Share

ใบเตือน(1)

ช่วงเช้าวันใหม่เพียงฝันจอดรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจที่ขับขี่มาจากบ้าน  พอถึงที่ทำงานก็ต้องรีบจอดให้เร็วที่สุดเพราะวันนี้เธอออกจาบ้านมาก็สายมากแล้ว เหลือบมองดูนาฬิกาบนข้อมือก็เหลือเวลาอีกแค่5นาทีเท่านั้นก็จะถึงเวลาสแกนนิ้วเข้าทำงาน

สองมือหอบหิ้วถุงยำมะม่วงที่แยกน้ำแยกเนื้อมาอย่างพะรุงพะรัง ผมเผ้าที่แห้งสนิทแต่ชี้ฟูกระเซอะกระเซิงไม่ได้มัดรวบให้เรียบร้อยเพราะเมื่อเช้าเธอสระผมมา ไม่ได้ไดร์ให้แห้งจึงอาศัยลมธรรมชาติจากการขับรถมาทำงานเป่าให้แห้งเสียเลยจะได้ไม่ต้องเสียเวลา

สองเท้าอวบเร่งฝีเท้าเพื่อให้ทันเวลา ความเร่งรีบทำให้เธอไม่ทันได้มองว่ามีร่างสูงของใครอีกคนกำลังเดินสวนมาจากอีกทาง

“ปั๊ก!”

เพียงฝันชนเข้ากับผู้ชายตรงหน้าอย่างจังจนล้มลงก้นจ้ำเบ้าถุงน้ำยำที่รำพึงแยกมาให้ตกลงแตก ทำให้น้ำปลาร้าหกเลอะเทอะส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ

“โอ๊ย เดินยังไงเนี่ยไม่ดูตาม้าตาเรือดูสิของฉันตกแตกเสียหายหมดเลย”

น้ำเสียงขุ่นสบถด่าออกมาโดยที่ไม่ได้เงยหน้ามอง จะไม่ให้เธอโมโหได้อย่างไร ของที่จะนำส่งลูกค้าดันเสียหาย แถมเธอยังต้องถูกหักเงินที่เข้างานสายอีกด้วย

“เสียหายมากไหม”

“ก็มากนะสิ...”

เธอตอบกลับทันควันพร้อมกับเงยหน้ามอง วินาทีนั้นเหมือนเวลาหยุดเดิน ทำเอาเธอเกือบลืมหายใจ

เพราะมีแต่คำว่า “ซวยแล้วไอ้ฝัน” ผุดขึ้นมาในหัว

ภาพเบื้องหน้าที่เห็นคือใบหน้าหล่อยืนขบกรามจนขึ้นเป็นสันนูน ดวงตาดุจ้องกลับราวอย่างกับเสือจะกระโจนเข้ามาขย้ำเหยื่อ

“คุณอนาวิน”

ดวงตากลมเบิกขึ้นเม็ดเหงื่อผุดขึ้นตามไรผม สายตาที่มองมาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าความบรรลัยได้มายืนรอตรงหน้าแล้ว

อนาวินเลื่อนสายตาไปที่ป้ายชื่อที่ห้อยอยู่ที่คอ “เพียงฝัน” ชื่อไม่เข้ากับสารรูปของเธอตอนนี้เลยเสียด้วยซ้ำ

“เธอเป็นพนักงานของที่นี่ มาทำงานสายแถมยังพ่วงของพวกนี้เข้ามาขายภายในบริษัทอีกเหรอ”

น้ำเสียงขุ่นเอ่ยถามด้วยความไม่พอใจ ปกติเขาก็ไม่ว่าอะไรที่พนักงานจะทำอาชีพเสริมด้วยการรับหิ้วของกินมาขายให้พนักงานด้วยกันเอง แต่ที่เขาไม่พอใจคือเธอมาทำงานสาย และที่สำคัญดูสภาพเขาตอนนี้ มีแต่กลิ่นเครื่องยำที่เลอะเปรอะเปื้อนไปทั้งตัว

“ฝัน ขอโทษค่ะ ฝันไม่ได้ตั้งใจ”

