ทางด้านอนาวินเมื่อก้าวขาพ้นประตูลิฟต์เจ้าตัวเดินออกมาพร้อมกับกลิ่นพริก กลิ่นน้ำปลา จนเลขาสาวหน้าห้องถึงกับต้องยกมือขึ้นอังจมูกตัวเองเล็กน้อย แต่สายตาก็ชำเลืองมองคนเป็นนายเพื่อไม่ให้เสียมารยาท
“เดี๋ยวคุณช่วยส่งชุดนี้ไปซักให้ผมด้วยนะ”
อนาวินเปิดประตูห้องทำงานออกมาพร้อมกับยื่นถุงกระดาษที่มีชุดสูทอยู่ข้างในให้กับเลขา ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนเป็นชุดสูทตัวใหม่เรียบร้อยแล้ว โชคยังดีที่ด้านหลังโต๊ะทำงานเขา เป็นห้องส่วนตัวที่ตบแต่งคล้ายห้องชุดในคอนโดเอาไว้นอนเวลาที่เขาต้องอยู่ทำงานดึกดื่นจนขับรถกลับไม่ไหว จึงทำให้มีเสื้อผ้าติดไว้เปลี่ยนเวลาจำเป็นอยู่บ้าง
“แล้วเรียกคุณบวรขึ้นมาพบผมด้วย”
ก่อนจะหันหลังกลับเขาก็ยังหันไปสั่งกำชับงานเพิ่มอีก เลขาสาวได้แต่พยักหน้ารับคำ แล้วรีบต่อสายหาลูกน้องมือขวาของท่านประธานทันที เธอไม่กล้าตอบโต้เจ้านายมากนักเพราะรู้สึกได้ว่าท่านกำลังอารมณ์ไม่ค่อยดี
“คุณอนาวินเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ แต่ถ้าจะถามเรื่องพนักงานหญิงเมื่อเช้า ผมจัดการเรียบร้อยแล้วนะครับ เธอเซ็นเตือนเรียบร้อยแล้ว”
บวรไม่ต้องรอให้คนเป็นเจ้านายถามเขารีบชิงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนเพราะดูจากสีหน้าแล้วอนาวินคงยังไม่หายเคืองเรื่องนี้
“ผมไม่ได้ตามคุณมาถามเรื่องนั้น ผมจะถามถึงเรื่องอาหารทะเลที่มีนายทุนต่างถิ่นมากว้านซื้อตัดราคาเรา คุณไปสืบดูหรือยังว่าเป็นใคร”
“ผมให้ลูกน้องของเราไปตามสืบอยู่ครับ ไม่นานน่าจะรู้ว่าเป็นใคร”
“อืมดี เพราะเรื่องนี้ทำให้บริษัทเราขาดอาหารทะเลที่จะแช่แข็งส่งออก ทำให้ผลประกอบการไม่ค่อยดีเท่าไร ยังไงก็รีบตามเรื่องนี้ให้ผมด้วยก็แล้วกัน”
“ครับ เอ่อ เจ้านายครับ แล้วเรื่องงานเลี้ยงวันครบรอบบริษัทเจ้านายจะไปร่วมงานนี้ด้วยไหมครับ”
“งานจัดขึ้นอาทิตย์หน้าใช่ไหม”
ครั้งนี้ชายหนุ่มไม่ได้เงยหน้ามองคู่สนทนาแต่เลือกที่จะนั่งลงบนเก้าอี้แล้วหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดอ่าน
