เมษา....
ตอนนี้ฉันนั่งอยู่บนรถตู้ด้วยความจำใจและต้องพาคุณยายที่ตอนนี้ฉันยังไม่รู้จักชื่อของท่านกับคุณป้ารำภามาที่บ้านทั้งที่ฉันก็บอกกับท่านไปแล้วว่าทางมันลำบากให้รอที่รถแต่ท่านก็ไม่ยอมจะมาที่บ้านของฉันให้ได้คือไม่ใช่ว่าฉันอายบ้านตัวเองหรอกนะเพราะฉันไม่เคยอายอยู่แล้วที่จนแต่ฉันเกรงใจท่านน่ะที่ให้งานฉันทำยังไม่พอจะอยากมาเยี่ยมมาดูบ้านของฉันอีก
"นี่บ้านหนูเหรอเมษา"
"ใช่ค่ะ"
"โถลูกทำไมชีวิตน่าสงสารขนาดนี้อย่าหาว่ายายดูถูกเลยนะหนูอยู่บ้านหลังนี้จริงๆเหรอจ๊ะ"
"ค่ะ หนูอยู่มาตั้งแต่เด็ก"
"มันอันตรายมากเลยนะลูกป้าว่า เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวอยู่บ้านที่แทบจะหาความปลอดภัยไม่เจอเลยแถมไฟฟ้าก็ไม่มีใช้หนูอยู่ได้ยังไง ดีนะที่คุณไทด์มาส่งจนมาเห็นความเป็นอยู่ของหนูแล้วเล่าให้คุณท่านกับป้าฟังไม่อย่างนั้นพวกเราคงไม่รู้ว่าหนูลำบากมากแค่ไหน'
"หนูชินแล้วล่ะค่ะคุณป้า"
"แต่ต่อไปนี้หนูจะไม่ต้องลำบากแล้วนะ ไปทำงานกับยายอยู่กับยายส่วนบ้านหลังนี้ยายจะให้ช่างมาปรับปรุงซ่อมรั้วซ่อมหลังคาซ่อมฝาบ้านให้แล้วก็จะเอาไฟฟ้าเข้ามาให้ด้วย"
"ไม่เป็นไรค่ะแค่คุณยายให้งานทำหนูก็ไม่รู้จะตอบแทนพระคุณยังไงหมดแล้ว"
"ยายเต็มใจทำให้หนู เพื่อเป็นสิ่งตอบแทนที่หนูช่วยยายเอาไว้"
"แต่ว่ามัน..."
"ไม่ต้องมีแต่แล้วจ๊ะ ไปเก็บของเถอะเดี๋ยวจะค่ำซะก่อน"
สองชั่วโมงต่อมา...
ตอนนี้ฉันมาถึงบ้านของคุณยายแต่จะเรียกว่าบ้านคงจะไม่ถูกต้องนักฉันน่าจะต้องเรียกว่าคฤหาสน์มากกว่าเพราะแค่นั่งรถผ่านประตูรั้วสีทองที่สูงหลายสิบเมตรเข้ามาฉันก็สัมผัสได้ถึงความใหญ่โตโอ่อ่าของสถานที่ที่ฉันไม่คิดว่ามีจริงเพราะมันสวยงามราวปราสาทในเทพนิยายที่ฉันเคยอ่านตอนเป็นเด็ก มองไปทางไหนก็มีแปลงดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่ปลูกประดับตกแต่งไว้อย่างสวยงามไหนจะสวนป่าที่มีไอน้ำพ่นออกมาและมีน้ำตกหลายชั้นไหลลงมาทำให้ได้ยินเสียงน้ำไหลตลอดเวลา ถ้าไม่บอกว่าตอนนี้อยู่กรุงเทพฉันคิดว่าตอนนี้ฉันน่าจะอยู่จังหวัดไหนสักจังหวัดในภาคเหนือ ฉันนั่งอยู่บนรถมองบรรยากาศโดยรอบด้วยความตื่นเต้นจนกระทั่งรถจอดตรงบันไดทางขึ้นสักพักก็มีคนมาเปิดประตูรถให้เป็นหญิงวัยกลางคน
"คุณท่านกลับมาแล้ว"
