Share

อิสรภาพ

last update Last Updated: 2025-06-04 23:56:22

สองสามวันต่อมา เมรี่เริ่มปฏิบัติการ "ล่าเครื่องมือ" เธอเลือกช่วงเวลาที่มิสพริสซิลล่ากำลังสอนวิชาจรรยาบรรณสตรีในห้องโถงใหญ่ และมาดามเซเลสต์กำลังง่วนอยู่กับการตรวจสอบบัญชีในห้องทำงาน ส่วนเด็กสาวคนอื่นๆ กำลังฝึกร่ายรำอยู่ในห้องดนตรี

"ฉันต้องทำให้พวกเธอไม่ระแคะระคาย" เมรี่บอกเอมิลี่ "เธอช่วยสร้างความวุ่นวายเล็กน้อยในห้องดนตรีได้ไหม เพื่อดึงความสนใจของมิสพริสซิลล่า"

"ให้ฉันทำอะไรเหรอ?" เอมิลี่ถามด้วยความตื่นเต้น

"แกล้งทำเป็นหกล้มในระหว่างร่ายรำสิ แล้วบอกว่าเธอข้อเท้าแพลง" เมรี่ตอบ "มันจะทำให้มิสพริสซิลล่าต้องมาดูแลเธอ และทุกคนก็จะให้ความสนใจที่เธอ"

เอมิลี่ลังเลเล็กน้อย "แต่ฉันไม่เคยทำแบบนั้นเลยนะเมรี่"

"ไม่เป็นไรน่า ฉันจะคอยดูอยู่ห่างๆ" เมรี่ให้กำลังใจ "แค่ให้พวกเขาสนใจเธอจนฉันสามารถแอบไปที่ห้องช่างได้"

แผนการดำเนินไปอย่างที่คาดไว้ เอมิลี่แกล้งหกล้มได้อย่างแนบเนียน เสียงกรีดร้องเล็กน้อยของเธอทำให้มิสพริสซิลล่ารีบปรี่เข้ามาดูด้วยความตกใจ เด็กสาวคนอื่นๆ ต่างหันมาให้ความสนใจกับเอมิลี่ที่กำลังทำท่าปวดร้าวที่ข้อเท้า

ในจังหวะที่ทุกคนกำลังวุ่นวาย เมรี่ก็แอบย่องออกจากห้องดนตรี เธอเดินไปตามทางเดินที่เงียบสงบ สู่ปีกตะวันตกของอาคาร กลิ่นเครื่องเทศและอาหารที่กำลังปรุงอยู่ในโรงครัวลอยมาเตะจมูก

ห้องช่างอยู่สุดทางเดิน ประตูไม้หนักๆ ถูกล็อคด้วยกุญแจที่แข็งแรง เมรี่หยิบกิ๊บติดผมที่ดัดแปลงขึ้นมาอีกครั้ง เธอเริ่มไขกลอนอย่างใจเย็น เธอเคยฝึกฝนทักษะนี้มาตั้งแต่เด็ก การได้ยินเสียงกลไกภายในที่กำลังเคลื่อนไหว การสัมผัสถึงความต้านทานที่ค่อยๆ คลายลง มันคือศิลปะอย่างหนึ่ง

แกร๊ก!

เสียงดังขึ้นเบาๆ ประตูเปิดออก เมรี่ก้าวเข้าไปในห้องช่าง กลิ่นไม้และโลหะคละคลุ้ง เครื่องมือช่างหลากหลายชนิดถูกแขวนเรียงรายอยู่บนผนังอย่างเป็นระเบียบ เธอเดินตรงไปยังชั้นวางเครื่องมือ หยิบสิ่วและค้อนขนาดเล็กมาอย่างรวดเร็ว เธอกลับมาล็อคประตูอย่างเดิม และรีบเดินกลับไปที่ห้องดนตรี ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"เธอโอเคไหมเอมิลี่?" เมรี่ถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่ามิสพริสซิลล่ากำลังใช้ผ้าเย็นประคบข้อเท้าของเอมิลี่

เอมิลี่พยักหน้าเบาๆ "ไม่เป็นไรแล้วเมรี่ มิสพริสซิลล่าบอกว่าฉันแค่ข้อเท้าพลิกเล็กน้อยน่ะ" เธอส่งสายตาเป็นนัยให้เมรี่ ราวกับจะถามว่า 'สำเร็จไหม?'

