลา' ที่แท้จริงครับ" มิสเตอร์คลาร์กตอบ "ไม่ใช่แค่สายรัด แต่เป็นมงกุฎที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' สร้างขึ้นจากพลังของ 'กระจกแห่งความจริง' เพื่อผูกมัดกษัตริย์องค์ปัจจุบันให้เป็นหุ่นเชิดของเขา""แล้วเราจะถอดมันออกได้อย่างไรครับ?" เอดิสัน ถาม"มันถูกออกแบบมาให้หลอมรวมกับผู้สวมใส่ครับ" มิสเตอร์คลาร์กถอนหายใจ "วิธีเดียวที่จะถอดมันได้คือต้องใช้พลังที่แข็งแกร่งกว่า 'กระจกแห่งค

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   ความลับราชวงค์

    กระดาษที่ 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' มอบให้เมรี่ไม่ได้เป็นแค่แผนที่ แต่มันเป็นเหมือนภาพวาดที่สลักเสลาด้วยลายมือประณีต บอกเล่าถึงอนาคตที่กำลังจะมาถึง หนึ่งในภาพเหล่านั้นคือภาพของ มิสเตอร์คลาร์ก กำลังยืนอยู่หน้าอาคารเก่าแก่แห่งหนึ่งในลอนดอน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของ พระราชวังวินด์เซอร์ สถานที่พำนักของราชวงศ์อังกฤษ"มิสเตอร์คลาร์กไปที่นั่นทำไมครับ!" เฟรเดอริค อุทานด้วยความแปลกใจ"ดูเหมือนว่าเขากำลังรอเราอยู่ที่นั่น" เมรี่ ตอบ เธอกำแผนที่ไว้ในมือแน่น "เราต้องไปที่นั่นให้เร็วที่สุด"หลังจากเดินทางกลับมายังลอนดอน เมรี่และทีมใช้เวลาสองวันเต็มๆ ในการเตรียมตัวและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพระราชวังวินด์เซอร์ แต่การจะเข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขารู้ว่าต้องใช้แผนการที่แยบยลและละเอียดรอบคอบ"เราจะเข้าไปได้อย่างไรครับ?" อเล็กซานเดอร์ ถาม "ที่นั่นมีทหารรักษาการณ์อยู่ทุกตารางนิ้วเลยนะครับ""เราต้องหาทางเข้าที่ไม่มีใครสังเกตเห็น" เบ็น ตอบ "และผมคิดว่าผมรู้ว่ามันอยู่ตรงไหน"ภารกิจลับใต้ดินพวกเขาเดินทางไปยังพระราชวังวินด์เซอร์ในคืนหนึ่งที่มืดมิดและไร้ดวงจันทร์ พวกเขาแต่งกายด้วยชุด

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   จุดเริ่มต้น

    เมรี่ และทีมของเธอออกเดินทางจากเอดินบะระในเช้าวันรุ่งขึ้น พวกเขาใช้รถยนต์เก่าๆ คันหนึ่งที่ นักสืบโธมัส เตรียมไว้ให้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยรถไฟที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แผนที่สู่ห้วงเวลาที่ได้มาจากนักสืบโธมัสดูจะนำพวกเขาไปยังสถานที่ที่ห่างไกลจากความเจริญ และเป็นจุดที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีสิ่งมีชีวิตใดๆ อยู่การเดินทางของพวกเขากินเวลากว่าสองวันเต็มๆ พวกเขาขับรถผ่านทิวทัศน์ที่สวยงามของชนบทในสกอตแลนด์ ท่ามกลางเนินเขาที่เขียวขจี ทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ และทะเลสาบที่เงียบสงบ แต่ในใจของพวกเขายังคงเต็มไปด้วยความสงสัยและความตื่นเต้นกับภารกิจที่กำลังจะมาถึงในที่สุด แผนที่ก็พาพวกเขามาถึงปลายทาง มันเป็น ปราสาทเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาที่โดดเดี่ยว ท่ามกลางหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอกและต้นไม้ที่ดูน่าเกรงขาม ปราสาทแห่งนี้ดูทรุดโทรมและถูกทิ้งร้างมานานหลายศตวรรษ แต่ก็ยังคงความยิ่งใหญ่และน่ากลัวเอาไว้"ที่นี่แหละ" เอดิสัน กล่าวขณะมองไปที่แผนที่ "จุดหมายปลายทางของเราคือที่นี่""แล้ว 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' อยู่ที่ไหนกันครับ?" เฟรเดอริค ถามด้วยความสงสัย"เขาน่าจะอยู่ในปราสาทแห่งนี้ครับ" ปู่ทวด ตอบ "เราต

