Share

บทที่ 33

last update Dernière mise à jour: 2024-11-13 11:54:07

บทที่ 33

เสียงโทรศัทพ์มือถือซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ ทำให้ตาคู่สวยที่บอบช้ำจากการร้องไห้อย่างหนักในตอนเช้า ต้องละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อก้มดูหน้าจอว่าใครโทร.มา แม้หัวใจจะเจ็บช้ำปานใดเมื่อเห็นว่าเบอร์ที่โทร.เข้ามาเป็นเบอร์ของคนในครอบครัวของปราณต์ แต่นัสรินก็ตัดสินใจรับเพราะอย่างน้อยธรินดาก็ยังเป็นน้องสาวที่น่ารักสำหรับเธอมาตลอด ตั้งแต่ครั้งที่เธอยังหมั้นกับปรัชญ์

“สวัสดีจ้ะน้องเล็ก” น้ำเสียงยามกรอกลงไปในโทรศัพท์นั้นยังพยายามฝืนให้เป็นปกติ ไม่ให้อีกฝ่ายจับสังเกตได้ว่าตอนนี้เธออยู่ในอาการเช่นใด แม่เลี้ยงลักษิกาคงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าให้กับธรินดาและปรัชญ์ฟังหมดแล้ว และนั่นคงเป็นเหตุผลที่ธรินดาโทร.มาหา

“สวัสดีค่ะพี่นัส วันหยุดนี้พี่นัสจะไปไหนหรือเปล่าคะ พวกเราว่าจะไปเที่ยวดอยที่เชียงรายกัน พี่นัสไปด้วยกันไหมคะ”

ธรินดาเอ่ยชวนมาอย่างมีไมตรีจนคนฟังสัมผัสได้ถึงความจริงใจ หากเป็นเมื่อก่อนเธออาจลังเลว่าจะไปด้วยดีหรือไม่ เพราะอย่างน้อยคนในครอบครัวของอดีตสามีก็ดีกับเธอทุกคน แต่หลังจากเหตุการณ์เมื่อเช้าเธอคงไม่มีหน้าไปพบใคร

“วันเสาร์นี้พี่จะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ที่กรุงเทพฯ น่ะจ้ะ เอาไว้โอกาสหน้านะน้องเล็ก”

“ว้าเสียดายจัง เล็กอยากให้พี่นัสไปเที่ยวด้วยจริงๆ นะคะ ดอยที่เชียงรายสวยมาก พี่นัสคงยังไม่เคยไป งั้นเอาไว้โอกาสหน้านะคะ แล้วก็ขอให้เดินทางปลอดภัยค่ะ”

“เช่นกันจ้ะ ขอให้เดินทางปลอดภัยและเที่ยวให้สนุกนะน้องเล็ก”

นัสรินวางสายลงพร้อมกับความหนักอึ้งในอกที่ยังสลัดไม่ออก ครอบครัวของปราณต์ช่างเป็นครอบครัวที่น่ารักเหลือเกิน พวกเขายังมีน้ำใจแม้แต่กับอดีตสะใภ้อย่างเธอ แม้ช่วงเวลาที่เป็นสะใภ้จะสั้นแค่สามเดือนก็ตาม

ใบหน้าสวยหวานแหงนเงยขึ้นมองเพดาน เพื่อหักห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาอีกครั้ง เมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าอีกไม่นานปราณต์ก็คงมีสะใภ้คนใหม่ให้ครอบครัวแล้ว ส่วนเธอก็แค่อดีตภรรยาและเป็นแค่ผู้หญิงโง่ๆ ที่ตกลงไปในหลุมพรางความโกรธเกลียดของเขา

เธอบอกกับธรินดาว่าจะกลับบ้านหาพ่อแม่ที่กรุงเทพฯ ทั้งที่ความจริงแล้วยังไม่ได้จองตั๋วด้วยซ้ำ แต่ในยามนี้เธอโหยหาอ้อมกอดของท่านทั้งสองมากที่สุด ดังนั้นนัสรินจึงตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินไปกลับในช่วงวันหยุดที่จะถึงนี้ทันที อย่างน้อยก็เพื่อไม่ให้เป็นการโกหกธรินดา และเธอเองก็จะได้กลับไปซึมซับเอาความอบอุ่นเพื่อเยียวยาหัวใจให้กลับมาเข้มแข็งดังเดิม

วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นนี้บรรยากาศในสนามบินเชียงใหม่คึกคักมากเป็นพิเศษ นัสรินขับรถมาจอดไว้ที่สนามบินและฝากรถไว้ที่นั่นเลย เพราะวันอาทิตย์ช่วงเย็นก็เดินทางกลับมาแล้ว เธอมาถึงสนามบินก่อนเวลาบอร์ดดิ้งไทม์เกือบหนึ่งชั่วโมง จึงเข้าไปรอในห้องผู้โดยสารที่หน้าเกทเลย

ร่างบางซึ่งแต่งตัวด้วยชุดลำลองที่เหมือนธรรมดา แต่กลับสะกดสายตาของใครหลายคนให้มองตามแทบเหลียวหลัง อาจเป็นด้วยรูปร่างและการแต่งตัวที่เข้ากับตัวเองเหมือนคนช่างเลือก แต่จริงๆ แล้วเธอไม่ได้เลือกอะไรมากมาย ชุดที่ใส่อยู่ตอนนี้เป็นแค่เสื้อสายเดี่ยวผ้ามันลื่นสีแดงเลือดหมู สวมทับด้วยเสื้อแขนเบลเซอร์ปรินต์ลายห้าส่วนทรงเข้ารูป ช่วงล่างเป็นกางเกงยีนสีซีดแบบแฟชั่น กับรองเท้าส้นสูงที่ใส่ทำงานอยู่เป็นประจำเท่านั้น ที่จริงเธอก็ไม่อยากใส่รองเท้าส้นสูงคู่นี้สักเท่าไหร่ แต่ที่ห้องมีรองเท้าแค่สามคู่ เป็นรองเท้าส้นสูงสองคู่ และรองเท้าแตะอีกหนึ่งคู่เท่านั้น