เมรี่ยิ้มตอบในใจ 'สำเร็จสิ'

คืนนั้น เมื่อทุกคนหลับ เมรี่และเอมิลี่ก็มุ่งหน้าไปยังห้องเก็บของเก่าอีกครั้ง ด้วยสิ่วและค้อนในมือ เมรี่ปีนขึ้นไปบนลังไม้ และเริ่มลงมือแกะแผ่นไม้ที่ปิดช่องระบายอากาศ

"ระวังนะเมรี่!" เอมิลี่กระซิบ "ถ้าเสียงดังเกินไป เดี๋ยวใครก็จะได้ยิน"

เมรี่ใช้ค้อนตอกสิ่วเข้าไปในช่องว่างเล็กๆ ระหว่างแผ่นไม้กับขอบหน้าต่างอย่างระมัดระวัง เธอค่อยๆ งัดแผ่นไม้ออกทีละนิดๆ เสียงไม้แตกดังเบาๆ ในความเงียบ ยิ่งเธองัดออกได้มากเท่าไหร่ แสงจันทร์จากภายนอกก็ยิ่งส่องเข้ามามากขึ้นเท่านั้น

ใช้เวลาเกือบชั่วโมง ในที่สุด แผ่นไม้ที่แข็งแรงก็หลุดออก แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องเก็บของอย่างเต็มที่ เผยให้เห็นช่องระบายอากาศที่กว้างพอสำหรับเด็กสาวตัวเล็กๆ อย่างเมรี่จะลอดผ่านได้

"ในที่สุด!" เมรี่กระซิบด้วยความดีใจ

"เธอทำได้แล้วเมรี่!" เอมิลี่กระโดดกอดเมรี่เบาๆ ด้วยความตื่นเต้น "แล้วเธอจะไปเมื่อไหร่?"

เมรี่มองออกไปนอกช่องระบายอากาศไปยังสวนที่มืดมิด ท้องฟ้ายามราตรีประดับด้วยดวงดาวนับล้าน เธอสูดหายใจลึกๆ รับอากาศบริสุทธิ์ที่แตกต่างจากอากาศในโรงเรียนอย่างสิ้นเชิง "ฉันจะไปคืนนี้แหละเอมิลี่"

เอมิลี่เบิกตากว้าง "คืนนี้เลยเหรอ? ไม่เตรียมตัวอะไรเลยหรือ?"

"ฉันเตรียมตัวมาตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาแล้วเอมิลี่" เมรี่ตอบ เธอหยิบกระเป๋าผ้าเล็กๆ ที่ซ่อนไว้ในช่องว่างของลังไม้ขึ้นมา ภายในมีเสื้อผ้าเก่าๆ ที่เธอแอบเย็บใหม่ให้กระชับขึ้นเล็กน้อย เงินเหรียญจำนวนไม่มากที่เธอเก็บสะสมไว้ และจดหมายเก่าๆ ของพี่ชายที่ระบุชื่อเมืองที่พวกเขาเคยไปทำงานสืบสวน "ฉันไม่สามารถรอได้อีกต่อไป ฉันต้องไปเดี๋ยวนี้"

"แต่...แล้วฉันล่ะ?" เอมิลี่ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "เธอจะทิ้งฉันไว้ที่นี่คนเดียวเหรอ?"

เมรี่หันไปกอดเอมิลี่อย่างแน่นหนา "ฉันไม่ทิ้งเธอหรอกเอมิลี่ เธอคือเพื่อนคนแรกที่เข้าใจฉันที่นี่ และฉันจะไม่มีวันลืมเธอเด็ดขาด" เธอผละออกจากการกอดแล้วจ้องตาเอมิลี่อย่างจริงจัง "เธอต้องอยู่ที่นี่และคอยปกปิดเรื่องของฉันให้ดีที่สุด จนกว่าฉันจะไปถึงที่หมาย แล้วฉันจะพยายามติดต่อกลับมาหาเธอให้ได้"

"แต่ถ้ามาดามเซเลสต์รู้ขึ้นมาล่ะ?"

"เธอต้องเข้มแข็งนะเอมิลี่ เธอจะต้องไม่บอกใครว่าฉันหายไปไหน และถ้าเธอถูกจับได้ เธอต้องจำไว้ว่าเธอไม่รู้อะไรเลย" เมรี่กำชับ "เชื่อฉันนะเอมิลี่ นี่คือทางเดียวที่ฉันจะรอดไปได้ และฉันจะไม่มีวันลืมบุญคุณเธอเลย"

เอมิลี่พยักหน้าทั้งน้ำตา "ฉันจะพยายามเมรี่ ขอให้เธอปลอดภัยนะ"

"เธอเองก็เช่นกันเอมิลี่"