"เป็นไงบ้างบ้านเรียบร้อยดีไหมฉันไม่อยู่สองวัน"
"เรียบร้อยดีค่ะคุณท่าน เอ่อ แล้วนี่ใครกันคะคุณท่าน" หญิงวัยกลางคนหันมามองฉันด้วยแววตาสงสัย และด้วยความที่ฉันอายุน้อยกว่าฉันก็เลยรีบยกมือไหว้ตามมารยาท
"เดี๋ยวรำภาจะเป็นคนแนะนำให้ทุกคนในบ้านรู้จักพร้อมๆกัน"
"เจ้าค่ะ"
"ป่ะเข้าบ้านกันเถอะลูก" จากนั้นคุณยายก็จับมือฉันแล้วพาเดินเข้าบ้านโดยมีคุณป้ารำภาเดินตามหลัง พอเข้ามาด้านในฉันก็เจอคนหลายสิบคนที่มีทั้งผู่้หญิงผู้ชายนั่งพับเพียบเรียบร้อยกันอยู่ที่พื้นพรม
"เอาล่ะทุกคนมากันพร้อมแล้วนะ"
"ค่ะ/ครับ"
"ฉันมีเรื่องจะแจ้งให้ทุกคนได้ทราบว่าตอนนี้คุณท่านมีคนดูแลเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคนนั่นก็คือหนูเมษาคนนี้ หนูเมษาจะมาดูแลคุณท่านกับฉัน"
"สวัสดีค่ะ หนูชื่อเมษาค่ะยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะมีอะไรก็บอกก็สอนหนูด้วยนะคะ" ฉันแนะนำตัวพร้อมกับไหว้ทุกคนเพราะดูๆแล้วทุกคนในที่นี้น่าจะอายุมากกว่าฉันกันทุกคน
"แล้วหนูคนนี้จะมาอยู่ที่นี่หรือว่าไปกลับคะคุณรำภา"
"อยู่ที่นี่จ่ะ"
"ถ้าอยู่ที่นี่จะให้หนูคนนี้นอนที่ไหนคะ จันจะได้เตรียมห้อง"
"ฉันจะให้หนูเมษาพักอยู่ที่ตึกใหญ่เพื่อที่ว่าหนูเมษาจะได้ดูแลฉันอย่างใกล้ชิด เอาห้องรับรองแขกก็ได้ จันช่วยจัดการทีนะ"
"ได้ค่ะคุณท่าน"
เวลาต่อมา...
ฉันหิ้วกระเป๋าเดินตามป้าแม่บ้านที่ชื่อจันมายังชั้นสองของบ้านก่อนจะมาหยุดอยู่หน้าห้องๆนึง
"ห้องนี้นะคะห้องของคุณเมษา"
"ป้าอย่าเรียกหนูว่าคุณเลยค่ะ หนูเป็นแค่ลูกจ้างที่คุณยายจ้างมาดูแลเท่านั้นเอง" ฉันรีบบอกทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น
"ไม่น่าจะใช่หรอกมังคะคุณเมษาเพราะถ้าเป็นแค่ลูกจ้างคุณท่านคงไม่ให้คุณเมษาขึ้นมาอยู่ที่ตึกใหญ่หรอกค่ะ"
"อ้าวแล้วป้ากับคนอื่นๆอยู่กันที่ไหนเหรอคะ" ฉันถามอย่างสงสัยเพราะคิดว่าทุกคนพักอยู่ที่ตึกนี้กันหมด
"คนงานทุกคนไม่ว่าจะเป็นแม่บ้านแม่ครัวคนขับรถคนสวนทุกคนพักกันอยู่ที่ตึกคนงานด้านหลังตึกใหญ่กันค่ะ"
"อ้าวเหรอคะ แล้วทำไมคุณยายกับคุณป้ารำภาถึงไม่ให้หนูไปอยู่ที่นั่นล่ะคะ"
"อันนี้ป้าก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ป้าว่าตอนนี้คุณเมษาเอาของเข้าไปเก็บไว้ในห้องก่อนดีกว่านะคะเพราะอีกครึ่งชั่วโมงจะได้เวลาอาหารค่ำแล้ว"
