LOGINทางด้านอนาวินเมื่อก้าวขาพ้นประตูลิฟต์เจ้าตัวเดินออกมาพร้อมกับกลิ่นพริก กลิ่นน้ำปลา จนเลขาสาวหน้าห้องถึงกับต้องยกมือขึ้นอังจมูกตัวเองเล็กน้อย แต่สายตาก็ชำเลืองมองคนเป็นนายเพื่อไม่ให้เสียมารยาท
“เดี๋ยวคุณช่วยส่งชุดนี้ไปซักให้ผมด้วยนะ”
อนาวินเปิดประตูห้องทำงานออกมาพร้อมกับยื่นถุงกระดาษที่มีชุดสูทอยู่ข้างในให้กับเลขา ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนเป็นชุดสูทตัวใหม่เรียบร้อยแล้ว โชคยังดีที่ด้านหลังโต๊ะทำงานเขา เป็นห้องส่วนตัวที่ตบแต่งคล้ายห้องชุดในคอนโดเอาไว้นอนเวลาที่เขาต้องอยู่ทำงานดึกดื่นจนขับรถกลับไม่ไหว จึงทำให้มีเสื้อผ้าติดไว้เปลี่ยนเวลาจำเป็นอยู่บ้าง
“แล้วเรียกคุณบวรขึ้นมาพบผมด้วย”
ก่อนจะหันหลังกลับเขาก็ยังหันไปสั่งกำชับงานเพิ่มอีก เลขาสาวได้แต่พยักหน้ารับคำ แล้วรีบต่อสายหาลูกน้องมือขวาของท่านประธานทันที เธอไม่กล้าตอบโต้เจ้านายมากนักเพราะรู้สึกได้ว่าท่านกำลังอารมณ์ไม่ค่อยดี
“คุณอนาวินเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ แต่ถ้าจะถามเรื่องพนักงานหญิงเมื่อเช้า ผมจัดการเรียบร้อยแล้วนะครับ เธอเซ็นเตือนเรียบร้อยแล้ว”
บวรไม่ต้องรอให้คนเป็นเจ้านายถามเขารีบชิงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนเพราะดูจากสีหน้าแล้วอนาวินคงยังไม่หายเคืองเรื่องนี้
“ผมไม่ได้ตามคุณมาถามเรื่องนั้น ผมจะถามถึงเรื่องอาหารทะเลที่มีนายทุนต่างถิ่นมากว้านซื้อตัดราคาเรา คุณไปสืบดูหรือยังว่าเป็นใคร”
“ผมให้ลูกน้องของเราไปตามสืบอยู่ครับ ไม่นานน่าจะรู้ว่าเป็นใคร”
“อืมดี เพราะเรื่องนี้ทำให้บริษัทเราขาดอาหารทะเลที่จะแช่แข็งส่งออก ทำให้ผลประกอบการไม่ค่อยดีเท่าไร ยังไงก็รีบตามเรื่องนี้ให้ผมด้วยก็แล้วกัน”
“ครับ เอ่อ เจ้านายครับ แล้วเรื่องงานเลี้ยงวันครบรอบบริษัทเจ้านายจะไปร่วมงานนี้ด้วยไหมครับ”
“งานจัดขึ้นอาทิตย์หน้าใช่ไหม”
ครั้งนี้ชายหนุ่มไม่ได้เงยหน้ามองคู่สนทนาแต่เลือกที่จะนั่งลงบนเก้าอี้แล้วหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดอ่าน