นัสรินเลือกนั่งที่เก้าอี้เบาะนุ่มสีกรมท่าซึ่งสนามบินจัดไว้ให้ที่หน้าเกท โดยเลือกนั่งแถวหลังสุดซึ่งไม่มีใครนั่งอยู่ กระเป๋าสะพายถูกนำมาวางไว้ที่ตัก และกำลังจะค้นเอาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ามากดเล่นฆ่าเวลา แต่เธอก็ต้องตกใจจนหน้าซีดเมื่อมีใครคนหนึ่งทรุดตัวนั่งลงข้างๆ พร้อมกับพาดมือมาที่พนักเก้าอี้ที่เธอนั่งอยู่

“คุณปราณต์!” เสียงหวานอุทานขึ้นเมื่อหันไปดูว่าคนที่ทำตัวถือวิสาสะอย่างน่าเกลียดนั้นคือใคร

“ทำไมจะต้องอุทานขนาดนั้นกะอีแค่เห็นหน้าผัว” ปราณต์ไม่ได้พูดเบาสักนิด จึงทำให้คนที่นั่งอยู่เก้าอี้แถวหน้าหันมามอง จนนัสรินหน้าแดงไปหมด

“คุณไม่ใช่ผัวนัส” นัสรินตอบโต้ไปอย่างเบาที่สุด เพื่อไม่ให้คนข้างหน้าได้ยิน

“แล้วไอ้ที่ทำกันคืนนั้นตั้งหลายท่าล่ะ เรียกว่าอะไรล่ะหืม”

ปราณต์ก้มลงมากระซิบถามบ้าง ทำให้หญิงสาวต้องเอียงหน้าหนีเพราะกลัวจมูกเขาจะชนกับแก้มนวล

“จะเรียกว่าอะไรก็สุดแล้วแต่เถอะค่ะ เพราะมันไม่มีความหมายอะไรกับนัสอยู่แล้ว”

“เป็นผู้หญิงฟรีเซ็กซ์ว่างั้น”

“จะเรียกอย่างนั้นก็ได้ค่ะ” คราวนี้นัสรินขยับมานั่งตัวตรงและเชิดหน้าขึ้นราวกับไม่แคร์ เพราะเริ่มตั้งตัวได้แล้ว อีกทั้งคำพูดของเขาก็ทำให้เธอลืมความรู้สึกอย่างอื่นไปจนสิ้น เหลือไว้แต่ความโกรธเคืองเท่านั้น

“แล้วนี่จะไปไหน”

“นัสจะกลับบ้านช่วงวันหยุด แล้วคุณหมอล่ะคะ” เธอตอบและถามอย่างห่างเหิน

“บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เรียกแบบนี้ คุณไม่ใช่คนไข้ของผม” ปราณต์ไม่ตอบในสิ่งที่นัสรินถาม แต่กลับตำหนิกับสรรพนามที่เธอใช้เรียกเขาเหมือนกับไม่พอใจ

“ถึงจะไม่ใช่ แต่เราก็ไม่ได้สนิทกันอีกต่อไปแล้ว”

“แต่ผมว่าเรามีเรื่องที่ต้องสะสางกันอีกนะนัสริน”

“คุณหมอต้องการอะไรจากนัส”

“ผมต้องการให้คุณชดใช้ในสิ่งที่คุณกับปรัชญ์เคยทำไว้กับผม”

ปราณต์พูดพร้อมกับหยิบเอาการ์ดแต่งงานที่เคยได้จากเพื่อนของนัสรินออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท แล้วยื่นมันไปให้กับเธอ

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Related chapter

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 34

    บทที่ 34นัสรินหยิบมาเปิดดู ก่อนจะหน้าซีดเผือดราวกับขาดโลหิตอย่างอึ้งๆ เพราะจำนนด้วยหลักฐาน เธอไม่คิดว่าปราณต์จะได้เห็นการ์ดพวกนี้ เพราะการ์ดพวกนี้เป็นส่วนที่เธอแจกให้กับญาติและเพื่อนสนิทฝั่งตัวเอง ซึ่งในการ์ดแต่งงานที่ออกแบบอย่างสวยงามนั้น ระบุชื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นชื่อของเธอกับเขา นั่นเป็นการยืนยันชัดว่าการแต่งงานที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาไม่ใช่เกิดขึ้นเพราะสาเหตุของการตกกระไดพลอยโจน แต่เกิดจากความตั้งใจของเธอกับปรัชญ์ที่วางแผนการเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะให้ปราณต์แต่งงานกับเธอแทน“คุณอยากให้นัสชดใช้ยังไงล่ะคะ” เธอหันไปถามเมื่อคิดว่ายังไงเรื่องนี้ตัวเองก็เป็นคนทำผิดจริงๆ“คุณน่าจะรู้ดีนะนัสริน ว่าผมยังต้องการร่างกายของคุณ”คำพูดนั้นแสนเย็นชาและฟังดูใจร้ายเหลือเกิน และแม้นัสรินจะรู้อยู่แล้วก็ยังอดปลาบแปลบใจไม่ได้“นัสก็ให้คุณไปแล้วนี่คะ” นัสรินเชิดหน้าขึ้นตอบ พยายามทำตัวให้นิ่งเฉย เหมือนกับไม่รู้สึกรู้สาต่อคำพูดของเขาเช่นกัน“น้อยไปไหม แค่ครั้งเดียวผมยังไม่อิ่มหรอก”“แล้วต้องกี่ครั้ง คุณปราณต์ถึงจะพอ”“จนกว่าผมจะพอใจ”นัสรินจ้องหน้าคนใจร้ายเลือดเย็นอย่างน้อยใจ เขาช่างพูดออกมาได้ว่าเธอ

