เขาปกติเป็นคนขี้อาย แต่ความที่เป็นนักเขียนจึงค่อนข้างกล้าพูดมากกว่าเดิม ไม่ใช่อะไรหรอก พลังข้างในมันมีมากกว่าเดิม ถ้าหากเขาไม่เป็นนักเขียน คงเงียบกริบ
อึกอักไม่มีเล่ห์ทางคำพูด หรือคลังคำพูดประสานักเขียนที่มีทั้งจินตนาการ ความเพ้อฝันและสำนวนคำพูด ที่คนปกติธรรมดาไม่มีกัน
อย่างน้อยก็ทราบว่า หล่อนทำงานอยู่ที่บริษัทแถวชิดลม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากนี้
โทชินาดะพลอยตื่นเต้นกับสาวไทยสองนางด้วย
เขาเป็นหนุ่มญี่ปุ่นเคยพบพานผู้หญิงมามากพอสมควร
หากแต่เป็นในแบบญี่ปุ่นด้วยกัน สังคมและวัฒนธรรมเดียวกัน การได้พบสาวต่างชาติและต่างวัฒนธรรมก็ปลุกใจให้เกิดอารมณ์หวือหวา
ประมาณว่าเหมือนครั้งแรกที่ได้เจอ เหมือนมีมนต์สะกด เพราะสองสาวนั้นน่ารัก แม้จะต่างความสวยกัน
โทชินาดะไม่สามารถสื่อภาษาออกมาตรงได้ เลยได้อาศัยไหว้วานปางภูเป็นล่ามแปลเรื่องทุกอย่างให้
จนเข้าใจปรุโปร่ง เพราะแม้ว่าเขาจะเอ่ยเป็นภาษาอังกฤษออกมาแบบสำนวนการออกเสียงแบบชาวญี่ปุ่น
ก็ไม่ทราบว่าหล่อนจะจับใจความได้หรือเปล่า
ขณะเดียวกันก็แนะนำเพื่อนที่ใช้โปรแกรมบางอย่างของโน๊ตบุ๊ค รุ่นสัมผัสนี้ไม่เป็น จนกระทั่งปางภูเข้าใจทุกอย่าง
เพราะถ้าเกิดมีปัญหานั้นในกรุงเทพมหานครยังไม่มีศูนย์ซ่อมอย่างแน่นอน แม้ยี่ห้อและบริษัทเดียวกันมี ก็คงต้องส่งกลับไปถึงญี่ปุ่นอย่างเดิม
แต่เขาไม่คาดหวังอย่างนั้น คิดว่าการใช้งานนั้นมีระยะเวลายาวนาน เมื่อซื้อมาใช้ก็ต้องคุ้มค่าและทานทน ประสิทธิภาพของมันดีเยี่ยม
“ฟาง ยังฝันถึงพระเอกรูปหล่ออยู่หรือยังไง”
หฤทัยสะกิดเพื่อนสาวที่ต้นแขน เมื่อเห็นใบฟางครุ่นคิดเหม่อลอยเงียบคนเดียว
หทัยถาม จนเธอรู้สึกอาย
ใบหน้าของหนุ่มหล่อคนไทยที่เพิ่งได้เจอครั้งแรก สายตาคมปลาบของเขา ดึงดูดสายตา และมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทอออกมาจากตัวเขา ในความมีเสน่ห์และแฝงร้ายกาจ
ใบฟางเลยทำสายตาตึงดุไปยังเพื่อนสาว
“ว่าแต่เธอเถอะ หาแฟนให้ได้ก่อน ฉันนะมีแฟนแล้ว”
ใบฟางเอ่ย
หฤทัยรับรู้ เลยหน้าจ๋อย
“แหม เข้าใจแล้วย่ะ ฉันกำลังหาอยู่”
“หาได้แล้วหรือยังล่ะ”
“แหม..ฟาง มันต้องใช้เวลาหน่อยสิ”
“จ้ะ ใช้เวลาหาอยู่ ถามหน่อยสเปกต์แบบไหน”
“แบบคนเมื่อกี้ไง สูงผิวขาว คิ้วเข้มดก คนอย่างนี้มีดวงตาน่าค้นหาเจ้าเสน่ห์ไม่น้อย”
เธอเห็นด้วยกับพรรณนาของเพื่อนสาว บุคลิกนี้ดูโดดเด่น ไม่ทราบว่าเขาทำงานเกี่ยวกับอะไร
หนุ่มญี่ปุ่น เห็นชัดว่าเป็นเพื่อนสนิทของเขา
ปางภูกับเพื่อนหนุ่มจากแดนอาทิตย์อุทัย ยังคงสนทนาถึงสาว
แต่เมื่อถึงเวลาปางภูต้องเก็บโน๊ตบุ๊คลงกระเป๋าก่อนจะล่ำลาเพื่อน