“ใช่ครับ จัดที่โรงแรมคิงปาร์ค แถวๆ ศรีนครินทร์ งานนี้มีผู้บริหารอาวุโสมาร่วมงานด้วย แล้วก็พรีเซนเตอร์ของเราก็มางานนี้ด้วยเหมือนกัน”
เหมือนรู้จุดอ่อนคนเป็นเจ้านายเป็นอย่างดีว่าจะทำอย่างไรให้เจ้านายไม่ปฏิเสธที่จะไปร่วมงานบริษัท เพราะปกติหลายปีที่ผ่านมา อนาวินแทบจะไม่ย่างกายไปร่วมงานเลย
พรีเซ็นเตอร์อาหารแช่แข็งสำเร็จรูปไม่ใช่ใครที่ไหนเป็น “ลิตา” นั่นเอง ชายหนุ่มได้ยินว่าหญิงสาวที่ตนเองแอบมีใจให้ก็จะมาร่วมงานนี้ด้วย ก็รีบตกปากรับคำกับคนเป็นลูกน้องทันทีว่าจะไปร่วมงานนี้ด้วย
หลังจากเลิกงานก็เลยเวลามาเกือบค่ำ เพียงฝันเดินออกมาที่ลานจอดรถสำหรับมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ เธอเอ่ยทักทายลุงยามที่มาปฏิบัติหน้าที่เวรกลางคืนเป็นประจำเป็นเรื่องปกติ มีบางครั้งที่เธอหอบหิ้วของกินมาฝากลุงแกบ้างเป็นสินน้ำใจเล็ก ๆ น้อยๆที่ลุงคอยสอดส่องดูแลรถให้เป็นอย่างดี
เธอหยิบหมวกกันน็อคคู่ใจออกมาสวมแล้วสตาร์ทรถบิดออกไป แต่ทว่ายังที่ไม่ทันจะขับพ้นรั้วกั้นแลกบัตรเสียด้วยซ้ำ เพียงฝันถึงกับเบรกรถหัวทิ่มเมื่อรถยนต์หรูหักหลบอะไรบางอย่างแล้วพุ่งมาทางเธอ โชคยังดีที่รถคันนั้นเบรกทันจึงไม่ได้เหยียบเธอแบนเป็นหมูย่างครัวลุงรงค์
แต่เพราะมอเตอร์ไซค์ที่เธอขับค่อนข้างจะหนักทำให้เธอทรงตัวไม่อยู่ถึงกับล้มลงไม่เป็นท่าจนรถทับตัวเธอ
“โอ๊ย เจ็บ”
หญิงสาวพยายามดันรถที่ทับขาข้างขวา แต่ดันเท่าไรก็ไม่ขึ้น
“หนูฝัน มาๆ เดี๋ยวลุงช่วย”
ลุงยามที่เห็นเหตุการณ์รีบวิ่งเข้ามาช่วยพร้อมกับกวักมือเรียกเพื่อนร่วมงานมาช่วยกันยกรถขึ้น
“คุณเป็นอะไรมากไหมครับ พอดีผมไม่ทันได้มอง” ร่างสูงที่ลงจากรถได้รีบเดินจ้ำอ้าวเข้ามาดูทันที
“เจ็บนะสิถามได้”
เพียงฝันตอบกลับแบบห้วน ๆ โดยที่ไม่ได้เงยหน้ามองเพราะเธอรู้สึกเจ็บที่ข้อเท้าจึงมัวแต่ก้มมองสำรวจ แต่พอนึกได้ว่าน้ำเสียงที่เอ่ยถามนั้นคุ้นหูเหลือเกินจึงเปรยตาขึ้นมองให้ชัดๆเต็มตา
“คุณอนาวิน!”