“ใช่ครับ จัดที่โรงแรมคิงปาร์ค แถวๆ ศรีนครินทร์ งานนี้มีผู้บริหารอาวุโสมาร่วมงานด้วย แล้วก็พรีเซนเตอร์ของเราก็มางานนี้ด้วยเหมือนกัน”
เหมือนรู้จุดอ่อนคนเป็นเจ้านายเป็นอย่างดีว่าจะทำอย่างไรให้เจ้านายไม่ปฏิเสธที่จะไปร่วมงานบริษัท เพราะปกติหลายปีที่ผ่านมา อนาวินแทบจะไม่ย่างกายไปร่วมงานเลย
พรีเซ็นเตอร์อาหารแช่แข็งสำเร็จรูปไม่ใช่ใครที่ไหนเป็น “ลิตา” นั่นเอง ชายหนุ่มได้ยินว่าหญิงสาวที่ตนเองแอบมีใจให้ก็จะมาร่วมงานนี้ด้วย ก็รีบตกปากรับคำกับคนเป็นลูกน้องทันทีว่าจะไปร่วมงานนี้ด้วย
หลังจากเลิกงานก็เลยเวลามาเกือบค่ำ เพียงฝันเดินออกมาที่ลานจอดรถสำหรับมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ เธอเอ่ยทักทายลุงยามที่มาปฏิบัติหน้าที่เวรกลางคืนเป็นประจำเป็นเรื่องปกติ มีบางครั้งที่เธอหอบหิ้วของกินมาฝากลุงแกบ้างเป็นสินน้ำใจเล็ก ๆ น้อยๆที่ลุงคอยสอดส่องดูแลรถให้เป็นอย่างดี
เธอหยิบหมวกกันน็อคคู่ใจออกมาสวมแล้วสตาร์ทรถบิดออกไป แต่ทว่ายังที่ไม่ทันจะขับพ้นรั้วกั้นแลกบัตรเสียด้วยซ้ำ เพียงฝันถึงกับเบรกรถหัวทิ่มเมื่อรถยนต์หรูหักหลบอะไรบางอย่างแล้วพุ่งมาทางเธอ โชคยังดีที่รถคันนั้นเบรกทันจึงไม่ได้เหยียบเธอแบนเป็นหมูย่างครัวลุงรงค์
แต่เพราะมอเตอร์ไซค์ที่เธอขับค่อนข้างจะหนักทำให้เธอทรงตัวไม่อยู่ถึงกับล้มลงไม่เป็นท่าจนรถทับตัวเธอ
“โอ๊ย เจ็บ”
หญิงสาวพยายามดันรถที่ทับขาข้างขวา แต่ดันเท่าไรก็ไม่ขึ้น
“หนูฝัน มาๆ เดี๋ยวลุงช่วย”
ลุงยามที่เห็นเหตุการณ์รีบวิ่งเข้ามาช่วยพร้อมกับกวักมือเรียกเพื่อนร่วมงานมาช่วยกันยกรถขึ้น
“คุณเป็นอะไรมากไหมครับ พอดีผมไม่ทันได้มอง” ร่างสูงที่ลงจากรถได้รีบเดินจ้ำอ้าวเข้ามาดูทันที
“เจ็บนะสิถามได้”
เพียงฝันตอบกลับแบบห้วน ๆ โดยที่ไม่ได้เงยหน้ามองเพราะเธอรู้สึกเจ็บที่ข้อเท้าจึงมัวแต่ก้มมองสำรวจ แต่พอนึกได้ว่าน้ำเสียงที่เอ่ยถามนั้นคุ้นหูเหลือเกินจึงเปรยตาขึ้นมองให้ชัดๆเต็มตา
“คุณอนาวิน!”