    Dernière mise à jour : 2024-11-14
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 35

    บทที่ 35แท็กซี่จากสนามบินแล่นมาจอดยังลานหน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ย่านชานเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่กว้างขวางกว่าสามร้อยตารางวา มีรั้วรอบขอบชิดแน่นหนา พื้นที่รอบบ้านเต็มไปด้วยสีเขียวขจีของสนามหญ้าซึ่งปลูกแซมด้วยต้นปาล์ม ให้ความรู้สึกโอ่อ่ากว้างขวาง ชวนสบาย บ่งบอกถึงฐานะผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดีสำอางกับลุงเล็กสองสามีภรรยาที่ทำหน้าที่เฝ้าบ้านรวมทั้งสายหยุดลูกสาวของทั้งคู่ต่างเดินมาดู เมื่อเห็นว่าคนที่ลงมาจากรถคือปราณต์ซึ่งมาพร้อมกับนัสรินที่เป็นอดีตภรรยาเก่าก็ต้องแปลกใจเป็นอย่างมาก“สวัสดีค่ะคุณปราณต์ คุณนัส” สำอางยกมือขึ้นไหว้ทั้งสองคน ซึ่งปราณต์และนัสรินก็ยกมือขึ้นรับไหว้ เพราะถึงแม้ว่าสำอางจะเป็นลูกจ้างแต่ก็เป็นผู้ใหญ่กว่า“สบายดีนะป้าสำอาง ลุงเล็ก สายหยุด”“สบายดีทุกคนค่ะ อิฉันไม่ทราบว่าคุณปราณต์จะมา ไม่อย่างนั้นคงให้ตาเล็กไปรับที่สนามบินแล้วละค่ะ”“ไม่เป็นไรหรอก ผมนั่งแท็กซี่มาเองก็ไม่ได้ลำบากอะไร ทุกคนมีอะไรก็ไปทำเถอะ เดี๋ยวผมดูแลตัวเองได้ อ้อ...แล้วไม่ต้องโทร.บอกแม่ล่ะว่าผมมาที่นี่” ปราณต์สั่งกำชับในประโยคท้าย ทำให้ทุกคนต่างพยักหน้ารับรู้ แม้จะสงสัยและอยากบอกแม่เลี้ยงลัก

    Dernière mise à jour : 2024-11-14
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 36

    บทที่ 36“ผมพูดความจริงต่างหาก หรือคุณจะปฏิเสธว่าเวลาคุณจะถึงคุณไม่ครางแบบนี้”“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ ถ้าไม่หยุดนัสจะ...จะ...” จู่ๆ นัสรินก็คิดไม่ออกขึ้นมาดื้อๆ ว่าจะขู่อะไรดี ปราณต์ถึงจะกลัว“จะอะไร” คิ้วเข้มเลิกขึ้นและยิ้มยวนอย่างท้าทาย นั่นยิ่งทำให้คนที่เป็นฝ่ายถูกต้อนเจ็บใจมากกว่าเดิม จึงคว้ามีดที่อยู่ใกล้ๆ แล้วยกขึ้น“นัสจะแทงคุณด้วยมีดนี่” นัสรินหวังว่าความแหลมคมของมีดจะทำให้ปราณต์กลัวและเลิกตอแยกับเธอ แต่เปล่าเลยเขายังคงยืนนิ่งและท้าทายให้เธอลงมือจริงๆ“ก็เอาสินัสริน อยากแทงตรงไหนบนตัวผมก็แทงเลย จะแทงที่คอ ที่หัวใจ หรือจะที่ท้องก็ได้นะ ผมขออย่างเดียวอย่าแทงข้างหลังผมอีก”“คุณอย่านึกว่านัสไม่กล้านะ” ปากขู่ฟ่อ แต่มือสั่นเทา ขอบตาก็เริ่มร้อนผ่าวเมื่อปราณต์ยืนรอราวกับไม่อนาทรต่อความเจ็บปวดที่เธอจะมอบให้แม้แต่นิด“ก็ไม่คิดว่าจะไม่กล้า ผมแค่บอกให้คุณแทงตามสบาย แทงได้ทุกที่ ยกเว้นข้างหลังผม”คำพูดอันตอกย้ำว่าเขาไม่อยากถูกแทงข้างหลังอีก บวกกับท่าทีที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงของร่างสูงซึ่งอยู่ตรงหน้า ทำให้นัสรินเป็นฝ่ายยอมแพ้เสียเอง เธอวางมีดในมือลงที่เดิม พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาจนตัวโยน“

    Dernière mise à jour : 2024-11-14
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 37

    บทที่ 37นัสรินคร้านจะมีเรื่องด้วยจึงไปนั่งรอที่โต๊ะหินอ่อน มองดูปราณต์หยิบนั่นหยิบนี่ใส่กระทะอยู่เงียบๆ ตอนนี้ในห้องครัวไม่มีเสียงใดๆ นอกจากเสียงการเคลื่อนไหวของเขา และเสียงตะหลิวที่เคาะกับกระทะเป็นระยะไม่นานข้าวผัดอเมริกันหน้าตาน่ากินสองจานก็ถูกนำมาวางที่โต๊ะ จากนั้นทั้งเขาและเธอต่างก็นั่งกินเงียบๆ หากแต่หญิงสาวแทบจะกลืนข้าวไม่ลง เพราะมีสายตาคมๆ นั้นจดจ้องมองอยู่ตลอดเวลา เมื่ออิ่มนัสรินก็ทำหน้าที่เก็บจานไปล้างอย่างอ้อยอิ่ง พลางคิดว่าหลังจากนี้จะหลบเลี่ยงปราณต์ยังไง เธออยากมีเวลาอยู่กับตัวเองก่อน ไม่ใช่อยู่ในสายตาของเขาทุกย่างก้าวแบบนี้ แต่ปราณต์ก็ไม่ให้เวลาเธอคิด เมื่อเธอล้างจานไม่เสร็จเสียที เขาก็เป็นฝ่ายดึงจานจากมือเล็ก จัดการล้างเสียเองและเสร็จภายในไม่กี่พริบตา จากนั้นเขาก็หันหน้ามาเผชิญกับคนที่ยืนมองอยู่ข้างๆ พร้อมกับจับข้อมือของเธอเอาไว้มั่น“คราวนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว เราขึ้นห้องกันเถอะ”ขึ้นห้อง...เขาคงไม่พาขึ้นไปเฉยๆ หรอกกระมัง ในเมื่อเขาประกาศความต้องการของตัวเองออกจะชัด ว่าเขาพาเธอมาที่นี่ทำไม“คุณขึ้นไปก่อนเถอะค่ะ นัสขอเดินย่อยอาหารสักพัก” นั่นเป็นข้ออ้างเดียวที่เธอคิดออกในเ