ถัดอีกสองสามวัน โทชินาดะบอก ตัวเขาพร้อมด้วยหมู่เพื่อนสนิทต้องเดินทางไปที่เชียงใหม่ตามโปรแกรมที่วางแผน เพราะจองห้องพักล่วงหน้าแล้ว
ซึ่งปางภูเข้าใจ
“งั้นขอให้นายกับเพื่อน เที่ยวให้สนุกกับทริปนี้นะ เสียดายว่ะ ฉันไม่ว่างขนาดนั้น”
นักเขียนหนุ่มบ่นด้วยเสียดาย เพราะเขามีงานที่คั่งค้างต้องสะสางอย่างมาก
ไหนจะต้องมีเวลา เพื่อเจียดแบ่งเวลาสำหรับเขียนหนังสือ
อีกต้องเดินทางไปดูแลกิจการที่อยู่ต่างจังหวัด เขาก็พกโน้ต
บุ๊คส่วนตัวไปทุกที่ ถือเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศอีกอย่างหนึ่ง
ที่ร้านของเขาแถวถนนพระรามสาม อดแวะผ่านมาไม่ได้
คนที่ทักเขาต่อมาคือตรีรัชมน พี่สาวแท้
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าเธอจะมา พี่เห็นไม่ว่าง พอดี ทางนี้มีปัญหา โทร.มาตามพี่”
เขาปิดมือถือไปหลายชั่วโมง และสาขาที่นี่เกิดเรื่อง แต่พี่สาวก็ช่วยแก้ไขเรียบร้อยแล้ว
“ครับ เพิ่งเสร็จธุระกับเพื่อนญี่ปุ่น ขอโทษด้วย พรุ่งนี้เขาจะบินไปเชียงใหม่ เลยอยากให้ความสำคัญกับเขาสักหน่อย ในเมื่อเขามาเยี่ยมบ้านเรา”
ตรีรัชมนพยักหน้า
“ก็ดีเหมือนกันในเมื่อเขาเป็นเพื่อน เราก็ดูแลให้เหมาะสม”
“แต่พี่มน มาที่นี่ก็ดี ผมสบายใจ”
“ฮึ พี่ ก็มาแก้ปัญหาให้ นี่ล่ะ มีเด็กที่ร้านโทร.ตาม”
“งั้น ผม ต้องขอโทษด้วย”
“ไม่เป็นไร พี่เข้าใจเราดีน่า ป้าง”
มีพี่สาวที่น่ารักสำหรับปางภู ก็ดีอย่างนี้เอง
“คุณแม่ล่ะครับ ถามหาผมหรือเปล่า”
“เอ๊ะ พี่เห็นออกไปตั้งแต่บ่าย ก่อนเธอสักหน่อย ดูเหมือนจะดูพันธ์ไม้แถวจตุจักรนั่นล่ะ เห็นบ่นว่าอยากจะได้ดอกมณฑาทองมาปลูกกับสร้อยอินทนิล”
“เออ พี่ลืมบอกเธอไป มี่เมล์ของเธอจากอเมริกาด้วย พี่ดูจ่าหน้าซองแล้ว ของหนูเพิร์ล แวะกลับบ้านคราวนี้ อย่าลืมหยิบไปด้วยล่ะ พี่รู้ว่าเรามันคนทำงานหนัก ไหนจะเขียนหนังสือกลางค่ำกลางคืนอีกล่ะ พี่มีน้องชายเป็นนักเขียน เพื่อนหลายคนก็ปลื้มกันใหญ่ ถามถึงเธอ ไอ้นิยายของเธอมันจะขมวดปมจบแบบไหน แฮปปี้แอนด์ดิ้ง หรือจากพรากเศร้าล่ะ”
ตรีรัชมนเป็นคอนักอ่านนิยายคนหนึ่ง แต่ก็น่าแปลกเธอไม่ได้อ่านงานของน้องชาย ที่ตีพิมพ์เป็นเล่มปกหนาเลยสักครั้ง
ทั้งที่น้องชายคะยั้นคะยอ ให้ลองอ่านดูฝีมือล้วนๆของเขา
แต่ตรีรัชมนก็ยังเกี่ยงว่า
“พี่รู้สึกว่า กลัวเธอจะเขียนเรื่องพี่ด้วย พี่อ่านงานเขียนคนอื่นดีกว่า เรื่องของน้องชายในบ้าน กลัวว่าจะเป็นเรื่องเดิม พร็อตเดิมที่พี่คุ้นเคยมาแล้ว มันทำให้ไม่อยากอ่าน”
เป็นงั้นไป เหตุผลของพี่สาวทำให้ต้องถอนใจ
อันที่จริงตรีรัชมนมีธุรกิจของตนเองด้วยเช่นกัน หล่อนเปิดร้านเบเกอรี่ตั้งอยู่แถวถนนพระรามสี่ มีพนักงานหกคน