“เธออีกแล้วเหรอ”
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ไม่รู้วันซวยอะไรที่เจอกับผู้หญิงคนนี้ทีไรก็มีแต่เรื่องทุกทีสิน่า
“เอ่อ ฝันไม่เป็นไรค่ะ คุณอนาวินไปเถอะค่ะ”
เพียงฝันพยายามลุกขึ้นยืนแล้วบอกว่าตัวเองไม่เป็นไร ซึ่งตรงข้ามกับร่างอวบที่ยันกายลุกขึ้นด้วยความทุลักทุเล แต่เพราะข้อเท้าเธอได้รับบาดเจ็บจึงล้มลงนั่งอยู่ในท่าเดิม
“โอ๊ย”
ใบหน้านวลบิดเบี้ยวเพราะรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา มืออวบคลำไปที่ข้อเท้าเบา ๆเธอสัมผัสได้ว่ามันบวมขึ้นมาเล็กน้อย
ร่างสูงไม่ได้เดินหนีไปไหนแต่กลับทรุดตัวลงนั่งแล้วเอื้อมมือไปสัมผัสที่ข้อเท้าของผู้หญิงตรงหน้า จะให้เขาหนีกลับบ้านได้อย่างไรก็ในเมื่อเขาเป็นคนผิดที่ขับรถไม่ระวัง
“คุณอนาวินจะทำอะไรคะ ฝันไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะ”
เพียงฝันชักขาหนี แต่ทว่ากลับถูกใบหน้าคมทำสีหน้าดุ ๆ ใส่ จนเธอต้องยอมให้เขาจับข้อเท้า
เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เธอได้อยู่ใกล้ชิดและมองเห็นหน้าของผู้ชายที่แอบรักได้ใกล้ขนาดนี้ หัวใจเธอตอนนี้แทบเต้นไม่เป็นจังหวะกันเลยทีเดียว
“ข้อเท้าบวมขนาดนี้ คงต้องไปโรงพยาบาล ลุงครับผมรบกวนเอามอเตอร์ไซค์คันนี้กลับไปจอดที่เดิมด้วยนะครับ เดี๋ยวผมจะพา เอ่อ….เพียงฝันไปโรงพยาบาล”
อนาวินไม่แน่ใจว่าพนักงานที่อยู่ตรงหน้าชื่ออะไรจึงเหลือบสายตามองไปยังบัตรพนักงานที่ติดอยู่หน้าอก
“ลุกขึ้นไหวไหม มาเดี๋ยวฉันช่วยประคอง”
เขาทำท่าจะเอื้อมมือมาหิ้วปีก แต่เพียงฝันเขยิบหนีแล้วจับเอาราวรั้วที่อยู่ใกล้ ๆ พยุงกายลุกขึ้นเอง
“ไม่เป็นไรค่ะ ฝันลุกเองได้”
เธอยิ้มให้เขามุมปากเล็กน้อยหากตัวเขาอยู่ใกล้มากกว่านี้หัวใจเธอคงออกมาวิ่งเล่นข้างนอกแน่ ๆ
“ถ้างั้นก็เดินไปที่รถไหวใช่ไหม ฉันจะพาเธอไปหาหมอ”
เขาผายมือไปยังรถหรูสีแดงที่จอดอยู่ไม่ไกล หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วเขย่งเท้าเดินตามหลังเขาไปช้า ๆ
ตั้งแต่แอบหลงใหลอนาวินมานี่ถือว่าเธอได้คุยกับเขาได้นานขนาดนี้ ไม่นับครั้งแรกที่ได้คุยด้วยเมื่อเช้า แม้สถานการณ์มันจะไม่ค่อยดีเท่าไรก็ตามที
เพียงฝันไม่รู้ว่าเขาจะจำได้ไหมว่าเธอเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย แต่คิดไปคิดมาเขาก็คงจะจำเธอไม่ได้หรอก หน้าตาก็งั้นๆ แถมตัวยังกลมอย่างกับตุ่มใส่น้ำ
ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เมื่อเช้ากับเมื่อสักครู่เป็นอุบัติเหตุหรือผีผลัก แต่มันก็ทำให้เธอได้คุยเขา เอาเป็นว่าสำหรับเธอเรียกมันว่าพรหมลิขิตก็แล้วกัน