    Dernière mise à jour : 2024-11-14
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 38

    บทที่ 38ขณะที่นัสรินกำลังขุ่นเคืองคนพูด ร่างสูงก็ขยับมายืนซ้อนหลัง ทำเอานัสรินตัวแข็งทื่อกลัวว่าปราณต์จะมาทำอะไรอย่างที่ตัวเองนึกหวาดหวั่น ไม่ใช่ว่าเธอจะรังเกียจหรือไม่ไยดีต่อไฟปรารถนาของเขา ตรงกันข้ามเธอกลับโหยหามันอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่เธอรู้สึกแย่กับตัวเองที่ร่างกายนี้เป็นที่ปรารถนาของเขา หากแต่หัวใจของเธอเขากลับไม่คิดแม้แต่จะเหลียวแล“เมื่อไหร่จะเลิกประวิงเวลา ไหนว่าอาบน้ำเสร็จจะไปนอนรอบนเตียง” เขาทวงถามถึงคำพูดที่เธอพูดใส่หน้าเขาก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ“ผมนัสยังไม่แห้งนี่คะ จะให้ไปนอน หมอนคุณก็เปียกแย่” เสียงหวานตอบพลางใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดมือราวกับไม่สนใจคำพูดของเขา ทั้งๆ ที่ตอนนี้หัวใจเต้นแรงโลดไปหมด“หมอนเปียก ผมไม่ซีเรียสหรอก แต่ผมจะซีเรียสถ้าหากว่าส่วนอื่นของคุณ ‘เปียก’ โดยที่ผมไม่ได้เป็นคนทำ”คำพูดของเขาทำให้ร่างบางที่นั่งตัวแข็งทื่ออยู่ตอนแรกลุกพรวดพราดขึ้นจากเก้าอี้ และหันหน้าไปเผชิญกับคนชอบหาเรื่องและพูดจาสองแง่สองง่ามด้วยสายตาเคืองขุ่น“หมอลามก! นัสไม่เคยเป็นแบบนั้น”“งั้นก็แสดงว่า ‘เปียก’ เฉพาะกับผมน่ะสิ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างยียวนแววตาก็ไหวระริกอย่างคนที่กำลังขำแต่หน้ากลั

    Dernière mise à jour : 2024-11-14
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 39

    บทที่ 39“หิวหรือเปล่า อยากกินอะไรมั้ย” ปราณต์หันมาถามหลังออกจากร้านเสื้อผ้าแล้ว“ไม่ค่ะ” นัสรินตอบสั้นๆ ไม่อยากพูดอะไรกับเขาในตอนนี้“ถ้าอย่างนั้นก็กลับ”มือข้างหนึ่งตวัดมากระชับมือของเธอแล้วจูงให้เดินตาม อีกมือถือถุงเสื้อผ้าที่เขาบอกพนักงานขายให้รวมใส่ถุงแค่สามถุงเพื่อจะได้ไม่พะรุงพะรัง แล้วเดินเคียงคู่กันออกไปยังรถ ทำให้นัสรินอดคิดไม่ได้ ตอนนี้ท่าทางที่เขากำลังปฏิบัติกับเธอคงทำให้คนมองเข้าใจว่า เธอกับเขาเป็นคู่รักหรือสามีภรรยาที่มาเดินเที่ยวห้างซื้อของด้วยกันในวันหยุด มีแต่เธอเท่านั้นที่รู้ดีว่ามันไม่ใช่ทั้งสองอย่าง ตอนนี้เธอเป็นเมียเก็บและนางบำเรอของเขาเต็มตัวแล้วนัสรินแปลกใจอย่างมากเมื่อเห็นว่าปราณต์ไม่ได้ขับรถกลับบ้านของเขาอย่างที่เธอคิด แต่เบนจุดหมายไปทางอื่นเหมือนกับว่าเขามีธุระจะทำต่อ ทั้งๆ ที่ก่อนออกจากห้างเขาบอกเธอว่าจะพากลับตาคู่สวยมองถนนเส้นนั้นอย่างคุ้นเคย เพราะมันเป็นถนนที่ไปยังบ้านของเธอ และเมื่อปราณต์ขับรถมาจอดที่หน้าบ้านของเธอจริงๆ เธอก็หันไปมองเขาอย่างหวาดหวั่น“คุณพานัสมาที่นี่ทำไมคะ” นัสรินรีบถามอย่างร้อนใจ กลัวว่าเขาจะทำอะไรห่ามๆ ให้เธอได้อับอายขายหน้าพ่อแม่อีก

    Dernière mise à jour : 2024-11-14
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 40