เมื่อพูดถึงเรื่องคนรัก ฉุกใจคิดตามพี่สาวด้วยเหมือนกัน
ภามิญา เพราะพี่สาวบอก หรือว่าเธอจะกลับมาเยี่ยมที่เมืองไทย
ไม่แน่ใจล่ะ ต้องแกะ แล้วเปิดอ่านเมล์จากแดนไกล
อันที่จริงก็น่าแปลกทางอีเมล์ของเขาก็มี
แต่ทำไมภามิญาไม่เลือกที่จะส่งทางนั้น
ซึ่งปางภูคิดว่ามันสะดวกหรือประหยัดที่สุด
หรือว่าคำบางคำ นั้นมันมีคุณค่าความหมาย หรือว่าไม่มี แต่เขาแอบตื่นเต้นดีใจ จากฟังที่พี่สาวพูด
ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบฟาง”หล่อนเข้าใจเขาพูดถูก หล่อนก็ตอบแทนความรักของเขาด้วย“ต่อไปไม่มีแล้วล่ะ เมียขายฝาก สมญาที่ใช้เป็นคำพูดเล่นๆขำๆเพื่อล้อเลียนคุณ มีแต่ตำแหน่งเดียวคือเมียแต่งนายปางภู คุณจะสนใจตำแหน่งนี้ชั่วชีวิตหรือเปล่าล่ะ”คารมของพ่อหนุ่มนักเขียนทำเอาหล่อนต้องยอมรับล่ะ มิน่าถึงร้อยเรียงเขียนหนังสือได้หลากหลายยาวนาน “สนใจสิคะ”หล่อนพยักหน้า “ไม่งั้นฉันคงไม่ตัดสินใจยอมคุณหรอก” เขากลั้วยิ้มดวงตาพราวอีกครั้งกับคำตอบนี้ พึงพอใจเช่นเดิม เพราะขุมสมองมีแต่ความเพริดแพร้วทางปัญญา ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบ
คารมของนักเขียนหนุ่มผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้น หญิงสาวยิ้มพราวระยับที่ดวงตาของหล่อนขึ้นบ้าง หวงนี่อาจจะแปลกว่าหึง หล่อนยิ้ม“นั่นยิ้มอะไร ขำหรือว่าไม่พอใจ”“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ฟางรู้สึกว่า พอได้สามีมาหนึ่งคน เขาก็บ่นเสียเก่ง” เขาหันมาทางสาวสวยผู้เป็นภรรยา ขยับใบหน้ามาใกล้ “นี่มาหาว่าเราบ่น ประเดี๋ยวเหอะ จะจูบให้ตายตาอ้อมกอดเลย”ชายหนุ่มบ่นเสียงไม่จริงจังนัก หมั่นไส้ผู้เป็นภรรยามากกว่า “แนะ ไม่กลัว ใช่ไหม? เดี๋ยวเอาจริงนะ”เขาขู่หล่อน พลอยทำให้ใบฟางต้องหลับตาปี๋ลง ก่อนที่ใบหน้าขาวๆของดวงหน้าคมคายจะโน้นแตะชิดใกล้ริมฝีปากประกบบดขยี้ลงไปแทรกความหวานเจือปนละลายอยู่ในช่องปาก จนสาวสวยรับรู้ถึงสัมผัสที่หวานซ่านลิ้น “นี่เริ่มบทลงโทษแล้ว โทษฐานที่มีเมียขี้บ่น แถมปากเก่งอีกต่างหาก เอ้อ เป็นเมียขายฝากเสียด้วย”หญิงสาวยังข้องใจในคำนี้ ความหมายแบบเขานี่คืออะไร จึงส่งสายตาอึดอัด หงุดหงิดทวงถามเมื่อเขาละถอนจากริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นจ้องหล่อน เพราะรู้ว่าหล่อนจะถาม หล่อนไม่ชอบใจสักนิดกับคำทีเขาใช่เรียกหล่อน“อีกแล้ว เมียขายฝาก ฉันไม่รู้ว่าความหมายมันคืออะไรกันแน่ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่พี่ธีรคา