เมื่อเหลือบสายตามองว่าชุดสูทราคาแพงเปื้อนไปด้วยน้ำเครื่องยำ เพียงฝันรีบดึงผ้าเช็ดหน้าเข้าไปเช็ดตามร่างกายโดยไม่ทันได้คิดว่าเขาเป็นเจ้านาย

จากที่ตอนแรกแค่เริ่มหงุดหงิดแต่ตอนนี้เขากลับโมโหเสียแล้ว   ก่อนจะใช้มือปัดป้องมืออวบที่กำผ้าเช็ดหน้าซับไปตามทั่วร่างกายจนเขาจับมือนั้นไว้ทัน

“หยุด!”

ประโยคเดียวสั้น ๆ แต่ทำเอาสะดุ้งสุดตัว เพียงฝันสั่นกลัวไปทั้งตัวเพราะไม่เคยเห็นเขาใช้น้ำเสียงดุอย่างนี้เลยสักครั้ง แล้วก็ไม่เคยคิดว่าจะเกิดกับตัวเองเสียด้วยซ้ำ

“ฝัน ขอโทษค่ะ”

“เธออยู่แผนกเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ”

ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดอะไรต่อก็พอดีกับบวรลูกน้องคนสนิทที่คอยตามติดวิ่งมาพอดีเพราะได้ยินเสียงโวยวายของคนเป็นเจ้านาย

โชคยังดีที่เลยเวลาเข้างานไปแล้วจึงไม่มีพนักงานอยู่แถวนั้น ไม่งั้นคงได้เห็นเทพบุตรสุดหล่อกลายร่างเป็นซาตานแน่นอน

“เกิดอะไรขึ้นครับ คุณอนาวิน”

“คุณมาก็ดีแล้ว ช่วยออกใบเตือนให้พนักงานคนนี้ด้วย หากครั้งต่อไปเห็นเธอเอาของพวกนี้เข้ามาขายให้พนักงานด้วยกันอีก ไล่ออกได้เลย”

สิ้นประโยคเขาก็เดินผ่านเลยไป ปล่อยให้คนที่ยืนฟังถึงกับหน้าถอดสีได้แต่หันไปมองแผ่นหลังกว้างที่เดินจากไปแล้ว

“รีบทำความสะอาดนะครับ แล้วผมจะให้ฝ่ายHRเอาใบเตือนไปให้คุณเซ็นที่เคาน์เตอร์”

ชายหนุ่มที่มองดูแล้วอายุอานามก็น่าจะไม่ห่างจากคนเป็นเจ้าของบริษัทเสียสักเท่าไรเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเหมือนกับจะเห็นใจ

เพียงฝันได้แต่พยักหน้ารับหงอย ๆ ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันซวยหรือว่าปีนี้เป็นปีชงกันแน่ ทำอะไรก็ไม่ได้ดังใจสักอย่าง

กระดาษเอสี่สีขาวถูกยื่นมาตรงหน้าโดยชายหนุ่มอายุย่างสามสิบปีเป็นคนเอามาให้ เพียงฝันเปรยตาขึ้นมองหน้าเขาเล็กน้อยแล้วพ่นลมหายใจออกมา หัวข้อกระดาษเขียนไว้อย่างชัดเจน “ใบเตือน”

เธอรับมันมาพร้อมกับจรดปลายปากกาลงที่กระดาษแล้วยื่นกลับคืนไปให้กับHR

“ไปทำอีท่าไหนล่ะ ฝ่ายHRเขาถึงได้อันเชิญใบเตือนมาให้ถึงที่เลย ได้ยินว่าเป็นคำสั่งของท่านประธานโดยตรงด้วยนี่”

พี่นิ่มเดินเข้ามาถามหลังจากที่เพียงฝันเซ็นเอกสารเสร็จแล้วก็มานั่งหน้าง่ำคอตกตรงเก้าอี้ที่ทำงาน

“จะท่าไหนละคะ ก็ฝันดันเดินไม่ดูตาม้าตาเรือไปชน ท่านประธานเข้านะสิคะ แถมยังตาเซ่อไปตะคอกเขาโดยที่ไม่เงยหน้ามองให้ดีเสียด้วยซ้ำ”