เมรี่ปีนขึ้นไปบนลังไม้และค่อยๆ มุดตัวผ่านช่องระบายอากาศที่มืดมิด เธอรู้สึกถึงความเย็นของอากาศยามราตรีที่ปะทะกับใบหน้า และกลิ่นหญ้าที่เปียกชื้นยามเช้าตรู่ ร่างกายของเธอค่อยๆ ไถลลงมาด้านนอกอย่างช้าๆ เท้าของเธอสัมผัสกับพื้นดินที่เปียกชื้น

เธอเงยหน้าขึ้นมองโรงเรียนสตรีเลดี้เอเมไลน์ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง กำแพงหินสีเทาดูมืดทะมึนราวกับป้อมปราการแห่งความสิ้นหวัง

"ลาก่อน...กรงทองของสุภาพสตรี" เมรี่กระซิบ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความหวังที่พึ่งได้รับกลับคืนมา "ฉันจะไม่มีวันกลับมาที่นี่อีกแล้ว"

เธอหันหลังให้โรงเรียน และวิ่งออกไปในความมืด เธอไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเจออะไรบ้าง การเดินทางสู่โลกกว้างเพียงลำพังของเด็กสาววัย 17 นั้นเต็มไปด้วยอันตรายและความไม่แน่นอน แต่หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นนักสืบ และตามหาพี่ชายทั้งสองที่เธอเชื่อว่ายังคงรอคอยเธออยู่ ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะยาวไกลและอันตรายแค่ไหน เมรี่ก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันทั้งหมด เพื่ออิสรภาพและเพื่อความฝันของเธอ

เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับบทที่ 2 นี้? เราได้เห็นความมุ่งมั่นของเมรี่ในการวางแผนและดำเนินการหลบหนี รวมถึงบทบาทของเอมิลี่ในการช่วยเหลือเธอได้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ ตอนนี้เมรี่ได้หลบหนีออกมาจากโรงเรียนแล้ว เราจะมาต่อกันในบทที่ 3 ที่เธอเริ่มต้นการเดินทางและอาจจะเผชิญกับคดีแรกของเธอ หรือพบเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับพี่ชายนะคะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   ซากปริศนา

    ความจริงที่ มิสเตอร์คลาร์ก เปิดเผยนั้นหนักหน่วงเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ไม่ได้แค่ต้องการทำลายกาลเวลา แต่ยังล้างแค้นราชวงศ์อังกฤษจากการกระทำในอดีต นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังต่อสู้กับภัยคุกคามที่หยั่งรากลึกมาหลายศตวรรษ การที่กษัตริย์ทรงถูกควบคุมอยู่คือหัวใจของแผนการทั้งหมดนี้"ถ้าอย่างนั้น 'สายรัดแห่งคำสาป' ที่ควบคุมกษัตริย์อยู่คืออะไรคะ?" เมรี่ ถาม มิสเตอร์คลาร์กที่ดูอ่อนล้าแล้วมิสเตอร์คลาร์กพาพวกเขาเดินลึกเข้าไปในทางเดินใต้ดินของพระราชวังวินด์เซอร์ โดยมี 'ผู้พิทักษ์แห่งราชบัลลังก์' ที่ตอนนี้ปลอดจากคำสาป เดินนำทางไปเงียบๆ เขาเล่าเรื่องราวที่น่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับชะตากรรมของราชวงศ์วินด์เซอร์"มันคือ 'มงกุฎแห่งเวลา' ที่แท้จริงครับ" มิสเตอร์คลาร์กตอบ "ไม่ใช่แค่สายรัด แต่เป็นมงกุฎที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' สร้างขึ้นจากพลังของ 'กระจกแห่งความจริง' เพื่อผูกมัดกษัตริย์องค์ปัจจุบันให้เป็นหุ่นเชิดของเขา""แล้วเราจะถอดมันออกได้อย่างไรครับ?" เอดิสัน ถาม"มันถูกออกแบบมาให้หลอมรวมกับผู้สวมใส่ครับ" มิสเตอร์คลาร์กถอนหายใจ "วิธีเดียวที่จะถอดมันได้คือต้องใช้พลังที่แข็งแกร่งกว่า 'กระจกแห่งค