"ถ้างั้นเดี๋ยวหนูไปช่วยทำอาหารนะคะ"
"ไม่ต้องค่ะ คุณเมษามีหน้าที่ดูแลคุณท่าน เรื่องอาหารให้เป็นหน้าที่ของแม่ครัวเถอะนะคะ ถ้าคุณเมษาลงไปช่วยพวกในครัวจะโดนดุ"
"ทำไมต้องโดนดุด้วยล่ะคะ"
"ทุกคนที่บ้านหลังนี้มีหน้าที่ของแต่ละคนค่ะคุุณท่านจะไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกันเลย แม่บ้านก็ส่วนแม่บ้าน แม่ครัวก็ส่วนแม่ครัว พูดง่ายๆก็คือคุณท่านกลัวทุกคนจะเหนื่อยน่ะค่ะถ้าทำงานกันหลายอย่าง"
"หืมมม ดีจังเลยนะคะ"
"ค่ะ คุณท่านน่ะใจดีกับพวกเราทุกคน พวกเราทุกคนรักและเคารพคุณท่านมาก ท่านเป็นมากกว่าเจ้านายค่ะ" ฉันเห็นด้วยกับที่ป้าแม่บ้านพูดเพราะคุณยายท่านใจดีมากจริงๆ
"เดี๋ยวป้าขอลงไปทำงานข้างล่างต่อก่อนนะคะ คุณเมษาอาบน้ำพักผ่อนก่อนก็ได้นะคะถ้าถึงเวลาอาหารเดี๋ยวป้าจะให้เด็กๆขึ้นมาตาม"
"ขอบคุณป้าจันมากเลยนะคะ แต่หนูขอร้องป้านะคะเลิกเรียกหนูว่าคุณได้ไหมค่ะขอร้องล่ะ"
"เอางี้ไหมคะต่อไปป้าจะเรียกคุณเมษาว่าหนูเมดีไหมคะ น่ารักดี"
"เอางั้นก็ได้ค่ะเรียกหนูว่าหนูเมก็ได้ค่ะ"
หลังจากที่ป้าจันลงไปแล้วฉันก็เปิดประตูห้องเพื่อเอาของๆตัวเองเข้าไปเก็บ และพอฉันเปิดประตูเข้ามาฉันก็ต้องอึ้งจนแทบหยุดหายใจเพราะห้องสวยมากและกว้างมาก ฉันจะต้องอยู่ที่นี่จริงๆเหรอ มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ ฉันคิดว่ามันมากเกินไปกับหน้าที่ของฉัน ฉันคิดว่าจะลงไปคุยกับคุณป้ารำภาว่าขอให้ฉันไปอยู่ตึกคนงานน่าจะดีกว่าเหมาะสมกว่า ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบห้องนี้นะแต่มันไม่เหมาะกันคนอย่างฉันเลยแม้แต่น้อย คิดได้แบบนั้นฉันก็รีบหยิบกระเป๋าตัวเองเดินออกมาจากห้องทันที
ตุ่บ!!!
"โอ๊ะ" ฉันล้มลงไปกองกับพื้นเมื่อไปชนกับอะไรบางอย่าง พอฉันเงยหน้าขึ้นไปมองปรากฏว่าสิ่งที่ฉันชนจนล้มก็คือผู้ชายร่างสูงที่แต่งตัวดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยเสื้อเชิตสีขาวกางเกงยีนสีดำขาดเข่าคนนึงที่อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับฉัน เขามีใบหน้าขาวใสคล้ายผู้หญิงแต่แววตาของเขานั้นดูดุดูหยิ่งดูเหวี่ยงๆยังไงชอบกล
"แม่งเดินยังไงวะ เห้ย ยัยข้างถนน!!!"