    บทที่ 40ทันทีที่กลับมาทำงานเชียงใหม่ในเช้าวันจันทร์ นัสรินก็ได้รับโทรศัพท์จากกิตติ บอกว่าทางโรงพยาบาลจะจัดงานเลี้ยงราตรีสโมสรเพื่อระดมทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ บริษัทของเธอในฐานะซัพพลายเออร์จึงต้องไปร่วมงานดังกล่าวและนำทุนส่วนหนึ่งไปมอบให้เพื่อแสดงไมตรีจิต และนัสรินก็ถูกมอบหมายจากกิตติให้ไปร่วมงานดังกล่าวนัสรินรับปากแต่ก็คิดหนัก เพราะคาดว่าต้องเจอปราณต์ในงานนั้นแน่ๆ แต่อีกใจก็ปลอบตัวเองว่า คนในงานน่าจะเยอะอยู่พอสมควร หากเธอหลบเลี่ยงดีๆ ก็คงหนีสายตาของปราณต์พ้น ดังนั้นตอนนี้จึงเหลือเพียงเรื่องเดียวที่ยังเป็นปัญหาก็คือเรื่องชุดที่จะใส่ไปร่วมงาน เธอไม่ได้เตรียมชุดเพื่อจะออกงานกลางคืนมาด้วย เพราะไม่คิดว่าจะต้องได้ไป ดังนั้นหลังจากเคลียร์งานที่โต๊ะเสร็จ นัสรินจึงขับรถไปยังห้างสรรพสินค้าชื่อดังในเชียงใหม่ เพื่อหาชุดราคาจับต้องได้สักชุดสำหรับใส่ไปร่วมงานร่างบางเดินแค่มองสำรวจ ยังไม่ได้แวะร้านไหน เพราะอยากดูโดยรวมก่อน เดินดูชุดร้านนั้นร้านนี้ผ่านกระจกหน้าร้านไปเรื่อยๆ ก็คิดถึงเสื้อผ้าที่ปราณต์พาไปซื้อ ชุดที่เขาซื้อให้มีแต่ชุดแพงๆ วันนั้นเขาหมดไปหลายหมื่นเหมือนกัน ทว่าเธอก็ทิ้งชุดพวกนั้นไว้ในร

    Dernière mise à jour : 2024-11-14
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 41

    บทที่ 41“จะไปงานอะไรคะแม่เลี้ยง”“หนูนัสจะไปงานเลี้ยงราตรีสโมสรของโรงพยาบาล น่าจะจัดที่หอประชุมจังหวัดนั่นแหละ แต่ฉันอยากให้ลูกสะใภ้ของฉันสวยและเด่นที่สุดในงาน คุณวรรณจัดให้ได้ไหม”“ไม่มีปัญหาค่ะแม่เลี้ยง เชิญวัดตัวค่ะคุณนัส”“คุณแม่คะ...” นัสรินกำลังจะเอ่ยแย้งเมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่แม่เลี้ยงลักษิกาไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธใดๆ“แม่เองก็ถูกเชิญให้ไปงานนี้เหมือนกัน กำลังคิดอยู่ว่าจะให้ใครไปแทน เห็นหนูนัสว่าจะไปแม่ก็เลยคิดออก ถือว่าแม่ขอร้องก็แล้วกันนะ แม่จะให้หนูนัสเอาซองของแม่ไปด้วย ถือว่าเป็นตัวแทนของบริษัทด้วย ของแม่ด้วย พอดีช่วงนี้แม่ขี้เกียจออกงาน แก่แล้วก็อยากอยู่กับลูกกับหลานสบายๆ บ้าง”เมื่อถูกขอร้องแกมบังคับเช่นนั้น นัสรินจึงจำต้องยอมให้เจ้าของห้องเสื้อวัดตัวและเลือกแบบชุดให้ตามที่เห็นสมควร พอวัดตัวและเลือกแบบชุดเสร็จแม่เลี้ยงก็สั่งกำชับวรรณาว่า ขอให้เร่งตัดชุดและนำชุดไปส่งให้กับนัสรินที่อพาร์ตเมนต์ของเธอหลังจากวรรณากลับไปแล้ว แม่เลี้ยงลักษิกาก็ไปเปิดเซฟ เขียนเช็คใส่ซองสำหรับบริจาคสมทบทุนให้กับโรงพยาบาล พร้อมกับถือกล่องกำมะหยี่เล็กๆ ติดมือมาด้วยกล่องหนึ่ง“นี่เป็นซองที่แม่จะฝากไป

    Dernière mise à jour : 2024-11-14

Latest chapter

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 89

    บทที่ 89เสียงกริ่งหน้าบ้านที่ดังขึ้นอย่างถี่รัว ทำให้ร่างสูงใหญ่ที่กำลังนอนกอดตระกองภรรยาสาวอยู่ในอ้อมแขนอย่างมีความสุขต้องยันกายลุกขึ้น พลางมุ่นคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ ใครมากดกริ่งแบบนี้” นัสรินถามสามีอย่างพลอยตกใจไปด้วย เพราะตั้งแต่อยู่บ้านหลังนี้มาไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน “เดี๋ยวผมไปดูก่อน นัสรออยู่นี่นะ” ปราณต์เดินออกไปชะเง้อดูที่ระเบียง แสงที่สาดสะท้อนมาจากไฟหน้าบ้าน ทำให้เขาเห็นได้ชัดว่าคนกดเป็นใคร หนำซ้ำคนกดยังส่งเสียงร้องเรียกเขาราวกับกำลังมีเรื่องร้อนใจสุดๆ อีกต่างหาก“พี่ปราณต์! พี่ปราณต์!”ร่างสูงกลับเข้าห้อง แล้วบอกภรรยาที่นั่งรออยู่บนเตียง เพื่อให้เธอคลายความกังวลว่าคนที่กำลังกดกริ่งหน้าบ้านและส่งเสียงเรียกเขาอยู่นั้นเป็นใคร“ตะวันน่ะ”บอกเสร็จปราณต์ก็ออกจากห้อง โดยมีนัสรินก้าวตามลงไป ทั้งสองเดินออกไปยังหน้าบ้านด้วยกัน และปราณต์ก็กดกุญแจรีโมตเปิดประตูรั้วให้รังสิมันต์“มีอะไรตะวัน”“พี่ปราณต์ต้องช่วยผมนะ เด็กคนนั้นโดนแก้วบาดมือ เลือดไหลเยอะมาก ตอนนี้เด็กนั่นอยู่ในรถผม” รังสิมันต์ไม่ได้เอ่ยชื่อของจันทริกาออ