“เธออีกแล้วเหรอ”
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ไม่รู้วันซวยอะไรที่เจอกับผู้หญิงคนนี้ทีไรก็มีแต่เรื่องทุกทีสิน่า
“เอ่อ ฝันไม่เป็นไรค่ะ คุณอนาวินไปเถอะค่ะ”
เพียงฝันพยายามลุกขึ้นยืนแล้วบอกว่าตัวเองไม่เป็นไร ซึ่งตรงข้ามกับร่างอวบที่ยันกายลุกขึ้นด้วยความทุลักทุเล แต่เพราะข้อเท้าเธอได้รับบาดเจ็บจึงล้มลงนั่งอยู่ในท่าเดิม
“โอ๊ย”
ใบหน้านวลบิดเบี้ยวเพราะรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา มืออวบคลำไปที่ข้อเท้าเบา ๆเธอสัมผัสได้ว่ามันบวมขึ้นมาเล็กน้อย
ร่างสูงไม่ได้เดินหนีไปไหนแต่กลับทรุดตัวลงนั่งแล้วเอื้อมมือไปสัมผัสที่ข้อเท้าของผู้หญิงตรงหน้า จะให้เขาหนีกลับบ้านได้อย่างไรก็ในเมื่อเขาเป็นคนผิดที่ขับรถไม่ระวัง
“คุณอนาวินจะทำอะไรคะ ฝันไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะ”
เพียงฝันชักขาหนี แต่ทว่ากลับถูกใบหน้าคมทำสีหน้าดุ ๆ ใส่ จนเธอต้องยอมให้เขาจับข้อเท้า
เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เธอได้อยู่ใกล้ชิดและมองเห็นหน้าของผู้ชายที่แอบรักได้ใกล้ขนาดนี้ หัวใจเธอตอนนี้แทบเต้นไม่เป็นจังหวะกันเลยทีเดียว
“ข้อเท้าบวมขนาดนี้ คงต้องไปโรงพยาบาล ลุงครับผมรบกวนเอามอเตอร์ไซค์คันนี้กลับไปจอดที่เดิมด้วยนะครับ เดี๋ยวผมจะพา เอ่อ….เพียงฝันไปโรงพยาบาล”
อนาวินไม่แน่ใจว่าพนักงานที่อยู่ตรงหน้าชื่ออะไรจึงเหลือบสายตามองไปยังบัตรพนักงานที่ติดอยู่หน้าอก
“ลุกขึ้นไหวไหม มาเดี๋ยวฉันช่วยประคอง”
เขาทำท่าจะเอื้อมมือมาหิ้วปีก แต่เพียงฝันเขยิบหนีแล้วจับเอาราวรั้วที่อยู่ใกล้ ๆ พยุงกายลุกขึ้นเอง
“ไม่เป็นไรค่ะ ฝันลุกเองได้”
เธอยิ้มให้เขามุมปากเล็กน้อยหากตัวเขาอยู่ใกล้มากกว่านี้หัวใจเธอคงออกมาวิ่งเล่นข้างนอกแน่ ๆ
“ถ้างั้นก็เดินไปที่รถไหวใช่ไหม ฉันจะพาเธอไปหาหมอ”
เขาผายมือไปยังรถหรูสีแดงที่จอดอยู่ไม่ไกล หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วเขย่งเท้าเดินตามหลังเขาไปช้า ๆ
ตั้งแต่แอบหลงใหลอนาวินมานี่ถือว่าเธอได้คุยกับเขาได้นานขนาดนี้ ไม่นับครั้งแรกที่ได้คุยด้วยเมื่อเช้า แม้สถานการณ์มันจะไม่ค่อยดีเท่าไรก็ตามที
เพียงฝันไม่รู้ว่าเขาจะจำได้ไหมว่าเธอเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย แต่คิดไปคิดมาเขาก็คงจะจำเธอไม่ได้หรอก หน้าตาก็งั้นๆ แถมตัวยังกลมอย่างกับตุ่มใส่น้ำ
ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เมื่อเช้ากับเมื่อสักครู่เป็นอุบัติเหตุหรือผีผลัก แต่มันก็ทำให้เธอได้คุยเขา เอาเป็นว่าสำหรับเธอเรียกมันว่าพรหมลิขิตก็แล้วกัน