ภายในซอกซอยของตึกกรุงทองย่านประตูน้ำซึ่งถือว่าเป็นแหล่งรวมเสื้อผ้าแฟชั่นส่งออกไปทั่วประเทศร่างบางของเพียงฟ้ากำลังกวาดสายตามองหาชุดเดรสให้กับคนเป็นพี่สาวซึ่งตอนนี้กำลังเดินหรือคลานต้วมเตี้ยมอยู่ด้านหลัง"พี่ฝันไหวไหมเนี่ย ถ้ารู้ว่าตัวเองยังเจ็บอยู่ก็น่าจะมาดูวันหลัง”“พี่ไหวน่า จะมาดูวันหลังอะไร งานเลี้ยงบริษัทจะเริ่มมะรืนนี้อยู่แล้ว”เพียงฝันย่นคิ้วใส่น้องสาวเล็กน้อยถ้าไม่อยากได้เงินซื้ออัลบั้มวงโปรดเธอมั่นใจได้เลยว่ายัยน้องสาวตัวแสบคงไม่มาเลือกซื้อเสื้อผ้าเป็นเพื่อนแน่นอนหญิงสาวเองก็ไม่รู้ว่าจะไปหาเลือกซื้อเสื้อผ้าไซน์ขนาดเธอได้จากที่ไหนก็เลยจำใจนั่งรถเมล์มาซื้อที่นี่แทน“พี่ฝันตัวนี้สวยมากเลยอ่า เข้ากับตรีมงานเดรสสีฉูดฉาดพอดีเลย”เพียงฟ้าจูงแขนคนเป็นพี่สาวไปยังร้านเสื้อร้านหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าซึ่งตัวคนขายเองก็ยืนต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเดรสสีเขียวเหมือนเหล้าชาร์ทรุสที่โชว์อยู่บนหุ่นจำลองช่างสะดุดตาเธอยิ่งนัก ช่วงแขนถูกออกแบบให้เปิดไหล่แขนยาวเกือบถึงศอก ส่วนหน้าอกเป็นรูปโบคล้าย ๆเกาะอก ใต้หน้าอกเว้าโชว์ให้เห็นส่วนพุงเล็กน้อย ตัวกระโปรงยาวถึงเข่า“อือ ตัวนี้สวยมากเลยอ่า งั้นเอาตัวน
พี่นิ่มที่เดินกลับมาจากห้องน้ำได้ยินเรื่องที่สองสาวกำลังสนทนาจึงเอ่ยบอกเรื่องนี้อีกครั้ง“ฝันไม่อยากจะใส่เลยกระโปรงเนี่ย เดินก็ยากทำอะไรก็ไม่สะดวก”ใบหน้าหวานง่ำลงพร้อมกับบุยปากคว่ำแค่คิดว่าต้องแต่งตัวเธอก็ท้อเสียแล้วเพราะโดยปกติเธอไม่ค่อยแต่งตัวเสียสักเท่าไร บางวันมาทำงานยังเป็นอีเพิ้งหัวฟูอยู่เลยแล้วนี่ต้องไปหาเลือกชุดมาใส่ไปงานอีกสามสาวพูดคุยกันได้ไม่นานก็ปรากฎร่างระหงของสาวสวยมายืนอยู่ตรงหน้าผมยาวตรงถูกปล่อยสยายลงกลางหลัง ตรงใบหน้าแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางอ่อน ๆ แต่ปากเรียวหยักกลับแต่งแต้มด้วยสีแดงเข้มให้ดูโดดเด่น“สวัสดีค่ะ ฉันมาพบคุณอนาวิน ไม่ทราบว่าเขาอยู่ไหมคะ”“คะ คุณลิตา”พี่ฤทัยถึงกับพูดตะกุกตะกักเมื่อเห็นว่าสาวสวยที่เอ่ยถามเป็นใคร ในประเทศนี้จะมีใครไม่รู้จักเธอบ้าง“รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันติดต่อเลขาคุณอนาวินให้”เพียงฝันตอบด้วยรอยยิ้มบาง ๆ เพราะเธอเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ไปไหนมาไหนด้วยกันกับอนาวินตั้งแต่สมัยเรียนจนมีข่าวลือว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน แต่ปัจจุบันก็คงเป็นแค่เพื่อนนั่นแหละเพราะหล่อนเองก็ประกาศว่ามีคู่แล้วเพียงฝันต่อสายไปยังเลขาฯหน้าห้องทันทีเมื่อได้คำตอบแล้วเธอจึงหัน