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   ความลับราชวงค์

    กระดาษที่ 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' มอบให้เมรี่ไม่ได้เป็นแค่แผนที่ แต่มันเป็นเหมือนภาพวาดที่สลักเสลาด้วยลายมือประณีต บอกเล่าถึงอนาคตที่กำลังจะมาถึง หนึ่งในภาพเหล่านั้นคือภาพของ มิสเตอร์คลาร์ก กำลังยืนอยู่หน้าอาคารเก่าแก่แห่งหนึ่งในลอนดอน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของ พระราชวังวินด์เซอร์ สถานที่พำนักของราชวงศ์อังกฤษ"มิสเตอร์คลาร์กไปที่นั่นทำไมครับ!" เฟรเดอริค อุทานด้วยความแปลกใจ"ดูเหมือนว่าเขากำลังรอเราอยู่ที่นั่น" เมรี่ ตอบ เธอกำแผนที่ไว้ในมือแน่น "เราต้องไปที่นั่นให้เร็วที่สุด"หลังจากเดินทางกลับมายังลอนดอน เมรี่และทีมใช้เวลาสองวันเต็มๆ ในการเตรียมตัวและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพระราชวังวินด์เซอร์ แต่การจะเข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขารู้ว่าต้องใช้แผนการที่แยบยลและละเอียดรอบคอบ"เราจะเข้าไปได้อย่างไรครับ?" อเล็กซานเดอร์ ถาม "ที่นั่นมีทหารรักษาการณ์อยู่ทุกตารางนิ้วเลยนะครับ""เราต้องหาทางเข้าที่ไม่มีใครสังเกตเห็น" เบ็น ตอบ "และผมคิดว่าผมรู้ว่ามันอยู่ตรงไหน"ภารกิจลับใต้ดินพวกเขาเดินทางไปยังพระราชวังวินด์เซอร์ในคืนหนึ่งที่มืดมิดและไร้ดวงจันทร์ พวกเขาแต่งกายด้วยชุด

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   จุดเริ่มต้น

    เมรี่ และทีมของเธอออกเดินทางจากเอดินบะระในเช้าวันรุ่งขึ้น พวกเขาใช้รถยนต์เก่าๆ คันหนึ่งที่ นักสืบโธมัส เตรียมไว้ให้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยรถไฟที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แผนที่สู่ห้วงเวลาที่ได้มาจากนักสืบโธมัสดูจะนำพวกเขาไปยังสถานที่ที่ห่างไกลจากความเจริญ และเป็นจุดที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีสิ่งมีชีวิตใดๆ อยู่การเดินทางของพวกเขากินเวลากว่าสองวันเต็มๆ พวกเขาขับรถผ่านทิวทัศน์ที่สวยงามของชนบทในสกอตแลนด์ ท่ามกลางเนินเขาที่เขียวขจี ทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ และทะเลสาบที่เงียบสงบ แต่ในใจของพวกเขายังคงเต็มไปด้วยความสงสัยและความตื่นเต้นกับภารกิจที่กำลังจะมาถึงในที่สุด แผนที่ก็พาพวกเขามาถึงปลายทาง มันเป็น ปราสาทเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาที่โดดเดี่ยว ท่ามกลางหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอกและต้นไม้ที่ดูน่าเกรงขาม ปราสาทแห่งนี้ดูทรุดโทรมและถูกทิ้งร้างมานานหลายศตวรรษ แต่ก็ยังคงความยิ่งใหญ่และน่ากลัวเอาไว้"ที่นี่แหละ" เอดิสัน กล่าวขณะมองไปที่แผนที่ "จุดหมายปลายทางของเราคือที่นี่""แล้ว 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' อยู่ที่ไหนกันครับ?" เฟรเดอริค ถามด้วยความสงสัย"เขาน่าจะอยู่ในปราสาทแห่งนี้ครับ" ปู่ทวด ตอบ "เราต

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   แผนที่ลับ

    หลังจากที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ถูกลบเลือนออกจากกาลเวลา บรรยากาศในห้องลับใต้พระราชวังเอดินบะระก็กลับมาสู่ความสงบเงียบอีกครั้ง เมรี่และทีมยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันระหว่างความโล่งใจจากชัยชนะและความสับสนจากคำพูดปริศนาที่พวกเขาได้ยิน"อนาคต...ของพวกเจ้า...ได้เปลี่ยนไปแล้ว..." เสียงนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเมรี่เอดิสัน ก้มลงเก็บเศษ 'กระจกแห่งความจริง' ที่แตกกระจายอยู่บนพื้น เศษกระจกชิ้นหนึ่งยังคงเรืองแสงสีฟ้าอ่อนๆ อยู่ในมือของเขา"เราควรจะทำอย่างไรกับมันดีครับ?" เอดิสันถามด้วยความลังเลปู่ทวด มองไปที่เศษกระจกนั้นด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความระมัดระวัง "มันอันตรายนัก...มันคือพลังที่เกินกว่ามนุษย์จะควบคุมได้""แต่เราก็ต้องเก็บมันไว้ครับ" อเล็กซานเดอร์ กล่าว "ถ้าปล่อยทิ้งไว้ที่นี่ อาจจะมีคนอื่นมาเจอมันอีก""อเล็กซานเดอร์พูดถูก" เฟรเดอริค เสริม "เราไม่สามารถปล่อยให้พลังแบบนี้ไปอยู่ในมือคนผิดได้อีกแล้ว"เมรี่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย เธอรู้ว่าภารกิจของพวกเขายังไม่จบลง การที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ถูกลบเลือนไปไม่ได้หมายความว่าอันตรายจะหมดไป"เราต้องหาที่เก็บมันไว้ในที่ที่ปลอดภัยที่ส