“ป้าไก่คะ ฝันรบกวนดูตาหนูสักครู่นะคะ”เพียงฝันยื่นหนูน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มเพิ่งคลอดได้สามเดือนกว่าให้กับป้าแม่บ้าน ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับอดีตนางเอกชื่อดังอย่างลิตาที่มาหาเธอถึงบ้าน“ไม่เจอกันนานเลยนะคะ คุณลิตา”“ ค่ะ ก็นับตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้น ฉันก็บินไปอยู่ต่างประเทศเพิ่งกลับมาไม่กี่วันก่อน” หญิงสาวยิ้มให้พร้อมกับยกน้ำตรงหน้าขึ้นดื่ม“ฝันสียใจเรื่องลูกของคุณด้วยนะคะ” ในฐานะคนเป็นแม่เหมือนกันหล่อนย่อมเข้าใจดีว่ามันรู้สึกอย่างไร“ขอบคุณค่ะ ที่ลิตามาหาคุณวันนี้ก็เพราะอยากจะมาขอโทษเรื่องที่ผ่านมา ทำให้คุณกับวินเข้าใจผิดจนเกือบพรากพ่อลูกกันแล้ว”หลังจากที่เกิดเรื่องวันนั้นเธอก็รับรู้ว่าเพียงฝันตั้งท้องลูกของอนาวินจากการันต์ยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดบาปที่คิดทำอะไรเอาความสะใจเป็นที่ตั้ง แต่สุดท้ายบทเรียนที่เธอได้รับมันก็สมควรแล้วขณะที่สองสาวคุยกันอยู่นั้นร่างสูงของอนาวินก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาจากด้านนอกเมื่อได้ยินป้าไก่พูดว่าลิตามาหาเพียงฝัน“วิ่งหน้าตื่นเข้ามาเลยนะคะวิน ลิตาไม่ทำอะไรเมียคุณหรอกค่ะ”ดวงหน้าหวานยิ้มรับเมื่อเห็นเพื่อนทำสีหน้าเหมือนว่าตนจะมาทำร้ายเมียก็อดขำไม่ได้“คุณลิตาเขามา
จากวันเลื่อนเป็นสัปดาห์อนาวินก็ยังคงปักหลักอยู่ที่ต่างจังหวัดเพื่อที่จะง้อเมียให้กลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม โดยที่ตัวเองก็เทียวบินขึ้นบินลงเพื่อไปประชุมกับบอร์ดผู้บริหาร“หนูฝันเอ้ย เสร็จหรือยัง เดี๋ยวจะไปไม่ทันพระฉันท์เช้านะ”เสียงผู้เฒ่าผู้แก่สองสามคนมาตะโกนเรียกเพียงฝันอยู่หน้าบ้านทำให้อนาวินที่กำลังง่วนอยู่กับการเซ็นต์เอกสารต้องรีบวางปากกาแล้ววิ่งออกมา“คุณยายจะพากันไปไหนเหรอครับ”“ไปวัดจ้า วันนี้วันพระใหญ่” คุณยายใจดีหันกลับมาตอบด้วยท่าทีเป็นมิตร“ผมไปด้วยได้ไหม” อนาวินกระตือรือร้นเดินเข้าไปคว้าตะกร้าจากมือเพียงฝัน“ไม่ได้” เธอปฏิเสธเสียงห้วน“คิดว่าห้ามผมได้เหรอ” เขายิ้มกริ่ม “มาครับคุณยายผมช่วยถือ” เขาไม่สนใจคำปฏิเสธของคนเจ้าเนื้อที่ยืนกระฟัดกระเฟียดอยู่ทางด้านหลังเสียด้วยซ้ำบนศาลาใหญ่ผู้คนจากทั่วทั้งหมู่บ้านต่างมาทำบุญเช้านี้กันอย่างคับคั่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่ร่างสูงเป็นตาเดียว จนกระทั่งมีป้าคนหนึ่งใจกล้าเอ่ยถามขึ้นมา“หนูฝันผู้ชายที่มาด้วยใช่สามีหรือเปล่า เห็นเขาลือกันทั้งหมู่บ้าน” ผู้คนบนศาลาต่างเงียบเพื่อรอฟังคำตอบราวกับกำลังลุ้นจับฉลากรางวัลป