“คนไข้ไม่เป็นอะไรมากนะครับ แค่ข้อเท้าเคล็ดนิดหน่อย เวลาเดินอย่าลงน้ำหนักไปที่เท้ามากเกินไปสองสามวันก็น่าจะหาย”หมอหนุ่มวัยกลางคนเอ่ยบอกเพียงฝันเมื่อตรวจดูอาการและ ผลเอ็กซ์เรย์แล้วก็เห็นว่าคนไข้อาการปกติไม่มีส่วนไหนแตกหัก“โล่งอกไปทีค่ะ ฝันนึกว่าจะเดี้ยงจนต้องเข้าเฝือกซะแล้ว”เธอยิ้มเจื่อน ๆ แล้วปลายตามองร่างสูงที่ยืนกอดอกพิงกำแพงอยู่ไม่ไกลหากเธอเป็นอะไรไปมากกว่านี้มีหวังคงโดนเขาเขมือบลงท้องแน่ ๆ เพราะทั้งวันเธอกับเขาเจอกันทีไรก็มีเรื่องทุกที“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมพาคนไข้กลับบ้านได้แล้วใช่ไหมครับ”“ครับ เดี๋ยวผมสั่งยาให้กลับไปทานแล้วก็ทา”อนาวินพยักหน้าให้แล้วก็เดินนำออกไปโดยให้พยาบาลสาวเป็นคนเข็นรถที่มีเพียงฝันนั่งอยู่ตามออกไป“เอ่อ คุณอนาวินกลับไปก่อนก็ได้นะคะ รับยาเสร็จแล้วเดี๋ยวฝันกลับเองได้ค่ะ แล้วก็ฝันขอโทษสำหรับเรื่องวันนี้ด้วยนะคะ”หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้ขอโทษแต่สายตาก็ยังคงหลุบมองพื้นไม่กล้าสบตาโดยตรง“แน่ใจเหรอว่าจะกลับเองได้ เท้าก็เจ็บเดินก็ไม่ถนัด”อนาวินจ้องมองคนเจ้าปัญหาตาไม่กระพริบ ไม่รู้ว่าเป็นวันอะไรกันแน่ที่ทำให้เขาเจอแต่เรื่องกับคนเดิม ๆแค่คิดเขาก็ถอนหายใจออกมาเสียง
ทางด้านอนาวินเมื่อก้าวขาพ้นประตูลิฟต์เจ้าตัวเดินออกมาพร้อมกับกลิ่นพริก กลิ่นน้ำปลา จนเลขาสาวหน้าห้องถึงกับต้องยกมือขึ้นอังจมูกตัวเองเล็กน้อย แต่สายตาก็ชำเลืองมองคนเป็นนายเพื่อไม่ให้เสียมารยาท“เดี๋ยวคุณช่วยส่งชุดนี้ไปซักให้ผมด้วยนะ”อนาวินเปิดประตูห้องทำงานออกมาพร้อมกับยื่นถุงกระดาษที่มีชุดสูทอยู่ข้างในให้กับเลขา ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนเป็นชุดสูทตัวใหม่เรียบร้อยแล้ว โชคยังดีที่ด้านหลังโต๊ะทำงานเขา เป็นห้องส่วนตัวที่ตบแต่งคล้ายห้องชุดในคอนโดเอาไว้นอนเวลาที่เขาต้องอยู่ทำงานดึกดื่นจนขับรถกลับไม่ไหว จึงทำให้มีเสื้อผ้าติดไว้เปลี่ยนเวลาจำเป็นอยู่บ้าง“แล้วเรียกคุณบวรขึ้นมาพบผมด้วย”ก่อนจะหันหลังกลับเขาก็ยังหันไปสั่งกำชับงานเพิ่มอีก เลขาสาวได้แต่พยักหน้ารับคำ แล้วรีบต่อสายหาลูกน้องมือขวาของท่านประธานทันที เธอไม่กล้าตอบโต้เจ้านายมากนักเพราะรู้สึกได้ว่าท่านกำลังอารมณ์ไม่ค่อยดี“คุณอนาวินเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ แต่ถ้าจะถามเรื่องพนักงานหญิงเมื่อเช้า ผมจัดการเรียบร้อยแล้วนะครับ เธอเซ็นเตือนเรียบร้อยแล้ว”บวรไม่ต้องรอให้คนเป็นเจ้านายถามเขารีบชิงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนเพราะดูจากสีหน้าแล้วอนาวินคงยั