พีเจ....ผมมองหน้าคนที่ผมทั้งรักทั้งคิดถึงมาตลอดสองปีตอนนี้เธออยู่ตรงหน้าของผมแล้ว ผมไม่ได้ฝันไปอย่างแน่นอน"เมษา....ฉันต้องการเธอ เธอต้องการฉันหรือเปล่า" ผมถามพร้อมกับจูบย้ำๆลงไปที่ริมฝีปากบางคู่นั้น"เมก็ต้องการคุณค่ะ""ถ้าอย่างนั้นเรามา...." ผมพูดไม่ทันจบประโยคเสียงทุบเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นจนผมกับเมษารีบดีดตัวขึ้นจากเตียงอัตโนมัติปั้ง ปั้ง ปั้ง"ปะป๊าาาาาา ปะป๊าาาาาา"ก๊อก ก๊อก ก๊อก"พ่อขาาา แม่ขาาาาา เปิดประตูให้หน่อยค่าน้องบอกว่าน้องอยากมาหาคุณพ่อค่า""ปะป๊าาาา ปะป๊าาาาา"เสียงของลูกทำเอาผมถึงกับฟุบหน้าลงบนหมอนทันทีเมษา..."ลุกไปเปิดประตูให้ลูกสิคะ" "เห้อออ อดกินเมียเลย อุตส่าห์รอมาตั้งสองปี>เขาบ่นพร้อมกับทำหน้ายู่อย่างน่าสงสาร"ไว้คืนนี้ก็ได้นี่คะ" พอฉันพูดจบเขาก็มีรอยยิ้มขึ้นมาทันที"สัญญาแล้วนะ""ค่าาาา""โอเคได้ยินแบบนี้ค่อยมีแรงลุกไปเปิดประตูหน่อย" จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ เขาจุ๊บแก้มฉันหลายฟอดก่อนจะลุกออกจากเตียงแล้วเปิดประตูให้ลูกเข้ามาฉันนั่งมองดูคุณพีเจเล่นกับลูกอยู่บนเตียงเด็กๆดูมีความสุขที่ได้เล่นกับพ่อโดยเฉพาะน้องพอใจที่อะไรก็คุณพ่อขาน้องอยากได้อันนั้นน้องอยากได้อันนี้แ
เมษา....ส่วนเรื่องน้องจอมพลอยากจะบอกว่าฉันรู้ว่าตัวเองท้องก่อนเดินทางไปฮ่องกงไม่กี่วันแต่ที่ฉันไม่บอกว่าฉันท้องเพราะตอนนั้นฉันยอมรับว่าฉันยังไม่มั่นใจในตัวของเขาสักเท่าไหร่ฉันก็เลยอยากให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเขารักฉันจริงไหมหรือแค่อยากเอาชนะคุณไทด์แบบที่ผ่านมา และนั่นทำให้ฉันรู้ว่าตัวเองตัดสินใจไม่ผิด ที่ฉันจากเขาไปสองปีมันไม่ได้เสียเปล่าเลยที่ฉันใช้เวลาสองปีทดสอบเขา ตลอดสองปีคุณไทด์ให้คนของเขาตามดูพฤติกรรมของคุณพีเจทำให้ฉันรู้ว่าเขาเปลี่ยนไปมากเขาขยันทำงานไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงเลยทำงานเสร็จก็กลับบ้านมีบางครั้งที่เขาไปดื่มแต่เขาก็ไม่เคยหิ้วผู้หญิงคนไหนกลับบ้านเลยสักครั้ง เพราะเหตุนี้ฉันจึงตัดสินใจจะกลับไทยพร้อมกับบอกความจริงกับน้องพอใจว่าเขาคือพ่อแท้ๆ ตอนที่ฉันตัดสินใจบอกว่าคุณอาพีเจคือพ่อของแกน้องพอใจฉันยอมรับว่ามีความวิตกกังวลเพราะเกรงว่าจะไม่ยอมรับถึงแม้แกจะรักเขาแต่นั่นในฐานะคุณอาไม่ใช่คุณพ่อแต่พอฉันตัดสินใจบอกความจริงกัลอกปรากฏว่าแกดีใจมากจนร้องไห้และคอยถามฉันตลอดเวลาว่าเมื่อไหร่แกจะได้กลับไปหาพ่อของแก"ว่าไงคะร้องไห้ทำไม""ฉันดีใจแล้วก็เสียใจที่เธอยังสวมแหวนแต่งงานวงนี้อยู่"