ท่ามกลางสายตาผู้คนอนาวินก็ยังคงโอบกอดร่างกลมตรงหน้าไม่ยอมปล่อย ชายหนุ่มยอมรับว่าตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเขาคิดถึงผู้หญิงคนนี้มากแค่ไหนความอึดอัดทำให้เพียงฝันขืนตัวแล้วผลักร่างสูงออกจนเจ้าตัวเซถลาเล็กน้อยแต่ยังดีที่อนาวินดึงตัวเธอเอาไว้ได้“ระวังหน่อยสิ เดี๋ยวลูกก็เป็นอะไรไปหรอก” เขาดุเล็ก ๆ แต่แววตาแฝงไปด้วยความเป็นห่วง“คุณมาที่นี่ทำไม ฝันว่าเราไม่ควรจะเจอกันอีกเสียด้วยซ้ำ”“ที่มาหาเพราะคิดถึงคุณกับลูก” เขาตอบด้วยความสัตย์จริง“เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของคุณ กลับไปเถอะ”“จะไม่ใช่ได้ยังไงคุณทำเองคนเดียวไม่ได้หรอกนะ อย่าทำแบบนี้เลยนะฝัน ยังไงผมก็เป็นพ่อของลูกเรานะ”...ลูกของเราอย่างนั้นเหรอ ตลกสิ้นดี“คุณกล้าใช้คำว่าลูกของเราทั้งที่ก่อนหน้านี้คุณบอกกับคุณลิตาว่าจะรับเป็นพ่อของลูกเธอแล้วขอหย่ากับฉันเนี่ยนะ”หญิงสาวยกยิ้มเยาะทั้งเจ็บทั้งเสียใจกับสิ่งที่เธอได้เจอมา“ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าคุณท้องนี่ คุณไม่ยอมบอกอะไรผมสักอย่าง”“แล้วคุณล่ะ เคยสนใจฉันบ้างหรือเปล่า อ่อ ลืมไปเราแต่งงานกันเพราะสัญญาที่คุณสร้างขึ้นมานี่นา ก่อนหน้านี่คุณอยากจะหย่ากับฉันใจแทบขาดแล้วตอนนี้จะมาเรียกร้องอะไร เราสองคนไม่มีอะไรเก
หกเดือนผ่านไป...“ท้องได้กี่เดือนแล้วนังหนู แล้วผัวเองไปไหน”มันยังคงเป็นคำถามเดิม ๆ ซ้ำ ๆที่เพียงฝันยังคงต้องตอบจากคนที่อาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกันเธอก็ยังคงยิ้มให้เหมือนเคย...ไร้ซึ่งคำตอบ...แต่พวกเขาก็มีความพยายามดีเหลือเกินที่ยังคงสอบถามเรื่อย ๆ แม้จะรู้ว่าไม่ได้คำตอบจากเธอ พอเธอไม่ได้บอกก็นำเรื่องราวไปใส่สีตีไข่แล้วบอกต่อๆ กันไปว่าเธอปล่อยให้ตัวเองท้องจนไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของเด็กแรก ๆ เธอก็เคืองจนอยากจะตามไปถอนหงอกถึงบ้านแต่มาคิดดูแล้วมันก็เป็นเรื่องปกติของคนต่างจังหวัดที่มักจะจับกุมนินทากันเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วมืออวบลูบหน้าท้องที่นูนออกมาไม่มากเพราะเป็นท้องแรกจึงไม่ค่อยโตเสียสักเท่าไร เจ้าตัวเล็กคงรับรู้ว่าเธอกำลังลูบท้องถึงตอบสนองด้วยการถีบเสียยกใหญ่“กลับมาแล้วเหรอคะแม่ ฝันกำลังจะขับรถออกไปตามพอดีเลย ไม่เห็นแม่กลับมาสักที”“จะไปตามทำไมกำลังท้องกำลังไส้แม่ไม่อยากให้แกขับรถมันอันตราย” รำพึงเอ็ดคนเป็นลูกที่แม้ว่าท้องกำลังโตแต่ก็ยังทำตัวคล่องแคล่วเหมือนตัวเองไม่ได้มีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในท้อง“ก็ฝันเป็นห่วงแม่นี่จ๊ะ ดูสิแก่ขนาดนี้ยังต้องทำงานแถมยังมีฝันกับลูกมาเป็นภาระอีกต่างหาก