เธอเล่าเสียงอ่อย ๆ สีหน้าเหมือนเสียดายรายได้ที่จะหาเงินช่วยที่บ้านเป็นงานเสริมเสียแล้ว

“งั้นแบบนี้พี่ก็อดกินยำมะม่วงแสนอร่อยฝีมือป้ารำพึงแล้วล่ะสิ”

พี่นิ่มอดเสียดายไม่ได้ เพราะคงหาร้านยำที่ถูกใจ ถูกปากแบบร้านนี้คงไม่มีอีกแล้ว

“ก็ต้องอดสิพี่นิ่ม หรือว่าอยากจะให้ไอ้ฝันมันโดนไล่ออกล่ะ อีกอย่างวันหยุดค่อยแวะไปซื้อกินก็ได้”

พี่ฤทัยที่นั่งฟังอยู่นานเป็นคนเอ่ยขึ้น เพราะหันไปมองหน้าเพียงฝันแล้วก็ไม่รู้ว่าจะขำหรือจะสงสารก่อนดี

“แต่พี่ว่าแกแต่งหน้าแต่งตัวหน่อยเถอะฝัน สภาพดูไม่ได้เลยว่ะ นั่นหัวหรือรังนก ฟูมาเชียว”

พี่นิ่มเอ่ยตำหนิสภาพการแต่งกายที่ไม่เรียบร้อยทั้งที่ตัวเพียงฝันเองเป็นถึงพนักงานเคาน์เตอร์หน้าบริษัทแท้ ๆ

เพียงฝันเลือกหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางใบเล็กที่เธอซ่อนไว้ชั้นด้านล่างขึ้นมาแต่งหน้าโทนชมพูอ่อนให้ขับผิวหน้าให้เด่น เขียนคิ้วสีดำอ่อนให้เข้ากับสีผม

ผมดำยาวสยายเลยกลางหลังถูกหวีให้เรียบตรงแล้วมัดสูงทรงหางม้าให้ตึงก่อนจะใช้กิ๊ฟดำเก็บปอยผมที่ตกอยู่ให้เรียบร้อย

วันนี้ร่างกายเธอพร้อมสำหรับการทำงานแล้วแต่หัวใจไม่พร้อมเสียสักเท่าไร

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Sasinud
เรื่องนี้คือนางเอกไม่ดูสภาพตัวเองจริง ทำไมให้นางเอกคือขี้แหร่เกิน สภาพนึกตามบทมันไม่ได้ เปนเราก็ไม่มอง จะมาเอาแค่บทแอบรักแล้วเอาเวอร์จิ้นมาแลกให้ผู้ติดใจนะ มันไม่ใช่นะ ......
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • เมียซ่อนที่(ไม่)รัก   รักที่ไม่มีวันพลัดพราก(จบ)

    “ป้าไก่คะ ฝันรบกวนดูตาหนูสักครู่นะคะ”เพียงฝันยื่นหนูน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มเพิ่งคลอดได้สามเดือนกว่าให้กับป้าแม่บ้าน ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับอดีตนางเอกชื่อดังอย่างลิตาที่มาหาเธอถึงบ้าน“ไม่เจอกันนานเลยนะคะ คุณลิตา”“ ค่ะ ก็นับตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้น ฉันก็บินไปอยู่ต่างประเทศเพิ่งกลับมาไม่กี่วันก่อน” หญิงสาวยิ้มให้พร้อมกับยกน้ำตรงหน้าขึ้นดื่ม“ฝันสียใจเรื่องลูกของคุณด้วยนะคะ” ในฐานะคนเป็นแม่เหมือนกันหล่อนย่อมเข้าใจดีว่ามันรู้สึกอย่างไร“ขอบคุณค่ะ ที่ลิตามาหาคุณวันนี้ก็เพราะอยากจะมาขอโทษเรื่องที่ผ่านมา ทำให้คุณกับวินเข้าใจผิดจนเกือบพรากพ่อลูกกันแล้ว”หลังจากที่เกิดเรื่องวันนั้นเธอก็รับรู้ว่าเพียงฝันตั้งท้องลูกของอนาวินจากการันต์ยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดบาปที่คิดทำอะไรเอาความสะใจเป็นที่ตั้ง แต่สุดท้ายบทเรียนที่เธอได้รับมันก็สมควรแล้วขณะที่สองสาวคุยกันอยู่นั้นร่างสูงของอนาวินก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาจากด้านนอกเมื่อได้ยินป้าไก่พูดว่าลิตามาหาเพียงฝัน“วิ่งหน้าตื่นเข้ามาเลยนะคะวิน ลิตาไม่ทำอะไรเมียคุณหรอกค่ะ”ดวงหน้าหวานยิ้มรับเมื่อเห็นเพื่อนทำสีหน้าเหมือนว่าตนจะมาทำร้ายเมียก็อดขำไม่ได้“คุณลิตาเขามา