พีเจ...ผมรีบขับรถกลับมาที่บ้านทันทีหลังจากไอ้ไทด์มันสารภาพว่าจอมพลคือลูกของผมกับเมษาแล้วมันกับเมษาก็ไม่ได้แต่งงานกันและไม่เคยมีอะไรกันตลอดสองปีที่ผ่านมามันดูแลเมษาเหมือนน้องสาวแท้ๆและที่จอมพลเรียกผมว่าปะป๊านั่นเป็นเพราะว่าเมษาคอยบอกลูกว่าผมคือพ่อของแกแกเห็นผมจากรูปถ่ายพอแกเจอหน้าผมแกก็เเลยเรียกผมว่าปะป๊า ส่วนน้องพอใจตอนนี้แกรู้ความจริงแล้วว่าผมคือพ่อไอ้ไทด์บอกว่าน้องพอใจดีใจที่ผมคือพ่อแท้ๆแกถามเมษากับไอ้ไทด์ตลอดว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมาหาผมแกคิดถึงซึ่งผมก็อยากจะบอกกับลูกว่าผมก็คิดถึงแกเหมือนกันคิดถึงสุดหัวใจ ไอ้ไทด์มันยังบอกอีกว่าตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมามันให้คนคอยติดตามดูพฤติกรรมของผมตลอดคอยดูว่าผมยังทำตัวเกเรเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่าเพราะถ้าผมยังทำตัวเหมือนเดิมเมษาก็คงจะไม่กลับมา และที่เธอกลับมานั่นก็หมายความว่าเธอให้อภัยให้โอกาสผมแล้ว"โอกาสมันไม่ได้มีมาให้นายแก้ตัวได้บ่อยๆนะพีเจเพราะฉะนั้นรักษาและดูแลจิตใจคนที่นายรักไว้ให้ดีๆ" นั่นคือคำพูดของไอ้ไทด์ที่มันเตือนผม"คุณพ่อออออ" พอผมเดินเข้าบ้านมาคนแรกที่ผมเจอก็คือน้องพอใจที่กำลังนั่งดูการ์ตุนอยู่ที่ห้องรับแขกพอแกเห็นหน้าผมแกก็เรียกผมว
พีเจ....."ปะป๊าาาาา" เสียงเด็กน้อยผมว่าปะป๊าอีกแล้ว"ทำไมจอมพลเรียกฉันว่าปะป๊า""ก็ไม่แปลก""มึงว่าไงนะ""เปล่าไม่มีอะไร แกคงอยากได้แกเป็นปะปป๊ามั้ง ถ้าเกิดแกจะเรียกนายว่าปะป๊านายจะยอมให้เรียกหรือเปล่า" ผมไม่เข้าใจว่าไอ้ไทด์มันต้องการอะไรกันแน่ทำไมมันถึงพูดแบบนี้มีอย่างที่ไหนที่พ่อจะยอมให้ลูกตัวเองเรียกคนอื่นว่าปะป๊าซึ่งคนอื่นที่ว่าก็คือผมที่ผัวเก่าของเมียมัน"ดูดู" จู่ๆจอมพลก็ชี้ไปที่โต๊ะทำงานของผมผมก็เลยพาแกเดินมา"ดู ตูน ตูน ตูน" แกชี้ไปที่แลปท็อปที่ผมเปิดงานค้างไว้"ลูกมึงว่าอะไรกูไม่เข้าใจ""แกอยากดูการ์ตูน""อ่อ" ผมเปิดการ์ตูนให้จอมพลดูแกดูไปหัวเราะไปแล้วก็คอยชี้ให้ผมเป็นเพื่อนจนผมอดยิ้มออกมาไม่ได้แกเป็นเด็กน่ารักไม่งอแงเลยถ้าแกเป็นลูกของผมกับเมษาผมคงมีความสุขมากกว่านี้ จนสักพักเสียงหัวเราะก็เงียบไปพอผมก้มหน้าลงไปดูปรากฏว่าแกหลับไปแล้วหลับคาตักผมเลย"เห้อบทจะหลับก็หลับได้ง่ายๆเลยนะเจ้าลูกชาย นี่นายรู้มั้ยตั้งแต่ขึ้นเครื่องจนลงจากเครื่องตาจอมพลไม่ยอมหลับเลยเอาแต่งอแง แต่พออยู่กับนายแกหลัยปุ๋ยเลย" ผมมองเด็กน้อยที่นอนหลับอยู่บนตักอย่างเอ็นดูก่อนจะถามว่ามันกลับมาทำไม"เอ่อ แล้วนี่