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 88

    บทที่ 88แสงไฟสีเหลืองอมส้มที่ส่องสว่างทั่วอาณาบริเวณของบ้านเดี่ยวสองชั้นหลังใหญ่ ยิ่งทำให้บ้านซึ่งถูกออกแบบและปลูกสร้างอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดูโดดเด่นสวยสะดุดตามากยิ่งขึ้นในยามค่ำคืนเช่นนี้ หากแต่ภายใต้ความสว่างไสวและสวยงามที่ห้อมล้อมบ้านหลังใหญ่ในยามนี้ คนเป็นเจ้าของกลับกำลังอยู่ในห้วงของอารมณ์ซึ่งสวนทางกับบรรยากาศอันแสนสวยงามของบ้านโดยสิ้นเชิง เพราะถูกครอบงำด้วยความโมโหต่อ ‘เด็กในปกครอง’ ที่หายตัวไปตั้งแต่ตอนบ่าย และป่านนี้แล้วก็ยังไม่กลับมาร่างสูงลุกขึ้นเดินไปมาสลับกับมาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา ซึ่งความหนานุ่มสมราคาของมันกลับไม่ได้ทำให้ความเดือดพล่านในอารมณ์ของรังสิมันต์ลดลงเลยแม้แต่นิด มือใหญ่สมสัดส่วนกับรูปร่างเอื้อมไปหยิบขวดวิสกี้ราคาแพงระยับมาเทลงบนแก้ว ก่อนจะกระดกน้ำสีอำพันนั้นลงไปในลำคอพรวดเดียวหมด จากนั้นก็กระแทกแก้วลงกับโต๊ะเพื่อระบายอารมณ์ โดยมี ‘เมสซี่’ แมวพันธุ์แร็กดอลล์ตัวโปรดนั่งอยู่บนโซฟาข้างๆ บ่อยครั้งที่ตาสีฟ้าของมันเหลือบมองเจ้านายตัวเอง และลุกขึ้นมาคลอเคลีย ตามประสาแมวขี้เล่น แต่พอรู้ว่าเจ้านายกำลังอารมณ์ไม่ดี มันก็กลับไปนั่งที่ของมันแล้วหมอบลงเงียบๆ อย่างไม่กล้าก

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 87

    บทที่ 87“นั่งด้วยกันมั้ย” ปราณต์เอ่ยชวน“ไม่ดีกว่าครับ ไม่อยากเป็นก้างขวางคอคนที่กำลังอยู่ข้าวใหม่ปลามัน” รังสิมันต์ปฏิเสธก่อนจะหันไปทางกวินภพเพื่อหาพวก “จริงมั้ยวะอิสร์”“แกมันก็ชอบหาเรื่องกวนตีนชาวบ้านไปทั่ว” กวินภพไม่ได้เออออแต่พูดขัดคอขึ้นมาซะงั้น“เฮ้ย...แกเป็นนักธุรกิจพันล้านนะเว้ยอิสร์ พูดคำหยาบกวนตงกวนตีนแบบนี้ได้ไง เสียภาพพจน์นักธุรกิจหนุ่มหล่อมาดเนี๊ยบหมด”“แกมันบ้าว่ะตะวัน” หนุ่มกรุงเทพฯ ส่ายหน้ายิ้มๆ กับความเจ้าคารมและช่างกวนอารมณ์ชาวบ้านของรังสิมันต์“พี่ก็ว่างั้นละอิสร์”“เฮ้อ...ตอนแรกว่าจะไม่อยู่เป็นก้างขวางคอ เปลี่ยนใจดีกว่านั่งกับพี่ปราณต์เลยแล้วกัน” รังสิมันต์แกล้งกวนอารมณ์พี่ชายต่อ ด้วยการจะขยับเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่ แต่ยังไม่ทันได้นั่งนัสรินซึ่งไปเข้าห้องน้ำก็กลับมาเสียก่อน ทำให้ทั้งสองหนุ่มต้องหันไปทักทายกับหญิงสาวตามมารยาท“สวัสดีครับพี่สะใภ้” รังสิมันต์ทักทายขึ้นก่อนอย่างขี้เล่น ทำให้คนถูกทักเหวอแกมอายนิดๆ เพราะไม่ค่อยคุ้นกับคำเรียกแบบนั้นสักเท่าไหร่“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานเอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ เพราะประเมินว่าทั้งสองน่าจะอายุมากกว่าตน“ตะวั

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 86

    บทที่ 86“แน่นอนสิที่รัก ถ้าไม่รู้ใจคุณแล้วผมจะเป็นผัวคุณได้ยังไง ว่าไงจะบอกหรือเปล่าว่าหมายถึงใคร”“นัสหมายถึงหมอเมย์ค่ะ” ในที่สุดนัสรินก็ยอมรับว่าเธอต้องการจะถามเขาว่าเคยพาเมธาวีมาที่นี่หรือไม่“ถ้าบอกว่าเคยล่ะ”“ก็ไม่แปลกใจค่ะ” ปากว่าไม่แปลกใจ หน้าก็ยังดูยิ้ม แต่แววตาและน้ำเสียงนั้นแปร่งไปจนฟังได้ชัด“คราวนี้จะยอมรับได้หรือยังหือว่าคุณหึงผมกับเมย์” คุณหมอผู้ลองใจเมียเริ่มต้อนให้เธอยอมรับความจริงกับเขาเสียที“ยอมรับก็ได้”“ทำไมถึงจำเพาะเจาะจงว่าเป็นเมย์”“ไม่รู้สิคะ อาจเป็นเพราะว่านัสเคยเห็นกับตาว่าคุณกับหมอเมย์สนิทสนมกันแค่ไหนมั้ง”“ผมไม่ได้คิดอะไรกับเมย์เกินกว่าน้องสาว สาบานได้เลย แต่ผมก็ดีใจนะที่รู้ว่าทำให้คุณหึง”“วันที่นัสไปตรวจที่คลินิกว่าท้องหรือเปล่า นัสเจอหมอเมย์ด้วยค่ะ เธอบอกว่าเธอเลิกกับคุณปราณต์แล้ว”“หือ...เลิกกัน?” ปราณต์เลิกคิ้วเข้มขึ้น “ฟังอะไรผิดหรือเปล่านัส”“เธอบอกแบบนั้นจริงๆ นะคะ แต่มาบอกทีหลังว่าเลิกหวังในตัวคุณแล้ว เพราะคุณรักคนอื่นอยู่” นัสรินเล่าให้ฟังตามความจริง พลางคิดถึงเหตุการณ์และสีหน้าของเมธาวีในวันนั้นอย่างจำได้แม่น“ขนาดเมย์ยังรู้ว่าผมรักใคร แล้วทำไม