  • เมียซ่อนที่(ไม่)รัก   คนที่ไร้ลมหายใจ

    จากวันเลื่อนเป็นสัปดาห์อนาวินก็ยังคงปักหลักอยู่ที่ต่างจังหวัดเพื่อที่จะง้อเมียให้กลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม โดยที่ตัวเองก็เทียวบินขึ้นบินลงเพื่อไปประชุมกับบอร์ดผู้บริหาร“หนูฝันเอ้ย เสร็จหรือยัง เดี๋ยวจะไปไม่ทันพระฉันท์เช้านะ”เสียงผู้เฒ่าผู้แก่สองสามคนมาตะโกนเรียกเพียงฝันอยู่หน้าบ้านทำให้อนาวินที่กำลังง่วนอยู่กับการเซ็นต์เอกสารต้องรีบวางปากกาแล้ววิ่งออกมา“คุณยายจะพากันไปไหนเหรอครับ”“ไปวัดจ้า วันนี้วันพระใหญ่” คุณยายใจดีหันกลับมาตอบด้วยท่าทีเป็นมิตร“ผมไปด้วยได้ไหม” อนาวินกระตือรือร้นเดินเข้าไปคว้าตะกร้าจากมือเพียงฝัน“ไม่ได้” เธอปฏิเสธเสียงห้วน“คิดว่าห้ามผมได้เหรอ” เขายิ้มกริ่ม “มาครับคุณยายผมช่วยถือ” เขาไม่สนใจคำปฏิเสธของคนเจ้าเนื้อที่ยืนกระฟัดกระเฟียดอยู่ทางด้านหลังเสียด้วยซ้ำบนศาลาใหญ่ผู้คนจากทั่วทั้งหมู่บ้านต่างมาทำบุญเช้านี้กันอย่างคับคั่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่ร่างสูงเป็นตาเดียว จนกระทั่งมีป้าคนหนึ่งใจกล้าเอ่ยถามขึ้นมา“หนูฝันผู้ชายที่มาด้วยใช่สามีหรือเปล่า เห็นเขาลือกันทั้งหมู่บ้าน” ผู้คนบนศาลาต่างเงียบเพื่อรอฟังคำตอบราวกับกำลังลุ้นจับฉลากรางวัลป