ช่วงเช้าวันใหม่เพียงฝันจอดรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจที่ขับขี่มาจากบ้าน พอถึงที่ทำงานก็ต้องรีบจอดให้เร็วที่สุดเพราะวันนี้เธอออกจาบ้านมาก็สายมากแล้ว เหลือบมองดูนาฬิกาบนข้อมือก็เหลือเวลาอีกแค่5นาทีเท่านั้นก็จะถึงเวลาสแกนนิ้วเข้าทำงานสองมือหอบหิ้วถุงยำมะม่วงที่แยกน้ำแยกเนื้อมาอย่างพะรุงพะรัง ผมเผ้าที่แห้งสนิทแต่ชี้ฟูกระเซอะกระเซิงไม่ได้มัดรวบให้เรียบร้อยเพราะเมื่อเช้าเธอสระผมมา ไม่ได้ไดร์ให้แห้งจึงอาศัยลมธรรมชาติจากการขับรถมาทำงานเป่าให้แห้งเสียเลยจะได้ไม่ต้องเสียเวลาสองเท้าอวบเร่งฝีเท้าเพื่อให้ทันเวลา ความเร่งรีบทำให้เธอไม่ทันได้มองว่ามีร่างสูงของใครอีกคนกำลังเดินสวนมาจากอีกทาง“ปั๊ก!”เพียงฝันชนเข้ากับผู้ชายตรงหน้าอย่างจังจนล้มลงก้นจ้ำเบ้าถุงน้ำยำที่รำพึงแยกมาให้ตกลงแตก ทำให้น้ำปลาร้าหกเลอะเทอะส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ“โอ๊ย เดินยังไงเนี่ยไม่ดูตาม้าตาเรือดูสิของฉันตกแตกเสียหายหมดเลย”น้ำเสียงขุ่นสบถด่าออกมาโดยที่ไม่ได้เงยหน้ามอง จะไม่ให้เธอโมโหได้อย่างไร ของที่จะนำส่งลูกค้าดันเสียหาย แถมเธอยังต้องถูกหักเงินที่เข้างานสายอีกด้วย“เสียหายมากไหม”“ก็มากนะสิ...”เธอตอบกลับทันควันพร้อมกับเ
“สมกับเป็นพี่สาวที่แสนดีของน้องจริง ๆ รู้ใจไปหมดทุกอย่าง แต่ถ้าจะให้ดีขอเงินซื้ออัลบั้มหน่อยนะ”เพียงฟ้าส่งสายตาปริบ ๆ ให้กับคนเป็นพี่ แต่ทว่าคนเป็นพี่กลับแกล้งไม่ได้ยินแล้วเดินหนีเข้าบ้าน แต่มีหรือคนอย่างเพียงฟ้าจะยอม จึงเดินตามไปอ้อนเพื่อขอในสิ่งที่อยากได้รำพึงมองตามลูกสาวสองคนทั้งยิ้มทั้งส่ายหัว เธอดีใจที่ลูกสาวสองคนรักกันแน่นแฟ้น หากสามีเธอไม่ได้ตายจากอุบัติเหตุเมื่อสิบปีก่อน เขาคงต้องภูมิใจและดีใจมากแน่ ๆ ที่ลูกทั้งสองคนเป็นเด็กดีไม่เคยทำเรื่องอะไรให้คนเป็นแม่เสียใจสักครั้ง“วันนี้คุณแม่อารมณ์ดีจังเลยนะครับ ผมได้ยินเสียงฮัมเพลงตั้งแต่ทางเข้าประตูบ้าน”เสียงทุ้มดังขึ้นจากทางด้านหลัง คุณหญิงศจีที่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารเย็นกับแม่บ้านถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย เธอหันกลับไปมองเมื่อเห็นว่าเป็นอนาวินลูกชายเพียงคนเดียวก็ปรับสีหน้าเรียบเฉยแกล้งทำเป็นงอน“ป้าไก่ ได้ยินเสียงนกเสียงกาแถวนี้ไหม”“ได้ยินค่ะ นก กาที่ว่าน่าจะตัวใหญ่ด้วยนะคะ”หญิงแก่แม่บ้านประจำหันไปหาคุณหนูของบ้านแล้วยักคิ้วให้ เพื่อบ่งบอกว่าคุณหญิงของบ้านน้อยใจคนเป็นลูกชายที่แทบจะไม่แวะเวียนกลับมาหาเลย“แม่ครับ อย่าโกรธผมเลย