“คนไข้ปลอดภัยดีนะครับ แต่หมอต้องขอแสดงความเสียใจด้วยที่ไม่สามารถรักษาเด็กในท้องไว้ได้”“เด็กในท้องหมายความว่ายังไงครับ” อณุปากคอสั่นเมื่อได้ยินผลการรักษา ลิตาท้องจริงอย่างนั้นเหรอ“คุณลิตาน่าจะตั้งครรภ์อ่อน ๆ โดยที่ไม่รู้ตัวนะครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วหมอขอตัวก่อนนะครับ”อณุแทบล้มทั้งยืน ร่างกายอ่อนปวกเปียกจนอนาวินและการันต์ต้องเข้ามาพยุงร่างเอาไว้ชายหนุ่มยกมือสั่นเทาขึ้นดูพร้อมกับน้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลอาบสองแก้ม...เขาทำให้ลิตาแท้งลูกของตัวเองอย่างนั้นเหรอ“ไอ้นุ ใจเย็น ๆ แกต้องตั้งสติทุกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอก คนที่แกต้องห่วงตอนนี้คือลิตา”การันต์ตบไหล่ปลอบเพื่อนจึงทำให้อณุตั้งสติได้ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องพักฟื้นร่างบอบบางนอนมองเพดานด้วยดวงตาเหม่อลอยแต่น้ำตายังคงไหลออกมา หญิงสาวไม่รู้ว่าต้องรู้สึกอย่างไรกันแน่ที่รู้ว่าตัวเองท้องจริง ๆ แต่ก็มาเสียลูกในท้องไปพร้อมกัน“ลิตา คุณเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”อณุนั่งลงด้านข้างพร้อมกับเอื้อมไปจับมือเธอขึ้นมากุมไว้ หญิงสาวหันมองหน้าเขาช้า ๆ แล้วก็สะอื้นออกมา“คุณคิดว่าฉันรู้สึกยังไงล่ะ ที่หลอกทุกคนว่าท้องทั้งที่ต
“ทุกคนมากันครบแล้วแกมีอะไรจะพูดก็พูดมา ฉันมีเวลาไม่มากต้องทำงาน”อนาวินหันกลับไปจ้องหน้าอณุแต่เจ้าตัวกลับมีสีหน้าเรียบเฉยแล้วเสมองไปยังร่างเล็กที่นั่งถัดไปไม่กี่เมตร“ก่อนอื่นผมต้องขอโทษคุณลุงกับคุณป้าก่อนนะครับที่เสียมารยาทเรียกออกมาแต่ถ้าผมไม่เรียกออกมา ไอ้วินก็คงไม่ออกไปพบพวกผมโดยพร้อมหน้ากันแน่นอน” อณุยกมือขึ้นไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง“ไม่เป็นไรจ๊ะ ป้าเข้าใจ ว่าแต่มีอะไรก็รีบพูดมาเถอะจ๊ะ ต้องหายใจร่วมกับใครบางคนป้าหายใจไม่ค่อยออก” ว่าพลางปลายตามองลิตา“ถ้างั้นผมเข้าเรื่องเลยนะครับ ตอนนี้ผมคิดว่าคุณป้ากับคุณลุงคงเข้าใจว่าลิตาท้องกับอนาวิน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ครับ” อณุพูดออกมาช้า ๆ แต่เน้นย้ำทุกคำแต่มีหรือลิตาจะยอมอยู่เฉยเธอรีบเอ่ยขัด“หยุด ปล่อยให้อณุพูดทุกอย่างออกมา หล่อนอย่าเพิ่งขัด” คราวนี้เป็นเสียงทุ้มแต่น่าเกรงขามของคฑาเอ่ยขึ้นทุกคนจึงไม่มีใครกล้าแย้งใด ๆชายแก่ปล่อยให้ตัวเองนิ่งเงียบเรื่องของลูกชายมานานแล้วถึงเวลาที่ต้องจัดการทุกอย่างให้มันเรียบร้อยสักทีปล่อยให้มันกลายเป็นเรื่องยุ่งยากจนเกิดหย่าร้างมานานเกินไปแล้ว“แล้วยังไงต่อจ๊ะ เล่ามันออกมาเลย”คุณหญิงศจีจีบปากจีบคอพลางเยาะเย้