  • เมียซ่อนที่(ไม่)รัก   งัดทุกกลเม็ด

    ท่ามกลางสายตาผู้คนอนาวินก็ยังคงโอบกอดร่างกลมตรงหน้าไม่ยอมปล่อย ชายหนุ่มยอมรับว่าตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเขาคิดถึงผู้หญิงคนนี้มากแค่ไหนความอึดอัดทำให้เพียงฝันขืนตัวแล้วผลักร่างสูงออกจนเจ้าตัวเซถลาเล็กน้อยแต่ยังดีที่อนาวินดึงตัวเธอเอาไว้ได้“ระวังหน่อยสิ เดี๋ยวลูกก็เป็นอะไรไปหรอก” เขาดุเล็ก ๆ แต่แววตาแฝงไปด้วยความเป็นห่วง“คุณมาที่นี่ทำไม ฝันว่าเราไม่ควรจะเจอกันอีกเสียด้วยซ้ำ”“ที่มาหาเพราะคิดถึงคุณกับลูก” เขาตอบด้วยความสัตย์จริง“เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของคุณ กลับไปเถอะ”“จะไม่ใช่ได้ยังไงคุณทำเองคนเดียวไม่ได้หรอกนะ อย่าทำแบบนี้เลยนะฝัน ยังไงผมก็เป็นพ่อของลูกเรานะ”...ลูกของเราอย่างนั้นเหรอ ตลกสิ้นดี“คุณกล้าใช้คำว่าลูกของเราทั้งที่ก่อนหน้านี้คุณบอกกับคุณลิตาว่าจะรับเป็นพ่อของลูกเธอแล้วขอหย่ากับฉันเนี่ยนะ”หญิงสาวยกยิ้มเยาะทั้งเจ็บทั้งเสียใจกับสิ่งที่เธอได้เจอมา“ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าคุณท้องนี่ คุณไม่ยอมบอกอะไรผมสักอย่าง”“แล้วคุณล่ะ เคยสนใจฉันบ้างหรือเปล่า อ่อ ลืมไปเราแต่งงานกันเพราะสัญญาที่คุณสร้างขึ้นมานี่นา ก่อนหน้านี่คุณอยากจะหย่ากับฉันใจแทบขาดแล้วตอนนี้จะมาเรียกร้องอะไร เราสองคนไม่มีอะไรเก

  • เมียซ่อนที่(ไม่)รัก   เจอกันอีกครั้ง

    หกเดือนผ่านไป...“ท้องได้กี่เดือนแล้วนังหนู แล้วผัวเองไปไหน”มันยังคงเป็นคำถามเดิม ๆ ซ้ำ ๆที่เพียงฝันยังคงต้องตอบจากคนที่อาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกันเธอก็ยังคงยิ้มให้เหมือนเคย...ไร้ซึ่งคำตอบ...แต่พวกเขาก็มีความพยายามดีเหลือเกินที่ยังคงสอบถามเรื่อย ๆ แม้จะรู้ว่าไม่ได้คำตอบจากเธอ พอเธอไม่ได้บอกก็นำเรื่องราวไปใส่สีตีไข่แล้วบอกต่อๆ กันไปว่าเธอปล่อยให้ตัวเองท้องจนไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของเด็กแรก ๆ เธอก็เคืองจนอยากจะตามไปถอนหงอกถึงบ้านแต่มาคิดดูแล้วมันก็เป็นเรื่องปกติของคนต่างจังหวัดที่มักจะจับกุมนินทากันเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วมืออวบลูบหน้าท้องที่นูนออกมาไม่มากเพราะเป็นท้องแรกจึงไม่ค่อยโตเสียสักเท่าไร เจ้าตัวเล็กคงรับรู้ว่าเธอกำลังลูบท้องถึงตอบสนองด้วยการถีบเสียยกใหญ่“กลับมาแล้วเหรอคะแม่ ฝันกำลังจะขับรถออกไปตามพอดีเลย ไม่เห็นแม่กลับมาสักที”“จะไปตามทำไมกำลังท้องกำลังไส้แม่ไม่อยากให้แกขับรถมันอันตราย” รำพึงเอ็ดคนเป็นลูกที่แม้ว่าท้องกำลังโตแต่ก็ยังทำตัวคล่องแคล่วเหมือนตัวเองไม่ได้มีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในท้อง“ก็ฝันเป็นห่วงแม่นี่จ๊ะ ดูสิแก่ขนาดนี้ยังต้องทำงานแถมยังมีฝันกับลูกมาเป็นภาระอีกต่างหาก