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 85

    บทที่ 85ปราณต์เป็นฝ่ายขยับมาถือกระเป๋าสะพายของภรรยาที่วางอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับโอบเอวเล็กที่ตอนนี้ขยายขึ้นเล็กน้อย ทำให้นัสรินซึ่งยังงงอยู่เล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าคนทั้งสองจะรู้จักกันต้องขยับตาม แต่ก็ไม่ลืมที่จะร่ำลาหมอพัทธระตามมารยาทอันดี “ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ เดี๋ยววันหลังนัสจะเตรียมสัญญามาให้เซ็น วันนี้นัสขอตัวก่อน” “ครับคุณนัสริน แล้วพบกันครับ” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้ จากนั้นก็ก้าวตามสามีออกไปขึ้นรถ ปราณต์เดินเงียบๆ แต่ยิ้มในหน้า ซึ่งจากประสบการณ์ที่อยู่ด้วยกันมาพักหนึ่ง ทำให้นัสรินพอจะรู้ว่าเวลาที่ปราณต์เป็นแบบนี้นั่นคือเขากำลังอยู่ในภาวะอารมณ์ดีแบบสุดๆ “ยิ้มอะไรนักหนาคะ พอใจมากหรือไง” นัสรินถามคนที่ซ่อนยิ้มในหน้าอย่างอดไม่ได้ จากสายตาและวาจาที่ฟังดูนุ่มละมุนผิดปกติของหมอพัทธระเมื่อครู่นี้ เธอก็พอจะรู้ว่าเขาคิดยังไงกับสามีของตน “ก็พอใจสิ” “แล้วเป็นไงคะ หมอพัทธระหล่ออย่างที่นัสบอกหรือเปล่า” “หล่อ...แต่ที่ฟังดูน้ำเสียงของนัสเหมือนกำลังหึงผมอยู่นะ อย่าหึงเลยน่า ผมชอบผู้หญิง” คราวน

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 84

    บทที่ 84วันนี้เป็นวันครบรอบสามเดือนที่บริษัทส่งตัวนัสรินมาทำงานที่เชียงใหม่พอดี ซึ่งตามกำหนดเดิมเธอจะต้องกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ และมีตัวแทนจากบริษัทคนใหม่มาทำงานแทนเธอ แต่จนป่านนี้ทางบริษัทก็ยังไม่ส่งใครมา แถมเธอยังต้องทำงานที่นี่ต่อ ซึ่งคราวนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ทำชั่วคราวแล้ว หากแต่ต้องประจำอยู่ที่นี่อย่างถาวรนัสรินยังจำวันที่ตัวเองโทร.ไปแจ้งข่าวกับกิตติ ว่าเธอประสงค์จะลาออกจากงาน ตอนนั้นหัวหน้าของเธอดูเป็นเดือดเป็นร้อนมาก เพราะยังหาคนที่ทำงานเก่งอย่างเธอมาแทนยังไม่ได้ แต่เมื่อรู้ว่านัสรินจะลาออกไปแต่งงาน และอยู่ที่เชียงใหม่กับสามี กิตติก็ขอร้องให้เธอทำงานให้ต่อ โดยเสนอจะเพิ่มเงินเดือนให้ สุดท้ายนัสรินก็จำต้องรับปาก โดยไม่ต้องเพิ่มเงินเดือนให้เธอ ความจริงเธอไม่ได้อยากลาออกเลยสักนิด แต่ที่ต้องบอกหัวหน้าไปเช่นนั้น ก็เพราะปราณต์ขอร้องแกมบังคับ และเมื่อเขาได้รู้ว่าเธอตัดสินใจจะทำงานต่อ หมอหน้าหล่อก็งอนไปหลายวันเหมือนกันนัสรินออกมาจากออฟฟิศก่อนเวลาเลิกเงิน เพราะมีนัดกับลูกค้าซึ่งเป็นหมอของโรงพยาบาลเอกชน เรียวปากอิ่มคลี่ยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะเอ่ยปากขอตัวกับหมอหนุ่มที่ตัวเองกำลังคุยงานด้วยอย