พีเจ....คำพูดของไทด์มันทำเอาผมจุกในใจจนพูดไม่ออก ผมทำได้แค่ยืนเช็ดน้ำตาตัวเองมองลูกสาวที่หลับสนิทอยู่ในอ้อมแขนของไทด์พี่ชายที่ผมเกลียดมาตลอดทั้งชีวิตแกค่อยๆห่างออกไปอย่างช้าๆผมมองด้วยความรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจที่ตัวเองเป็นพ่อแท้ๆแต่ไม่มีโอกาสได้บอกความจริงกับลูก ผมมองไปที่แม่ของลูกเธอยืนหันหลังให้ผมอยู่ไม่ไกลพร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางหลายใบ ทั้งสามคนกำลังจะเดินทางไปใช้ชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นด้วยกันที่ฮ่องกง ลูกของผมกำลังจะมีพ่อที่ชื่อไทด์ ไม่ใช่พ่อที่ชื่อพีเจ มันก็ถูกต้องแล้วล่ะคนอย่างผมมันเลวเกินไปคงจะเป็นพ่อที่ดีให้กับแกไม่ได้ บางทีถ้าตอนนั้นผมไม่ใช้วิธีสกปรกไปแย่งเมษามาน้องพอใจอาจจะเป็นลูกสาวจริงๆของไทด์มันก็ได้"เมษา ฉันรักเธอนะ รักลูกของเราด้วย" ผมหวังว่าเธอจะมีความสุขกับคนดีๆอย่างพี่ชายของผมสองปีต่อมา....ผ่านมาสองปีแล้วสินะที่ผมต้องอยู่ตามลำพังตัวคนเดียวเช้ามาทำงานเลิกงานก็ไปหาความสุขโดยการดื่มเหล้าแต่ผมไม่เคยลากใครกลับมาขึ้นเตียงเลยสักครั้ง เพราะผมกลัวว่าถ้าเมษากลับมาแล้วมาเจอผมอยู่กับผู้หญิงเธอจะเสียใจ แม้จะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะกลับมาก็ตามตลอดสองปีที่ผ่านมาผมคิดถึงเมษา
พีเจ...หลายอาทิตย์ต่อมา..."ถ้าน้องไม่อยู่คุณอาจะคิดถึงน้องมั้ยค๊า" ลูกถามผมทำเอาผมถึงกับต้องกลั้นน้ำตา"คิดถึงสิครับ" ผมพยายามยิ้มให้ลูกเพราะพรุ่งนี้แกจะไปอยู่ฮ่องกงแล้ว"น้องก็คงคิดถึงคุณอาเหมือนกัน""บอกแม่ว่าน้องไม่อยากไปสิครับ""ไม่ได้ค่าเพราะถ้าน้องไม่ไปแม่ต้องร้องไห้หาน้องแน่ๆเลย ถ้าแม่ไปน้องก็ต้องไปค่าเพราะเรามีกันแค่สองคนแม่บอกว่าเราจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กันที่โน่น" ผมกลั้นน้ำตาไม่ไหวแล้วตอนนี้แม้จะพยายามห้ามแล้วก็ตามผมรีบเอามือเช็ดน้ำตาแต่น้องพอใจก็เห็นอยู่ดี"คุณอาร้องไห้ทำไมค๊าา""อาเปล่าร้องครับ""แต่คุณอามีน้ำตา""คือ...ที่อาร้องไห้เพราะอาคงคิดถึงน้องพอใจมากๆ""โอ๋โอ๋ ไม่ร้องนะค๊าาา" ลูกกอดคอผมแล้วเอามือน้อยๆของแกลูบหลังผมเบาๆจนทำให้น้ำตาของผมไหวไม่หยุด"ฮึก ฮึก" ผมกลั้นน้ำตาไม่อยู่เมื่อลูกกอดคอแล้วปลอบผมราวกับว่าผมเป็นเด็ก"อารักน้องพอใจนะครับ""น้องก็รักคุณอาเหมือนกันค่า^^""แล้วน้องจะกลับมาหาอามั้ยครับ""น้องไม่รู้ค่า แต่น้องได้ยินแม่คุยกับลุงไทด์ว่าจะไม่กลับมาแล้วแม่อยากไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ไม่อยากกลับมาอีก""ถ้าอย่างงั้นเราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วสิ""ไม่เป็นไรนะค๊า โอ๋