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   แผนที่ลับ

    หลังจากที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ถูกลบเลือนออกจากกาลเวลา บรรยากาศในห้องลับใต้พระราชวังเอดินบะระก็กลับมาสู่ความสงบเงียบอีกครั้ง เมรี่และทีมยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันระหว่างความโล่งใจจากชัยชนะและความสับสนจากคำพูดปริศนาที่พวกเขาได้ยิน"อนาคต...ของพวกเจ้า...ได้เปลี่ยนไปแล้ว..." เสียงนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเมรี่เอดิสัน ก้มลงเก็บเศษ 'กระจกแห่งความจริง' ที่แตกกระจายอยู่บนพื้น เศษกระจกชิ้นหนึ่งยังคงเรืองแสงสีฟ้าอ่อนๆ อยู่ในมือของเขา"เราควรจะทำอย่างไรกับมันดีครับ?" เอดิสันถามด้วยความลังเลปู่ทวด มองไปที่เศษกระจกนั้นด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความระมัดระวัง "มันอันตรายนัก...มันคือพลังที่เกินกว่ามนุษย์จะควบคุมได้""แต่เราก็ต้องเก็บมันไว้ครับ" อเล็กซานเดอร์ กล่าว "ถ้าปล่อยทิ้งไว้ที่นี่ อาจจะมีคนอื่นมาเจอมันอีก""อเล็กซานเดอร์พูดถูก" เฟรเดอริค เสริม "เราไม่สามารถปล่อยให้พลังแบบนี้ไปอยู่ในมือคนผิดได้อีกแล้ว"เมรี่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย เธอรู้ว่าภารกิจของพวกเขายังไม่จบลง การที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ถูกลบเลือนไปไม่ได้หมายความว่าอันตรายจะหมดไป"เราต้องหาที่เก็บมันไว้ในที่ที่ปลอดภัยที่ส

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   อนาคตได้เปลี่ยนไปแล้ว

    ความเงียบสงัดเข้าปกคลุมห้องลับใต้พระราชวังเอดินบะระ มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นรัวของทุกคนเท่านั้นที่ดังก้องไปมา แสงสลัวๆ จากโคมไฟโบราณส่องกระทบใบหน้าของ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ที่กำลังยืนถือ 'กระจกแห่งความจริง' ไว้ในมืออย่างเยือกเย็น แสงสีฟ้าอ่อนๆ จากกระจกสะท้อนอยู่ในดวงตาของเขา ทำให้เขาดูเหมือนไม่ใช่คนอีกต่อไป"แกไม่ควรเข้ามาถึงที่นี่" 'สถาปนิกแห่งหายนะ' กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์ "พวกแกได้ทำลายแผนการที่ข้าใช้เวลาหลายร้อยปีสร้างขึ้นมา"เขาเหลือบไปมองศพของทหารรักษาการณ์ที่ไม่มีเงา แล้วยิ้มเยาะ "การต่อต้านเป็นสิ่งไร้ค่า... เพราะสุดท้ายแล้ว พวกแกก็จะถูกลบเลือนออกจากประวัติศาสตร์เหมือนอย่างเขา"นักสืบโธมัสไม่รอช้า เขาและทหารอีกคนพุ่งเข้าใส่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ทันที ปืนพกในมือของพวกเขายิงกระสุนออกไปไม่ยั้ง!"ไร้ประโยชน์" 'สถาปนิกแห่งหายนะ' พึมพำก่อนที่กระสุนจะถึงตัวเขา 'สถาปนิกแห่งหายนะ' เพียงแค่โบกมือเบาๆ แล้วเวลาก็หยุดลง! กระสุนที่พุ่งไปข้างหน้าทั้งหมดหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศราวกับถูกแช่แข็ง เขาก้าวผ่านพวกมันไปอย่างช้าๆ แล้วใช้มือแตะที่หน้าอกของนักสืบโธมัสและทหารคนนั้น"ไปสู่ความว่างเปล่าเถอ

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   กระจกแห่งความจริง

    เมรี่กอดบันทึกสำคัญที่ได้จากเลดี้เอลีนอร์ไว้แน่น เธอวิ่งไปตามทางเดินลับใต้พระราชวังเอดินบะระ ทิ้งกลิ่นอายของตำนานและคำเตือนจาก 'ผู้พิทักษ์แห่งเวลา' ไว้เบื้องหลัง ในใจของเธอมีเพียงเป้าหมายเดียว นั่นคือการไปถึง 'กระจกแห่งความจริง' ก่อนที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' จะใช้มันเปิดฉาก 'สงครามแห่งกาลเวลา'ทางเดินลับสิ้นสุดลงที่กำแพงหินทึบ เมรี่รู้ว่าห้องลับที่เธอตามหาจะต้องอยู่หลังกำแพงนี้ แผนผังของจอห์น สมิธ แสดงให้เห็นจุดที่ซ่อนกลไกไว้ แต่เธอจะเปิดมันได้อย่างไรท่ามกลางความมืดมิดและไร้ซึ่งเครื่องมือ?ทันใดนั้น แสงสว่างจ้าก็สาดเข้ามาจากด้านหลัง พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาอย่างหนักแน่น เมรี่หันขวับด้วยความตกใจ พร้อมที่จะป้องกันตัว แต่เมื่อแสงนั้นส่องชัดเจนขึ้น เธอก็เห็นร่างที่คุ้นเคย"เมรี่! เธอปลอดภัยนะ!"อเล็กซานเดอร์, เฟรเดอริค, เอดิสัน, เบ็น, และปู่ทวด ก้าวเข้ามาในทางเดินลับ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนและคราบฝุ่นจากการต่อสู้ แต่แววตาของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความโล่งใจที่ได้เจอเมรี่"ปู่ทวด! ทุกคน!" เมรี่โผเข้ากอดพวกเขาอย่างดีใจ "พวกคุณจัดการกับ 'เงาที่หลงเหลือ' ได้แล้วเหรอคะ!""ใช่แล้ว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status