“ยังไม่แน่ใจค่ะ เมล ตอนนี้ฉันอยากอยู่เมืองไทยไปก่อน คงทำงานไปสักพัก ถ้าลืมเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฉันก็อาจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับใครก็ได้ ที่เขารักจริง และรักความเป็นตัวฉัน รวมทั้งเขาไม่แคร์อดีตต่างๆของฉันด้วย”“ขอให้คุณโชคดีนะฮันนี่”“ขอบคุณคะ เมล คุณก็เช่นกัน รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย”หล่อนโบกมือให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาและคณะจะเดินจากไปในช่องผู้โดยสารขาออก แล้วหล่อนหันมายิ้มให้กับตัวเอง นี่คืออิสรเสรีที่หล่อนต้องการ จึงถอนใจออกมายาวนานด้วยมีความสุข หล่อนต้องการตัด และเยื่อใยอาวรณ์จากเขา หล่อนจะต้องทำให้ได้ เมลมีดีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างเช่นกัน แต่สิ่งที่หล่อนยอมรับไม่ได้คือ เขาจะเอาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างที่เรียกว่า เสือไบ โฮโมเซกช่วล แบบนี้หล่อนไม่ต้องการ ไม่ต้องการเสียน้ำตาทนอยู่กับผู้ชายประเภทนี้ เพราะนั่นหมายความว่า เขาทำให้ชีวิตของหล่อน เหมือนตกนรกทั้งเป็นนึกว่าจะยืดเยื้อ หรือคาราคาซังเสียอีก ขอบคุณที่เขาเลือกให้ของขวัญนี้ให้แก่หล่อน ตามที่หล่อนร้องขอปรารถนามานานต่อไป ชั่วชีวิตนี้ หล่อนจะไม่สนใจ ผู้ชายที่ชื่อเมล นี้อย่างเด็ดขาด ว่าเขาจะเป็นตายร้าย
จะไม่ช๊อคใจไปใหญ่หรือ ที่ตลอดมานั้น อ่านหนังสือของคนกันเองทั้งนั้น คนกันเองที่ขยับเข้ามาเป็นคนในบ้านและเป็นคนในเรือนใจของหล่อนเข้าทุกขณะ“นี่สิของแท้ของชัวร์ นิยายที่ผ่านการรวมเล่มแล้วของผม มีประมาณ เกือบสิบเรื่องด้วยกัน ซ่อนอยู่อีกมุมหนึ่ง โดยเฉพาะ และถ้าอยากจะไปร่วมงานวันสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมษาที่จะถึงเร็วๆนี้ ไปกับผมสิ คุณจะได้รู้ว่าแฟนคลับผมตรึมแค่ไหน ที่เรียกร้องอยากจะให้ผมมา..แล้วก็ต้องแจกลายเซ็นต์ด้วย”เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจริงๆ ไม่น่าเชื่อ ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยนและสุภาพปนกับอารมณ์ร้ายเกรี้ยวกราด ไม่นึกว่าเขาจะมีอีกภาคหนึ่ง ของผู้ชายที่เขียนหนังสือขาย เป็นนักเขียนที่ถือว่า ได้รับความนิยมมากคนหนึ่งในปัจจุบัน ในยุคที่นักเขียนไทย ผุดตัวเองขึ้นมาราวกับดอกเห็นกลางฤดูฝน“ไม่เชื่อ คงต้องเชื่อแล้วละคะ นี่ถ้ายัยเงิน น้องสาวของฟางรู้เรื่อง ตายเลยล่ะคงทั้งอึ้งทั้งทึ่ง ไม่งั้นก็เกือบช๊อคไปหลายสิบตลบแน่นอน”“ถึงขนาดนั้นเลยหรือ”“ใช่ค่ะ ถึงขนาดนั้นแน่นอน เพราะน้องสาวของฉัน ติดงานของคุณมาก”เขาเพิ่งทราบ“นี่คุณทำอย่างนี้ทุกวัน หลังขดหลังแข็งมากไหมคะ”เขายิ้มอีกครั้ง“งา