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 83

    บทที่ 83พระอาทิตย์ยามเย็นเริ่มเคลื่อนคล้อยลอยต่ำลงเรื่อยๆ บ่งบอกว่าอีกไม่นานตะวันจะลาลับขอบฟ้าไปแล้ว และความมืดมนของรัตติกาลก็จะมาเยือนในไม่ช้า หากแต่บรรยากาศทั่วคุ้มลักษิกาในยามนี้กลับเต็มไปด้วยความสว่างไสว อันเกิดจากความสุขและปีติยินดี เมื่อข่าวที่ว่าปราณต์กับนัสรินกำลังจะแต่งงานกันอีกครั้ง และตอนนี้ทั้งคู่ก็มีลูกด้วยกันแล้ว แพร่กระจายไปทั่วคุ้มลักษิกาอย่างรวดเร็วปราณต์ตัดสินใจปิดคลินิกอีกวันเพื่ออยู่ทานข้าวเย็นกับครอบครัวตามคำสั่งของมารดา ธรินดาเข้าครัวทำอาหารที่พี่สะใภ้ชอบให้อย่างเต็มใจ ขณะที่ปรัชญ์กับปราณต์นั่งคุยกันตามประสาพี่น้องในห้องนั่งเล่น ส่วนแม่เลี้ยงลักษิกาก็เล่นกับหลาน นัสรินจึงถือโอกาสเดินไปที่เนินเขาหลังคุ้มลักษิกา เพื่อดูแปลงกุหลาบและพระอาทิตย์ตกดินตาคู่สวยมองพระอาทิตย์ดวงโตที่กำลังทอดตัวลงหาเส้นขอบฟ้า พร้อมกับปล่อยความคิดของตัวเองให้ล่องลอยไป ลมหนาวเริ่มพัดพรายมากระทบกาย แต่ยามนี้หัวใจเธอกลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น และมันก็อุ่นยิ่งขึ้นเมื่อมีอ้อมกอดของคนที่รักโอบล้อมเข้ามา“มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” นัสรินเอียงหน้ามาถามคนที่ยืนโอบกอดตัวเองอยู่ทางด้านหลังเบาๆ“คิดอะไรอยู

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 82

    บทที่ 82“มันน่าโกรธมั้ยล่ะ ผมเป็นหมอแทนที่จะได้รู้เป็นคนแรกว่าเมียตัวเองท้อง แต่กลับเป็นหมอคนอื่นที่รู้ก่อน คุณก็รู้นี่นัสว่าผมอยากมีลูกกับคุณแค่ไหน” ปราณต์เอ่ยออกมาเสียงขรึมๆ“ก็ตอนนั้นคุณกับนัสยังไม่เข้าใจกันนี่คะ อีกอย่างคุณก็ทำให้นัสเข้าใจว่าคุณกับออยมีอะไรลึกซึ้งกันไปแล้ว นัสเลยไม่อยากให้ลูกกลายมาเป็นปัญหาของใคร”“ตอนนั้นผมเข้าใจ แต่เราเข้าใจและคืนดีกันมากี่วันแล้วนัส นัสคิดจะปิดผมไปอีกนานแค่ไหน และมีเหตุผลอะไรที่คุณไม่ยอมบอกผม”“โธ่...ก็นัสยังไม่กล้าบอกนี่คะ อย่าทำหน้าทำเสียงแบบนั้นใส่นัสสิคะ นัสใจไม่ดี”“ถูกต้องแล้วที่คุณจะใจคอไม่ดี เพราะตอนนี้ผมโกรธคุณอยู่ และโกรธมากด้วย” ปราณต์ทำเสียงเข้มใส่ ทำให้คนถูกโกรธยิ่งใจฝ่อ“แล้วทำยังไงคุณถึงจะหายโกรธคะ”“ก็ต้องง้อสิ ไม่ง้อจะให้หายโกรธได้ยังไง”นัสรินขยับตัวเข้าหาพร้อมกับยกแขนขึ้นโอบกอดที่ต้นคอของเขา ก่อนจะเขย่งเท้าขึ้นแล้วประกบปากตัวเองลงบนปากของเขา จากนั้นเธอก็เริ่มจูบและปราณต์ก็จูบตอบอย่างร้อนแรง กึ่งลงโทษกึ่งปรารถนาปนเปอยู่ในรสจุมพิตนั้น“หายโกรธนัสหรือยังคะ” เสียงหวานเอ่ยถามอย่างงอนง้ออีกครั้งหลังจากที่ปากของทั้งคู่ผละห่างจากกัน

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 81

    บทที่ 81“ทำไมถึงซื้อไว้ล่ะคะ ที่จริงมีบ้านสวยๆ กว่าบ้านหลังนี้อีกเยอะแยะ หรือถ้าคุณจะสร้างใหม่ก็สร้างได้สบายๆ อยู่แล้ว”“ไม่รู้สิ คงเป็นเพราะว่ามีสิ่งเดียวที่ผู้ชายใจร้ายอย่างผมทำได้เพื่อระลึกถึงคุณมั้ง” ปราณต์พูดด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเขาไม่ได้โกหกแต่อย่างใด แววตายามเมื่อนึกถึงความหลังครั้งนั้น ฉายแววเคว้งคว้างสับสนออกมาจนนัสรินรู้สึกได้“นัสก็ผิดค่ะที่เห็นแก่ตัว ถ้าคุณจะเกลียดนัสก็ไม่แปลกหรอก”“แต่ถ้าผมใจกว้าง เปิดใจยอมรับว่าที่นัสทำลงไปก็เพราะรักผม ป่านนี้เราอาจจะมีลูกด้วยกันแล้วก็ได้” ปราณต์พูดถึงลูกอีกครั้ง นัสรินจึงเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนของเขา เพราะเธอยังปิดบังเรื่องที่ตัวเองท้องอยู่ แต่ปราณต์ไม่ยอมให้นัสรินหนีไปไหน เขาย่อตัวช้อนอุ้มร่างบางพาเดินไปนอนที่เตียงด้วยกัน“คุณปราณต์อุ้มนัสมาขึ้นเตียงทำไมคะ” นัสรินถามพลางหน้าแดงซ่าน เมื่อครู่ยังคุยกันดีๆ อยู่แท้ๆ แต่เผลอแป๊บเดียวเธอก็ขึ้นมานอนอยู่บนเตียงโดยมีร่างสูงใหญ่ของเขานอนอยู่แนบชิดเสียแล้ว“ก็พามาพิสูจน์ว่าเตียงเล็กไปหรือเปล่าสำหรับเราสองคน”“วันนั้นก็พิสูจน์ไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ”“วันนั้นผมเมา จำอะไรไม่ค่อยได้ ต้องทำตอนมีสติ” คน

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status