  • เมียซ่อนที่(ไม่)รัก   แทบพลิกแผ่นดิน

    “คนไข้ปลอดภัยดีนะครับ แต่หมอต้องขอแสดงความเสียใจด้วยที่ไม่สามารถรักษาเด็กในท้องไว้ได้”“เด็กในท้องหมายความว่ายังไงครับ” อณุปากคอสั่นเมื่อได้ยินผลการรักษา ลิตาท้องจริงอย่างนั้นเหรอ“คุณลิตาน่าจะตั้งครรภ์อ่อน ๆ โดยที่ไม่รู้ตัวนะครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วหมอขอตัวก่อนนะครับ”อณุแทบล้มทั้งยืน ร่างกายอ่อนปวกเปียกจนอนาวินและการันต์ต้องเข้ามาพยุงร่างเอาไว้ชายหนุ่มยกมือสั่นเทาขึ้นดูพร้อมกับน้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลอาบสองแก้ม...เขาทำให้ลิตาแท้งลูกของตัวเองอย่างนั้นเหรอ“ไอ้นุ ใจเย็น ๆ แกต้องตั้งสติทุกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอก คนที่แกต้องห่วงตอนนี้คือลิตา”การันต์ตบไหล่ปลอบเพื่อนจึงทำให้อณุตั้งสติได้ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องพักฟื้นร่างบอบบางนอนมองเพดานด้วยดวงตาเหม่อลอยแต่น้ำตายังคงไหลออกมา หญิงสาวไม่รู้ว่าต้องรู้สึกอย่างไรกันแน่ที่รู้ว่าตัวเองท้องจริง ๆ แต่ก็มาเสียลูกในท้องไปพร้อมกัน“ลิตา คุณเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”อณุนั่งลงด้านข้างพร้อมกับเอื้อมไปจับมือเธอขึ้นมากุมไว้ หญิงสาวหันมองหน้าเขาช้า ๆ แล้วก็สะอื้นออกมา“คุณคิดว่าฉันรู้สึกยังไงล่ะ ที่หลอกทุกคนว่าท้องทั้งที่ต

  • เมียซ่อนที่(ไม่)รัก   กว่าจะรู้(2)

    “ทุกคนมากันครบแล้วแกมีอะไรจะพูดก็พูดมา ฉันมีเวลาไม่มากต้องทำงาน”อนาวินหันกลับไปจ้องหน้าอณุแต่เจ้าตัวกลับมีสีหน้าเรียบเฉยแล้วเสมองไปยังร่างเล็กที่นั่งถัดไปไม่กี่เมตร“ก่อนอื่นผมต้องขอโทษคุณลุงกับคุณป้าก่อนนะครับที่เสียมารยาทเรียกออกมาแต่ถ้าผมไม่เรียกออกมา ไอ้วินก็คงไม่ออกไปพบพวกผมโดยพร้อมหน้ากันแน่นอน” อณุยกมือขึ้นไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง“ไม่เป็นไรจ๊ะ ป้าเข้าใจ ว่าแต่มีอะไรก็รีบพูดมาเถอะจ๊ะ ต้องหายใจร่วมกับใครบางคนป้าหายใจไม่ค่อยออก” ว่าพลางปลายตามองลิตา“ถ้างั้นผมเข้าเรื่องเลยนะครับ ตอนนี้ผมคิดว่าคุณป้ากับคุณลุงคงเข้าใจว่าลิตาท้องกับอนาวิน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ครับ” อณุพูดออกมาช้า ๆ แต่เน้นย้ำทุกคำแต่มีหรือลิตาจะยอมอยู่เฉยเธอรีบเอ่ยขัด“หยุด ปล่อยให้อณุพูดทุกอย่างออกมา หล่อนอย่าเพิ่งขัด” คราวนี้เป็นเสียงทุ้มแต่น่าเกรงขามของคฑาเอ่ยขึ้นทุกคนจึงไม่มีใครกล้าแย้งใด ๆชายแก่ปล่อยให้ตัวเองนิ่งเงียบเรื่องของลูกชายมานานแล้วถึงเวลาที่ต้องจัดการทุกอย่างให้มันเรียบร้อยสักทีปล่อยให้มันกลายเป็นเรื่องยุ่งยากจนเกิดหย่าร้างมานานเกินไปแล้ว“แล้วยังไงต่อจ๊ะ เล่ามันออกมาเลย”คุณหญิงศจีจีบปากจีบคอพลางเยาะเย้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status