เขาเอ่ยคำนี้ จนหล่อนหน้าแดงไปเลย สีระเรื่ออ่อนที่พวงแก้ม แต่ก็เข้าใจความหมายเมื่อเขาพร้อมที่จะให้สัญญาปากแบบสุภาพบุรุษอีกครั้ง “งั้น ฟางจะยอมไว้เนื้อเชื่อใจอีกสักครั้ง ทั้งที่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่”“อ้าวทำไมล่ะ กลัวผมจะเปลี่ยนใจ ทำมิดีมิร้ายกับคุณหรือไง นี่ฟังนะจ้ะคนเดียว เรื่องทำมิดีมิร้าย ผมก็คิดเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เวลานี้ แต่ต่อไปล่ะ ผมคงมีเวลาทำมิดีมิร้ายกับคุณอย่างสุดสวาทอย่างว่า ได้นานครั้งล่ะ ตอนที่เราแต่งงานกันเสร็จแล้ว นั่นล่ะ มีเวลาทั้งชีวิตของผมเลย”ฟังคำพูดที่เขาเอ่ย หล่อนก็รู้สึกเบาใจ ปางภูหัวเราะเสียงใส“แล้วฉายาเจ้าพ่อบ่อนหรือเสี่ยที่พี่ธีรคามเรียกใช้ ให้สมญาชื่อคุณล่ะคะ”“นั่นผมลืมแล้ว ผมจะไม่เข้าแล้ว ตัดขาดจากมันตลอดชีวิต ในเมื่อผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนี่ ผมมีคุณ ผมมีครอบครัว มีคนที่เอาใจใส่น่ารักอย่างนี้ ผมจะเตลิดหนีหายไปไหนได้อีกล่ะฟางจ๋า”ในเมื่อเขาจะมีครอบครัวแล้ว นั่นมันคือภาพอดีต เมื่อครั้งที่ยังใช้ชีวิตโสดอิสระได้เต็มที่ และเมื่อพ้นจากวัยนั้นพ้นผ่านแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็คิดว่ามันเป็นเกมชั่วครั้งชั่วคราวที่ผ่านทางชีวิตของเขาเขาไม่ได้ติดหนึบติดหน
หญิงสาวยิ้มให้พยักหน้าและเพิ่งเข้าใจ “คุณคงไม่โกรธผมนะ ที่ตอนนั้นทำอะไรก็คิดจะปิดบังคุณ”เสียงนุ่มทุ้มดังอีก เป็นกังวาน แต่ก็รู้สึกชุ่มชโลมในหัวใจของหล่อนอย่างประหลาด“เคยคิดจะโกรธเหมือนกันคะ แต่ก็ดีที่คุณเพิ่งอธิบายออกมา ฉันเลยนึกโกรธคุณไม่ลงแล้ว”เขาหันมายิ้มอ่อนๆสบตาของหล่อน“ก็ต้องบอก เพราะเราก็เหมือนคนคนเดียวกันแล้ว จากนี้มีอะไรก็ต้องร่วมรับผิดชอบกัน”หล่อนนิ่งฟังคำพูด ชอบฟังคำพูดที่มีหลักการในการวางแผน และให้กำลังใจ สร้างความปลาบปลื้ม แก่ใจของหล่อนอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวยอมรับว่าหล่อนเริ่มจะหลงรักผู้ชายคนนี้เสียแล้ว ไม่รักก็คงไม่ได้หรอก ลึกแต่ไม่ลับในความรู้สึกของหล่อน ขอเก็บเอาไว้รู้เพียงคนเดียว จึงหันทางเขาอีกครั้งยิ้มและสบตาให้ หล่อนนึกถึงเรื่องอื่นได้ อย่างเพิร์ล หรือภามิญาที่ไม่รู้ว่า ทั้งคู่คืบหน้าไปมากแค่ไหน จวบกับมีเรื่องราวอื่นที่เป็นเรื่องสะเทือนใจ ประดังเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าไม่ขาด จากสึนามิ ฝนก็ท่วมถล่มทางภาคใต้ แผ่นดินไหวทางประเทศพม่าหรือเมียนมาร์กับทางภาคเหนือของไทย วิบากกรรมของประเทศและชาวโลกถูกซัดมาอย่างไม่หยุดหย่อน คงต้องพึ่งพาความดีงาม ศีลธรรม บุญกุศลท