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   อนาคตได้เปลี่ยนไปแล้ว

    ความเงียบสงัดเข้าปกคลุมห้องลับใต้พระราชวังเอดินบะระ มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นรัวของทุกคนเท่านั้นที่ดังก้องไปมา แสงสลัวๆ จากโคมไฟโบราณส่องกระทบใบหน้าของ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ที่กำลังยืนถือ 'กระจกแห่งความจริง' ไว้ในมืออย่างเยือกเย็น แสงสีฟ้าอ่อนๆ จากกระจกสะท้อนอยู่ในดวงตาของเขา ทำให้เขาดูเหมือนไม่ใช่คนอีกต่อไป"แกไม่ควรเข้ามาถึงที่นี่" 'สถาปนิกแห่งหายนะ' กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์ "พวกแกได้ทำลายแผนการที่ข้าใช้เวลาหลายร้อยปีสร้างขึ้นมา"เขาเหลือบไปมองศพของทหารรักษาการณ์ที่ไม่มีเงา แล้วยิ้มเยาะ "การต่อต้านเป็นสิ่งไร้ค่า... เพราะสุดท้ายแล้ว พวกแกก็จะถูกลบเลือนออกจากประวัติศาสตร์เหมือนอย่างเขา"นักสืบโธมัสไม่รอช้า เขาและทหารอีกคนพุ่งเข้าใส่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ทันที ปืนพกในมือของพวกเขายิงกระสุนออกไปไม่ยั้ง!"ไร้ประโยชน์" 'สถาปนิกแห่งหายนะ' พึมพำก่อนที่กระสุนจะถึงตัวเขา 'สถาปนิกแห่งหายนะ' เพียงแค่โบกมือเบาๆ แล้วเวลาก็หยุดลง! กระสุนที่พุ่งไปข้างหน้าทั้งหมดหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศราวกับถูกแช่แข็ง เขาก้าวผ่านพวกมันไปอย่างช้าๆ แล้วใช้มือแตะที่หน้าอกของนักสืบโธมัสและทหารคนนั้น"ไปสู่ความว่างเปล่าเถอ

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   กระจกแห่งความจริง

    เมรี่กอดบันทึกสำคัญที่ได้จากเลดี้เอลีนอร์ไว้แน่น เธอวิ่งไปตามทางเดินลับใต้พระราชวังเอดินบะระ ทิ้งกลิ่นอายของตำนานและคำเตือนจาก 'ผู้พิทักษ์แห่งเวลา' ไว้เบื้องหลัง ในใจของเธอมีเพียงเป้าหมายเดียว นั่นคือการไปถึง 'กระจกแห่งความจริง' ก่อนที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' จะใช้มันเปิดฉาก 'สงครามแห่งกาลเวลา'ทางเดินลับสิ้นสุดลงที่กำแพงหินทึบ เมรี่รู้ว่าห้องลับที่เธอตามหาจะต้องอยู่หลังกำแพงนี้ แผนผังของจอห์น สมิธ แสดงให้เห็นจุดที่ซ่อนกลไกไว้ แต่เธอจะเปิดมันได้อย่างไรท่ามกลางความมืดมิดและไร้ซึ่งเครื่องมือ?ทันใดนั้น แสงสว่างจ้าก็สาดเข้ามาจากด้านหลัง พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาอย่างหนักแน่น เมรี่หันขวับด้วยความตกใจ พร้อมที่จะป้องกันตัว แต่เมื่อแสงนั้นส่องชัดเจนขึ้น เธอก็เห็นร่างที่คุ้นเคย"เมรี่! เธอปลอดภัยนะ!"อเล็กซานเดอร์, เฟรเดอริค, เอดิสัน, เบ็น, และปู่ทวด ก้าวเข้ามาในทางเดินลับ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนและคราบฝุ่นจากการต่อสู้ แต่แววตาของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความโล่งใจที่ได้เจอเมรี่"ปู่ทวด! ทุกคน!" เมรี่โผเข้ากอดพวกเขาอย่างดีใจ "พวกคุณจัดการกับ 'เงาที่หลงเหลือ' ได้แล้วเหรอคะ!""ใช่แล้ว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status